หม้อที่ขูดไม่ออก - เพราะเธอคือคู่ชีวิต
ตั้งอแต่ตอนเด็กๆที่เริ่มอ่านนิยายเป็น  ฉันอ่านเรื่องราวของความรักสามเส้าไปหลายเล่ม
แล้วก็ได้แต่สงสัยว่า ทำไมต้องทนอยู่  ทั้ืงที่ปัญหาก็มากมายไม่สิ้นสุด
แล้วก็บอกตัวเองว่า วันที่ฉันโตขึ้นแล้วมีแฟน มีครอบครัว  วันใดที่มีมือที่ 3 มาเกี่ยว  ฉันมีคำตอบเดียว คือ เลิก

โตขึ้นมา  พอมีแฟนได้  ความคิดฉันก็เปลี่ยน  ขอถามก่อนก็แล้วกัน  ถ้าคนของฉันแค่เผลอ  เอาเถอะ  จะอภัยให้  และถ้าอีกฝ่ายยังวอแว  ฉันจะไม่ยอมเสียไปง่ายๆแน่
แต่ถ้าเขาบอกว่า เขาไม่รัก  ฉันก็จะไม่ยื้อให้เสียเวลาชีวิต

วันหนึ่ง  ฉันได้ดูละครเรื่องหนึ่ง  สร้างขึ้นจากเรื่องสั้นรางวัลซีไรท์ ชื่อ หม้อที่ขูดไม่ออก
ตอนที่ได้ดูนั้น  คือตอนที่นางเอกหนีออกจากบ้านทาวน์เฮ้าส์เล็กๆที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสามีและลูก  ไปหาแม่และพี่ชาย  เธอนั่งร้องไห้อยู่ในห้องรับแขกขนาดใหญ่โต  ดูจากขนาดและเฟอร์นิเจอร์  ก็รู้ได้ว่า แม่เธอเป็นเศาษฐี
เธอร้องไห้  ระบายความอัดอั้นตันใจ  ที่สามีมักกินเหล้า  เมาแล้วก็ทุบตีึเธอ
ทังแม่และพี่ชาย  ซึ่งฟังเรื่องทำนองนี้มาหลายครั้งแล้ว  ขอให้เธอย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน ลูกคน หลานอีกคน  แม่เลี้ยงได้สบาย
เธอหยุดร้องไห้  ฉันคิดว่า เธอคงตัดสินใจตามที่แม่บอก
แต่เปล่าเลย  เธอสะอื้นเบาลง  แล้วบอกว่า ไม่เป็นไร  เธออยู่ได้  แล้วเธอก็กลับบ้านไป
ฉันก็ได้แต่เหวอๆ งงๆ ว่า คืออะไร
ไม่ได้ติดตามดูจนจบ  แล้วสมัยนั้น  ก็ยังไม่มีให้ดูย้อนหลัง
วันหนึ่งเมื่อบังเอิญไปเจอหนังสือรวมเรื่องสั้นของเจ้าของนามปากกา "อัญชัน"  ผู้เขียนเรื่องสั้นเรื่องนี้  ฉันจึงไม่พลาดที่จะหยับมาอ่าน
เรื่องต่อจากนั้น คือ สามีระบายอารมณ์ใส่เธออีกหลายครั้ง  เขาทำให้เธอเกือบพลัดตกจรากชั้น 2
พูดง่ายๆก็คือ เขาทำให้เธอเกือบตาย  ความเศร้าโศกในชะตาชีวิต  ทำให้เธอใจลอยจนเผลอปล่อยให้หมอ้แกงไหม้อยู่บนเตา  พอรู้ตัว  เธอรีบเอาหม้อไปล้าง  ด้วยเกรงว่ จะโดนสามีดุว่าเอาอีกที่ทำของพัง  เธอพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มี  ขัดถูรอยไหม้ที่ก้นหม้อ  แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล  นั่นทำให้เธอท้อใจ  จนต้องนั่งลงร้องไห้
อ่านไปถึงตรงนี้  ฉันรู้สึกว่า  เธอคงจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองเสียที
เรื่องเล่สต่อว่า  เธอโดนสามี ดุด่าว่าตี  เพราะหม้อใบนั้น  จนเธอต้องหลบไปนอนกับลูก
เช้าวันต่อมา  (ฉันเดาว่า เธอคงจะเก็บข้าวของออกจากบ้าน  แต่...)  เธอย่องเข้าไปในห้องนอนสามี  ที่ยังหลับสนิทเพราะ๐ทธิ์เหล้า  ค่อยๆเปิดหน้าต่าง  ใช้ไม้เชี่ยวไล่นกที่มาเกาะกลุ่มส่งเสียงกันอยู่ที่ต้นไม้ใกล้หน้าต่างห้องนอน  เพื่อไม่ให้พวกมันส่งเสียงรบกวน  แบบที่เธอเคยทำเป็นประจำทุกวัน  แล้วก็ลงไปหุงข้าว ทำกับข้าว ไว้ให้สามี
จบ
คืออะไร  ฉันโวยวายอยู่ในใจคนเดียว  ได้ยังไง  เขาสนใจที่ไหน  ทำร้ายกันทุกวัน  ตัวเองก้มีทางเลือก  ทำไมถึงได้ทนอยู่  ทำตัวเป็นหม้อขูดไม่ออกแบบนั้น  ไม่เข้าใจเลย
แน่ล่ะ  คนที่รู้จักฉัน  รู้ว่าฉันไม่มีครอบครัว  ก็ต้องพูดว่า อย่างฉันจะไปเข้าใจอะไร  ซึ่งก็ถูกของเขา

พออายุมากเข้า  ฉันเริ่มเห็นว่า หลายๆครอบครัวก็เป็นแบบนี้  ไม่ต้องไปไหนอื่นไกลหรอก  พ่อแม่ กับ พี่สาวของฉันเองนี่แหละ
ตั้งแต่เด็กฉันเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันแรงๆนับครั้งไม่ถ้วน  แม้ไม่ถึงขึ้นตบตีกัน  แต่แค่คำที่ผรุสวาทใส่กัน  ฉันก็รึสึกว่า  เขาคงเกลียดกันมาก  บางครั้งหนักหนา  ถึงขึ้นท้าหย่า  นัดวันเวลากันเรียบร้อย
แต่บ้านฉันมันหลังเล็ก  ไม่มีที่ไหนให้นอน  โกรธกันยังไงก็ยังต้องนอนห้องเดียวกัน
งอนกันอยธู่ได้ไม่กี่วีัน  ฉันก็เห็นนั่งกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม  คุยกันดี  เหมือนไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนเลย
และทั้งสองคน  ก็เป็นแบบนี้มาจนถึงตอนนี้  ตอนที่ใกล้จะได้ฉลองครบรอบ 50 ปีในการครองคู่
ครอบครัวพี่สาวฉัน  ก็ไม่แพ้กันหรอก  ไม่ได้ทำร้ายย่างกายกัน  แต่พี่สาวฉันโมโหง่าย ปากร้าย  ทะเลาะกับสามีทีไร  เป็นต้องด่าพ่อล่อแม่  ด่ากันไปถึงโคตรเหง้า  แล้วยังจะยกสมบัติให้ด้วย  แค่ออกไปจากบ้านฉันจากชีวิตฉัน
ส่วนพี่เขยฉัน  ก็ไม่หยอกหรอก  โกหกจนเป็นนิสัย  ปากเสียเป็นเรื่องปกติ  จนเป็นเหตุให้ทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ
แต่จะทะเลาะหนักเบายังไง  ไม่กี่วัน  ก็กลับมาคุยกัน ใช้ชีวิตกันแบบเหมือนรักกันดี  อยู่กันมาหลายปี  จนปีนี้  ลูกชายเขาเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
ฉันดูอยู่หลายปี  บางทีพ่อแม่ฉันก็บ่น  ทำไมมันไม่เลิกๆกันไป  ทนให้เมียด่าแม่อยุ่ได้
ดูๆไป ก็คล้ายๆ หม้อที่ขูดไม่ออก  อยู่เหมือนกัน

ฉันเป็นคนไม่มีคู่  จึงคิดไม่ออกว่าทำไม  เขาถึงยังอยู่กันได้  โกรธแล้วก็หายได้  ไม่สะสมเป็นพลังงานรอปะทุแบบที่ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็น
แต่ฉันมีความรัก  และเคยรู้สึกับรักนั้นจนแทบเป็ฯแทบตาย  ฉันเคยเข้าใจว่า ความรักนั้นมันหมดไปแล้ว  พร้อมๆกับที่เขาจางหายไปจากชีวิตฉัน  แต่วันหนึ่งที่เขากลับมา  ฉันกลับพบว่า  ความรักนั้นไม่เคยหายไปไหนเลย  และความรู้สึกนั้น  ก็ทำให้ฉันอยู่ในความสัมพันธ์ที่ระบุสถานะไม่ได้อย่างในตอนนี้
ฉันทบทวนตัวเองอยู่หลายรอบ  ถ้าคนเรารักกันเพราะคุณสมบัติโน่นนี่ที่ระบุบอกกันได้  ฉันก็ไม่ได้เห็นว่า เขามีคุณสมบัติใดที่ฉันควรจะรัก  เขายังกินเหล้า  สูบบุหรี่  ทำงานในตำแหน่งเดิมมาร่วมยี่สิบปี  รูปร่างหน้าตาก็ไปเสียตามวัยและสุรา  ฐานะการเงินของฉันก็ดีกว่าเขาอย่างไม่ต้องสืบ
นิสัยใจคอหรือ  ฉันเป็นคนรักษาคำพูด  เคยโกหกแล้วเกิดเรื่องใหญ่จนไม่อยากทำอีก  แต่เขา  รับปากฉันไปอย่างนั้น ไม่เคยทำได้  ถามเข้า  ก็เฉไฉไปเรื่องอื่น  จะถามมากกว่านั้่น  ฉันก็รู้ได้เองว่าจะกลายเป็นชวนทะเลาะ เลยต้องหยุด
แต่ฉันไม่เคยโกรธเขาเลยสักครั้ง
ถามตัวเองว่าทำไมอภัยให้เขาง่ายนัก  /ม่ถือโทษโกรธเขาอย่างที่รู้สึกกับคนอื่น
คำตอบที่ได้คือ ฉันรักเขา  รักมาก  หากต้องเลือกทิ้งอะไรไปเสียบ้าง  เพื่อให้เขายังอยู่ตรงนี้
ฉันก็พร้อมจะทำอย่างไม่มีเงื่อนไข

หากพิจารณาจากตัวฉัน  ความสัมพันธ์ที่แสนกระท่อนกระแท่น  หรือความอดทนที่ดูเหมือนไร้ขีดจำกัด  ก็คงอยู่บนพื้นฐานของความรัก  ซึ่งถ้าเอาเหตุผลไปจับ  มันจะดูงี่เง่ามาก
และฉันยังเห็นด้วยว่า  รักนั้นถูกกำหมดมาแล้ว  โดยใครก็ไม่รู้  ให้ต้องเป็นคนนี้  ไม่ใช้เพราะเขาดี หรือไม่ดี  แต่เพราะเขาถูกกับใจเรา
แล้ะความรักก็จะประคับประคองให้ชีวิตคู่้อยู่ยืนยาวกัมาได้  ทั่งที่บางทีในสายตาคนนอก  อาจจะดูเหมือนสุดจะทนได้
เขาจึงได้เป็นคู่ชีวิต ของกันและกัน

ที่ดูเหมือนหม้อที่ขูดไม่ออกนั้น  เขาอาจจะแค่กำลังพยายามรักษาคนๆนั้น  ไว้เพื่อเป็นคู่ชีวิตให้ได้นานที่สุด  เพราะ รัก  ก็ได้

ชีวิตใคร ชีวิตเขา  อย่าเอา เรา ไปตัดสิน



Create Date : 11 กรกฎาคม 2563
Last Update : 12 กรกฎาคม 2563 12:58:16 น.
Counter : 1076 Pageviews.

0 comments
แพ้เนื้อจากการโดนเห็บกัด alpha-gal allergy สวยสุดซอย
(17 เม.ย. 2567 14:07:10 น.)
เรื่องเล่าที่ไม่เกี่ยวกับวันสงกรานต์ tanjira
(13 เม.ย. 2567 16:10:32 น.)
Day..10 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(11 เม.ย. 2567 08:25:45 น.)
พระราชวังบ้านปืน ดาวริมทะเล
(9 เม.ย. 2567 14:46:08 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Wallaya.BlogGang.com

วัลยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด