คนรวย ก็ยิ่งรวย
ได้ฟังรายงานข่าวว่า  คนที่เป็นหนี้ในระบบ  แล้วมีประวัติการชำระหนี้ไม่ดีนัก เช่น จ่ายไม่ตรงเวลา  จ่ายเฉพาะขั้นต่ำ  จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง  ถึงตอนนี้  มีคนที่ไม่จ่ายหนี้ไปแล้ว  และ ทำให้จำนวนหนี้เสียเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะที่  ลูกหนี้ในกลุ่มที่มีประวัติการชำระเงินดี  จ่ายตรงเวลา  จ่ายเต็ม มาโดยตลอด  ลูกหนี้กลุ่มนี้ยังคงมีความสามารถในการชำระหนั้ได้ตามปกติอยู่เป็นส่วนใหญ่
ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะ  ลูกหนี้กลุ่มนี้  มีระเบียบวินัยทางการเงินที่ดีอยุ่แล้ว  เลยไม่ค่อยมีปัญหา
คล้ายๆกับว่า  คนรวยก็ยิงรวย  หรือ ถึงไม่รวยขึ้น  ก็ยังคงความรวยได้อยู่  ไม่ตกต่ำไปตามสภาพเศรษฐกิจ

โดยสัวนตัวก็เข้าใจเรื่องวินัยการเงินอยู่ประมาณหนึ่ง  เคยคิดจะเอามาเขียน Blog  ก็รู้สึกว่า ตัวเองก็ไม่ได้เข้าใจลึกซึ้งพอจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆได้  ความรู้ที่มี  ก็แค่พอให้จัดการกับเงินของตัวเองให้พอดีกับชีวิต  จะทำให้ถึงขึ้นร่ำรวยอย่างที่เคยได้ยินได้ฟังมา  ก็ไม่เคยมีแรงผลักให้ไปพยายามขนาดนั้น
แต่ก็สงสัยว่า  แล้วคนอื่นๆ  เขาคิดอย่างไรกับวลีนี้  คนรวยก็ยิ่งรวย
ฟังดูเผินๆ  มันก็ดูจะเป็นการแสดงควมน้อยเนื้อต่ำใจอยุ่ไม่น้อย  ที่ดูเหมือนคนรวย  ไม่ว่าจะเกิดอะไร  ก็ยังรวย  ในขณะที่คนจน  ทำเท่าไหร่ก็ขยับฐานะลำบาก  แล้วเวลาเจอแรงกระแทก จะมากจะน้อย  ก็จะกระเด็นกระดอน  พลิกคว่ำพลิกหงาย  พอจะตั้งตัวได้  ก็มีแรงกระแทกใหม่มาอีก  จนแล้วก็จนได้อีก
ก็เลยลองพิมพ์ลงไปในกูเกิ้ลดู  ก็เจอคลิปนี้


ดูคลิปจบ ก็ต้องคิดตามเขาว่า  ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป  พาความเปลี่ยนแปลงมาท้าทายเราอยู่ตลอดเวลา  จริงที่เจ้าของคลิปเขาพูด  สถานการณ์แวดลอมที่ไม่เหมือนเดิม  มันทำให้ชีวิตยากขึ้นจริงไ
ตอนเริ่มทำงานครั้งแรก  ฉันได้เงินเดือน 7,000บาท  ราคาบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ขนาด 18 ตารางวา  ราคาราวๆ สามแสน
เด็กจบใหม่เดี๋ยวนี้  ได้เงินเดือน 15,000  แต่ราคาทาวน์เอ้าส์นั้น  พุ่งไปเป็น 1,200,000 บาท
ฉันเองก็ยังนึกไม่ออกวา  ถ้าไม่ได้โชคดี  มีบ้านที่พ่อมแ่สร้างไว้ให้อยู่  ต้องซื้อบ้านอยุ่เอง  จะต้องจัดสรรเงินมาผ่อนบ้านกันจนแก่หรือเปล่า
แต่สำหรับพ่อแม่ฉัน  เรื่องนี้ไม่ใช่โชคดี  และไม่ใช่โชคช่วย
มันคือผลจากการรักษาวินัยและบริหารจัดการเงินอย่างมีเป้าหมาย
ฟังดูดีมั้ย ^^
คำว่าวินัยทางการเงินนี้  ฉันเองก็เพิ่งเคยจะได้ยิน  เมื่อตอนที่มาเริ่มศึกษาเรื่องการลงทุนในหุ้น
ฟังบ่อยๆเจ้า ก็พอจะเข้าใจได้ว่า  วินัยทางการเงิน  คือ การใข้จายเงินอย่างมีแบบแผน  และ จำเป็นต้องทำตามที่วางไว้อย่างเคร่งครัดด้วย
คร่าวๆ คือ เมื่อมีรายรับเข้ามา  ต้องแยกส่วนเงินให้ชัดเจน หลักๆคือ ส่วนออม ส่วนชำระหนี้  ส่วนใช้จ่าย  แยกชัดเจนแล้ว  ก็ต้องเคร่งครัดกับตัวเอง ไม่ควรเอาเงินแต่ละส่วนมาปนกัน เว้นไว้เฉพาะกรณีเงินส่วนอื่นเหลือ  เอามาเพิ่มในส่วนเงินออมได้
เงินออม  มาที่ 1  เพราะเป็นเรื่องจำเป็น  และการมีเงินออมสำรองไว้  อย่างน้อยก็ไม่ทำให้คุณจน
แม่ฉันออมเงินเก่ง  และมีวินัยกับเงินออมมาก  เงินส่วนไหนที่เ็บไว้สำหรับสิ่งสำคัญ  แม่ไม่เคยไปแต  แม้จะต้องกินอยู่อย่างประหยัด
พูดง่ายๆว่า  มีเงินให้ใช้  แต่เก็บไว้เพือภายภาคหน้า
เงินออมที่มี  นอกจากไม่ใช้  ก็ยังหาทางให้เงินทำงาน  ด้วยการเอาไปฝากธนาคาร  ซื้อสลากออมสิน  และพันธบัตรรัฐบาล  ซึ่งก่อนวิกฤตต้มยำกุ้ง  ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารสูงมาก  ฝากเงินไว้เฉยๆ 10 ปี เงินก็เพิ่มเป็นเท่าตัวแล้ว
ถึงตอนนี้  ที่วิกฤตโควิด 19 เล่นงานหลายคนจนน่วม  บ้านฉัน ไม่เดือดร้อนอะไรนัก  ด้วยยังมีดอกเบี้ย  เงินปันผล  ค่าเช่า  เป็นรายได้  แม้ลดจำนวนลงไปมาก  แต่ก็ยังพอให้อยู่ได้
เพราะนโยบายหลักของบ้านเรา คือ ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่ใช่ ใช้เท่าที่อยาก
ถ้าจะเรียกว่านี่คือความรู้  มันก็คือ ความรู้ทันกิเลสตัวเอง

ในคลิปเขาบอกว่า คนจนก็ยิ่งจนลงเพราะระบบการเงิน  ซ่งทำให้เงินด้อยค่าลง  ทำให้เราต้องจ่ายมากขึ้น  เพื่อให้ได้ของเท่าเดิม
แต่อีกปัญหาที่ใหญ่พอกันคือ บริหารเงินไม่เป็น  ใช้เงินไม่เหมาะสม  ซึ่งฉันเห็นว่า มันจริงมาก

ฉันรู้จักแม่ค้าขายไอติมคนหนึ่ง  ทุกวันนี้  ขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงตู้ไอติมยี่ห้อดัง ตระเวนขายตามหน้าโรงเรียนในวันธรรมา  วันหยุดก็ต้องคอยหาข่าวว่าที่ไหนมีตลาดนัด  หรือมีงานออกร้าน  ก็จะได้ไปจอดขาย  จะแดดจะฝน ก็ต้องอดทนออกไปขาย  ทั้งที่วัยก็ใกล้จะ 60 แล้ว
ฉันรู้จักเธอครั้งแรก  ในภาพของนักร้องห้องอาหารจีนราคาแพง
เธอเคยเล่าให้ฟังว่า  เคยมีเงินเป็นล้านๆ  ได้มาเพราะความสวย  และ ลีลาการร้องเพลงที่ถูกใจใครหลายคน  จนได้ไปตระเวนร้องเพลงตามจังหวัดใหญ่ๆที่มีนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักมาเยือน
แต่ถึงวันนี้  เงินนั้นไม่เหลือแล้ว  เพราะไม่เคยคิดจะเก็บไว้เพื่ออนาคต
ถึงกระน้น  เธอก็ยังตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือราคาเหยียบหมื่นให้ลูกสาวใช้  ด้วยเหตุผลว่า ไม่อยากให้โดนเพื่อนล้อ  สงสาร
ฉันเห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ  พ่ายแพ้แก่กิเลสมาต้งแต่สาวยันแ่ก
ยังดีที่แกถือสุภาษัตจีนที่ว่า  อย่านอนตื่นสาย  อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา
แกถึงได้มาขี่รถขายไอติมได้โดยไม่ได้ใส่ใจนีักว่าใครจะดูถูกว่า ตกต่ำ
นี่ควรจะเรียกได้ว่า ใช้เงินไม่เหมาะสม
ส่วนคนงานพม่าที่มาพักอาศัยอยู่ในแคมป์คนงานแถวๆบ้านฉัน  ก็ไม่รู้ว่า บริหารเงินยังไง  แต่ก็น่าจะมีวินัยพอควร  เพราะนอกจากจะมีแป้งทะนาคาประหน้าทุกวั้น  ก็ยังมีเงินเหลือส่งกลับไปให้พ่อแม่พี่พม่าได้ด้วย

คำถามสุดท้ายในคลิป คือ ถ้าวันนึงมีกำแพงกั้น  คนรวยอยู่ด้านในกำแพง  คนจนอยู่ด้านนอกกำแพง  เราอยากให้ ลูก หลาน เหลน ของเรา อยู่ด้านใน  หรือ ด้านนอกกำแพง
ฉันตอบได้ทันทีว่า ฉันไม่มีคำตอบให้  เพราะดูเหมือนนิยามคำว่า รวย ของเขามันหมายถึง ทรัพย์สินเพียงเท่านั้น
แต่สำหรับฉัน  รวย เท่ากับ พอ  วันไหนพอ  วันนั้นก็รวย
เพราะไม่ใช่ปริมาณของทรัพย์สิน  แต่เป็นความรู้สึกของเราต่างหาก  ที่จะบอกว่า แค่ไหน คือ รวย
เห็นได้บ่อยไป  ที่คนตัวเล็กตัวน้อย  ที่รวยพอจะแบ่งปันสิ่งเล็กน้อยที่เขามี  ให้คนที่มีน้อยกว่า
รวยด้วยทรัพย์สิน  แต่ยังคงแย่งชิง เพื่อเสริมความมั่งคั่งให้ตัวเอง  ความสุขอยู่ที่ไหน

ฉันเป็นคนมีวินัยทางการเงิน  มีเงินพอดีกับชีวิต พอใจกับชีวิตที่มีเงินเท่านี้
ฉันเป็นคนรวยที่จะไม่มีวันจน  และ จะยิ่งรวยต่อไป
ด้วยการให้  ที่ทำให้ฉันมีความสุข  อย่างที่ทำอยู่ตอนนี้
คุณได้รับมั้ย

 



Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2564 0:28:22 น.
Counter : 459 Pageviews.

3 comments
วันนี้สอบราชการ Alex on the rock
(20 เม.ย. 2567 20:24:04 น.)
Day..12 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(19 เม.ย. 2567 08:40:36 น.)
เรื่องเล่าที่ไม่เกี่ยวกับวันสงกรานต์ tanjira
(13 เม.ย. 2567 16:10:32 น.)
ระยองฮิสั้น จันทราน็อคเทิร์น
(12 เม.ย. 2567 15:33:48 น.)
  
อ่านแล้ว... ใช่เลยระยะหลัง ๆ มานี้ หนุ่มสาวเขาใช้เงินเลียนแบบ
กัน โก้ไว้ก่อน.. ส่วนเงินเก็บก็เก็บน้อย

ส่วนใหญ่เขามอง คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ว่า เงินแพง จึงเก็บเงินได้ ปัจจุบัน
เงินเฟ้อเขาจึงเก็บไม่ได้
..
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:6:25:35 น.
  
เงินคงมีค่าน้อยลงจริงๆค่ะ
ทั้งมูลค่าในตัวมันเงอ และ ในความรู้สึกคนด้วย
ถ้ามันมีค่ามากพอ ก็คงอยากรักษาไว้ ให้อยู่กับเรานานๆ
เติบโต งอกงาม แบบที่เรารักลูกหลานเรา ^^
สักวัน เขาอาจจะเห็นค่าของมัน
หวังว่า วันนั้น จะไม่สายเกินไป
โดย: วัลยา วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:42:30 น.
  
สุขสันต์วันแห่งความรักคะ...

โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:05:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Wallaya.BlogGang.com

วัลยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด