ไตรภาคหนังตระกูล'ส่ายหน้า'ประกอบไปด้วย

พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า ... หนังตลกตัวอย่างของการเล่าเรื่องแบบเอามุกมาชนมุก โดยไม่คำนึงถึงการลำดับเรื่องราว และ ทำให้ผมตั้งใจไว้ว่าถ้างานของผู้กำกับคนนี้มีออกมาอีกจะนั่งดูแต่ทางฟรีทีวี เพราะรสนิยมคงไม่ตรงกัน

แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า ... เข้าไปดูเพราะกระแสในพันทิปมาแรง ทั้งที่ตอนแรกหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่า ถ้าเป็นงานของผกก.คนเดียวกันนี้จะหลีกหนีให้ไกล แต่พอได้ดูกลับพบว่า ผู้กำกับหลายคนเริ่มต้นจากหนังห่วยๆก็ใช่ว่าเขาจะทำหนังห่วยตลอดไป แสบสนิทฯอาจไม่ใช่หนังตลกคลาสสิค แต่หนังก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าพยัคฆ์ร้ายหลายเท่า

หนังให้ความสำคัญกับพล็อตเรื่องและการลำดับเรื่องราวทำได้ดีกว่าเอามุกมาชนต่อๆกัน ประการสำคัญหนังได้นักแสดงเป็นทีมที่เล่นรับส่งกันได้ลงตัว มุกตลกส่วนใหญ่มาถูกที่ถูกจังหวะ จึงทำให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ยิ่งได้วีเจจ๋ามาเล่นน่ารักๆไม่ห่วงสวย กับ หนุ่มแดนมาเล่นฮาๆไม่ห่วงหล่อ ยิ่งกวาดแฟนคนดูหนุ่มๆสาวๆไปได้อีกเพียบ

แสบสนิทฯ เป็นหนังตลกไทยๆที่ไม่ควรพลาดเรื่องหนึ่ง และ ถ้าเทียบกับหนังตลกที่มีมุกตลกในแนวตลกคาเฟ่แล้ว แสบสนิทฯ น่าจะดีที่สุดเสียด้วยซ้ำ

โปงลางสะดิ้งลำซิ่งส่ายหน้า ... ตีตั๋วเข้าไปเพราะความประทับใจจากแสบสนิทฯ คิดไว้ว่าจะฮาให้คุ้มค่าตั๋วทุกเม็ด แต่ผลสรุปเบ็ดเสร็จฮาหนักๆแค่ฉากเดียว ฮาประปรายตามเสียงฮาคนอื่นอีกบ้าง แต่หลายๆมุกให้อารมณ์ฮากริบเป็นอย่างยิ่ง ปัญหาของโปงลางสะดิ้ง คือ หนังเริ่มถอยหลังกลับไปเหมือน พยัคฆ์ร้ายฯ นั่นคือ พยายามอัดมุกมากมายมาต่อๆกัน โดยไม่สนว่าการเล่าเรื่องจะทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังอยู่อีกหรือไม่

แม้จะมีความพยายามใส่พล็อตของกลุ่มคนขี้แพ้(loser) คล้ายๆแสบสนิทฯ (จาก นักมวยขี้แพ้ มาสู่ กิจการโรงหนังที่กำลังเจ๊ง) และ มีการหักมุมให้เซอร์ไพรส์ แต่หนังก็ไม่ได้ทำให้คนดูจะรู้สึกซึ้งหรือประทับใจไปเลย เพราะความไม่ปะติดปะต่อของเรื่องราวที่สอดแทรกไปด้วยมุกตลกจับยัดเป็นระยะๆ และ ถึงบีมจะเล่นได้ดี แต่บทบาทที่มีก็ไม่ได้ส่งผลให้ใช้ประโยชน์จากการแสดงของเขามากมายนัก เช่นเดียวกับ อี๊ด โปงลาง ที่ดูแววจากหนังเรื่องนี้แล้วเหมือนจะเล่นบทดราม่า ได้ดีกว่า บทตลกเสียด้วยซ้ำ

ปัญหาร้ายแรงที่สุดที่ทำให้ โปงลางสะดิ้ง ด้อยกว่า แสบสนิท คือ ความไม่ตลก

มุกฮาหลายๆมุกค่อนข้างแป้กวัดจากเสียงหัวเราะทั้งของตัวเองและในโรงหนัง ส่วนตัวแล้วคิดว่า มาจาก กลุ่มโปงลาง ที่ถูกดันเป็นกลุ่มตัวนำ แต่ความขำกลับมาจากกลุ่มสมทบอย่างค่อมหรือโก๊ะตี๋ ความขำของทีมโปงลางถูกลดทอนลงจากการแสดงบนเวทีเป็นอย่างมาก และเป็นตัวอย่างที่ให้เห็นว่า จังหวะการแสดงบนเวทีกับจังหวะในการเล่นหนังนั้นไม่เหมือนกัน อย่าง ลาลา ลูลู่ ที่ตัวเองดูแล้วตลกมีอยู่มุกเดียวซึ่งก็คือมุกที่อยู่ในตัวอย่าง นอกนั้นหลายมุกเป็นมุกยืดเยื้อที่รู้ว่าไม่ขำแต่ก็พยายามลากให้ขำจนรู้สึกเบื่อ

มุกหลายๆมุกเป็นเหมือนการรีไซเคิลจาก แสบสนิทฯ เช่นมุกประกบกับผี แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผล เพราะ นักแสดงไม่ได้รับส่งกันได้ลงตัวเหมือนเมื่อครั้งแสบสนิทฯ และ ที่น่าผิดหวังคือหนังกลับไปเล่นกับความรุนแรงและสิ่งปฏิกูลจนน่ารังเกียจมากกว่าน่าจะขำ

และนั่นทำให้ โปงลางสะดิ้งฯ เหมือน ครึ่งก้าวที่เดินถอยหลังจากแสบสนิทฯ อย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ แสบสนิท ฯอุตส่าห์เดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าวใหญ่ๆจาก พยัคฆ์ร้ายฯไปแล้ว

สรุป ... พอมีให้ขำอยู่บ้าง ถ้าเครียดๆไปดูแบบไม่คิดอะไรก็ได้คลายเครียด แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่า รอแผ่นก็ได้ ยิ่งถ้าชอบ แสบสนิท ฯ ไปดูได้แต่ขำน้อยลงครึ่งครึ่ง แต่ถ้าไม่เคยดู แสบสนิทฯ ไปหาเช่าแสบสนิทฯมาดูดีกว่าหลายเท่า ยิ่งถ้าเช่ามาดูแล้วไม่ขำ ยิ่งไม่ต้องหวังอะไรจากหนังเรื่องนี้

คะแนนโหวต โปงลางสะดิ้งฯ จากเพื่อนๆผู้อ่านในพันทิป

แจ้งข่าวจาก จขบ. : องศาที่ 361 ต้นเดือนธันวาคมแน่นอนแล้วว่า รอเจอ องศาที่ 361 พ็อกเก็ตบุ้คเล่มที่ 2 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ที่จะนำ หนัง มาเป็น สะพาน ให้ผู้อ่านเข้าใจตัวเองและพบมุมเล็กๆที่จะทำให้มีความสุขในชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม ที่ร้านหนังสือใกล้บ้านท่านนะค้าบ

ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม

ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง