ชะตากรรมของ โนเกีย พลิกผันไปจากเดิมมาก ถ้าหากไม่โดนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เข้ามาแทนที่ซะก่อน แถมล่าสุดบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งสด ๆ ร้อน ๆ อย่าง นิวเกีย เตรียมยึดสิ่งที่โนเกียมีเท่าที่จะทำได้อีกต่างหาก...

เป็นที่พูดถึง หลังมีการเผยบทสัมภาษณ์ของ โทมัส ซิเลียกัส ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง โมบายล์ ฟิวเจอร์เวิร์ค ที่พูดอย่างตรงไปตรงมา เมื่อถูกถามถึงมุมมอง กรณีที่ไมโครซอฟท์เข้าซื้ออุปกรณ์และระบบบริการของโนเกีย ในราคากว่า 7.2 ล้านดอลลาร์

"เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของไมโครซอฟท์ …. ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โนเกีย ถือว่าเป็นผู้นำเรื่องโทรศัพท์มือถือในตลาดโลก ตรงข้ามกับปัจจุบัน โนเกียกลายเป็นแบรนด์ที่ทั้งเล็ก ทั้งไร้ความสำคัญ ราคาที่ถูกประกาศออกมา เป็นตัวเลขแค่ 2% ของมูลค่าตลาดของโนเกียตลอด 10 ปีที่ผ่านมา "

โทมัส ซิเลียกัส ใช้เวลากว่า 15 ปี ปัจจุบันเขาเป็นผู้ประกอบการด้านการลงทุนด้านการสื่อสารในบริษัท โมบายล์ ฟิวเจอร์เวิร์ค โดยมีอดีตที่ปรึกษา และผู้บริหารบริษัทโนเกีย อย่าง จอร์ม่า นีมมิเน็ม และ อดีตผู้บริหารอีริคสัน สเวน คริสเตอร์ นีลสัน  มาร่วมก่อตั้งด้วย

ภาพจาก stasiareport.com/the-big-story/asia-report/singapore/story/yuuzuu-be-listed-sgx-after-reverse-takeover-20130504

ทั้งนี้ ซิเลียกัส พยายามจะซื้อโนเกียเมื่อปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย จะเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ที่จะโฟกัสระบบแอนดรอยด์ แต่เพราะเงินทุนไม่ถึง ทุกอย่างจึงชะงัก โดย ส่วนตัวเชื่อว่า โนเกีย ยังสามารถสร้างมือถือที่ดีที่สุดในโลกได้อยู่ โดยเฉพาะ ลูเมีย คอลเลกชั่น (Lumia Collections) ที่มีการตอบรับที่ดีจากตลาด

"แต่ลูกค้าไม่ต้องการระบบปฏิบัติการวินโดวส์หรอก เพราะว่ามันขาด "อีโคซิสเต็ม" หรือสภาพแวดล้อมที่หมายถึงสินค้า และบริการ ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่อง ระบบปฏิบัติการ แอพพลิเคชั่น บริการเสริม และ ชุมนุมนักพัฒนา อีกทั้ง แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ก็มีไม่พอ ซึ่งวินโดวส์โฟน มีส่วนแบ่งทางการตลาดน้อยมาก สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการจะพัฒนาระบบปฏิบัติการ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ของไมโครซอฟท์ ที่ดูไม่เร้าร้อน (Sexy) เอาซะเลย นักพัฒนาคงรู้สึกว่า ระบบนี้มันช่างเย็นชืด เมื่อเที่ยบกับระบบ แอนดรอยด์ หรือ ไอโอเอส (iOS) ของแอปเปิล" ปธ.กก.บริหารและผู้ก่อตั้ง โมบายล์ ฟิวเจอร์เวิร์ค กล่าว

ทั้งนี้ ซิเลียกัส ยังรู้สึกยินดีกับการเข้าซื้อของไมโครซอฟท์ เพราะเป็นการเปิดช่องทางให้กับบริษัทของเขา ที่ตอนนี้กำลังฉกฉวยและรวบรวมเทคโนโลยีของโนเกียเอาไว้

"เราได้สร้างนิวเกียขึ้นในวันที่โนเกียได้ถูกขายให้ไมโครซอฟท์ ตอนที่โนเกียล้มที่ฟินแลนด์ โนเกียที่เกิดหลังจากนั้นก็คือ นิวเกียนั่นแหละ ผมรู้จักพนักงานโนเกียจำนวนมากที่มีความกระตือรือร้น อยากจะพัฒนาระบบแอนดรอยด์ใจจะขาด และอยากจะเข้ามาร่วมกับเรา...ผมเชื่ออย่างหนักแน่นว่า โนเกีย ยังมีสิ่งที่ดีที่สุดอยู่ ในฐานะโทรศัพท์มือถือ และเราอยากให้คนดี ๆ มาร่วมมือกับเรา"

โทมัส ซิเลียกัส มีความพร้อมอย่างมากในการรวมอดีตพนักงานของโนเกีย และหวังที่จะได้รับผู้ชำนาญเข้าสู่สายพานการผลิต จากการออกแบบสมาร์ทโฟน รวมถึงระบบขนส่งเพื่ออุตสาหกรรมการผลิต

ขณะนี้ที่ตั้งบริษัทอยู่ที่สิงคโปร์ นิวเกีย วางแผนที่จะเริ่มจากแก่น โดยการวิจัยและพัฒนาทีมที่เคยอยู่ที่ฟินแลนด์ รวมถึงจะวิจัยและพัฒนาแผนกต่าง ๆ ในแต่ละพื้นที่ ที่มีศักยภาพอย่างเช่น ซิลิคอน วัลเลย์ เป็นต้น

"สิ่งที่นิวเกียจะทำ คือ การนำสิ่งที่โนเกียมี ทั้งเทคโนโลยี และ การออกแบบ เพื่อสร้างสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก โดยใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในการเดินหน้า"

ซิเลียกัส ยังไม่ได้กำหนดตัวเลขทางการตลาดสำหรับบริษัทใหม่ของเขา แต่เขาได้เริ่มมองเรื่องการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของบริษัท ที่จะเปิดตัวในปีนี้เอาไว้แล้ว ช้าเร็วขึ้นอยู่กับการระดมทุน และการรวมทีมเพื่อพร้อมต่อการปฏิบัติการ

ทั้งนี้ โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาการผลิตและการกระจายตัวของโทรศัพท์มือถือเกิดขึ้นง่ายมาก คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเองเหมือนที่โนเกียทำ คุณสามารถบรรลุเป้าหมายทางการตลอดได้อย่างง่าย เพียงแค่มีสินค้าที่ถูกต้อง และ มีแนวคิดที่ดี  เช่น โรงงานผลิตในประเทศจีนเป็นต้น ทุกวันนี้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในจีน สร้างมูลค่าอย่างต่ำ 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ซึ่งแน่นอน นั่นเป็นทางเลือกที่นิวเกียสนใจ

หากให้ ซิเลียกัส มองว่าจุดไหนที่ทำให้ โนเกียพลาดท่า เข้าเผยว่า โนเกียหยิ่งเกินไป "พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะชนะตลอดไป พวกเขาไม่ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของตลาดและผู้บริโภค ที่ต้องการสิ่งที่แตกต่าง อย่างเช่น เทคโนโลยีขั้นสูง เมื่อปี 2003 เรามีตัวต้นแบบที่ดีที่สุด หน้าตาเหมือนไอโฟนเลยด้วยซ้ำ แต่เขาไม่ปล่อยมันออกสู่ตลาด เขาปฏิเสธพร้อมกับบอกว่า ตลาดไม่ได้สนใจสิ่งแบบนี้แน่อน".