All Blog
กรรมสิทธิ์หัวใจ ตอนที่ ๑๓ (๒)
ตอนที่ ๑๓ (๒)

“ลุงจ๊ะ” เสียงใสๆที่ร้องทักจากข้างหลังทำให้นายก้านที่กำลังง่วนกับการรดน้ำต้นกุหลาบริมกำแพงต้องหันไปมอง อดีตคนขับรถวัยหกสิบหกเห็นเด็กสาวผมยาว หน้าตาสดใสเดินลิ่วๆตัดสนามหญ้าเข้ามา


                “ทำอะไรอยู่หรือจ๊ะ” สาวน้อยถาม แม้สภาพการแต่งกาย เสื้อเชิ้ตเก่าๆสีเทา กางเกงขายาวและรองเท้าฟองน้ำสีดำนั้นไม่บ่งสักนิดว่าเด็กสาวคนนี้มีสถานภาพดีกว่าคนใช้หรือคนงาน แต่นายก้านก็ยังตอบด้วยความสุภาพเกรงใจ


“ก็รดน้ำ พรวนดิน ดูแลต้นไม้ทั่วๆไปละครับคุณ”


แต่เด็กสาวที่ถูกเรียก ‘คุณ’ กลับดูตกใจ


                “ลุง” วริณสิตาเบิกตานิดๆ “ลุงไม่ต้องเรียกจิ๊บว่าคุณหรอกนะจ๊ะ จิ๊บไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น”


อดีตคนขับรถคุณอังกาบยิ้มอย่างเอ็นดู นายก้านเองได้ยินกิติศัพท์เรื่องถ่อมตนคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะคนใช้จากปากเพื่อนร่วมอาชีพบ่าวอย่างนางบัวศรีก็เมื่อตอนหัวค่ำคืนวาน ยังจำได้อยู่ว่าตัวเองน่ะนั่งขำ


                ‘อพิโธ่อพิถังกะละมังหม้อน่ายายศรี! เด็กรับใช้อะไรคุณพีแกจะห่วงขนาดนั้น’


อดีตคนขับรถยังจำได้ดีอีกต่างหากว่าคนเล่าให้ฟังยังพยักหน้าเห็นด้วย


                ‘ก็นั่นซี ข้าก็คิดๆอยู่’


                ‘คิดอะไร แกคิดอะไรฮึ’


                ‘ก็คิดว่าคุณพี แกจะอุปการะเจ้าจิ๊บในฐานะไหนน่ะสิ’


                ‘อืม! ก็สงสัยจะให้เป็น...’


                ‘ไฮ้! หยุด! หยุดเชียวนะตาก้าน อย่าได้ไปคิดอกุศลเชียว ยังไงๆคุณพีเธอก็เป็นหลานของคุณอัง ระวังเถอะ คิดอะไรบาปกรรมขี้กลากจะกินหัว


นึกขึ้นมาอดีตคนขับรถก็ได้แต่ส่ายหน้าขำๆ


เออแน่ะ! ก็ยังไม่ทันพูดสักคำว่าท่านเจ้าบ้านอาจจะให้แม่หนูนี่เป็น...


น้องสาวละเอ้า!


ระหว่างกำลังคิดอยู่ด้วยความนึกขำ เสียงใสๆก็เอ่ย


                “ดูแลต้นไม้อยู่ใช่ไหมจ๊ะ งั้นให้จิ๊บช่วยนะ พรวนดินก็ได้” แล้วก็ไวเท่าคำพูดเมื่อเด็กสาวตรงเข้าไปคว้าส้อมพรวนที่นายก้านเตรียมไว้ แล้วนั่งลงแซะดินชื้นๆขึ้นมาทันที ทำเอาอดีตคนรถต้องห้ามเสียงหลง


                “โธ่!ๆ คุณๆ ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง เดี๋ยวขี้ดินจะเปื้อนเอา”


แต่คนถูกห้ามฟังเสียที่ไหน สาวน้อยตอบฉะฉานมั่นใจ


                “เปื้อนเดี๋ยวก็ซักเอาก็ได้ ไม่เห็นเป็นไรเลย”


“โธ่คุณ!” นายก้านได้แต่ร้องครางพลางเกาหัวอยู่แกรกๆ ก็เพิ่งประจักษ์ตามไอ้คำบ่นของนางบัวศรีอีกอย่างไปจังๆ


                ‘โอย! ห้ามน่ะฟังที่ไหน ตื้อจะช่วยทำให้ได้ ข้านี่เสี้ยวเสียวว่าคุณพีเธอจะมาว่าเอาพิลึกล่ะ


เออ! นาทีนี้อดีตคนรถชักจะเข้าจหัวอกแม่บ้านขึ้นมาตะหงิดๆ


                “อือ ว่าแต่ทำไมกุหลาบพวกนี้ถึงโทรมอย่างนี้ล่ะจ๊ะ” วริณสิตาถาม มองดูแนวต้นกุหลาบที่ปลูกขนาบไปจนสุดกำแพงรั้วของบ้าน ถ้าแนวต้นกุหลาบไม่ได้มีหลายต้นที่ทรุดโทรมจนเหลือแต่ก้าน มันก็คงออกดอกสวยงามสร้างสีสันให้สนามหญ้าหน้าบ้านนี้ชวนมองแน่ๆ


                “มันก็ขาดคนดูแลน่ะครับคุณ ตั้งแต่คุณอังท่านเสีย เจ้าอ่ำที่มันทำหน้าที่เป็นคนสวนก็ออกไป ไอ้ลุงก็เป็นแต่คนขับรถมาตลอด พอจะเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นคนสวนให้คุ้มกับที่คุณพีท่านเมตตาให้อาศัยทำงานต่อมันก็ไม่ค่อยจะได้ความ จนยายศรีมันค่อนว่าลุงน่ะเป็นคนมือร้อน หยิบจับต้นไม้อะไรก็ตายหมด”


“โธ่! จิ๊บว่าไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” สาวน้อยบอก “ยายบอกว่า มือร้อนมือเย็นก็เป็นแค่คำอุปมาอุปมัย การดูแลต้นไม้ขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่และเข้าใจต้นไม้มากกว่า ต้นไม้แต่ละอย่างก็ต้องการน้ำต้องการอาหารไม่เท่ากันนะจ๊ะ อยู่โรงเรียนจิ๊บอ่านหนังสือเรื่องการเกษตรมาเยอะเลย จิ๊บชอบปลูกต้นไม้จ้ะ ที่บ้านจิ๊บนะจ๊ะมีสวนครัวที่ยายกับจิ๊บช่วยกันทำด้วย ลุงรู้มั้ย ผักสวนครัวเนี่ยช่วยได้เยอะเพราะจิ๊บกับยายไม่ต้องเจียดเงินไปซื้อผักที่ตลาดกินเลยนะจ๊ะลุง ประหยัดไปได้หลายเลยล่ะ”


วริณสิตาคลี่ยิ้มออกมายามบอกเล่า มันเป็นความสุขใจเมื่อได้นึกถึงวันเก่าๆที่อยู่กับยาย แม้จะอัตคัตขัดสนเงินทองกันบ้างในบางครั้ง แต่เธอก็มีความสุขตามอัตภาพของตนเอง นึกมาถึงตรงนี้รอยยิ้มสดใสก็เจื่อนลงไป เด็กสาวอดจะคิดถึงบ้านไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไร ต้นไม้ต้นไร่ของเธอจะเริ่มแห้งเหี่ยวขาดน้ำไปบ้างแล้วหรือไม่ และถ้าไม่มีใครไปใส่ใจดูแล สวนครัวของเธอก็คงจะหายไป...


                สาวน้อยพรวนดินใต้โคนกุหลาบด้วยท่าทีเซื่องซึมลง


                “จิ๊บ เจ้าจิ๊บ เจ้าจิ๊บเอ้ย!” เสียงเรียกที่ดังขึ้นส่งผลให้เจ้าของชื่อต้องเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะหันไปหาคนเป็นต้นเสียง ร่างเจ้าเนื้อของนางบัวศรีกำลังก้าวฉับๆเดินมาหาทั้งวริณสิตาและนายก้านด้วยหน้าตาที่ค่อนข้างขึงขังจริงจัง เห็นอย่างนั้นสาวน้อยก็รีบดีดตัวลุกขึ้นทันที แต่สีหน้ายุ่งๆของนางบัวศรีไม่คลายไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินเข้ามาถึงตัวเธอ


                “ไฮ้! มาทำอะไรอย่างนี้เนี่ย” แม่บ้านวัยหกสิบห้าบ่น พร้อมยื่นมืออูมๆมาจัดการดึงส้อมพรวนออกจากมือวริณสิตาจนสาวน้อยต้องร้องอ้าวด้วยความงุนงง


                “เดี๋ยวสิจ๊ะป้า อะไรกัน”


“จะมาด๋งมาเดี๋ยวอะไร ไปๆ ไปล้างมือให้สะอาดเดี๋ยวนี้เชียว”


                “ทำไมล่ะจ๊ะ” วริณสิตาไม่เข้าใจ ก็ก่อนที่จะออกมาที่สนามหน้าบ้านเธอก็บอกป้าบัวศรีแล้วว่าจะมาดูๆช่วยงานลุงก้าน แล้วทำไมป้าบัวศรีถึงได้ตามมาห้ามอีกเล่า


แม่วัยหกสิบห้าได้แต่ค้อนขวับประหลับประเหลือกกับคำถามนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้แจกแจงแถลงถึง—งาน—ที่เด็กสาวทำเข้าตัวเองอย่างเต็มๆ เสียงแตรรถยนต์ที่บีบยาวๆก็ดังขึ้น นางบัวศรีถึงกับสะดุ้งกับเสียงที่ดังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย สามชีวิตริมขอบสนามหญ้าต่างก็หันไปมอง แล้วก็ได้เห็นรถสปอร์ตสีดำแล่นปราดมาจอดรอหลังประตูรั้วอัลลอย และเมื่อเสียงบีบแตรยาวๆติดๆกันดังขึ้นอีกสองครั้ง ประตูรั้วหน้าบ้านที่ควบคุมด้วยรีโมทก็เปิดออก พร้อมๆกับรถสปอร์ตคันนั้นพุ่งทะยานเข้ามาด้วยความเร็ว อาคันตุกะผู้มาเยือนตอนเช้าขับรถวนอ้อมน้ำพุที่อยู่กลางสวนหย่อมหน้าบ้าน ก่อนพุ่งไปจอดเทียบเชิงบันไดหินอ่อนที่ตอนนี้ปรากฏร่างของเจ้าของบ้านหนุ่มออกมายืนต้อนรับ


                ไม่จำเป็นต้องทบทวนอะไรสักกระผีกวริณสิตาก็จำได้ ว่ารถคันนี้ก็คือคันที่เธอเห็นเมื่อคืน


                รถของ...หญิงสาวคนสำคัญ


และทันทีที่ร่างประเปรียวสวยสง่าในชุดทำงานสูทสีครีมเปิดประตูรถลงมา สิ่งแรกที่วริณสิตาได้เจอก็คือ...


สายตาซึ่งจ้องมาที่เธออย่างไม่มีกะพริบเลย!


...........






Free TextEditor



Create Date : 02 มีนาคม 2553
Last Update : 2 มีนาคม 2553 13:57:09 น.
Counter : 1687 Pageviews.

3 comments
  
ใช้ถ้อยคำได้ละเมียดละมัยมากค่ะ ทำให้เนื้อหาเข้าใจง่าย และน่าติดตามมากขึ้นเยอะโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลย ขอชื่นชมจากใจค่ะ
โดย: อ้อ IP: 223.204.202.128 วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:9:55:14 น.
  
สนุกมากตรงเนื้อหาที่พิถีพิถันนี้เเหล่ะ สนุกน่าติดตาม
โดย: ปาน IP: 77.187.11.58 วันที่: 26 กันยายน 2554 เวลา:21:31:21 น.
  
อาหารมื้อเช้า
โดย: fon IP: 49.48.110.65 วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:23:12:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

parinnada
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



แนะนำตัว
New Comments