ย้อนกลับไปได้ จะเปลี่ยนมั้ย
สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ
ได้ยินมาจากใคร  ก็จำไม่ได้แสียแล้ว
เพราะตอนนั้น  ไม่ได้รู้สึกคล้อยตามเลยแม้แต่น้อย
ด้วยภาวะจิตใจตัวเอง  ไม่ได้ดีและแข็งแรงพอจะเข้าใจ และ ทำใจได้ไปถึงระดับนั้น

คุณเป็นเหมือนกันหรือเปล่า  ที่มักจำเรื่องไม่ดีได้แม่นมากกว่าเรื่องดีๆ
อายุปูนนี้  มีเรื่องไม่ดีในชีวิตที่เคยฝังใจอยู่หลายเรื่อง ตอนอยู่ในปัญหา  ก็มองไม่เห็นแง่งามอยู่แล้ว
พอพ้นจากปัญหานั้นมาได้  ก็ไม่อยากกลับไปคิดถึงอีก  ไม่ว่าจะมุมไหน

เพิ่งไม่นานนี้หรอก  ที่รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงพอ  ที่จะยอมรับและเข้าใจตัวเอง  เข้าใจคนอื่น  ไล่จับอารมณ์ความรู้สึกตัวเองได้ทัน  และมีสติพอที่จะทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว  ได้แบบไม่รู้สึกอะไรอีก
นั่นแหละ จึงได้รู้สึกอย่างที่เขาว่า  สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ

ตอนอายุ 12-13  ฉันเคยติด ร ในเทอมเดียวกัน 3 วิชา  เพราะไม่ทำงานส่งครู
เหตุผลที่ไม่ทำส่งครูคือ  ฉันไม่เข้าใจว่า จะให้ทำไปทำไม เช่น มีสมุดภาพมาให้ หน้าซ้ายเป็นแผนที่ประเทศไทยที่มีเส้นทางรถไฟสายหลักพาดยาวไปทั่วประเทศ หน้าขวาเป็นรูปแผนที่ประเทศไทยว่างๆ  การบ้านคือ  ให้วาดทางรถไฟให้เหมือนที่อยู่ในหน้าซ้าย
ตอนเด็กๆกว่านั้น ฉันนั่งรถไฟจากอีสานมาพักที่กรุงเทพ แล้วต่อรถไฟไปภาคใต้ทุกปี  ไม่มีแผนที่ทางรถไฟให้ดูก็รู้ว่า รถไฟไม่ข้ามภาค  มาจากเหนือ อีสาร ใต้ ก็ต้องมาจอดตรงกลาง แล้วเปลี่ยนขบวน  เส้นทางรถไฟยาวๆนั่น  ก้ผ่านตั้งหลายสถานี หลายอำเภอ หลายจังหวัด  แผนที่ที่ให้มา  ดุไปก็ไม่เห็นรู้เลยว่า ผ่านที่ไหนบ้าง  ที่สำคัญ  รูปเขาทำมาก็สวยดีอยู่แล้ว  วาดเองนอกจากไม่สวยแล้ว  สเกลก้ต้องผิดแน่ๆ  ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย  ฉันจึงไม่วาดรูปส่งครู
ด้วยเหตุผลทำนองเดียวกันนี้ (ซึ่งสำหรับผู้ใหญ่ มันคงดูงี่เง่ามาก)  ฉันจุึงได้ ร มาอีกหลายตัว
เดือดร้อนแม่ต้องไปอ้อนวอนครู  เพื่อให้ฉันได้ไบรับรองจบ ม.3
เรื่องนั้น  แค่ทำให้ฉันรู้ว่า ฉันต้องรับผิดชอบทำสิ่งที่ครูสั่งให้เสร็จ  ไม่ว่าฉันจะรู้สึกยังไงกับคำสั่งนั้น
แต่ไม่ได้ทำให้ฉันเปลี่ยนความคิด  เรื่องคำสั่งของผู้ใหญ่กับความสมเหตุสมผล
แล้วฉันก็ยังได้เล่าเรื่องนี้ให้หลานชายที่กำลังเริ่มโต  และเริ่มจะสงสัยแบบเดียวกับฉัน
ฉันบอกว่า สงสัยได้  แต่ต้องทำ  เพราะสุดท้าย ถ้าไม่ทำ  ไม่ใช่เราเดือดร้อนคนเดียว
นี่เป็นเรื่องดีๆจากประวัติการเรียนแย่ๆของฉัน

เรื่องไม่ดีที่ส่งผลกับชีวิตแบบหนักหนาอีกเรื่อง คือ อกหัก
เหตุเกิดตอนวัยใกล้ 30 อายุไม่ได้น้อยแล้ว  ควรจะเข้าใจอะไรๆดี  แต่ก็ไม่
ตอนแรกๆ  ก็คิดอยู่ว่า ไม่เป็นไรหรอก  ก็เขาไม่รัก  ก็แค่นั้น  เคยอยู่มาได้ตั้งยี่สิบกว่าปี ไม่มีเขา
ก็ควรจะอยู่ต่อไปอย่างปกติได้  ไม่ใช่หรือ
ก็เลย พยายาม ทำตัวปกติ  ใช้ชีวิตปกติ  นอนปกติ ตื่นปกติ กินปกติ
ทั้งที่จริงๆข้างใน  ไม่มีอะไรปกติเลย
เป็นช่วงเวลาที่เลือดไม่ได้พาแต่ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะ  ในนั้นมีน้ำตาเจืออยู่
ตอนนั้น  ร้องไห้น้อยมาก  แต่น้ำตาไหลวนอยู่ข้างใน ไม่เคยเหือดแห้ง
ฉันใช้ชีวิตเสมือนหนึ่งไม่มีเขาอยู่  ได้ไม่กี่เดือน  ฉันก็เริ่มป่วย
ไม่ได้ป่วยหนักอะไรหรอก  ก็แค่น้ำหนักลดแบบรวดเร็วโดยไม่ต้องทำอะไรเลย  และ มีอาการที่เขาเรียกว่า สามวันดีสี่วันไข้
เช้ามาก็ปวดหัวตัวร้อน บ่ายกินยาก็หาย ค่ำก็หลับ  ตื่นมาปวดหัวใหม่
วนอยู่แบบนี้ 7 วัน  ไปหาหมอ  หมอก็บอกว่า ไม่มีอะไร  ให้ยาตามอาการ นัดมาดูใหม่
เป็นแบบนั้นอยู่ร่วมเดือน  จนครั้งสุดท้าย  หมอขอบอกว่าถ้ายังไม่หาย หมอขอเจาะเลือดหาสาเหตุ
ฉันกลับมาบ้าน  ถอนหายใจ  ยอมรับกับตัวเองเสียเถิด  ฉันอยู่ไม่ได้โดยไม่มีเขา
จะมีมาก  มีน้อย  มีแค่ไหน  อย่างไร  ก็ขอให้มี  ไม่ใช่ไม่มีเลยแบบนี้  ไม่ไหวจริงๆ
ฉันกดโทรศัพท์หาเขา บอกเขาว่า ไม่สบาย ขอคำหวานหน่อย
เหมือนเขาจะรู้  เขาไม่ถามเรื่องอการป่วย  แต่ไปถามเรื่องสัพเพเหระ  คุยกันเหมือนคนที่คุยกันทุกวัน
คนที่เขาตรอมใจตาย  เขารู้สึกกันอย่างนี้นี่เอง  ถ้าฉันอ่อนแอกว่านั้น  ก็คงตรอมใจจนตายไปแล้วเหมือนกัน
เคยไม่เข้าใจว่า อังศุมาลินผูกใจอยู่กับโกโบริได้อย่างไรเป็นหลายสิบปี  เวลานี้  ซึ้งทุกความรู้สึก
รักได้แต่ครอบครองไม่ได้
15 ปีผ่านไปแล้ว  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหละ  ฉันยังรักเขามาก  ยังใจเต้นแรงทุกทีที่ได้ยินเสียงเขา  ตัวหนังสือไม่กี่ตัว  ก็ทำให้ยิ้นได้ทุกครั้ง  อย่างน้อย  เขาก้ยังใส่ใจฉัน  ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม
ฉันไม่เจอตัวเป็นๆเขามาหลายปีแล้ว  เพราะระหว่างเรา  มีเส้นแบ่งที่ฉันรู้ดีว่า ข้ามไม่ได้
แต่แค่นี้ ก็ดีที่สุดแล้ว  คนแปลกๆอย่างฉัน  ก็คงคู่ควรกับความรักแปลกๆแบบนี้
แบบที่  ส่งข้อความคุยกันแทบทุกวัน วันละประโยค 2 ประโยค ส่งติ๊กเกอร์ ส่งกำลังใจ งอแงใส่เวลาเหนื่อย  บอกรักเรื่อยๆ...ฉันบอกเขาอยู่ข้างเดียว  แค่เขารับไปแล้วไม่ถอยหนี ก็ดีถม
ข้างของเขา  ไม่เคยก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างเรา  ไม่เอาความรักของแันมาหลอกลวงทำลายฉีันอย่างที่เห็นจากคนอื่น  แค่นี้ก็ชื่นใจ

การพยายาม "อดทน" อยู่กับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่เราไม่ชอบ  ไม่ช่วยอะไรเลย  การ "เข้าใจ" ต่างหากที่ทำให้เราอยู่กับสิ่งเหล่านั้นได้อย่างมีความสุข
ยอมรับทุกสิ่งท่เป็นตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อเด่น หรือ ข้อด้อย เรื่องดีหรือเรื่องผิดพลาด
ย้อนกลับไปทบทาวนตัวเอง  เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น  แล้วก็จะพบอย่างที่เขาว่านั่นแหละ
สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้  ฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรหรอก  แต่คงจะแอบบอกตัวเองตอนอายุน้อยๆนั้นว่า อย่าน้อยใจจนตายไปเสียก่อน  เวลาจะพาอะไรๆมาหาเธอเอง  เชื่อสิ

ถ้าติดสินใจตายไปเสียก่อน  จะไม่มีวันได้รู้เลยว่า  ฉันก็มีวันที่มีความสุข มีความภูมิใจในตัวเอง
และยังมีพลังงานเหลือพอส่งกำลังใจให้คนอื่นได้ด้วย

ไม่เชื่อ ก็รอดูเอาเองก็แล้วกัน
 



Create Date : 28 ธันวาคม 2562
Last Update : 29 ธันวาคม 2562 15:00:58 น.
Counter : 1306 Pageviews.

1 comments
»FFF#94« "กินเพลินเกินห้ามใจ" ผัดหมี่เส้นจันท์ nonnoiGiwGiw
(16 เม.ย. 2567 15:00:28 น.)
เติมให้ความมี เติมให้ความไม่มี ปัญญา Dh
(14 เม.ย. 2567 20:54:29 น.)
"วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ" คนผ่านทางมาเจอ
(10 เม.ย. 2567 23:49:39 น.)
effortless & blissful moments พุดดิ้งรสกาแฟ
(6 เม.ย. 2567 08:06:56 น.)
  
อ่านแล้วนึกถึง ตัวเองเหมือนกัน จำบางอย่างได้แม่นมาก

ตอนนั้นน่าจะอยู่ชั้นมัธยมเหมือนกัน ครูให้ไปทำเลขบนกระดานหน้า
ห้องทำไม่ได้ มือจ่ออยู่นานมาก เขียนไม่ได้เพราะไม่เข้าใจเรื่องเลข
ครูโกรธจับหัวโขกกระดานอย่างแรง มึน..

ยังจำชื่อนามสกุลครูจนถึงปัจจุบัน หุ หุ แต่มิได้โกรธอะไรนะครับ
เพราะผมหัวช้าจริงด้วย 555

เรื่องความรัก ก็เพียงผ่าน ๆ ไม่มีใครเจ็บครับ แหะ ๆ

แต่บางอย่างเจ็บแล้ว เรานำมาใช้ประโยชน์ได้ ก้นำมาเขียนเรื่อง
อยู่หลายเรื่องเหมือนกัน เขียนให้คนอ่านช่วยลุ้นให้สำเร็จแล้ว
ก็.... ไม่บอกดีกว่า

คุณวัลยาคงใช้เรื่องที่ผ่านมา..บ้าง

มาทักทายก่อนสิ้นปีนะครับ แอบเข้ามาอ่านเรื่อย ๆ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 29 ธันวาคม 2562 เวลา:21:14:14 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Wallaya.BlogGang.com

วัลยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด