สัจธรรมแห่งการหกล้มและความอึดอัดในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
เมื่อคืนหกล้มค่ะ
นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่หกล้มแบบทั้งเนื้อทั้งตัว
มือยัน เข่ากระแทก ลงไปนอนแบเลย
หกล้มคนเดียว
ทำให้ได้สัจธรรมมาอีกหนึ่งข้อว่า
หกล้มเอง
คนที่ต้องลุก
ก็ต้องเป็นตัวเอง
เพราะถ้าไม่ลุก
ก็จะไม่ได้ขึ้นมายืนอีกครั้ง
เมื่อคืนลุกแล้วค่ะ
มันหนาวมั้งคะ เลยไม่ค่อยเจ็บ
แร่ดวิ่งต่ออีกค่ะ
พอถึงห้อง
โอย เลือดซิบๆ ปวดเข่ามากๆ
เช้านี้ดันต้องขี่จักรยานไปมหาลัยปักกิ่งอีก
ไปยื่นสมัครคอร์สเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย
หลักฐานพร้อม ใบรับรองจบการศึกษาของโรงเรียน ทรานสคริปต์ ผลสอบHSK
ปรากฏว่าอาจารย์ไม่ให้ผ่าน
เพราะหนังสือรับรองจบกะทรานสคริปต์ไม่มีตราโรงเรียนประทับบนชื่อ ผอ.
.......
ละกรูผิดมั้ยเนี่ย
นัยว่าต้องให้แม่ส่งมาให้ใหม่ หรือว่าไปปั๊มรับรองที่สถานฑูต
โธ่...ให้พ่อจิ๊กตรายางโรงเรียนมาปั๊มเองเลยจะดีมั้ย
เรารึก็อ้าปากจะเถียง เพราะได้เรื่องเถียงมันเป็นสัญชาติญาณอยู่แล้ว
รุ่นพี่ที่มาส่ง(จริงๆแล้วก็รุ่นเดียวกะเรา..งงนิดหน่อยตามประสาคนตกรุ่น)
ยกมือปราม...อยากไปเถียง อย่าไปขัดเค้า เค้าบอกอะไรก็ทำตามไปเถอะ
ได้ข่าวมาว่าอาจารย์ม.ปักกิ่งแก่ๆเหี้ยมมาก ถืออารมณ์ตัวเองเป็นมาตรฐาน
เราก็ได้เห็นวันนี้ บางคนไม่ผ่านเพราะได้เกรดเลขน้อย ทั้งๆที่ก็ไม่ได้จะเรียนเลข
บางคนไปอเมริกามา โอนหน่วยกิตเรียบร้อยแต่ไม่มีเกรด ลุงแกก็ให้ไปโอนเกรดที่อเมริกามา
โอ้....
ที่สะกิดใจมากมายคือที่ถูกขัดไม่ให้เถียงอาจารย์
แต่ถูกขัดก็อึดอัด เพราะไม่ได้เถียงอาจารย์แล้วมันอึดอัด
ก็ตอนมัธยมเถียงแหลก ก็เรามีเหตุผลนี่ ถ้าผิดเราก็ยอมสิ
นี่เราไม่ผิด ก็ต้องฟังเราสิ
ตายละวากรู
ต้องมาเรียนที่นี่
ห้ามเถียงอาจารย์
เราจะรอดมั้ยหนอ....
ปล. รุ่นพี่(รุ่นเพื่อน)ทักเรื่องกลับบ้าน เราบอกเค้าไปว่าปิดเทอมหน้าอาจจะไม่กลับก็ได้ ยิ่งกลับยิ่งไม่อยากมา เหมือนเป็นการหนีความจริงยังไงไม่รู้ จะกลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง แต่ความจริงก็คือต้องอยู่นี่อย่างน้อยก็จนจบตรีอยู่ดี
ปล. ไม่อยากจะพูด ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว แต่อยากบอกว่า...รู้สึกว่าภาษาจีนมันไม่ใช่ตัวเราอ่ะ