ก้าวต่อไป..ของกองทัพอากาศชาติอาเซียนในอีก 10 ปีข้างหน้า
ภูมิภาคอาเซียนของเรามีกำลังทางอากาศที่น่าสนใจอยู่หลายประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็เผชิญภัยคุกคามแตกต่างกันไป บทความนี้ จะลองมองดูกองทัพอากาศของแต่ละชาติครับว่า น่าจะเป็นยังไงในอีก 10 ปีนับจากนี้



Remain The Same: Laos and Cambodia

ดูจากรูปการแล้วทอ.ลาวและทอ.กัมพูชาน่าจะยังไม่มีการเพิ่มเติมกำลังหรือจัดซื้ออากาศยานอย่างขนานใหญ่ในรอบ 10 ปีนี้ครับ เนื่องด้วยของเงินทุนที่นับวันเครื่องบินจะยิ่งแพงมากขึ้น จึงน่าเชื่อว่าจะเป็นการพยายามคงสภาพความพร้อมรบของเครื่องบินที่มีอยู่เอาไว้ครับ

ทอ.ลาว: MiG-21, Mi-17 ( MiG-21 เชื่อว่าไม่น่าจะทำการบินได้แล้ว)
ทอ.กัมพูชา: MiG-21, L-39 (ไม่ทราบสถานะของ MiG-21 และ L-39 ที่ได้รับการปรับปรุงจากอิสราเอลน่าจะยังทำการบินได้อยู่)

Time To Change: Philipines

ฟิลิปปินส์มีภัยจากการก่อการร้ายอย่างเด่นชัด โดยกองทัพอากาศมีบทบาทสูงในการโจมตีฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายในภาคใต้ แต่ทอ.ฟิลิปปินส์เองขาดเงินทุนในการจัดซื้อเครื่องบินที่ทันสมัยเข้าประจำการ ทั้งที่เครื่องบินบางแบบอย่าง OV-10 นั้นก็เก่ามากแล้ว และอีกไม่เกิน 10 ปีนับจากนี้ก็คงต้องปลดประจำการลง ฉะนั้น ในอีก 10 ปีข้างหน้า ทอ. น่าจะมองเครื่องบินแบบใหญ่ที่ราคาถูกแต่ใช้ต่อต้านการก่อการร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพเข้าประจำการ ซึ่งอันที่จริงฟิลิปปินส์เคยมีความสนใจใน F-16, Mirage, และ Gripen แต่ขาดเงินทุนเสมอมา

ทั้งนี้ มีข่าวว่าฟิลิปปินส์มีแผนการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยมากขึ้น โดยจะจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ UH-1H มือสองจากสหรัฐเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างแสนยานุภาพในการต่อต้านการก่อการร้าย และเครื่องบินฝึกรุ่นใหม่ ซึ่งน่าจะไปทำภารกิจโจมตีด้วย

แต่สิ่งที่ผมเสนอมีดังนี้: มีสถานการณ์ที่น่าสนใจคือกองทัพอากาศสวีเดนเตรียมปลดประจำการ JAS-39 A/B รุ่นเก่าเพื่อที่จะนำรุ่น C/D เข้าประจำการ ซึ่งจะมีเครื่องที่เหลือในการนี้ราว ๆ 30 กว่าเครื่อง ถ้ากองทัพอากาศฟิลิปปินส์มีกำลังเงินพอ การจัดซื้อเครื่องมือสองจากทอ.สวีเดนเข้าประจำการก็ดูจะน่าสนใจอยู่มิใช่น้อย ซึ่งกะคร่าว ๆ แล้วน่าจะใช้เงินราว ๆ ลำละ 15 -20 ล้านเหรียญ

อีก Option นึงที่น่าสนใจคือ ทอ.ฟิลิปปินส์น่าจะมองหาเครื่องบินฝึกที่ทำภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย (Counter Insurgency: COIN) ได้อย่าง Super Tucano ซึ่งมีราคาถูกคือประมาณเครื่องละ 5 -6 ล้านเหรีญเท่านั้น แต่สามารถบรรทุกอาวุธทันสมัยได้มากมาย และดูแล้วจะเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์มากกว่า

ทอ.ฟิลิปปินส์: OV-10, S-211, UH-1H

Enter The New Era: Vietnam

กองทัพอากาศเวียดนามกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากอาวุธยุคสงครามเวียดนามไปสู่อาวุธสมัยใหม่ และด้วยเศรษฐกิจที่โตวันโตคืน ก็ทำให้ไม่ใช่เรื่องยากนักในการซื้อหาเครื่องบินใหม่ ๆ เข้าประจำการ ซึ่งเครื่องบินรุ่นสงครามเวียดนามหลาย ๆ แบบก็คงต้องทะยอย ๆ ปลดประจำการไป

มีข่าวออกมาสักปีสองปีแล้วครับว่าทอ.เวียดนามนั้นสั่งซื้อ Su-30MK เป็นจำนวนมากถึง 50 ลำ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นแค่ "ความสนใจ" หรือ "การเซ็นสัญญา"

แต่ถึงจะซื้อหรือไม่ซื้อในตอนนี้ ดูแล้วในอีก 10 ปีทอ.เวียดนามก็คงสั่งซื้อเครื่องล็อตนี้แน่นอน เพราะเครื่องรัสเซียในปัจจุบันที่น่าสนใจก็คือ Su-30 และอีกเหตุผลนึงก็คือเวียดนามนั้นใช้ระบบอาวุธของรัสเซียทั้งหมด เครื่องฝั่งยุโรป สหรัฐจึงต้องตัดไป และเวียดนามก็คงไม่ซื้อเครื่องของจีนแน่นอน

ทั้งนี้ เราคงได้เห็น Su-30MK ในกองทัพอากาศเวียดนามเพิ่มขึ้นแน่นอน

ทอ.เวียดนาม: Su-30, Su-25, MiG-21

Looking Forward: Myanmar

พม่าเองก็เจอปัญหาการก่อการร้ายคล้าย ๆ ฟิลิปปินส์ แต่ดูแล้วพม่ามีภาษีดีกว่าตรงที่มีลูกพี่ใหญ่คือจีนคอยสนับสนุนอยู่ตลอด และตัวเองก็มีทรัพยากรธรรมชาติมากมายที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็นเงินดอลล่าห์ใบเขียว ๆ

ทั้งนี้ ว่ากันว่าหลังจากการปะทะกับไทยตามแนวชายแดนเมื่อราว ๆ 6 ปีก่อน ทำให้พม่ายิ่งเร่งใช้งานเงินงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธใหม่ ๆ มากมาย ในส่วนของกองทัพอากาศแล้ว MiG-29B/UB จำนวน 10 ลำก็คือหนึ่งในนั้น

ในอีก 10 ปี มีความเป็นไปได้ว่าพม่าอาจจะจัดหา MiG-29 เพิ่มเติม ทั้งนี้ MiG-29 ฝูงนั้นอาจจะเป็น MiG-29N ของทอ.มาเลเซียที่กำลังเตรียมกราวน์ในปีนี้ ซึ่งมีข่าวออกมาว่ามีการเจรจาเพื่อขอซื้อไปแล้ว แต่ติดขัดตรงเรื่องเงินที่พม่ายังมีไม่พอจ่ายในตอนนี้

หรือไม่เช่นนั้นพม่าอาจจะไปมอง FC-1 ของจีนที่กำลังเตรียมตัวส่งออกในต่างประเทศ ราคาก็ค่อนข้างถูก คือประมาณ 15 ล้านเหรียญต่อเครื่อง การซื้อการขายก็พูดจากันสะดวก เพราะลูกพี่ใหญ่จัดให้ได้ทุกอย่าง

ทอ.พม่า: MiG-29B/UB, F-7M, A-5C (มีข่าวว่า F-7M กับ A-5C สูญเสียไปหลายเครื่อง ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน)

Speed Up Modernization: Indonesia

ตอนนี้อะไร ๆ ก็ดูสดใสสำหรับทอ.อินโดนิเซีย ในปีสองปีที่แล้วกองทัพอินโดนิเซียมีการปรับปรุงและจัดซื้ออาวุธสมัยใหม่เข้ามามากเหมือนกัน ในส่วนของกองทัพอากาศเองนั้นได้จัดซื้อ Su-30Mk เพิ่มเติมอีก 6 ลำ รวมกับ Su-27/30 ที่มีอยู่อีก 4 ลำ และกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อ L-159 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่เบาของสาธารณรัฐเช็คจำนวน 24 ลำ

ในอีก 10 ปีข้างหน้า อากาศยานที่ต้องปลดประจำการไปก็เห็นจะเป็น OV-10 ที่จะปลดเร็ว ๆ นี้, F-5 ที่น่าจะปลดออกไปเพราะถึงอายุใช้งาน

อากาศยานที่น่าจะเข้ามาเพิ่มเติมที่เดาได้แน่ ๆ ก็คือ ถ้าไม่ใช่ Hawk จากอังกฤษก็น่าจะเป็น L-159 ดังที่กล่าวไปข้างต้น จำนวน 1 -2 ฝูง และอาจจะมีเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์แบบใหญ่เข้าประจำการอีกประมรณ 1 ฝูงก็เป็นได้

ทอ. อินโดนิเซีย: Su27/30, F-16, Hawk, OV-10, F-5 (OV-10C เคยกราวน์ทั้งหมดหลังจากอุบัติเหตุใหญ่เมื่อสองปีที่แล้ว และอาจจะกำลังเตรียมปลดประจำการในอีกไม่กี่ปี)

Try To Be on The Train: Malaysia

ทอ.มาเลเซียกำลังจะได้รับเครื่องบินรุ่นใหม่เข้าประจำการนั่นคือ Su-30MKM จำนวน 18 ลำ แต่ในทางกลับกัน กำลังรบของตนก็จะหายไปอีก 14 ลำนั้นคือ MiG-29N

ในอีก 10 ปี จึงมีความเป็นไปได้ว่าทอ.มาเลเซียน่าจะจัดหา Su-30MKM หรือ F/A-18F เพิ่มเติมอีก 1 ฝูง และน่าจะต้องเตรียมตัวแก้ปัญหาด้วยเทคนิคต่าง ๆ ที่เกิดกับบ.แทบทุกแบบของตัวเองให้หมดไป

Maintain Supremacy: Singapore

สิงคโปร์มีความพร้อมทุกอย่าง ทั้งเรื่องเงิน เรื่องการเมือง เรื่องเทคโนโลยี ทำให้ไม่น่าจะต้องห่วงอะไรนักในอีก 10 ข้างหน้า

หลังจากจัดหาเครื่องบินฝึกแบบใหม่คือ PC-21 จำนวน 1 ฝูง และ เครื่องบินขับไล่ F-15SG ซึ่งเป็น F-15 ที่ทันสมัยที่สุดจำนวน 12 ลำแล้ว ในอีก 10 ข้างน่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่สิงคโปร์จะจัดหา F-15 เพิ่มเติมจนครบ 40 ลำอย่างที่เคยว่าเอาไว้ นอกจากนั้น F-16 Block50/52+ จำนวน กว่า 70 ลำก็จะยังเป็นกำลังหลักของทอ.สิงคโปร์ต่อไปอีก 10 ปี และที่แน่นอนที่สุด เราอาจจะได้เห็น F-35 เครื่องแรกในอาเซียนในอีกประมาณ 10 ปีก็เป็นได้

Dealing With Uncertainty: Thailand

กลับมาดูที่บ้านเรากันบ้างครับ ในอีก 10 ปี ทอ.คงต้องมีการปรับปรุงหลาย ๆ อย่าง นั้นคือ ทอ.คงจะปลดประจำการ F-5 ทั้งหมดออกไปเนื่องจากครบอายุการใช้งาน L-39 และ Alphajet ก็จะอยู่ในช่วงสุดท้ายของการใช้งาน

ทำให้ในอีก 10 ปี ทอ. มีงานใหญ่รออยู่ถ้าทอ.จะต้องคงกำลังรบเอาไว้เหมือนในปัจจุบัน นั้นคือ ทอ.น่าจะจำเป็นต้องปรับปรุงครึ่งอายุ (Mid-Life Upgrade: MLU) ให้กับ F-16 แน่นอนอย่างน้อย 1 ฝูง และเริ่มมองหาบ.ขับไล่ฝึกแบบใหม่เพื่อทดแทน L-39 และ Alphajet และอาจจะเริ่มการเจรจาเพื่อขอจัดซื้อ F-35 ก็เป็นได้

ทำให้ในอีก 10 ปี หน้าตาของทอ.ไทยน่าจะเป็น บข.20 ที่กำลังซื้อจำนวน 1 ฝูง F-16 ADF 1 ฝูง F-16 MLU 1 หรือ 2 ฝูง เครื่องบินฝึกขับไล่อีกจำนวนประมาณ 3 ฝูง

และเตรียมการเพื่อรอรับ F-35 เข้าประจำการ...



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 3 ตุลาคม 2552 1:31:07 น.
Counter : 7233 Pageviews.

24 comments
หนังสือและอุปกรณ์การเรียนสำหรับเด็ก ป.1 ของโรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่น SN_monchan
(7 เม.ย. 2567 05:39:08 น.)
9 แนวคิดที่ทำให้เรามีชีวิตประจำวันที่ดีกว่าเดิม peaceplay
(31 มี.ค. 2567 09:18:27 น.)
AI คืออะไร ? ข้อดีของ AI Technology Robotic เข้ามาช่วยในการผ่าตัด newyorknurse
(19 เม.ย. 2567 02:45:03 น.)
เกี่ยวกับข้อมูลภาษี Google Adsence กว่าจะอนุมัติ Ep.1 SN_monchan
(16 มี.ค. 2567 07:48:15 น.)
  
สวัสดีค่ะ มาเยี่ยมค่ะ
ทานข้าวหรือยังค่ะ
สบายดี นะค่ะ
(@^_^@)
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:43:44 น.
  
รู้สึกว่ากองทัพไทยนี่ ทั้ง ทบ. กับ ทร. นี่ทันสมัยที่สุดเลยนะครับ โดยเฉพาะ ทบ.ไทยนี่เป็นอันดับ 1 แห่งอาเซียนเลยนะครับ ทร.ไทยก็ไม่ด้อยไปกว่า ทร.ประเทศอื่นเลยครับ แต่ไหง ทอ.ถึงไม่ค่อยทันสมัยล่ะครับ แล้วข่าว MH-60S Knight Hawk ของ ทร.เงียบไปเลยนะครับ หรือว่าสั่งซื้อแล้ว แต่ ทร.ปิดปากเงียบจนกว่าจะได้รับประจำการหรอครับ แล้ว บ.ข.20 เรานี่จะเป็น F-35 หรือ Jas-39 Gripen กันแน่ครับ ไม่ทราบว่าถามมากไปป่าวครับ ยังไงก็ขอโทษครับ แต่อยากรู้จริงๆครับ/ขอบคุณครับ
โดย: Aerospace IP: 203.188.29.201 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:00:22 น.
  
เหอะๆๆๆ อารมณ์วันนี้หลังจากบอลไทยแพ้ สิงค์โปร์แบบค้านสายตาคนดูทั้งประเทศ .......อิอิอิ วันอาทิตย์นี้สิงคโปร์โดนยำแน่ เหอๆๆๆ เห็นว่าสนามศุภฯแตกแน่ๆๆ
โดย: pooktoon วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:18:53 น.
  
อีก10ปีเป็นไปได้ไหมครับถ้าประเทศไทยจะมี f-16 c/d 2ฝูง
f-16 adf 1ฝูง jass 39 c/d 2 ฝูง f-35 1 ฝูง
โดย: บอม IP: 125.24.170.240 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:05:05 น.
  
อาทิตย์นี้ผมไปทำงานที่โคราชมา ทุกเช้าเวลาผมลงมากินข้าวเช้าที่ตรงล้อบบี้
โรงแรมก็จะเจอคนใส่เครื่องแบบนักบินสิงก์โปร์(ดูจากธงที่ติดตรงแขน)มากินข้าว
เช้า เห็นมาตลอดอาทิตย์นี้เลยไม่ทราบว่ากระทั่งเดี๋ยวนี้นี่สิงก์โปร์ก็ยังส่งนักบินมา
ฝึกที่เมืองไทยอยู่เหรอครับ ทั้งๆที่ดูเหมือนการเมืองจะขัดแย้งกัน หรือว่าเป็นเรื่อง
สัญญาที่ทำกันไว้ก่อนหน้านี้ ว่าแต่ว่าถ้าเค้ามาฝึกบินนี่คือใช้เครื่องของเราในการ
ฝึกหรือว่าเค้าก็เอาของเค้ามาเองครับเนี่ย คือเห็นว่าเครื่องของสิงก์โปร์เองก็มีระบบ
ต่างๆที่น่าจะทันสมัยกว่านะ แล้วถ้ามาฝึก simulator ผมก็ไม่เห็นว่าจะต้องมา
ถึงเมืองไทยเลย
โดย: kai IP: 58.136.96.181 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:40:16 น.
  
ศึกในบ้านยังไม่สงบจัดระเบียบแถวยังไม่ได้เราและท่านก็รู้กันอยู่ การพัฒนาเป็นไปได้ยากครับพี่น้อง ได้แต่หวังให้คนที่มีอาชีพนักการเมืองรู้กจักคำว่าพอหรือเสียสละ(จัดสรรผลประโยชน์ลงตัว)ตอนนั้นเราถึงจะพัฒนากองทัพได้
โดย: ครูริมโขง IP: 203.172.199.250 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:34:40 น.
  
ใช่ครับ ณครูริมโขงพูดถูกครับ

MH-60S ก็เงียบครับ บางทีมันอาจจะมาอย่างเงียบ ๆ ก็ได้ ประเภทเห็นอีกทีก็มาบินที่กบร.แล้ว

เรียนคุณ บอม

เป้นไปได้นะครับ แต่ gripen อาจจะแค่ ฝูงเดียว และ F-16 C/D ในกองทัพเราก็จะเป้น F-16 MLU ครับ (คือปรับปรุง A/B ให้เท่า C/D)

ส่วนทอ.สิงคโปร์ที่คุณ kai เห็นนั้นเค้ามาฝึก Cope Tiger 2007 ครับผม ไทยกับสิงคโปร์ยังฝึกกันเป็นปกติครับ

โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:55:29 น.
  
แต่ผมคิดว่า กองทัพที่ทันสมัยจะช่วยสร้างอำนาจการต่อรองให้ได้ด้วยดีเลยทีเดียวนะครับ
จริงอยู่ที่ตอนนี้การเมืองยังไม่สงบ แต่กองทัพก็เป็นอะไรสำคัญหลายอย่างของประเทศเลยทีเดียว ถ้ากองทัพเราทันสมัยมากขึ้น ก็จะเป็นประโยชน์ที่ดีต่อประเทศในบางด้าน (แบบว่าอยากเห็นมาเลเซียกับสิงคโปร์เกรงๆเราบ้างน่ะ) ถ้าเรามีกองทัพที่ทันสมัย เราก็จะมีอำนาจการต่อรองมาก ถ้าการเมืองสงบหรือประเทศสงบในทุกๆ ด้านแล้วผมอยากให้กองทัพพัฒนาเต็มที่น่ะครับ เพราะเมื่อก่อนเราเหนือกว่าเขา ตอนนี้เขาเหนือกว่าเรา ถ้าเราเหนือกว่าเขา
เราก็อาจได้เปรียบในหลายๆ ด้าน ผมคิดว่า การพัฒนากองทัพก็ไม่ควรมองข้ามนะครับ
โดย: แอร์ ฟอร์ช วัน IP: 203.114.106.44 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:05:37 น.
  
ผมมองว่าการพัฒนากองทัพที่ดีที่สุด คือการวิจัยทำอาวุธใช้ได้เองจากที่ผมดูตามข่าวสารของกองทัพ เรามีอาวุธหลายอย่างที่ผลิตใช้ได้เองเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เห่าฟ้า4 ปืนใหญ่เบา ปืนกลเบา HK33kพับฐาน หรือ เรือตรวจการ ในขณะที่งบมีจำกัดเราสามารถทำได้ขนาดนี้ ก้อหน้าทึ่งมากแล้วครับ แล้วถ้ารัฐบาลให้ความสนใจมากกว่านี้ไปได้อีกไกลมากครับ ที่บอกว่าจีนเก่งเรื่องก๊อป ไทยเราก๊อปเก่งกว่าหรือดีกว่ามาก ถ้ามีงบประมาน
โดย: นักรบ IP: 124.120.122.78 วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:19:27:09 น.
  
ของไทย นอนหลับฝันได้อีกหลายปีครับ อย่าหวังมาก เปลี่ยนหัวแล้วโครงการก็เปลี่ยนตาม เป็นแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัย ดูเหตุการณ์ใกล้เร็วๆนี้ เรื่องที่ทร.จะได้Super Lynx ลำที่สาม ลำที่สี่เลิกคิดได้เลย เพราะอะไรก็เปลี่ยนหัวแถวไปแล้ว รัฐบาลหน้าก็ทราบกันอยู่ว่าใครจะได้ แล้วคนกลุ่มนี้ก็สนิทกับUS. มากกว่ารัฐบาลเก่า ฉะนั้นสำหรับคุณทั้งหลายที่ถามถึงโครงการMH-60Sของทร. ไม่ต้องกลัวว่าจะเงียบครับ หลังเลือกตั้งก็ได้เอง แต่ทร.จะได้ UH-60L 2ลำก่อน หลังจากนั้นจะเป็น MH-60S 2ลำครับ แล้วก็จะมีรายการสั่งจากUS. ตามมาให้เห็นอีกมาก

สุดท้ายบอกได้เลยครับว่าเครื่องบินใหม่ของทอ. จะเป็นจากค่ายUS. 100% ค่ายอื่นไม่ได้กินครับ
โดย: ทหารบก IP: 58.9.200.119 วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:13:36:00 น.
  
ประเทศที่สามารถผลิตอาวุธได้เองเสียส่วนใหญ่ เกือบร้อยทั้งร้อย จะบ้าสงครามครับ ถ้าใครดู History channel
แล้วจะถึงบางอ้อเอง แต่ผลพลอยได้ของการบ้าสงครามของแต่ละประเทศคือ อุตสาหกรรมต่างๆจะเจริญรุดหน้าเทียบเคียงได้เท่ากับ G8 เลยนะครับ
อีกอย่างนึงประเทศที่บ้าสงครามต้องมีความสามารถในการดูดทรัพยากรจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดีครับ
โดย: สสาา IP: 58.136.229.246 วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:21:38:15 น.
  
โม้หือป่าว ว่าไทยซื้อF-35 สงสัยคนพิมพ์ตาลาย
พิมพ์ติดมาจาก สิงคโปร์แน่ อิอิ

ผมไม่เชื่อว่าไทยจะซื้อF-35 ในอีก10ปีข้างหน้าหรอกครับ
ตอนนี้กำลังซื้อ บข 20 ฝูงใหม่อยู่ น่าจะเป็น
Jas-39 ชัวๆๆแน่นอนเอฟ16ก็คงปรับปรุงเพิ่มอายุการใช้งาน
โดย: supachai2531 IP: 203.113.61.103 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:15:20:49 น.
  
มาเลย์ มักมีปัญหา กับสายงานช่างครับ ไม่ก้อ นักบินมือไม่ถึง เครื่องเลยตกบ่อย ผมว่าไม่น่ากลัวเท่าพม่า
โดย: Asura IP: 203.146.63.182 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:12:16:02 น.
  
คุณทหารบกพูดน่าคิดครับที่ว่ารัฐบาลใหม่น่าจะสนิทกับอเมริกามากกว่า น่าจะเป็นเครื่องของอเมริกา
ขอผมคิดต่อไปอีกหน่อยว่ารัฐบาลใหม่ของเรา ทำงานไม่ค่อยเป็นน่าจะไม่มีปัญญาหาเงินไปซื้อเครื่องบินได้
โดย: ก IP: 203.113.37.11 วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:3:27:45 น.
  
ทอ. ไม่สน SU-37 มั่งหรอ
โดย: BuRKuT IP: 125.25.0.160 วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:22:48:25 น.
  
แหง๋...ไหนๆเลือกกริปเปน..เบบี้น้อยมาฝูงนึงแล้ว..คิดเล็กคิดน้อย..กับงบจำกัด..มันก็เหมือนเดิม..ไม่ได้ต่างไปจาก...เครื่องเอฟ 16 ในเรื่องพิสัยบินสักเท่าไหร่..ก็คือย่ำอยู่กับที่.. ทำไมไม่ใจใหญ่ เหมือนอินโด...มาเลเซีย...เขาบ้าง....ที่สั่งเครื่องบินรัสเซียมาใช้ อย่างเครื่องปีกหมุนตระกูลเอ็มไอ เคยเห็นบินโชว์ที่งานแสดงอาวุธหลายปีแล้วที่สัตหีบ ไม่น่าเชื่อเครื่องใหญ่ๆ เทอะทะอย่างนั้นจะบินผาดโผน ตีลังกา โฉบต่ำ ควงขึ้นเวหา ได้อย่างอเมซซิ่ง......หรือ ซู 30 ทำไมไม่สั่งซื้อมาสัก 6 ลำ เป็นเครื่องบินแนวรุก น่าเกรงขาม....จะอะไรก็ช่าง..อย่างน้อยเราก็ได้ในแง่จิตวิทยา....ได้ความเชื่อใจจากรัสเซียที่ไว้วางใจซื้อของจากเขา...ทำอะไรมันก็ต้องลงทุนก่อน..ของดีจะตามมาภายหลัง.....ซื้อของใช้ป้องกันประเทศไม่ใช่ว่าจะมาคิดเรื่องงบประมาณ.หรือแถมนั่นแถมนี่.ต้องดูด้วยว่าได้ประโยชน์ในทางที่ดีจริงๆหรือป่าว แต่ที่ตัดสินใจเลือกกริปเปนผมก็ไม่ค้านน๊ะครับ..แต่มันยังไม่สะใจ..มันเหมือนขาดลูกหนักไป เหมือนมวยหมัดไม่หนัก
โดย: บี IP: 125.24.51.31 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:33:17 น.
  
เปิดชีวิต ‘SKYMAN’ ‘อนาลโย กอสกุล’ ‘เซียนเครื่องบินรบ’ วัยโจ๋!!








หลังคณะรัฐมนตรีรัฐบาลชุดปัจจุบันอนุมัติกองทัพอากาศจัดซื้อเครื่องบินรบรุ่นใหม่ “ยาส-39 กริเปน (JAS-39 Gripen)” ของสวีเดน ซึ่งคนไทยไม่ค่อยคุ้นชื่อ หากใครลอง คลิกเข้าไปหาข้อมูลเครื่องบินรบที่ว่านี้ในอินเทอร์เน็ต เชื่อว่าจะต้องเจอข้อมูลที่มีที่มาจากบล็อกเว็บชื่อ skyman.bloggang.com ซึ่งเป็นภาษาไทย และบางคนอาจคิดว่าผู้ที่ทำข้อมูลนี้คงเป็นนักบินหรือทหารอากาศ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ กลับเป็นคนหนุ่มที่ชื่อ “อนาลโย กอสกุล”


“ผมไม่ใช่ทหารอากาศครับ และครอบครัวผมก็ไม่มีใครเป็นทหารเลย ผมแค่สนใจและ ชอบเรื่องอาวุธประเภทเครื่องบินรบ ผมจำได้ว่าตั้งแต่เด็กจำความได้ก็เงยหน้าขึ้นมองเครื่องบินแล้ว เพราะบ้านผมอยู่ใกล้สนามบิน เป็นความคุ้นเคยที่ได้เห็นบ่อยจนกลายมาเป็นความชอบโดยอัตโนมัติ”

เป็นคำกล่าวของชายหนุ่มที่มีความสนใจในเรื่องเครื่องบินรบคนนี้ สนใจและศึกษาหาความรู้ จนถึงขั้นทำเว็บเกี่ยวกับเครื่องบินรบของ ตัวเองขึ้นมา เพื่อแบ่งปันข้อมูลของสิ่งที่ชอบให้คนอื่นได้ศึกษาด้วย

“อนาลโย กอสกุล” ผู้คลั่งไคล้เครื่องบินรบ ไม่ได้เป็นทหารอากาศ หรือแม้แต่ทำงานอะไรที่เกี่ยวเนื่องห่าง ๆ กับเรื่องเครื่องบิน หากแต่ปัจจุบันทำงานเป็น “โปรแกรมเมอร์” และศึกษาเรื่องนี้เป็นงานอดิเรก

ย้อนรอยชีวิตของเขาคนนี้ที่ปัจจุบัน เพิ่งอายุ 20 ต้น ๆ เจ้าตัวเล่าว่า เป็นคนกรุงเทพฯ เป็นบุตรชายของ กำชัย-มะลิวัลย์ กอสกุล เขามี พี่น้องรวมทั้งหมด 3 คน โดยเขาเป็นพี่คนโต ของครอบครัว

ด้านการศึกษานั้นเขาเริ่มเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดเสมียนนารี จากนั้นก็ ไปเข้าเรียนระดับมัธยมต้นที่โรงเรียนสาธิตปทุมวัน พอมัธยมปลายไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมวิทยา จนสอบเข้าไปเรียนต่อได้ที่สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนจบระดับปริญญาตรี

กับเรื่องของการชื่นชอบในเรื่องเครื่องบินรบ อนาลโยบอกว่า มันเริ่มขึ้นจากความชื่นชมในสมัยเด็ก ๆ และกลายเป็นความชอบ หลงใหล ในเรื่องของเครื่องบินรบ ทำให้เขาเริ่มศึกษาหาความรู้จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญ จนปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรอบรู้ ในเรื่องเครื่องบินรบในระดับต้น ๆ คนหนึ่ง

เขาเล่าต่อไปว่า อาจเป็นเพราะได้เห็นเครื่องบินบ่อย ทำให้เกิดเป็นความชอบขึ้นมาโดย อัตโนมัติ เกิดเป็นความสนใจเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ เพราะแต่ก่อนบ้านก็อยู่แถวดอนเมือง ที่มีเครื่องบินบินผ่านให้เห็นทุกวัน ผ่านมาทีก็วิ่งออกไปดู ตอนเด็กจำได้ว่าคุณลุงเคยพาไปเที่ยวงานวันเด็กที่กองทัพอากาศ ได้ไปเห็นเครื่องบินรบของทหาร ก็ชอบและสนใจ และสมัยเรียนอยู่มัธยมต้นจำได้ว่าเห็นเครื่องบินรบ 3-4 ลำที่บินระดับต่ำมาก

“มันทำให้ผมเกิดความตื่นเต้น และ ยิ่งสนใจมากขึ้นไปอีก ผมเป็นคนชอบอะไรที่บินได้ มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น คิดดูสิว่าการเอาเหล็กหนักกว่า 10 ตันขึ้นไปบินบนฟ้าได้ มันเป็นจุดที่น่าสนใจมากแค่ไหน เป็นหลักการทางวิศวกรรมที่ซับซ้อนมาก อีกอย่างการขับเครื่องบินไม่เหมือนขับรถ การขับรถถ้าเราขับเป็นแล้วจะไปขับคันไหนยี่ห้อไหนก็ได้ แต่การขับเครื่องบินนั้นกว่าจะขับได้ไม่ธรรมดา ต้องฝึกหัดเป็นอย่างดี และ ขับได้แล้วพอจะไปขับเครื่องรุ่นอื่นก็ต้องฝึกอีก”

จุดนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อนาลโยหลงใหลเครื่องบิน ซึ่งในตอนที่ยังเป็นเด็กเขาได้เพียงแต่ชอบ ยังไม่ได้ศึกษาเป็นพิเศษ ชอบดู เครื่องบินเวลาบินผ่าน นอกจากนั้นก็จะดูจากสารคดี ภายหลังพอเขาเริ่มเติบโตขึ้นก็เริ่มที่จะศึกษาหา ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินรบอย่างเป็นจริงเป็นจัง

“ตอนแรกที่ชอบนั้นยังไม่เริ่มศึกษา เพียงแค่ชอบมอง ถ้ามีสารคดีเกี่ยวกับเครื่องบินรบก็จะดู แต่ไม่ได้ศึกษา มาเริ่มศึกษาเป็นจริงเป็นจัง ก็เมื่อราว ๆ ปี 2548 นี่เอง ซึ่งตอนนั้นเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ผมเริ่มจากไล่เปิดเว็บของกองทัพอากาศเพื่ออ่านข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบิน”

หลังจากที่ได้ศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ ของเครื่องบินรบอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ก็ทำให้เขา มีความรอบรู้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นลำดับ นอกจากนั้น ทุกวันนี้เขาก็ยังชอบที่จะวิ่งออกจากบ้าน เพื่อดูเครื่องบินเวลาที่ได้ยินเสียงเครื่องบินกำลังบินผ่าน แต่การดูตอนนี้ไม่ได้ออกไปดูเฉย ๆ เหมือนช่วงวัยเด็ก และดูแล้วก็สามารถจะบอกได้เลยว่าเป็นเครื่องบินรุ่นไหน

“ให้ผมดูเครื่องบิน ว่าเป็นรุ่นไหนตอนที่มันบินผ่าน ง่ายกว่าให้ผมดูรถแล้วบอกรุ่น เพราะเรื่องรถผมไม่รู้ซึ่งผม แค่ได้ยินเสียงของเครื่องบิน ผมก็พอที่จะเดาได้ว่าเป็น เครื่องบินประเภทไหน”

นอกจากจะศึกษาหา ข้อมูลของเครื่องบินประเภทต่าง ๆ แล้ว เขายังเที่ยวออกไปถ่ายรูปเครื่องบินหลาย ๆ ประเภท เท่าที่จะสามารถไปถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบหรือเครื่องบินโดยสาร เพื่อเก็บไว้ดู

“ถ้าผมมีเวลาว่างก็มักจะไปถ่ายรูปเครื่องบินโดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนเครื่องบินรบจะหาดูยาก ถ้าจะถ่ายรูปเครื่องบินรบนั้นจะได้ถ่ายก็เฉพาะตอนที่ทางกองทัพจัดงาน อย่างงานวันเด็ก วันที่ทางกรมขนส่งทางอากาศร่วมกับกองทัพเรือ กองทัพบก กองทัพอากาศ ซ้อมการค้นหาและช่วยชีวิตกรณีอากาศยานประสบอุบัติเหตุ และอีกวันคือวันซ้อมการใช้อาวุธ ซ้อมรบของกองทัพอากาศ ซึ่งใครที่ชอบจะรู้เลยว่าห้ามพลาด”

จากความเชี่ยวชาญในเรื่องเครื่องบิน ก็ทำให้เพื่อน ๆ มักจะสอบถามหรือพูดคุยเรื่องเครื่องบินกับเขา ยิ่งมีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องเครื่องบินที่ออกเป็นข่าว ทางทีวีหรือหนังสือพิมพ์ เขายิ่งมักจะเป็นเป้าของเพื่อน ๆ ที่อยากรู้รายละเอียด

“ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อน ๆ จะรู้ว่าเราชอบศึกษาเกี่ยวกับเครื่องบิน ถ้าเป็นเรื่อง เกี่ยวกับเครื่องบินเขาก็มักมาถามผม อย่างตอนที่ มีข่าวเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ที่สนามบินภูเก็ตเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อน ๆ ก็จะรีบมาคุยและถามความคิดเห็นจากผม”

หลาย ๆ คนก็สงสัยว่าในเมื่ออนาลโยชอบเกี่ยวกับเครื่องบินรบ ทำไมเขาไม่เลือกที่จะเรียนเป็นทหาร หรือเรียนทางด้านที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินโดยตรง ซึ่งกับเรื่องนี้เขาบอกว่า...เขาเองก็มักจะต้องตอบคำถามแบบนี้อยู่บ่อย ๆ และ ก็จะตอบเหมือนเดิม ๆ ที่เคยตอบทุกครั้งกับทุกคน ที่ถามว่า...

“ความฝันกับความจริงมันต่างกัน และบางทีใจรักอย่างเดียวก็ไม่ช่วยอะไร”

“ถามว่าทำไมผมเลือกเรียนคอมพิวเตอร์ แทนที่จะไปเรียนอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้โดยตรง คงเป็นเพราะเราประเมินตนเองไว้แล้วว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะถ้าจะให้ผมไปเป็นนักบินขับไล่ ต้องสอบแข่งกับคนเป็นหมื่น เพื่อจะเข้าเป็น 1 ใน 100 จาก 100 คน พอ เข้าโรงเรียนการบินก็ต้องลดลงไปอีก

ถามโดยส่วนตัวผมสู้เขาไม่ได้แน่นอน อีกอย่างหนึ่ง ร่างกายผมก็ไม่ได้แข็งแรงขนาด จะไปอัดกับแรงขับเครื่องบินขนาดนั้นได้ แล้วสายตาก็ยังสั้นด้วย ก็คือเลิกคิด จบเลย หรือ จะให้ไปเรียนด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง ผมก็ไม่เอาอีก เพราะผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่”

อนาลโยกล่าวต่อไปว่า เรื่องของเรื่องทุกวันนี้คือศึกษาเครื่องบินเป็นงานอดิเรก แค่อยากจะเรียนรู้โดยไม่ต้องถูกบังคับจากหน้าที่ อยากให้มันเป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น อยากจะรู้อะไรก็ศึกษาเรื่องนั้น เรื่องของเราไม่ต้องมีใครมาคอยบอกคอยบังคับให้ต้องรู้นั่นนะ ต้องรู้นี่นะ

เครื่องบินรบรุ่น “OV-10” คือเครื่องบินที่อนาลโยบอกว่า “ชอบมาก ที่สุด” เขาบอกว่าเครื่องตัวนี้เคยประจำการในกองทัพอากาศไทยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ “ผมว่ารูปร่างมัน ดูแปลก ๆ สวยดี และเจ้าเครื่องบินรบรุ่นนี้มีประวัติการรบที่โดดเด่นมาก ในสมัยที่ประเทศไทยต้องรบ กับคอมมิวนิสต์”

หนุ่มวัยโจ๋ผู้คลั่งไคล้เครื่อง บิน บอกต่อไปว่า จริง ๆ แล้วชอบเครื่องบินรบรุ่นที่มีรูปทรงออกแนวคลาสสิก ๆ ไม่ค่อยชอบเครื่องบินไอพ่น จะชอบเครื่องบินรบสมัยสงครามโลก สมัยสงครามเย็นมากกว่า

“พวกเครื่องบินรุ่นใหม่ ๆ ผมไม่ค่อยชอบ ผมว่ามันไม่คลาสสิก ไม่สวย”

ทุกวันนี้อนาลโยยังคงง่วนอยู่กับการ จัดทำบล็อกเว็บส่วนตัว skyman.bloggang.com เว็บเกี่ยวกับเครื่องบินรบ ให้ความรู้และข้อมูลเครื่องบินรบ รวมทั้งอาวุธประเภทต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

“เว็บไซต์ในประเทศไทยที่ให้ความรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินรบที่เป็นภาษาไทย ยังมีน้อยมาก ผมเคยเข้าไปในเว็บคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ชอบ เครื่องบินเหมือนกัน ก็มักจะมีคนถามเรื่องเครื่องบิน เพราะว่าเขาหาข้อมูลที่เป็นภาษาไทยไม่ได้ มันเป็นเรื่องจริงที่มีน้อยหรืออาจไม่มีเลย เพราะเท่าที่ผมหาดูก็แทบไม่เจอเลย ผมจึงคิดทำเว็บบล็อกของตัวเอง ขึ้นมา เพื่อต้องการที่จะให้คนอื่น ๆ ได้รับรู้ถึงข้อมูล ในเรื่องเครื่องบินรบ ซึ่งข้อมูลในเว็บส่วนใหญ่ผมจะแปลข้อมูลจากเว็บต่างประเทศแล้วนำมาประมวลเขียนใหม่” ...อนาลโยกล่าว

“ความฝันของคนทุกคน ไม่ว่าใคร ผมเชื่อว่ายังไงก็ต้องอยากสัมผัสสิ่งที่ชื่นชอบ คนชอบเครื่องบินก็อยากได้ลองนั่งเครื่องบินรบกันทั้งนั้น ซึ่งสำหรับผมไม่ว่าจะเป็นเครื่องรุ่นไหนก็ได้ ขอให้ได้นั่งเถอะ แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผมอยู่ดี” ...เป็นสิ่งที่คนหนุ่มรุ่นใหม่ผู้หลงใหลในเครื่องบินจนถึงขั้นทำเว็บบล็อกของ ตนเอง คนหนุ่มที่ชื่อ “อนาลโย กอสกุล” กล่าวในช่วงท้ายของการสนทนา ซึ่งก็ไม่แปลก...

เพราะก็อย่างที่หนุ่มคนนี้บอก คือ บ่อยไป-ถมไปที่... “ความฝันกับความจริงมันต่างกัน และบางทีใจรักอย่างเดียวก็ไม่ช่วยอะไร”.

วิพากษ์ ‘JAS 39 Gripen’

“ตามความคิดของผม การที่กองทัพจะซื้อเครื่องบินรบ ยาส-39 กริเปน (JAS-39 Gripen) ก็เป็นเรื่องดี และเหมาะสมกับเราในเรื่องของราคา และแพ็กเกจที่แถมมาก็เป็น สิ่งที่ไทยเราต้องการอยู่แล้ว” ...หนุ่มไทย สกายแมน “อนาลโย กอสกุล” ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเรื่องนี้แม้แต่น้อยกล่าว

ก่อนจะวิพากษ์ต่อไปว่า เครื่องบินรุ่นนี้การนำออกบินต่อเที่ยวก็ใช้น้ำมันถูกกว่าเครื่องรุ่นอื่น อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ก็ยาวนาน เปรียบเทียบกับเครื่องบินรบ ซู-30 แล้ว ซู-30 ดีก็จริง แต่ใช้เงินในการบินต่อ 1 เที่ยวประมาณ 400,000 บาท ส่วนยาส-39 ใช้เพียง 100,000 บาท และเครื่องซู-30 นั้นต้องใช้การซ่อมบำรุงที่สูง เครื่องยนต์ก็มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าเครื่องยาส-39 และอีกเรื่องก็คือระบบอาวุธของซู-30 ที่ดีก็จริง แต่เข้ากับของไทยเราที่มีอยู่ไม่ได้ ขณะที่ระบบอาวุธของเครื่องยาส-39 เป็น ระบบนาโตซึ่งตรงกับกองทัพไทย

และถ้าเทียบกับเครื่องเอฟ 16 ของอเมริกา แพ็กเกจของยาส-39 ที่ทางสวีเดนเสนอมาก็ดูดีกว่ามาก ทางอเมริกาเสนอมาเฉพาะติดอาวุธให้ ส่วนทางสวีเดนเห็นว่าจะให้ทั้งอาวุธโจมตีเรือเพิ่ม ให้ เครื่องบินรุ่น AEW&C 2 ลำ เครื่องบินฝึกอีก 1 ลำ ให้สถานีเรดาร์ และยังให้ทุนนักบิน นายเรืออากาศไทยไปเรียนวิศวกรรมการบิน ที่สำคัญที่สุดจะมี ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ด้วย

“คิดดูว่าถ้าจะต้องจ่ายเงินในราคาพอ ๆ กันแต่ได้ของแถมที่ดีกว่า ควรจะเลือกเครื่องรุ่นไหน” ...เซียนเครื่องบินเลือดไทย ในโลกไซเบอร์กล่าว.

//www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=145662&NewsType=1&Template=1
โดย: f-16 IP: 61.7.166.92 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:52:05 น.
  
หวัดดีคุณสกายแมนหรือคุณแว่น อนาลโย กอสกุล ผมขอร้องละครับเปิดให้พวกเราได้โพสเถอะจะได้รับฟังความเห็นหรือแลกเปลี่ยนวามคิดเกี่ยวกับเรื่องที่คุณสกายแมนหรือ อนาลโย กอสกุล เหมือนที่ผ่านๆมาแต่นี่เปลี่ยนไปหมด
โดย: allied force IP: 61.7.166.92 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:55:59 น.
  
หวัดดีคุณสกายแมนหรือคุณแว่น อนาลโย กอสกุล ผมขอร้องละครับเปิดให้พวกเราได้โพสเถอะจะได้รับฟังความเห็นหรือแลกเปลี่ยนวามคิดเกี่ยวกับเรื่องที่คุณสกายแมนหรือ อนาลโย กอสกุล เหมือนที่ผ่านๆมาแต่นี่เปลี่ยนไปหมด
โดย: f-16 IP: 61.7.166.92 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:56:31 น.
  
อ้อพูดอีกการที่ไม่ฟังความเห็นประชาชนทั่วไปมันเหมือนอยู่คนเดียวนะ
โดย: f-16 IP: 61.7.166.92 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:06:33 น.
  
ทอ.ไทยได้จัดซื้อเครื่อง jas 39 Gripen จะเข้าประจำการในอีก4ปีข้างหน้าครับจำนวน10ลำมังถ้าจำไม่ผิด
โดย: --* IP: 124.120.153.31 วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:18:26:25 น.
  
ไทยจะซื้อใหม่แน่นอนคัปป

ลุงที่ทำงานอยู่ในกองทัพบอกว่างั้นนะ

ทันสมัยกว่า ร้ายแรงกว่า F-16 เยอะ..

เอาให้เขมรมันกลัวเล่นๆ
โดย: เอกนรินทร์ รุ่งเรือง IP: 125.26.121.135 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:15:54:54 น.
  
ยากมากครับ กับการที่จะทำให้ ทอ.ไทยเทียบเท่ากับประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง สิงคโปร์และมาเลย์ เพราะการเมืองไทยไม่มั่นคง เศรษฐกิจแย่ และที่สำคัญที่สุดคือ การทุจริตคอรัปชั่น ผมคิดว่ามีน้อยคนในทองทัพที่เสียสละเพื่อกองทัพจริงๆ วันๆ คิดได้แต่เพียงว่า จะกอบโกยผลประโยชน์ยังไงดี เพื่อไม่ให้จับได้ อีกอย่างหากพูดถึงนักการเมืองหรือพรรคการเมืองแล้ว ผมยิ่งเกลียดพวกปรษิตคนเหล่านี้จริงๆ เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อจุดประสงค์เดียวคือ การเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัวเท่านั้นให้ได้มากที่สุึดเท่าที่จะกอบโกยได้ (ชาตสุนัข) เพราะฉะนั้นหากคิดว่าจะพัฒนากองทัพให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน นอนฝันหวานกลางวันไปเถอะๆ หรือรอชาติตอนบ่ายๆ
โดย: สัดดดพวกนักการเมืองปรสิต IP: 118.172.65.63 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:1:17:37 น.
  
หากกรูมีอำนาจนะ กรูจะแก้ไขกฎหมายให้มีความเด็ดขาดมากยิ่งขึ้น เอาพวกนักการเมืองปรสิตหรือนักการเมืองนรก รวมทั้งพวกทุจริตโกงกินเงินของชาติลงนรกให้หมด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
โดย: สัดดดนักการเมืองชาติสุนัข IP: 118.172.65.63 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:1:25:11 น.

Skyman.BlogGang.com

Analayo
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 56 คน [?]

บทความทั้งหมด