"ดีแทค" เผยผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2556 โชว์รายได้จากการให้บริการเติบโตต่อเนื่อง ยอดขายสมาร์ทโฟนพุ่ง สวนกระแสเศรษฐกิจซบเซา คาดโอนย้ายลูกค้าสู่ 3จี 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ได้หมดภายในสิ้นปี...

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 57 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ประจำปี 2556 โดยระบุว่า มีจุดเด่นอยูที่รายได้จากการให้บริการ ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย รายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์ที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 47.6% ของไตรมาสเดียวกันในปี 2555

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองและการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น แต่บริษัทสามารถลดต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ (Regulatory Cost) ที่ลูกค้าโอนย้ายเข้ามาสู่ดีแทค ไตรเน็ต ซึ่งปัจจุบันมียอดลูกค้าโอนย้ายมาจนถึงสิ้นปี 2556 ราว 12 ล้านราย ถือเป็นตัวเลขมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ โดยจากการโอนย้ายเข้ามาอย่างรวดเร็วของลูกค้า จึงคาดว่าบริษัทจะสามารถโอนย้ายลูกค้าเกือบทั้งหมดได้ภายในสิ้นปี 2557

ทั้งนี้ เชื่อว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนของดีแทคเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลจากการทำตลาดดีแทค ไตรเน็ต โฟนและราคาสมาร์ทโฟนที่ลดลงในตลาด ส่งผลให้มีการเติบโตของรายได้ บริการอินเทอร์เน็ต และความต้องการของลูกค้าที่ต้องการโอนย้ายสู่ระบบ 3จี 2.1 กิกะเฮิรตซ์

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า รายได้การให้บริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความสำเร็จจากการจัดแคมเปญต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเครือข่ายอื่นย้ายเข้ามาใช้ดีแทค ไตรเน็ต และแคมเปญยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการกับดีแทคตลอดมา

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันดีแทคและดีแทค ไตรเน็ต มีสถานีฐานรวมกันประมาณ 20,000 สถานี ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมจำนวนประชากร 80% ได้ภายในสิ้นปีนี้ และบริษัทจะยังคงพัฒนาสถานีฐานต่อไป เพื่อสร้างความพึงพอใจในการใช้บริการให้ลูกค้าดีแทคอย่างต่อเนื่อง.