www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Twilight + The Duchess + Teeth , (สัปดาห์หนังพลังหญิง) อาทิตย์นี้ ผู้หญิง ครองโรง

....อาทิตย์นี้ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่า เป็นสัปดาห์ผู้หญิงครองโรง

เริ่มจาก เจ้าแม่ Twilight



...บางคนดูหนังตัวอย่างแล้วคาดหวังว่าตื่นเต้นประมาณ แอคชั่นแวมไพร์ไล่กัดคอ แต่ โชคดีที่ตัวเองอ่านนิยายมาก่อน เลยทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่า มันคงไม่มันส์เหมือนหนังตัวอย่าง

ขอเล่าท้าวความไปในงานสัปดาห์หนังสือครั้งล่าสุด ตอนต่อคิวเพื่อจะซื้อนิยายTwilight เพราะเห็นว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับแวมไพร์ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทเลือด สร้างออกมาอีกสามสี่ภาค และ กำลังจะสร้างเป็นหนังออกมา เรียกง่ายๆว่า เป็นลิสต์หนังสือที่ซื้อตามกระแส

เพียงสงสัยว่า ไหงคนที่ซื้อข้างหน้ามีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น และปกหนังสือก็ออกแนวหวานๆ กลับมาพอ อ่านๆไปซักพักก็เข้าใจว่าทำไมขายดี และมี สาว กรี๊ดดดดดด ตรึม

...เกินกว่า 80% เป็นเนื้อหาที่ดำเนินเรื่องจากมุมมองของตัวละครวัยรุ่นสาว เบลล่า ที่ย้ายบ้านย้ายโรงเรียนมาอยู่กับพ่อ เพราะแม่ต้องเดินทางบ่อยๆกับแฟนใหม่ และ ที่โรงเรียนใหม่เธอพบกับ เอ็ดเวิร์ด ชายหนุ่มที่โปรไฟล์แหล่มเริ่ด

พระเอกใน Twilight เป็นตัวอย่างที่ดีให้ศึกษา หากใครคิดจะเขียนนิยายมัดใจสาวๆแล้วมองหาคุณลักษณะ ผู้ชายในฝัน เพราะเอ็ดเวิร์ดในนิยายนั้น ทั้ง

1.หล่อ
2.รวย
3.พลังสมองดี
4.พลังกายแกร่ง
5.จิตใจงาม

และ ตามนิยายทั่วๆไป หากเราจะเขียนจุดอ่อนในตัวละครผู้ชายให้มีอันตราย ก็อาจจะเป็น ขี้โมโห , ขี้เหล้า , เจ้าชู้ ฯลฯ ชวนให้ออกห่าง แต่ จุดอ่อนของ เอ็ดเวิร์ด คือ เขาเป็นแวมไพร์ และ เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับสาวๆได้ ก็คือ โดนพ่อเจ้าประคุณรุนช่อง กัดซอกคอ ซึ่งถ้าเจ้าตัวไม่หมั่นเขี้ยวคิดจะกัดให้ตาย ก็จะแปรสภาพกลายเป็นแวมไพร์คู่กัน ซึ่งสำหรับสาวๆหลายคนมันไม่ได้ชวนหนีหายเลยแม้แต่น้อย



...เนื้อหากว่าค่อนเล่มจึงเป็นในแนว ‘แอบรักเธออยู่แต่ก็รู้ว่าไม่ได้’ ในฝั่งชายที่ถึงแม้จะรักก็ต้องพยายามผลักไส เพราะ กลัวจะห้ามสัญชาติญาณดิบตัวเองไม่ไหว เผลอดูดเลือดแทนที่จะฝากรอยจุมพิต เป็นการต่อสู้ระหว่างสัญชาตญาณดิบ กับ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมา ซึ่งแบบนี้แหละ ที่สาวๆหลงใหล

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงใช้เวลาอ่านนิยายเรื่องนี้นาน เพราะอ่านแล้วพัก พักแล้วอ่าน อยู่หลายรอบ คือ ไม่ใช่ นิยายไม่ดี เพียงแต่สไตล์ ผู้ญิ๊งผู้หญิง แบบนี้ ไม่เข้าทางของตัวเอง อารมณ์เดียวกับที่ตัวเองเหมือน ตัวประหลาดหน้าโหดตอนเดินฝ่าฝูงชนในบูธสนพ.แจ่มใส ตามงานสัปดาห์หนังสือ

และ ก็ด้วยเหตุนี้อีกเช่นกัน ที่ทำให้ตอนดูหนัง รู้สึกชอบใจ มากกว่าตอนอ่านหนังสือ เพราะ หนังไม่ได้ออกแนวผู้ยิ๊งผู้หญิงมากเกิน มีการหยอดอารมณ์ขัน กุ๊กกิ๊ก สลับ แอคชั่น ที่ในนิยายมีประมาณน้ำจิ้มตรงช่วงท้ายๆ แต่ในหนังสอดแทรกตั้งแต่ต้นนิดๆ ไม่ให้ง่วง



...Twilight เป็นตัวอย่างที่ดีในการดัดแปลง นิยายที่มีแฟนคลับจำนวนมาก ให้รายละเอียดออกมาใกล้เคียงเดิมมากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่การถ่ายหนังแบบถ่ายสำเนาหน้ากระดาษมาสู่หน้าจอล้วนๆ

คนเขียนบทรู้จักดัดแปลงให้เหมาะสำหรับการทำเป็นหนัง หากจะมีส่วนที่แย่สำหรับคนไม่เคยอ่านนิยาย ก็มีอยู่แค่ว่า หนังไม่ทำให้รู้สึกคล้อยตามความรู้สึกของ คู่พระนาง ในตอนต้นว่า ทำไมพบกันแค่นั้น ถึงรักกันได้มากมายปานฉะนี้

วิวสวยๆ ดูแล้วสบายตา กับ บรรยากาศกุ๊กกิ๊กคิกขุหวานๆ ดูแล้วสบายใจ ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนตอนอ่านนิยาย เสียดายแค่งานด้านเทคนิกดูเชยๆไปหน่อย



และ สงสัยแบบหาเรื่องจับผิดทีมงานนิดนึงว่า ฝ่ายเมคอัพไม่เปลืองแป้งไปหน่อยหรือ กับ การที่ ตระกูลคัลเลน ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นแวมไพร์ แต่ดันให้ โบ๊ะหน้าขาวว่อกซะปานนั้น

Twilight คือ หนังพลังหญิง เพราะ นิยายเขียนโดยผู้หญิง ผู้กำกับเป็นผู้หญิง คนเขียนบทผู้หญิง และ ถึงแม้นักแสดงหลักจะเป็นเด็กสาวคนเดียวกับลูกโจดี้ ฟอสเตอร์ในหนัง Panc room แต่เสียงกรี๊ดดดดด ในโรงหนังนั้น เป็น พลังเสียงผู้หญิงแทบทั้งสิ้นเมื่อหน้าขาวๆปากแดงๆของ โรเบิร์ต แพททินสัน ปรากฏกาย

ตัวหนังได้รับการยืนยันแล้วว่า จะสร้างต่อมาอีกสองภาค จากนิยายที่ออกมาแล้ว สี่เล่ม คงต้องติดตามกันต่อไปว่า เสียงกรี๊ดดดด จากสาวๆจะช่วยโปรเจคต์นี้ไปได้ไกลสักเพียงใด

ส่วนตัวแล้วเวอร์ชั่นหนังที่ออกมา คงตามต่อ แต่เวอร์ชั่นนิยาย คงต้องบอกลาไว้แค่ภาคแรกนี้เท่านั้น



... หนังเรื่องที่สองที่เข้าฉายโรงสัปดาห์นี้ มีจุดขายหลักๆคือ เป็น หนังที่สร้างมาจากประวัติชีวิตจริงของต้นตระกูลของเจ้าหญิงไดอาน่า และ ตัวเอกก็มีชะตาที่ผู้สร้างอ้างว่า คล้ายๆกัน

เป็นเรื่องของ ผู้หญิง เสียยิ่งกว่า Twilight เพราะ ตัวหนัง ก็มีความเกี่ยวพันกับผู้หญิงตั้งแต่ชื่อเรื่อง รวมถึงตัวละครนำ จอเจียน่า ในหนังชื่อ The Duchess





...จอเจียน่า รับบทโดย คีร่า ไนท์ลี่ย์ นักแสดงสาวที่มีดวงชงกับหนังพีเรียดเสมอมา เล่นเรื่องไหนก็ไปโลด ที่ถูกโฉลกที่สุดที่นึกได้คือหนังที่งดงามเหลือแสนอย่าง Pride & Prejudice ซึ่ง บทของเธอก็คล้ายๆกันคือ ถูกแม่จับแต่งงานกับชายหนุ่มผู้ร่ำรวย

พระเอกของ คีร่า ในหนังย้อนยุคสองเรื่องนี้ มีอะไรคล้ายๆกัน

พระเอกใน Pride & Prejudice มีบุคลิก ฉากหน้าเย็นชาแต่ฉากหลังจิตใจงาม ส่วน พระเอกใน The Duchess ก็มีฉากหน้าเย็นชาเหมือนกัน

แต่

ฉากหลังเขาไม่ได้เป็นคนน่ารักจิตใจงาม หากแต่น่ารังเกียจ คือ เต็มไปด้วยบุคลิกของเด็กที่เอาแต่ใจ มองผู้หญิงเป็นโรงงานที่ต้องการนำมาผลิตลูกชาย พาผู้หญิงเข้าบ้านแบบไม่เกรงใจภรรยา และ กดขี่ข่มเหงสตรีได้ทุกรูปแบบ ทั้ง วาจา กริยา และ ทางเพศ

เรียกได้ว่า เข้าข่ายการกระทำรุนแรงสตรีแทบทุกด้าน ทั้ง ทารุณกรรมทางเพศ เช่น ข่มขืน (Sexual abuse) และ ทารุณกรรมทางอารมณ์ให้เจ็บช้ำไม่หยุดหย่อน (Emotional abuse)




...ยุคสมัยนั้นยังไม่มีองค์กรเพื่อสตรีเหมือนทุกวันนี้ ดังนั้น คนเป็นภรรยาถูกสามีข่มขืน ก็มิมีใครช่วยได้ แถมเธอจะขอหย่าก็ไม่ได้ เป็นได้แค่ ที่ระบายของฝ่ายชายเท่านั้น

โชคดีอยู่อย่างสำหรับ จอเจียน่า คือ เป็นคนฉลาดวางตัว รู้จักการเข้าสังคม จุดแข็งที่มีคือ เธอเป็น ราชินีแห่งแฟชั่น ไปที่ไหนที่นั่นฮือฮาประมาณ เซเล็บดังๆคนหนึ่ง

จุดหักเหสำคัญ เมื่อเธอพบชายหนุ่มผู้เป็นรักแท้แต่มาในวันที่สายเกินไป เธอจึงต้องบริหารจิตใจยกใหญ่ เพราะต้องตัดสินใจว่า จะอยู่อย่างไรให้ไม่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างสามี และ มีความรักที่สุขสมหวัง ในขณะที่สังคมรอบข้างจับตามองอย่างใกล้ชิด



...The Duchess เข้าข่าย หนังพีเรียดแบบวิลิศมาหราดูดี เหมาะสำหรับคนชอบหนังแนวนี้ เสียแต่หนังไม่มีจุดเด่นอะไรที่น่าจดจำเป็นพิเศษ

คีร่าเล่นได้ดี แต่เรื่องอื่นเธอมีเสน่ห์กว่า(ยกเว้นเรื่องนี้ที่ต้องโชว์เนื้อหนังมังสาเยอะกว่า) หรือ บทเนื้อหาทำนองนี้ก็เห็นมามาก และหลายเรื่องที่ทำมาก็เข้มข้นมากกว่า

สิ่งที่เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน คือหนังไม่ได้พยายามบิวต์อารมณ์ หรือ ใส่สีสันตัวละครให้สุดขั้วเกินเหตุ จนทำให้หนังดูออกมาเรื่อยๆกลางๆ ค่อนข้างจืดจาง ไม่เร้าอารมณ์คนดูเท่าไหร่นัก

ตัวละครที่น่าสนใจชวนให้เนื้อเรื่องน่าติดตาม กลับไม่ใช่ เลดี้จอไจน่า แต่เป็น ท่านดยุคผู้เย็นชาที่เห็นหมาดีกว่าเมียมาเกือบทั้งเรื่อง พอเข้าช่วงท้ายๆ เราก็จะได้เห็นว่า เขาก็ใช่จะเลวสมบูรณ์แบบ เพียงแต่ เขาเติบโตมาด้วยบุคลิกเย็นชาที่แสดงออกอารมณ์และทนุถนอมคนอื่นไม่เป็น แต่ตัวเขาเองนั้นก็อยากจะปรับปรุง




...หนังชวนให้เราเอาใจช่วยและอินไปกับชะตากรรมของ จอเจียน่า ได้น้อยเกินไป แต่ ภาพรวมส่วนใหญ่ก็ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับ จริตจะก้านอันทรงเสน่ห์ของ คีร่า ไปได้จนจบทั้งๆที่ไม่มีอะไรใหม่ๆ เหมือนเห็นภาพเธอจากหนังเก่าๆเข้ามาซ้อนทับในเรื่องราวใหม่เท่านั้น

ที่แอบหวังๆลึกคือ นึกว่า ป้าเฮี้ยน ชาล็อต แรมบลิ้ง จะมีทีเด็ดอะไรออกมา แต่ ป้าไม่ได้ปล่อยทีเด็ดมากมาย ส่วน ราฟ ไฟน์ กับบทที่เหมือนซ้ำๆช้ำๆที่เขาเคยเล่น แต่ก็เป็นคนที่เล่นได้ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้




...Teeth คือ หนังเรื่องสุดท้าย ไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะ เป็นเรื่องของผู้หญิงเสียยิ่งกว่าสองเรื่องข้างต้น สำหรับ เรื่องราวของวัยรุ่นสาวที่มีช่องคลอดมีฟันที่พร้อมจะกัดหั่นเจ้าโลกที่ริอาจเข้ามาบุกรุก

พล็อตเรื่องย่อๆอาจจะเหมือนหนังโป๊หรือหนังลามกเกรดบี แต่ หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

Teeth

เป็นหนังอินดี้หนังอาร์ตที่สะท้อนปัญหาสังคม

เป็นหนังตลกร้ายเสียดสีผู้ใหญ่ในสังคมที่นิยมสอนเด็กๆแบบควบคุมสุดฤทธิ์ไม่ปล่อยให้คิดเอง

เป็นหนังที่มีนัยเฟมินิสต์ที่หลายเรื่องอาจจะเคยคิดลึกๆแต่ยังไม่กล้าสร้างออกมา

เป็นหนังที่พูดถึง การล้างแค้นของอิสตรี โดยใช้ ความเป็นเพศหญิง จัดการลงโทษต่อ ความเป็นชายห่วยๆ ได้แสบสันต์ที่สุดในโลกภาพยนตร์


... ตัวหนังอาจไม่ได้ดูสนุกมากมายนัก แต่ความแรงและสารที่หนังนำเสนอ คุณผู้หญิง ดูแล้วน่าจะสะใจ ส่วน คุณผู้ชาย อาจจะหวั่นใจ

เขียนเรื่องนี้ไว้แล้ว จึงคงไม่เขียนซ้ำ ชวนไปคลิกอ่านต่อได้ที่นี่ครับ --> Teeth , จาก 'จิ๊มิ๊มีฟัน' สู่ พรหมจรรย์ ความบริสุทธิ์ และ กองเซ็นเซ่อร์



สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com




พื้นที่แนะนำผลงาน{ตัวเอง}

(คลิกที่รูปหนังสือ เพื่อ อ่าน หรือ แสดงความเห็น ต่อหนังสือแต่ละเล่มได้เลยครับ)

ปีนี้ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ขอฝากผลงานเล่มล่าสุดที่เพิ่งคลอดจ้า อันว่าด้วย 'ความรักและกำลังใจ' ผ่านแรงบันดาลใจจากชีวิตและภาพยนตร์ ในหนังสือที่ชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป



และ ผลงานสองเล่มก่อน จากสองปีที่ผ่านมา



"หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม กับ องศาที่ 361 หนังสือที่อาสาช่วยคุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2551
16 comments
Last Update : 2 ธันวาคม 2551 5:13:53 น.
Counter : 8983 Pageviews.

 

สั้น ๆ ง่าย ๆ สำหรับเรื่อง Twilight คือ
นางเอกน่ารักมากครับ

 

โดย: เอ IP: 202.91.23.3 1 ธันวาคม 2551 16:20:38 น.  

 

อยากอ่านหนังสือทไวไลท์จังเลย
ตอนนี้ไปที่ไหนก็หมด

 

โดย: เอ้ IP: 124.120.0.42 1 ธันวาคม 2551 17:30:59 น.  

 

Twilight เราเป็นผู้หญิงอ่านไปบางตอนยังเลี่ยนเลย

แต่คิดว่าน่าจะออกมาเป็นหนังได้ดี อย่างนี้แหละ ชอบบบบ... ^_^

 

โดย: EkNoT IP: 58.147.39.165 1 ธันวาคม 2551 17:41:43 น.  

 

Twilight ซื้อตั้งแต่หนังสืออกใหม่ๆ ยังไม่มีข่าวการสร้างหนัง
ตอนแรกคิดว่าน่าจะมันส์ๆ หนาอย กลายเป็นโรแมนติคมากกกกกไปซะได้
แต่ก็ไม่ผิดหวังเท่าไหร่ค่ะ (เล่มหลังๆ นี่ไม่ค่อนชอบเท่าเล่มแรก)

พอดูหนัง รู้สึกชอบหนังนะ หนังเก็บรายละเอียดได้ดีค่ะ อาจจะไม่ได้ดีเยี่ยมยอด แต่ก็สนุกไประดับนึง
มีภาค 2 ออกมา ก็หวังว่าจะสนุกกว่าหนังสือนะคะ เพราะหนังสือมันอึดๆ ไปบางช่วง

 

โดย: Vicky IP: 58.9.86.188 1 ธันวาคม 2551 17:45:55 น.  

 

ชอบ twilight มากคะ
เอ็ดเวิด เนี่ย ชายในฝันเรย
อิอิ

 

โดย: clover IP: 222.123.191.82 1 ธันวาคม 2551 20:22:34 น.  

 

ชอบKiera Knighley อยู่แล้วค่ะ จะตามไปดู

 

โดย: ป่วง IP: 124.120.240.49 1 ธันวาคม 2551 22:38:27 น.  

 

ที่ว่ามาได้ดูแค่ twilight อ่ะค่ะ
เป็นหนึ่งในพลังหญิงๆที่คิดว่าเอ็ดเวิร์ดน่ากรี๊ดมากมายเช่นกันค่ะ 555 คุณสมบัติครบขนาดนี้ อดใจยังไงไหว จริงมั้ยคะ ? ^^

 

โดย: hiyono IP: 125.25.30.69 1 ธันวาคม 2551 23:03:00 น.  

 

ไม่รู้จะว่ายังไงแต่มันก็น่ารักดีที่ได้ยินผู้ชายอ่านหนังสือหญิงๆแล้วมาเล่าสู่กันฟัง

มันคงขื่นขมพอๆกับการถูกบังคับให้ใส่อะไรสีชมพูล่ะมั้ง(ในความคิดของเรานะคะ)
แต่พระเอกก็หล่อจริงๆแหละค่ะ อดใจไม่กรี๊ดไม่ไหวแล้ว

 

โดย: อนัญชนินทร์ 3 ธันวาคม 2551 0:52:23 น.  

 

จริงๆอยากให้ลองอ่านจนถึงเล่ม 3 (eclipse) นะค่ะ
แล้วจะรู้ว่าความรักของedward ปรารถนาให้นางเอกมีความสุขแม้ตัวเองจะผิดหวังก็ตาม
และที่ผู้หญิงชอบกันมาก อาจเพราะในความเป็นจริงเรายังไม่พบผู้ชายที่ดีมากๆในทุกด้านแบบพระเอกมั้ง อิ อิ

 

โดย: orange IP: 125.25.14.182 3 ธันวาคม 2551 0:55:46 น.  

 

Twilight ชอบหนังมากกว่าหนังสือเหมือนกันค่ะ ตัดทอนช่วงที่เรื่อยๆ ออกไป และปรุงแต่งปรับให้โอเคขึ้น
เราชอบหนังสือเล่ม 2-3 ในชุดนี้มากกว่าเล่มแรกนะคะ ดูมีอะไรให้ลุ้นมากกว่า เล่มแรกเรียบเรื่อยไปหน่อย

 

โดย: นายน้อย IP: 58.9.127.231 4 ธันวาคม 2551 1:17:43 น.  

 

ไม่รู้เลยนะคะเนี่ย ว่านางเอกคือลูกของป้าโจดี้ในเรื่องนั้นน่ะ
จำหน้าน้องหนูไม่ได้ซะแล้วล่ะค่ะ

ป.ล. ว่าแต่ทำให้อยากอ่านเรื่อง Twilight ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ
พล็อตแบบนี้ กุ้งแพ้ทางงงง

 

โดย: ลิปดา - พิลิปดา IP: 58.9.8.123 4 ธันวาคม 2551 14:54:22 น.  

 

+ ผมเพิ่งได้ดู Twilight เมื่อวานนี้ ส่วน The duchess ได้ดูจากบัตรฟรีน้องนัทไปพักนึงแล้ว ... และเอาทั้ง 2 เรื่องไปแปะไว้ที่ยาริสหมดแล้วนะขอรับ

 

โดย: บลูยอชท์ 4 ธันวาคม 2551 18:17:35 น.  

 

แวะเข้ามาดูค่ะ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกเยอะเลยค่ะ

 

โดย: เมลอนเชอร์เบท 14 ธันวาคม 2551 21:20:06 น.  

 

Twilight เหรอ กรี๊ดๆๆๆ พระเอกหล่อ

 

โดย: พริมภิพัทรา 16 ธันวาคม 2551 1:56:04 น.  

 

วันก่อนเข้าไปอ่านในฟอรัมของสาวๆ ที่เมกา ก็ประมาณว่า ทำไมเอ็ดเค้าถึงสามารถมัดใจสาวๆ ทั่วโลกได้ ก็คงเป็นเพราะว่า
1.หล่อ ถึงแม้จะไม่ล่ำ อิอิ
2.รวย
3.พลังสมองดี
4.พลังกายแกร่ง
5.จิตใจงาม
ุ6. หล่อมั่กๆ ๆ
นี่แหละคือผู้ชายในอุดมคติของสาวๆ เซึ่งหายากมาก ในฟอรัมที่เมกาที่ผมเข้าไปอ่านชื่อก็แอบแดกดันผู้ชายนิดนึง ประมาณว่า พออ่านทไวไลท์จบแล้ว ก็คิดว่าเริ่มหาความเป็นสุภาพบุรุษในตัวผู้ชายสมัยนี่ยากจริงๆ แต่ยังไงก็ต้องมีคนดีๆ มั้งแหละ ว่ามั้ย

 

โดย: woodysak 20 ธันวาคม 2551 7:19:45 น.  

 

เมื่อวานนี้ออกไปเดินเล่นที่ปารีสเราเห็นป้ายทไวไลท์ภาค5 จะออกฉายเดือน พ.ย ที่เมืองไทยอยากให้ทุกคนไปดูจัง

 

โดย: kam IP: 110.77.136.73 24 กันยายน 2555 21:59:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.