www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

รักแห่งสยาม , ทุกชีวิตเติบโตได้ด้วยความรัก

หมายเหตุ : หากไม่ชอบหนังดราม่าอบอุ่นหัวใจ เห็นด้วยว่าหนังเรื่องนี้จะไม่เหมาะกับคุณ แต่นึกเสียดายที่หนังไทยเรื่องนี้จะถูกกระแสบอกต่อให้ความสำคัญเพียงแค่ว่า หนัง y หรือไม่ y ทั้งที่มันไม่ใช่ประเด็นหลักของหนัง และ จะทำให้หลายคนต้องพลาด หนังดราม่าครอบครัวชั้นดี กับ เรื่องราวการเติบโตของวัยรุ่น ที่มีประเด็นล่อแหลมของสังคม เหมือนที่เคยเล่าถึงไว้ก่อนหนังฉายที่ blog นี้ที่

รักแห่งสยาม (ไม่สปอยล์) , หนังไทยที่ผมฯชอบมากที่สุดของปี กับ การโปรโมทที่ "มันไม่ใช่อะ กิ๊บ มันไม่ใช่"
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=17-11-2007&group=5&gblog=93



Spoilers alert : เนื้อหาถัดจากนี้เปิดเผยจุดสำคัญและเฉลยเรื่องราว








บางคนบอกไม่อยากมีรัก เพราะ ความรักทำให้ต้องผิดหวัง ต้องพบการสูญเสีย ต้องเจ็บปวด

จะรักไปเพื่ออะไร หากรู้ว่าสุดท้ายไม่สามารถสุขสมหวัง หากสุดท้ายก็ลงท้ายด้วยการแยกจากกัน


... เพลง'กันและกัน'ที่ประกอบหนังเรื่องนี้ มีเนื้อเพลงที่เขียนไว้วา เพลงรักนั้นคงเขียนขึ้นมาไม่ได้ ถ้าผู้แต่งไม่เคยมีความรัก เช่นเดียวกัน ถ้าคนเราไม่เคยได้รับความรักก็ยากยิ่งนักที่จะรักใครเป็น ถ้าเริ่มต้นมนุษย์ส่งแต่ความเกลียดชัง เราคงหมดสิ้นเผ่าพันธุ์มานานนับพันปี

มิใช่เพราะรักหรอกหรือ เราจึงยังมีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ ความรักที่พ่อแม่หรือปู่ย่ามีให้ ความรักที่พี่และน้ามอบให้ ความรักที่เพื่อนๆส่งมา ความรักที่เรามอบให้ตัวเองคอยดูแลตัวเองและมีชีวิตอยู่ต่อไป

มิใช่ความรักหรอกหรือ ที่ทำให้หญิงชราคนหนึ่งยังมีกำลังใจใช้ชีวิตอยู่ แม้คู่ครองของตัวเองจากไปแสนนาน

มิใช่ความรักหรอกหรือ ที่ สอนให้เด็กผู้ชายคนหนึ่งรับความรักจากคนเลี้ยงดูและมีพลังในการดำรงชีวิตอยู่ รู้จักที่จะรักคนอื่นและ ค้นพบท่วงทำนองจนออกมาเป็นบทเพลง

มิใช่ความรักหรอกหรือ ที่ หญิงสาวคนหนึ่งไม่ทอดทิ้งคนรัก คอยดูแลแม้ถูกต่อว่า คอยหาอาหารมาแม้ถูกละเลย

มิใช่ความรักหรอกหรือ ที่ ประสานครอบครัวของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่แหลกสลายให้ยังคงความเป็นครอบครัวอยู่ได้

มิใช่ความรักหรอกหรือ ที่ เยียวยาคนที่เจ็บปวดรวดร้าวสูญเสียให้กลับมาหยัดยืนมีชีวิตอีกครั้งได้ในท้ายที่สุด

มิใช่ความรักหรอกหรือ ที่ เด็กสาวคนหนึ่งที่สูญเสียพ่อแม่ไปแต่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่เสียผู้เสียคน


เพราะ ความรักมิได้จำกัดแค่แฟน คนรัก แต่มีทั้ง ความรักของแม่มีต่อพ่อ ความรักที่พ่อแม่มีให้ลูก ความรักที่เพื่อนห่วงใยกัน ความรักที่เป็นความปรารถนาดีที่เรามีให้กับคนรู้จัก หรือ แม้กระทั่ง ความรักที่มีให้กับตัวเอง ฯลฯ

ดั่งเรื่องราวใน รักแห่งสยาม ที่ ความรัก ของหลายคนมิได้ลงเอยด้วยความสุขสมหวัง แถมทุกชีวิตในหนังล้วนเริ่มต้นจากการสูญเสีย แต่ ความรักที่แต่ละตัวละครมอบให้ต่อกันนั้นเป็นพลังที่ช่วยให้พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป


...เด็กสาวชื่อ จูน สูญเสียพ่อแม่ โดยไม่มีโอกาสได้บอกพวกเขาถึงเป้าหมายที่ตั้งใจว่าจะกลับไปทำให้พวกเขาภาคภูมิ

มิว สูญเสียอาม่า ความรักเพียงหนึ่งเดียวที่เขาสัมผัสได้ และ ต้องใช้ชีวิตต่อมาเพียงลำพัง

พ่อ สูญเสียลูกสาว กลายเป็นคนขี้เหล้า พร้อมแบกรับความรู้สึกผิดฝังใจ ในฐานะที่ตัวเองเป็นคนเอ่ยปากอนุญาตให้เข้าป่ากับเพื่อนๆ

แม่ สูญเสียลูกสาว ตามมาด้วยสูญเสียสามี เพราะ แม้เขาจะยังมีชีวิตแต่ใจที่แหลกสลายก็ทำลายความเป็นหัวหน้าครอบครัวลงสิ้น

โต้ง ลูกชายของบ้านนี้ก็ไม่ได้แค่สูญเสียพี่สาว แต่ยังสูญเสียพ่อ กับ แม่ที่ต้องแบกรับหน้าที่หนัก จนคล้ายกับเป็นลูกที่ไม่เหลือใครเพราะคนในบ้านหายใจเข้าออกอยู่กับคนที่จากไปแล้ว

...ภาวะโศกเศร้าจากการสูญเสียมีศัพท์เรียกว่า Grief และ หากความเศร้าโศกนั้นกินเวลายาวนาน หรือ ส่งผลให้คนที่มีชีวิตอยู่มีภาวะเจ็บป่วยทางจิตใจจนไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ เราเรียกว่า Pathological grief

หลายครอบครัวที่ไม่อาจทำใจยอมรับการสูญเสีย คนที่มีชีวิตอยู่ก็ใช้ชีวิตเหมือนตายไปแล้ว เช่นเดียวกับ ครอบครัวของโต้ง ที่สูญเสียลูกไปหนึ่งคน แต่ ครอบครัว กลับเหมือนสูญเสียคนเป็นพ่อไปกับความรู้สึกผิด สูญเสียแม่ที่น่าจะมีเวลาดูแลลูกคนที่เหลือมากกว่านี้แต่กลับต้องไปดูแลพ่อและหาเลี้ยงชีพครอบครัว โต้ง จึงไม่ได้สูญเสียแค่พี่สาว เพราะในทางจิตวิทยาการเติบโตหลายปีที่ผ่านมา เขาสูญเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมๆกัน

...การก้าวผ่านช่วงเวลาของความรวดร้าวนั้น จำเป็นต้องอาศัยยาวิเศษที่เรียกว่า “ความรัก”

เราไม่จำเป็นต้องทิ้งข้าวของคนที่จากไปให้หมดสิ้น เราไม่จำเป็นต้องคิดเสมือนว่าเราไม่เคยมีเขามาก่อนในชีวิต (เช่น บอกใครต่อใครว่าไม่เคยมีเขา , ทิ้งข้าวของที่เคยมีให้หมดสิ้น ฯลฯ) แต่ เราก็ไม่ควรที่จะใช้ชีวิตราวกับเขายังคงอยู่ในบ้าน เราไม่ควรที่จะลืมเลือนคนใกล้ตัวที่มีชีวิตอยู่เพราะหมกมุ่นกับคนที่เสียไป (เช่น ยังคงจัดโต๊ะอาหารเผื่อไว้ให้ , ปูเตียงไว้ทุกวัน ทั้งที่ใครคนนั้นจากไปแล้ว ฯลฯ)

ขอเพียงยังมีรักให้กัน

ช่วงเวลาแห่งความรวดร้าวนั้นจะค่อยๆผันผ่านไป เพราะกระบวนการสูญเสียนั้นก็มีกลไกเยียวยาในตัวเองอยู่แล้วที่เรียกว่า Mourning process แต่ครอบครัวของโต้งผ่านช่วงเวลานี้ไปไม่ได้ เพราะวิธีการหักดิบพยายามลบลูกสาวออกไปจากความทรงจำของแม่ กับ วิธีการหลอกตัวเองย้ำว่าลูกสาวยังคงอยู่และจะกลับมาของพ่อ คือ สองขั้วของการทำใจที่ยากจะกลับมาเป็นปกติ

แท้จริงไม่ใช่แค่พ่อที่อยู่ในภาวะ Pathological grief แม่เองที่พยายามลบทุกอย่างของแตงทิ้งไปก็อาจจะอยู่ในภาวะใกล้เคียงกันแต่แสดงออกต่างกัน

... บทหนังที่เริ่มต้นด้วย การหายไปของ แตง พี่สาวของบ้าน และ เริ่มปริศนาให้คนดูสงสัยด้วยการกลับเข้ามาของ จูน หญิงสาวหน้าตาเหมือนแตงราวกับถอดแบบออกมา แม้หนังจะไม่บอกบทสรุปว่า สุดท้ายแล้ว แตง คือ จูน หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นที่เราได้เห็นคือ

การมาของ จูน เหมือน ซานตาคลอสที่มามอบของขวัญวันคริสต์มาสให้กับครอบครัวที่เหมือนจะแตกสลายครอบครัวนี้ การมาของ จูน ทำให้พวกเขาได้หันมามอง ความรัก ที่พวกเขายังมีให้ต่อกัน เพียงแต่ พวกเขามองไม่เห็นเพราะถูกความเศร้าโศกนั้นบดบังไว้ การมาของจูน ช่วยประคองให้แต่ละฝ่ายค่อยๆยอมรับได้ว่า แตงจากไปแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะไม่เหลือแตงไว้ในความทรงจำ

ภาพถ่ายของ พ่อแม่และโต้ง ถูกนำกลับมาอีกครั้งในฉากสุดท้าย จากเดิมที่แม่พยายามปฏิเสธมาตลอดว่า รูปนี้เขาไม่อยู่กับเราแล้ว ความจริงก็คือ แตงยังอยู่ในรูปนี้ เพียงแต่การที่ไม่มีแตงก็เพราะแตงเป็นคนขอถ่ายรูปนี้ด้วยตัวเอง อีกนัยหนึ่งคือ แม้แตงจะจากไป แต่ เขายังอยู่กับเราตลอดมา เพียงแต่อาศัยอยู่ในความทรงจำที่งดงาม



ขอเพียงยังหลงเหลือความรัก

ทุกชีวิตก็ยังสามารถเติบโตต่อไป


ดั่งเช่นฉากหนึ่งในหนังที่ถ่ายภาพ ผึ้งกำลังพยายามไต่ขึ้นมาจากแก้วน้ำหวานหลังจากที่มันเกือบจะจม ความพยายามของผึ้งตัวนั้นช่วยให้มันค่อยๆปีนขึ้นมาและมีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่ง

หากชีวิตของเราเป็นเหมือนผึ้ง ความรักก็คงเหมือนปีก ที่หากเราจะตกลงน้ำไปซักกี่ครั้ง จะล้มลุกคลุกคลานกี่หน หากยังมีปีก เราก็ยังมีโอกาสกลับไปโบยบิน



....นอกจาก การเติบโตผ่านช่วงเวลาวิกฤติแสนยาวนานของครอบครัวหนึ่งๆ หนังก็ยังพูดถึงอีกหนึ่งแกนการเติบโต ของ เด็กหนุ่มสองคนที่เรียนรู้ชีวิตไปพร้อมๆกัน



การแสวงหาอัตลักษณ์ หรือ ความเป็นตัวของตัวเอง การหาเพื่อน หาคู่รัก หาวิชาที่ชอบ หาอาชีพที่เหมาะสมหา ฯลฯ ล้วนเป็น ระยะที่วัยรุ่นทุกคนพบเจอและฟันฝ่ามันไปให้ได้ ตามทฤษฎีพัฒนาการทางจิตวิทยาของอีริคสันส์ นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ที่กล่าวว่า ทุกช่วงชีวิตของมนุษย์ จะมีจุดหมายที่เราต้องผ่านข้าม เพื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตช่วงถัดไป เช่นเดียวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ มิว และ โต้ง

แม้ภาวะความเป็นเพศที่สามยังไม่มีบทสรุปชี้ชัดฟันธงว่าเกิดจากเหตุใด แต่ หนึ่งในเหตุปัจจัยคือการเลี้ยงดูที่เด็กเติบโตมากับพ่อที่ล้มเหลวในความเป็นพ่อ เช่น พ่อที่นิยมใช้ความรุนแรง พ่อที่ทอดทิ้งไม่ใส่ใจ ปล่อยให้ครอบครัวมีแต่คนเลี้ยงที่เป็นเพศหญิงเป็นต้นแบบ เหมือนกับ มิวที่โตมาแต่กับอาม่า ส่วน โต้ง ก็ขาดความรักจากคนที่ทำหน้าที่เป็นพ่อเพราะพ่อเมาเหล้าหยำเป

แต่ นั่นก็ไม่ได้แปลว่า เด็กทุกคนที่เป็นเช่นนี้ มีสาเหตุมาจากพ่อ เพราะ ความเป็นเพศที่สามจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถสรุปชี้ชัดได้ว่า มาจากเหตุใด แต่สิ่งหนึ่งที่ฟันธงบอกได้คือ สิ่งนี้ถูกกำหนดมา มิใช่ สิ่งที่พวกเขาจู่ๆก็เลือกอยากจะเป็น



....ความรู้สึกที่ มิว มีให้ โต้ง เป็น ปัญหาที่พ่อแม่และสังคมส่วนใหญ่ยังไม่สามารถยอมรับได้

พ่อแม่หลายคนไม่อยากให้ลูกเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ เป็นทอม เป็นดี้ และ เมื่อรู้ว่าลูกเป็น ก็ใจสลาย รับไม่ได้ จนลืมไปว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคือ ลูกคนเดิม ที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป

พ่อแม่และสังคม มักจะเคยชินกับการตัดสิน ว่า สิ่งที่เห็นตรงหน้า ‘ดี’ หรือ ‘เลว’ โดยลืมไปว่า สังคมที่คอยพิพากษามีมามากพอแล้ว

พ่อแม่และสังคมส่วนหนึ่งยังขาดความเข้าใจว่า ความเป็นเพศที่สามไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเลือกเหมือนเลือกซื้อขนม แต่มันเป็นความเป็นตัวตนที่ถูกกำหนดผ่านปัจจัยมากมายไม่ว่าจะเป็นยีน ฮอร์โมน หรือ สิ่งแวดล้อม ผสมปนเปกำหนดมา

ดังนั้นการพิพากษานอกจากจะไม่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ยังไม่ช่วยให้พวกเขาเติบโต นอกจากรู้สึกผิดละอายและอยากหนีออกไปจากสังคมนั้นๆ

คงจะดีไม่น้อย หากเราจะลดสังคมการพิพากษา และ เพิ่มสังคมที่ยอมรับและเข้าใจ

...‘ยอมรับ’ ไม่ได้แปลว่า ต้องชอบหรือเห็นดีเห็นงาม ‘ยอมรับ’ ไม่ได้ทำให้คนเป็นตุ๊ดเป็นเกย์เป็นทอมเป็นดี้กันมากขึ้น เพราะคนที่จะเป็นอย่างไรก็เป็น คนที่ไม่เป็นอย่างไรก็ไม่เป็น

พ่อแม่ที่ยอมรับว่า ความเป็นเพศที่สาม เป็นสิ่งที่เจ้าตัวไม่อาจเปลี่ยนแปลง พ่อแม่เข้าใจลูกว่าสิ่งที่เขาเป็นก็เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในชีวิต โดยพ่อแม่อาจไม่จำเป็นต้องชอบ’ความเป็นตุ๊ดเป็นเกย์เป็นทอมเป็นดี้’ แต่ขอให้คงความรักและเข้าใจใน’ตัวลูก’เหมือนที่เคยมี

เพราะเมื่อใดก็ตามที่ คอยตัดสินคอยชี้นิ้วด่าว่า หรือ พยายามเปลี่ยนแปลงโดยที่ไม่เข้าใจ เมื่อนั้น ช่วงเวลาความรักก็หดหาย กลายเป็นการสร้างระยะห่าง ระหว่างลูกกับพ่อแม่ให้ไกลออกไป ลูกมีปัญหาก็ไม่เข้าหาพ่อแม่ แต่ไปหาเพื่อน ไปติดเกมส์ ไปหาเหล้าไปหายา ไปหาคนรัก ที่สามารถทำหน้าที่ คนรับฟังคนเข้าใจ ในขณะที่ พ่อแม่หรือคนในสังคมคอยทำหน้าทีผู้พิพากษาและคนลงทัณฑ์

และ เมื่อไปหาทางออกที่ผิดๆ ถึงตอนนั้น พ่อแม่คิดอยากดึงลูกกลับมา บางทีก็สายเกินไป



...ต้องชมหนังเรื่องนี้ ที่จุดประเด็นที่แรง เพราะไม่ใช่แค่กรณี ชายรักชาย แต่ยังเกิดขึ้นในระดับชั้นมัธยม ซึ่งเป็นประเด็นที่อ่อนไหวเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องชมคือ หนังสามารถทำหน้าที่ สะท้อน มิใช่ ส่งเสริม หนังถ่ายทอดความเข้าใจ มิใช่ การตัดสินถูก-ผิด

หนังหาทางคลี่คลายตอนจบได้ดีทีเดียว ทำให้นึกถึง วัยอลวน 4 ขึ้นมา เพราะ สองเรื่องนี้ก็มีแง่มุมครอบครัวที่ล่อแหลมต่อการวิพากษ์ และ สะท้อนถึง แต่ การคลี่คลายตอนท้ายของ ประเด็น อยู่ก่อนแต่ง ในวัยอลวน 4 รีบนำไปสู่บทสรุปเร็วเกินไป ไม่หนักแน่นพอ และ ทำให้หลายคนตีความได้ว่า หนังเห็นดีด้วย ทั้งที่เจตนาของหนังไม่ได้ส่อเช่นนั้น ในขณะที่ประเด็น เพศที่สาม ใน รักแห่งสยาม ไม่ได้เชียร์ให้ต้องแสดงฉายชัดความเป็นเพศที่สามให้โดดเด่น ในสภาพความเป็นจริงที่สังคมมิได้เปิดกว้าง แต่ก็ไม่ได้บอกให้ต้องมองพวกเขาเป็นตัวประหลาดที่น่ารังเกียจในสังคม

หนังเพียงถ่ายทอด ความรัก ที่มีอยู่จริงและเป็นสิ่งที่สังคมน่าจะหันมามองด้วยสายตาอคติให้น้อยลง และ ถ่ายทอด ความรักความเข้าใจ ของคนรอบข้าง ที่เราจะเห็นว่า แม้เพื่อนๆในวงดนตรีจะรู้ว่ามิวเป็นอย่างไร แต่ เพื่อนๆก็ยังรอและพร้อมจะมอบมิตรภาพให้กับเขาตลอดมา

แม้แม่จะรู้ว่าโต้งเป็นเช่นไร แต่ ท้ายที่สุดเธอก็เพียงแค่ บอกให้ลูกชายหา สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองตอนเลือกตุ๊กตา เพียงเท่านี้ โต้งก็สามารถรู้ได้เองว่าทางเลือกที่เหมาะสมในช่วงวัยนี้ เขาควรเลือกทางใด

แม้ในหนัง จะมีหลายชีวิตที่จบลงด้วยความผิดหวังเสียใจ แต่ ความรักที่เกิดขึ้นก็จะทำให้พวกเขาเติบโตขึ้นและเดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว

เหมือนกับเราทุกๆคน ที่แม้จะผิดหวังจากความรัก เจ็บปวดผิดหวังเสียใจ แต่ ทุกๆวันเดือนปีที่ผ่านไปเราก็จะเติบโตมากขึ้น เราก็จะเข้มแข็งขึ้น และ รู้จักความรักมากกว่าเดิม

ซึ่งแน่นอนว่าย่อมดีเสียกว่า คนที่ไม่เคยพบความรักเลยในชีวิต



... ชื่อ มะเดี่ยว คือ ชื่อที่ทำให้ผมคาดหวังไว้กับหนังเรื่องนี้สูง เพราะผลงานกำกับ คนผีปีศาจ , 12 ,13 กับ งานเขียนบทในบอดี้ ศพ 19 เป็นผลงานที่แสดงถึง คุณภาพที่พอจะวางใจล่วงหน้าได้ว่า หนังที่ออกมาอาจไม่สุดยอดที่สุดแต่อย่างน้อยทุกเรื่องก็เกินเกณฑ์มาตรฐานของหนังไทยส่วนใหญ่

เพียงแต่งานที่ผ่านมาของมะเดี่ยว เป็น ผลงานที่แสดงออกชัดว่าถนัดในการใช้’ความคิด’เป็นหลัก ยังไม่ใช่หนังที่ต้องเน้น’ความรู้สึก ‘ ดังนั้น ผมจึงลุ้นว่า รักแห่งสยาม จะทำให้คนดู อิน กับเรื่องราวได้มากแค่ไหน แถมประเด็น ชายรักชาย เป็นประเด็นที่ทำให้หลายๆคนเกิดความรู้สึกกึ๋มกึ๋ยมานักต่อนัก มีน้อยเรื่อง ที่จะส่งต่อ ความรัก โดยตัดบริบทความเป็นเพศออกไปให้คนดูอิน เหมือน Brokeback Mountain (ที่จะว่าไปหลายคนก็กึ๋มกึ๋ยอยู่บ้างแต่น้อยกว่าเรื่องอื่นๆ)

และความคาดหวังตรงนี้ต้องเปลี่ยนเป็นคำชมเมื่อดูหนังจบ เพราะ หนังเรื่องนี้ส่งต่ออารมณ์มาให้คนดูผ่านการกำกับและการแสดงชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็น ความรู้สึกร้าวรานใจของครอบครัว ความรู้สึกสับสนของตัวละคร ความรู้สึกอิ่มเอิบใจเมื่อมีรัก ความรู้สึกมีพลังเมื่อเกิดความหวัง ฯลฯ หนังทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แถม ส่วนของชายรักชายก็มิได้ทำให้คนดูต้องรู้สึก กึ๋มกึ๋ย แต่อย่างใด



รุ่นเดอะในหนัง โดยเฉพาะ สินจัย ที่ห่างหายจากหนังใหญ่แต่ไม่ได้ทิ้งฝีมือไปตามช่วงเวลา มอบการแสดงชั้นอ๋องที่แค่ดูสินจัยก็ถือว่าคุ้มค่าตั๋ว รุ่นกลางอย่าง พลอย เฌอมาลย์ก็เล่นเนียนตาเหลือเกิน ที่ต้องยกนิ้วให้ด้วยคือสองหนุ่มที่รับบทโต้งกับมิวที่ แม้จะดูขัดๆในตอนเริ่มต้น แต่พอดูไปเรื่อยทั้งสองคนสามารถตีบทของตัวเองได้ดีเล่นได้เป็นธรรมชาติ ที่ประทับใจอีกคนคือ น้องนักแสดงสาวที่รับบทหญิง ที่ดูงุ้งงิ้งแอบแบ๊วได้ใจ ชวนให้นึกว่า ทำไมสมัยเราเรียนมัธยมไม่เจอคนมาปิ๊งแบบนี้บ้างหว่า

หากจะมีอะไรที่รู้สึกขัดๆขึ้นมา ก็คงเป็น ฉากจูบจะๆของเด็กนักเรียนสองคน ซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่าแรงเกินไปและไม่จำเป็น ไม่ใช่แค่เพราะ ประเด็นชายรักชาย จะหมิ่นเหม่ต่ออคติแล้ว แต่เพราะตัวละครสองคนนี้ยังเป็นเพียงเด็กมัธยม แถมหน้าหนังที่โปรโมทออกแนว ซีซั่น เช้นจ์ ก็อาจทำให้มีเด็กตัวเล็กตัวน้อยที่เข้าไปดูเพียงลำพัง หรือพ่อแม่ทียังไม่เข้าใจจะมองว่าหนังส่อไปในทางส่งเสริมจนมองข้ามประเด็นที่หนังถ่ายทอด และเสียดาย คนที่รับบทโดนัทที่เล่นแข็งไปหน่อยจนเด่นชัดกว่าคนอื่น แต่ก็พออาศัยความหน้าหวานผ่านไปได้

...หนังเปิดเรื่องอย่างนุ่มนวลไม่รีบร้อน ใช้เวลาอยู่นานก่อนที่ไตเติ้ลหนังจะขึ้น เป็น การเปิดเรื่องราวที่ไม่หวือหวาแต่สามารถบอกทิศทางที่หนังจะไปให้คนดูได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ช่วงเวลากว่าสองชั่วโมงครึ่งไม่ทำให้ผมรู้สึกเบื่อแม้แต่น้อยนิด ช่วงแรกออกจะอึดอัดใจลุ้นว่าหนังจะคลี่คลายปมความรักของสองหนุ่มอย่างไร และ จะเฉลยที่มาของตัวละครพลอย เฌอมาลย์อย่างไร

เมื่อหนังจบก็อยากจะปรบมือให้สำหรับการหาทางออกให้กับหนัง เป็นอีกเรื่องที่หนังจบแต่ความรู้สึกของเราจะไม่จบตาม ตัวละครเหล่านั้นยังคงมีชีวิตกับเราต่อไป ทำให้เรามั่นใจว่าพวกเขาจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม เพราะ ในวันที่ล้ม วันที่ผิดหวัง พวกเขา ก็ยัง มี ความรัก อยู่กับตัวต่อไป


สรุป ... แม้จะมีตัวอย่างชวนให้คิดถึงหนังแนวกระโปรงบานขาสั้นแต่นี่ไม่ใช่หนังรักกุ๊กกิ๊กคิกขุ และ การที่มีฉากความรักของเพศเดียวกันก็ไม่ใช่ว่าหนังจะเป็นหนังเกย์หรือหนัง y แต่ รักแห่งสยาม คือหนังไทยดีๆ ที่ผสมผสานความเป็นหนังครอบครัวกับหนังแนว coming of age ได้อย่างลงตัว เล่าเรื่องสองแกนระหว่าง การเติบโตและค้นหาตัวเองของวัยรุ่น ไปพร้อมๆกับ การเติบโตของครอบครัวที่เกือบล่มสลายหลังการสูญเสีย โดยมี ความรัก เป็นตัวเชื่อมโยงหนังสองส่วนนี้เข้าด้วยกัน

และนั่นก็ทำให้ ผมเลื่อน รักแห่งสยาม แซงหน้า พลอย กับ ไชยา ไปอยู่ที่แท่น หนังไทยที่ชอบที่สุดของปีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว



ป.ล. เพลง กันและกัน ของฟลัวร์ ฟังก่อนหนังเข้าเท่าไหร่ก็ไม่อิน แต่ตอนอยู่ในหนัง ช่างบรรจงหาจังหวะหยอดมาก เพราะ ดูหนังจบต้องรีบหาซีดีมาเปิดฟังพร้อมมีภาพในหนังมาอยู่ตาม




Link ที่อ้างอิงถึงใน blog

12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม

Seasons change , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"

วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี

ไม่ใช่ไข่เค็ม ไม่ใช่ต้มยำกุ้ง ไม่ใช่หนังชกมวย ( ไม่สปอยล์ ) <--- “ไชยา” --> หนังดีที่น่าชื่นชม

พลอย , คุยเรื่องรัก+ ชวนคิดลึก กับ "พลอย"





แจ้งข่าวจาก จขบ. : องศาที่ 361 ต้นเดือนธันวาคมแน่นอนแล้วว่า รอเจอ องศาที่ 361 พ็อกเก็ตบุ้คเล่มที่ 2 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ที่จะนำ หนัง มาเป็น สะพาน ให้ผู้อ่านเข้าใจตัวเองและพบมุมเล็กๆที่จะทำให้มีความสุขในชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม ที่ร้านหนังสือใกล้บ้านท่านนะค้าบ






ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 22 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2550 8:19:18 น. 135 comments
Counter : 5670 Pageviews.

 
มาลงชื่ออ่าน
พรุ่งนี้ จะไปดูครับ


โดย: พัท วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:27:40 น.  

 
พี่ครับ พี่พิมำ์ผืดไปหน่อยนึง ตรงนี้

...สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองตอนเลือกตุ๊กตา เพียงเท่านี้ มิวก็สามารถรู้ได้เองว่าทางเลือกที่เหมาะสมในช่วงวัยนี้...

ต้องเป็น โต้งนะครับ ไม่ใ่ช่มิว ^^


โดย: ไอ้วู่ IP: 58.8.117.79 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:29:08 น.  

 
อยากไปดู นะเรื่องนี้ อยากไปดูมากๆ


โดย: " คุณชายช่างฝัน " วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:30:15 น.  

 
หลายครอบครัวที่ไม่อาจทำใจยอมรับการสูญเสีย คนที่มีชีวิตอยู่ก็ใช้ชีวิตเหมือนตายไปแล้ว เช่นเดียวกับ ครอบครัวของมิว ที่สูญเสียลูกไปหนึ่งคน แต่ ครอบครัว กลับเหมือนสูญเสียคนเป็นพ่อไปกับความรู้สึกผิด สูญเสียแม่ที่น่าจะมีเวลาดูแลลูกคนที่เหลือมากกว่านี้แต่กลับต้องไปดูแลพ่อและหาเลี้ยงชีพครอบครัว มิว จึงไม่ได้สูญเสียแค่พี่สาว เพราะในทางจิตวิทยาการเติบโตหลายปีที่ผ่านมา เขาสูญเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมๆกัน

ย่อหน้าข้างบนน่าจะหมายถึงโต้งมากกว่ามิวนะครับ



โดย: เมื่อวันฟ้าหม่น IP: 124.157.251.43 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:34:00 น.  

 
ไปสังเกตอีกที พี่พิมพ์โต้ง เป็น มิว หลายที่เลยครับ


โดย: ไอ้วู่ IP: 58.8.117.79 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:38:45 น.  

 
ขอบคุณ คุณไอ้วู่ และ คุณเมื่อฟ้าหม่น ครับ เข้าไปแก้แล้วครับ เขียนดึกๆ เบลอประจำ


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:39:39 น.  

 


แวะมาทักทายกันครับ พรุ่งนี้ไปดูเรื่องนี้ดีกว่า
เอาทริปมิสเตอร์ฮองตะลุยเวียดนามตอนที่ 19 – ทริป Balloon ปากช่องมาฝากครับผม

มิสเตอร์ฮองตะลุยฮานอยตอนที่ 19 แล้วจ้า

Thailand International Balloon Festival 2007

คลิกที่รูปเพื่อตามมาเที่ยวด้วยกันครับ




โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:50:13 น.  

 
รู้สึกประทับใจ กับหนังเรื่องนี้อย่างบอกไม่ถูกเลย

ดูแล้วอบอุ่น ว่าแล้วพรุ่งนี้ก็ไปดูอีกรอบดีกว่า


โดย: Lulvlos IP: 58.9.13.7 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:56:21 น.  

 
รู้สึกประทับใจ กับหนังเรื่องนี้อย่างบอกไม่ถูกเลย

ดูแล้วอบอุ่น ว่าแล้วพรุ่งนี้ก็ไปดูอีกรอบดีกว่า


โดย: Lulvlos IP: 58.9.13.7 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:56:23 น.  

 
เพิ่งเคยเข้ามาอ่านครั้งแรก เขียนดีจังเลย
อ่านจนหมดเลย ซึ้งอ่า น้ำตาคลอ Y_Y

ต้องลากเพื่อนไปดูให้ได้ไม่พลาด
หนังดีๆ แบบนี้ ไม่ยอมพลาด


โดย: Blu Neko IP: 125.26.67.113 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:38:08 น.  

 
เขียนได้ดีมากๆ ค่ะ อยากให้คนที่มีอคติกับหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้ดู ได้มาอ่านบ้างจัง จะได้รู้ว่าประเด็นหลักมันอยู่ที่ไหน

ได้ไปดูมาเมื่อวันอังคาร.. ชอบมากๆ เลยค่ะ อยากจะไปดูอีก

ตอนแรกเฉยๆ กับเพลงเหมือนกันค่ะ แต่ดูหนังแล้ว..ต้องหามาฟังด่วน


โดย: Ragazza IP: 203.148.162.129 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:10:48 น.  

 
เขียนดีจังครับ สปอยล์ดหน่อยๆ แต่ก็ยังทำให้ดูหนังได้อรรถรสอยู่


โดย: AdHocQuery วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:58:34 น.  

 
โอเคเลยค่ะ ไปตีตั๋วดูหนังเรื่องนี้กันเลย


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:41:59 น.  

 
เพื่อนชวนไปดูทุกวันเลยค่ะ

อิอิ ตอนเเรกอ้อก็ไม่อยากดู เเต่ตอนนี้เริ่มอยากดูเเล้วล่ะ


โดย: รวิษฎา วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:50:55 น.  

 
อย่าว่าแต่คุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จะเรียกผิดเล้ยย ในหนังน่ะ อีตอนที่มิวต้องเล่นกับวงในห้องอัดให้คนในวงการดนตรีดูน่ะ พี่ที่เป็นโปรดิวเซอร์ยังโพล่งถามเพื่อนในวงหน้าตาเฉยเล้ย ว่า "ตกลงโต้งมันจะมามั้ย!!"




เอากะเขาดิ


โดย: ผ่านมาดู IP: 58.10.80.150 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:27:31 น.  

 
เพิ่งจะอัพบล็อก เพลงกันและกัน ค่ะ

พรุ่งนี้จะไปดูหนังเรื่องนี้ แน่นอนค่ะ


โดย: Sirinut วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:51:42 น.  

 
หักสุดขั้ว

Y เหรอ หนมปังไม่ดูค่ะ

รอพี่มะเดี่ยวงานหน้า ค่อยเจอกัน


โดย: รถขนมปังกรอบ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:54:55 น.  

 
ตั้งใจว่าจะไปดูเรื่องนี้
ถ้าไปดูแล้วจะกลับมาชวนคุยอีกทีครับ


โดย: Commencer วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:04:47 น.  

 
ไปดูมาแล้วครับ วันนี้ ดีใจมากๆๆๆๆ รีบตื่นแต่ 7 โมงเช้า ซักผ้า อาบน้ำ แต่งตัว เผื่อจะไปดูรอบแรก โรงแรก เกือบไม่ทัน วิ่งออกจากบ้าน 10.20 ขึ้น 542 มาเร็วกว่าที่คิด ถึง เมเจอร์ ปิ่นเกล้า 10.32 วิ่งข้ามสะพานลอย กระหืบกระหอบ เข้าเมเจอร์ โชคดี เปิดพอดี ไม่ต้องรอ ขึ้นไปชั้น2 มีโ ของ เอไอเอส ไม่เสียเวลารอคิด วิ่งเข้า บ๊อกออฟฟิค ซื้อตั๋วโดยไม่สนใจการลดราคา
ดูรอบแล้วเร็วสุด รอบแรก 11.00 โมง โรง 1 เข้าไปได้ตั๋ว บี 15 ชั้น บน สุด แอบดีใจ ดูคนเดียวอ่ะ เศร้า เราซื้อ ราคา 140 บาท เราว่าคุ้มน่ะ เดี๋ยวจะไปดูรอบ 2 อีก
เข้าไปนั่งดูโฆษณา(นาน) + ไตเติ้ลหนัง สัก 20 นาที หนังฉาย 11.30
ภายในโรง นึกว่าคนจะเยอะกว่านี้ เพราะเข้าวันแรกอ่ะ โรง 1 ใครไปแถวนี้ เมเจอร์ ก้อจุได้ เกือบ 600 น่ะ โรงใหญ่ทีเดียว พอเพลงสรรเสริญขึ้น ไอ้ผมก้อกวาดสายตานับจำนวนคน นับทำไม มีประมาณ 80 กว่า ไม่ถึง 100 อ่ะ หรือว่ายังเช้าอยู่อ่ะ ก้อดีเหมือนกัน คนไม่เยอะ ไม่ต้องนั่งฝังเสียงโทสับ คนคุยกัน เงียบดีมาก
เข้าเรื่องหนัง เศร้าดีทีเดียวครับ เป็นเรื่องของ ความรักหลายๆๆรูปแบบ
น้ำตาคลอเลยอ่ะ แค่ 10 นาที แรก ตอน มิวเล่นเปียโน กะ ม๊า อ่ะ เศร้า เปียโน เพลงเพราะมากจริงๆๆๆๆๆ ยังซึ้งไม่หาย ขอข้ามไม่เล่าเยอะน่ะ อยากให้ไปดูเอง ดีจริงๆๆๆ ไม่เสียดายเลย ตัง 140 ทั้งที่ใช้สิทธิ์ซื้อ แค่ 60 บาทก้อได้ แต่เชื่อมือ ผกก. และนักแสดงครับ
ปล.นักแสดง เล่นดีมากครับ เชื่อเลยอ่ะ เหมือนเป็นคนในครอบครับเดียวกันจริงๆๆๆๆๆๆๆ
......อยากเป็นแฟนคลับ น้อง มาริโอ้ กะ น้อง พิช แล้วซี่ แอบปลื้ม น้องๆๆนะครับ น่ารักดีครับ อายุเท่าไหร่กันบ้างน๊า
ปล.วันที่ 24/11 น้องๆๆนักแสดง จะมา เมเจอร์ ปิ่นเกล้าครับ แอบอ่านป้ายมา ช่วงบ่ายแก่ๆๆหน่อยครับ ถ้าแว็บได้จะแว็บไป แล้วเจอกันน๊าครับ
ปล3. หนังค่อนข้างนานนะครับ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยน๊าครับ ผมเข้า โรง 11.00 หนังฉาย 11.30 ออกจากโรง 2.10 อ่ะ
...ขอให้สนุกกะหนังนะครับและเปิดกว้างกันสักนิดครับ เพื่อหนังไทยของเราครับ....






















โดย: abaci007 IP: 203.146.63.184 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:49:15 น.  

 
ไปดูมาแล้วค่ะ
ประทับใจการแสดงของรุ่นใหญ่มากๆ การแสดงของคุณสินจัยที่ต้องแบกรับภาระต่างๆภายในบ้าน รู้สึกได้ถึงการบีบคั้นจิตใจเลยค่ะ

ในขณะที่นักแสดงรุ่นเล็กหน้าใหม่ทุกคนก็แสดงได้สดใสสมวัย นักแสดงที่เยอะไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าบทของใครเกินหรือขาดจนเกินไป (โดยเฉพาะน้องเล็กในวงตอนที่ร้องเพลง ได้อารมณ์มากๆค่ะ)


โดย: jenny05 IP: 203.150.4.68 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:02:35 น.  

 
+ อาจได้ดูราวๆ วันเสาร์นี้ เด๋วสัปดาห์หน้าจะกลับมาอ่านแบบเต็มๆ และเขียนเม้นต์ครับผม


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:08:03 น.  

 
ดูหนังจบแล้วรู้สึกอย่างนึงเลยว่า
"เรายังรู้สึกว่าหนังยังไม่จบ"
ไม่ใช่เพราะว่ามีปมมากมายท่จังข้องใจอยู่บ้าง
แต่หนังยังทำให้เราต้องคิดต่อ
ทำให้เราได้เปิดจินตนาการต่อไป
และผมคิดว่านี่แหละ"หน้าที่ของหนังเรื่องนี้"


โดย: nopkar IP: 58.64.82.120 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:15:47 น.  

 
ได้มีโอกาสไปดูรอบ Q&Aครับ ชอบหนังเรื่องนี้มาก
ถึงขนาดตื่นเช้าขึ้นมา ยังคิดถึงหนังเรื่องนี้อยู่ตลอด เป็นหนังหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่รู้สึกเช่นนี้

และที่รู้สึกขัดตาเหมือนกันคือ ฉากจูบ มันไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดถึงขนาดนั้นก็ได้ เห็นแล้วก็อึ้งๆเหมือนกัน เฮ้อออ

แล้วทราบมั้ยอะคับว่าตอนพลอย บอกกบทรงสิทธิ์ตรงเตียงโรงพยาบาลว่า มีอะไรจาบอก...เค้าบอกอะไรอะคับ เหอๆ ไปถาม ผู้กำกับบอก เป็นความลับ ซะอย่างนั้น เหอๆ

ปล. วันนี้ไปเรียนได้การบ้านมาให้วิเคราะห์หนังเรื่องนี้กับทฤษฎี Auteur อาจารย์สั่งงานเร็วได้ใจมาก หุหุ


โดย: PooMiNaToR IP: 58.8.106.32 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:52:22 น.  

 
ชอบที่เค้าบอกว่า ถ้ามีความรัก แล้วก็มีความหวังน่ะค่ะ
โดนมากๆ

แล้วก็เห็นด้วยกับเจ้าของบล็อกในเรื่องเด็กสองคนหน้าบ้านเหมือนกัน


โดย: alizm IP: 202.28.27.6 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:54:37 น.  

 
มีความจริงอยู่ในควารักตั่งมากมาย

เป็นหนังที่ดีดีมากจริงๆ
แต่ถึงอยากจะชวนคุณแม่ไปดูมากแค่ไหนก็คงยาก
เพราะขนาดพี่สาวดูยัง .. แอบอึ่งฉากจูบนั้นไปเลย

คุณสินใจสุดยอดมากๆ สะกด มีพลังจริงๆ

ขอบคุณพี่มะเดี่ยวที่ไม่ทำให้ผิดหวังเลย


โดย: Loin dici IP: 125.26.110.157 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:25:42 น.  

 
แม้ว่า จะช๊อค กะ ความเป็น เพศที่สาม ในเรื่อง อย่างเด่นชัด (โปรโมทกันคนละเรื่อง) แต่เรื่องนี้ก็เป็นหนังเจ๋งๆๆมากๆเรือ่งนึง บทสนทนา ส่วนต่างๆของหนังเจ๋งมากครับ

ผมชอบที่คุณเขียนไว้ว่า
"เป็นอีกเรื่องที่หนังจบแต่ความรู้สึกของเราจะไม่จบตาม ตัวละครเหล่านั้นยังคงมีชีวิตกับเราต่อไป ทำให้เรามั่นใจว่าพวกเขาจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม เพราะ ในวันที่ล้ม วันที่ผิดหวัง พวกเขา ก็ยัง มี ความรัก อยู่กับตัวต่อไป"

จริงๆครับ ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

ขอชมผู้กำกับจากใจ


โดย: เด็กชายรอยยิ้มโทรศัพท์และน้ำตา วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:09:16 น.  

 
เป็นหนังดีที่ไม่ค่อยมีคนกล้าทำ นานๆ จะหาหนังไทยที่ดูแล้วต้องมาคิดต่อได้สักเรื่อง
ฉากจูบ ในโรงกรี๊ดกันเต็มเลย ส่วนผู้ชายที่กะจะไปดูน้องโดนัท ผิดหวังกันเป็นแถวๆ


โดย: Taffy~* (Taffy~* ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:57:03 น.  

 
ไปดูมาแล้วพี่ ดีโคตรๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: หมอแบงค์ IP: 202.12.97.116 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:20:29 น.  

 
คห 23 ผมว่า เขาคงบอกความจริงไปว่าเขาไม่ใช่แตง เพราะหลังจากนั้น จูนก็ไปแล้ว ไปเลย และกรก็ถามว่า คริสต์มาสจะกลับมาไหม? เพราะรู้ว่าไปนานแน่ๆ


โดย: ไอ้วู่ IP: 58.8.117.112 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:24:30 น.  

 
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก หาจุดติยากมาก
แม้แต่การแสดงของโดนัทที่แข็งๆไปหน่อย แต่ผมรู้สึกว่าเขาเซ็ตบุคลิกให้ตัวละครตัวนี้เป็นแบบนี้

ที่สำคัญ เพลงประกอบทุกเพลงเข้ามาถูกจังหวะ และหล่อเลี้ยงอารมณ์หนังได้ดีมากๆ


โดย: nanoguy วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:48:15 น.  

 
อ่านแล้ว ได้ความรู้ดีครับ ทำให้เข้าใจ ตัวตนของตัวละครมากขึ้นเลยครับ

คือดูแล้ว ถ้ามองข้ามเรื่องเกย์ มันมีอะไรเยอะแยะเลยครับ ที่ตัดสินใจไปดูก็เพราะ บทความของคุณที่เขียนไว้

ถามว่าแรงมั้ย กับฉากจูบ ผมว่าก็แรงนะสำหรับม.ปลายที่สื่อออกมาแบบนั้น แต่ลองคิดดูว่า อีกประเด็นนึงถ้าไม่สื่อแบบนี้ แม่ของโต้งคงไม่รู้แน่ชัดว่าลูกตัวเองเป็นเกย์
เห็นแค่โอบคอกัน อาจเลี่ยงได้ว่าคงแค่สนิทกัน

แต่ถึงขั้นจูบ แม่โต้งคงต้องยอมรับแล้วล่ะครับ ว่าลูกตัวเองนั่นเป็นเกย์จริง เพราะ ผมก็นึกไม่ออกนะว่าแม่จะยอมรับว่าลูกตัวเองเป็นเกย์ได้งัย ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเอง เลยต้องมีฉากนี้มั้งครับ(เดาเอาครับ)

แต่ที่ขัด ไม่น่าจะต้องดูดดื่มขนาดนั้น อาจแค่จุ๊บๆ กันก็พอแล้วนะครับผมว่า คนกรี๊ดลั่นโรงเลย เสียงคนข้างหลังดังขึ้น " แมร่งขนลุกเลยว่ะ"

ปล.
อิ่มจริงๆ ครับดูหนังแบบไม่สะดุดเลย 2ชม.ครึ่ง ลื่นไหลไปเรื่อย หนังดีแห่งปีจริงๆ ครับ ขอบคุณที่มีหนังแบบนี้ให้ดู


โดย: damnz IP: 124.120.240.236 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:4:23:06 น.  

 
ชื่นชมในความกล้าของมะเดี่ยวครับ
(ทั้งในเรื่องที่กล้าทำหนังเรื่องนี้ออกมาในยุคนี้ และกล้าที่จะโปรโมตแบบที่รู้ทั้งรู้ว่าจะเจอกับอะไร)

หนังถ่ายทอดออกมาได้ละมุนละไมมากทีเดียว ดูแล้วไม่ตะขิดตะขวงใจกับการกระทำของแต่ละตัวละครเลย

จริง....จูนนี่เปรียบเสมือนซานตาครอสเลยครับ


โดย: คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:27:56 น.  

 
ดีสุดๆชอบมากครับ


โดย: โต้ง IP: 203.185.152.152 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:22:22 น.  

 
เห็นด้วยมากๆ เลยครับ
มันไม่น่ามีฉากจูบเลย


โดย: อาตี๋ร้องดีใจ IP: 203.131.212.16 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:36:12 น.  

 
ชอบมากเหมือนกันคร่า....

เรื่องนี้ไปดูรอบสื่อมาแบบไม่คาดหวัง
(ปกติไม่ชอบดูหนังไทย แต่ได้บัตรฟรีมา..)

ชอบมากๆเลย ถ้าไม่ได้ไปดูคงเสียใจ..

ปล.วิจารณ์ได้โดนใจเหมือนเดิมค่ะ


โดย: แก้ม IP: 203.151.53.105 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:47:57 น.  

 
รู้จักหนังเรื่องนี้ครั้งแรกจากการได้ดูไตเติ้ล ตอนแรกเฉยๆ ไม่ได้อยากดูเป็นพิเศษ ก็หนังไทยหน่ะนะ เดินเรื่องให้ดีแทบตาย แต่ก็มาตายตอนจบทุกที
หลังจากนั้นก็ได้ฟังสัมภาษณ์นักแสดง และผู้กำกับ คิดไว้เลยว่า คงเป็นหนังรักใสๆ ออกแนวตลกๆ เพราะผู้กำกับตลกซะเหลือเกิน แต่ก็อาจจะไปดู
จนเมื่อวาน หนังเพิ่งเข้าวันแรก ว่างๆ ซะหน่อยละกัน อย่างน้อยภาพก็สวยหล่ะ อย่าคิดไรมาก
...แต่...เวลาสองชั่วโมงกว่าๆ ที่หนังฉาย ไม่มีซักครั้งที่รู้สึกเบื่อ รู้สึกเป็นใครซักคนที่เฝ้าติดตามการดำเนินชีวิตต่อไปของตัวละครแต่ละตัว คำพูด การกระทำ ที่ผ่านสายตา และการรับรู้ มันเหมือนจะบอกว่า "อือม ใช่"
จนกระทั่งหนังจบ เราเดินออกมาจากโรงหนังด้วยความรู้สึกเดียวเลยว่า อิ่มใจ รู้สึกดีมากๆ
เป็นหนังไทยดีๆ เรื่องนึงที่เราคงต้องจดจำ
ฉากบางฉาก เราก็ว่ามันมากเกิน และไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาขนาดนั้น ถ้าจะสะกิดใจนิดนึงก็คงเป็นเพียงเรื่องนี้


โดย: Shaula IP: 58.8.154.31 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:24:12 น.  

 
ผมว่าฉากจูบมันต้องมีหน่อยแหละครับ
1.เรียกเสียงคนดู
2.ต้องแสดงให้เห็นว่าจูบไม่งั้นถ้าแค่กอดคอ
คุณสุนีคงไม่ช๊อค และก็ดำเนินเนื้อเรื่องต่อไม่ได้

แต่มันก็จริงที่ว่าแค่จูบกัน นิดเดียวก็พอ
แต่มันก็มีผลนะครับ
ลองคิดดูดีๆแล้ว จูบกันนิดเดียวผมว่า
มันน่าตะหงิดใจเสียมากกว่าจูบนานอีกนะครับ


โดย: ฮันนะซัง IP: 58.9.76.253 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:13:35 น.  

 
ผมว่าฉากจูบมันจำเป็นต้องมีมากๆ นะ
เพราะมันเป็นรักแรกของโต้งและมิว มันมาถึงจุดที่ตัวละครต้องแสดงความรู้สึกออกมาผ่านทางร่างกาย

ถ้าหนังกระมิดกระเมี้ยนมาแค่ดมๆ หอมๆ ผมว่านั่นจะไม่ดีต่อตัวหนังมากกว่าอีก

แบบว่าที่ไม่กล้าให้จูบกัน เพราะกลัวกระแสต้านจากสังคม ซึ่งมันไม่เกี่ยวเลยกับบริบทของหนัง




โดย: จีโน่ IP: 202.142.193.15 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:25:48 น.  

 
หนังดีมากๆคับ
ชอบมากๆ
สื่ออะไรได้เยอะมากๆเลยคับ
ไม่เคยดูหนังเรื่องไหนแล้วเห็นสิ่งที่นอกเหนือคำพูดจากหนังได้มากเท่าเรื่องนี้เลยคับ
ชอบหนังเรื่องนี้มากๆ
ขอบคุณผู้สร้างที่ทำหนังดีออกมาให้ดูคับ
บอกให้เพื่อนๆไปดูหลายสิบคนแล้วนะคับเนี่ย
ชอบๆๆ
เป็นหนังที่ชอบที่สุดตั้งแต่เกิดมาคับ


โดย: Monkey_Mod IP: 58.8.137.159 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:17:41 น.  

 
สุดยอดครับ เป็นหนังที่ดีมากๆ ผมอยากให้ทุกคนได้ดูหนังเรื่องนี้คับ


โดย: papat IP: 203.131.212.42 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:29:36 น.  

 
ไปดูมาวันนี้เลยครับ กลับมาต้องขอมาแสดงความเห็นที่บล็อกนี้เลย 555

หลังจากดูจบ บอกได้เต็มปากเลยครับ ว่าชอบมาก แม้ว่าฉากกุ๊กกิ้กของพระเอกทั้ง 2 คน ฟังแล้วจะยิ้ม จนขำไปเลยก็ตาม

ที่แน่ๆ บทสรุปของหนังเรื่องนี้ ทำผมน้ำตาร่วงเลยกลับความรู้สึกตอนท้ายของมิว การร้องไห้ของหญิง และการกลับมาเป็นครอบครัวที่ต้องช่วยกันประคับประคอง ด้วยคำว่า "ความรัก"

อ้อ ที่่แน่ๆ ผมชอบตอนเพื่อนมิวมาบอกให้กลับไปเล่นที่วงด้วยนะครับ "ไม่ว่าอย่างไง กรูก็เป็นเพื่อนมรึงนะ" โดนมากมาย


ปล. รอบที่ผมดูแบบว่าพอถึงฉากเข้าคู่ของพระเอกทั้ง 2 คนทีไร มีเสียงกรี๊ด เสียงเฮ้ย ขึ้นมาทุกครั้งไปเลยครับ 5555


โดย: เข็มขัดสั้น IP: 124.120.236.71 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:34:50 น.  

 
ชอบการแสดงของสินจัย กับ พลอย มากครับ ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ สมบทบาทจริง ๆ

ชอบฉาก ที่สินจัย เอาข้าวที่เหลือของสามีมากินด้วย สะเทือนใจมาก ๆ ครับ อินเลย ทึ่งในความรักของเค้าเลย รักและอดทนมาก

ฉากที่ผึ้งพยายามเอาชีวิตรอดจากแก้วน้ำหวาน ก็ชอบครับ ชอบที่คุณ คนที่อยู่ข้างหลังคุณ ตีความด้วยครับ ลึกซึ้งดี ผมคิดแค่ว่าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ยังพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วเราก็ควรจะอยู่ต่อไปได้ แต่คิดไม่ถึงว่าการมีปีกเปรียบเสมือนมีความรักอ่ะครับ

ฉาก จูบ เอ่อ ชอบครับ 55 คนกรี๊ดลั่นโรงเลย

อยากเรียน Phychiatry บ้างง 55+
แต่ก็กลัวคำพิพากษาจากสังคมครับ
ว่าเรียนหมอแล้วทำไม ไม่เลือกสาขาฮอตฮิต รายได้ดี ๆ
แต่ผมว่าผมชอบนะ รู้สึกว่าไม่ได้ใช้แค่ความรู้ทางการแพทย์ แต่ต้องเข้าใจตัวเอง เข้าใจผู้อื่น อีกอย่างชอบดูหนังด้วย ฮา ๆ
รู้สึกว่าจิตแพทย์ชอบดูหนังกันนะครับ


ไว้จะเข้ามาอ่านบ่อย ๆ นะค้าบ


โดย: Little Brother วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:36:31 น.  

 
โรงที่ผมดูกรี๊ดแซวกันตลอด ตั้งแต่ตอนมิวทำตาเชื่อมแล้วครับ

...แล้วมองไปก็มีแต่เด็กนักเรียนทั้งนั้นเลยแฮะที่นั่งดู

โดนัทเล่นแข็งจริงๆครับ และมีคนบอกว่าตอนสัมภาษณ์เธอ เธอก็พูดยังกะท่องมาอยู่ดี จึงไม่น่าใช่การกำกับแล้วล่ะครับ

ดูปั๊บ ฟังเพลงจะอินมากครับ
จากที่เคยไม่อินเลยกับเวอร์ชั่นคิวร้อง


โดย: โดทีราสิส IP: 58.8.126.67 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:18:16 น.  

 
ไปดูมา เพิ่งกลับถึงบ้านได้ซักพักเองครับ ชอบมากครับ โดนในหลายๆประเด็น
และหลังจากดูหนังไปแล้ว ทำให้เพลง กันและกัน เพราะขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว


โดย: KajuakungWahaha วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:04:30 น.  

 
หนังเกย์เราชอบ


โดย: ชอบ IP: 125.26.23.200 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:09:56 น.  

 
เพิ่งดูมาเมื่อคืน หนังดีมากๆครับ ว่าเร็วๆนี้จะเขียนวิจารณ์ลงบล็อกเหมือนกัน ว่างๆ ลองแวะไปเยี่ยมบ้างนะครับ


โดย: beerled วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:47:46 น.  

 
หนังจบอารมณ์ไม่จบจริงๆค่ะ เพราะดูหนังเสร็จแล้ว เราไปเดินเล่นคนเดียว อยู่ๆมันก็จะร้องขึ้นมาซะงั้น...จนต้องโทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อน คุยจนวางไปแล้ว พอไปเดินเล่นซื้อหนังสือคนเดียว ก็จะร้องขึ้นมาอีก

เฮ้อ...ดูแล้วอิ่มเอมจริงๆค่ะเรื่องนี้


โดย: Am IP: 222.123.141.67 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:53:56 น.  

 
ชอบหนังเรื่องนี้มากกก....อารมณ์ไม่จบจริงๆ


โดย: aloha IP: 58.9.80.26 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:23:57 น.  

 
เป็นหนังที่เราดูสนุกมากเพราะคนในโรง ต่างมีอารมณ์ร่วมไปกันหนังทั้งนั้น เสียงวี๊ดว้ายมาตลอดอ่ะ ฮาดี แต่ไม่น่ารำคาญนะ เพราะตอนฉากดราม่าก็เงียบทั้งโรง
สินจัยแสดงเก่งมากๆๆๆๆ พลอยก็น่ารักดี ส่วนบรรดานักแสดงเด็กๆ เราชอบมิวนะ ดูสายตาเวลาเค้ามองโต้งแล้วมันอินอ่ะ ตาเป็นประกายวิ๊งๆ เห็นแล้วใจละลาย 555 แสดงเก่งดีค่ะ ดูแล้วเชื่อว่ารักโต้งจริงๆ
ชอบเพลงเหมือนกันค่ะ จริงๆอยากได้เวอร์ชั่นที่น้องพิชร้องนะ เราว่าเค้าร้องเพราะดี แต่ตอนนี้ก็เปิดเพลงเวอร์ชั่นคิวฟังเป็นสิบๆรอบ จนพี่ชายถามว่าเป็นไรมากป่ะเนี่ย


โดย: นางาเสะจัง IP: 125.25.190.0 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:36:48 น.  

 
เพิ่งไปดูมาค่ะ ดูจบกลับมารีบเปิด blog คุณหมออ่านเลย ชอบหนังเรื่องนี้มากมากเลย หนังยอดเยี่ยมแห่งปีเลยค่ะ
เห็นด้วยว่ามืออาชีพขั้นเทพอย่างคุณสินใจสะกดจิตคนดูอย่างมาก

ส่วนบทจูบนั้น คนกรี๊ดทั้งโรงเลยค่ะ ตอนแรกไม่เห็นด้วยว่าทำไมต้องมีและดูดดื่มขนาดนั้น...แต่อ่านความคิดเห็นท่านอื่นๆแล้ว ก็ใช่น่ะว่า ไม่งั้นมันไม่ชัดเจน แม่อาจเลี่ยงที่จะยอมรับความจริง

สรุปแล้ว หนังเรื่องดีสุดๆเลย


โดย: pleiades IP: 124.120.149.219 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:33:31 น.  

 
พูดได้คำเดียวว่าเป็นหนังไทยเรื่องเดียวในปีนี้ที่ดูในโรง
ไม่ผิดหวังกับมะเดี่ยว แม้ว่ามันไม่ใช่แนวของเรา (หนังรักโดยเฉพาะ y)
ความรู้สึกของเรามันเป็นหนังรัก รักหลากหลายแบบ
มีทั้งอกหัก รักคุด (ตุ๊ดเมิน) ครบเลย
ฉากนั้น ก็จูบนั่นแหละ สำคัญนะเอ้อ ถ้าไม่จูบ มันก็แค่น่าจะเป็น พอจูบเข้าไป เต็ม ๆ ครับพี่น้อง
clear ทุกประการ


โดย: เป๋าตุง IP: 58.8.51.193 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:20:59 น.  

 
แถมท้ายอีกกรอบ

เบื่อชะนีว่ะ แง่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ กรี๊ดกันเข้าไป
ตรูเสียตังค์มาดูหนัง ไม่ได้มาฟังชะนีกรี๊ด คิดผิดจริง ๆ ที่ไปดูรอบและโรงที่คนเยอะ
บั่นทอนสุขภาพจิต


โดย: เป๋าตุง IP: 58.8.51.193 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:24:00 น.  

 
ดูแล้ว ไม่กระจ่าง ขอซ้ำอีกรอบละกันครับ
ติดใจแม่ สุนีย์และ สายตาอมทุกข์ ของโต้ง


โดย: love@here IP: 203.154.52.234 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:3:00:08 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเลยครับสงสัยกว่าจะว่างหนังคงออกไปแล้ว Y__Y


โดย: lkunl IP: 146.23.250.105 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:6:56:20 น.  

 
ชอบมากครับ เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ดูแล้วแทบร้องไห้ก็หลายฉาก น้องหญิงก็น่าสงสาร


โดย: ganblade วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:18:58 น.  

 
เขียนได้ดีครับ

ยอมรับว่ามีอึ้ง (ถึงแม้จะรู้มาบ้าง) แต่ถ้าใช้สติ
จะพบว่ามีอะไรดีๆซ่อนอยู่มากมาย

ปล. ผมว่าความเป็นจริงอาจยิ่งกว่านี้นะ
คิดดูว่าถ้าคุณเป็นโต้ง แล้วไม่มีคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจอย่างมิว คุณจะเป็นอย่างไร อาจติดเหล้า เมายา ติดหญิง ไปเลยก็ได้
แล้วถามว่า คนเป็นพ่อ-แม่รับอย่างไหนได้มากกว่ากันละ


โดย: เด็กชายบนดวงจันทร์ IP: 58.64.75.220 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:42:17 น.  

 
อยากไปดูนะคะ ถ้าไม่ได้คาดหวังมากกับตัวอย่าง
เสียความรู้สึกอะค่ะ อาจจะหาว่าดื้อ ว่าต่อต้ากน็ได้
เราไมได้รังเกียจเกย์ กระเทย ทอมดี้ เลย(เรียนหญิงล้วน เจอมาเยอะ) แต่ไม่ชอบการถ่างตาคนดูแบบที่ผกก.อ้าง
อุตส่าห์หลงรักไปก่อนจะดู ชอบแสงสีบรรยากาศ เพลงอารมณ์ ทุกอย่าง แต่ขัดใจและขุ่นเคืองกับการนำเสนอ ที่ไม่คิดถึงใจเขาใจเรา เลย....
เกือบจะไปดูกับแฟน พอบอกไปว่าหนังมันเกย์นะ ยังถามแฟนอยู่เลย จะไปดูไหม แฟนยังงงๆ พอแฟนรู้ว่าใช่จริง เสียความรู้สึกทั้งคู่

เสียดาย....เราควรจะได้ดูหนังดีๆเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะการโปรโมต
เสียดาย....จะบอกให้ทำใจ แล้วไปดู ก็พูดง่าย ทำยาก
เสียดาย....เสียความรู้สึก


โดย: เสียดาย IP: 125.24.84.129 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:52:25 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ทุกชิวิตเติบโตได้ด้วยความรัก
แค่เขาแตกต่างจากเราเท่านั้น
ความแตกต่างไม่ได้ บอกว่าเราต่างไม่ต้องการความรัก

เราทุกคนต่างต้องการมี "คนที่เรารัก" และ "คนที่รักเรา"
ถ้าไม่งั้นแล้วเราคงไม่มีตัวตนในโลกนี้






โดย: ์No.13 IP: 202.91.18.192 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:36:04 น.  

 
คนที่ผมรู้จัก(รู้จักค่อนข้างดี) เค้าเป็นเกย์ เค้าเครียดมากกับการที่เค้าเป็นเกย์ เค้ากลัว พ่อแม่เค้าเสียใจ เค้ากลัวคนรอบข้างหนีห่างเค้า ถ้าเกิดรู้ว่าเค้าเป็นเกย์ เค้ามีเรื่องพวกนี้ทำให้เค้าต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อนไปพบจิตแพทย์อยู่ตั้งแต่ ม.1 จน ปัจจุบันนี้มันยังไปหาอยู่เลย เรื่องที่ไปหาทั้งหมด(จากที่มันเล่า) ล้วนเป็น effect จากการที่มันเป็นเกย์ทั้งสิ้นเลย

มีครั้งนึง มันตัดสินใจแบบเด็ดขาดว่าไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ มันลองเสี่ยงขอหมอที่จะให้ฉีดฮอร์โมนเพศชายเข้าไป แต่คุณหมอก็บอกกับมันว่าไม่มีผลการทดลองที่ไหนระบุออกมาว่าวิธีนี้จะแก้ได้ ... แต่มันบอกกับผมว่า มันต้องลอง เผื่อสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น อาจจะเกิดขึ้นกับตัวมัน ... หมอบอกมันว่า ถ้า 3-4 เดือน(ฉีดครั้งละเดือน)แล้วไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น(หมายถึงยังไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้หญิง) หมอจะไม่ฉีดให้อีก มันฉีดไปจนครบกำหนดตามที่หมอบอก แต่ ... ทุกอย่างล้มเหลว

สรุปตอนนี้มันก็ยังอยู่บนโลกที่มืดๆทึมๆของมันอยู่เลย

และคนๆนั้นก็คือผมเอง...การ"ถูกเลือกให้เป็น"แบบนี้ ไม่ได้มีความสุขเท่าไหร่เลย สำหรับผมนะ

หลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้มันทำให้ผมซึมเอามากๆ(ผมเป็นโรคซึมเศร้าหน่ะครับ) เพราะว่ามันเหมือนกับแอวผมได้ถูกดึงอารมณ์เก่าๆที่เคยเผาจิตใจผมมาแล้วรอบนึง กลับมาอีกครั้ง นั่นไม่ใช่ว่าหนังไม่ดี แต่ผมกำลังต้องการบอกว่า หนังเรื่องนี้สะท้อนในมุมในหลายๆมุมที่ผมว่า ชายรักหญิง และ หญิงรักชายได้มองข้ามความรู้สึกของ เพศที่ 3 ไป

จากที่ผมสัมผัสได้ หนังเรื่องนี้สะท้อนความเป็นอยู่ของเพศที่ 3 ที่เป็นอยู่ในสังคมตอนนี้ออกมาได้ค่อนข้างที่จะดีทีเดียว ไม่ว่าตอนที่โต้งจะต้องมาทรมานใจที่สงสัยตัวเองว่าจริงๆแล้วเค้าเป็นคนแบบไหนกันแน่ ซึ่งผมเองก็ผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วเหมือนกัน สำหรับเกตุการณ์นี้ของผม ได้ทำร้ายคนรอบข้างเหมือนกัน มันไม่ได้ทำร้ายแค่ตัวผมเอง ผมเชื่อว่าในตอนนั้นในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจผมเก็บคำตอบอันน้นไว้ แต่ตัวผมไม่สามารถที่จะลงไปหาคำตอบภายในหัวใจของผมเองได้ เพราะตัวผมปฏิเสธที่จะเป็น ... มันทำให้พ่อกับแม่ผมเสียใจ ... และมันทำให้ผมต้องทำให้ผู้หญิงที่เค้ารักผมต้องเสียใจจากสิ่งที่ผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้

"แล้วความเหงามัน...กับมิวยังไงเหรอ"
คำถามนี้มิวตอบได้โดนใจจริงๆ ผมก็กลัวเหมือนกัน ไอ้ความเหงาเนี่ย ตอนที่เพื่อนมิวมาบอกว่า "อย่าคิดว่ามีแต่ตัวคนเดียวดิวะ" สำหรับผมนะ ผมรู้ว่าทั้งรอบๆตัวผมมีเพื่อนมีสิ่งต่างๆอยู่เต็มไปหมด แต่ว่า"เรา"ต้องสร้างเกราะป้องกันจากกระแสสังคมขึ้นมา เพื่อป้องกันตัวเอง เพื่อให้อยู่ในสังคมนี้ให้ได้ ถ้า"เรา"ไม่สร้างมันขึ้นมา ถ้าเราเอาชนะกระแสของสังคมได้ เราก็จะเป็นผู้ที่อยู่รอดในสังคม แต่สำหรับคนที่ไม่เข้มแข็งพอแบบผม(แม้แตวโต้งหรือมิว)ถ้าหากผมเป็นผู้แพ้ คนที่จะต้องเจ็บจากการโจมตีจากสังคมก็คือผมเอง และก็คงจะต้องเจ็บไปจนวันตาย ซึ่งก็คงไม่ต่างจากการตายทั้งเป็นอย่างย่อมๆ




โดย: <-L-e-o-n- IP: 192.165.213.18 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:06:13 น.  

 
เรื่องฉากจูบ... คือที่โรงที่ดิฉันดูก็ ได้รับคำ ก่นด่ากันถ้วนหน้า ทั้งอี๋ ทั้งแหวะ ทั้งช๊อก ทั้งปิดหน้า ทั้งรับไม่ได้

แต่คิดย้อนแล้ว ดิฉันแอบคิดว่า นี่ขนาดเราเป็นแค่คนดู เรายังช๊อก แล้วคนเป็นแม่ล่ะ ?

คนเป็นแม่ที่เห็น มันจะพังทลายถึงขนาดไหน ?
มันเลยยิ่งอิน และยิ่งเข้าใจในหัวอกแม่ ที่คุณสินจัยแสดง และ เข้าใจเลยที่เธอตัดสินใจ ทำทุกอย่างหลังจากนั้นลงไป เพราะเธอคงไม่ต้องการสูญเสีย ครอบครัว คนนี้ไปอีกคน

ดิฉันก็เลยรู้สึกเข้าใจในฉากจูบแบบของดิฉัน ว่าท่าทาง คุณผู้กำกับต้องคิดจะ ตีหัวคนดู ให้อึ้งด้วยอารมร์เดียวกับคุณแม่หรือเปล่า ?

ขอบคุณที่อัพบล๊อกเรื่องนี้นะคะ มาอ่านแล้วเข้าใจอะไรขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ ^^

บอกตรงๆว่าเพราะหนังไทยทำให้เข็ดมาหลายหนจนไม่แลตาเรื่องนี้มาก่อนเลย
ที่เห็นโปสเตอร์ แต่เพราะน้องเมอร์แกลงทุนออกปากไล่ให้ลุกจากบ้านไปดู แท้ๆ

ขอบคุณด้วยอีกคน และขอบคุณผู้กำกับและผู้สร้างด้วยค่ะ

ดีใจมากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ประทับใจสุดๆจริงๆ โดยเฉพาะ ความเป็นแม่ของคุณสินจัย สุดยอดค่ะ


โดย: ayde IP: 125.24.244.175 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:38:37 น.  

 
*** Spoiler alert ***
+ และแล้วคุณ ผกก. มะเดี่ยวก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังอีกครั้ง ถ้าคนดูหนัง ... ไม่ใช่คนที่แอนตี้เกย์ หรือเป็น Homophobia และยอมเปิดใจกับการโปรโมตอันผิดทิศทาง (เนื่องจากเสี่ยเจียง คงกลัวว่าหน้าหนังจะไม่ขายอย่างแรง เพราะหนังดราม่าหนักอารมณ์ คนไทยส่วนใหญ่มักจะกลัวไว้ก่อน) ... นี่คือหนัง Drama / Coming-of-age ช่วงวัยรุ่นที่ดีมากๆ อีกเรื่องนึงของวงการหนังไทยเลยทีเดียว ... หนังจบได้เศร้าอย่างแรง (เพราะไม่มีใครที่สมหวัง) แต่ทุกคาแรคเตอร์ต่างก็ได้ 'เรียนรู้' และ 'เติบโต' พร้อมที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า ... และที่สำคัญก็คือ อารมณ์หนังที่ 'ถึง' ด้วย เลยเศร้าจนจุกในอก ประมาณน้องๆ BBM เวอร์ชันวัยกระเตาะเลยทีเดียวอ่ะครับ

+ คุณมะเดี่ยว ต้องถือว่า 'ช่างกล้า' ทำหนังประมาณนี้ออกมาได้ ซึ่งถ้าสื่ออารมณ์ผิดไปนิดเดียว หนังอาจเละเทะไปเลยก็เป็นได้ และเสียงก่นด่าก็จะตามมาอีกยกใหญ่ (เพราะแค่นี้ ก็รู้สึกจะมีกระแสแอนตี้ส่วนนึงในห้องเหลิมไทยอยู่แล้วนี่นา ผมยังไม่ได้เข้าไปอ่านเลยอ่ะครับ) ... ส่วนฉาก 'จูบแบบดูดดื่ม' นั้น เห็นด้วยกับหลายๆ คนที่ว่าถึงแม้จะไม่จำเป็นต้องทำออกมาให้เป็นขนาดในหนัง (เพราะคงสร้างความกระอักกระอ่วนใจให้หลายคนมาพอดู .... แต่สาวๆ ในรอบที่ผมดูนี่กรี๊ดกันลั่นโรงเลยทีเดียว) ... แต่ถ้าไม่ทำขนาดนี้ คุณสุนีย์เธอก็อาจไม่เก็ทสถานภาพของลูกชายก็เป็นได้ ก็เลยจำเป็นต้องทำแบบ 'เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ'

+ สำหรับนักแสดง รุ่นใหญ่อย่างคุณสินจัย รุ่นกลางอย่างคุณพลอย เฌอมาลย์ คงไม่ต้องชมกันอีก ปลดปล่อยพลังฝีมือได้เต็มที่กันอยู่แล้ว ... ส่วนรุ่นเล็กที่เป็นตัวดำเนินเรื่อง ผมชอบน้องพิชมากที่สุดอ่ะครับ สามารถสื่อสารอารมณ์ต่างๆ และแววตาออกมาได้ดี (คุณมะเดี่ยวช่างตาถึงจริงๆ คงเห็นแววตั้งแต่ตอนเป็นรุ่นน้องที่มงฟอร์ดแล้ว) และเนื่องจากเค้าเป็นทั้งนักดนตรี และเขียนเพลงเองอยู่แล้ว เลยยิ่งทำให้คาแรคเตอร์ 'มิว' ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น, น้องโอ้ ถึงบทจะดูนิ่งๆ แต่เค้าก็เล่นเป็นเด็กที่เก็บกดและสับสนได้อย่างเป็นธรรมชาติ, น้องคนที่เล่นเป็น 'หญิง' แอ๊บแบ๊วได้น่ารัก และช่วงสุดท้ายที่น่าสงสารก็ทำได้ดี, ส่วนน้องคนที่เล่นเป็น 'โดนัท' เนื่องจากบทส่งมาให้เธอเล่นแค่นั้น ก็เลยทำอะไรไม่ได้มากมังครับ

+ ชอบอีกอย่างตรงหนังสื่อถึงความรักในหลายๆ รูปแบบ ที่ส่วนใหญ่อาจจะเป็นขั้วตรงข้ามกับ 'Love actually' คือไม่จบลงแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง ... แต่ในความรักเหล่านั้น ก็ยังคงมีความสวยงามแฝงอยู่ ทั้งความรัก (ที่อาจมากเกินไป) ของแม่ที่มีต่อลูก, ความรักแบบคนรัก, ความรักระหว่างเพื่อน, ความรักความปรารถนาดีระหว่างคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ฯลฯ ... หนังถ่ายทอดออกมาได้สวยสดงดงามกินใจดีครับ

+ เคยอ่านเจอมาเหมือนกันว่า สภาวะเบี่ยงเบนทางเพศ สาเหตุนึงมาจากครอบครัวเป็นคล้ายแบบของโต้งนี่แหละครับ ... คือแม่มีสภาวะเป็นผู้นำในครอบครัว (lead character) ในขณะที่พ่ออาจอ่อนแอ มีบทบาทน้อยกว่า หรือไม่อยู่ในสถานะ 'ผู้นำ' ... เมื่อแม่เป็นใหญ่ ลูกผู้ชายเห็น ก็อยากเลียนแบบแม่มากกว่าพ่อ เลยกลายเป็นความเบี่ยงเบนไปในที่สุด ... ส่วนสภาพครอบครัวแบบอื่นๆ ที่มีแนวโน้มว่าลูกชายอาจเบี่ยงเบนได้อีกก็เช่น พ่อไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน เด็กเลยเลียนแบบพฤติกรรมของแม่มากกว่า กับพ่อแบบที่ชอบใช้ความรุนแรง เด็กเลยเกลียดพ่อ และรักแม่ อยากเป็นอย่างแม่แทน

+ เห็นมีเพื่อนและคนรู้จักรอบๆ ตัวผมหลายคนเลยบอกว่า 'จะไปดูอีกครั้ง (หรือมากกว่านั้น) เพื่อเก็บรายละเอียด กับซึมซับอารมณ์หนัง' ... ก็เพิ่งเห็นปรากฏการณ์นี้กับหนังไทยอ่ะครับ ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักนะเนี่ย


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:53:31 น.  

 
*** Spoiler alert ***
เป็นหนังไทยที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในระยะหลังๆนี้เลยครับ ถ้าไม่นับเรื่องของหน้าหนังและการโปรโมทซึ่งเหมือนหลอกคนดู ถ้ามองอย่างเป็นกลางก็พยายามเข้าใจครับ ว่าถ้าเฉลยเรื่องเกย์ในหนังออกมา หนังจะดูล่อแหลม และคนดูส่วนหนึ่ง(น่าจะส่วนใหญ่ด้วย) ก็คงมองข้ามหนังเรื่องนี้ไป

ชอบตัวละครในหนังเรื่องนี้จัง เพราะทุกตัวละครเหมือน "ชีวิตจริง" ที่เราพบเห็นจับต้องได้ (คุณหนูไฮโซอย่างโดนัทก็มีอยู่เยอะเหมือนกัน)

โต้ง ซึ่งพยายามหาทางออกให้กับปัญหาของครอบครัว และความสับสนของตัวเอง เมื่อ "ความรัก" ที่ได้รู้จัก ไม่ใช่สิ่งที่สังคมยอมรับ

มิว ซึ่งเหงาอย่างน่าสงสาร แม้จะพบกับคนที่ "เขียนเพลงรักให้ได้อย่างง่ายดาย" ก็ไม่อาจคบกันเป็นแฟนได้

คุณสุนี ซึ่งพยายามทำทุกอย่างเพื่อประสานครอบครัวเอาไว้ และคุณกรที่ชีวิตพังทลายด้วยความรู้สึกผิดในใจ

หญิง สาวแอ๊บแบ๊วที่แอบรักคนที่เค้าไม่มีวันจะรักตอบโดยที่เธอไม่รู้(หรือพยายามไม่รับรู้)

รักพัฒนาการของตัวละคร ทุกชีวิตเรียนรู้และเติบโตได้ด้วยความรัก เรียนรู้ที่จะให้แทนที่หวังจะได้มา เรียนรู้ที่จะปล่อยวางแทนที่จะยึดติด

เพราะสุดท้ายแล้ว เมื่อเรารักใครสักคน เราก็หวังให้เค้ามีความสุขนั่นเอง

ดูแล้วมี " ความหวัง " มากขึ้นนะครับ


โดย: amnesia IP: 58.8.155.90 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:20:00 น.  

 
หนังดีมากๆครับ
สินจัยเล่นได้สุดยอดเลยครับ
น้องๆก็เล่นดีครับ น้องโดนัทเล่นเเข็งไปหน่อย
ส่วนฉากจูบ ออกจะมากไปหน่อย เอาเเค่บังๆก็พอเเล้วครับ



โดย: บิกวอร์ IP: 125.26.84.101 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:31:34 น.  

 
ผมชอบฉากจบมากที่สุดเลย ฉากที่มิวร้องไห้อ่ะ มันเศร้ามากจริงๆนะครับ ยิ่งคำที่เค้าพูดว่า "ขอบคุณนะ"

ขอบคุณหนังเรื่องนี้นะ หนังจบแต่ตัวละครยังคงเติบโตต่อไปในใจของทุกคน


โดย: เอ โยส IP: 58.9.87.64 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:46:40 น.  

 
ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบ สงสัยต้องไปดูอีกรอบมั้งเนี่ย T-T แต่ตอนที่ดูแล้วรู้สึก สงสารอินมากคือมิว แต่คนที่น่าสงสารมากที่สุดคือโต้ง บางครั้งการสูญเสียทำให้เรารับรู้ว่าเราเหลือตัวเราเพียงคนเดียว รู้สึกเหงาและน่าสงสาร แต่การที่มีการอยู่ ของครอบครัวที่ไม่สามารถจดจำว่า คุณยังมีลูกเหลืออีกหนึ่งคน หรือเหลือคนสุดท้ายแล้วเราจะเสียไปไม่ได้ มันอาจจะเจ็บปวดกว่าความเหงาที่มันชัดเจนว่ามันคือความเดียวดาย แต่ความรักที่สัมผัสไม่ได้ มันทรมานมากกว่าอีกนะ สำหรับเรา


โดย: doll IP: 124.120.238.239 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:23:45 น.  

 
เขียนถึงเรื่อง "ความหลากหลายทางเพศ" ได้ดีจริงๆค่ะ


โดย: is_that_so IP: 124.120.146.249 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:6:12:56 น.  

 
ชอบครับ เป็นหนังไม่กี่เรื่องที่ผมต้องคอยดูนาฬิกาบ่อยๆ เพราะต้องคอยลุ้นไม่อยากให้หนังจบเลย..... อดห่วงว่าตัวละครทุกคนจะคลี่คลายปมของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน...แต่พอหนังจบ ก็ได้ความรู้สึกคล้ายๆเหมือนตอนดูเรื่อง Lost in translation.... มีความสุขครับ เดินยิ้มอยู่คนเดียว... ยิ่งได้อ่านบทวิเคราะห์ของคุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณ.... ทำให้เข้าใจประเด็นซ่อนเร้นหลายๆอย่างครับ.. ถ้าผมจะให้เรื่องรักแห่งสยาม เป็นหนัง Classic จะผิดไหมครับ.


โดย: MoJo Big O IP: 61.90.201.124 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:31:58 น.  

 
เป็นหนังที่ดูจบปุ๊บ...ตัดสินใจได้เลยว่า จะเข้ามาดูอีกรอบพร้อมคนในครอบครัวค่ะ

รออ่านองศาที่ 361 อยู่เช่นกันค่ะ...


โดย: ดอกคูณที่จากไป วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:09:49 น.  

 
เพลง กันและกัน ของฟลัวร์ ฟังก่อนหนังเข้าเท่าไหร่ก็ไม่อิน แต่ตอนอยู่ในหนัง ช่างบรรจงหาจังหวะหยอดมาก เพราะ ดูหนังจบต้องรีบหาซีดีมาเปิดฟังพร้อมมีภาพในหนังมาอยู่ตาม





จริงมากๆเลยค่ะ ตอนแรกฟังเพลงนี้ คิดว่าเพราะ และความหมายดี

พอเข้าไปดู รู้สึกว่าเพลงนี้มันมีชีวิต คนเขียนเขียนจากใจจริงๆๆ รู้สึกว่าเป็นเพลงที่ไม่สามารถบรรยายได้ถึงความไพเราะ


ตอนนี้ยกให้เป็นหนังอันดับ 1 ในดวงใจไปแล้วว


โดย: ซาตานซานต้า วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:04:30 น.  

 
อยากให้พูดถึง อาม่าของมิวด้วยค่ะ
เรารู้สึกว่าอาม่าก็เป็นอีกคนที่สูญเสีย
แต่ก็รู้สึกว่าอาม่าเป็นตัวละครที่ดูมีความสุขที่สุด(ในการรอคอยแสนเศร้า)





โดย: เด็กดอย IP: 203.156.10.39 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:51:42 น.  

 
ตามมาอ่านค่า เจ้าของบลอกเขียนได้ดีตามเคย อ่านแล้วรู้สึกมีหลายๆ คำเลยที่โดนใจ เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งอยากดู แต่ความขี้เกียจของเรามีมากกว่านี่สิ

น่าเสียดายที่หนังจะมาเสียไป (มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป) กับผลของการโปรโมทแล้วก็หน้าหนัง (เราเองก็เคยเข้าโรงไปดู Event Horizon เพราะนึกว่าเป็นหนังอวกาศ แต่กลับโดนผีหลอกทั้งเรื่อง แทบร้องไห้ แต่หนังก็สนุกเชียวแหละ) กับความไม่อยากดูหนังเกย์ตามความคิดของอีกหลายๆ คน

ปล. จำได้ว่าตอนสาวๆ ก็ได้ดู Longtime Companion หนังเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนและคู่รักเกย์ นำเสนอไปพร้อมกับปัญหาโรคเอดส์ ดูแล้วยังอดสงสารแล้วก็เศร้าไปกับตัวละครด้วยไม่ได้ อาจจะดูแล้วจั๊กกะจี้ใจอยู่บ้างเวลาเค้าแสดงความรักกัน (หรืออิจฉาเค้าก็ไม่รู้สิ) ถือว่าเราโชคดีละนะที่ดูหนังชายรักชายได้ ไม่งั้นคงพลาดโอกาสดูหนังดีๆ ไปหลายเรื่องเหมือนกัน


โดย: jorjor IP: 58.136.117.197 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:01:16 น.  

 
เขียนได้ดีมากเลยครับ ส่วนตัวไปดูหนังเรื่องนี้วันแรก ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ตอนเลือกตุ๊กตาก็สะดุ้งเลย"กลัวเลือกแล้วไม่ถูกใจแม่ " นึกถึงตัวเองก็เคยพูดทำนองนั้นเหมือนกัน

เรื่องนี้ดูจบแล้วกลับมาคิด มันมีอะไรให้เราคิดมากมายเลยจริงๆ

สุดยอดครับ เป็นหนังในดวงใจเรียบร้อย


โดย: satoru IP: 125.25.197.166 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:19:52 น.  

 
ฉากจูบผมเห็นด้วยกับคุณayde คห.60 ครับ
และมันจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมี
เพราะมันสะท้อน ความรู้สึกความคิดของสังคมกับความรักระหว่าง ช-ช ได้อย่างแยบยลที่สุด

ความรู้สึกที่คนดูผอืดอผอมรับไม่ได้ ก็นั่นละครับ
เป็นความรู้สึกเดียวกับ สุนี แต่ของเธอรุนแรงกว่าหลายเท่า
เพราะเธอภาพที่เธอเห็นคือลูกชายของเธอเอง...

แต่สำหรับผม .. ฉากนี้ผมเขินมากกว่าครับ
พาแฟนไปดูด้วย นั่งหน้าแดงเลยอ่ะครับ..


โดย: winter love song วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:35:57 น.  

 
ชอบหนังเรื่องนี้มากๆ ค่ะ
ตอนที่เห็นใบปิดหนังก็ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าคงเป็นหนังวัยรุ่นทั่วๆไป
พอได้ดูตัวอย่างหนัง และได้ฟังเพลงประกอบที่คิวร้อง ก็ตัดสินใจในตอนนั้นเลยว่า ต้องดู



โดย: aggressive red rabbit วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:21:22 น.  

 
(กด enter อย่างไม่ตั้งใจ)
มารู้ว่า มัน Y นิดๆตอนที่เห็นกระทู้
...พอดูจบแล้วมันอิ่มมากมาย...
รอเงินเดือนออกก่อนเห้อ...จะไปดูอีกรอบ ^^


โดย: aggressive red rabbit วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:23:43 น.  

 
ดูมา 2 รอบแล้วครับ ชอบมากๆ ไม่คิดว่าจะมีหนังไทยที่ทำได้ขนาดนี้เลย
ผมเข้าใจตัวละครเลยอะ
ผมเคยเป็นสะพานให้คนที่ชอบไปคบคนอื่น
ผมเคยเหงาจนต้องนอนร้องไห้
ผมเคยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร
และผมก็มีแม่ที่ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว
แล้วสุดท้ายผมก็เลือกแม่ครับ

ขอบคุณ สำหรับหนังที่ดีที่สุดในใจผมตอนนี้ครับ

ปล. สำหรับคนที่ไม่ไปดูเพราะ รมณ์เสียเรื่องโปรโมต ไปดูเถอะครับ อย่าให้อารมณ์เล็กน้อยทำให้พลาดหนังที่สวยงามที่สุดเรื่องนี้เลย


โดย: shadow of board IP: 58.64.121.88 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:11:48 น.  

 
ไปดูมาแล้วค่ะ ชอบมากๆ ถึงจะรู้ว่ามีรักแนว Y อยู่แต่รักแบบอื่นในเรื่องก็โดดเด่นและประทับใจพอๆ กัน คนที่ไม่คิดจะดูเพราะรู้สึกว่าโดนหลอก อยากบอกว่า มันจะน่าเสียดายมากกว่าถ้าคุณพลาดเรื่องนี้นะ

ปล. เห็นด้วยกับคุณ 60 ฉากจูบคุณมะเดี่ยวเค้าอยากให้คนดูรู้สึกช๊อคเหมือนสุนีย์รึเปล่า (แต่โรงที่เราดู สาวๆกรี๊ดสนั่นเลย แต่ตัวเองก็แอบกรี๊ดไปนิดๆ เหมือนกัน )


โดย: แมวน้อยสีน้ำตาล วันที่: 28 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:22:14 น.  

 
ทำงานอยู่โรงหนัง แต่เพิ่งจะหาเวลาไปดูหนังเรื่องนี้ เมื่อวานนี้เอง ออกมาต้องโทร.บอกคนรู้จักทุกคนว่า ไปดูหนังเรื่องนี้เถอะ มันดีมากๆ มันบอกเล่าเรื่องราวชีวิตคนในสังคมปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทำให้เราได้เรียนรู้ รู้จัก และเข้าใจชีวิต
จิตใจคน มากยิ่งขึ้น ดีขึ้นและลึกซึ้งขึ้น
ชอบเกือบทุกฉาก ทุกคำพูดของหนังเรื่องนี้ แต่ที่ประทับใจมากๆ ใครชอบเหมือนกันบ้างคะ ชอบตอนที่ภาพตัดไปที่ถาดอาหาร แกงจืดมีควันกรุ่นขึ้นมา อาหารที่แม่จัดมาให้พ่อ แล้วตัวเองก็เอาอาหารที่เย็นชืด
ไปนั่งกินเอง ภาพนั้นมันบอกเราว่า
ความรักที่ภรรยามีให้สามี มันมาจากใจ สวยงาม อบอุ่น และมากมายเหลือเกิน


โดย: kitty hung IP: 202.57.129.149 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:04:58 น.  

 
โดนเต็มๆ เลยครับเรื่องนี้
ยิ่งได้อ่านที่พี่เขียนด้วยยิ่งทำให้รู้สึกว่าเรื่องนี้ดีจริงๆ


โดย: paejazz IP: 58.8.120.163 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:31:50 น.  

 
คน review เก่งจัง มีความรู้เรื่องจิตวิทยาด้วย


โดย: ฮ่าๆ IP: 125.25.154.118 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:35:05 น.  

 
ยกให้เป็นหนังขึ้นหิ้งของผมไปแล้วครับ


โดย: แสง สีรุ้ง วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:50:40 น.  

 
ทำไม ผมดูจบแล้ว ไม่ค่อยรู้สึกซึ้งสักเท่าไหร่เลยออะครับ บท มันรู้สึกจะขาดๆ เกินๆ ไป จะถึงจุดพีค ก็ไม่ถึงสักที ตอนต้นเรื่องที่ พี่สาวโต้งหนีไป ทำไม คนเป็นพ่อแม่ถึงไม่ไปตาม มัวแต่อยู่ที่บ้าน ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ชอบตอนต้นเรื่องที่มีอาม่ามาก แต่ คำพูด มันไม่ใช่อะ ผมเป็นลูกคนจีนด้วยมั่งเลยรู้สึกว่า มันไม่ใช่อะ

ตัวพ่ออีกไม่เข้าใจ ทำไมต้องเป็นขนาดนั้น แต่อีกหลายคำถามมากๆ หาคำตอบไม่ได้สักที


โดย: Owen IP: 58.9.6.162 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:16:19 น.  

 
ไปดูมาแล้วเหมือนกัน สื่อออก มาได้ดีมากเลยอ่ะ เพื่อน ผมที่เป็นผู้หญิงยังชอบเลย มันน่ารักดีอ่ะ สนุกด้วยเพลงซึ้งมากเลย


โดย: ไวตามิ้ว IP: 124.120.101.55 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:12:09 น.  

 
หนังไทยที่ดีที่สุด ...และเป็นหนังไทยที่ประทับใจผมมากที่สุดในรอบปีนี้เช่นกันครับผม...

ที่พี่หมอเขียนอธิบายไว้ได้ดียิ่งๆแล้ว แต่ก็ขอให้บล็อกนี้พูดแทนความรักทั้งหมดในมุมมองผมที่มีต่อ "รักแห่งสยาม" ก็แล้วกัน...ชวนไปอ่าน และแจมความเห็นในประเด็นเรื่องของผมกันครับ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=30-11-2007&group=2&gblog=98


โดย: OncE UPoN'-'a MaN วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:41:27 น.  

 
ชอบเช่นกันคะ


โดย: tonnaor IP: 117.47.33.200 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:02:20 น.  

 
หนังอะไรที่ทำให้เราจมปรักกับเรื่องราวได้ถึงขนาดนี้ ดูกี่ครั้งคำว่า"เบื่อ"ยังเอามาใช้ไม่ได้ ผมชอบตอนที่สุนีย์มาหามิวที่บ้าน ผมเห็นความรู้สึกของมิวที่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเรา มันเป็นความรู้สึกที่คนอื่นเค้าคิดว่าเป็นเรื่องที่เล็กน้อย แต่หารู้ไม่ว่ามันยิ่งใหญ่มาก ใบหน้าที่ฝืนยิ้มของนิว ทำให้ผมอดน้ำตาซึมไม่ไหว มันปวดร้าวถึงขั้วหัวใจ กับอาการที่เรารู้อยู่เต็มอกว่าเราคิดอย่างไรแต่เราต้องปฏิเสธมันไป ผมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ (ซึ่งพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นหนังที่เค้าทำกันจริงๆ หาใช่หนังไร้สาระในสายตาของคนที่มีอคติ กับชาวเรา ผมมีโอกาสได้แนะนำให้ใครหลายคนไปชม แต่เค้าเหล่านั้น บอกว่าเป็นหนังเกย์ ไม่อยากดู ผมเลยตอบไปว่า ผมอยากให้ไปดู ไปดูตรง"ความรัก" ไม่ต้องไปดูว่าเป็นหนังเกย์ ซึ่งเค้าจะคิดได้หรือไม่ ก็สุดแล้วแต่เค้า) เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิต ที่ผมรู้สึกว่าเป็นหนังที่แทรกซึมผ่านหัวใจอันแข็งแกร่งของผมไปได้ คงไม่ถือนะครับที่ผมจะเอาภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม (ผมคิดอยู่เสมอว่า มิว เค้ามีตัวตนจริงๆ) ผมขอให้เกียรติภาพยนตร์เรื่องนี้ ด้วยใจจริง ขอบคุณผู้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ทุกท่าน หากDVDออกแล้ว ผมคงนั่งดูทุกวัน แล้วอาจจะร้องไห้ทุกวันในความซาบซึ้งแห่งห่วงอารมณ์อันน้อยนิดแต่มหาศาลจนไม่เป็นอันกินอันนอน


โดย: เพื่อนบ้านมิว IP: 125.24.135.127 วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:7:47:10 น.  

 
จุดติของหนังเรื่องนี้มีอยู่จุดเดียว ตรงที่มันสะเทือนความรู้สึก โดยเฉพาะประเด็นความรักในครอบครัว นั่งร้องไห้แทบจะทั้งเรื่อง แง้ๆๆ มิวเก่งมาก สายตาสื่อความรู้สึกได้ดี อยากดูอีกรอบจังค่ะ แต่ขอรอแผ่นดีกว่า จะได้ดูคนเดียวที่บ้าน ไม่งั้นต้องร้องไห้น้ำตาท่วมโรงอีก ฮือๆ


โดย: heartfelt melody IP: 58.136.129.55 วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:9:08:11 น.  

 
ได้ดูเมื่อวานครับ และอารมณ์ก็ยังคาค้างอยู่จนถึงตอนนี้เลย

ไม่เคยใช้คำว่า "รัก" กับหนังมาก่อน แต่ "รักหนังเรื่องนี้จังครับ"



โดย: absent-minded IP: 222.212.79.149 วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:0:17:50 น.  

 
มีคนบอกว่าหนังเกย์ ...เลยเข้าไปดูว่าเกย์อย่างไร

สุดท้ายเห็นแต่ความรักความเหงา ฟุ้งกระจายเต็มเรื่อง ส่วนฉากจูบที่คิดว่าไม่สำคัญ แต่สำหรับเราที่เข้าไปดูเราว่า นั่นสำคัญเพราะมันจะชัดเจนมากกว่า แค่กอดคอกัน แล้วแม่(สินจัย) เห็นโต้งกะมิวทำอย่างนั้น...........ช็อคแน่นอน

หนังทำให้รู้สึกความสวยงามของความรัก และยังรู้สึกว่า...เราน่าจะรักใครสักคนและต้องพร้อมเข้าใจเขาด้วย

ด้วยที่เขาเป็นเขา


โดย: K-modjung วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:7:37:45 น.  

 
โครงร่างของหนัง ดูจะคล้ายๆ Love Actually อยู่เหมือนกัน แต่การที่เรื่องนี้มีทั้งรักสมหวัง และรักผิดหวัง (แต่ก็ไม่โศกเศร้านะ) ทำให้หนังดูมีความลุ่มลึกขึ้นไปอีกขั้นครับ

ดีนะที่ผมไม่ได้อ่านกระทู้ หรือพยายามรู้เรื่องใดๆเกี่ยวกับหนังก่อนเข้าโรงเลย การดูหนังเรื่องนี้โดยไม่รู้ว่าแต่ละตัวละคร จะมีจุดลงเอยอย่างไร น่าจะเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการดูหนังเรื่องนี้นะครับ (เพื่อนใครมาสปอยล์หนังเรื่องนี้ให้ฟัง แนะนำให้เลิกคบไปเลย อิอิอิ)


กลายเป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องของปีไปแล้วครับ
ปอลอ ตรงฉากนั้น ผมถึงกะอ้าปากค้าง แต่ก็เข้าใจแหละครับ ว่ามันต้อง"แรง"พอ ถึงจะช็อกความรู้สึกทั้งของคนเป็นแม่(ในหนัง) และคนดูด้วย


โดย: ลูกจ้างดีเด่น IP: 203.156.190.212 วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:15:15:24 น.  

 
คนบางกลุ่มอาจจะไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่ชอบเรื่องชายรักชายน่ะ แต่ถ้าคิดดูดีๆถ้าเปลี่ยนเป็นคู่ชาย-หญิง ธรรมดา หนังเรื่องนี้ก็ยังขายได้อยู่

สรุปคือประเด็นไม่ได้เน้นขายหนังชาย-ชาย นั่นแหละ
ส่วนตัวแล้วประทับใจหนังเรื่องนี้นะ แม้ตอนแรกจะชวนสาวไป แล้วสาวไม่ได้ไปก็ตาม ค่าตั๋ว แลกมุมมองของความรักใหม่ๆได้หลายๆมุมเลยล่ะครับ


โดย: Aquarium IP: 58.9.251.34 วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:21:19:17 น.  

 
สุดยอดเลยครับผม
ฮ่าๆ ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าผมซื้อหนังสือของคุณมาอ่านตั้งหลายรอบแล้ว ช้อกสุดๆเลย ฮ่าๆๆ
เด๋วว่าจะไปซื้อ 361 อ่านต่อ ชอบมากๆ ครับ


โดย: CZA IP: 203.118.120.82 วันที่: 4 ธันวาคม 2550 เวลา:15:43:32 น.  

 
อื้อหือ... บทวิจารณ์อันลึกซึ้ง จับใจ และยังคงเก็บทุกรายละเอียดจริง ๆ ชอบเรื่องนี้มากกว่าพลอยอีกเหรอครับ? ผมคงต้องมองพี่ใหม่แล้วสินะเนี่ย!!! (พูดเล่นฮับ)
อยากให้นักวิจารณ์หนัง รวมทั้งคนส่วนใหญ่ (คนไทยกว่า 70%) ได้ซึมซับความรู้สึกด้านดีในหนังเรื่องนี้บ้างซักนิด สงสารหนังของพี่มะเดี่ยว หนังคุณภาพดีแต่ไม่ค่อยมีคนนิยมเล้ย! (จะดังก็แต่ใน pantip)


โดย: รบชนะ วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:12:02:01 น.  

 
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักของเด็กหนุ่มสองคนและผู้คนรอบๆตัวเขา
สิ่งที่ถูกนำเสนอมันช่างแนบเนียน เหมือนจริงจนคนดูสามารถสัมผัสความรักของพวกเค้าได้จริง


โดย: Nusantara (Nusantara ) วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:21:18:57 น.  

 
หนังสื่อออกมาได้ดี จนทำให้ไม่ได้มองเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมิวกับโต้งว่าเป็นเรื่องของ "ชายรักชาย" เลย แต่กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องของ "คนสองคนที่รักกัน"


โดย: Pooh IP: 124.120.191.230 วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:22:12:06 น.  

 
ชอบมากครับ ไปดูมาแล้วสองรอบ



โดย: ท็อดดี้ IP: 58.10.216.253 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:12:03:00 น.  

 
สนุกดีคับ
"มิใช่ความรักหรอกหรือ ที่........."
เป็นประโยคที่เท่จิงๆคับ


โดย: morino IP: 124.120.84.62 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:22:07:27 น.  

 
ชอบคับ ชอบเรื่องนี้มากมาย ยังคิดอยู่เลยว่าอยากไปดูรอบสาม เพราะจริงๆแล้วผมคิดว่าผมยังเก็บรายละเอียดของหนัง
ที่พี่มะเดี่ยวสื่อมาให้กับเรา ได้ไม่ครบยังไงก็ไม่รู้
ผมชื่นชมพี่มะเดี่ยวนะคับ เพราะเค้าละเอียดอ่อนในทุกด้านเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้อ่ะ
สุดยอดเลยคับพี่


โดย: JeAN IP: 202.28.27.6 วันที่: 7 ธันวาคม 2550 เวลา:15:45:35 น.  

 
ชอบค่ะ
อินมาก
ตอนพ่อโต้งร้องไห้หน้ากับข้าวที่คุณเมียซื้อมาให้นี่น้ำตาคลอเลยอ่ะ
มันจับใจจริงๆ


โดย: ไก๋ IP: 58.10.102.108 วันที่: 8 ธันวาคม 2550 เวลา:23:33:46 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่าน review ที่นี่เป็นครั้งแรก เขียนได้ดีจังครับ

ผมไปดูรักแห่งสยามมา 3 รอบแล้ว และคงจะมีรอบที่ 4 ตามมาเร็วๆนี้ ก่อนนี้ผมเคยไม่เข้าใจพวกที่ดูหนังเรื่องนึงในโรงซ้ำๆหลายรอบ ว่าทำไมจะต้องดูหลายรอบด้วย เปลืองตังค์จะตาย แต่ตอนนี้เจอกับตัวเองแล้วถึงได้เข้าใจ

รอบแรกที่ไปดู ยอมรับเลยว่า ไม่เคยตามข่าวหรือรู้เรื่องหนังเรื่องนี้มาก่อน เพียงแต่วันนั้นทำงานเครียดๆ อยากหาหนังอารมณ์สบายๆดูคลายเคลียด ไปหน้าโรง เห็นเรื่องนี้ เออ ท่าทางจะภาพสวย เนื้อเรื่องน่ารัก กุ๊กกิ๊ก คิกขุ ก็ตีตั๋วเข้าไปดู ดูไปสักพัก เริ่มออกอาการเอ๋อกับสิ่งที่ได้เจอในหนัง ผิดจากที่คิดไว้อย่างแรง แต่ก็ชอบมาก ดูจบแล้วไม่อยากจะลุก อยากนั่งซึมซับบรรยากาศของหนังต่ออีกสักพัก แต่พอดีปวดฉี่ เลยต้องออก

ดูรอบแรกเสร็จ กลับมาถึงบ้าน เอ๊ะทำไมภาพจากหนังเรื่องนี้มันติดหัว เอาแต่คิดวนเวียนถึงเนื้อเรื่อง และตัวละครต่างๆ นอนไม่หลับไปเลยคืนนั้น เลยตัดสินใจว่า จะต้องดูเรื่องนี้อีกรอบ เอาแบบเตรียมตัวเตรียมใจไปดูหนัง drama

ผ่านไป 3 วัน มีเวลาว่าง เลยไปดูอีกรอบ รอบนี้เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น อินกับตัวละครมากขึ้น และยิ่งรู้สึกเศร้ามากกว่ารอบแรก ปกติผมเป็นคนที่ดูหนังแล้วไม่ค่อยร้องไห้ คิดว่าตั้งแต่เกิดมา เคยดูหนังแล้วร้องไห้ไม่เกิน 2 เรื่อง แต่เรื่องนี้ทำเอาผมร้องไห้ได้อย่างไม่อายใคร dialogue หลายๆตอนในหนัง ช่างสะกิดใจผมเหลือเกิน ดูรอบสองจบ กลับถึงบ้าน ยิ่งทรมานกว่ารอบแรกอีก รู้สึกเหงามากๆ

รอบ 3 เพิ่งไปดูมาเมื่อวันศุกร์ รอบนี้ชวนเพื่อนไปดูด้วยกัน เพื่อนมันรู้ระแคะระคายว่าเป็นหนังที่มีประเด็นเกี่ยวกับเกย์ ตอนแรกเลยจะไม่ดู แต่ผมก็ตื้อจนมันยอม สุดท้าย มันก็อาการเดียวกับผมเลย แอบเห็นมันปาดน้ำตาด้วย อิอิ

สรุป รักหนังเรื่องนี้มาก ยกให้เป็นหนังไทยอันดับ 1 ตลอดกาลของผมไปเลย


โดย: pekko IP: 58.9.84.156 วันที่: 9 ธันวาคม 2550 เวลา:17:27:32 น.  

 
อ่านแล้ว อยากไปดูมาก ๆ เลยค่ะ.... เขียนดีจังเลยค่ะ.... ชอบจัง

แนวครอบครัว ๆ อบอุ่น ๆ แบบนี้.... แต่คงไม่มีโอกาสได้ไปดูในโรงหนังหรอกค่ะ

ไว้คงต้องรอแผ่นออกมาก่อน จะไปหามาดูให้ค่ะ


โดย: largeface วันที่: 10 ธันวาคม 2550 เวลา:20:44:21 น.  

 
ตอนนี้กำลังจารอดูในส่วนที่เป็นดีวีดีอีกครั้ง ว่าน่าจามีการเปลี่ยนแปลงอะไรรึเปล่า เพราะมีความรู้สึกว่าหนังเดินเร็วเกินไปในช่วงของต้นเรื่อง บวกกับที่หนังได้ทิ้งปริศนาไว้ให้งุ่นงงอย่างมากมาย แต่ต้องยอมรับครับว่าเป็นหนังที่ดีในรอบปีนี้แน่นอนครับ


โดย: yamapee IP: 58.9.26.82 วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:13:53:21 น.  

 
+ ล่าสุด เห็นข่าวว่าจะมีเวอร์ชัน first cut ความยาว 4 ชั่วโมงมาปล่อยฉายที่โรงเฮาส์นี่ครับ แต่ยังไม่ได้กำหนดวันฉายที่แน่นอนว่าจะเป็นช่วงไหน ... แต่มีรอบเยอะๆ หน่อยก็ดีนะ มะงั้นเด๋วโรงแตกแย่เลย หุๆ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:10:44:59 น.  

 
ว้าว จะมี fitst cut ด้วย น่าสนใจมากครับ ถ้าเข้าโรงเฮ้าส์เมื่อไรแจ้งให้ทราบกันด้วยนะครับ


โดย: ขุนเขาแห่งแม่น้ำแควน้อย IP: 124.121.13.95 วันที่: 22 ธันวาคม 2550 เวลา:12:08:21 น.  

 
หนังไทยดีๆที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรอีกแล้ว น่าจะเป็นหนังดราม่าไทยที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยครับ มีครบทุกรสชาติทุกอารมณ์ การแสดงที่ยอดเยี่ยม(จากมิว โต้งและน้องหญิง)และการแสดงที่สุดยอด(จากคุณสินจัย พลอย-เฌอมาลย์ และพี่กบ) การกำกับที่ยอดเยี่ยม มีทั้งความบรรจงและความหนักแน่น บทที่ยอดเยี่ยม ไม่มากไม่น้อยเกินไป แฝงประเด็นสังคมที่ทำให้ต้องเก็บไปคิด เรียกว่าต้องชมทุกๆคนทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังของหนังเรื่องนี้จริงๆครับ เป็นหนังไทยที่ชอบมากที่สุดเรื่องนึงและน่าจะเป็นหนังไทยในดวงใจของผมเลยครับ

ขอบคุณท่านสำหรับรีวิวดีๆครับ

และขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ไม่ยอมเปิดใจให้กว้าง คิดว่าเป็นหนังy เลยไม่ยอมไปดูด้วยครับ


โดย: tHecHamp IP: 58.8.231.203 วันที่: 25 ธันวาคม 2550 เวลา:2:56:46 น.  

 
เราพูดไม่ค่อยเก่งอ่านะคะ ^.^''

แต่ตามมาจากบอร์ดพันทิพย์ เพราะเรื่อง รักแห่งสยาม

ได้อ่านสิ่งที่คุณเขียนในหลายๆเรื่อง...

แล้วรู้สึกดีมากเลยคะ...

ดีใจ... ที่มีคนที่ดูหนังแล้วเข้าใจอะไรลึกซึ้งได้ขนาดนี้...

ถ้าผกก.และนักแสดงทราบ ว่ายังมีคนดูที่รักและเข้าใจในตัวหนังขนาดนี้ชมอยู่ล่ะก็

ต้องมีกำลังใจในการสร้างหนังดีๆต่อไปอีกแน่คะ =^-^=

แล้วจะติดตามงานเขียนของคุณนะคะ


โดย: P!nK_PuNK_Pr!NC3s$ IP: 58.8.140.198 วันที่: 27 ธันวาคม 2550 เวลา:0:33:25 น.  

 
ชอบครับ เขียนดีมากเลย

แต่อยากให้สรุปเป็นข้อๆ อย่าง ตอนเลือกตุ๊กตา ไม่ค่อย get เท่าไร แต่ก็กระจ่างขึ้นเยอะ


โดย: dep IP: 24.148.56.254 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:38:25 น.  

 
เพิ่งดูหนังเรื่องนี้จบ
เหมือนโดนเอาอะไรทุบหัวแรงๆ เลยอ่ะ

ร้องไห้เป็นปี๊บๆ ทั้งในรอบและนอกรอบ ... ดูแล้วอยากมีรักดีๆ


โดย: The SoVo วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:06:10 น.  

 
เป็นคุณแม่ค่ะ เพิ่งได้โอกาสดู ชอบมากค่ะ ร้องไห้หลาย shot เหมือนกัน ขอบคุณในสิ่
งที่หลายคนสะท้อนออกมา ได้แง่คิดมาก ๆ หนังสวย เพลงเพราะ นักแสดงและทีมงานทำได้ดีมาก ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจค่ะ< src=https://www.bloggang.com/emo/emo41.gif>


โดย: ความรัก IP: 125.25.174.91 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:35:55 น.  

 
เพิ่งได้ดูเมื่อคืน ชอบมากมาย


โดย: คนขับช้า IP: 125.24.97.193 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:50:48 น.  

 
ถือว่าโอเคเลยแหละ เป็นหนังไทยที่มีบทภาพยนตร์ดีมากๆ ในรอบหลายปี (มะเดี่ยว เจ้าเก่า)

น่าเสียดายที่มีประเด็นรักร่วมเพศเข้ามา ทำให้ผู้ชมบางส่วนไม่ปลื้มเรื่องนี้เท่าไหร่ ซึ่งจุดนี้เองทำให้ผมไม่กล้าที่จะเอาเรื่องนี้ไปให้ พ่อกับแม่ ดู


โดย: YoiChi_KinG IP: 125.24.61.243 วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:43:57 น.  

 
ทีแรกฟังเหมือนหนังเกย์ คิดไปถึงเรื่องเพื่อนกูรักเมิงหวะแระสยอง

แต่พอดูจิงๆ ไม่รู้สึกแบบนั้นเลย รู้สึกเหมือนหนังรักของวัยรุ่นทั่วไป ที่ต้องมีการสับสนกันได้บ้าง แต่ทุกอย่างรวม ๆ แล้ว ดีมากเลย ดูแล้วรู้สึกดีมากมาย เศร้าแต่อมยิ้ม

เพลงก้อเพราะด้วย รักเรื่องนี้มากๆค่ะ


โดย: blefornia IP: 124.120.150.90 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:11:02:20 น.  

 
เพิ่งจะได้ดู VCD เมื่อวานเองครับ ดูจบก็มาอ่าน blog นี้เลยครับ ^_^


โดย: นายไข่ วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:2:47:37 น.  

 
ตามอ่านกระทู้เกี่ยวกะเรื่องนี้ทุกกระทู้เลยครับ
เป็นหนังไทยอีกเรื่องหนึ่งที่เข้าไปอยู่ในใจผมเรียบร้อยแล้ว 555 ปกติผมไม่ดูหนังไทยอ่ะครับ
จากที่ได้อ่านการวิจารณ์หนังของแต่ละท่านจาก หลายๆที่ ขอบอกเลยนะครับว่าฉากจูจุ๊บนั้นจำเป็นต้องมีเพราะว่าเป็นการ ผลักดันให้ สุนีย์ผู้เป้นแม่ต้องวิ่งไปคุยกะมิวทันทีครับ ไม่งั้นเรื่องคงไม่เดินเป็นจุดเปลี่ยนของหนังด้วยนะครับ
ชอบมากๆเลยครับหนังเรื่องนี้ อยากดูฉบับ Director Cut มากๆ 3:40 นาที
**อยากจะบอกว่าคนที่ไม่ดูหนังเรื่องนี้เพราะคิดว่าเป็นหนังเกย์ เลยไม่ดูนั้น น่าเสียดายมากๆ เลยนะครับ **


โดย: DemonNight IP: 124.121.105.122 วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:16:47:34 น.  

 


สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน


โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:17:11:07 น.  

 


โดย: wow gold IP: 123.148.30.237 วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:9:03:23 น.  

 
คุณหมอคะ...กินใจมากค่ะ


โดย: ติดใจ IP: 203.125.64.226 วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:9:30:59 น.  

 
มุมมองอาจยังไม่แตกฉานเท่า จขบ. แต่อารมณ์คงไม่ต่างกันเท่าไหร่

เพลงประกอบช่วยให้รู้สึก และเข้าใจมากขึ้น



โดย: na-mol วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:13:18:55 น.  

 
เพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้ ชอบมากมายครับ

เสียดายที่ได้ดูช้าไป ตอนนี้เป็นหนังในดวงใจอันดับ 1 เลยครับ


โดย: Kuchiki Byakuya IP: 58.136.74.73 วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:12:14:11 น.  

 


โดย: sunvalley IP: 220.231.201.36 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:18:38 น.  

 
มาลงชื่อด้วยคนค่า...
เพิ่งได้ดูเรื่องนี้อ้ะ
รู้สึกพลาดอย่างแรง ที่ไม่กล้าไปดูในตอนแรก (แอบกลัวกระแส Y )
ตอนนี้ดูแล้ว ยกให้เป็นหนังไทยในดวงใจอันดับ 1 เลยนะ ( ย้ายปิดเทอมใหญ่ ลงมาอยู่ที่ 2 เลย หุ หุ )
ยิ่งมาอ่านบทความนี้แล้วรู้สึก อินได้อีก
ต้องดูซ้ำรอบที่ 2,3,4... แล้วแหละ


โดย: นัทจัง (peanut_p ) วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:12:38:48 น.  

 
สวัดดีค่ะพี่พิชพี่โอ้น้องเนยนะค่ะพี่พิชพี่โอ้เป็นยังไงบ้างค่ะสบายดีไหมเรื่องนี้น้องว่าดีมาก


โดย: น้องเนยคนมีบุญ IP: 125.26.181.186 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:10:13:17 น.  

 
..รักแห่งสยาม...
สยาม...
...จากจุดเริ่มต้น จุดเชื่อมต่อที่ทุกคนจินตนาการต่อไปได้ไม่สิ้นสุด...


โดย: dynan IP: 58.8.146.133 วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:4:16:00 น.  

 
[url=//www.mmoinn.com/]wow gold[/url]
[url=//www.mmoinn.com/]cheap wow gold[/url]
[url=//www.mmoinn.com/]buy wow gold[/url]


โดย: wow gold IP: 121.32.167.124 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:06:39 น.  

 
[url='//www.mmoinn.com/']wow gold[/url]


โดย: wow gold IP: 121.32.167.124 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:09:25 น.  

 
[link=//www.mmoinn.com/]wow gold[/link]


โดย: wow gold IP: 121.32.16.186 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:11:26 น.  

 
//www.fiql.com/blogs/qqyang
//www.adulthostedblogs.com/?w=keyboard
//keyboard.blogsarena.com/
//keyboard.anyhow5.com/
//canada-blogs.com/keyboard
//hp-keyboard.vefblog.net
//delllatitudebattery.rsfblog.org/.
//www.flixya.com/blog/keyboard
//www.uwff.ca/node/7350
//udtek.mylivepage.com/
//udtek.mylivepage.com/
//blogger.diknas.go.id/id/baru/keyboard/
//keyboard.blog.com/
//www.dzblog.net/udtek/
//udtek.20minutes-blogs.fr/
//cfblog.com/udtek/
//blog.disell.ru/keyboard/
//udtek.buzznet.com/user/journal/
//freeblognetwork.com/keyboard/
//freeblognetwork.com/keyboard/
//europeanfilm.blogs.nouvelobs.com/
//hp-keyboard.blogspot.com/
//www.pianetablog.com/?w=keyboard
//hpkeyboard.jugem.jp/
//keyboard.blogth.com/
//www.iblogme.com/keyboard
//keyboard.blinkblogs.com/
//www.zimbio.com/member/qqyang
//blog.disell.ru/keyboardhp/
//www.menmale.com/keyboard/
//www.blogger4u.com/keyboard/
//www.blogsplosion.com/?w=keyboard
//blog.palungjit.com/?w=udtek
//liyang.beeplog.com/
//www.ednevnik.si/?w=liyang
//hp86.blinkblogs.com/
//hp86.lah.cc/
//hp86.kurdblogger.com/
//www.bloghost.be/hp86/
//hp86.hama1.jp/
//www.adulthostedblogs.com/?w=hp86
//www.freeblog.com.br/hp86/
//hp86.vox.com/
//hp86.mee.nu/
//hp86.quebecblogue.com/
//hp86.gblog.cl/
//hp83.xtrablog.dk/
//canada-blogs.com/hp86
//hp86.namjai.cc/
//blog.livedoor.jp/hp86/


โดย: hpdell IP: 204.45.61.157 วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:44:29 น.  

 
wholesale


โดย: aboutbuys IP: 222.248.226.79 วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:20:40:07 น.  

 
cheap wholesale,Dropship from China,Laptop Accessories,Computer Accessories,Computer Accessories Wholesale,Laptop Accessories Wholesale,Laptop Computer Accessories,Laptop Parts,laptop battery,laptop batteries,Laptop AC Adapter,Laptop Keyboard,LCD Panel.
//www.aboutbuys.com


โดย: aboutbuys IP: 222.248.226.79 วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:20:41:25 น.  

 
กลับมาอ่านอีกที..หลังดูหนังไปเรื่อยๆ (ไม่ใช่ดูไปเรื่อยนะคะ^^)
- ดูหนังก็อิ่ม(น้ำตา)+อ่านบล็อคก็อิ่มใจ เหมือนกันค่ะ..ขอเห็นด้วย(จากใจจริง) 98% อีก 1% สำหรับบางเรื่องที่ไม่รู้ (ไม่รู้ว่าจะคิดยังไงกับตัวเองดี) และอีก 1% ขอเว้นที่ว่างไว้สำหรับอัตตานะคะ ฮิฮิ ^^

ปล.ชอบและติดตามตลอดค่ะ..


โดย: ชญา. IP: 10.66.105.212, 202.28.179.13 วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:16:36:13 น.  

 
In this embarrassing situation
In this embarrassing situation, and concerted efforts to maintain and even increase its own power, coincides with Britain and France would be the choice In this embarrassing situation, and concerted efforts to maintain and even increase its own power, coincides with Britain and France would be the choice In this embarrassing situation, and concerted efforts to [url=//www.uggssaleshop.com]uggs[/url] maintain and even increase its own power, [url=//www.usuggsoutlet.net]uggs[/url] coincides with Britain and France would be the choice Compelled to save money, but want to continue to play a military power in the world, the role of their own power alone [url=//www.womenuggboots.net]women ugg boots[/url] is difficult to achieve this goal

public expenditure, reduction of military imperative In this embarrassing situation, and concerted efforts to maintain and even increase [url=//www.uggsclearance.net]uggs[/url] its own power, coincides with Britain and France would be the choice [url=//www.uggsclearance.net]uggs clearance[/url] public expenditure, reduction of military imperative [url=//www.uggsonlinesale.net ]uggs online[/url] In this embarrassing situation, and concerted efforts to maintain [url=//www.usuggsoutlet.net]us uggs[/url] and even increase its own power, coincides with Britain and France would be the choice public expenditure, reduction of military imperative



โดย: chenyishan IP: 58.22.72.134 วันที่: 7 ธันวาคม 2553 เวลา:14:40:19 น.  

 
ดูแล้วมันดราม่าไปหน่อยครับ


โดย: chee1313 IP: 119.42.112.87 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:09:04 น.  

 
แวะมาอ่านครับ
fast cash money loans


โดย: lavenderbreeze999 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:37:09 น.  

 
แล้วรู้หรือยังล่ะ "วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก"
อยากบอกอะไรก็จะรับรู้ไว้...ว่าฉันก็เป็นเหมือนเธอ..
อยากบอกให้เธอได้รู้ไว้เธออยู่ในใจฉันเสมอไม่เคยลืม
เวลาเจอก็ดีใจถึงแม้ว่าไม่ได้พูดได้คุยกับเธอก็ตาม
แต่อยากให้รู้ว่า "ยังรัก" เสมอ เช่นกัน



โดย: วินัย นักรบนพดล IP: 210.246.186.4 วันที่: 28 ธันวาคม 2554 เวลา:21:39:02 น.  

 
Good article , but also to look at me , a lot of notebook computers .
www.elaptopbattery.co.uk


โดย: battboy IP: 124.237.134.40 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:51:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
22 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.