ลูกเอยลูกรัก!
ลูกเอยลูกรัก!

คอลัมน์ ขนหัวลุก

ใบหนาด



"แก้ว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบ้านสยองขวัญ

ดิฉันเองไม่ใช่คนประสาทอ่อน ไม่หวาดกลัวอะไรง่ายๆ แต่กลัวผี กลัวความลึกลับซ่อนเร้น ทั้งๆ ที่เกิดมาเกือบสามสิบปีแล้วยังไม่เคยถูกผีหลอกสักครั้งเดียว...แต่สิ่งที่ดิฉันได้ประสบมามันแสนจะน่ากลัว น่าสยดสยองยิ่งกว่าโดนผีหลอกซึ่งๆ หน้าเสียอีกค่ะ ถ้าเป็นคนประสาทอ่อนมาเจออย่างดิฉันเข้า คิดว่าถ้าไม่หัวใจวายตายคาที่ก็ต้องเป็นลมเป็นแล้งอย่างแน่นอน

เรื่องเป็นอย่างนี้ค่ะ...

ครอบครัวเราไปซื้อบ้านจัดสรรในถนนสุทธิสารตั้งแต่เพิ่งจะตัดถนนรัชดาภิเษก...หมู่บ้านกว้างขวางมาก แบ่งออกเป็นซอยๆ และขยายออกไปเรื่อยๆ จนทะลุออกทางลาดพร้าว 48 ได้เลย นับวันก็ยิ่งเจริญขึ้นทุกที

เพื่อนบ้านในซอยเดียวกันที่มีอยู่สิบกว่าหลัง ล้วนแต่คุ้นเคยและสนิทสนมกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่จนถึงรุ่นลูกๆ เมื่อ 20 กว่าปีก่อนพวกพ่อบ้านจะไปตั้งวงเฮฮากันที่บ้านนั้นบ้านนี้เมื่อมาถึงรุ่นเรา พ่อแม่ก็เกษียณกันหมดแล้ว หาความสุขในบั้นปลายชีวิตด้วยการเลี้ยงหลานปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือหรือฟังเพลงไปตามเรื่อง

คราวนี้ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องออกไปทำงานทำการ ดำเนินชีวิตต่อไปคล้ายๆ กับรุ่นพ่อรุ่นแม่...ดูๆ แล้วกาลเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกินนะคะ

"แอ๊ด" เพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทของดิฉันแต่งงานไปเมื่อราว 5-6 ปีก่อน สามีทำงานอยู่แห่งเดียวกันก็มาอยู่ด้วย เป็นคนน่ารักน่าคบทั้งคู่แหละค่ะ มีลูกชายคนเดียวชื่อตาอ๊อด เพิ่งจะเรียนอนุบาลอยู่แถวลาดพร้าว...ดูเหมือนจะเป็นโรงเรียนที่แอ๊ดเคยเป็นศิษย์เก่ามาในอดีต

แอ๊ดเป็นคนอ่อนไหวมาก ช่างคิดช่างฝันมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบเล่านิทานที่เธอบอกว่าแต่งเองให้เพื่อนๆ ฟัง บางทีก็บอกว่าระลึกชาติได้ มีสัมผัสพิเศษที่เรียกว่าประสาทที่ 6 แต่เมื่อเติบโตขึ้นสัมผัสที่ว่าค่อยๆ จางหายไป...ผู้หญิงที่ต้องทำงานทั้งนอกบ้านและในบ้าน มีลูกเล็กๆ ซุกซนและงอแงประสาเด็ก ไม่มีเวลามานั่งเป็นคนมีประสาทที่ 6 ได้หรอกค่ะ

เรื่องน่าเศร้าสลดที่สุดในชีวิตของแอ๊ดก็คือ ตาอ๊อดเกิดอุบัติเหตุจมน้ำตายในสระว่ายน้ำของโรงเรียน! แอ๊ดรู้ข่าวถึงกับร้องกรี๊ดสุดเสียง สลบคาที่...แต่เมื่อได้สติขึ้นมาอีกครั้งเธอกลับเงียบสงบจนน่าตกใจ สีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาว่างเปล่าไร้วี่แวว บางครั้งที่ดิฉันปลอบโยนในงานศพ แอ๊ดก็เพียงพยักหน้าราวหุ่นยนต์ มุมปากมีรอยยิ้มนิดๆ

"ตาอ๊อดไม่ได้ตาย! ตาอ๊อดยังอยู่..."

คำพูดน่าขนลุกของเธอคงจะเกิดจากความรักของแม่ ทั้งดูดดื่มและลึกซึ้งจนทำใจไม่ได้ว่าลูกรักตัวน้อยๆ อันเป็นที่รักดุจดวงตาดวงใจ ได้ตายจากไปแล้ว...จากไปชั่วชีวิต! ดิฉันคิดว่าเข้าใจค่ะ และเชื่อว่ากาลเวลาจะเป็นยาวิเศษที่ช่วยสมานบาดแผลของจิตใจเธอได้ในที่สุด

แต่ความรักของแอ๊ดที่มีต่อลูกน้อยนั้น มากมายล้นเหลือจนเกินเข้าใจ!

ดูเผินๆ เธอกลายเป็นแอ๊ดคนเดิมในเวลารวดเร็ว ร่าเริงแจ่มใส นั่งรถกับสามีไปทำงานอย่างกระปรี้กระเปร่า ตกเย็นก็กลับบ้านด้วยท่าทางคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง พบดิฉันก็ส่งเสียงทักทายรื่นเริงจนแทบไม่มีอะไรน่าห่วงใย

ตกกลางคืนน่ะสิคะ...บ้านรั้วเดียวกันทำให้มองลงไปเห็นจัดอาหารที่โต๊ะให้สามีพร้อมกับชะเง้อไปทางหน้าบ้าน...อ๊อดๆ มาทานข้าวกับคุณพ่อเร้ว!

แว่วเสียงพูดคุยกับลูก ชวนลูกขึ้นนอน บางคืนก็ได้ยินเสียงดุๆ ว่าตาอ๊อดดื้อรั้น! ต้องรีบเข้านอนนะจ๊ะ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสาย!

ระยะแรกๆ ดิฉันนึกว่าเราประสาทไปเอง แต่เพื่อนบ้านคนอื่นๆ ก็มาซุบซิบตรงกัน พี่อ้อยบ้านตรงข้ามถึงกับยืนยันว่า เธอเห็นแอ๊ดทำท่าจูงลูกชายขึ้นรถตอนเช้าๆ ด้วยซ้ำ...แต่พวกเราลืมห่วง "คุณโอ" สามีของเธอเสียสนิท

ดิฉันเพิ่งสังเกตว่าคุณโอหน้าตาหมองคล้ำ ท่าทางอิดโรย ดูราวกับจะยังไม่หายโศกเศร้าที่เสียลูกชายไป แต่มาฉุกคิดขึ้นได้ว่าเพราะอาการเพี้ยนๆ ของแอ๊ดต่างหากที่ทำให้เขาอึดอัดกลัดกลุ้มจนน่าเห็นใจ...ลูกชายตายจากไปทั้งคน ภรรยากลับทำเสมือนว่าลูกยังมีชีวิตอยู่!

เช้าต้องไปส่งโรงเรียน เย็นต้องไปรับกลับบ้าน หาขนมให้กิน เรียกทำการบ้าน สั่งให้อาบน้ำ กินข้าว ดูทีวี แล้วสั่งด้วยเสียงอ่อนหวานให้ขึ้นนอนเสียที

เสาร์หนึ่งตอนบ่ายจัด ดิฉันไปเยี่ยมเยียนแอ๊ดบอกว่าเอาคุกกี้มาฝาก เธอยิ้มหวานมาฉุดมือดิฉันเข้าห้องรับแขก...ต๊าย! นี่ของโปรดตาอ๊อดเลยล่ะ! จะให้ทำยังไงได้ล่ะคะนอกจากฝืนยิ้ม แอ๊ดออกไปยืนหน้าประตู จ้องมองไปที่ชิงช้าว่างเปล่าริมรั้วพลางร้องเสียงหวาน

"อ๊อดจ๋า...น้าแก้วเอาคุกกี้มาฝากแน่ะลูก รีบมาทานเร้ว...ขืนช้าแม่แย่งทานหมดนะ! น่าน..น่ารักจริงลูกจ๋า"

ดิฉันนั่งตัวแข็งทื่อ มองดูแอ๊ดเดินเข้ามาพร้อมกับทำท่าจูงเด็กเล็กๆ เข้ามาด้วยสั่งให้ยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะหัวเราะเสียงใส ยกมือขยี้ความว่างเปล่าในอาการขยี้ผมลูกรัก หยิบขนมป้อนพลางทำเสียง "อ้ำ" ไปด้วย

"พอซะที!" เสียงร้องตะโกนมาจากเชิงบันได "ลูกเราตายไปแล้วนะ! โธ่โว้ย.."

ดิฉันหันขวับไปเห็นคุณโอยืนผมกระเซิง นัยน์ตาแดงช้ำดูขุ่นขวางเหมือนคนวิกลจริต แอ๊ดย่อตัวลงคว้าอากาศขึ้นมาอุ้มอย่างทะนุถนอม หันขวับไปประจันหน้าสามีในบัดดล

"อย่ามาพูดบ้าๆ นะตาอ๊อดยังไม่ตาย...ลูกฉันอยู่ที่นี่เห็นมั้ย? เอ้า! บอกพ่อซีอ๊อดว่าลูกยังไม่ตาย.."

ขาดคำเธอก็แหงนหน้าหัวเราะลั่น...ดิฉันผลุนผลันออกจากห้องรับแขกด้วยหัวใจเต้นระทึกเหมือนจะแตกสลายไปบัดดล! แอ๊ดแขวนคอตายในเดือนต่อมา สามีเธอขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น...ผีจะมีจริงหรือไม่ก็ช่างเถอะ แต่ทำให้ดิฉันขนหัวลุกจริงๆ ค่ะ!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEEwTURRMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOQzB3TkE9PQ==



Create Date : 04 เมษายน 2551
Last Update : 4 เมษายน 2551 20:50:53 น.
Counter : 690 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend