www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

องค์บาก 2 , จาก 'พระกูอยู่ไหน' 'ช้างกูอยู่ไหน' มาสู่ 'จากูอยู่ไหน' และ ตอนจบอยู่ไหน ?




จากูอยู่ไหน ?



...ผมไม่ได้หวังอะไรมากจาก องค์บาก 2

เพราะจากซีรี่ย์ 'จา-มาเชี่ยลอาร์ต' ของสหมงคลฟิล์ม ดูเหมือนว่า ผู้สร้างจะไม่ได้เน้นอะไรมาก ตามที่ในอดีตเคยอ่านสัมภาษณ์เจอประมาณว่า จะเอาอะไรกับหนังแนวแอคชั่นโชว์ศิลปะการต่อสู้

องค์บาก 1 จึงเห็น จาเตะๆต่อยๆ พร้อมเสียง พลั่ว พลั๊ก อ๊ากกก แล้วก็ พระกูอยู่ไหน ?

ต้มยำกุ้ง มีฟอร์มที่ใหญ่ขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็คือ เห็น จาหักกระดูกเตะก้านคอ พร้อมเสียงกรอบแกรบ พลั่ก อ๊ากก แล้วก็วนเวียนกับ ช้างกูอยู่ไหน ?

พอมาถึง องค์บาก 2 ความน่าเป็นห่วงล่วงหน้า มาตั้งแต่ หนังยังถ่ายไม่เสร็จ แล้วดันมีข่าวออกมาว่า จากูอยู่ไหน ?

จึงคิดว่า หนังก็คงไม่ต่างจากเดิม แถมมีสิทธิโคม่า เพราะ จา เพิ่งแสดงหนังมาไม่กี่เรื่อง มากำกับหนังครั้งแรก แล้วก็ยังหายไปพร้อมกับปัญหาหนังค้างๆคาๆ


คุ้มค่า น่าดู ?



... จนเมื่อได้ดูจริงๆ ก็ต้องประหลาดใจ เพราะผลงานที่ออกมาทำให้คิดในใจตอนดูว่า หนังดีกว่าที่คิดแฮะ

หลายๆอย่างของหนังทำได้ดี มีคุณภาพ เช่น งานโปรดักชั่นเนี้ยบ , ฉากแอคชั่นดูดีมีไอเดีย โดยเฉพาะหลายๆฉากที่ใช้ช้างมามีส่วนร่วม (อย่างฉากกระโดดเหยียบช้างเป็นโขลง หรือ ต่อสู้บนตัวช้างตอนท้าย) ฉากต่อสู้หลายฉากมาแบบเน้นๆ ไม่ประปรายกระจัดกระจายแบบให้คนเยอะๆมารุมเหมือน ต้มยำกุ้ง

และ ที่ชอบกว่า ซีรี่ย์จา-มาเชี่ยลอาร์ต เรื่องอื่นๆคือ การเล่าเรื่องของหนังดูราบรื่นไม่สะดุดตะกุกตะกัก แบบตัดๆแล้วมาต่อๆกันชนิดไร้รอยเชื่อม เหมือน หนังไทยฟอร์มยักษ์ส่วนใหญ่

ภาพรวมของหนังลื่นไหลดีกว่าที่คิด ดีกว่าทุกๆเรื่องแม้กระทั่ง ช็อกโกแลต และยังดูสนุกกว่า ปืนใหญ่ฯ ที่เพิ่งลงโรงไปเสียด้วยซ้ำ

เรียกได้ว่า ถ้าเรื่องนี้ จา เป็นผู้กำกับแบบคุมหนังหลักๆเอง ไม่ได้พึ่งพามืออาชีพคนอื่นๆ เหมือนหนังบางเรื่องที่ขึ้นชื่อนักแสดงเป็นผู้กำกับแต่ต้องอาศัยผู้ช่วยผู้กำกับมาทำหน้าที่หลัก ก็ต้องชมว่า จา มีแววรุ่งมาก ใน บทบาท จา-ผู้กำกับ มากกว่า จา-นักแสดง


จา - ว่าที่ บรู๊ซ ลี - ตำนานพระเอกแอคชั่นอันดับ1 ?



... ดูหนังจามาทุกเรื่อง ที่เขียนต่อไปนี้ อาจจะดูใจร้าย แต่รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

นั่นคือ บนถนนของการแสดง ถ้า จา ยังคงเล่นแข็งหน้าตายไร้อารมณ์แบบนี้ ไม่มีพัฒนาการมากขึ้นตามจำนวนหนังที่ฉาย หรือ เล่นหนังวนเวียนในรูปแบบเดิมๆ

จา ก็คงวนเวียนเล่นได้ในหนังแบบร้อยเนื้อทำนองเดียว คือ ออกมาหักกระดูก ทวงของ แล้ว กลับบ้านนอน

จา พนม ในตอนนี้ โกอินเตอร์ได้จริง มีจุดขายแข็งแรง แต่ ขาดเสน่ห์ ที่จะยืนระยะยาวในฐานะนักแสดง

ลองนึกเปรียบเทียบ นักแสดงแอคชั่นเอเชียที่โกอินเตอร์ แบบยืนระยะมานาน มักจะมีอะไรที่เป็นเสน่ห์ติดตัวอยู่ในการแสดง

เช่น เฉินหลง แสดงดีมีอารมณ์ขัน มีความสามารถรอบด้าน หรือ เจ็ทลี มีแอคติ้งที่พอไปได้และดูเท่แม้ไม่ต้องชกต่อย ในขณะที่ สิ่งที่จามีจุดขายอย่างเดียวคือ ศิลปะการต่อสู้ของจริง

ดังนั้น หากจะหวังเป็นนักแสดงในระดับโกอินเตอร์หรืออยู่ยาวนาน จา ต้องติวเข้มด้านแอคติ้งอย่างรุนแรง

มิเช่นนั้น หนังที่จาเล่นจะไม่ไปไหนไกลนอกจากเน้นจุดขายประเภท ‘เล่นจริง เจ็บจริง’ / ขายช้าง / ขาย exotic ขายความเป็นไทย วนเวียนกับพล็อต ‘ทวงของ สลับ โชว์ชกต่อย’ แถวๆนี้ไปตลอด

ยกเว้น จา กับ ผู้ปั้น จะพอใจกันเพียงเท่านี้


บทดี หรือ ไม่ดี ?



...บท คือ ปัญหาสำคัญของหนังไทย

ทัศนคติเดิมๆของทีมสร้างหนังชุดนี้ ยังฝังใจชวนให้คิดว่า หนังคงไม่ได้เน้นบทมาก จนกระทั่ง ช็อกโกแลต เป็น หนังแอคชั่นไทยๆสไตล์มาร์เชี่ยลอาร์ตของ สหมงคลฟิล์ม ที่ผู้สร้างแสดงออกชัดว่า เริ่มใส่ใจกับบทหนังมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ดีขึ้นกว่าเดิมจริง

องค์บาก 2 มีบทที่ดีขึ้นกว่าองค์บาก 1 กับ ต้มยำกุ้ง แต่ปัญหาของบทหนังก็ยังคงอยู่คล้ายๆเดิม

จริงอยู่ว่าหนังทำนองนี้ เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมาก อย่าหวังอะไรจากเนื้อหา เพียงแต่วิธีการเล่าเนื้อหาของหนังจะดีกว่านี้ ถ้าหนังไม่ใช้วิธี ใส่ฉากแอคชั่นแบบเดินหน้าลุยทีละคน เป็นเวลานานๆ แล้วเหมือนกลัวจะลืมว่าต้องเล่าเนื้อหา จากนั้นก็สลับมาเล่าเรื่องสั้นๆพอเป็นพิธี แบบนี้

เตะต่อยตะลุยด่าน(15นาที) --> เล่าเรื่องซักหน่อย(5นาที) --> เตะต่อยตะลุยด่านต่อ


...หนังแอคชั่นที่มีบทดีๆ ไม่ได้แปลว่าจะต้องซับซ้อน แต่ มักจะมีชั้นเชิง และ มีพัฒนาการของตัวละครและเรื่องราว ไปพร้อมๆกับ ฉากแอคชั่น ตัวอย่างง่ายๆแบบ Kill Bill ที่เนื้อหาก็น้อยพอๆกับ องค์บาก คือ แค้น --> แก้แค้น

แต่หนังไม่ใช่ ระดมฉากแอคชั่นยี่สิบนาที แล้ว เข้าฉากเล่าเรื่องพอเป็นพิธีห้านาที แล้วกลับมาเตะๆต่อยๆ แต่ ทั้งดราม่าและแอคชั่นเดินหน้าไปพร้อมๆกัน

อย่างในองค์บาก 2 ถ้าหนังแสดงให้เห็นความผูกพันของสรพงษ์กับจาให้มากขึ้นอีกซักนิด หรือ ถ้าเห็นว่าหม่ำยังไม่จำเป็นในภาคนี้ก็ไม่ต้องให้โผล่มาห้วนๆเปลืองเวลา แล้วเจียดเวลาช่วงนี้ไปเพิ่มเวลาให้กับส่วนอื่น เพราะใส่หม่ำมาก็แทบจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหานอกจากจะเน้นเรื่องกำไล ฯลฯ

ความเก๋ไก๋สองจุดที่ดูเข้าท่าในตัวบท ที่ถึงจะไม่แปลกใหม่ แต่ก็ดูมีชั้นเชิงกว่าเรื่องก่อนๆ คือ 1. การกำหนดจุดเริ่มต้นให้หลงในด้านมืดเป็นหัวหน้าโจร จมกับกองแค้น ทำให้ตัวละครดูมีมิติมากขึ้น และ 2. วิธีเล่าแบบ Flashback เพื่อขยายความเป็นไปของที่มาตัวละคร

ซึ่งถ้าหนังพัฒนาบทให้ดีกว่านี้อีกซักนิด + จา ไปติวแอคติ้งมามากกว่านี้ ตัวหนัง จะยอดเยี่ยมกระเทียมดองมาก


จา กับ ความเป็นไทย?



...ผมไม่ได้รังเกียจ ความเป็นไทย ในหนัง

และไม่ผิดอะไรที่หนังจะเน้นฉากแอคชั่น หรือ ฉากรำฉากช้าง เพราะ เจตนาของหนังคือ เป็นหนัง martial arts ที่ขายความเป็นไทย

แต่ถ้าเห็นว่าเวลาจำกัด ฉากบางฉากก็น่าจะรวบรัดเช่น ฉากรำ เพียงเพราะต้องการขายฉากนาฏศิลป์ หรือ ฉากทดสอบฝีมือจาที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมส์ ที่ต้องผ่านด่านทีละคน เพียงเพราะหนังจะโชว์ฉากศิลปการต่อสู้

ฉากเหล่านี้ อาจจะเป็น จุดเด่นที่ขายตลาดเมืองนอกได้ดี แต่การมีของมันในหลายช่วงของหนัง ก็กินเวลาส่วนจำเป็นอื่นๆ เพราะ นี่คือ 'หนัง' ไม่ใช่ 'โฆษณาขายจาและความเป็นไทย'

สังเกตว่า หนังจาที่ผ่านๆมาเน้น ขาย จุดเดิมๆมากไปนิด และ ขายแบบไดเร็คเซลล์ตรงๆไปหน่อย ซึ่ง เหมือนธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วว่า ถ้าหนังจา เอะอะไรก็ต้องใส่ช้างและทำให้ดูไทยจ๋า

ทั้งๆที่ หนังเฉินหลง ยังไม่เห็นเน้นขายความเป็นจีนมากๆขนาดนั้นเขาก็ยังโกอินเตอร์ได้ด้วยดี

ถ้าอยากส่งจาไปให้ไกลกว่านี้จริงๆ เชื่อเถอะ คือ เน้นตัวหนังให้ลงตัวกว่านี้ และ ส่งจาไปเรียนการแสดงโดยไว


ตอนจบอยู่ไหน ?



เมื่อหนังกำลังมันส์ๆ เข้มข้น เข้าสู่ไคลแมกซ์ ปรากฎว่า หนังตัดจบ พร้อมคำพูดอะไรซักอย่างประมาณขอพลังจงอยู่คู่กับคุณ ฯลฯ แล้วก็มีภาพ จาไว้เครา ทิ้งท้ายกับเศียรพระพร้อมรอยบาก

เสียงพึมพำของคนดูในโรงคือ "ไรว้า?"


... จุดที่น่าติมากๆ คือ การตัดหนังจบแบบห้วนๆ ชนิดที่ไม่เปิดเน็ตอ่านก็คงไม่รู้ว่าหนังภาคนี้ยังจบไม่สนิท แต่จะมีต่อภาค 3 ซึ่งเป็นการตัดจบแบบไม่เป็นมืออาชีพ เหมือนจะจบก็จบ แถมประโยคพูดตอนจบก็ฟังดูแปร่งๆ ที่มาขอ พลังศรัทธาพลังใจพลังรักของชาวไทย ฯลฯ แทนที่จะขึ้นง่ายๆว่ามีต่อภาค 3

ซึ่งถ้าให้เดา เป็นไปได้ว่า ตอนมีเรื่องมีราวที่เป็นข่าวว่าหนังยังทำไม่เสร็จ แล้วตามหาตัวจาเพื่อมาปิดหนังที่ยังค้างๆคาๆ แต่บังเอิญถึงกำหนดฉายเสียก่อน ทางค่ายหนังจึงอาจจะจำใจตัดจบแค่นี้ก่อน แล้วเหลือไว้ทำภาคสาม

ส่วนตัวเดาว่า ไม่น่าจะเตรียมทำภาคสามไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ต้น

ซึ่งไม่ว่าจะสาเหตุใด ปกติหนังที่เค้าทำมาเป็นภาคต่อ ก่อนฉายก็จะแจ้งให้คนดูทราบล่วงหน้า อย่าง Kill Bill หรือ LOTR ไม่ใช่ว่า ตัดจบโดยไม่บอกอะไรเลย เพราะถ้าไม่เล่นเน็ตไม่ติดตามข่าว เป็นชาวบ้านเป็นฝรั่งมังค่า ไปดูคงงงๆมากกว่าว่า อะไรหว่า แล้วตอนจบของหนังมันอยู่ที่ไหน ?


สรุป จะดูดีหรือไม่?



...ถ้าชอบหนังแอคชั่น คุ้มค่าน่าดู หนังไม่ได้ลวกๆหรือชุ่ยๆ มีความตั้งใจในรายละเอียดหลายๆอย่างที่น่าชมเชย เช่น ฉากต่อสู้เก๋ๆมันส์ๆ , งานสร้างที่ดูดี ฯลฯ และ มีพัฒนาการจากหนังเรื่องก่อนๆ

ส่วนตัวแล้ว ชอบและรู้สึกว่าหนังลงตัวมากกว่าองค์บาก 1 และ ต้มยำกุ้ง ดูแล้วไม่รู้สึกขัดๆหรือสะดุดเป็นพักๆ เหมือน ช็อกโกแลต เวลาผ่านไปได้เพลินๆจนหนังจบ

ถ้าสัปดาห์ที่แล้ว หนุ่มๆเซ็งหัวใจที่ต้องนั่งทนดูแวมไพร์หล่อๆเพื่อแฟนสาว อาทิตย์นี้ เป็นทีของหนุ่มๆบ้างได้โอกาสที่จะชวนแฟนสาวไปนั่งเป็นเพื่อนเราเสียที




Link ของ บทความที่อ้างอิงถึง และ เกี่ยวข้อง


ช็อคโกแลต , กลมกล่อมกว่า ต้มยำกุ้ง แต่ไม่แซ่บไม่ติดใจ

ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม

จาก ปืนใหญ่จอมสลัด สู่ บุหงาปารี , ความน่าเสียดาย ความน่าผิดหวัง กับ หนัง(สือ)ดี

Twilight + The Duchess + Teeth , (สัปดาห์หนังพลังหญิง) อาทิตย์นี้ ผู้หญิง ครองโรง








สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com




พื้นที่แนะนำผลงาน{ตัวเอง}

(คลิกที่รูปหนังสือ เพื่อ อ่าน หรือ แสดงความเห็น ต่อหนังสือแต่ละเล่มได้เลยครับ)

ปีนี้ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” ขอฝากผลงานเล่มล่าสุดที่เพิ่งคลอดจ้า อันว่าด้วย 'ความรักและกำลังใจ' ผ่านแรงบันดาลใจจากชีวิตและภาพยนตร์ ในหนังสือที่ชื่อว่า

เมื่อฉันลืมตา แล้วโลกเปลี่ยนไป



และ ผลงานสองเล่มก่อน จากสองปีที่ผ่านมา



"หนังสือรัก" หนังสือที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม กับ องศาที่ 361 หนังสือที่อาสาช่วยคุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยอาศัย'หนัง'เป็นสะพานพาไปเข้าใจตัวเอง


มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 07 ธันวาคม 2551
Last Update : 7 ธันวาคม 2551 20:44:05 น. 20 comments
Counter : 8400 Pageviews.

 
เดี๋ยวไปดูคืนนี้เลย


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:18:02:54 น.  

 
ผมว่าบทดีขึ้นนะ ถึงแม้ว่าจะเดิม ๆ แต่ก็ดี สรุปว่าเรื่องนี้มีพัฒนาการ เสียอย่างเดียวคือเรื่องตัดจบเนี่ยแหละ

เหมือนว่าถ่ายทำเกินงบแล้วมาเก็บตังกับผู้ชมโดยแบ่งออกเป็นสองภาคเนี่ยแหละ เฮ้อ!


โดย: เอ IP: 203.156.64.98 วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:18:19:54 น.  

 
ตัดจบเลียนแบบสามก๊กมั้ง
แต่สามก๊ก จอห์นวูออกมาบอกตั้งแต่หนังยังถ่ายไม่เสร็จว่าจะแบ่งเป็นสองภาค เพียงแต่เมืองไทยเราไม่ค่อยรู้กันน่ะ
น่าจะเกิดจากปัญหางบประมาณบานปลาย ประกอบกับ "จากูอยู่ไหน" ทำให้หนังไม่เสร็จตามกำหนดเดิม แถมตอนที่จากลับมาใหม่ ๆ เคยมีข่าวออกมาว่าหนังถ่ายไม่ทัน ต้องเลื่อนฉายเป็นปีหน้า แต่ไป ๆ มา ๆ ฉายทันปีนี้ซะงั้น
โทนี่เจียงเลยแปรวิกฤตให้เป็นโอกาส ตัดแบ่งเป็นสองภาค รับเงินสองรอบ รวยสะดือปลิ้น ทั้งตลาดในและนอกประเทศเลย
เสี่ยเจียงเนี่ย เทพจริง ๆ ในวงการหนังไทยเราแล้ว



โดย: เป๋าตุง IP: 58.8.54.24 วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:18:57:35 น.  

 
อ่านแล้วบางทีก็ไม่อยากดู เพราะถ้าเป็นฉากเตะต่อยมาก ๆ ดูไปก็เหนื่อยแทน แต่จะพยายามหามาดูคงอีกนานที่จะมีขายในBest Buy

Thank you.


โดย: เสียงซึง วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:20:22:07 น.  

 
ฉากต่อสู้ก็ดีนะครับ เหมือนได้ดูศิลปะการต่อสู้หลายๆแบบมาผสมผสานกัน ตัวเรื่องก็พัฒนาขึ้นบ้าง แต่ก็รู้สึกกับตอนจบเหมือนกัน ว่าช่วงไคลแมกซ์นี่สู้จนคนดูเหนื่อยเลย แต่พอจะตัดจบ แบบว่า จบซะงั้น


โดย: amnesia IP: 202.28.183.10 วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:20:33:39 น.  

 
แต่ผมว่าเอาเรื่องที่จาไม่ค่อยพูดนี้แหละให้มันเป็นจุดเด่นไปเลยดีกว่า
อยากให้จาในหนังมีบุคลิกเป็นคนเงียบๆเก็บกด
ดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ พูดน้อยต่อยหนักทำนองนี้แหละ


โดย: ..................... IP: 58.137.54.34 วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:23:00:31 น.  

 
เห็นด้วยทุกประการครับ


โดย: Pach.คุง IP: 124.121.91.37 วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:5:29:09 น.  

 


ดีครับ

...องค์บาก ลำบาก





โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:11:54:10 น.  

 
+ ไม่เข้าทางผมเลยอ่ะครับเรื่องนี้ เลยต้องขอบายครับ แหะๆ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:19:11:44 น.  

 
กดเข้ามาเพราะชื่อบล็อกโดนใจคอดๆ

เพิ่งไปดูมาเมื่อวาน รู้ปสึกเหมือนนั่นแหละ "ตอนจบอยู่ไหน" โดนมาก 555+

ดูแล้วออกมารู้สึกขาดๆยังไงก็ไม่รู้ แบบว่า เฮ้ย อะไรวะหนังยังไม่จบเลย มาไล่ตูออกทำไม เซ็งไก่มาก ทีแรกนึกว่านายเทียนจะด่องม่องเท่งซะแล้วด้วย

ถ้าเอาเรื่องฉากแตะต่อยสวยก็โอแหละ สู้กันนานมาก สร้างหนังมาเพื่อให้ดูฉากบู้แต้ๆ ไม่ชอบอะ องค์บากภาค 1 แจ๋วกว่า

เฮ้อ...เข้ามาบ่นแล้วกลับออกไป

ปล. เดี๋ยวจะไปหาหนังสือข้างบนนั่นมาเบิ่งบ้างล่ะ....แว๊บ


โดย: ชนวนกลาง วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:19:15:44 น.  

 
ส่วนตัวแล้ว ทำออกมาได้ดีกว่าที่คาด จนถึงขนาดสมราคาคุยครับ จริงๆก็เห็นด้วยกับคุณหมอนะครับ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าพัฒนาขึ้นเรื่อยๆแหละ

จริงๆคาแรคเตอร์ของจา น่าจะให้เป็นไอ้หนุ่มบ้านนอกนะ ซื่อๆ แต่หมัดหนักอะไรเงี้ย ไทยดี 555


โดย: CARAGIO IP: 124.122.151.156 วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:22:39:19 น.  

 
วิจารณ์ได้ละเอียดจังครับ
เข้ามาอ่าน เพราะได้ดูหนังตัวอย่างมาแล้ว รู้สึกว่าเข้าท่าดี แต่เห็นว่ามีปัญหาตอนถ่ายทำ เลยอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วหนังออกมาเป็นยังไง คุณหมอเขียนได้ละเอียด เห็นภาพเลยครับ ขอบคุณมาก ^ ^


โดย: gonz IP: 118.173.55.79 วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:12:54:57 น.  

 
เพื่อนผมดูมาแล้ว..ตอนจบไม่รู้เรื่องเลย


โดย: สะเดา IP: 202.143.152.226 วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:14:25:12 น.  

 
ให้ 3 ดาวครึ่งนะหนังเรื่องนี้ สำหรับความคิดเห็นของผม ก็อยากให้ไปดูฝีมือคนไทยบ้าง แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า อย่าคาดหวังอะไรมากนัก และที่สำคัญขอยืนยันว่าหนังมีภาคต่อแน่นอน เอาไว้ดูเพลินๆแล้วกัน


โดย: คนเคยดู IP: 58.137.12.74 วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:18:36:45 น.  

 
ไปดูแล้วผิดหวัง มาก งงด้วย
ช่วง ท้ายก็สู้กัน นานเหลือเกิน จน เบื่อ
ตัวร้าย บางตัวตายช้า บางตัว แปปเดียวตาย
ทั้งๆที่ ยังไม่รู้ เลยว่าตัวไหน เก่ง ตัวไหนอ่อน


โดย: jimihendrix วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:22:34:07 น.  

 
ส่วนตัวผมว่า acting จาก็ได้ไม่ได้เลวร้าย และเห็นว่าพัฒนาขึ้นมาก ดูได้จากฉากที่แสดงทางสีหน้านั้นเชื่อได้ว่าจาแค้น สับสน และเศร้า ยิ่งตอนที่รู้ว่าสรพงษ์เป็นคนี่ฆ่าพ่อตัวเอง ฉากนั้นผมว่าจาแสดงดีเลยล่ะครับ

ส่วนตัวแล้วหนังเรื่องนี้คุ้มค่าแก่การรอคอย และที่สำคัญภาพสวยมาก


โดย: Ashitaka IP: 118.173.248.7 วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:2:56:47 น.  

 
คิดเหมือนกันเลยครับ สงสัยปัญหาเรือ่งการสร้างแน่ๆ ทำให้ตัดจบซะดื้อๆ แบบนี้ ดูแล้วเสียอารมณ์ไปเลยครับ -.-''
ถึงงบหมดอะไรยังไงอย่างน้อยน่าจะตัดให้ดีกว่านี้หน่อย

ผมว่าพวกหนัง action ที่บทดีๆ ยังมีเยอะนะครับ
อย่าง Takken เนี่ยผมชอบมากเลย ฉากสนทนาใส่มานิดๆ แต่ซึ้งได้ใจจริงๆ เติมเต็มหนังให้สมบูรณ์ไปเลย

ส่วนเนื้อเรื่องบทยังไม่ประทับใจเหมือนเดิมครับ
แล้วก็ไม่ค่อยชอบตอนท้ายๆ เหมือนๆ ตะลุยด่าน
มีงี้ทุกเรื่องเลย -.-''


โดย: lkunl IP: 58.8.11.95 วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:19:39:46 น.  

 
เสี่ยเจียงให้สัมภาษณ์
มีแน่นอน องค์บาก 5
โดยองค์บาก 4 จะเชิญเฉินหลงมาเล่น
องค์บาก 5 เชิญเจ็ทลีมาเล่น
ส่วนภาค 3 เชิญใครไม่ทัน
ก็เลยเอา เดี่ยวชูพงษ์มาเป็นแขกแก้ขัดไปก่อน
เผื่อจะได้สร้างตัวแทน ป้องกันจาเบี้ยวไปเซ็นสังกัดกับทางเกาหลีแทนได้อีกต่างหาก

สงสัยไอเดียตอนจบ ก็คงจะเป็นจากผู้กำกับเดิม
ที่โดนใบสั่งให้จบหนังให้ได้
(เสี่ยเจียงให้สัมภาษณ์ว่า แม้ว่าจาจะไม่กลับมาถ่ายให้จบ ก็จบหนังได้ ก็คงจะเป็นประมาณนี้แหละ
แต่เอาสแตนอินมาใส่เคราแทนนะ)


โดย: thanachott IP: 124.120.91.62 วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:19:54:02 น.  

 
ตอนจบอยู่ไหน
คือยอมรับว่างงมาก
ไม่คิดว่าจะจบบบนี้จนเพื่อนต้องแงะออกจากโรงหนัง
โดยส่วนตัวคิดว่า องค์บากภาคแรกยังบันเทิงกว่า
ส่วนภาคนี้อัดแหลกฉากต่อสู้และจับฉ่ายจากหนังฮอลลีวูดเรื่องอื่นๆ มีทุกเรื่อง (รังโจรเป็นที่รวมมิตรตัวละคร เจอกานดาฟจาก LOTR เหล่าอนารยชนจากApocalypto, ดดำแบบนักรบอาหรับจากMummy return เข้าไปมีอึ้ง)
ไม่ปลื้มเลยเจ้าค่ะ


โดย: สมเปิ้ล IP: 89.211.74.28 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:5:05:43 น.  

 
ไม่ได้มาอ่านนี่งงเลยครับ......
ปล...ยังงงไม่หายนะเนี่ย

//www.petdee.com


โดย: สมชาย IP: 61.19.65.202 วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:0:54:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
7 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.