ต.๙๙๑ เรือรบตามพระราชดำริ...ของกองทัพเรือไทย


“ เรือรบขนาดใหญ่มีราคาแพงและมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานสูง กองทัพเรือจึงควรใช้เรือที่มีขนาดเหมาะสม และสร้างได้เอง
ซึ่งเมื่อสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.๙๑ ได้แล้ว ควรขยายแบบเรือให้ใหญ่ขึ้นและสร้างเพิ่มเติม ”


พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ ๑๕ เมษายน ๒๕๔๕ ที่ทรงพระราชต่อกองทัพเรือ แสดงให้เห็นถึงสายพระเนตรอันยาวไกล ประกอบกับพระปรีชาสามารถในด้านการต่อเรือ การเดินเรือ และกิจการนาวีของพระองค์ ที่ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีเรือรบที่ประเทศไทยสามารถต่อได้เองและซ่อมบำรุงได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ

จากพระราชดำรัสดังกล่าว นำมาสู่โครงการจัดสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเฉลิมพระเกียรติในชั้น ต.๙๙๑ จำนวน 3 ลำของกองทัพเรือไทย สนองแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

มาวันนี้ ผมจะขอรวบรวมความเป็นมาและประสิทธิภาพของเรือรบรุ่นนี้ให้ได้ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถต่อกองทัพเรือไทยกันครับ



บทเริ่มต้น...ต.๙๑




พ.ศ. 2503 ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จประพาทยุโรปนั้น ได้ทรงทอดพระเนตรกิจการการต่อเรือยนต์รักษาฝั่งของกองทัพเรือเยอรมัน จึงทรงมีพระราชดำริว่า..

"กองทัพเรือน่าจะต่อเรือยนต์เร็วรักษาฝั่งเช่นนี้ได้ เพื่อที่จะให้เกิดความชำนาญงาน และรู้จักใช้เทคนิคต่างๆ อันจะเป็นการประหยัดมากกว่าการจัดหาจากต่างประเทศ"

จึงทำให้กองทัพเรือ โดยกรมอู่ทหารเรือรับสนองพระราชดำริโดยการต่อเรือในชุดเรือต.๙๑ ขึ้น ซึ่งในระหว่างดำเนินการนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานคำแนะนำ ตลอดจนแก้ปัญหาต่าง ๆ อันเกิดจากกระบวนการต่อ รวมถึงทรงเป็นธุระติดต่อกับสถาบันวิจัยและทดลองแบบเรือแห่งชาติของประเทศอังกฤษ ให้ทำการทดสอบแบบของเรือ ต.๙๑ ให้ แม้แต่การทดสอบเรือในทะเล พระองค์ก็ทรงเสด็จไปร่วมทดสอบด้วยพระองค์เอง ทั้งยังทรงตรวจแก้ข้อผิดพลาดต่าง ๆ จนทำให้การต่อเรือสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

และในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2511 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จไปประกอบพิธีปล่อยเรือ ต.๙๑ ลงน้ำ และนับจากนั้น กองทัพเรือได้ดำเนินการต่อเรือในชุด ต.๙๑ เพิ่มเติมอีกคือ ต. ๙๒, ต. ๙๓, ต. ๙๔, ต. ๙๕, ต. ๙๖, ต. ๙๗, ต. ๙๘, และ ต. ๙๙ ในระหว่างปี 2514 - 2530

เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชั้น ต. ๙๑



ปัจจุบัน เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชั้น ต.๙๑ ประจำการอยู่ในกองเรือตรวจอ่าว สังกัดหมวดเรือที่ 2 ทำหน้าที่ปราบปรามป้องกันภัยทางทะเลขนาดเล็ก เช่น การลักลอบขนสินค้าหนีภาษี การลักลอบขนอาวุธ และปราบปรามดจรสลัดและภัยการก่อการร้าย

สมรรถณะของเรือ ต.๙๑



ขนาด: กว้าง x ยาว - 31.8 x 5.3 ในเรือต.๙๑ และ 36 x 5.7 ในเรือลำอื่นของชั้นต. ๙๑
ระวางขับน้ำ: เต็มที่ 87.5 ตัน ในเรือต.๙๑ และ 130 ตันในเรือลำอื่นของชั้นต. ๙๑
เครื่องยนต์: MTU 12V 538 TB81/82 diesel 2 เครื่อง ให้กำลัง 3,300 แรงม้า
ความเร็ว: 25 น็อต
ระยะปฏิบัติการ: 700 ไมล์ทะเล ที่ความเร็ว 21 น็อต
กำลังพลประจำเรือ: 21 นาย
อาวุธ:
- ปืนกล Bofors 40mm/60 จำนวน 1 กระบอก
- ปืนกล .50 นิ้ว (12.7 ม.ม.) จำนวน 1 กระบอก
- เรดาร์พื้นน้ำ Raytheon SPS-35 (1500B) ในช่วง I-band

สู่...ต. ๙๙๑



...ให้พอเพียงในความคิดแล้วทำอะไรพอเพียง สามารถที่จะอยู่ได้ แม้แต่กองทัพก็ต้องพอเพียง แต่กองทัพทำอะไรพอเพียงเยอะแยะ ทำโครงการต่าง ๆ ที่ช่วย แล้วก็ที่สมควรที่จะทำแล้วก็ทำได้ เรือ ต.๙๑ นั้น เศรษฐกิจพอเพียง แต่เดี๋ยวนี้ ต.๙๑ ก็พังแล้ว แต่ก็ได้รับราชการมานานพอสมควร..

พระราชดำรัส ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง และทรงยกตัวอย่างเรือต.๙๑ ที่กองทัพเรือได้ต่อขึ้น ประกอบกับในช่วงเวลาเดียวกันนั้น กองทัพเรือโดยกองออกแบบต่อเรือ กรมแผนการช่าง กรมอู่ทหารเรือได้ทำการพัฒนาแบบของเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับกระแสพระราชดำรัสข้างต้น กองทัพเรือจึงเสนอโครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเพื่อทดแทนเรือต. ๑๑ จำนวน 3 ลำ โดยได้ขอพะรราชทานพระบรมราชานุญาตเข้าเฝ้าเพื่อถวายแบบเรือและข้อมูลการออกแบบเบื้องต้นและเพื่อขอพระราชทานพระบรมราชวินิฉัยในการต่อในในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2547 ระหว่างเวลา 17.30 - 20.00 ณ พระราชวังไกลกังวล โดยทรงมีพระบรมราชวินิฉัยเรือขนาดของเรือ รูปร่างของเรือ น้ำหนัก รวมถึงการใช้เชื้อเพลิง เพื่อทำให้เรือมีสมรรถณะสูงสุด

การดำเนินงานในการจัดสร้างต.๙๙๑



" การดำเนินการต่อเรือใหม่ครั้งนี้มี 3 กองในกรมอู่ทหารเรือรับหน้าที่ในการออกแบบคือ กองออกแบบฝ่ายตัวเรือ คือปรับปรุงเรือและต่อโครงสร้างเรือ กองออกแบบกลจักร และกองออกแบบไฟฟ้า

เรือที่ทำการต่อนี้ได้พัฒนาแบบมาจากแบบเรือ ต.๙๙ โดยทำการขยายแบบไปทุกมิติประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และนำแบบไปทดลองแบบจำลองเรือที่สถาบัน ฮัมบวร์ก ชิพ โมเดล เบซิน ประเทศเยอรมนี ว่าจากความเร็วที่เราต้องการคือ 27 น็อต ต้องใช้เครื่องขนาดกี่แรงม้า จากนั้นทางสถาบันจะนำไปทดลองหาค่าให้ว่าเรือต้องใช้ขนาดเครื่องยนต์เท่าใด เราก็จะนำมาปรับแต่งเรือให้ทนต่อความสูงของคลื่นที่ความสูงประมาณ 0.5-1 เมตร"

//thai-offizier.de/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=17&view=previous

กองทัพเรือได้ดำเนินการจัดสร้างเรือลำแรกคือ ต. ๙๙๑ ณ อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ส่วนอีกสองลำนั้น กองทัพเรือได้เปิดให้บริษัทอู่เรือเอกชนที่ผ่านมาตรฐานรับรองระบบควบคุมคุณภาพไอเอสโอ 9001:2000 และผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสมาคมต่อเรือและซ่อมเรือประกวดราคาแข่งขัน และได้ผู้ชนะคือบริษัท มาร์ซัน จำกัด รับหน้าต่อต่อเรือต่อไป

พระราชพิธีวางกระดูกงู



ในวันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2548 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานและทรงประกอบพิธีวางกระดูกงูเรือต. ๙๙๑ ณ อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ นับเป็นการตั้งต้นการสร้างเรือลำนี้อย่างเป็นทางการ

การดำเนินการต่อเรือ



โดยขั้นตอนในการออกแบบเรือย่างละเอียด สามารถอ่านได้ที่

//www.navy.mi.th/dockyard/doced/Homepage/sontetset_files/T_991.pdf

และชมพัฒนาการในการต่อเรือได้ที่

//www.navy.mi.th/dockyard/Web/frame1.html

คุณลักษณะและสมรรถณะของเรือ



ระวางขับน้ำ: เต็มที่ 185 ตัน
ขนาด: กว้าง x ยาว - 6.45 x 38.7
เครื่องยนต์: MTU 16V 4000 M90 2 เครื่อง
ความเร็ว: มากกว่า 27 น็อต
ระยะปฏิบัติการ: มากกว่า 1,500 ไมล์ทะเล
ระยะปฏิบัติการในทะเล: ไม่น้อยกว่า 7 วัน
ความคงทนทะเล: สามารถปฏิบัติการในทะเลที่ Sea State 3 ได้
กำลังพลประจำเรือ: 29 นาย
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ: 1,900 ล้านบาท

ระบบอาวุธของเรือ




อาวุธปืนหลักของเรือคือปืนกลขนาด 30 ม.ม. รุ่น DS-30M ของบริษัท MSI-DSL จำนวน 2 กระบอก ติดตั้งบริเวณหัวเรือและท้ายเรือ สามารคควบคุมการยิงได้จากเครื่องควบคุมการยิงของเรือ ตัวปืนมีความสามารถในการต่อต้านเรือผิวน้ำขนาดเล็กและอากาศยานได้ โดยปืนในกระกูลนี้มีอัตรายิงที่ 650 นัดต่อนาที ระยะยิงหวังผลต่อเป้าหมายผิวน้ำที่ 10,900 หลา ต่อเป้าหมายอากาศยานที่ 3,000 หลา และมีคุณสมบัติในการลดการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและรังสีอินฟาเรด

ระบบอาวุธของเรือ



ระบบควบคุมการยิงซึ่งเป็นระบบที่ใช้ควบคุมปืน 30 ม.ม. นั้น ทางกองทัพเรือได้จัดหาระบบควบคุมการยิงแบบ Optronic รุ่น Mirador รุ่นล่าสุดของบริษัท Thales ประเทศเนเธอแลนด์ โดยระบบนี้จะประกอบไปด้วยระบบเซนเซอร์ ระบบกล้อง TV สองกล้อง ระบบสร้างภาพจากความร้อน ระบบกล้องในช่วงแสงต่ำ ระบบเลเซอร์วัดระยะและระบบอินฟาเรด ระบบสามารถตรวจจับและติดตามเป้าหมายได้ทั้งสามมิติ โดยในเวลากลางวันสามารถใช้กล้อง TV ในการติดตามและตรวจจับเป้าหมาย และใช้ระบบอินฟราเรดในเวลากลางคืน โดยเลเซอร์วัดระยะที่ปลอดภัยต่อสายตาจะทำการวัดระยะจากเรือไปสู่เป้าหมาย รวมถึงคำนวณขีปนวิถี (ballistic calculations) ซึ่งผู้บังคับเรือทำหน้าที่เพียงกดปุ่มสั่งการยิงเท่านั้น

ความคืบหน้าล่าสุด



ตอนนี้ทางอู่ได้ปล่อยน้ำเข้ามาให้อู่ที่เรือต.๙๙๑ กำลังสร้างอยู่เรือบร้อยแล้ว ส่วนตัวเรือนั้นงานหลัก ๆ คืบหน้าไปมาก โดยในส่วนของ Superstructure (ส่วนที่เป็นห้องบังคับการ) ได้ถูกประกอบลงในตัวเรือแล้ว และได้ทำการสร้างแท่นเพื่อรองรับปืน DS-30M ด้านในตัวเรือมีการตกแต่งและปรับปรุงภายใน เดินสายไฟบริเวณกลางลำเรือ เป็นต้น

สำหรับระบบควบคุมการยิงแบบ Mirador จะได้รับในเดือนมิถุนายน โดยบริษัท Thales จะรับผิดชอบในการติดตั้ง


ในวันที่ 30 เมษายน 2550 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถจะทรงเสด็จเป็นองค์ประธานและทำพิธีปล่อยเรือ ต.๙๙๑ ลงน้ำ ณ กรมอู่ทหารเรือ รวมระยะเวลาในการต่อเรือประมาณ 2 ปี และคาดว่าเรือจะเข้าประจำการในกองทัพเรือได้ในช่วงปลายปีนี้

ทั้งนี้ โครงการเรือ ต. ๙๙๑, ต. ๙๙๒ และ ต. ๙๙๓ เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในนามพสกนิกรชาวไทย ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ครับ

เว็บไซต์ของโครงการฯ สามารถเข้าชมได้ที่

//www.navy.mi.th/sctr/ship/

สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ

ปล. เรือ ต. 991 นั้น ภาษาอังกฤษใช้คำว่า T. 991 ครับ




Create Date : 23 เมษายน 2550
Last Update : 13 พฤษภาคม 2552 8:13:50 น.
Counter : 10945 Pageviews.

13 comments
แนวข้อสอบเข้า มัธยมศึกษาปีที่1 วิชาภาษาไทย เรื่องเสียงของภาษา นายแว่นขยันเที่ยว
(13 มี.ค. 2567 23:29:54 น.)
มินิรีวิวที่รองแก้วน้องเพี้ยน ฌบี้
(6 มี.ค. 2567 11:17:28 น.)
个 เก้อไม่ได้ใช้ได้ทุกที่ toor36
(29 ก.พ. 2567 00:10:26 น.)
สรุปวิชาโลกดาราศาสตร์และอวกาศชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.5) เรื่องทรัพยากรธรณี นายแว่นขยันเที่ยว
(28 ก.พ. 2567 00:03:41 น.)
  
เรือหลวงชุดปัตตานีน่าจะติดปืนDS-30MและระบบควบคุมการยิงOptronicมากกว่าที่จะติดแค่ปืน20มม. เรือชุดต.991นี้ยังดูดีกว่าชั้นปัตตานีมาก รล.ปัตตานีตัวใหญ่แต่กลับมีอาวุธที่ไม่ได้ต่างจากเรือตรวจการณ์ขนาดเล็ก เพียงแต่มีดีที่ปืน76/62กับฮ.สามารถลงจอดได้เท่านั้นเอง .....ก็หวังว่าอนาคตน่าจะมีการปรับปรังระบบอาวุธบนเรือชุดปัตตานี
โดย: HotWheels IP: 58.9.200.246 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:25:26 น.
  
โอวเสริม อีกนิดนึง ถ้าเมืองไทยไม่มีงบประมาณซื้อเรือดำน้ำ ทำไมไม่ลอง จัดตั้งโครงการ ระบบป้องกันภัยทางทะเล
เช่น เครื่องบินตรวจหาเรือดำน้ำ เรือตรวจจับเรือดำน้ำ
และ ระบบทำลายเรือดำน้ำ ซึ่งวิธีนีจะง่ายกว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะเรือดำน้ำ ถ้าเราเจอ อย่างน้อยก็สอยร่วงคาทะเลอ่าวไทยได้ ไม่ยาก ถ้าเรามี ตอปิโด ซึ่งอาจจะประจำการที่เรือ ต991 หรือ เครื่องบินตรวจหาเรือดำน้ำก็ได้
โดย: em IP: 58.136.206.187 วันที่: 2 มิถุนายน 2550 เวลา:19:35:03 น.
  
ไทยน่าจะคิดเองทำเองนะไม่ต้องไปซื้อเขา
โดย: อยากเปน IP: 125.26.143.61 วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:20:43:02 น.
  
ดีจังครับ ภูมิใจกับทหารเรือไทย

แวะมาทักทายครับ
โดย: experimental วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:17:59:23 น.
  
มีข่าวจากเวป //www.manager.co.th/lite หน้าข่าวอินโดจีน

"กัมพูชามีแผนจะขยาย การลาดตระเวณน่านน้ำ เพื่อปกป้องทรัพยากรทางทะเล อันมีค่าโดยเฉพาะ บริษัท สำรวจน้ำมันของต่างชาิติทั้ง แต่แผนการนี้ยังอยู่ระหว่างการ
อนุมัืติ"
หลังจากอ่านข่าวนี้ สงสัยได้มีกรณีพิพาท เขตน่านน้ำอีกแหงๆ
ผมว่าเรือ ต. 991 จะได้ ทดสอบ แสนยานุภาพก็งานนี้ละครับ
หวังว่าคงไม่ถึงขั้นยิงปะทะกันกลางทะเล เพราะเห็นทหารเรือไทยกับ
ทหารเรือ กัมภูชาก็ร่วมกันลาดตระเวณอยู่ตลอดนะ
โดย: ททท IP: 58.136.104.125 วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:12:39:28 น.
  
เรือ ต.ไม่สามรถติด ตอปิโดได้นะคับ และไม่รู้ติดไปทำไมด้วยเพราะมันคนละภารกิจกันเลย เรือนี้เราได้เอาไปรบกับใคร ถึงติดได้ก็ยิงเรือดำน้ำไม่ได้อยู่ดีเพราะหาเรือดำน้ำไม่เจอ เรือที่ปราบเรือดำน้ำได้ก็ต้องเป็นเรือขนาดใหญ่ เช่นเรือฟริเกตเพราะสามรถติดโซนาร์หัวเรือซึ่งมีขนาดใหญ่มากได้คับ ปัจจุบันเรามีความพร้อมต่อการรับมือกับเรือดำน้ำน้อย เพราะเราขาดเรื่องงบประมาณในการซื้ออุปกรณ์ตรวจจับ และขาดการฝึกกับเรือดำน้ำจิง ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านเรานั้นมีเรือดำน้ำใช้แล้ว ซึ่งเรือดำน้ำเดี๋ยวนี้ตรวจจับได้ยากมากๆ ก็หวังว่าเราจะได้เรือดำน้ำไว้ใช้ในไม่ช้านี้ เรือหลวงปัตตานีเป็นเรือตรวจการไกลฝั่งนคับ ต้องมีขนาดใหญ่เป็นธรรมดา เพราะต้องทนต่อคลื่นลมในทะเล เรือเล็กอย่าง ต.991 ไม่สามารถทนได้คับ และที่ติดอาวุธน้อยนั้นก็เพราะว่า ถ้านำเรือฟริเกตออกไปจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนสูงมาก แต่ใช่ว่าจะติดตั้งว่าวุธไม่ได้นะคับ เรือนี้สามารถติดอาวุธเหมือนเรือฟริเกตได้คับ
โดย: รักไทย IP: 124.121.9.55 วันที่: 27 ตุลาคม 2550 เวลา:17:41:13 น.
  
เรือตรวจการณ์ชื่อก็บอกแล้วว่าตรวจการณ์ไม่ได้เอาไปรบกับใคร

แต่ถ้ามีการรบกันเกิดขึ้นทางเรือเราสู้ไม่ได้แน่ครับ
โดย: ทอแสง IP: 58.8.52.36 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:53:44 น.
  
มีเรือOPVแล้วค่อยไม่ใช้งาน,ไม่ค่อยฝึกก็เปล่าประโยชน์ มัวแต่ห่วงค่าใช้จ่ายแล้วสั่งต่อเรือทำไม นำเงินส่วนนี้มาสร้างระบบป้องกันทางทะเล,อากาศยานทางทะเลไม่ดีกว่าหรือครับ หรือติดระบบอาวุธเรือลำอื่นๆให้พร้อมทั้งระบบไม่ดีกว่าหรือครับให้มีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไม่หวังเพียงปริมาณ
โดย: SEAL IP: 203.144.139.228 วันที่: 17 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:13:41 น.
  
แวะเข้ามาทักทายค่ะ.....................
กำลังพลของกองทัพเรือสู้ต่อไปนะคะ เหนื่อยหน่อย เงินเดือนน้อยก็ไม่เป็นไรหรอก สู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดินเกิด แค่นี้ก็เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ น่าเสียดายที่กำลังพลของกองทัพเรือมีการโอนย้ายสังกัดไปอยู่หน่วยงานอื่นอยู่บ่อยๆ ได้ยินแล้วก็น่าใจหาย อยากให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพต่อไป แต่ก็พยายามเข้าใจว่าที่แต่ละคนทำไปเพื่อครอบครัวทั้งนั้น ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญนะคะ ว่าไหม?
โดย: แม่พิมพ์ของชาติ IP: 202.91.19.192 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:0:30:36 น.
  
ดีแล้วใครว่าไม่ดีก็บ้านเราจนดีใจเกิดเป็นลูกนาวี
โดย: ไก่ IP: 125.26.172.236 วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:13:52:24 น.
  
ที่ทำงานพ่อของเราค่ะ
โดย: น้องมุก IP: 58.9.245.101 วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:26:16 น.
  
หนูเคยขึ้นเรือรบนะ แต่จำชื่อไม่ได้ที่เขาจอดไว้ตรงป้อมพระจุลอะ
โดย: น้องผิง วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:11:47 น.
  
เขียนบล็อกได้ดีมากเลยครับ
inadvance.onlinefastpaydayloans.us">money in advance
โดย: lavenderbreeze999 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:00:11 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Skyman.BlogGang.com

Analayo
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 56 คน [?]

บทความทั้งหมด