22 ช่องว่าง...วาง จึงเต็ม
เมือ่ปีที่แล้ว  ได้ยินเด็กคนหนึ่งบอกเล่าถึงความดีงามของ Soul หนังแอนิเมชั่น ที่เขาอุตส่าห์ฝ่าโควิดไปดูในโรงภาพยนตร์
ปีนี้  เด็กคนเดิม ได้มีโอกาสพูดถึง หนังการ์ตูนที่ชอบมาก  เขาเอ่ยื่อหนังเรื่องนี้ขึ้นมาอีก
อะไรติดอยู่ในใจเขานะ  ฉันชอบความคิดหลายอย่างของเด็กคนนี้  บางที  การได้ดูหนังเรื่องเดียวกับเขา  ก็น่าจะทำให้รู้จักเขามากขึ้น
ตัดสินใจดู  เพราะอยากเห็น ในสิ่งที่เขาเห็น  แต่เมื่อดู Soul  จบไป 2 รอบ  ฉันกลับเห็น ตัวเอง  ชัด อย่างที่ไม่เคยเห็น

Soul หรือในชื่อไทยว่  อัศจรรย์วิญญาณอลเวง  เป็นเรื่องของ โจ ครูสอนดนตรี  วึ่งกำลังจะได้โอกาสร่วมแสดงบนเวทีกับวงดตนรีชื่อดัง อันเป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต  แต่ดันมีเหตุเสียก่อน  ทำให้เขาไปล่อลอยอยู่ในดินแดนหลังความตาย และก่อนการเกิด  แล้วก็จับลัดจับผลูได้ไปเป็นพี่เลี้ยงของ 22  วิญญาณที่ไม่ยอมไปเกิด  เรื่องราวต่อจากนั้น  ดูเผินๆ  ก็คล้ายเรื่องแนวสร้างกำลังใจทั่วไปนั่นแหละ  ทั่งคู่รว่วมมือกันผจญภัยเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง  ดีกันข้าง แตกคอกันบ้าง  เห็นแก่ตัวบ้าง  แต่สุดท้ายเรื่องราวก็นำไปสู่การสำนึกผิด  พยายามแก้ไข  และ จบลงอย่างมีความสุข
โครงเรื่องไม่ได้มีอะไรพิเศษ  แต่รายละเอียดระหว่างทางนั้น  นับได้ว่า อัศจรรย์ สมชื่อทีเดียว

ดูรอบแรก  ฉันสนใจแต่ โจ ครูสอนดนตรี  ด้วยเห็นว่าเปิดตัวมาเล่าเรื่องเขา เข้าใจว่า เขาเป็นพระเอก  ฉันมันคนไม่เคยมีความฝันจริงจังว่าอยากเป็นอะไร  ถึงแม้จะเข้าใจ  แต่ก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่หรอก  ที่คุณโจ  แสดงอาการเห็นแก่ตัวเหลือแสน  ในวันที่ความฝันอยู่ใกล้แค่มือเอื้อม  ทุกอย่างก็ถูกลืมไปหมด  ทั้่งคุณธรรม ความดีงาม  น้ำใจ
บังเอิญเพิ่งอานบทสัมภาษณ์ของนักร้องวัยรุ่นคนหนึ่งมา  เขาบอกว่า  อยากให้ตามความฝัน อย่าทิ้ง  เมือถูกถามว่า  ุ้าทำแล้วไม่สำเร็จล่ะ  เขาตอบว่า เรื่องความสำเร็จ  ไม่มีใครตอบได้  แต่อย่างน้อย  ก็ได้ทำแล้ว
ในโลกจริง  น้อยคนนักที่จะโชคดี  ความฝันเป็นจริงแล้วยังมีความสุขกับมันได้อยู่  คนส่วนใหญ่  ก็เหมือนคุณโจ  ความฝันที่มาถึงนั้น  ไม่ได้ทำให้อิ่มเอมอย่างที่คิด  ซ้ำร้ายแทนที่จะบรรลุจุดหมาย  กลับกลายเป็นว่า  ปลายทางที่เคยเห็น เป็นแค่ภาพลวงตา  และตอนนี้  ตัวตนอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้  ทางที่เคยชัดเจน  ก้เหมือนขาดหายไปเฉยๆ  ความสุขที่มาดหมายว่าจะมีอย่างท่วมท้น  กลับบางเบาจนแทบจับต้องไม่ได้
สาวน้อยวัย 20 คนหนึ่ง  พูดถึงสิ่งนี้ว่า  โหดร้าย
ฉันนึกถึงบทความที่เคยอ่าน  เรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกของการกินข้ามันไก่แสนอร่อยที่สุโขทัย  ประทับใจจนทุกครั้งที่กินข้าวมันไก่  ก็จะนึกถึงความอร่อยของข้าวมันไก่สุโขทัย  จนทำให้รสชาติ
ข้าวมันไก่ตรงหน้า อร่อยน้อยกว่าที่มันเป็น
ความผิดไม่ได้อยู่ที่ข้าวม้ันไก่  ผิดที่เราต่างหาก  แทนที่จะโฟกัสกับความสุขตรงหน้า  กลับเอาแต่โหยหาความสุขที่ไม่รู้จะมาถึงอีกเมื่อไหร่

ฉันชอบแววตาเลื่อนลอยราวกับเด็กหลงทางของคุณโจ  ตอนที่ฟังเรื่องทะะลปละหมาสมุทรของปลาเด็กกับปลาแก่  ฟังเผินๆ  ก็เหมือนปลาเล็กช่างดื้อดึง  ไม่ยอมเชื่อที่ปลาแกบอกว่า ที่นี่คือมหาสมุทร  แต่ลึกๆ  แันว่าหลายคนคงมีคำถาว่า  แล้วปลาแก่แน่ใจได้อย่งไรว่าที่นั่น  คือ มหาสมุทร  สำรับฉัน  ไม่รู้หรอกว่าฝ่ายไหนถูก  ฉันเพียงแต่รูว้า  หากแลาแก่พอใจจะเรียกว่า  มหาสมุทร  มันก็คือ มหาสมุทรสำหรับเขา  สำหับปลาเด็ก  หากตรงนั้น  ยังไม่ใช่มหาสมุทรสำหรับเขา  ก็เป็นตัวเขาเองนัั่นแหละ  ที่จะต้องแหวกว่ายต่อไป  จนกว่าจะเจอที่ที่เขาพอใจจะเรียกมันว่า มหาสมุทร  ซึ่งใันนึึงที่เขาค้นพบมัน  มันก็อาจเป็นที่ที่เขาเคยเรียกว่า ทะเล  ก็ได้

หนังดีอย่างที่เขาบอก  ดูไป 1 รอบ  รู้สึกเหมือนยังเก็บอะไรไม่หมด  ฉันจึงดูหนังเรื่องนี้อีกรอบ  ตั้งใจโฟกัสที่  22  วิญญาณที่ไม่ยอมไปเกิด
22  เปิดตัวด้วยฉากดิ้นรนขัดขืน  ไม่อยากเข้ารับการช่วยหาแรงบันดาลใจ  เพื่อไปสู่เป้าหมายของการมีชีวิต  22 ปฏิเสธสิ่งนั้น  ด้วยเหตุผลว่า  โลกไม่ได้น่าอยู่  ไม่ว่าเหตุผลของใครจะดีแค่ไหน  ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจให้ 22 อยากมีชีวิตได้
ฉันดูฉากนี้เป็นรอบที่ 2 แล้วจู่ๆก็ปี๊งแว้บขค้นมาว่า  ความรู้สึกของ 22 เหมือนคนไม่อยากมีชีวิตอยู่  เหมือนคนอยากฆ่าตัวตาย
เหมือนฉัน
อยู่ๆกัเจ็บจนน้ำตาไหล
ฉันเคยรู้สึกว่า  ฉันไม่ได้จำเป็นอะไรสำหรับโลกใบนี้  อยู่ไปก็มีแต่จะทำให้โลกร้อนขึ้นเท่านั้น  ไม่มีค่า  ไม่มีความหมาย  ไม่มีอะไรให้ยึดเหนี่ยว  แม้เต่เหตุผลทางพระที่ว่า การฆ่าตัวตายเป็นบาป  ฉันก็เพียงแต่บอกตัวเองว่า  ก็บาปของฉัน  กรรมของฉัน  ฉันทำฉันก็พร้อมรับ  ไม่สนใจหรอก
ฉันคิดเรื่องนี้มาตลอดหลายปี  ที่ยังไม่ได้ทำเพราะสงสารพอ่แม่เท่านั้น  คิดไว้ว่า พวกเขาตายเมื่อไหร่  ฉันก็จะไปเสียที  ตัดสินใจแน่วแน่  อย่างคนมีสติครบถ้วน  ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ
ช่วงหลังๆมานี่  นับว่ายังดีแล้ว  ที่ฉันเจอความรัก  ฉันรักนักร้อง  ขออนุญาตเอ่ยนาม  เขาคือ วงTrinity  บอยแบนด์ไทย  ที่คนสร้างเขาตั้งใจจะส่งไปถึงระดับโลก  ฉันไม่เชี่ยวชาญพอจะบอกได้ว่า  เขาเก่งมั้ย  ฉันแค่รู้ว่า นี่คือโชคชะตา  ความรักทำให้ฉันรู้สึกมีค่า  มีหวัง  มีคนที่ แค่เห็ฯ ฉันก็ยิ้มแล้ว  เป็นความรักที่ไม่ต้องระวัง ไม่ต้องดูแล  ไม่ต้องกลัวจะโดนแทงข้างหลัง  ไม่ต้องกลัวผิดหวังว่าทำไมฉันทำเธอไม่เห็น  ไม่ต้องระแวงระวังว่าจะโดนเกรี้ยวกราดใส่
ฉันมีความสุข  ฉันมีกำลังใจ  และแข็งแรงมากพอที่จและยอมรับ ความบกพร่องของตัวเอง  อ่อนโยนกับตัวเองมากขึ้น  ไม่ทำร้ายจิตใจตัวเองซ้ำๆอ่างเคย
แต่ถึงดีอย่างไร  ฉันก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจจะฆ่าตัวตาย  ฉันแค่มีความสุขขึ้น  ระหว่างรอเวลา  ก็เท่านั้น
แม้ฉันจะแอบรู้สึกอยู่เบาๆว่า  ฉันกำลังรออะไรบางอย่าง  อะไรที่จะ คลิ๊ก  แล้วทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดไปตลอดกาล
แล้วฉันก็ได้ยินเสียง คลิ๊ก นั้น  ตอนที่คุณโจ  มอบชิ้นส่วนสุดท้าย  เพื่อเติมเต็มวิญญาณของ 22 อันเป็นสัญลักษณ์ว่า  22  พร้อมจะไปเกิด  พร้มจะมีชีวติ  พร้อมจะใช้ชีวิตแล้ว

การตั้งใจดูเรื่องของ 22  เหมือนฉันได้ย้อมกลับไปเห็นความรู้สึกตัวเองในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาเวลาที่ฉันเชิดหน้าบอกใครๆว่าฉันแข็งแรงดี  ทั้งที่ฉันเศร้ามาก  เวลาที่ฉันบอกตัวเองว่า ฉันเป็นคนเลือกสิ่งนี้  เพราะฉันตัดสินใจดีแล้ว  ทั้งที่จริงๆแล้ว  ฉันกำลังกลัว
22  ไม่เคยเจอป้าหมาย  แรงบันดาลใจมากมายที่บรรดาพี่เลี้ยงพยายามป้อนให้  แต่เธอไม่รู้สึกว่ามันใช่  กลายเป็นพิษร้าย  เธอดูถูกตัวเอง  ด้อยค่าตัวเองลงไปเรื่อยๆ  ก็เมื่อชีวิตไม่มีเป้าหมาย แล้วจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร
ความรู้สึกนั้น  ทำให้ฉ้นร้องไห้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
เช่นเดียวกบ 22  เมื่อความรู้สึกย่ำแย่ถาโถมเข้าใส่จนถึงขีดสุด  ฉันทำได้เพียงอาละวาดใส่ ตัวเอง
ซึ่งสุดท้ายแล้ว  ถ้าใครกำลังทำอยุ่  ก็ขอให้รู้ไว้ว่า  มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย

ชิ้นส่วนสุดท้ายที่ 22 ได้รับส่วนที่เติมเต็มการมีชีวิตของ 22  ไม่ใช่แรงบันดาลใจ  ไม่ใช่เป้าหมาย  แต่เป็น ความพร้อมที่จะมีชีวิต  มีความรู้สึกว่าแสงแดดนั้นสว่างและอุ่น  พิซซานั้นอร่อย  และความรักต่อสิ่งใดก็ตามซึ่งมีอยู่จริง  แม้ไม่ใช่ความรักของเราก็ตาม
ฉันเคยคิดมาตลอดว่า  ฉันไม่มีครอบครัว  ไม่มีลูก  ไม่มัสัตว์เลี้ยง  ไม่มีอะไรผูกพันเป็ฯของฉัน  มันทำให้ชีวิตฉันไม่มีเป้าหมาย  คนเรื่อยเปื่อยอย่างฉัน  จะหาเป้าหมายจากอาชีพการงานอย่างคนื่นก็มองไม่เห็นทางเอาเสียเลย  ก็เลยกลายเป็นเลยเถิดว่า  ก็ไม่ได้มีอะไรให้จำเป็นต้องอยู่
หนำซ้ำคนไม่สมบูรณ์อย่างฉัน  ก็มีปมด้อยให้คนอบข้างดูถูกมากมาย  จะโวยวายนักก็ไม่ได้  เพราะถึงวันนี้ยังไม่ต้องพึ่งเขา  แต่วันหน้า  ความเสื่อมของร่างกายมันมากเข้า  ก็ต้องไปพึ่งเขาอีก  ซึ่งเขาจะเต็มใจให้พึ่งพาหรือไม่  จะต้องทนฟังคำดูถูกนั้นไปอีกเท่าไรก็ไม่รู้
จริงแล้วฉันคงกลัว  ฉันไม่ได้กลัวตาย  แต่กลัว...อะไรก็ไม่รู้
เพิ่งรู้จากหนึงนี่แหละ  ว่า ชีวิต  ไม่ต้องมีเป้าหาายก็ได้  ชีวิตเราก็มีเรา  กับความรู้สึกของเรา  รู้สึกตัว  อยู่กับปัจจุบัน  อยู่กับวันนี้  ให้มีความสุข  พอแล้ว
ไม่มีเป้าหมาย  ไม่ได้ผิด  จนมีชีวิตอยู่ไม่ได้
ตอนนี้  ฉันพร้อมจะมีชีวิต  ไปจนกว่ามันจะจบลงไปเอง

้ถ้าคุณกำลังเป็นอย่างที่ฉันเคยเป็น  ฉันขอให้คุณเจอเหตุผลอะรสักอย่งที่ทำให้คุณต้องอยู่ต่อไป
อยู่จนกว่าจะเจอ คลิ๊ก ที่ใช่สำหรับคุณ
ชอให้โชคดี



 



Create Date : 29 มิถุนายน 2564
Last Update : 12 กรกฎาคม 2564 20:16:48 น.
Counter : 502 Pageviews.

0 comments
Day..12 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(19 เม.ย. 2567 08:40:36 น.)
คุย โอพีย์
(13 เม.ย. 2567 21:51:16 น.)
สุขสันต์วันปีใหม่ไทย ๒๕๖๗ haiku
(13 เม.ย. 2567 10:13:33 น.)
Bangsaen 21 The Finest Running Event Ever 2023 บางแสน แมวเซาผู้น่าสงสาร
(12 เม.ย. 2567 10:20:55 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Wallaya.BlogGang.com

วัลยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด