Excuse..Me!
Group Blog
 
All blogs
 

๐-๐-๐เ ค้ ก ส ไ ต ล์ ดิ ช้ า น ... สู ต ร เ ค้ า ดี....แ ต่ อุ ป ส ร ร ค มั น เ ย อ ะ๐-๐-๐-๐



คือ......เค้กช็อคฯหน้านิ่ม นั่นล่ะค่ะ จด แอนด์ เซฟ สูตรของเชฟอุ๋มอิ๋มไว้....ตามลิ้งค์นี้

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetheart-bakery&month=06-2006&date=22&group=2&gblog=4

ต้องขอบคุณเจ้าของสูตรมา ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ

..................................................................

เคยเอาเฉพาะสูตรหน้าช็อคฯ มาราดแบบหนาไร้สติ ไปหนนึง (หากใครจำได้)..

ก็เลยปฎิญาณว่า....ครั้งต่อไป จะไม่นอกคอกอีกแล้ว...

......................................................................

ยืนยัน...ว่าสูตรนี้ดีมากๆเลยนะคะ..

แต่ด้วย.....อุปสรรค<====แพะรับบาป





คงไม่พูดถึงวิธีทำมากมายนะคะ.....แนะนำให้ดูต้นตำรับดีกว่า

กล่าวถึงพอคร่าวๆแล้วกันนะคะ

....

ร่อนส่วนของแห้งรวมกัน





ส่วนที่เป็นไข่แดง...และของเหลว รวมกัน

ใส่ส่วนของแห้งลงไป...

คนให้เข้ากัน...




ไข่ขาวตีให้ขึ้น..





เอามา Fold รวมกัน...




ได้ประมาณนี้...




เอากระดาษรองก้นพิมพ์รอไว้แล้ว...





เทส่วนผสมลงไป...





ส่งเข้าเตาอบ.....ที่เปิดวอร์มเตาไว้ก่อนแล้ว




ครบเวลา....เอาออกมา





เอาออกจากพิมพ์ก็ยังดีอยู่





ก้น...ก็ดูดีนี่นา...





ตอนสไลด์ก็ไม่มีอุปสรรค...




อุปสรรคค่ะ....อุปสรรค..มาตอนกวนหน้านี่ล่ะค่ะ

กวนๆอยู่....มีน้องคนนึงมาถามเรื่องงาน(มาถามไรตอนนี้ฟร่ะ...)

ปากก็พูดไป...มือก็กวนไป...

....

....

ปรากฎว่า...หน้านิ่มของดิชั้น....มันโดนกวนซะข้นเลย




ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่า...หน้านิ่มที่ได้น่ะมันข้นไป

ทำแบบถูกใส่โปรแกรมมาซะอย่างนั้น...

กวนหน้า Step 1 - Step 2 - Step 3...

แล้วก็ราดตูมมมมม.....




เอาเค้กอีกชั้นทับลงไป...ดูสิมันแข็งยังกะไส้โอริโอ้แน่ะ




ยังค่ะ...ยัง...ยังไม่สนใจว่าหน้านิ่ม...มันจะเป็นหน้าแข็งแล้ว

ราดต่อไปอีก...




ทำตามตำราเป๊ะ...ราดเสร็จ...กระแทกถาดนิดนึง...

หน้าก็ไหลไป..

..ไหลลงไป...

...

...

.....แล้วก็หยุด...

หยุดตรงนี้...ซะอย่างนั้น





อีกข้างก็หยุดไหล....ซะเฉยๆเหมือนกัน





น้องคนนึงมาเห็น..ทักว่า...

"....เหมือนขนมตะโก้เลยอ่ะ"....

โอยยย.....ตอกย้ำๆๆๆๆๆๆ

ทำไงดีล่ะ....ทำใหม่ก็ไม่ทัน..

ต้องใช้ในไม่กี่ชม.นี้แล้ว..

นี่เลยค่ะ....ริบบิ้นช่วยชีวิต....

พัน....ปกปิด....สิ่งที่หน้าไหลลงมาปิดไม่มิด




เห็นอะไรขาวๆตรงกลางเค้กในรูปที่แล้วมั้ยคะ...

...

...

ด้วยความที่อยู่บ้านนอก...ไม่มีป้าย HBD สำเร็จแบบคนกรุงเทพฯเค้า

...ก็เลย..ทำเอง

เอานี่เลยไอซิ่งกะน้ำเปล่า(จริงๆใช้ไข่ขาวก็จะดี)

กวนให้มันข้นๆ




เอามาอัดใส่ฝาพลาสติค หาเอาแถวนี้แหล่ะ

รองพลาสติคซะหน่อย





แล้วก็เอามือกดๆ ตาก ลม ไว้...แบบลืมๆไปเลย




พอมันแข็ง...ก็แงะออกมา...

จับป๊าบบบ....เข้าไปตรงกลางเค้ก...




แล้วก็แต่งหน้าตานิดนึง....ให้เป็นเค้กวันเกิด

วิ่งไปเด็ดดอกไม้แถวนี้มาสองดอก...(ไม่ค่อยลงทุนเท่าไหร่)

.................................................................................

ก็ได้เค้กช็อคฯหน้านิ่ม แบบ เอาตัวรอดมาได้หนึ่งงาน...

...เล่นซะเหงื่อตกเลย...




แอบถ่ายเนื้อใน...กะชิมไปติ๊ดด...นึง

ตอนเค้าเอามาให้ห่อกลับบ้าน....(อย่าบอกใครนะ...)

จบไปแล้วอันนึง.....มีเค้กประหลาดมาให้ดูอีกอันนึงค่ะ...

ชมกันต่อนะคะ...




เค้กอันต่อไป...ทำให้วันเกิดน้องสาวแถวนี้

ใช้เค้กสูตรเดิม(ช็อคหน้านิ่มนี่ล่ะ)...เพราะขี้เกียจเปิดสูตรใหม่..

แต่เปลี่ยนแนว...ทำเป็นรสชาเขียวค่ะ

.................

หลานสาวสงสารคุณอา..ส่งชาเขียวแบบนี้มาให้

ซองละ 10 กรัม ไปซื้อมาจากร้านแถวสะพานหัน...ส่งมาให้






ด้วยความฉลาดของดิชั้น...ก็กะว่าจะใช้ชาเขียว แทนส่วนของผงโกโก้ 50 กรัมในสูตร

............................................................................................

แต่ด้วยความงก ก็เลยใส่แค่ 30 กรัม เพราะหลานส่งมาให้ห้าซอง...กะเก็บไว้ทำขนมอื่นอีก...




ตอนนี้ก็ยังดูปกติดี....ใช่มั้ยคะ




ชะแว้บ....เอาหน้าวิปปิ้งครีมโปะเลยค่า..

ทั้งๆที่ตอนแรกกะจะทำชาเขียวหน้านิ่มซะหน่อย...

เพราะอะไรน่ะเหรอ....




ดูเค้กชาเขียวของดิช้านสิคะ...

...

มันดำ...ดำ...ดำ....กว่าเค้กช็อคโกแลตอีก...

นี่ขนาดงกชาเขียวนะ....ถ้าไม่งก..บ้าใส่ไป 50 กรัม..

.......จะเกิดอะไรขึ้น ????




แต่ก็....ซัดกันเรียบล่ะค่ะ..

คนแถวนี้เค้าอดอยากเค้ก....ทำอะไรไปก็กินหมดล่ะค่ะ

.....

ตัว Excuse..Me! กินได้นิดเดียว เพราะชาในเค้กมันเข้มมากเลย

กินแล้วมึนเลย....แต่คนอื่นเค้าไม่เป็นไร

.....

เลยมาคิดว่าน่าจะใส่ผงชาเขียวแค่ 10 กรัม แล้วใช้สีช่วยเอาดีกว่า..ว่ามั้ยคะ




จบแล้วค่ะ...เรื่องขำๆตอนทำเค้กของ Excuse..Me!

แต่ตอนทำน่ะขำไม่ออกหรอกนะคะ.......

บ๊ายบายค่ะ......ขอบคุณท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านนะคะ...ที่มาอุดหนุนเค้กดิช้าน...

สูตรเค้าดีจริงๆนะคะ....

ไปแล้วค่า....ชะแว้บบบบบ...บบ









 

Create Date : 24 มิถุนายน 2550    
Last Update : 1 สิงหาคม 2550 21:23:11 น.
Counter : 1601 Pageviews.  

< เค้กม้วนชาเขียว > สูตรเดียว มาทำเป็นขนมสามอย่าง สามStyle จ้า

สวัสดีค่า.....ขนมเซทนี้เกิดมาจาก....

เพราะมีสูตรนี้อยู่ในมือนานแล้ว....ตามลิ้งค์ค่ะ

เค้กม้วนชาเขียว สูตรของคุณแมงเม่า


//topicstock.pantip.com/food/topicstock/2006/12/D4966683/D4966683.html


ใจจริงอยากทำตามสูตรนั่นล่ะค่ะ...แต่ไม่มีชาเขียวแบบผงๆ

ใช้..ชาไทย(ตรามือ)...ซะเลย...

เนื่องมาจากม้วนไม่ทัน...เด็กแถวนี้...

*******อันดันแรกก็เลยได้...เป็นขนมชิฟฟ่อนแบบร้านตรงเทเวศน์

พอครั้งที่สอง.....ลองใส่กาแฟ.....

มีเวลาแอบม้วน....

******อันดับสองเลยได้....เค้กม้วนรสกาแฟ

ต่อมา...ในเวลาใกล้กัน...

ได้รับคำสั่งให้ทำเค้กวันเกิดให้บอส....

กำลังร้อนวิชา...เอาใส่พิมพ์เค้ก...จับแต่งหน้า...

*****อันดับสาม

ก็เลยได้หน้า...เอ๊ยยยม่ายช่าย...ได้เค้กไว้ให้บอสเป่าในวันเกิด

*****ตามมาดู Excuse..Me! ทำนะคะ

ของไม่ครบ...แต่ใจรักค่า........หุหุ




ขอแปะสูตรอีกทีค่ะ ขอบคุณคุณแมงเม่า และคุณป้าใหญ่ใจร้ายที่เอามาโพสท์ไว้นะคะ

เค้กม้วนชาเขียว(สูตรคุณแมงเม่าค่ะ)
ส่วนผสม
แป้งเค้ก 60 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
น้ำตาลป่น 80 กรัม
ไข่ไก่ 3 ฟอง
นมสด 20 กรัม
น้ำมันพืช 20 กรัม
ผงชาเขียว 3 ช้อนชา
ส่วนผสมครีม
วิปปิ้งครีม 100 กรัม
น้ำตาลป่น 10 กรัม
วิธีทำ
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C เตรียมถาดอบโดยตัดกระดาษไขปูก้นถาดขนาด 28*28 ซม.
2. ร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน พักไว้ นำนมไปอุ่นให้ร้อนละลายผงชาเขียวแล้วใส่น้ำมันผสมให้เข้ากันพักไว้ให้เย็น
3. ตีไข่กับน้ำตาลให้ขึ้นฟู โดยค่อยๆใส่น้ำตาลทีละน้อย ตีจนกระทั่งขึ้นฟูขาวเมื่อยกตะกร้อขึ้นจะตั้งยอดได้
4. ใส่แป้งครึ่งส่วน ตะล่อมเบาๆจากด้านล่างขึ้นด้านบนผสมพอเข้ากันใส่แป้งส่วนที่เหลือลงผสมต่อจนเข้ากัน พอแป้งเข้ากันดีแล้ว ตักออกมา 1/2 ถ้วยใส่ลงในชามใบที่ 2 ใส่นมผสมผงชาเขียวและน้ำมันลงไปผสมให้เข้ากัน แล้วเทกลับลงในชามแป้งใบเดิมผสมเบาๆให้เข้ากัน
5. เทใส่ลงในถาดที่เตรียมไว้ เคาะถาดเบาๆเพื่อไล่ฟองอากาศ นำไปอบนานประมาณ 10 นาทีหรือจนกระทั่งสุก นำออกจากเตา ดึงออกจากถาดวางพักบนตะแกรงให้เย็นสนิท คว่ำขนมลงบนกระดาษไขอีกแผ่นแล้วค่อยๆลอกกระดาษไขที่รองก้นออก
6. ผสมหน้าขนมโดยนำโถปั่นและวิปปิ้งครีมไปแช่เย็น นำออกมาตีให้ขึ้น ค่อยๆใส่น้ำตาลลงไปตีต่อจนขึ้นฟูตั้งยอดแข็ง นำไปแช่เย็นก่อนใช้
7. นำครีมมาทาให้ทั่วหน้าขนมหรือจะใช้แยมทาก็ได้ จับขอบเค้กแล้วค่อยๆม้วนเค้กเข้าจนสุด ใช้กระดาษไขที่รองอยู่ช่วยประคองและบังคับตัวเค้ก ม้วนขนมให้กลมและแน่นห่อด้วยกระดาษไขนำไปแช่เย็นประมาณ 30 นาทีก่อนเสิร์ฟ

Excuse..Me! ทำทีละสองเท่าของสูตรนี้ค่ะ...เด็กเยอะค่ะแถวนี้...




ขั้นแรก
เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C เตรียมถาดอบโดยตัดกระดาษไขปูก้นถาด

Excuse..Me! ทำสองเท่าของสูตรคุณแมงเม่า

ก็เลยใช้ถาดที่ใหญ่กว่าค่ะ...เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า




ร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน พักไว้ นำนมไปอุ่นให้ร้อนละลายผงชาเขียว

Excuse..Me! ไม่มีผงชาเขียวค่ะ เลยใช้ชาไทยตรามือนี่ล่ะใส่แทนในนมอุ่น
แล้วเอาผ้าขาวบางกรองกากออก...




แล้วใส่น้ำมันผสมให้เข้ากันพักไว้ให้เย็น




ตีไข่กับน้ำตาลให้ขึ้นฟู โดยค่อยๆใส่น้ำตาลทีละน้อย ตีจนกระทั่งขึ้นฟูขาวเมื่อยกตะกร้อขึ้นจะตั้งยอดได้




ใส่แป้งครึ่งส่วน ตะล่อมเบาๆจากด้านล่างขึ้นด้านบนผสมพอเข้ากันใส่แป้งส่วนที่เหลือลงผสมต่อจนเข้ากัน




พอแป้งเข้ากันดีแล้ว ตักออกมา 1/2 ถ้วยใส่ลงในชามใบที่ 2 ใส่นมผสมผงชาและน้ำมันลงไปผสมให้เข้ากัน แล้วเทกลับลงในชามแป้งใบเดิมผสมเบาๆให้เข้ากัน




เทใส่ลงในถาดที่เตรียมไว้ เคาะถาดเบาๆเพื่อไล่ฟองอากาศ นำไปอบนานประมาณ 10 นาทีหรือจนกระทั่งสุก




นำออกจากเตา ดึงออกจากถาดวางพักบนตะแกรงให้เย็นสนิท




คว่ำขนมลงบนกระดาษไขอีกแผ่นแล้วค่อยๆลอกกระดาษไขที่รองก้นออก

ผสมหน้าขนมโดยนำโถปั่นและวิปปิ้งครีมไปแช่เย็น นำออกมาตีให้ขึ้น ค่อยๆใส่น้ำตาลลงไปตีต่อจนขึ้นฟูตั้งยอดแข็ง นำไปแช่เย็นก่อนใช้

ถึงขั้นนี้ Excuse..Me! ลอกกระดาษรองก้นเค้กออก แล้วจัดการแบ่งครึ่งขนม ได้เป็นสองชิ้น

เอาครีมทา.........

ช่วงนี้...โดนเด็กแถวนี้มุง...........

ไม่ม้ง...ไม่ม้วนแล้วววววววววว...........

จับประกบกันซะเลย....




สมมติว่าเป็น.......ชิฟฟ่อน(เทเวศน์)

ได้ 12 ชิ้น.......หายเรียบภายในห้านาที....

....อร่อยหรือหิวกันเนี่ยยย.......




ต่อไปได้ทำแบบม้วนแล้ว.........

แอบเด็กๆทำ............................

ไม่มีชาเขียวเช่นเคย...เลยใช้กาแฟแทนค่ะ คราวนี้

ตามขั้นตอนในสูตรเป๊ะ

คว่ำขนมลงบนกระดาษไขอีกแผ่นแล้วค่อยๆลอกกระดาษไขที่รองก้นออก

แล้วก็ทาครีม....ไม่ต้องเยอะนะคะ...เดี๋ยวทะลัก




ทีนี้ ก็ม้วนๆๆๆ....สมมติว่ากำลังทำข้าวปั้น แล้วใช่มู่ลี่ไม้ไผ่..

ม้วนๆๆๆๆ....เข้าปายยย....

จริงๆใช้สองมือนะคะ....

มือซ้ายโพสท์ท่าถ่ายรูป...อีกมือใช้จับกล้องค่า...หุหุ




ได้มาสองม้วนล่ำๆค่า....




พอถึงตอนนี้......

แก๊งค์กินเค้กมากันอีกแล้ววว.....

ในสูตรเค้าบอกให้ม้วนใส่ไว้ในกระดาษไข ใส่ตู้เย็นไว้สามสิบนาทีก่อนเสิร์ฟ

................

โดนบังคับให้ตัดด่วน...ไม่งั้นเค้าจากัดกินทั้งแท่ง...

โอยยย.....

มือไม้สั่นรีบตัดซะ...รอยตัดเลยไม่ค่อยเนียนอย่างที่เห็นค่ะ




อร่อยไม่อร่อยไม่รู้....

....ห้านาที...เรียบร้อยยย

...................................

แต่คอนเฟิร์มนะคะว่า....สูตรนี้...นุ่มนิ่มอร่อยค่ะ

ไม่หวานมากด้วยค่ะ....ชอบค่ะชอบ




เมื่อวานนี้เอง...

ภรรยาบอส มาบอกให้ทำเค้กวันเกิดให้บอส

กำลังบ้าสูตรนี้...

ก็เลยทำแล้วเทใส่พิมพ์เค้ก...

ตลกตรงที่...โจทย์คือ

เอาเค้กรสกาแฟ แต่งหน้าด้วยวิปปิ้งครีม โบ๊ะหน้าด้วยสตรอเบอรรี่ โบ๊ะข้างด้วยมะพร้าวอบแห้ง...

เอาล่ะสิ...แค่คิดก็มันแล้ว...

เอาวะ....มาดามสั่งได้...ตรูก็ทำได้ฟร่ะ...

ออกมาเป็นจั๊งซี่...ค่ะพี่น้อง....




ให้ดูเบื้องหลังการแต่งหน้าเค้กของ Excuse..Me! นะคะ

.............ซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน.............

ดูรูปก่อน....สังเกตเห็นมั้ยคะว่าอิช้านเอาอะไรปาดครีม...

หุหุหุ




คั่นด้วยเอาเค้กอีกชิ้นทับลงไปก่อน...

ก้นเค้กสวยงาม...ไร้สิว เอ๊ยย...ไร้รอยถลอก..




มาดูอีกที...

ป๊าด...ปาด....ปาด....

ด้านเรียบ......ใช้สันมีดก๊าบบบ

................

ถูกต้องแล้วค่ะ...

Excuse..Me! ใช้มีดฟันเลื่อยที่ใช้ตัดขนมปัง...

แทนสแปตูล่า......ง่า...

เพราะไม่มี..ไม่มีเวลาไปซื้อ...แอนด์ งกค่ะ....ก็มันใช้ได้นี่นา

ไปดูในบล็อคก็ได้...ขอบอกนะคะว่าเค้กทุกอันในบล็อค...ใช้มีดปาดครีมหมดเลย....

เวลาปาดเรียบก็เอาด้านนี้...




เวลาทำด้านข้างก็ทำอย่างนี้ค่ะ....

แอบไม่เนี๊ยบ...เพราะจับกล้องอยู่เลยพลาดเป็นขยักนิดนึง.




ได้เค้กสมใจ....ออกมาเป็นแบบนี้..

...อีกนิดนึง...นะคะ

ที่เอามีดฟันเลื่อยปาดเค้กให้ดู...ไม่ใช่จะมาอวดว่าเก่งอะไรนะคะ

เอามาให้ดูขำๆ.....เพราะมีคนเค้าเห็นแล้วเค้าขำ..

ก็ไม่มีสแปตูล่านี่นา....ใช้มีดบ่อยๆก็เลยชิน....ประหยัดด้วย...ไม่ต้องซื้อ

ลัลล้า~




ตรงนี้แอบใส่ กุหลาบ....ทำมาจากวุ้นกะทิ แล้วเอามีดแคะๆนิดนึง

ก็ได้เป็นแบบนี้....

เนื้อใน...ถ่ายไม่ทันค่ะ....โดนรุมอีกแล้ว...

.................................


รำพึง....ทำไมครีมมุมนี้ดูมันเละๆหว่า...ว่ามั้ยคะ




กะว่าจะถ่ายอาหารวันเกิดบอสซะหน่อย

ไม่สามารถค่ะ....

ได้แต่ผลไม้...จานเดียวเอง

ช่วงเค้าเผลอกัน.....เลยได้ถ่าย...




จากสูตรเค้กม้วนชาเขียว...ของคุณแมงเม่า...

Excuse..Me! ก็ได้ทำออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่ท่านๆเห็นกันนี้ล่ะค่า...

อาทิตย์ที่แล้วเด็กๆแถวนี้กินขนมสูตรนี้กันทั้งอาทิตย์เลย...

เดี๋ยวต้องหาอะไรใหม่ๆทำอีกแล้วล่ะค่ะ....

.....

ไว้มีอะไรใหม่...จะมาโพสท์อีกตามเคยค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาดูกระทู้นี้นะคะ....

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ....

มีความสุขกันมากๆนะคะ.....บ๊ายบายค่า..




ขอบคุณที่แวะมานะคะ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์ล่วงหน้านะคะ





 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2550 19:22:54 น.
Counter : 2529 Pageviews.  

ღ SerRaDuRa ขนมสูตรรักจากแดนไกล ღ





พอมีเวลาทำขนมกับเค้าบ้างแล้ว...เย้ๆๆๆๆ

ขนมวันนี้ชื่อว่า "SERRRADURA" ค่ะ

หลายวันก่อน ได้นั่งรื้อๆค้นๆเอกสารส่วนตัวอยู่...ก็เลยไปเจอสูตรขนมตัวนี้ พับแอบอยู่ซอกหนังสือเล่มนึง

เมื่อหลายปีก่อนเพื่อนเอาสูตรแผ่นนี้มาให้ เพื่อแลกกับขอใช้เครื่องตีไข่....

ไม่ได้ทำนานแล้วเหมือนกัน...ทั้งที่ทำง่ายมากเลยค่ะ






สูตร SERRADURA

ส่วนผสม:-

นมข้นหวาน 1 กระป๋อง

วิปปิ้งครีม 1 ลิตร

แครกเกอร์มาเรีย(plain cracker) 2 แพค

วิธีทำ :-

แช่วิปปิ้งครีมในตู้เย็นให้เย็นจัด(ในสูตรบอกแช่ล่วงหน้า 1 วัน)

นำวิปปิ้งครีมมาตีให้ขึ้น

ใส่นมข้นลงไปตีให้เข้ากัน

ขั้นสุดท้ายใส่แครกเกอร์ที่บดเป็นชิ้นหยาบๆลงไป

สำหรับการตกแต่งขนม ทำได้โดย เอาแครกเกอร์ไปบดให้เป็นผงในเครื่องบดอาหาร

แล้วเอาผงแครกเกอร์ที่ได้มาโรยบนหน้าขนม.

________________________O

ง่ายมั้ยล่ะคะ แค่อ่านสูตรก็ทำได้เลยใช่มั้ยคะ

ง่ายๆแต่อร่อยนะคะ





คงจะงงกัน ขนมอะไร...มาจากไหน

พอจะหาคำอธิบายได้ดังนี้

"Serradura" -- Macanese "Sawdust Pudding"

"Whilst the most popular dessert in Macau is undoubtedly Pudim (creme caramel) the simplest one to make is Serradura which means, literally, (in Portuguese) "Sawdust". It's ridiculously simple, disgustingly fattening and sufficiently intriguing to get your dinner guests pondering over the ingredient

นั่นหมายถึงว่า จะหาชนมชนิดนี้ทานได้ที่ มาเก๊า และโปรตุเกสค่ะ




หน้าตาอาจจะไม่ใช่แบบที่ Excuse..Me! ทำ

เพราะที่ทำนี่...ตามใจตัวเองค่ะ...ว่าอยากให้ออกมาแบบไหน

วันนี้ Excuse..Me! ดัดแปลงทำเป็น 3 เวอร์ชั่น ค่ะ




ส่วนผสมค่ะ

เอากระชอนร่อนแครกเกอร์ที่บดหยาบๆไว้

แบ่งส่วนที่เป็นผงไว้แต่งหน้าค่ะ




เริ่มแรกตีวิปปิ้งครีม

วิธีของExcuse..Me!ในการตีวิปปิ้งครีม คือ

นอกจากจะแช่วิปปิ้งครีมให้เย็นจัดแล้ว

เอาโถตี กับหัวตี แช่ช่องฟรีซให้เย็นจัด ก่อนตีวิปปิ้งครีมสัก 30 นาที

เวลาที่ตีวิปปิ้งครีม จะขึ้นง่าย ใช้เวลาน้อยค่ะ




พอครีมเริ่มตั้งยอด

ใส่นมข้นค่ะ

ไม่ต้องตามสูตรก็ได้นะคะ...

ถ้าไม่ชอบหวาน...เทกะๆเอาแล้วชิมดูค่ะ

ขนมนี้ง่ายๆไม่ซีเรียสค่ะ





พอครีม ตั้งยอด

ใส่แครกเกอร์ลงไปให้หมด

ใช้พายคนๆๆๆให้เข้ากัน




ตักใส่ภาชนะที่จะเสิร์ฟ

โรยหน้าด้วยผงแครกเกอร์ป่น ที่แบ่งไว้

แต่งตามชอบ

Excuse..Me! หันไปหันมา

นี่เลย..ฝอยทอง<<<ขนมที่มีที่มาจากโปรตุเกสเหมือนกัน

ที่นั่นเค้าเรียกฝอยทอง ว่า Fios de Ovos ค่ะ




ต่อไป เวอร์ชั่นกาแฟค่ะ

ภูมิใจเสนอจริงๆ...เพราะคิดเองค่ะ

ส่วนตัวชอบ...สวย...กินอร่อยค่ะ

คิดได้ไงเนี่ยยย...




ทุกอย่างก็เหมือนเดิมค่ะ

เปลี่ยนแค่นมข้นหวานธรรมดา

เป็นนมข้นรสกาแฟ....พอดีแถวนี้มีขาย

เมืองไทยมีขายป่าวไม่ทราบนะคะ...

มีเป็นหลอด กับกระป๋องค่ะ...เค้าว่าเป็น ideal for camping

เพราะบีบใส่แก้ว ใส่น้ำร้อน ก็ได้กาแฟใส่นมรสพอดีๆเลยล่ะค่ะ

แต่เราเอามาทำขนมซะนี่....




ทำเหมือนเดิม

ตีครีม...แอบตักแบ่งไว้หน่อยนึง

ก่อนใส่นมข้นรสกาแฟลงไป

ตีให้ขึ้นค่ะ

ถ้าไม่มีแบบนี้ ใช้นมข้นหวานธรรมดา

แล้วก็ใส่ผงกาแฟ หรือโกโก้ เพิ่มก็เหมือนกันค่ะ




ได้มาแล้ว

ใส่แครกเกอร์

คนให้เข้ากัน

แครกเกอร์เยอะๆแบบนี้จะอร่อยนะคะ

เวอร์ชั่นแรกใส่น้อยไปหน่อย

ป.ล. ไม่ได้ทำตามสูตรเป๊ะๆนะคะ เพราะบอกแล้วว่า ขนมชนิดนี้ไม่ซีเรียสค่ะ

กะๆเอาตลอด...ครั้งแรกครั้งเดียวที่ทำตามสูตร

นอกนั้นกะเอาตลอดดดดด ดด.....




เอาใส่ในถ้วยกาแฟค่ะ...เพราะมันเป็นรสกาแฟใช่มั้ยคะ

แล้วก็โปะด้วยครีมที่ตัดแบ่งไว้

ทำเป็นคาปูชิโนเลยยยย....




เขียนหน้าให้เป็นคาปู'

ใช้เจ้านมข้นรสกาแฟ...ให้เป็นประโยชน์

ทำแบบเถื่อนๆ...อิอิ...เอาปลายตะเกียบลากเลย

นมมันปู๊ดด ...ออกมานิดนึง...ลายเลยไม่ค่อยเพอร์เฟค
เลย

แต่เอาน่า...ก็ครั้งแรกที่ทำหน้าคาปูชิโนนี่นา




ส่วนเวอร์ชั่นที่สาม

รวบรัดตัดตอนเลยนะคะ

ใช้โอริโอค่ะ...

เอาผงป่นๆโรยหน้าแต่งด้วยวิปปิ้งครีมอีกที




เป็นไงบ้างคะ....ไม่ยากใช่มั้ย

แนะนำให้ลองทำนะคะ...เพราะง่ายดี

เคยเห็นเค้าทำรสมะม่วงด้วย...แต่เราไม่ชอบ..เลยไม่ทำ

ใครที่มีวิปปิ้งครีมเหลือๆ...ก็ทำได้ค่ะ...ไม่ต้องตามสูตรหรอกค่ะ

แต่หลักๆคือ วิปปิ้งครีม นมข้น และแครกเกอร์ค่ะ
สีกลิ่นรสแต่งได้ตามชอบค่ะ

ทุกอย่างกะเอาได้ค่ะ...




อร่อยแบบง่ายๆ สไตล์ Excuse..Me! ค่ะ




โพสท์ไว้ที่ :- //www.pantip.com/cafe/food/topic/D5410946/D5410946.html


เมื่อ 16 พ.ค. 50


ขอบคุณที่แวะเข้ามานะคะ คอมเม้นท์ไว้นิดนึงก็ได้..นะคะ ขอบคุณค่ะ










 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 12 มิถุนายน 2550 7:55:56 น.
Counter : 2056 Pageviews.  

Easter Eggs (My Style)

เทศกาลไหนๆคนไทยก็แฮปปี้ค่ะ..ทำไข่อีสเตอร์[Easter Eggs]มาฝากเพื่อนๆค่ะ


สวัสดีค่ะพี่น้องชาวก้นครัว...

วันนี้ตั้งใจเอาไข่อีสเตอร์มาฝากทุกคนค่ะ ขอให้มีความสุขกันนะคะ

ว่างเว้นจากการทำไข่อีสเตอร์มานาน ไข่อีสเตอร์แบบเดียวกันนี้ เมื่อหลายปีก่อน เคยไปวิ่งเล่นอยู่แถวยุโรปใต้ ปีนึงเคยทำไข่แบบนี้แจกฝรั่ง ก็ได้เสียงกรี๊ดกร๊าด ชื่นชม..มาบ้าง

เดี๋ยวนี้ชักขี้เกียจ ไม่ได้ทำแจกใครอีก คราวนี้ตั้งใจทำเพื่อชาวกันครัวโดยเฉพาะเลยนะคะเนี่ยยย.....




เริ่มแรก...ว่าด้วยสาระค่ะ

Easter Eggs: ไข่อีสเตอร์ การหาไข่อีสเตอร์ กลาย

เป็นธรรมเนียมประเพณีที่สนุกสนาน เคียงคู่ไปกับการเฉลิมฉลองวันอีสเตอร์ จนยากที่จะตัดทิ้ง ทั้งๆที่ไข่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับอีสเตอร์แรกเลย เริ่มแรกเมื่อมีการใช้ไข่ในยุโรปสมัยโบราณ หมายถึง “ชีวิต ชีวิตใหม่” หรือ “ความอุดมสมบูรณ์ที่กลับมาอีกครั้งหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ” ชาวยุโรปเคยใช้ไข่กลิ้งไปตามท้องทุ่ง แล้วบนบานให้ทุ่งนาของตนมีผลิตผลบริบูรณ์
ต่อมาเมื่อคริสต์ศาสนาเผยแผ่เข้าไปในยุโรป และในหลายๆประเทศยอมรับเชื่อเป็นสาวกของพระเยซู เมื่อถึงปัสกา หรือ อีสเตอร์ ซึ่งตรงกับฤดูใบไม้ผลิพอดี เลยเอาไข่ที่เคยใช้แต่ก่อนแล้วมาผสมโรงด้วย
ไปดูหลักฐานการใช้ไข่ตั้งแต่โบราณคือ ชาวอียิปต์ และชาวเปอรืเชียได้นำไข่มาทาสีและมอบให้เป็นของขวัญแก่เพื่อนๆ ในเวลาต่อมาคริสตชนในตะวันออกกลาง เป็นพวกแรกก็ได้เอาไข่ทาสีเข้ามาในพิธีเฉลิมฉลอง อีสเตอร์ของตน
ณ เวลานี้ไข่ ก็ได้พัฒนาเป็นช็อกโกแลตรูปไข่ หรือไข่พลาสติก ข้างในบรรจุของกิน หรือของขวัญตามที่จะออกแบบใช้กันในประเทศนั้นๆ นี่เป็นที่มาด้านธุรกิจ อย่างไรก็ตามสำหรับอีสเตอร์ในคริสตจักรไทยๆ ก็ยังนิยม เอาไข่ ไก่-เป็ด มาต้ม ทาสีแดง หรือไม่ทา แต่ก็เอาไปซ่อนไว้ในที่ต่างๆ เช้ามืด ของวันอาทิตย์ คริสตชนจะไปโบสถ์กันตั้งแต่เช้ามืด เด็กๆ ก็หาไข่ที่ซ่อน ผู้ใหญ่ ก็ร่วมนมัสการเช้ามืด จำลองสถานการณ์เหมือนเช้าตรู่ เมื่อสองพันปีที่ แล้ว ที่สาวกย่องไปที่อุโมงค์ เพื่อไปชโลมพระศพ และพบว่าอุโมงค์ว่างเปล่า เพราะพระเยซูเป็นขึ้นจากความตายแล้ว
++++++++++++

หมายเหตุ: หลายๆคริสตจักรได้จัด ประกวด การระบายสี ตกแต่งไข่อีสเตอร์ประกวดกัน แต่ความหมายที่แท้จริงคือชีวิตนั่นเอง


ที่มา:-

//topicstock.pantip.com/religious/topicstock/Y3375650/Y3375650.html




วิธีทำ...

เจาะเปลือกไข่ เอาไข่ออก(เอาไปทำอะไรก็ได้ค่ะ)

แล้วล้างเปลือกไข่ให้สะอาด...




ผึ่งให้แห้งเรียงใส่แผงไข่ไว้..

รอขั้นตอนต่อไป...




ส่วนผสมหลัก...เจลลี่ผงสีต่างๆ




เทใส่ภาชนะไว้เป็นสีๆ รอน้ำร้อนเดือด




ละลายแล้ว...ตามสูตรข้างกล่อง
แต่ลดน้ำลงหน่อยนึง เพราะเราต้องการเจลลี่แข็งๆนิดนึง






ส่วนที่เป็นสีขาว...ต้องใช้ฝีมือหน่อยนึง

เอาผงวุ้น 1 ชต. ละลายกับน้ำเปล่า 1/2 ถ.

กับกะทิข้นๆ 2 ถ. ตั้งไฟกลางให้เดือดสักพัก

ใส่น้ำตาล 3/4 ถ. เกลือนิดนึง

ปล่อยให้เดือดสักพัก ปิดไฟรอใช้งานค่ะ

จะได้วุ้นกะทิที่แข็งกว่าปกตินิดนึงค่ะ




ทีนี้ก็หยอดเยลลี่สีต่างๆ และ วุ้นสีขาว ตอนยังอุ่นๆ
ลงในไข่ ทีละสี ทีละชั้น

รอชั้นแรกแข็งตัวก่อนแล้วค่อยหยอดชั้นต่อไป

ทำจนเต็มฟองไข่ค่ะ....ใช้จินตนาการตามสะดวก






ใช้เทคนิคเอียงไข่...หลังจากหยอดแต่ละชั้น

เพื่อให้ชั้นที่ได้เอียงไปมาค่ะ...(งงมั้ยคะ)

ดูรูปตอนเสร็จแล้วกันค่ะ





พอเต็มทุกฟอง ก็ปล่อยไว้ให้เซทตัว

จับเข้าตู้เย็นไว้เลยก็ได้....





.
..ทำเท่าที่เห็นค่ะ..เพราะขี้เกียจ...หุหุ

ที่เหลือเทใส่ถ้วยอย่างรวดเร็ว....เอาไว้ตักกิน..





แช่ตู้เย็นลืมๆไปซะ...

จริงๆซักชม.ก็ใช้ได้แล้วล่ะค่ะ...

เอาออกมาดูหน่อยซิ....




ค่อยๆแกะ...เหมือนปอกเปลือกไข่ต้มน่ะค่ะ




แกะออกมาลุ้นๆๆๆ....ออกมาเป็นแบบนี้

ติดๆเปลือกไว้หน่อย...

เดี๋ยวไม่รู้ว่าเป็นไข่....เหอๆๆๆ




จัดใส่อันโน้น....





จัดใส่อันนี้...




รวมให้เพื่อนๆทุกคนในวันอีสเตอร์ค่ะ




Happy Easter Day นะคะทุกคน ขอให้มีความสุขทุกคนเลย...

คนไทยเราแฮปปี้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว...ใช่มั้ยยยยยค้า

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ....









โพสท์ไว้ที่:- //www.pantip.com/cafe/food/topic/D5301798/D5301798.html
9 เม.ย.50



ขอบคุณนะคะที่แวะเข้ามาชมดีใจจัง...




 

Create Date : 09 เมษายน 2550    
Last Update : 9 เมษายน 2550 17:07:38 น.
Counter : 2938 Pageviews.  

Princess Cake

วันเกิด KIKY 21-2-2007


เค้กวันเกิดตามสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กน้อยๆคนหนึ่ง



อุปกรณ์



เค้ก...ซื้อมา



เค้กสี่ชิ้น กับ บัตเตอร์ครีม



วัดความสูงกับตัวตุ๊กตา



เฉือนให้หน้าเค้กเรียบๆ



ออกมาเป็นอย่างนี้



หาอะไรกด ทำช่องตรงกลางเค้ก



บัตเตอร์ครีมที่เตรียมไว้



แปะก้นจานกันเค้กเลื่อน



ปาดครีม เอาเค้กทับ ปาดครีม เอาเค้กทับ จนหมด



เฉือนขอบบนนิดนึง...



ออกมาเป็นแบบนี้...



มาซิแพน...ซื้อเค้ามา



เอารีดออกให้เป็นแผ่น



โปะลงไปให้ครอบเค้ก ดึงพลาสติคออก



เอากรรไกรตัดชายที่ไม่เรียบร้อยออก



ใส่เสื้อให้ตุ๊กตา



ปักตัวตุ๊กตาลงในเค้ก



ตุ๊กตาต้องยืนแอ่นเล็กน้อย เพราะทำเค้กเตี้ยไป วัดแล้วนะเนี่ย



ปกปิดช่องโหว่ด้วยการตกแต่ง



เรียบร้อยแบบขาวๆ



เอาบัตเตอร์ครีมใส่สี



เขียน แสดงความเป็นเจ้าของนิดนึง สีเหลือ...เติมไปเรื่อย



เจ้าของวันเกิดเลิกจากโรงเรียน มารับไปแล้ว..



~*~*~*~*~จบแล้วค่ะ~*~*~*~*~



P.S.ความในใจคนทำ:-

มีความสุขมากที่ได้ทำเค้กชิ้นนี้ แม้ไม่ได้ทำเองหมดร้อยเปอร์เซนต์

ทำเป็นครั้งแรก และไม่รู้จะได้ทำอีกเมื่อไหร่ ดีใจที่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้

มองรูปเจ้ากิ๊กกี้ทีไร....ป้าล่ะมีความสุขทุกทีเลย...จริงๆนะ




 

Create Date : 06 เมษายน 2550    
Last Update : 8 เมษายน 2550 19:57:06 น.
Counter : 1611 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

Excuse..Me!
Location :
Thailand / New Zealand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]






*สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๙ ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความและรูปภาพในBlog แห่งนี้ไปใช้โดยเผยแพร่และโดยการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด


ทางลัดไปลิ้งค์(คลิกที่รูปค่ะ)



Cloud Cake



เต้าฮวยนมสด



Vanilla Beans Panna Cotta



Berry Layer Trifles



Raspberry & Almond Tray Bake



Black Forest ในแบบของฉัน



เค้กแดง-เขียว-ขาว



Pick Up Cherries(2007)



My Carving



Orange Cut



Carrot & Apple Cake



Apple Walnut Cake(สูตรยอดนิยม)



Bolo de Bolacha(Portuguese Dessert)



Pandan Chiffon Cake



Orange Sponge Cake



Light Classic Cheese Cake



Taro Pie



Serradura(Portuguese Dessert)



Easter Egg @ 2007



Princess Cake@2007



Roti

เขียนข้อความที่เราต้องการ


Cake Decoration



Mango Mousse Cake







THANKS FOR COMING
คนที่ออนไลน์ตอนนี้ ~♥ ข อ บ คุ ณ ที่ เ ป็ น เ พื่ อ น กั นนะคะ ♥~
หลังไมค์คลิกที่นี่ค่ะ
Friends' blogs
[Add Excuse..Me!'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.