www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Inception , โลกลวงที่งดงาม หรือ ความจริงที่เจ็บปวด (ฉบับ ฝันชั้นสอง )

หากไม่ดูเป็นการรบกวน ก็จะชวนเธอมาโหวตกัน โหวตได้ทุกวันซ้ำๆจนกว่าจะเมื่อยนิ้ว ถึง 10 สิงหาคม

ชวนมาโหวตให้ blog "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ในการประกวด blog แห่งปี (Thailand Blg awards 2010) สาขา entertainment ได้ที่นี่จ้า

//www.thailandblogawards.com/viewblog.php?u=http%3A%2F%2Faorta.bloggang.com

วิธีโหวต:: เข้าไปที่ลิงค์ แล้ว กดปุ่ม vote+ สีส้ม (หรือใครจะใจดี ลงทุน sign up ก่อนโหวต เพื่อคะแนนโหวตเพิ่มเป็น 3 คะแนน เราก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติมนอกจากบอกว่า ชื่นใจ^^ )





บทความ Inception - โลกลวงที่งดงาม หรือ ความจริงที่เจ็บปวด แบ่งเป็น 3 ตอน

โดย แบ่งลงใน

facebook (ฝันชั้นแรก),

Blog (ฝันชั้นสอง)

และ นิตยสาร Filmax ฉบับเดือนสิงหาคม (ชั้น Limbo)


ทั้งสาม มีเนื้อหาไม่ซ้ำกัน แต่เป็นความต่อเนื่องที่เลือก สื่อตีพิมพ์ ตามความเหมาะสมของเนื้อหา และ เพื่อเติมเต็มบทความให้สมบูรณ์ครบถ้วน

ท่านสามารถ kick เพื่อตื่นไปอ่าน Inception โลกลวงที่งดงาม หรือ ความจริงที่เจ็บปวด ฉบับ ฝันชั้นแรก ได้ด้วยการ click ที่


Inception - โลกลวงที่งดงาม หรือ ความจริงที่เจ็บปวด (ฉบับ ฝันชั้นหนึ่ง )

//www.facebook.com/notes/phm-xyu-khang-hlang-khun/inception-lok-lwng-thi-ngdngam-hrux-khwam-cring-thi-ceb-pwd-chbab-fan-chan-hnung/428120036464




... ผมเชื่อว่าว่า ถ้ามีผู้กำกับเดินดุ่มๆไป เล่าเรื่องย่อหนัง พร้อมขายไอเดียให้นายทุนฟัง เกี่ยวกับ “ เหล่านักล่าฝัน เข้าไปจารกรรมความลับและเปลี่ยนความคิดในความฝันคน พวกเขาฝันครั้งแล้วครั้งเล่าจนฝันโคตรโคตร โดยมีไคลแมกซ์อยู่ตรงเมียพระเอกถือมีดรอ”

เชื่อเถอะว่า นายทุนไม่มีทางควักตังค์ให้มาผลาญมหาศาลปานนี้แน่ ถ้าไม่ใช่ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่มีเครดิตในฐานะผู้กำกับที่คุมสเกลหนังฟอร์มยักษ์ออกมาดี พร้อมๆกับที่ สามารถเอาใจนักวิจารณ์กับคอหนังช่างคิด ด้วยบทหนังฉลาดๆ และประสบความสำเร็จได้ตามเม็ดเงินเทียบจากผลงานที่ผ่านมา

ผลที่ออกมาจึงกลายเป็น Inception หนังที่ผมอยากเขียนถึง 9 ประการดังนี้

1. นวัตกรรมใหม่สำหรับคนช่างคิด : โนแลน สร้าง Inception ให้เป็นมากกว่า หนังที่สร้างความบันเทิง แต่ สร้างประสบการณ์ใหม่ๆในการดูหนัง เหมือนที่ เจมส์ คาเมรอน ทำกับ Avatar โดยใช้ การรับรู้ของคนดูเป็นตัวหลัก (ระบบสามมิติสุดล้ำ)

หรือ อภิชาติพงศ์ ทำกับ ลุงบุญมีฯ ที่ฉีกกฎรูปแบบการเล่าเรื่องแล้วทิ้งช่องว่างให้สมองคนดูต่อเติมรายละเอียดในช่องว่างที่วางไว้ และ

Inception ก็เหมือน puzzle ที่ระดับหนึ่งให้ความบันเทิงคือ ต่อให้คุณดูไม่รู้เรื่องทั้งหมด คุณก็ยังสนุก

ต่อให้คุณดูรู้เรื่องระดับหนึ่ง คือ เข้าใจเนื้อหาคร่าวๆว่ามีที่มาที่ไปยังไง แล้วไม่อยากคิดต่อ คุณก็ยังดูสนุก

และ ถ้าคุณเป็นคนช่างคิด กลับมาคิดต่อในแต่ละจุด ว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร, มันมีความหมายอย่างไร คุณก็จะยิ่งสนุก

ความสนุกคิดในหนังของโนแลน อาจจะต่างจากหนังอย่างเจ้ยหรือเป็นเอกหรือหนังอาร์ตจ๋าๆส่วนใหญ่ ที่ ทิ้งช่องว่างมากมายให้ จินตนาการคนดูเติมเต็ม

แต่ใน Inception โนแลน โยนข้อมูลมหาศาลให้คนดู ให้ค่อยๆนั่งเรียบเรียง แล้วถึงจะเรียบเรียงเสร็จ ก็ยังไม่สมบูรณ์ เรายังต้องเติมเต็มเรื่องราวด้วยจิตใต้สำนึกของเราอีกครั้ง เป็นเหมือน แบบฝึกหัด หรือ ของเล่นลับสมอง ที่สนุกสนานมากมาย



2.นอกจาก Inception จะมีความเชื่อมโยงกับหนังเก่าๆของโนแลนหลายประการ เช่น ตัวละคร , ธีมของการทำผิดและการไถ่บาป ฯลฯ เรื่องนี้ยังมีจุดแตกต่างที่เพิ่งพบเห็นนั่นคือ อารมณ์ขัน ซึ่งแทบจะไม่เคยพบเลยในหนังของโนแลนที่เต็มไปด้วยความเครียด เช่น มุกฮาๆจาก อีมส์, ความน่ารักเล็กๆของ ไซโตะ หรือ มุกขโมยจูบ วี๊ดวิ้ว ระหว่างปฎิบัติงาน

3. พูดถึงตัวละคร : ตัวละครที่น่าสงสารที่สุด - ฟิชเชอร์ =ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องไปยุบความภูมิใจของพ่อทิ้งซะงั้น แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่แลกมาด้วย ความรู้สึกดีกับพ่อ ที่ถูกกลุ่มพระเอก inception เข้าไป,

ตัวละครที่อยู่ดีไม่ว่าดี เคน – The tourist = เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ถึงจะรวยล้นฟ้า ถ้าไม่รู้อะไรจริง อย่าริทะลึ่งเอาชีวิตไปเล่นหรือข้องเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่มีประสบการณ์
ตัวละครสุดเจ็บ - ลีโอ = เล่นหนัง 3 เรื่อง เมีย(ในหนัง)ป่วยจิต สามเรื่องติดเลย, แอเรียดเน่ = ตัวละครน่าชื่นชม มีสติ , มีปัญญา ช่วยแก้ปัญหาได้ทุกสถานการณ์, Marion Cotillard เล่นดีเหลือเกิน

และสามารถสรุปได้ว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน นอกจากตัวเองจะมาดเท่เอง เขายังทำให้ ตัวละครในหนังของเขา มี ความเท่ ทุกอณูขุมขนมาติดๆกันสามเรื่องติด



4. เสียงที่ได้ยิน : เสียงหวูดหลอกหลอนใน The dark knight ทำให้เห็นภาพแค่ปิดตา ช่างน่าจดจำ มาเรื่องนี้ ฮานส์ ซิมเมอร์ สร้างสกอร์ในระดับที่ผมคิดว่าดียิ่งกว่า โดยเฉพาะ ธีม Mind heist ที่ใช้ในเทรลเลอร์ของ Zack hemsey ที่ ตึ่ง ตึง ตึ๊ง หวู่ หวู่ หวู่ หวู่ นี่สุดยอดจริงๆ ทั้งทรงพลังทั้งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะหนังที่ได้ยินเพลงก็นึกถึงหนังได้ทันที อีกทั้ง Non, Je Ne Regrette Rien ที่ใช้เตือนปลุก ก็หลอนเหลือเกิน


5.มั่นใจว่า คนดูหลายคนดูหนังจบ ต้องไปแอบค้นอายุของ เอลเลน เพจ เนื่องจาก ความหน้าเด๊กเด็กของเธอ


6.ซีเควนซ์ kick ทีละระดับแบบสโลว์โมชั่น ตัดสลับ รถตู้ตก, ลิฟต์ตก, รพ.ถล่ม, ฝันชั้นสี่ล่ม = ซู้ดยอดดดด มหัศจรรย์ พรึงเพริศ!!!


7. สิ่งหนึ่งที่ทุกๆคน จะมีเหมือนกัน คือ ดูจบ เรามีความเข้าใจอย่างหนึ่ง แต่ ความเข้าใจนั้นจะถูกสั่นคลอนทันที เมื่อเข้ามาอ่าน ความเห็นของคนอื่นๆที่ได้ดูมา เราเริ่มหวั่นไหวไม่มั่นใจว่า เข้าใจถูกหรือเปล่า และ เราก็จะเริ่มคิดว่า ไปดูอีกรอบดีกว่า นั่นแหละ .... โนแลน inception ….




8. บทสนทนาในหนัง สำคัญมากๆ เพราะมันใช้อธิบาย ทุกตรรกะ ได้หมด รวมถึง กฎ ที่หนังสร้างขึ้นมา แยกได้เป็น

แนวคิดที่เป็นจริง เช่น เรื่องฝันกับจิตใต้สำนึก, Lucid dream, ทฤษฎีเม็ดเลือดขาวต่อต้านเชื้อโรค, การสร้างแรงจูงใจในทางลึก ฯลฯ

แนวคิดใหม่ในโลกของ Inception เช่น นิยามของ Limbo (เฉพาะในหนัง), กระบวนการแชร์ฝัน, การที่จิตใต้สำนึกสร้างภาพต่อจากสิ่งทีสถาปนิกวาด และ อันตรายของการสร้างภาพจากความทรงจำ, วิธีการแยกว่ากำลังฝันหรือตื่น (โทเท่ม , การคิดย้อนหลังหาที่มาไม่ได้ ฯลฯ), วิธีการตื่น หรือ กลไกของการ kick ฯลฯ

ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด ที่จะสนุกกับการเล่น puzzle ชิ้นนี้คือ ต้องแม่นยำในกฎกติกาพื้นฐานของหนัง เช่น นิยามของ Limbo, กติกาของการ kick เพื่อตื่น ฯลฯ ก่อนที่จะ ตีความและขยายประเด็น เพราะ บทหนังเรื่องนี้เปิดช่องทางให้เราตีความหรือคิดต่อยอดไปได้หลายทาง

แต่ เมื่อใดก็ตามที่เราคิด โดยไม่ได้ยึดตรรกะหรือกฎในหนัง เราจะรู้โดยอัตโนมัติว่ามาผิดทาง เพราะ แนวทางของเราที่คิดไปเรื่อยๆจะยิ่งพบ รูโหว่ มากขึ้นเรื่อยๆ




9.ในหนังอาจมีประเด็นให้ถกกันมากมาย แต่ มีอยู่สองจุดที่รบกวนผมมาก จนเป็นเหตุให้ต้องเสียตังค์เสียเวลาเพื่อไปดูสองสามรอบ จนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่กล้าฟันธงว่าตัวเองถูก แต่ขอนำเสนอแนวคิดตัวเองเกี่ยวกับ ปฏิบัติการณ์ฟิชเชอร์กับฝัน 4 ชั้น และ ฉากจบ

ก่อนจะพูดถึงสองประเด็นนั้น ขอทบทวนนิยามจำเป็นก่อน

**********


วิธีการตื่น

การตื่น ทำได้อย่างไรบ้าง

ในกรณีฝันชั้นเดียว

ตื่นจากถูกปลุก หรือ รู้สึกตกจากที่สูงใน โลกจริง (เช่นตอนทดลองยานอนหลับลึก ที่ อาเธอร์ จะล้มจากเก้าอี้แล้วตื่น)

ในกรณีฝันหลายชั้น

ตื่นจากถูกปลุก หรือ รู้สึกตกจากที่สูงใน โลกจริง

หรือ

ตื่นจากการถูก kick ด้วย ความรู้สึกตกจากที่สูงใน โลกฝัน แล้วเวลาตื่น ก็ ตื่นเฉพาะในฝัน level นั้นๆ ไม่ใช่ ตื่นในระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่า

ยกตัวอย่างจะเห็นภาพชัด

จาก ฉากเปิดเรื่องที่ ลีโอหลับลึกแล้วเพื่อนปลุกไม่ตื่น จึงถูก kick ด้วยการผลักตกอ่างน้ำในชั้นห้องพัก แล้วจึงตื่นในชั้นห้องพัก ส่วนชั้นล่างที่เป็นปราสาทญี่ปุ่นก็ล่มสลาย

การ kick ของลีโอในอ่างห้องพัก ไม่ได้แปลว่า ตื่นใน Level ปราสาท แต่เป็น การตื่นใน level ห้องพัก

แปลว่า

การ kick ด้วยการทำให้รู้สึกว่าตกจากที่สูง คือ การปลุก และ ทำให้ การหลับ level นั้นตื่น ส่วน Level ล่างๆลงไปมันเป็นแค่ ฝัน ก็จะจบไป

แต่ แต่ แต่

ต่อให้เป็นฝันหลายชั้น ถึงจะ kick ชั้นบนๆ แต่ ถ้าชั้นล่างหลับอยู่ การ kick ชั้นบนชั้นเดียวก็ไม่ตื่น ดังนั้น ถ้าในฝันชั้นล่างยังหลับ ก็จำเป็นต้อง kick ชั้นล่างให้ตื่นด้วยพร้อมๆกันแบบ synchronized จึงจะตื่นขึ้นไปเป็นทอดๆ

(เช่น ในฉากฝันตอนแรก ถ้าลีโอ ถูก kick ปลุกตรงอ่างน้ำในห้องพัก แต่ ลีโอในฝันเวอร์ชั่นปราสาทญี่ปุ่น หลับอยู่ เขาก็ต้องหาทาง kick ปลุกให้ตื่นในชั้นปราสาท ด้วย )

ดังนั้น ใน ปฏิบัติการณ์ฟิชเชอร์ ถ้าแผนไม่ผิดพลาด พวกเขาไม่ควรจมน้ำลึกแบบนั้น ในฝันชั้นหนึ่ง แต่จะตื่นระหว่างที่ตกหรือแตะผิวน้ำ เนื่องจาก มันควรเป็นเช่นนี้

ยานอนหลับหมดฤทธิ์ ทุกคนตื่นบนเครื่อง โดยตั้งสมมติฐานว่า คนในฝันชั้นหนึ่ง ตืนหมดแล้ว

การตกของรถแวน ในฝันชั้นหนึ่ง = ปลุกคนในรถแวนที่หลับลึกในฝันชั้นหนึ่ง โดยตั้งสมมติฐานว่า คนในฝันชั้นสอง ตืนหมดแล้ว

การตกของลิฟต์ ในฝันชั้นสอง = การปลุกคนในลิฟต์ที่หลับลึกในฝันชั้นสอง โดยตั้งสมมติฐานว่า คนในฝันชั้นสาม ไม่มีใครนอนหลับอยู่ และ ฟิชเชอร์ถูก inception สำเร็จ


วิธีปลุกอื่นๆ :

ยาหมดฤทธิ์ (อาเธอร์ในฉากห้องพักที่คนมากรูๆกัน จู่ๆ อาเธอร์ ในฉากนั้นก็หายไป เพราะตื่นเองบนรถไฟจากยาหมดฤทธิ์)

การตาย (อาเธอร์ถูกยิงในฉากห้องญี่ปุ่น แล้วตื่นในฉากห้องพัก)

แต่ ถ้ากรณีหลับลึกมากด้วยยานอนหลับอย่างแรง ไม่สามารถปลุกด้วยการตาย มิเช่นนั้นจะตกไปอยู่ใน Limbo วิธีการที่จะใช้ได้ก็เหมือนกับข้างต้น คือ ความรู้สึกตกจากที่สูง

ดังนั้นใน ปฏิบัติการณ์ฟิชเชอร์กับฝัน 4 ชั้น การ kick แต่ละชั้น ก็คือ การปลุกคนที่หลับในชั้นนั้นๆ ไม่ใช่ ปลุกชั้นล่าง หรือ ปลุกชั้นบน

(การ ปลุกร่างจริง กับ รอยาหมดฤทธิ์ ก็เป็นอีกวิธีการที่ทำได้ แต่ ถ้าทำแบบนั้น จังหวะของปฏิบัติการณ์อาจพัง งานอาจเสีย)



Tips : การ kick ด้วยการตกจากที่สูง ในฝัน 3 ระดับ จำเป็นต้องมี เสียงเพลง เพราะ เสียงเพลงจะคอยเตือนให้ระดับล่างถัดไปรู้ตัวว่า คุณกำลังจะถูกปลุกให้ตื่นแล้ว ถ้ายังชักช้า คุณจะตื่นก่อนงานสำเร็จ

(นั่นแปลว่า ฉากสุดท้าย ถ้าบังเอิญเครื่องบินสะดุดหลุมอากาศกำลังจะร่วงตกลงพื้นก่อนเวลายาหมดฤทธิ์ เหล่านักล่าฝันก็จะตื่นมาบนเครื่องโดยไม่ทันได้นั่งริมน้ำ แต่ เนื่องจากในหนัง ยานอนหลับยังไม่หมดฤทธิ์ พวกเขาจึงยังมีเวลาได้จิ๊จ๊ะกันที่ริมน้ำซักพักก่อนตื่นบนเครื่อง)

**********

Limbo

การไป Limbo หนังบอกด้วยสองวิธีการ หนึ่งคือ บทสนทนาที่ค็อบบ์บอกว่า เกิดจากการตายขณะหลับลึกด้วยานอนหลับ และ สอง ตอนที่ แอเรียดน่าถามว่าเขาเคยไปได้อย่างไร เขาตอบว่า เกิดจากตอนสำรวจความฝันกับมอล ลึกลงไปเรื่อยๆ จนแยกไม่ออกระหว่างความจริง กับ ความฝัน

Limbo จึงไม่จำเป็นต้องมีตัวเลขว่าเป็นชั้นไหน ไม่ใช่มีมิติเป็นชั้นๆแบบสถานที่ แต่เป็น ห้วงของจิตใต้สำนึกในความฝัน (Unconstructed dream space) ที่ เจ้าตัวคิดว่า ความฝัน คือ ความจริง คล้ายๆกับ การรับรู้เฉพาะของแต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่า

บางคน Limbo อาจเป็นชั้น 3 หรือ ชั้น 50 ก็ขึ้นกับว่า เขาถูกขังด้วยการเข้าใจว่า ชั้นนั้นเป็นความจริง แล้วหรือยัง เพราะ ต่อให้อยู่ชั้น 50 แต่เข้าใจและรู้ตัวว่ากำลังฝัน นั่นก็ไม่ใช่ Limbo

ส่วน สิ่งที่มีในนั้นก็เป็นเพียง ตะกอนความฝันของคนที่เคยผ่านมาแล้ว (ในกรณีที่ตกไปใน Limbo ด้วยการแชร์ฝัน)

**********



9.1 ปฏิบัติการณ์ฟิชเชอร์กับฝัน 4 ชั้น



ทุกครั้งที่ เหล่านักล่าฝัน ออกเดินทาง ต้องมีคนคุมเครื่องในโลกความจริง และ มี dreamer ในโลกความฝันเป็นตัวคุมเกมส์ ซึ่ง ปฏิบัติการณ์ฟิชเชอร์ เป็นดังนี้

บนเครื่องบินขณะที่ทุกคนหลับ แอร์โฮสเตส คือ คนคุมเครื่อง

ฝันชั้นแรก ทุกคนลงไปพร้อมกัน / สถานที่ - กลางถนนฝนตกไปจบที่โกดัง / ดรีมเมอร์คือ ยูซุฟ / kick ปลุกคนบนรถแวน = รถแวนตกน้ำ / ไซโตะ โดนยิงเจ็บปวดร่อแร่ปางตาย

ฝันชั้นสอง ยูซุฟ ไม่ได้ลง / สถานที่ - กลางบาร์ตลอดโรงแรม จบที่ห้องพัก / ดรีมเมอร์ คือ อาเธอร์ / kick ปลุกคนในลิฟต์ = ลิฟต์ดิ่งลง / ไซโตะแข็งแรงเดินปร๋อหลีสาวพักใหญ่ๆจึงมีเลือดซึม

ฝันชั้นสาม อาเธอร์ ไม่ได้ลง / สถานที่ - โรงพยาบาลกลางหิมะ / ดรีมเมอร์ คือ อีมส์ / kick เพื่อ sychronized และ ปลุกคนในโรงพยาบาล = ตึกระเบิด พื้นทรุดถล่มลง / ไซโตะยังกระปรี้กระเปร่าช่วงแรกเล่นสกีผาดโผน ต่อมาเริ่มค่อกแคก แล้วตาย & ฟิชเชอร์ถูกยิง

แอเรียดเน่ เสนอแนวคิดช่วย ฟิชเชอร์ ด้วยการลงไปอีกชั้นด้วยการนอน

ฝันชั้น 4 คืออะไร ?

มีทฤษฎีมากมายที่อธิบายว่า ฝันชั้นนี้ เป็น หรือ ไม่เป็น Limbo

ถ้าเป็น Limbo จะอธิบายได้อย่างไร ?


คำอธิบาย : ฟิชเชอร์ตายในฝันระดับหลับลึก เข้าไปอยู่ใน Limbo ที่เป็นโลกของพระเอก เพราะ พระเอกเป็นคนเดียวในทีมแชร์ฝันที่เคยไป Limbo จึงมีแต่ตะกอนฝันของพระเอก (ตามจริง น่าจะมี โลกของไซโตะ ที่ลงไปล่วงหน้า ปนอยู่ร่วมด้วย)

แอเรียดเน่กับค็อบบ์ ตามลงไปด้วยการหลับ ไม่ได้แปลว่า ฝันชั้น 4 ต้องเป็น Limbo เสมอไป ในกรณีอื่นอาจเป็นฝันชั้น 5 ชั้น 100 แต่กรณีนี้ พวกเขาแชร์ฝันกับ ฟิชเชอร์ จึงเจอ Limbo ที่ชั้นล่างเลย

ส่วน แอเรียดเน่ กับ ฟิชเชอร์ ก็ ตื่นจากการที่ กระโดดตึก แล้ว ตายในชั้น Limbo นำไปสู่ การตื่นในชั้นสาม แล้วตื่นจากการ kick เป็นทอดๆ แต่ ฟิชเชอร์ ตื่นก่อนนานมาก เนื่องจาก ร่วงก่อน แล้วมีความเหลื่อมล้ำของเวลากัน

แต่ ทฤษฎีนี้ จะมีรูโหว่ คือ

ทำไมค็อบบ์ไม่ตื่น ในเมื่อเขาโดนแทงซะขนาดนั้นในชั้น Limbo ซึ่ง รูโหว่นี้ต้องจบด้วยการคิดไปว่า ค็อบบ์อาจจะหนังเหนียวไม่ตาย แต่ยังตามหาไซโตะต่อในสภาพร่างกายร่อแร่

( แต่รูโหว่ ก็โผล่มาอีกทีว่า จากบนตึก ถ้าไม่ตาย แล้ว ค็อบบ์ ไปเกยตื้นที่ฝั่งได้อย่างไร?)


ถ้าไม่เป็น Limbo จะอธิบายได้อย่างไร ?


คำอธิบาย : ก็คือ ในฝันชั้นสาม ฟิชเชอร์ แค่ กำลังตาย(dying) แต่ ยังไม่ตาย(dead) ดังนั้น การลงไปในฝันชั้นล่างกว่านั้น ด้วยความเหลื่อมล้ำของเวลา มีโอกาสที่จะพบ เขากระชุ่มกระชวย เหมือน ไซโตะ ที่ร่อแร่ในชั้นแรก แล้ว ร่าเริงไปพักใหญ่ๆก่อนจะร่วงในชั้นสองกับสาม

ด้วยเหตุนี้ตอนลงไปแล้ว ค็อบบ์ จึงย้ำให้ แอเรียดเน่ ไปเช็ค ฟิชเชอร์ที่ระเบียงก่อนว่า “ตายหรือยัง?”

ส่วนเหตุที่ภาพในฝันชั้น 4 เป็น ภาพ Limbo ไม่ได้แปลว่าตรงนั้นเป็น Limbo หากแต่เป็น ภาพสะท้อนในจิตใจของ ค็อบบ์ เนื่องจากชั้น 4 นี้ ค็อบบ์ เป็น Dreamer แล้วจิตใต้สำนึกของ ค็อบบ์ ที่มี มอล อยู่ ก็ย่อมเลือกที่จะไปซ่อนตัวอยู่ใน Limbo อันเป็นสถานที่สุดท้ายที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ที่มีทั้ง ชายหาด, บ้านเก่า, ห้องพักปัจจุบัน ฯลฯ

(ฉากเข้าฝันที่แอเรียดเน่ แอบเข้าไปในฝันของ ค็อบบ์ ตอนแรกๆ เราก็จะเห็น ฉากหาดริมทะเล , ห้องพัก ซึ่งทั้งหมดนั้นก็เป็นภาพ Limbo ของ ค็อบบ์ ที่เขากับมอล สร้างขึ้นมาจากความจริง เช่นกัน)

แต่ ทฤษฎีนี้ จะมีรูโหว่ คือ

รูโหว่ 1 :ฟิชเชอร์ ตื่นได้อย่างไร ? หากการกระโดดตึก เป็น การ kick เขาก็ไม่น่าจะตื่นจาก Level บน เพราะ Level บน เขายังนอนหมดสติอยู่ และ ยังไม่ระเบิด ยังไม่มีการ kick

(การใช้เครื่องปั๊มหัวใจ อาจเป็น การ kick ปลุกฟิชเชอร์ ใน level หิมะ เพื่อ synchronized กับการตกในชั้น 4 แต่ ถ้าใช้เหตุผลนี้ ก็จะนอก กฎของหนังที่ให้มาตอนต้นทุกอย่าง เพราะที่แล้วมา กติกาการตื่น ไม่เคยบอกว่าจะปลุกได้ด้วยการใช้ เครื่องปั๊มหัวใจ มันก็จะดูเป็นบทที่จงใจใส่เพื่อแก้ปัญหาที่เนียนน้อยสุด เมื่อเทียบกับ ตรรกะอื่นๆในหนัง)


รูโหว่ 2 :แอเรียดเน่ กระโดดตึกทำไม ? ในเมื่อเราเชื่อว่า การหล่นจากที่สูงคือการปลุกชั้นนั้นๆ แต่ ชั้น 4 แอเรียดเน่ก็ตื่นอยู่แล้ว คำอธิบายที่พอจะใช้ได้ ต้องย้อนกลับไป บทสนทนา ตอนที่อยู่บนชั้น 3 ที่ค็อบบ์เห็นว่า ฟิชเชอร์ โดนยิง แล้วคิดว่าแผนคงจะพังแล้ว ตอนนั้น พวกเขายังไม่มีแผนจะลงไปชั้น 4 แต่ ก็ยังวางแผนจะระเบิดโรงพยาบาลอยู่ดี

พวกเขาจะระเบิดโรงพยาบาลทำไม ? ในเมื่ออยู่เฉยๆรอ ชั้น 2 ที่ลิฟต์ร่วง พวกเขาก็ถูกปลุกอยู่แล้ว

สมมติฐานที่จะใช้อธิบายได้ก็คือ ความเชื่อของการ kick แบบ synchronized นั่นคือ เวลาฝันเป็นชั้นๆ ถ้าจะตื่นทีเดียว ก็ต้องหล่นจากที่สูงไปพร้อมๆกัน

นั่นก็คือ ถ้าไม่ได้ลงมาที่ชั้น 4 พวกเขาก็คิดระเบิดโรงพยาบาลเพื่อร่วงลงไปพร้อมๆกับชั้นบนๆ

แต่เมื่อลงไปชั้น 4 ถ้าจะตื่นพร้อมๆกับข้างบน ก็จึงจำเป็นต้องกระโดดตึก ดังนั้น แอเรียดเน่ ก็ตื่นจากการที่ ฝันชั้นสาม kick จากระเบิดร่วงลงพื้น sync. กับ ฝันชั้นสี่ที่ เธอกำลังร่วงลงตึก

ในขณะที่ ค็อบบ์ ตายจากถูกแทงแล้วก็เลยเข้าไปใน Limbo หาไซโตะต่อ



... ดังนั้น นอกจากสองสมมติฐานข้างต้น

ผมขอเสนอทฤษฎีที่ สาม เกี่ยวกับฝันชั้น 4 ว่า


มันทั้ง เป็น และ ไม่เป็น Limbo




คำอธิบาย : ถ้าตัดความสงสัยว่า “เป็น Limbo หรือไม่ ?” ออกไปก่อน แล้ว ยึดเอาตามประโยคในหนัง

การที่ ฟิชเชอร์ ถูกยิง ทำให้ แอเรียดเน่ ตัดสินใจชวน ค็อบบ์ ลงไปข้างล่างเพื่อปลุกให้ฟิชเชอร์ตื่นในชั้นสาม ด้วยการ นอนหลับและแชร์ฝันด้วยเครื่องกันสองคน

แอเรียดเน่ ไม่มีทางรู้ว่า ฝันชั้น 4 เป็น Limbo หรือไม่ เนื่องจาก เธอยังไม่ได้ตาย และ ไม่เคยมีกฎข้อไหนที่บอกว่า ชั้นที่ 4 จะต้องเป็น Limbo อาจเป็นชั้นที่ห้า ที่ร้อย หรือ ที่พัน ก็ได้

เรารู้แค่นิยามของ limbo ว่า มันคือ ชั้นที่เจ้าตัวแยกไม่ออกว่าจริงหรือฝัน ซึ่งเกิดจากการขุดลงไปเรื่อยๆหรือการตายในตอนหลับลึก

ข้อเท็จจริงที่บอกได้มีเพียง การแชร์ฝันร่วมกันในชั้น 4 มี ฟิชเชอร์ ลงไปก่อนด้วย การตาย ส่วน ค็อบบ์-แอเรียดเน่ ลงไปด้วยการนอนหลับฝัน

ทั้งหมดลงไปเจอในชั้นเดียวกันเนื่องจาก การแชร์ฝัน แต่ ความหมายของฝันชั้นนั้น แต่ละคน ไม่เหมือนกัน

สำหรับ ฟิชเชอร์ ฝันชั้น 4 คือ Limbo ของเขา เขาไม่รู้ว่ามันเป็นฝัน และคงอยู่ที่นั่นต่อไปอีกเป็นสิบๆปี

ลองคิดเล่นๆว่า ถ้าสมมติว่า เขาลงไปในชั้นนี้ แต่แชร์ฝันกับโนบีตะที่เคยลงไป Limbo มาก่อน Limbo ของฟิชเชอร์ก็คงเป็นประเทศญี่ปุ่นเห็น ภาพโดเรมอนบินด้วยคอปเตอร์ไม้ไผ่

แต่บังเอิญเขาแชร์ฝันกับ ค็อบบ์ ซึ่งเคยไป Limbo มาก่อนที่มีแต่ภาพมอลกับตึกที่ร่วมสร้างกันมา Limbo ของ ฟิชเชอร์ จึงเป็นภาพ Limbo ของค็อบบ์

แต่

สำหรับ แอเรียดเน่ กับ คอบบ์ ที่ยังรู้ตัวว่า มันเป็นแค่ความฝัน ณ.จุดนั้น มันจึงไม่ใช่ Limbo ของพวกเขา หากเป็นแค่ ฝันอีกชั้น ที่มี ค็อบบ์ เป็น dreamer จึงอธิบายได้ถึงสาเหตุที่สภาพแวดล้อมเป็นภาพ Limbo ที่เขาเคยติดอยู่กับมอลในอดีต

ถ้ายอมรับในมุมว่า Limbo ไม่ใช่สถานที่ หากแต่เป็นชั้นของจิตใต้สำนึก เป็นเพียงภาวะของการถูกขังอันมีที่มาจากความตายและการขุดจิตใต้สำนึกลึกลงไปเรื่อยๆ และ Limbo ของแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน

การกลับมาที่ฝันชั้น 3

จึงอธิบายได้ว่า

ฟิชเชอร์ กลับไปเนื่องจาก ความตายในชั้น Limbo ซึ่งก็คือจิตใต้สำนึกของเขา (กระโดดจากตึกลงไปก่อนแอเรียดเน่)

แอเรียดเน่ กลับไปไม่ใช่เพราะตาย แต่ จากการกระโดดตึกที่ทำให้ความรู้สึกร่วงจากที่สูง synchronized กับ การ kick ด้วยระเบิดแล้วพื้นร่วงในฝันชั้น 3
(เราเห็นภาพเธอกำลังร่วง ในชั้น 4 ต่อเนื่องกับ ลืมตาในชั้น 3 และต่อด้วยตื่นลืมตาในชั้น 2 ก่อนจะตื่นในน้ำเป็นคนสุดท้าย)

ค็อบบ์ โดนแทงตาย หรือไม่ก็ตายเพราะตึกถล่ม ในฝันชั้น 4 แต่เป็นด้วยความตั้งใจจะตามหาไซโตะ ความตายในฝันขณะหลับลึก จึงพาเขาไปสู่ Limbo ของแท้ ก็คือ ฉากถูกซัดเกยฝั่งของจิตใต้สำนึกที่ความทรงจำเลือนลางแยกไม่ออกว่าจริงหรือฝัน

และ เหตุที่ ค็อบบ์ ไปพบ ไซโตะเวอร์ชั่นแก่งั่ก ก็เพราะ การแชร์ฝัน

ไซโตะ ลงไป limbo ก่อน เขาก็สร้าง Limbo เป็นปราสาทของตัวเองเหมือนในฉากตอนต้น

ด้วยความเหลื่อมของเวลาดูจากสภาพที่ว่าร่อแร่ในฝันชั้น 1 กับ การซู่ซ่าอยู่พักใหญ่ในฝันชั้น 2 กับ 3 จึงอธิบายได้ว่า การไป limbo ล่วงหน้าทำให้แก่ไปเยอะ ส่วน ค็อบบ์ เป็นคนมาทีหลังจึงหนุ่มกว่า

(สมมติ ไซโตะ ไม่ตาย แต่ ปฏิบัติการณ์ครั้งนี้มี ค็อบบ์ ตายคนเดียว limbo ของค็อบบ์ ก็จะไม่ใช่ ปราสาทญี่ปุ่น หากแต่คงจะเป็น โลกที่เขากับมอลสร้างมาด้วยกันเหมือน อันก่อน)


9.2 ตอนจบเป็น เรื่องจริง หรือ ความฝัน



ทั้งสองทาง มี ตัวแปรที่สามารถอธิบายและหักล้างกันได้ตามนี้

ถ้าจะบอกว่า เป็น เรื่องจริง : ดูจากลูกข่างที่อ่อนแรงส่อแววจะหยุดหมุน , ดูจากเสื้อของลูกสาวที่ไม่เหมือนเดิม , ลูกทั้งสองคนหันมาหาค็อบบ์ทั้งๆที่แต่เดิมไม่เคยหัน

นั่นแปลว่า : ไซโตะ กับ ค็อบบ์ ตายใน Limbo แล้ว ฟื้นขึ้นมาในโลกความจริงบนเครื่องบินในสภาพเมาเครื่อง สภาพงุนงงที่เห็น เป็นเพราะ เพิ่งกลับมาจาก Limbo ตามที่ ค็อบบ์ เคยอธิบายว่า การกลับมานอกจากจะเป็น จิตคนแก่ในร่างหนุ่ม บางครั้งก็สับสนจากการที่ต้องแยกจริงกับฝัน และ ในสภาวะเลวร้ายที่สุดคือ จำอะไรไม่ได้เลย



ถ้าจะบอกว่า เป็นความฝัน : ถึงลูกข่างอ่อนแรง แต่ไม่ได้แปลว่าจะหยุดหมุน ถ้าตราบใดที่ยังไม่หยุดพึงสงสัยว่าเป็น ฝัน , ฉากตื่นบนเครื่องบิน พระเอกดูตื่นมางงๆ ผิดจากการตื่นทุกครั้ง ซึ่งเขาเองก็เคยบอกแล้วว่า ถ้าจู่ๆตื่นมากลางสถานการณ์หนึ่งๆแล้วไล่ย้อนกลับไปไม่ได้ว่า มาจุดนี้ได้ยังไง พึงสงสัยว่าฝัน ,

ลูกทั้งสองหันหลังเล่นกันในท่าเดิมๆ ถึงเสื้อลูกสาวจะเปลี่ยนไปหรืองวดนี้ลูกทั้งสองจะหันหน้ามา ก็ไม่ได้แปลว่า จะต้องเป็นโลกจริง หากแต่อาจจะเป็น โลกฝัน ที่ค็อบบ์เลือกจะไม่มอง totem ดังนั้น การทิ้งตัวยึดเหนี่ยวในการแยกความจริง คือ ปล่อยตัวเองให้อินไปกับฝัน ก็ไม่ต่างจาก limbo ที่ถึงจุดนั้น ฝันสำหรับเขา ก็คือ โลกความจริงที่เขาเลือก


นั่นแปลว่า : ทั้งคู่ยังจำไม่ได้ต่างฝ่ายก็ต่างติดใน Limbo ต่อไป หรือเป็นฝันของค็อบบ์ที่เขาแก่ตายแล้วเกิดใหม่ใน Limbo แต่เหตุที่ตายแล้วไม่ตื่น เพราะ เขาตายโดยยังไม่รู้ตัวว่านี่คือฝัน ไม่ใช่ ตายแบบต้องการตื่น เหมือนครั้งก่อนๆ

เมื่อคุณแยกฝัน กับ จริง ไม่ได้ ต่อให้ คุณตายในฝัน คุณก็จะยังฝันต่อไป

ถ้ายังแก่อยู่นั้นแล้วตายเกิดในร่างใหม่ ก็อาจจะถูกขังอยู่ใน Limbo วนต่อๆไป เพราะเจ้าตัวไม่เคยรู้เลยว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่ เหมือน tartarus ในหนังเรื่อง Triangle ที่ต้องวนเวียนไปไม่รู้จบ

ภาพที่เห็นตอนท้ายจึงอาจเป็น ตะกอนฝันซักชั้น หรือเป็น Limbo ใหม่ที่ ไม่มี มอล เพราะถูกกำจัดในจิตใต้สำนึกเดิมไปแล้ว แต่เป็นจิตใต้สำนึกของค็อบบ์อันใหม่ ที่ต่อเติมมันขึ้นมา


สรุป ... แต่จากที่ ทบทวนรายละเอียดทั้งหมด พร้อมๆกับทุ่มสุดตัวไปดูรอบสามอีกรอบ ทำให้ผมเองค่อนข้างมั่นใจว่าคำตอบของฉากสุดท้ายใน Inception น่าจะสรุปได้ว่า





โปรด หลับลึกลงไปอีกขั้น เพื่ออ่านบทความ โลกลวงที่งดงาม หรือ ความจริงที่เจ็บปวด ฉบับ Limbo เป็นการจบสมบูรณ์ ได้ใน นิตยสาร Filmax ฉบับเดือนสิงหาคม



บทความใน blog ที่อ้างอิงถึง

The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=13-11-2006&group=1&gblog=153


Avatar , นาวีที่รอคอย + แพนโดร่า มาหานะเธอ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2009&date=24&group=14&gblog=185

The Dark Knight , ภูมิคุ้มกันความดีบกพร่อง
(อ่านได้ใน พ็อกเก็ตบุ้ค LifeScan - มากกว่าที่ตาเห็น ตามรูปปกด้านล่างเน้อ)


ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า
(วางอยู่ตามร้านหนังสือทั่วไทยแล้ว)










อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18

และ

ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง

//blogs.lumamagic.com/?p=1957



หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"








สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า







Create Date : 20 กรกฎาคม 2553
Last Update : 29 กรกฎาคม 2553 23:28:52 น. 65 comments
Counter : 8386 Pageviews.

 
คุณหมอให้ผมลุ้นจนตอนสุดท้ายเลยนะครับ เดี๋ยวจะตามอ่านใน filmax


โดย: หมี IP: 183.89.189.45 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:57:26 น.  

 
หง่ะ ทำเป็นปลายเปิดแบบ Nolan เลย อยากรู้อ่ะ T^T


โดย: เอเอง IP: 222.123.180.31 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:14:01 น.  

 
ต้องตามไปอีกชั้นหรือเนี่ย

(ยังไม่ได้ดูหนัง แต่เท่าที่อ่าน พลาดไม่ได้)


โดย: pr IP: 118.173.83.200 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:14:12 น.  

 
ยาวมากกกกกกกกกก คงเป็นการเขียนบทความที่ยาวกที่สุด หากรวมทั้งสามองค์ เลยใช่มั้ยครับเนี่ย

อ่านไปก็เหนื่อยไปแหะ เอิ้กๆ

ปล. มั่นใจว่า คนดูหลายคนดูหนังจบ ต้องไปแอบค้นอายุของ เอลเลน เพจ เนื่องจาก ความหน้าเด๊กเด็กของเธอ -> อายุมากกว่าผมปีเดียวเอง ..แต่อัศจรรย์กับการเล่นหนังของเธออย่างรุนแรง ทั้งชิงออสการ์มาแล้ว แถมยังได้เล่นหนังปรมาจารย์ยุคนี้ อย่าง โนแลน อีก


โดย: OncE UPoN'-'a MaN วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:28:46 น.  

 
เหมือนหนังไตรภาคที่ต้องรอดูตอนต่อไป
กว่า FILMAX จะออก อีกตั้งหลายวัน
อยากอ่านแล้วค่ะ


โดย: PoO IP: 124.121.250.180 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:46:47 น.  

 
พี่หมอครับว่าเลาเราจะแชร์ฝันกันเนี่ยเราจำเป็นต้องเสียบสายเครื่องแชร์กันไม๊ครับ แล้วถ้าจำเป็น ฟิชเชอร์ได้เสียบรึเป่าครับ ผมจำได้แค่ว่ามี ค๊อปป์กับ แอเดียน เสียบ งั้นแปลว่า ชิฟเชอ ไปlimboเพราะตายมากกว่าไหมครับ อันนี้ผมไม่แน่ใจ รบกวนตอบนิดนึงนะครับ
กeลังจะไปดูรอบสอง ละครับไม่clear กับตัวเองมาก คาใจ สุดๆ
TT-TT


โดย: Omega IP: 124.157.134.102 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:26:23 น.  

 
สิ่งหนึ่งที่ทุกๆคน จะมีเหมือนกัน คือ ดูจบ เรามีความเข้าใจอย่างหนึ่ง แต่ ความเข้าใจนั้นจะถูกสั่นคลอนทันที เมื่อเข้ามาอ่าน ความเห็นของคนอื่นๆที่ได้ดูมา เราเริ่มหวั่นไหวไม่มั่นใจว่า เข้าใจถูกหรือเปล่า และ เราก็จะเริ่มคิดว่า ไปดูอีกรอบดีกว่า นั่นแหละ .... โนแลน inception
^
^
ใช่เลย ตอนดูจบใหม่ๆก็ว่าดูรู้เรื่องเข้าใจดี แต่พอมาอ่านความเห็นคนอื่นแล้วมึนค่ะ เดี่ยวมาคอมเม้นท์ต่อนะ ^^


โดย: นางาเสะจัง IP: 161.200.56.45 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:33:20 น.  

 
ผมเชื่อว่าโนแลนอยากให้คนดูไปคิดต่อเองครับ
ใครเลือกจะเชื่อว่าอย่างไรก็สุดแล้วแต่
แต่ผมเลือกแบบจบว่าตื่นมาโลกความเป็นจริงครับ เพราะสงสารพระเอก ฮุๆ


โดย: เดช IP: 202.29.92.253 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:06:36 น.  

 
เป็นหนังซับซ้อนที่ดูไม่ยากเลยครับ ผมดูแล้วชอบมากมายเลยล่ะ (ชอบฉากขโมยจูบด้วยล่ะ เดี๋ยวเอาไปใช้มั่ง:p) ดูแล้วทำให้แยกแยะได้มากขึ้นว่าสิ่งใดเป็นสิ่งลวงที่จิตใจเราสร้างมา ทำให้มออกว่าเราควรดำเนินชีวิตอย่างไรต่อไป ขอบคุณคุณหมอมากครับ


โดย: AquaDrehz IP: 58.9.154.40 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:51:12 น.  

 
เขียนได้ละเอียดมากค่ะ อ่านแล้วทำให้คิดว่าต้องไปดูหนังเรื่องนี้


โดย: Mustika วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:21:40 น.  

 
สุดยอดเลยครับ เข้าใจอะไรขึ้นเยอะ
เดี๋ยวจะไปหาคำตอบใน Flimax นะครับ


โดย: Nature IP: 118.172.135.98 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:32:19 น.  

 
ขอถามในเรื่องเวลาหน่อยค่ะ ตอนที่อยู่บนเครื่องทุกคนหลับเป็นเวลา 10 ชม. พออยู่ในฝันชั้นที่ 1 ของยูซุป ตอนที่ไซโตะ โดยยิง คอป บอกว่าห้ามฆ่า ไซโตะเพราะยายังไม่หมดฤทธิ์ จะต้องติดอยู่ที่นี่ 1 week แล้วยูซุป ก็ขับรถตู้ วนหนี คือน่าจะใช้เวลาไม่ถึง 1 week แล้วตอนที่รถตกน้ำ ทุกคนตื่น ก็เท่ากับว่าตื่นก่อนที่จะหมด ฤทธิ์ยา (ยังไม่ครบ 1 week ในชั้นฝันของยูซุป) แต่ทุกคนดูเหมือนตื่นเวลาที่เครื่องใกล้ลงแล้ว แล้วเวลาที่หายไป 6 วันคือยังไง งง? ใครช่วยอธิบายหน่อย


โดย: sugar IP: 183.89.119.154 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:00:18 น.  

 
ถามเพิ่มค่ะ หรือว่าทุกคนที่อยู่ในฝันของยูซุฟ ใช้เวลาที่เหลือ (6 วันกว่า ๆ) ในการหนี จิตใต้สำนึกของ ฟิชเชอร์ หนีจนกว่ายานอนหลับจะหมด ฤทธิ์?


โดย: sugar IP: 183.89.119.154 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:13:42 น.  

 
เมื่อคุณแยกฝัน กับ จริง ไม่ได้ ต่อให้ คุณตายในฝัน คุณก็จะยังฝันต่อไป....
ขอแย้งนิดนะครับ ถ้าอย่างนั้นทำไมแฟนพระเอก ที่แยกฝันกับจริงไม่ได้ พอโดนรถไฟทับ แล้วถึงตื่นมายังโลกปัจจุบันได้หล่ะครับ

ผิดถูกอย่างไร ชี้แนะด้วยครับ


โดย: ปั้น IP: 202.28.80.4 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:44:10 น.  

 
โห ดูกี่รอบแล้วครับเนี่ย 555

เชื่อว่า คริส โนแลน ยังไงก็ไม่ได้คิดลึกล้ำเท่า จขบ.วิเคราะห์เป็นแน่

เชื่อว่าเขาคงผูกบทกับทฤษฎีที่สร้างขึ้นมาเองหลายส่วน เพราะฉะนั้น อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เพียงแต่จะดูสมเหตุสมผล (ในความคิดของคนดู) หรือไม่เท่านั้น

สำหรับฉากจบ เชื่อว่าโนแลนต้องการทิ้งไว้ให้คนดูคิดต่อเอาเอง ไม่ได้มีข้อสรุปหรอกครับ จริงๆ แล้วการตัดจากฉากการเจรจากับไซโตะตอนแก่อย่างดื้อๆ เช่นนั้น ก็เหมือนเป็นสัญลักษณ์อะไรบางอย่างที่ hint แล้วว่า มันต้องมีอะไรเกิดขึ้น แล้วการที่ให้พระเอกทิ้งความสนใจจากโทเท่ม หันไปเอาใจใส่กับลูกนั้น ก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเขาไม่แคร์แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เขาต้องการได้รับการ fulfil แล้วอย่างสมบูรณ์

แต่นับถือจริงๆ ที่ตั้งใจติดตามทุกเม็ด และนำมาวิเคราะห์เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ สิ่งที่อยากรู้คือข้อมูลในการเขียนบทของโนแลน มีความถูกต้องมากน้อยเพียงใดครับในแง่วิชาการ? (ในฐานะที่เป็น Expert ทางจิตเวช)

เพราะอ่านจากบางที่เห็นบอกว่านักวิจัยเรื่องความฝันจาก Harvard ยังไม่เห็นด้วยกับหลายเประเด็น เพียงแต่บอกว่าสมมติฐานของโนแลนมีความเป็นไปได้


โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:49:08 น.  

 
ผมคิดว่าการใช้เครื่องปั๊มหัวใจเป็นการ Kick ครับ
เพราะมันทำให้ร่างมัน "สะดุ้ง" ได้อ่ะครับ
สะดุ้งตื่น อ่ะครับ
ผมคิดว่าหลักการ Kick จริงๆ คือการทำให้สะดุ้งมากกว่านะครับ
โดนถีบตกน้ำ = สะดุ้งตื่น
โดนถีบตกตึก = สะดุ้งตื่นเพราะความเสียว ประมาณนี้อ่ะครับ


โดย: Aynmr IP: 110.164.231.184 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:03:31 น.  

 
ตามหา Filmax โดยพลัน อารมณ์ค้างสุดๆ แบบตอนจบ Inception


โดย: เอ็ม IP: 124.121.206.121 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:6:11:12 น.  

 
ฟิสเชอร์ คุณเจ้าของบล็อกเขียนได้แปลกสุดๆเลยอะ น่าจะเป็น ฟิชเชอร์มากกว่านะ (Fischer)


โดย: ผ่านมา IP: 117.47.239.131 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:09:38 น.  

 
ลึกล้ำ นำใครๆเสมอนะคะ ดีใจที่ได้อ่านงานวิจารณ์ ระดับมาสเตอร์พีช ตั้งอกตั้งใจและกลั้นมาจากสมอง ขนาดนี้ ไม่ผิดหวังเลยที่รออ่าน มานาน (มีติงนิดนึง คือ ยาวไป และอ่านยาก) โนแลนด์ คงจะเจ็บใจที่มีคนรู้ทันไปมดดดดด
คิดว่าถ้าคุณผม แต่งหนังสือ แนวนี้เล่มถัดไปน่าจะเหมาะเจาะ เพราะเป็นทางที่น่าจะถนัด และส่วนตัวคิด คุณทำได้ดีมาก คือไม่มีใครเทียม ชมกันมากไปหน่อยเด๋วจะเหลิง และโดนหมั่นไส้
รออ่านใน filmmax แล้วกันนะคะ
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ


โดย: จอ จุ๊บุ๊ IP: 110.164.166.143 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:46:50 น.  

 
คุณหมอครับ หนังสือวางแผงเมื่อไหร่ครับ ผมเพิ่งได้ยินเสียงเพลงมาแว่วๆแล้ว นั้นหมายความว่าผมอยู่ในโลกนี้ได้อีกไม่นาน คนข้างบนเริ่มปฏิบัติการ"Kick"ผมแล้วครับ ผมต้องรีบหาบทความของคุณหมอในชั้นLimboมาอ่านก่อนที่จะตื่นครับ T_T


โดย: Poptrait IP: 125.25.53.233 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:32:02 น.  

 
อ่า พี่หมอ T_T
หนูอุตส่าห์ค่อยๆ เลื่อนลงๆ ลุ้นอย่างแรง

เอาเถอะๆ ถึงไม่ตัดไปหนูก็อุดหนุน Filmax อยู่แล้วแหละ


โดย: แม่ตัน้อย IP: 192.168.38.220, 119.42.85.117 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:53:59 น.  

 
มาคอมเม้นท์ต่อ ^^

ชอบที่คุณหมอพยายามแจกแจงทฤษฎีที่เป็นไปได้แต่ละข้อ ทั้งจุดโหว่ของมัน เราอ่านแล้วรู้สึกว่าสามารถตามความคิดได้ง่ายขึ้นค่ะ (ถ้าเทียบกับหนัง ก็เหมือนหนังมันโยนข้อมูลหนังสือหลายๆเล่มมาให้เราแบบสะเปะสะปะ แต่คุณหมอเอามาเรียงใหม่ให้สวยงามบนชั้นหนังสือ อิอิ)

เราไม่มีความเห็นเรื่องลำดับชั้นของฝัน เพราะตัวเองอ่านจากหลายๆที่ก็เริ่มไม่แน่ใจ 555 ส่วนตอนจบมันก็ปลายเปิดมาก (เรายังเชื่อว่าโนแลน"จงใจ"ให้มันคลุมเครือ) เพราะงั้นคิดแบบไหนก็คงไม่ผิดหรอก ขึ้นอยู่กับความเชื่อของเรา แต่ก็จะรออ่านความเห็นของคุณหมอจาก filmax นะคะ

มีอยู่สองประเด็นที่ชอบจากหนังเรื่องนี้มากๆคือประเด็นเรื่อง Idea ที่ว่า idea แพร่กระจายได้ และสามารถพลิกชีวิตคนได้แบบหน้ามือหลังมือ ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราคิดต่อยอดไปได้อีกเรื่อยๆ เลย ส่วนอีกประเด็นที่ชอบก็คือ ความคลุมเครือของความฝันและความจริง อันที่จริงประเด็นเรื่องนี้อาจพบเห็นในวรรณกรรมและภาพยนตร์อื่นก่อนหน้านี้แล้ว เพราะจริงๆมันก็คือปรัชญาที่ว่าโลกที่เราอยู่นี้คือความจริงหรือความฝัน (ก็คล้ายประเด็นใน Matrix นิดๆ) แต่ที่ชอบก็เพราะว่าโนแลนลงลึกถึงมันอย่างค่อนข้างเป็นรูปธรรม เห็นภาพชัดขึ้น และใกล้ตัวเรามากกว่า Matrix เพราะว่ามันเป็นเรื่องของความฝัน ทุกคนก็เคยฝัน ...

( เอ๊ะ หรือโนแลนพยายามใช้ idea เรื่องความจริงกับความฝันเนี่ย มาทำ inceptionในสมองเราป่าวหว่า 555 )


โดย: นางาเสะจัง IP: 161.200.56.45 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:26:55 น.  

 
ขอเพิ่มเติมความเห็นนิดหนึ่งครับ

Cobb น่าจะเสียชีวิต ในขั้นที่1 ครับเนื่องจากจมน้ำตาย อยู่ในรถครับ เลยไปอยู่ใน Limbo เดียวกับไซโตะครับ และการที่ไซโตะแก่ เพราะ ตายในขั้นที่ลึกกว่า คูณ ชั่วโมง คูณ ปี แต่ Cobb เสียชีวิตในขั้นที่ 1 เลยยังหนุ่มอยู่ ครับ


โดย: Inception วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:12:30 น.  

 
ผมว่า ฉากฝันชั้นสี่ไม่ใช่ limbo ของฟิชเชอร์
เพราะฟิชเชอร์ แค่กำลังจะตาย สิ้นสติ เหมือนหลับ
จึงร่วงลงไปฝันอีกชั้นนึงได้
ส่วนที่สามารถตื่นจากฝันชั้นสี่ได้
เพราะโดนเครื่องกระตุ้นหัวใจปลุกชีพ ไม่ใช่ปลุกฝัน เมื่อโดนปลุกชีพในชั้นสาม มันก็ส่งผลให้กึ่งฝันกึ่งตายในชั้นสี่ หลุดเด้งออกมาโดยอัตโนมัติ


โดย: nop IP: 118.174.53.87 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:13:28 น.  

 
ขออนุญาตคุณหมอแนะนำบล็อคที่เกียวข้องกับหนังนิดนึงนะครับ
สำหรับคนชอบฟังสกอร์แนะนำ บล็อคดีๆรวบรวมดนตรีประ กอบภาพยนตร์ไว้มากมาย แน่นอนรวมถึงดนตรีประกอบหนังตัวอย่าง อันลือลั่นของinception แต่งโดย
Zack Hemsey
และดนตรีที่ใช้ประกอบในหนังจริง แต่งโดย Hans Zimmer ครับ

//chevaliersdesangreal.wordpress.com/2010/07/15/hans-zimmer-inception/
และ
//actdeltas.wordpress.com/2010/07/18/inception-original-motion-picture-soundtrack/


โดย: ซอยดอกรักษ์ IP: 119.31.6.137 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:24:33 น.  

 
เพลงในเทรลเลอร์ ไม่ใฃ่ของ Hans Zimmer นะครับ
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9487434/A9487434.html

แต่หนังเขาเจ๋งจีริงๆ แฮะ


โดย: cdaz IP: 110.164.246.237 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:16:50 น.  

 
ดูหนังจบปุ๊ป คิดถึงบล๊อกคุณหมอขึ้นมาเลยทีเดียว ฮ่าๆ
ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์นะคะ ^^


โดย: Amore_AK* IP: 118.175.40.246 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:08:05 น.  

 
ขอบคุณสำหรับบทความค่ะ พอดูหนังจบ ก็คิดถึงบล้อคพี่ทันทีเลยค่ะ และก็เหมือนอย่างที่พี่เขียนไว้เลย คือตอนออกมาจากโรง รู้สึกว่าตัวเองดูเข้าใจดี
แต่พอมานั่งอ่านในเฉลิมไทย ปรากฏว่าชักไม่แน่ใจ สงสัยต้องไปดูใหม่อีกหลายๆรอบ

ว่าแล้วก็รอ Filmax ต่อไป


โดย: ลิปดา - พิลิปดา IP: 58.9.5.113 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:18:55 น.  

 
อ้างอิงจาก//actdeltas.wordpress.com/2010/07/18/inception-music-from-the-movie-trailer/#more-1833
ชื่อของ Zack Hemsey (คนแต่งดนตรีประกอบหนังตัวอย่างภาพยนตร์ ซึ่งแต่งมาหลายเรื่อง และมีนักดนตรีที่แต่งเพลงหนังตัวอย่างมากมายในฮอลลีวูด เรียกว่าหนังตัวอย่างเรื่องนึงต้องมีการลงทุนแต่งเพลงขึ้นมาใหม่กันเลยทีเดียว^o^)
กลายเป็นที่รู้จักอย่าล้นหลามทันที่หลังได้ทำเพลงประกอบตัวอย่าง INCEPTION ผลงานว่าสุดของ Christopher Nolan สุดยอดผู้กำกับนักเซอไพรซ์คนดูด้วยความแปลกใหม่ตลอดเวลา! หลังถูกโพสลงใน YouTube ดนตรีของ Zack กระจายทั่วอินเตอร์เน็ตในเวลารวดเร็ว และสร้างความประหลาดใจให้ใครหลายคนที่คิดว่ามันคือดนตรีจาก Hans Zimmer ชื่อของเค้าถูกค้นหาว่ามีที่มาอย่างไร ได้เจอกับ Nolan ตัวเป็นๆหรือไม่ และอะไรคือแนวคิดในการทำเพลงนี้ขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดนี้ตรงข้ามกับดนตรีจาก Teaser ตัวแรกของ Mike Zarin แทบไม่มีใครรู้เลยว่ามันชื่ออะไร หรือใครแต่ง ในคราวนี้เราจะมาดู 2 เพลงจาก 2 นักแต่งเพลงรุ่นใหม่ ผู้ร่วมสร้างปรากฏการณ์ INCEPTION.....

Zack Hemsey คอมโพเซอร์น้องใหม่ที่กำลังไต่เต้าขึ้เรื่อยๆจากการทำดนตรีประกอบซีรี่ และล่าสุดก็มีอัลบั้มเป็นของตนเองชื่อว่า “Empty Room” ทำสกอร์แสนจะทรงพลังชื่อว่า “Mind Heist” แปลตามตัวตรงตามหนังคือ “ปล้นจิตใจ” แนวคิดของ Zack ที่โพสไว้คือ “ทำให้คนดู รู้สึกว่านี่คือหนังที่สำคัญที่สุดแห่งปี และ กระตุ้นให้พวกเขาไปดูมันให้ได้” .....


โดย: ซอยดอกรักษ์ IP: 110.49.40.135 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:28:59 น.  

 
อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นค่ะ

แต่ก็ยังงงว่า ถ้าการ kick หรือการตกจากที่สูง คือการปลุกให้ตื่นในชั้นนั้นๆ ไม่ใช่ชั้นสูงกว่า

แล้วน้องสถาปนิก โดดตึกในชั้น 4 (ห้องพระเอกกับเมีย) จะเป็นการปลุกให้ตื่นในชั้น 3 ( ปราสาทหิมะ) ได้อย่างไรคะ เพราะตอนโดด นางเอกก็กำลังตื่นอยู่ (จึงโดดไปเอง)

หรือถ้าบอกว่า โดดตึกตาย ก็ไม่น่าจะทำให้ตื่นในปราสาทหิมะได้ เพราะตายแล้วต้องตกไปอยู่ใน limbo

สงสัยตรงจุดนี้ค่ะ


โดย: oey IP: 124.157.160.81 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:08:09 น.  

 
ตอนดูแรกๆไม่งงเลยจบออกมาจากโรงหนังคิดว่าแก้สมการได้หมด

พอไปดูที่อาจารย์ต่างๆมาเฉลยเอาไว้ตามเวบ ทำไมมันซับซ้อนขนาดนั้นวะเนี่ย 555+

พอมาอ่านของคุณผมอยู่ข้างหลังคุณ เริ่มเข้าใจดีขึ้นเพราะแตกให้เห็นเป็นข้อๆดี ว่าแต่นี่ไม่ใช่เนื้อหาใน filmmax ใช่มั้ยครับ


โดย: ผมอยู่ข้างหลังคุณผมอยู่ข้างหลังคุณ IP: 183.89.243.246 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:05:10 น.  

 
การปลูกฝังความคิดแบบนี้สู้แบบที่แกนนำบ้านเราทำไม่ได้ เร็ว เฉียบ ได้ผล ทนนาน 5555+


โดย: ผมอยู่ข้างหลังคุณผมอยู่ข้างหลังคุณ IP: 183.89.243.246 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:07:31 น.  

 
... ขอบคุณครับกับทุกๆความเห็นของทุกท่านที่มาแลกเปลี่ยนกัน

ขอตอบคำถามของแต่ละท่านที่ตั้งคำถามไว้นะครับ

คำถามคุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณผมอยู่ข้างหลังคุณ#31 ... ใน Filmax ก็ไม่เหมือนใน Blog กับ Fb ครับ เป็น อีกประเด็นหนึ่งไปเลย เน้นที่ชีวิตกับจิตใจของตัวละครที่โยงไปสู่ตอนจบ

คำถามคุณ oey #30 ... คำถามเป็นประโยชน์มากครับ ทำให้ผมกลับไปปรับเนื้อหาใน blog ด้านบนในส่วนรูรั่วของ ทฤษฎี "ถ้าเราจะเชื่อว่าชั้น 4 ไม่เป็น Limbo" ลองขึ้นไปอ่านอีกครั้งนะครับ

คำถามคุณ ปั้น #14 ก่อนหน้านั้น มาล อยู่ใน limbo ยังแยกไม่ได้ แต่ตอนรถไฟมาล ถูก inception ไปแล้วครับว่า "โลกนี้ไม่ใช่โลกจริง" ดังนั้นตอนนั้นเธอก็แยกได้ครับ ว่าที่ๆอยู่ตอนนั้นเป็น ฝัน และต้องกลับไปที่ โลกจริง เพียงแต่ ความคิดนั้นไม่ใช่ รู้เอง แต่ รู้จากการถูก inception

คำถามคุณ sugar #13 เรื่อง เวลา ต้องขอผ่านนะครับ เพราะเคยนั่งคิดแล้วมึนอย่างแรง แต่เห็นมีกระทู้ในพันทิปเค้าเทียบเรื่องเวลาอยู่ครับ


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:59:57 น.  

 
ตอบคุณ oey#30 นะครับ

น้องสถาปนิก โดดตึกตายครับ ทำให้กลับไปอยู่ชั้น3(หิมะ) เพราะ การมาlimbo ครั้งนี้ มาจากการ share กับ ฝันของ ลูกเศรษฐี โดยที่ไม่ได้ใช้ยานอนหลับพิเศษของนักเคมีแต่อย่างใดครับ

น่าจะถูกนะครับผมว่า


โดย: ปั้ั้น IP: 202.28.80.4 วันที่: 22 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:58:04 น.  

 
คุณปั้นคะ ถ้าหากน้องสถาปนิกโดดตึกตาย ใน limbo ก็น่าจะไปตื่นในเครื่องบินเลยนะคะ ไม่ต้องมาตื่นเป็นขั้นๆ (เทียบกับตอนพระเอกนอนให้รถไฟทับ) หรือเปล่าคะ

เลยคิดว่า มันยังมีจุดทะแม่งๆ น่ะค่ะ


โดย: oey IP: 124.157.160.81 วันที่: 23 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:33:41 น.  

 
นั่นสิครับ ผมว่าไอ้ที่ทะแม่งก็คือ ทำไมพระเอกรถไฟทับ ถึง ตื่นมาความจริงเลยเนี่ยแหล่ะ แต่ผมว่าของสถาปนิกน่าจะถูกแล้วแหล่ะ

แต่รู้สึกผมอ่านในพันทิพ มีคนอธิบายอยู่นะครับ แต่ผมจำไม่ได้แล้ว


โดย: ปั้น IP: 202.28.80.4 วันที่: 23 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:20:00 น.  

 
สำหรับข้อสงสัยในฉากจบนั้นผมก็คิดเอาเองอีกมุมก็คือค็อบบ์อาจช่วยไซโตให้ตื่นจาก limbo มาได้จริง แต่ที่ totem ของค็อบบ์ยังไม่หยุดหมุนก็เพราะว่าโลกที่ค็อบบ์(และคนดู)เชื่อว่าเป็นโลกจริงนั่นก็เป็นแค่ความฝันอีกขั้นหนึ่งของค็อบบ์มาตั้งแต่แรกแล้ว...ตามที่มอลเวอร์ชั่นโรคจิตเคยบอกเขาไว้ทำนองว่า คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าความจริงที่คุณเชื่ออาจไม่ใช่เป็นแค่อีกความฝันหนึ่ง ลูกๆที่คิดว่าเป็นความจริงก็อาจไม่ใช่จริงๆก็ได้...

อันนี้อาจเป็นมุมมองที่สุดขีดและมีช่องโหว่เยอะไปหน่อยมั้ง แถมยังชวนให้คิดว่ากำลังดู The matrix เข้าไปอีก แต่บรรยากาศงงๆฝันๆตลอดทั้งเรื่องมันก็ชวนให้น่าคิดอยู่เหมือนกันนะครับ
อีกอย่าง ตลอดทั้งเรื่องผมก็เห็นโทเทมของค็อบบ์หมุนติ้วๆตลอด อาจมีตอนที่มันหลุดร่วงแต่ตอนนั้นเขาก็กำลังมึนงงเพราะเพิ่งตื่น ไม่ได้ตั้งท่าหมุนดีๆเหมือนทุกครั้ง

ปล. สำหรับผม เรื่องนี้อาริแอดเน่เป็นตัวขโมยซีนอย่างรุนแรงครับ


โดย: don_custom IP: 115.67.165.167 วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:20:11 น.  

 
ตอบคุณ oey ครับ เป็น การ Kick แบบหนึ่งครับ อันนี้ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย


โดย: Inception วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:02:37 น.  

 
คุณหมดเขียนได้เทพขึ้นเรื่อยๆนะครับ


โดย: noom IP: 110.49.76.149 วันที่: 25 กรกฎาคม 2553 เวลา:4:04:26 น.  

 
แอบคิดเหมือนคุณ don_costum ด้วยค่ะ ว่าจริงๆ พระเอกยังฝันอยู่ 555

คุณ Inception คะ ถ้าบอกว่า การที่สถาปนิกโดดเป็นการ kick แบบนึง มันจะผิดกฎที่ จขบ เขียนบอกไว้ว่า การตก เป็นการ kick ให้ตื่นในระดับนั้นๆ แต่ตอนโดด สถาปนิก ตื่นอยู่แล้วนี่คะ แล้วจะปลุกอีกทำไม ( ถามไว้ใน คห 30 ค่ะ คุณปั้นมาตอบเพิ่มใน คห 34 แล้วเกิดคำถามต่อน่ะค่ะ )


โดย: oey IP: 124.157.160.81 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:19:48 น.  

 
ถ้าอธิบายด้วย synchronized พร้อมกัน ระหว่างชั้นที่หลับกับชั้นที่ตื่น ก็มีจุดโหว่ คือพระเอกในตอนต้นจะตื่นจากประสาทญี่ปุ่นได้อย่างไรครับ ในเมื่อพระเอกที่ประสาท ไม่ได้ synchronized พร้อมกับพระเอกที่ตกลงไปในอ่างอาบน้ำ


โดย: สงสัย IP: 58.64.72.6 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:13:08 น.  

 
โกรธนะเนี่ยย

หลอกให้อ่านจนมึนแล้วต้องรอให้เฉลยในฟิลม์แม็กซ์เนี่ย

เพราะงั้นบอกให้เดือนหน้าออกมาเร็วๆ นะค่ะ

ค้างคามากๆค่ะ


โดย: ejw IP: 61.90.34.148 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:53:06 น.  

 
ถามค่ะ ตอนรถแวนตกชั้น1 ทำไมอาเธอร์ไม่ถูก kick จริงๆไม่ว่ายาจะแรงแค่ไหน ยังไงก็ต้องตื่นมาชั้น1 แต่ทำไมไม่ตื่น กลับเป็นอยู่ในสภาพรับน้ำหนักอีก?


โดย: น้ำ IP: 118.174.51.193 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:02:24 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณ สงสัย #41 ค่ะ

รู้สึกว่าการตื่นในแต่ละตอนของหนัง จะมีข้อยกเว้นมากเกินไป ทำให้เกิดการถกเถียงกันได้เยอะจริงๆ


โดย: oey IP: 58.147.53.93 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:10:46 น.  

 
Inception แปลว่าอะไรครับ


โดย: Inception IP: 124.121.39.209 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:49:08 น.  

 
ผมว่าผู้เขียนก็ยังสับสนตัวเองอยู่หลายๆ ประเด็นนะครับ
ลองอ่านบทความของตัวเองช้าๆ อย่างตั้งใจอีกครั้ง

อย่างว่าล่ะครับ
ผู้เขียน (และผมด้วย) ก็ไม่เคลียร์ถึงที่สุด
ยังไงเขียนไป มันก็ดูออกว่าไม่ถูกต้องเสียทีเดียว


โดย: ปราชญ์ IP: 125.25.85.71 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:14:07 น.  

 
ตอนแรกคิดว่าตัวเองเข้าใจดีแล้ว แต่พอ จขบ อธิบายละเอียดแบบนี้ เริ่มคิดใหม่ว่าจะไปดูอีกรอบดีใหม่ 555 มี 2 เรื่อง อยากบ่น นิดนะ คือเดี๋ยวนี้ช่องทางในการสื่อสารเยอะ แล้ว จขบก็กระจายบทความไป ทำให้เราสับสน เพราะไม่ได้ใช้ทั้งหมดเช่นfacebook พวกเนี้ยะ พอเข้ามาที่ก็โอะ งงเดะ ดูตรงไหนดี แต่อันนี้เป็นปัญหาของอะฮั้นเองที่ไม่ ตามโลก ไม่เป็นไรจัดการเอง อีกอันคือซี่รีย์ที่ดูล่าสุดอยู่ไหนเนี้ยะ เพิ่งดู spartacus blood ans sand ชอบมาก หนังทำให้เห็นชัดว่า sex กับ love ต่างกันงัย แล้วก็อย่างไหนที่มีคุณค่ากว่ากัน อย่างชัดเจน ตอนพระเอกฝัน แอบเอาเรื่อง inception ไปวิเคราะห์ 555 บ้าไปแล้ว ก็สนุกดี เลยจะเข้ามาดูว่า จขบ ได้ดูบ้างเปล่า แล้วว่างัยบ้างน่ะ


โดย: sunontinee IP: 125.24.235.113 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:32:08 น.  

 
sunontinee... ขออภัยที่มันส์มือกับสื่อมากไปหน่อยครับ (นี่ขนาดเพลาๆ twitter ไปนะเนี่ย)

พอลองเล่น FB แล้ว มันตอบโจทย์ได้ไม่เหมือนกันจริงๆ เพราะ ถ้าจะเอาที่เขียนสั้นๆ คุยเล่นๆ หรือพวกคลิปมาลง Blog มันก็ไม่สะดวกและ blog จะหล่นเร็วมาก

อีกอย่าง FB มันเหมาะกับการตอบหรือคุยกันได้เร็วและสะดวกกว่า Blog ครับ และถึงจะไม่ได้เป็นสมาชิก FB ก็สามารถอ่านได้นะครับ แค่เม้นท์ไม่ได้เท่านั้นเอง

แต่ส่วนบทความยาวๆ มิต้องกังวลครับ เพราะ บทความยาวๆ จะลงทั้ง Blog และ FB ทั้งคู่เหมือนกัน

... ขอบคุณ ความเห็นของท่านอื่นๆ ที่มาแชร์กันด้วยครับผม ส่วนคำถาม ฝันๆ ในหนังขอผ่านไปก่อนเน้อ ใครตอบได้วานตอบแทนโลด

ช่วงนี้ มึนฝันเกิน
แถมเพิ่งเขียนบล็อกใหม่ Inception จนโทเท่มหมุนในหัวไม่หยุดแล้ว


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:36:53 น.  

 
สงสัยเรื่องการ kick อ่ะคับ
ตอนแรกผมเข้าใจว่าการที่รู้สึกตกจากที่สูงในฝันจะทำให้ตื่น(แต่ไม่จำเป็นที่คนฝันจะต้องตกจริงๆ)
ก้อจะอธิบายย้อนกลับมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ฝันชั้นที่ 4 คือฟิชเชอร์ตื่นมาในชั้น snow จากการตกจากตึกสูงในชั้น 4 แร้วไปคุยกับพ่อ แล้วค่อยตกตอน รพ. ระเบิด ไปตื่นในลิพฟ์ แล้วตอนนั้นลิพฟ์ก้อกะลังตกอยู่จึงไปตื่นในชั้นรถแวน และเข้าใจว่าฉากห้องตอนแรกที่ cobb ตื่นคือตื่นมาจากการจมน้ำมากกว่า
ปล. ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือป่าว รบกวนช่วยคลายข้อสงสัยให้หน่อยน่ะคับ ขอบคุณคับ


โดย: Tclose blackboy IP: 172.17.198.169, 61.19.199.142 วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:09:38 น.  

 
ผมมีคำถามที่คนอื่นๆไม่ค่อยถามครับ
1. ฝันแต่ละชั้นต้องกินยานอนหลับทุกชั้นหรือไม่
2. ตอนกลับมาบนเครื่อง ฟิชเชอร์ จำพวกพระเอกได้หรือไม่
3. ทำไมตอนระเบิดลิฟท์ อยู่ดีๆ ก็เกิดแรงโน้มถ่วง ทั้งๆที่ รถยังลอยอยู่ในอากาศ และทำไมต้องเปลี่ยนแผนจากเดิมจะระเบิดทั้งชั้นเพื่อให้เกิดการตก ในเมื่อจะลิฟท์หรือห้องมันก็ตกเหมือนกัน
4. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้าของฝันตื่น(ฝันนั้นจะสลายไป?) แต่มีผู้ร่วมแชร์ฝันที่ยังไม่ตื่น


โดย: นิ้วกรม กลมกระดิก IP: 118.175.70.93 วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:31:21 น.  

 
สุดยอดครับ ตามอ่านหมดทั้ง2 ที่ blog fb
เหลือใน Filmax
แต่ ทำไมมีแค่ 3 ละ มันต้อง 4 สิ 4 ชั้น เหอะๆ


โดย: mengbps01 วันที่: 1 สิงหาคม 2553 เวลา:7:40:53 น.  

 
ยิ่งคิดมากยิ่งสับสน ผมตีความง่ายๆ ในเรื่องกฎการตื่นที่ตั้งกันเอาไว้
ผมคิดว่าวิธีการปลุกมี 2 แบบ ไม่ว่าจะฝันกี่ชั้นก็ตามแต่

แบบที่ 1 ปลุกด้วยตัวเองในฝัน เช่นโดดตึก ฆ่าตัวตาย โดนยิงตาย
แบบที่ 2 ปลุกโดยคนอื่น และเหตุการณ์อื่น เช่น ผลักเก้าอี้ให้ล้ม รถตกน้ำ ลิฟท์ตก

ซึ่งการปลุกแบบแรก อธิบายในปัญหาเรื่องของเวลาได้ ว่าไม่จำเป็น
ต้องรอถึง 1 สัปดาห์เพื่อที่จะตื่น เราปลุกตัวเองตื่นซะก่อนเลย


โดย: Bandai IP: unknown, 202.44.135.35 วันที่: 2 สิงหาคม 2553 เวลา:14:41:32 น.  

 
ผมขอฝากบทวิเคราะห์ของผมไว้ด้วยคนครับ
//www.siraekabut.com/2010/08/inception-analysis/


โดย: Ra IP: 58.8.174.108 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:10:42:56 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่วิเคราะห์มาให้อ่านกัน ทำให้ความคิดในสมองตกตะกอนได้เยอะเลย
โดยส่วนตัวดิฉันคิดว่าตอบจบคือความจริง ไม่ใช่ฝันอีกแล้ว ด้วยการโมเมเอาเองว่า
"ก็ฉันอยากให้จบแบบนั้นนี่" ไม่มีหลักการใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะดิฉันเป็นพวกสุขนิยม ก็เลยอยากให้หนังจบอยาก happy ตามที่ใจคิด
^ ^


โดย: เพิ่งไปดูมาวันนี้ IP: 117.47.125.30 วันที่: 4 สิงหาคม 2553 เวลา:22:56:39 น.  

 
ขอบคุณคร๊าบ สำหรับบทความ
เป็นหนังที่ต้องคิดตลอดเรือ่งจริงๆ
ไม่ได้หยุดพักเลย เหนือ่ยหัว แต่ดูสนุกมากคับ


โดย: lkunl IP: 58.8.1.166 วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:8:50:12 น.  

 
ขอถามนิดนึงครับ ไม่ว่าเราจะอยู่ในฝันชั้น หรือ แม้กระทั่ง Limbo ก็ตาม ถ้ายาหมดฤทธิ์ยังไงก็ตื่น หรอครับ


โดย: pumpkin13 IP: 58.8.8.40 วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:22:09:12 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่านเพราะเพิ่งมีโอกาสดูหนังครับ (ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด เพิ่งจะมีวันว่างกลับมาเนี่ยแหละครับ)

วิเคราะห์ได้น่าติดตามมาก ๆ ติดประเด็นตรง "รูโหว่ที่คิดว่าฝันชั้นที่ 4 ไม่ใช่ Limbo" นี่แหละครับ

เพราะผมรู้สึกว่าหนังอธิบายได้เคลียร์จนไม่มีรู้โหว่อยู่แล้วนะครับ

การหล่นจากที่สูง การถูกยิงเป็นการถูก kick จากชั้นนั้น ๆ ครับ ที่แอเรียดเน่กับฟิชเชอร์ต้องกระโดดในฝันชั้น 4 ก็เพราะเพื่อให้ตื่นขึ้นจากฝันชั้น 4 เป็น ฝันชั้นที่ 3 ไงล่ะครับ

มารอให้โรงพยาบาลระเบิดก็จะไม่ตื่นนะครับ เพราะเป็นฝันคนละชั้นกัน


โดย: Highwind IP: 124.120.19.62 วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:22:30:07 น.  

 
ใจจริงอยากอ่านบทความตอนจบใน film max มากเลย แต่จะมาหาหนังสือตอนนี้คงช้าไปแล้ว ถ้าไม่รบกวนมาก หนังสือขายหมดแล้วเอามาลงให้ผมอ่านหน่อยได้มั้ยครับ


โดย: Highwind IP: 115.87.122.168 วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:22:33:39 น.  

 
เข้ามาตอบอีกรอบ เพราะคิดไปคิดมาหนังมีช่องโหว่จริง ๆ ด้วยครับ

ช่วงแรกของหนัง ลีโอถูกผลักตกอ่างน้ำ = ปลุกให้ตวเองตื่นขึ้นมา แต่ในฉากปฏิบัติการฝัน 4 ชั้น การหล่น = ตื่นขึ้นไปสู่ฝันชั้นบน

ตรรกะสับสนนิด ๆ แฮะ


โดย: Highwind IP: 115.87.122.168 วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:22:38:09 น.  

 
อีกข้อนะครับ (เพิ่งดูมาของกำลังขึ้นครับ)

ทำไมพลังอำนาจของโมลจึงมากมากมหาศาลจนมีบทบาทต่อกลุ่มพระเอกได้ขนาดนั้น โดยเฉพาะในตอนท้ายที่โผล่มายิงฟิชเชอร์แถมยังจับฟิชเชอร์ลงไปอยู่กับตัวเองในฝันชั้นถัดไปได้อีกด้วย

ข้อนี้หนังยังอธิบายได้ไม่เคลียร์เลยนะครับ


โดย: Highwind IP: 115.87.122.168 วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:22:52:39 น.  

 
จริงๆแล้วการ Inception ในความเป็นจริงอาจเหมือนการสั่งจิตครับ เพียงแต่เป็นการเข้าไปบอกกับจิตสำนึกได้โดยตรง ผ่านทางภาพสะท้อนที่สร้างขึ้นมาโดยเป้าหมายไม่รู้ตัว เหมือนการสั่งจิตเลิกบุหรี่ อะไรประมาณนั้น และผมสันนิษฐานว่า การที่เกิดชั้น LIMBO ได้นั้น เกิดมาจาก ความจริงที่ว่า สมองจะรับรู้ในความเป็นเหตุเป็นผลกันเอง ไม่ขัดแย้งกัน ในเมื่อไซโตะถูกยิงแล้วไม่สามารถตื่นได้ ซึ่งเป็นฤทธิ์ของยา ทำให้สมองเกิดความขัดแย้งภายใน คือ ไม่ตื่น สมองจำเป็นต้องสร้างอีกมิตินึงขึ้นมาเพื่อสอดคล้องกับความจริงที่ว่า ตัวเขาไม่ได้ตายจริงๆ ทำให้จิตสำนึกสร้างโลกใหม่ขึ้นมา ซึ่งถ้าดูในหนัง มันก็ไม่มีองค์ประกอบของโลกใหม่ LIMBO จึงต้องใช้โลกที่เคยมีคนสร้างมา (เหมือนทฤษฏีผู้สร้างฝัน) ทำให้ต้องเข้าไปอยู่ในแบบจำลองของพระเอกแทน...
ถ้าคนดูเข้าใจหลักการของการสั่งจิต จะเข้าใจหนังเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วครับ
เหมือนพระเอกสั่งจิตตัวเองและรู้สึกผิด จนเป็นนางเอกขึ้นมา
และพระเอกก็สั่งจิต นางเอก จนเป็นอีกความคิดนึงในตัวเขาเอง เหมือน Subliminal ไงครับ
คือสื่อสารไปถึงจิตใต้สำนึกโดยตรง ซึ่งถ้าเป็นในหนังมันจะดูดซับง่ายมาก เพราะมันไร้แรงต่อต้าน และเป็นคอปเซปต์ทางอารมณ์ด้วย


โดย: buggyball IP: 183.89.151.198 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:22:54:55 น.  

 
การอธิบายและบรรยายในตัวหนังก็ยังมีช่องโหว่ของมัน ที่ยากจะไปหาคำตอบได้ครับ มันถึงถูกสร้างขึ้นมาได้ง่าย จะตอบได้ทุกอันคงลึกเกินไป


โดย: buggyball IP: 183.89.151.198 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:23:02:24 น.  

 
อ่านรีวิวแล้วมึนจัง @__@

สำหรับเรื่องนี้คงต้องไปหาตัวหนังมาดูก่อนจริงๆ นะคะเนี่ย...แต่สำหรับเรื่องนี้ถึงดูแล้วก็ใช่ว่าจะรู้เรื่องนะคะเนี่ย


โดย: apelox IP: 124.120.231.17 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:18:51 น.  

 
แวะมาอ่านครับ
america cash loans


โดย: lavenderbreeze999 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:32:08 น.  

 
ผมกลับมาดูอีก2รอบ
กลับมาอ่านอีก2รอบ
และก็ยังไม่เข้าใจ และสับสนยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ยิ่งดูยิ่งงง ยิ่งอ่านยิ่งสับสน เห้อ


โดย: beskung14 IP: 124.120.162.30 วันที่: 21 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:40:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.