วิญญาณเรียกหา
วิญญาณเรียกหา
ขนหัวลุก
ใบหนาด
"ยงยุทธ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากร้านเสริมสวย
สมัย หนุ่มผมเคยอยู่ที่ซอยรางน้ำ มีทั้งโรงแรมม่านรูดและบาร์ผีคึกคักพอๆ กับย่านสะพานควายที่เรียกบาร์ผีเรียงเป็นตับว่า "รังอีแร้ง" เพียงแต่ซอยรางน้ำไม่มีรถเมล์แล่นผ่านเท่านั้นแหละครับ
หนุ่มๆ สมัยนั้นชอบเข้าร้านตัดผมที่เรียกว่า "บาร์เบอร์" ที่มีช่างผมและช่างเล็บเป็นผู้หญิง มีห้องส่วนตัวติดแอร์เย็นฉ่ำให้พักผ่อนหย่อนอารมณ์ได้เต็มที่ ใครชอบเหล้าเบียร์ก็สั่งมาดื่มกินได้ตามใจชอบ พวกแขกขาประจำรู้จักกับช่างสวยๆ หลายคน ใครว่างก็เข้าไปร่วมวงพูดคุยหยอกล้อกันครึกครื้น...
ลูกค้าส่วนมากมักเป็นเสี่ยกระเป๋าหนัก เพราะราคาแพงกว่าร้านตัดผมทั่วๆ ไป...ลือกันว่ามีบริการ "ตัดพิเศษ" กับอะไรๆ อีกหลายอย่าง ฟังแล้วน่าขนลุกขนพองพิลึกละครับ
เพื่อนๆ ผมชอบไปซอยผม, สระผม, ทำเล็บที่บาร์เบอร์แถวสยามสแควร์ มันเอามาเล่าว่าใครคุยเก่ง ปากหวาน ก็อาจจะจีบสาวบาร์เบอร์ออกไปเที่ยวตอนเลิกงาน...ต่อจากนั้นก็คิดเอาเองว่าจะ ไปลงเอยที่ไหน ยังไง?
ร้านขาประจำของผมเป็นร้านเสริมสวยอยู่ที่ปากซอยด้านถนนราชปรารภ เจ้าของร้านชื่อเจ๊แต๋วอายุราวสามสิบเศษ รูปร่างขาวบาง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ได้ข่าวว่ามีผู้ใหญ่ออกทุนรอนให้ โดยเจ๊แกอาศัยชั้นบนนั่นแหละเป็นที่หลับนอนกับเด็กลูกจ้างชื่ออ้อย พวกช่างผมช่างเล็บก็แยกย้ายกันกลับบ้านเมื่อปิดร้านราวทุ่มเศษ
ตอนแรกๆ ก็ยังไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นช่างคนไหน ใครว่างก็ทำกับคนนั้น ไม่ว่าซอยผม หรือสระผม...จนกระทั่งถูกอกถูกใจกับช่างอุ๋ย-สาวใต้ผิวคล้ำตาคม เช่าห้องอยู่กับเพื่อนที่ดินแดง...ไม่ว่าจะซอยหรือสระไดร์ ล้วนแต่ถูกอกถูกใจไปทั้งนั้น จนกระทั่งกลายเป็นขาประจำกันมาหลายเดือน
เหตุการณ์ขนหัวลุกเกิดขึ้นที่ร้านเจ๊แต๋วนั่นเอง!
เย็นหนึ่ง ผมตั้งใจจะเข้าไปสระผม แต่ลูกค้าค่อนข้างหนาตาเลยต้องนั่งรถ อุ๋ยกำลังย้อมผมให้คุณน้าที่คุ้นๆ หน้ากัน...เธอหันมายิ้มฝืนๆ ให้ผม หน้าตาดูซีดเซียวผิดปกติ...เจ๊แต๋วเองที่เคยนั่งอยู่ที่โต๊ะเก็บเงินยังต้อง มาแสดงฝีมือไดร์ผมให้ลูกค้า ช่างผมช่างเล็บอีกสองคนต่างทำงานมือเป็นระวิงไปตามๆ กัน
อ้าว? เขากำลังคุยกันอย่างตื่นเต้นเรื่องช่างอุ๋ยโดนผีหลอกพอดี!
เหตุเกิดเมื่อวานนี้เอง อุ๋ยปวดหัวตัวร้อนมาตั้งแต่บ่าย ฝืนทำงานจนทำไม่ไหวเจ๊แต๋วเลยให้ยากินแล้วให้อ้อยพาขึ้นไปนอนพักที่ชั้นลอย ...ขณะกำลังเคลิ้มหลับนั่นเอง อุ๋ยก็รู้สึกอากาศหนาวเยือกจนสะท้าน ตอนแรกคิดว่าคงจะจับไข้หนัก แต่เมื่อหนาวจัดผิดปกติจนเอะใจก็ลืมตาขึ้นมอง...ภาพที่เห็นหวิดจะทำให้ช็อก ตายคาที่!
นั่นคือ หญิงชราผมขาวโพลน ยาวสยายกระจายเต็มบ่า รูปร่างผอมดำ จมูกงองุ้มนัยน์ตาจมลึกอยู่ในเบ้าดูเหลือกโปน กำลังจ้องมองเขม็ง ยกมือขึ้นชี้หน้าพลางคำรามเกรี้ยวกราด
"ออกไป! อย่ามาอยู่ที่นี่...ไป๊! ไม่งั้นกูจะเอาชีวิตมึง!"
อุ๋ยกรีดร้องสุดเสียง หลับหูหลับตาพุ่งพรวดเข้าชนร่างอุบาทว์นั้น ออกจากประตูได้ก็วิ่งลงบันไดไม่คิดชีวิต พร้อมกับร้องกรี๊ดๆ ไปด้วย จนผู้คนที่อยู่ชั้นล่างหันขวับไปมองด้วยความตกใจ...อุ๋ยเผ่นพรวดลงมาได้ก็ ร้องไห้โฮ พูดอะไรไม่ออก นอกจากจะชี้ไม้ชี้มือไปที่ชั้นบน
เมื่อเจ๊แต๋วกับเด็กอ้อยขึ้นไปดูก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ...สันนิษฐานว่าอุ๋ย คงจับไข้จนเห็นภาพหลอนไปเอง เจ๊แต๋วเลยให้อุ๋ยกลับไปพักผ่อนจนกว่าจะหายดีแล้วค่อยมาทำงาน...พวกลูกค้า ถามกันแซ่ดว่าอุ๋ยตาฝาดไปหรือเปล่า?
ผมหันไปมองด้วยความสนใจ เห็นอุ๋ยกำลังถอดถุงมือสำหรับย้อมผมออก มองเหม่อผ่านประตูกระจกออกไปนอกร้านเหมือนคนใจลอย ครั้นรู้ตัวก็ฝืนยิ้ม ถอนใจยืดยาว
"หนูอาจจะฝันร้ายก็ได้ค่ะ แต่ทำไมมันเหมือนเห็นจริงๆ ก็ไม่รู้"
ลูกค้าบางคนทำท่าขนลุกขนชัน แต่บางคนก็พูดในทำนองว่าอุ๋ยตาฝาดไปเอง...จนกระทั่งถึงคิวผม ขณะที่นั่งมองเธอไดร์ผมในกระจก สังเกตว่าหน้าตาอุ๋ยซีดเซียว หวั่นหวาดและถอนใจยาวบ่อยๆ เมื่อไดร์ผมเสร็จอุ๋ยก็ฉีดสเปรย์ให้...เราสบตากันเธอก็พูดเบาๆ ขึ้นว่า
"อุ๋ยว่าจะกลับบ้านที่ชุมพร ไปเยี่ยมพ่อแม่ซัก 3-4 วัน...หมู่นี้ไม่ค่อยสบายใจยังไงก็ไม่รู้ค่ะพี่ เดี๋ยวว่าจะขอลาเจ๊แต๋วซะเลย"
ผมพยักหน้าเห็นพ้องด้วย...ก่อนหน้านั้นเคยทิปเธอครั้งละ 20 บาท แต่คราวนี้ควักใบแดงๆ ให้เลย บอกว่าช่วยค่ารถอุ๋ย! แล้วหลิ่วตาล้อๆ...รีบกลับนะ พี่คิดถึง!
อุ๋ยกระพุ่มมือไหว้ นอบน้อม...อาทิตย์ต่อมา ผมแวะไปร้านเจ๊แต๋วเพื่อจะซอยผมแต่ก็ต้องชาวาบไปทั้งตัวเมื่อรู้ข่าวว่าอุ๋ย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ชุมพร เสียชีวิตคาที่...เรื่องนี้จะเกี่ยวกับการโดนผีหลอกวันนั้นหรือเปล่าไม่มี ใครรู้แน่...แต่ก็ขนหัวลุกไปตามๆ กันครับ
//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEV6TURnMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdPQzB4TXc9PQ==