Group Blog
All Blog
|
กรรมสิทธิ์หัวใจ ตอนที่ ๒๕ ตอนที่ ๒๕ การนนท์คลี่ยิ้มมุมปากเมื่อหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับพีรพัฒน์ ด้วยอารมณ์อย่างผู้ชาย แม้จะอายุน้อยกว่ามาก แต่เด็กหนุ่มไม่รู้สึกกริ่งเกรงอะไรเลย มีอะไรหรือครับ การนนท์จงใจจ้องหน้า เลิกคิ้วขึ้นมานิดๆ ต้องการอะไรรึเปล่า? แน่ละ กับสัญญาณท้าทายเล็กๆแบบนั้นผู้ชายด้วยกันมีหรือจะอ่านไม่ออก แต่พีรพัฒน์ก็พยายามตระหนัก บอกตนเองว่าเขาเป็นผู้ใหญ่เกินกว่าจะมาคิดใส่ใจท่าทียียวนของเด็กหนุ่มแล้ว เขาเหลือบตามองเฉพาะเด็กในปกครองของตัวเอง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้ แม้ใจจริงจะไม่ชอบเลยเหมือนกันที่คุณอมรให้วริณสิตาต้องมาเดินบริการเครื่องดื่มเช่นนี้ แต่ถ้ามันสุดวิสัย ตกในที่นั่งว่าจำเป็นต้องทำแล้ว พีรพัฒน์ก็หวังว่าเด็กในปกครองของเขาจะรู้เหมาะรู้สมบ้าง ทว่าจากที่เฝ้าดูมาพัก เขาไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างคาดหวังเลย นาทีนี้แม่สาวน้อยนั่นจะคิดอะไร อย่างไรน่ะเขาไม่รู้ เขารู้แต่ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่การอยู่ติดเป็นแพ็คคู่กับหลานชายเจ้าของงานโดยแต่งตัวผิดกันอย่างฟ้ากับเหว เป็นสิ่งไม่เหมาะสักเท่าไหร่! พีรพัฒน์ค่อนข้างเครียด คิดอยู่ว่าคงจะต้องเตือนให้ระวังเรื่องนี้บ้าง แต่ไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยเรียกชื่อวริณสิตาด้วยซ้ำ การนนท์ก็เข้าขวางหน้า อ้อ! หรือว่าคุณต้องการเครื่องดื่มสักแก้วล่ะครับ? พร้อมกันกับคำพูด หนุ่มน้อยดันถาดแก้วน้ำที่ถือในมือ เสือกพรวดเข้ามาเสียเกือบจะชนหน้าอกเขา พีรพัฒน์ชะงักทันที แน่ละสิ! หนนี้ตาจ้องตา สัญญาณท้าทายที่ส่งมา ชัดเจนนัก! พีรพัฒน์หรี่ตา ดูท่าปัญหาเรื่อง เพื่อนกัน ตัวติดกัน มันคงไม่ได้เกิดจากเด็กในปกครองของเขาเท่านั้นหรอก! ชายหนุ่มแค่นยิ้มเมื่อตัดสินใจหยิบค็อกเทลสีสวยขึ้นมาหนึ่งแก้ว ขอบใจ เขากล่าวเรียบๆเท่านั้นก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปทางเดิม หนุ่มน้อยหัวเราะเบาๆในคอก่อนหันกลับมาหาวริณสิตา ดวงหน้ายิ้มแป้น เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มได้แล้ว การนนท์พูด เด็กสาวค่อยๆเงยขึ้น เห็นเปล่า เราพูดน่ะ ผู้ปกครองจิ๊บว่าอะไรซะที่ไหน หนุ่มน้อยว่าอีก ยักคิ้วให้เมื่อคุยคล้ายจะอวด แต่วริณสิตาได้แต่ยิ้มเจื่อนจืด ความจริงแม้จะก้มหน้า แต่สาวน้อยก็แอบๆมองเหมือนกัน เพราะอย่างนั้นวริณสิตาก็เห็น เห็นตลอดตั้งแต่ตอนที่คุณพีเดินเข้ามา กระทั่งว่าตอนที่เขาไปและ...เขาไม่ได้แม้แต่จะชายหางตามาแลเธอเสียด้วยซ้ำ แล้วมันก็ประหลาดนัก เพราะเห็นมองมาหน้าบึ้งๆว่านึกกลัวแล้ว แต่การไม่มองเลยกลับทำให้รู้สึกแย่กว่า! เอ่อ...การนนท์ วริณสิตาเอ่ยเรียกค่อยๆ สาวน้อยเอื้อมมือไปแล้วออกแรงดึงถาดคืนจากหนุ่มน้อยอย่างเบาๆ คืนถาดให้เราเถอะ แต่แน่ล่ะ การนนท์ไม่ปล่อยหรอก หนุ่มน้อยเสียงเครียด จิ๊บ แต่คนถูกเรียกก็เงยหน้าขึ้น สบตาจริงจัง นะ อย่าทำให้เรารู้สึกลำบากใจเลย เท่านั้นก็ชัด ความหวังดี อยากช่วยเหลือ อยากอยู่ใกล้ของเขาอาจทำให้วริณสิตาต้องรู้สึกลำบากใจ! การนนท์รู้สึกเหมือนถูกฟาดด้วยท่อนไม้หนักๆไม่มีผิด! ขอโทษนะ...แต่เราหวังว่า...การนนท์คงเข้าใจเรา วริณสิตาออกแรงดึงถาดเบาๆอีกครั้งก่อนจะก้มหน้า แล้วเดินดุ่มเลี่ยงไปอีกด้านโดยที่ไม่รู้เลยว่า การนนท์โยนความขุ่นใจใส่ให้ผู้ปกครองเธอไปเต็มๆ ฉันไม่กิน! เอาออกไปให้พ้นนะ ออกไป๊! ด้วยเสียงแหลมๆที่แผดลั่น พร้อมๆกับกระปุกเครื่องสำอางอีกสามอย่างที่ลอยหวือก็ทำเอาสาวใช้สองคนที่ช่วยกันจัดอาหารเย็นขึ้นมาให้ คุณหนู ถึงในห้องต้องร้อง ว้าย! แล้วเกิดอาการกระเจิงกันออกไปจากห้องแทบไม่ทัน อ๊าย! สาวสวยกรี๊ดแล้วหายใจหอบถี่ ช่วยไม่ได้เลยที่วันนี้หงุดหงิดเต็มขั้น! ใช่! ก็เพราะมันเป็นวันบ้าๆ! เป็นบ้ามากที่สุด! ทุกคนทำอย่างนี้กับเธอได้ยังไง ในเมื่อเธอเล่นบทประท้วงด้วยการขังตัวเองในห้องหวังเรียกร้องความสนใจ แล้วทำไมผู้ชายสองคนถึงไม่มีใครคิดจะดูดำดูดีเธอสักนิด! อ๊าย! ทุเรศ! ทั้งคุณพ่อทั้งพี! ทุเรศที่สุด! อ๊ายๆๆๆ! เมื่อทำอะไรไม่ได้หทัยรักก็กรีดร้องแล้วขว้างปาสิ่งของต่อไปด้วยความขัดเคือง กระทั่งโสตประสาทสัมผัสเสียงเพลงคลาสสิคแผ่วๆ สาวสวยก็ชะงัก หยุดอาละวาดขว้างของทันที หากมิใช่เย็นลงด้วยอิทธิพลของดนตรีสักนิด! แต่หทัยรักหยุดฟัง ฟังให้แน่ใจ ว่าคุณอมรฉีกข้อห้ามของเธอด้วยการจ้างวงดนตรีมาบรรเลงในงานใช่หรือไม่! อ๊ายยยยย! หทัยรักกรี๊ดปิดท้าย เมื่อตัดสินใจว่าพอกันที ถ้าไม่มีใครเห็นความสำคัญของเธอแบบนี้ เธอก็จะลงไปข้างล่าง แล้วอาละวาดให้งานพังไปเลย! แต่เมื่อลงมาหทัยรักก็ต้องพบกับความจริงที่โหดร้ายว่า ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิด งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นกลางสนามหญ้าในรูปแบบบรรยากาศที่สุดแสนจะเรียบง่ายเป็นกันเอง และงานนี้น่ะ เล็ก จริง เพราะสถานที่ไม่ได้กว้างนัก มันคืออาณาเขตของสนามหญ้าด้านข้างอาคาร กินพื้นที่เข้าไปถึงสวนหย่อมสไตล์เก๋ริมสระน้ำเท่านั้น มีโต๊ะสำหรับแขกจะนั่งพัก รับประทานอาหารหรือของว่างจัดไว้อย่างสวยงามเหมาะเจาะ พวกเด็กเสิร์ฟเล่า ก็หน้าตาคุ้นเคยทั้งนั้น! และซุ้มดอกไม้ ก็ไม่มีชนิดไหนเป็นดอกไม้ฝรั่งที่จะเข้าข่าย ดอกไม้หรูหรา ของเธอสักนิด หากเป็นดอกไม้ไทย ทั้งช่อลีลาวดี มะลิ ดอกรักซึ่งล้วนถูกถักถูกร้อยจนกลายเป็นม่านดอกไม้อ่อนหวานงดงามชวนมอง! ส่วนเสียงเพลงที่คลอเบาๆ ก็ดังมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นเก่าที่เป็นของสะสมของคุณอมรเอง! มิหนำซ้ำทุกเพลงที่ถูกคัดสรรมาเปิด คือพวกเพลงลูกกรุงแบบเก่า เนื้อหากล่าวถึงความรักหวานซึ้งชวนฝัน! หทัยรักโกรธ...โกรธจนตัวสั่นทีเดียวเมื่อสำเหนียกได้ว่า เธอพลาด! พลาดแท้ๆที่ไม่คิดใส่ใจงานนี้เพราะคิดว่าตัวเอง ปิด หนทางการจัดงานหรูๆไว้ดีแล้ว และทำให้คนเป็นพ่อซิกแซ็กข้อห้ามเธอของได้แสบนัก! หทัยรักแทบอยากกรี๊ดให้โลกมันแตก! แต่แน่แหละ เธอทำไม่ได้! เพราะตอนนี้ในงาน พวกแขกเหรื่อผู้ใหญ่ในวงธุรกิจที่เห็นอยู่ มีหลายคนเสียจนต้องคิดว่าไอ้การจะใช้วิธีกรีดร้องทำลายข้าวของอย่างคนบ้าคงไม่เหมาะ! แต่ใครจะไปยอม มันต้องไม่มีคำว่าแพ้ในพจนานุกรมของเธอ! หทัยรักเดินผ่าเข้าไปกลางงานอย่างมาดมั่น และทันทีที่ทุกคนเห็นเธอนั้น ความเคลื่อนไหวทุกอย่างก็เหมือนจะหยุดนิ่ง เพราะความอึ้ง! เพราะความตะลึง! แน่ล่ะ! เธอรู้ว่าเธอสวย เฉพาะอย่างยิ่ง ในชุดราตรีเปลือยไหล่สีดำสนิทตัวนี้! หทัยรักเชิดหน้า คลี่ยิ้มมุมปากออกมาท้าสายตาทุกคู่อย่างเย้ยเยาะ สาวสวยไม่ปล่อยเวลาให้ผันผ่าน ก้าวยาวๆเข้าไปยืนประจัญหน้ากับผู้เป็นพ่อทันที นาทีนี้ไม่สนใจสีหน้าของบิดาบังเกิดเกล้าหรอก รักลงมาร่วมงานด้วยชุดนี้ หวังว่าคง...ไม่ว่าอะไรนะคะ ยินดีด้วยค่ะ คุณพ่อ! คุณอมรถึงกับพูดอะไรไม่ออก พอๆกับสายสุนีย์ที่ยืนอยู่เคียงข้าง ก็หน้าซีดไร้รอยยิ้ม! ดี! สมน้ำหน้า แต่แค่นี้ยังไม่สาสมกับความขัดเคืองในหัวใจของหทัยรักแน่ สาวสวยยิ้มเหยียดอย่างจงใจอีกครั้งก่อนจะหันไปทักทายแขกคนอื่น ต๊าย! คุณหญิงสุลีพรกับคุณหญิงดาริกาใช่มั้ยคะ สวัสดีค่ะ หทัยรักกระชดกระช้อย แหม! นี่อุตส่าห์มาแสดงความยินดีในงานแต่งงานของคุณพ่อกับ...พนักงานทำความสะอาดด้วยหรือคะ! โถๆ! คนละระดับกันขนาดนี้ยังอุตส่าห์มา รักต้องกราบขอบพระคุณแทนคุณพ่อด้วยนะคะ แล้วก็หัวเราะต่อกระซิกด้วยทีท่าร่าเริงสดใส และทำราวกับสายสุนีย์เป็นอากาศธาตุไปก็ไม่ปาน! ทุกคนในงานกร่อยสนิท แต่หทัยรักไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด นาทีนี้เรียกได้ว่า แม้แต่หน้าของบิดาบังเกิดเกล้าก็ไม่คิดจะเอาไว้! จนกระทั่ง... รัก เสียงทุ้มๆเอื้อนเอ่ย สาวสวยเลยหันมาและครั้นเมื่อเห็นว่าคนเรียกเป็นใคร หทัยรักก็คลี่ยิ้ม อ้าว! พี นี่พีก็ มากับผมทางนี้เถอะ ไวเท่าคำพูด ชายหนุ่มวางมือเหนือศอกของหญิงสาวแล้วดึงเบาๆให้ตามเขามา หทัยรักหน้าบึ้งทันที อยากสะบัดมือพีรพัฒน์ให้หลุดนัก แต่ข้อจำกัดคือแขกเต็มงานและการอาละวาดแบบบ้าพลังก็ดูจะไม่งามกับภาพลักษณ์ไฮโซ! หทัยรักจึงได้แต่เค้นเสียงลอดไรฟัน พี! นี่ ปล่อยรักนะ แต่ว่าพีรพัฒน์ไม่ได้ปล่อย กระทั่งดึงหทัยรักให้ห่างออกมาได้ห่างระยะหนึ่งแล้ว สาวสวยจ้องหน้าเขาดวงตากร้าว แน่แหละ! เขารู้หทัยรักโกรธ แต่เขาก็รู้ดีอีกเหมือนกัน ว่างานนี้คงไม่มีใครกล้าหรือสามารถพอจะหยุดหทัยรักได้แน่ถ้าเขาไม่ทำ! พีรพัฒน์จ้องหน้าหญิงสาวตอบ เขาเชื่อ ว่าต่างคนต่างเป็นผู้ใหญ่แล้ว ย่อมรู้แก่ใจดีว่าที่ต้องทำแบบนี้เพราะอะไร หทัยรักเม้มริมฝีปากเข้าหากันจนบางเฉียบ ก่อนจะสะบัดหน้าและทำท่าว่าจะกลับไปกลางงานอีก เดือดร้อนให้พีรพัฒน์ต้องคว้าหมับเข้าให้ที่ต้นแขน รัก คุณจะทำอะไร พอเถอะ ผมขอร้อง สาวสวยสะบัดหน้ากลับมา พอเหรอคะ หทัยรักย้อนเสียงสูง แล้วพีเห็นมั้ยล่ะคะ ว่าคุณพ่อทำกับรักยังไงบ้าง! พีรพัฒน์รู้ว่าหทัยรักโกรธแค้นเรื่องงานเลี้ยงนี่ที่มันออกมาดี สมบูรณ์แบบอย่างที่เจ้าหล่อนไม่นึกปรารถนา แต่ว่านั่นมันก็เป็นเรื่องไหวพริบที่คนผ่านโลกมามากกว่าอย่างคุณอมรหาทางเอาชนะ ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องที่หทัยรักจะจัดการหักหน้าบุพการีชนิดไม่ให้เหลือชิ้นดีเลยเป็นการแก้แค้น ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจออกไปเฮือกใหญ่ แต่ที่คุณแสดงออกนี่ มากเกินพอแล้วนะ หทัยรักเบิกตากว้าง มากเกินหรือคะ?! รัก พีรพัฒน์คว้าไหล่สาวสวยไว้ทั้งสองข้าง เท่านี้น่าก็จะพอแล้ว ถือว่าผมขอล่ะ กรุณาให้เกียรติ อยู่กับผมตรงนี้เถอะ! อาจเพราะทั้งสีหน้า แววตา และคำพูดที่ขึงขังจริงจังจึงทำให้คนฟังต้องนิ่งอั้น หญิงสาวเม้มปากเข้าหากันอย่างขัดใจก่อนจะยอมสะบัดตัวเดินไปนั่งโต๊ะซึ่งจัดอยู่ใกล้ๆแถวนั้นมากที่สุด พีรพัฒน์ตามไปนั่งกับเจ้าหล่อนด้วย ดวงหน้าของสาวสวยยังคงบูดบึ้งไม่พอใจ แต่ไม่เป็นไร สำหรับเขา แค่หทัยรักหยุดเดินเพ่นพ่าน เท่านี้ก็พอแล้ว เสียงเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่เปิดไว้ดูราวกับเงียบหายไปเลยเมื่อเทียบกับเสียงซุบซิบและการจับกลุ่มนินทา ลำพังแค่พื้นหลังซึ่งเป็นคนทำงานระดับล่างก็ทำให้คุณสายสุนีย์ถูกซุบซิบจนสนุกปากแล้ว แล้วนี่ยิ่งมาเจอชุดดำของคุณหทัยรักเข้าไปอีก น่าสงสาร...วริณสิตาได้แต่กะพริบตามองหญิงวัยกลางคนที่ยืนหน้าซีด เกาะแขนคุณอมรไว้คล้ายคนจะหมดแรง เพราะความรู้สึกสงสารเห็นใจทำให้วริณสิตาอดที่จะเดินเข้าไปใกล้ๆคุณสายสุนีย์สักนิดไม่ได้ ใช่...วริณสิตาคิด อย่างน้อยถ้าคุณสายสุนีย์เกิดจะหันมองมาทางนี้บ้าง เธอก็ตั้งใจว่าจะยิ้มให้เขา ยิ้ม...จากหัวใจเลย สาวน้อยเลยพยายามขยับเข้ามาอีกนิด ทว่าก็ไม่มีใครที่ไหนให้ความสนใจคนเสิร์ฟน้ำหรอก วริณสิตาเลยได้แต่ยืนมองคุณอมรปลอบใจภรรยาที่น่าสงสารไป เธอไม่เป็นไรนะ เสียงคุณอมรเอ่ย วริณสิตาเห็นคนถูกถามได้แต่ฝืนยิ้ม พยักหน้าแผ่วๆ ค่ะ ฉันไม่เป็นไร ยายรักก็เป็นอย่างนี้แหละ เธอต้องพยายามเอาใจเขาหน่อย เดี๋ยวเขาก็ดีกับเธอเอง เอาอย่างนี้สิ เห็นเด็กๆมันบอกว่ายายรักยังไม่ได้ทานอะไรเลย ยังไงเธอลองตักอาหารไปให้เขาหน่อยก็แล้วกัน แล้วคนฟังก็ได้แต่ฝืนยิ้มฝืดๆอีกครั้ง เมื่อต้องตอบรับคำเบาๆและเดินไปยังโต๊ะบุฟเฟ่ต์เพื่อเลือกตักอาหาร วริณสิตาถือโอกาสเดินตามไปด้วย ไส้กรอกอบซอสนี่อร่อยมากเลยนะคะ สาวน้อยบอก กล้าการันตีเลยเพราะอาหารจานนี้ป้าบัวศรีเป็นคนทำ และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ว่าที่คุณผู้หญิงของบ้านวรโชติหันมองเธอ วริณสิตาเลยรีบคลี่ยิ้มส่งให้อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ทว่า อ่อ งั้นหรือ สายสุนีย์เอ่ย เบนสายตาจากใบหน้าเด็กสาวกลับมาใส่ใจกับการพินิจอาหารบนโต๊ะอีกครั้ง พร้อมบอกเนือยๆอย่างคนไม่ใคร่สนใจนัก ฉันไม่ได้ทานเองหรอก ตักไปให้คนอื่น คุณผู้หญิงจะตักไปให้คุณหทัยรักใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นเลือกเป็นขนมปังหน้าหมูหรือเต้าหู้ปลาทอดกรอบดีไหมคะ เป็นของทานเล่นง่ายๆ แล้วก็อร่อยด้วยค่ะ และเพราะเสียงใสๆที่ดูจะรู้สถานการณ์การดีเหลือหลายก็ทำให้สายสุนีย์ต้องหันกลับไปมองอีกครั้งเพราะความงุนงงระคนสงสัย เด็กนี่รู้ได้ยังไง? หรือเป็นสลัดผลไม้ก็น่าจะดีนะคะ ดูไม่อ้วน คุณรักเธออาจจะชอบก็ได้นะคะ ว่าแล้วสาวน้อยก็ยิ้มอีก ยิ้ม...อย่างบริสุทธิ์จริงใจและมันก็ทำให้คนมองรู้สึกแปลกๆไม่ได้ แต่มันก็เป็นความรู้สึกแปลกๆที่ดีนัก! สายสุนีย์ยิ้มบางๆคืนให้บ้าง ขอบใจนะจ๊ะ ...สวยจัง...วริณสิตากะพริบตาปริบๆ ประหลาดนักที่หัวใจเธอช่างเต้นถี่กับถ้อยคำเพราะๆที่คุณผู้หญิงของบ้านวรโชติเอื้อนเอ่ย เพราะฐานะอันแตกต่าง ดวงหน้า แววตา รวมถึงอิริยาบถงดงามกับความสงสารที่มีให้ล่ะมั้งถึงทำให้เธอ...รู้สึกเต็มตื้นแบบนี้เมื่อคุณสายสุนีย์พูดดีด้วย แล้ววริณสิตาก็เผลอมองคุณผู้หญิงบ้านวรโชติตักอาหารเสียเพลิน กระทั่งคนถูกมองตักเสร็จจนหันมาอีกครั้งนั่นแหละ วริณสิตาจึงสะดุ้งน้อยๆแล้วหลบตา คล้ายจะรู้สึกตัวแล้วว่าจ้องเสียเสียมารยาท แต่คุณผู้หญิงของบ้านก็ดูจะไม่ได้นึกโกรธ หนูนี่...ทำหน้าที่เสิร์ฟน้ำใช่มั้ยจ๊ะ เสียงนุ่มๆเพราะๆเอ่ยถาม สาวน้อยเลยรีบพยักหน้า ตอบรับ ค่ะเบาๆ ถ้างั้นตามฉันมาทางนี้หน่อยนะ แล้วคนพูดก็เดินนำไป แน่นอนว่าจุดหมายก็คือโต๊ะที่หทัยรักนั่ง แต่ทว่า... หนูรักคะ ทว่าแค่เรียกคำแรก หทัยรักก็เกิดปฏิกิริยาแล้ว! หญิงสาวดีดตัวลุกพรวด เบิกตาวาวโรจน์ ตวาดถามเสียงก้อง ใครอนุญาตให้เธอเรียกฉันว่าหนูกันฮะ!? หทัยรักตวาดเสียงก้อง เล่นเอาคนถูกตวาดหน้าซีด อ้าปากพะงาบอยากอธิบาย เอ่อ...ฉัน...ฉัน แต่หทัยรักสะบัดหน้าพรืดอย่างหงุดหงิดก่อนเดินหนีไปอีกด้านทันที แน่ล่ะ! อากัปกิริยาเช่นนี้บ่งชัดว่าสาวสวยไม่ต้องการปฏิสัมพันธ์กับแม่เลี้ยงสักนิด! เจอแบบนั้นเข้าไปสายสุนีย์ก็ยิ่งหน้าเสีย แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ละความพยายาม คุณรักคะ สายสุนีย์เดินตามไป กระทั่งถึงบริเวณที่เชื่อมระหว่างสนามกับทางเดินไปเรือนครัวซึ่งค่อนข้างปลอดแขกหทัยรักก็หยุด หันกลับมาประจันหน้า มองคนที่เดินตามมาด้วยดวงตาวาววับ ขนาดคนที่ตามอยู่ข้างหลังอย่างวริณสิตายังรู้สึกได้เลยว่า...แววตาหทัยรักดูเอาเรื่องจนน่าหวั่น แต่สำหรับคนที่ต้องมาเป็นคุณผู้หญิงของบ้านคงไม่มีสิทธิ์หวั่น เอ่อ เห็นเด็กๆบอกว่าคุณยังไม่ได้ทานอะไรเลย ฉัน ไวกว่าใครจะคิดเมื่อหทัยรักปัดมือสายสุนีย์ที่ยื่นจานมาให้จนกระเด็นหลุดไปกระแทกพื้นเสียงดังเพล้ง! ก่อนจะฉวยแก้วน้ำส้มในถาดที่วริณสิตาถือ และแม้จะแค่เสี้ยววินาที แต่สาวน้อยก็รู้ทันทีว่าหทัยรักจะทำอะไร อย่าค่ะ! ...................... Free TextEditor งานเลี้ยงที่แสนประทับใจ
โดย: fon IP: 49.48.113.69 วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:18:50:32 น.
|
parinnada
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?] แนะนำตัว
Friends Blog
Link |