พูดไม่หมด ไม่สดชื่น
ที่บ้านเปิดร้านเพ็ทช้อป  ขายสินค้านานาเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
นี่คือ ลูกค้ารายหนึ่ง  อายุน่าจะสัก 50 กว่าๆ  ดูอาหารนกอยู่นาน  และยังตัดสินใจไม่ได้เสียที
ลูกค้า : นกไม่กินอะไร  กินแต่เม็ดทานตะวัน
เรา : ที่ซื้อคราวก่อน เค้าใส่มาพอดีๆอยู่แล้วนะคะ  ใส่อาหารมากไปมั้ยคะ
ลูกค้า : ไม่ไม่ ไม่เยอะ
เรา : แต่ให้กินเม็ดทานตะวันเยอะๆไม่ดีนะคะ  ไขมันเยอะ  พี่รู้ใช่มั้ยคะ
ลูกค้า : รู้ๆ  บางวันหมั่นไส้  เลือกเม็ดทานตะวันออกหมดเลยนะ  เหลือแต่เม็ดอย่างอื่นไว้
เรา : แล้วเค้ากินมั้ยคะ
ลูกค้า : มันก็กินนะ  เห็นจิกๆอยู่
เรา(นึกในใจ นกไม่กิน...เหรอ) : เลิฟเบิร์ดเชื่องใช่มั้ยคะ  พี่ป้อนอย่างอื่นให้เค้ากินด้วยมั้ยคะ
ลูกค้า : ไม่ไม่ ไม่ให้กิน  รู้รู้ ระวังเรื่องเค็ม
เรา : แล้วของที่ไม่เค็ม พวกข้าวสวย ผลไม้  ให้กินมั้ยคะ
ลูกค้า : อ๋อ มีมี ข้าวสวย แอปเปิ้ล
เรา : แล้วถ้วยที่ใส่เมล็ดพืช ขนาดไหนคะ
ลูกค้า(ทำมือให้ดูถ้วยกว้างขนาดนกลงไปนั่งได้สบาย) : เนี่ย ใส่ครึ่งถ้วย
เรา : พี่คะ  ใส่ขนาดนั้น  มันเกือบเท่าตัวนกแล้วนะคะ  มันก็กินไม่หมด  มันก็เลยเลือกกินแต่ของที่ชอบไงคะ  กินจนอิ่มแล้วยังไม่หมดเลย  แล้วยังที่พี่ป้อนอีก  นกไม่ได้เป็นอะไรเลย  พี่กังวลมากไปเองนะคะ  นกสบายดี  แข็งแรงดี เล่นดีอยู่ใช่มั้ยคะ
ลูกค้า : ใช่ๆ เหรอๆ  เออๆ ขอบใจนะที่บอก
ลูกค้ายิ้มๆ  แล้วกลับไป  จบไป 1

มาอีกหนึ่ง  คุณแม่ อายุน่าจะ 30 กว่าๆ  มีปัญหามาว่า
ลูกค้า : หมาไม่กินข้าวอ่ะค่ะ มีอาหารเสริมอะไรช่วยบ้างมั้ยคะ
เรา : หมาพันธุ์อะไร อายุเท่าไหร่คะ
ลูกค้า : พันธุ์ปอม 5เดือนกว่าๆ  ไม่กินอาหารเม็ดเลย
เรา : มีใครให้กินอะไรนอกจากอาหารเม็ดมั้ยคะ
ลูกค้า : ไม่มีๆ  ให้แต่อาหารเม็ด
เรา : ไม่ใช่หรอกค่ะ  ต้องมีคนให้  ห้องแข็งแรง สบายดีใช่มั้ยคะ
ลูกค้า : ใช่ๆ  เพิ่งเอาไปหาหมอมา  หมอก็บอกว่า ไม่เป็นไร
เรา : สบายดี  น้ำหนักขึ้นดีอยุ่ใช่มั้ยคะ  ถ้าไม่กินอะไรจริงๆ  เค้าก็น่าจะผอม ไม่แข็งแรง
ลูกค้า : อือๆ สงสัยลูกชายจะให้  เค้าอยุ่กับหมาทั้งวัน
เรา : ถ้าวันไหนไม่มีใครให้  เค้ากินอาหารเม็ดมั้ยคะ
ลูกค้า : เคยเอาใส่กรงขังไว้  ใส่อาหารเม็ดให้  ก็กินนะ  กินหมด
เรา : ค่ะ  เห็นมั้ยคะ  ปัญหาอยู่ที่เรา  ไม่ได้อยู่ที่หมา  ถ้าจะแก้  ต้องแก้ที่เรา
ลูกค้า : อือ ใช่ๆ  ทำไมไปหาหมอ หมอไม่พูด บอกว่าให้ไปหาอาหารเสริมกนิเพิ่ม
เรา : ก็กลัวลูกค้าโกรธมั้งคะ  ถ้าบอกว่า ปัญหาอยู่ที่ลูกค้า (เราตอบยิ้มๆ)

อีกแบบ น่ากลัวกว่า มาหาซื้อยา  ด้วยคำถามเริ่มต้นว่า หมาเป็นอะไรไม่รู้
ซักไปซักมา  บางกรณี  เราเห็นว่า อาการขนาดนี้ควรจะไปหาหมอ  หลายครั้งที่เห็นว่า คนถามทำหน้าตาอิหลักอิเหลื่อ  จนเราต้องพูดเองว่า  หมอไม่ได้แพงทุกที่นะคะ  ที่ไม่แพงก็มี  บ้านอยู่แถวไหนคะ  จะได้แนะนำให้ที่ใกล้ๆบ้าน

แย่สุด  คงเป็นเคสแม่ตัวเอง  ไปหาหมอ  บอกแต่อาการ  ไม่ยอมบอกหมอว่าตัวเองไปกินอะไรมา ถึงป่วยแบบนี้  ได้ยามากินก็ไม่ดี  ต้องไปหาหมอรอบสอง  ถึงได้ยอมบอกหมอ  แต่มันคงช้าไป  ที่สุดต้องไปนอนโรงพยาบาล  หมอขอดูยาที่กินอยู่ประจำ  ก็เอาให้หมอไม่หมด  กลัวหมอห้ามกิน  พยาบาลมาถามซ้ำตอนลูกอยู่พอดี  ไล่ดูยา พอเห็นว่าไม่ครบ  แม่ก็ทำเสียงอ่อยว่า ไม่เห็นมันเกี่ยวกับที่เป็น  เลยไม่ได้ให้
รักษาจบไปโรคหนึ่ง  ออกจากโรงพยาบาลนี้  ต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญอีกโรคที่โรงพยาบาลอีกแห่ง  หมอขอดูที่กินอยู่  แม่เอาแต่ยาเดิมให้ดู  ยาที่เพิ่มมาจากโรงพยาบาล  ไม่เอาให้หมอดูอีก  บอกว่า นึกว่าหมอรู้แล้ว  คุณพระ...ก็รู้ว่าเป็นแม่  แต่ลูกอยากกรี๊ดค่ะ

เล่ามาทั้งหมดนี้  เห็นอะไรตรงกันอย่างหนึ่งมั้ย
ไม่จะโดยตั้งใจ  หรือ ไม่ตั้งใจ  โดยรู้ หรือ ไม่รู้
ทุกคนพูดความจริงไม่หมด
กรณีอาหารนกและหมา  ถ้าข้ามไปง่ายๆ  อีกไม่กี่วันเราก็คงได้เจอลูกค้าคนเดิมมาพร้อมกับปัญหาเดิมๆ
เรื่องหาหมอ ไม่ว่าหมอหมาหรือหมอคน  ถ้าปล่อยผ่านไป  หมาอาจไม่ได้รับการรักษา  คนก็อาจจะเจอผลกระทบจากการรักษาที่ไม่ได้เป็นความผิดพลาดของหมอ
เรื่องใหญ่มั้ยเล่า

ทุกวันนี้โลกแห่งการสื่อสารก้าวหน้าไปไกล  อีกหน่อยประเทศเราก็มี 5G ให้ใช้แล้ว  แต่กับการสื่อสารขั้นพื้นฐาน  ดูเหมือนหลายๆคนยังไม่รู้เลยว่า  เรายังไปไม่ถึงไหน
ไม่คุยกัน ก็ยากจะเข้าใจกันอยู่แล้ว  แต่พอคุยกันแล้ว  พูดไม่หมด  ก็ไม่เข้าใจกันอยู่ดี
แย่ไปกว่านั้น  เพราะที่พูดไม่หมดคือ ความจริงในใจ  ที่พูดออกไปคืออะไรไม่รู้
ดูเอาง่ายๆจากแม่เรานี่แหละ  เห็นเรานอนดึก  คำพูดที่ได้ยิน คือ ไฟแยงตา  ทำบ้าอะไรอยู่ได้  ไม่ร้จักหลับจักนอน
ทั่งที่ความจริงในใจของแม่มีแค่  ไม่อยากให้นอนดึก  เพราะห่วงว่าจะตื่นไปทำงานไม่ไหว
แม่ใครหลายคนก็คงเป็นแบบนี้  เก็บพลังบวกไว้  ปล่อยพลังลบออกไป  ไม่เข้าใจเหมือนกันนะ 55

แม่ อายุ 71 กับ พ่อ อายุ 82  ไม่เคยได้ยินสองคนบอกรักกันเลย
แม่ให้เหตุผลในการตัดสินใจแต่งงานว่า เพราะไม่อยากขายของ  แต่งกับคนนี้  ก็ได้ไปเป้นแม่บ้าน  ไม่ต้องขายของ  ส่วนพ่อ  ไม่เคยบอก  แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง  พ่อร้องเพลง I can't help falling in love with you ให้แม่ฟัง  แต่มันก็แค่ครั้งเดียว
ที่เห็นบ่อยจนชินตา คือ ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย  โมโหกันหนัก  ถึงขึ้นไล่ออกจากบ้าน  ท้าหย่าก็ทำมาแล้ว

แต่วันที่แม่ไม่สบายตั้งเข้าโรงพยาบาล  และ  อาการหนักกว่าที่คิดไว้  แถมยังไปเช็คเจอว่าเส้นเลือดหัวใจตีบ
พ่อในวัย 82 และสายตาไม่ดีมากแล้ว  ได้พยายามดูแลแม่เท่าที่จะทำได้  เช็ดตัวให้  คอยพูดให้กำลังใจให้แม่กินข้าว กินยา  กลับมาอยู่บ้าน  ลวกไข่ให้กินทุกเช้า  และ กอดแม่
ส่วนแม่  งอแงจะให้พ่ออยู่ด้วยตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล  เรียกให้พ่อไปนอนด้วยกันบนเตียงคนไข้  (นึกออกมั้ย เตียงคนไข้มันแคบ  นอนห่างๆกันเหมือนเตียงที่บ้านไม่ได้)  และคอยบอกลูกให้หาซื้อของที่พ่อชอบกิน เพราะแม่ยังทำให้กินตามปกติไม่ได้
รักกัน  และ คงจะเป็นรักแรกพบเสียด้วย  จึงตกลงใจแต่งงานกันง่าย  ทั้งที่ได้เห็นหน้ากันแค่ครั้งเดียว  แต่ก้ไม่เคยได้พูดบอก หรือ แสดงออก  จนวันที่รู้สึกว่า อีกฝ่ายจะตายจาก  ยังดีที่ไม่ช้าไป

เราเอง  พยายามอยู่นะ  ไม่เอาอารมณ์นำหน้าความรู้สึก  ไม่โกรธกลบเกลื่อน  ไม่น้อยใจจนพูดประชดประชันออกไป
แน่นอนว่า ความรู้สึกด้านไม่ดี  ควรต้องกรองอย่างดี  ก่อนพูด
ส่วนความรู้สึกดี เขิน รัก คิดถึง  ห่วงใย  ฉันจะส่งมันออกไป  โดยไม่ให้อะไรมาบดบังเลย

แนะนำให้ลองทำ  ครั้งแรก อาจจะยาก  แต่พอทำได้แล้ว  จะรู้เลยว่า มันดี มาก มาก
ที่สำคัญ พูดให้หมด พูดให้ครบ อย่าโกหกเขา อย่าโกหกตัวเอง
     



Create Date : 02 พฤศจิกายน 2562
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2562 16:16:20 น.
Counter : 1410 Pageviews.

0 comments
15/04/67 สมาชิกหมายเลข 4675166
(15 เม.ย. 2567 09:46:52 น.)
เรื่องเล่าที่ไม่เกี่ยวกับวันสงกรานต์ tanjira
(13 เม.ย. 2567 16:10:32 น.)
คุย โอพีย์
(13 เม.ย. 2567 21:51:16 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่ 349 : วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ ฯ The Kop Civil
(10 เม.ย. 2567 16:44:58 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Wallaya.BlogGang.com

วัลยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด