ฝันสุดหลอน!
ฝันสุดหลอน!
ขนหัวลุก
ใบหนาด
"อำนวยพร" เล่าประสบการณ์ของคนเกลียดกลัวงานศพ
หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะเคยได้ยินคำพูดนี้มาบ้าง นั่นคือ ไม่ไปงานศพเพราะกลัว "ดวงชงกัน" หมายถึงดวงของผู้พูดกับผู้ตายไม่ต้องโฉลกกันนั่นเอง!
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล ความเชื่อถือในโชคลางสังหรณ์น่าจะหมดยุคหมดสมัยไปแล้ว แต่สำหรับผมขอยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนงมงาย หรือไร้เหตุผลแบบคนขวัญอ่อนแน่ๆ เพราะเคยมีประสบการณ์กับตัวเองมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
เมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน ผมไปงานศพบิดาของผู้บังคับบัญชาที่วัดใหญ่โตแถวดอนเมือง คืนนั้นสวดพระอภิธรรมคืนสุดท้าย เจ้าภาพเก็บศพไว้ร้อยวันจึงจะทำพิธีฌาปนกิจ...มีการเคลื่อนศพไปเก็บไว้ในฮวงซุ้ยด้านหลัง ผมกับเพื่อนๆ ก็เดินตามกลุ่มญาติๆ เขาไปด้วย
คืนนั้นฝนตกพรำเป็นละอองบางๆ แสงไฟส่องสลัว ลมพัดลู่มาตามสุมทุมพุ่มไม้ ทำให้เยือกเย็นใจบอกไม่ถูก เสียงหมาหอนดังมาจากที่ไกลๆ ขบวนศพไปหยุดอยู่ที่ฮวงซุ้ยขาวโพลนใต้ร่มไม้ใกล้ๆ สระน้ำ
สัปเหร่อจัดการบรรจุโลงศพเข้าไป พวกลูกๆ หลานๆ ก็ควักเงินทองมาหย่อนใส่โลงคนละนิดละหน่อย บางคนก็บอกว่า...เอาไว้ซื้อที่ซื้อทางเขานะ พ่อ!
มีเสียงสะอื้นคร่ำครวญอาลัยผู้ตาย แล้วญาติมิตรก็ทยอยกันกลับ...
วันรุ่งขึ้น ลูกชายวัยสิบขวบของผมเป็นไข้เลือดออก วันต่อมาภรรยาไปเยี่ยมลูกที่โรงพยาบาลก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม้อาการไม่หนักแต่ก็ต้องเข้านอนโรงพยาบาลเดียวกับลูกอยู่หลายวัน...มีญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งทักว่าเป็นเพราะไปงานศพที่ "ดวงชงกัน" พอดี
บอกตามตรงว่าผมยังไม่อยากเชื่อถือนัก ไปงานศพญาติมิตรอีก 2-3 ครั้งก็ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งปีต่อมามีคนข้างบ้านเสียชีวิตเพราะโรคชรา ผมก็ไปฟังสวดในคืนแรกช่วยเงินเขาตามธรรมเนียม พร้อมกับขอตัวว่าคงไม่ได้ไปในวันเผาเพราะติดธุระที่ต่างจังหวัด
ผมไปกลับเรียบร้อยดี แต่ระหว่างที่ไม่อยู่บ้านก็โดนขโมยย่องเข้ากวาดทรัพย์สินไปได้มากพอดู...คราวนี้ผมเริ่มเชื่อแล้วว่า "ดวงชงกัน" มีจริง
ไม่มีใครรู้แน่ว่าดวงของเรากับของผู้ตายจะ "ชงกัน" หรือไม่?
อาจจะไม่เป็นอะไรเลย กับทำให้เคราะห์หามยามร้ายได้ง่ายๆ แล้วเราจะไปเสี่ยงเรื่องนี้ทำไมกัน? วิธีดีที่สุดคืองดเว้นการไปงานศพโดยสิ้นเชิง!
ความเชื่อดังกล่าวทำให้ผมหาทางหลบเลี่ยงงานศพมาได้หลายปี ใช้วิธีสั่งพวงหรีดให้บ้าง ส่งซองช่วยงานตั้งแต่รู้ข่าวบ้าง...จนในที่สุดก็กลายเป็นความหวาดระแวงลึกๆ และความ เคยชินที่จะไม่ยอมย่างกรายไปงานศพใดๆ อย่างเด็ดขาด
อาจจะเป็นเพราะความรังเกียจงานศพฝังจิตฝังใจ จนกลายเป็นจิตใต้สำนึกก็เป็นได้ ทำให้ผมฝันสยอง...ฝันว่าไปงาน ศพอย่างจำเป็นจำใจ!
ยามเย็นที่ฟ้าฉ่ำฝน ผมเดินผ่านวัดนั้นด้วยสาเหตุใดก็สุดรู้...จู่ๆ ก็มีสตรีวัยกลางคนปราดเข้ามายกมือไหว้ "คุณศรี" เพื่อนสนิทของภรรยาผมนั่นเอง เธอผ่านการร้องไห้มาจนนัยน์ตาบวมแดง บอกกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า...สวย-ลูกสาวคนเดียวของเธอตายเสียแล้วเพราะไข้ป่าที่ติดมาจากการไปเที่ยวต่างจังหวัด
จำได้ว่าผมขอตัวอย่างสุภาพ ไม่ได้เตรียมตัวมางานศพ โดยเฉพาะเสื้อผ้า...แต่คุณศรีผงะหน้า มองดูผม...ให้ตายเถอะ! ผมนุ่งกางเกงขายาวสีทึบ สวมเสื้อเชิ้ตขาวแถมผูกไทดำ!
"จำไม่ได้หรือคะว่าตอนที่ลูกเมียคุณไปนอนโรงพยาบาลตอนนั้นน่ะ ใครที่ไปเยี่ยมทุกวัน?" เธอเน้นเสียงอย่างมีอารมณ์ "นี่ขอแค่ไปฟังสวดศพลูกสาวฉันเท่านั้น"
ไม่มีทางหลบเลี่ยงได้เลย...และนั่นทำให้ผมต้องมานั่งพนมมือ ปากคอแห้งผากอยู่หน้าโลงศพ กลิ่นดอกไม้กับกลิ่นธูปเทียนโชยกรุ่น น่าขนลุกขนพองเสียนี่กระไร...พระสวดจบแรกแล้ว ผมหันไปหาคุณศรีเพื่อจะขอตัว...แต่ไม่ทราบว่าหายไปไหน
อ้าว? เธอกำลังยืนอยู่ข้างโลงศพลูกสาวนั่นเอง แถมเอื้อมมือเคาะโลงอีกต่างหาก
"ลูกไปขอบคุณอาพรหน่อยซีลูก คุณอาอุตส่าห์มางานศพสวยเห็นมั้ย?"
ผมผงะหน้า โลกทั้งโลกกำลังแตกสลายลงเมื่อฝาโลงเลื่อนครืดคราด...แล้วใบหน้าขาวซีดของเด็กสาวก็โผล่ขึ้นมา...หันมาหาผมช้าๆ พลางแสยะยิ้ม ท่ามกลางเสียงหัวเราะครืนใหญ่รอบๆ ตัว
"โอ๊ย..." ผมได้ยินเสียงตัวเองร้องลั่น ลุกพรวดพราดขึ้นมาหอบหายใจฮักๆ ใจเต้นโครมครามแทบจะพังทลายออกมานอกอก ภรรยาผมพลอยตื่นขึ้นมาดูด้วยความห่วงใย...ผมบอกแต่ว่าไม่มีอะไรหรอก แค่ฝันร้ายเท่านั้นเอง...
คุณศรีกับลูกสาวสบายดี ความฝันของผมไม่ได้เป็นลางบอกเหตุอะไรเลย
สาบานว่าต่อไปนี้ผมจะไปงานศพทุกงานที่มีผู้เชิญมา ผมจะเอาชนะความกลัวงานศพให้ได้...ความจริงคงจะไม่ร้ายกาจเท่ากับฝันสยองแน่ๆ นึกถึงแล้วขนหัวลุกครับ!
//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVE13TURRMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOQzB6TUE9PQ==