|
พี่ขา....หนูกลัว

เพื่อนผองน้องพี่คงเคยดูชิงร้อยชิงล้านสมัยก่อน(ไม่รู้ว่าสมัยนี้มีรึเปล่า เพราะไม่ได้ดูมานานแล้ว) ที่จะชอบแกล้งดารารับเชิญที่มาในรายการ ด้วยการเอาของที่ดาราคนนั้นเกลียด หรือว่ากลัวมาหลอก หลายครั้ง(มากๆ) ที่ดาราแมร่งกลัวอะไรแปลก จิ้งจกตุ๊กแกพอว่า(ถึงหนูจะไม่กลัวเหมือนเค้าก็เหอะ) บางคนกลัวส้ม... แตงกวา... ผักชี... กลัวกุ้ง ไอ้เราคนดูก็งงสิคะ มันกลัวอะไรของมันฟระ แค่มีคนถือส้มเดินไปมา พี่แกก็หน้าซีดปากสั่นจะวิ่งหนี ในหัวคิดอยู่อย่างเดียว เฟคแน่ๆ เป็นเคล็ดทำตัวแตกต่างรึเปล่า คิดไปด้วยเหตุผลร้อยแปด แต่เหตุผลทั้งหมดก็อยู่ในฝั่ง "ไม่เชื่อ" ร้อยเปอร์เซ็นต์
คนเรานี่ก็แปลก ชอบเข้าข้างตัวเอง ใครที่ทำอะไรเหมือนตัวเอง หรือสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนคนอื่นๆที่เค้าทำกันก็จะถือว่าถูก ว่าดี นักการเมืองบางคนกเลยหาประโยชน์จากข้อนี้ บอกว่าเค้าทำกัน ผมทำมั่งไม่เห็นจะแปลก เป็นปกติของธุรกิจ หรือไม่ก็ทำให้เป็น win-win ถึงผมโกง ผมได้ แต่นี่ ผมทำให้คุณบ้าง คุณก็ได้นะ เจ๊ากันไปละกัน อย่ามาว่าผมเลย(ไปเรื่องนี้ได้ยังไง.....) ในทางตรงกันข้าม เวลาเห็นอะไรที่ไม่เหมือนเรา สิ่งที่เราคิดว่ายังไงคงจะไม่ทำ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจะเป็นความเคลือบแคลง ไม่ไว้ใจ สงสัย ไม่เชื่อ ไปจนถึงตลกขบขัน
คิดไปถึงเรื่องที่สวิต....โฮสแม่หนู....กลัวปลาค่ะ ครั้งหนึ่งฝูงเพื่อนมาเยี่ยมบ้าน ด้วยน้ำใจไมตรีก็เอาปลาทูมาฝากสองตัว กะว่าจะทำน้ำพริกปลาทูกินกัน บ่ายนั้น...เราผองไทยก็เฮฮากันอยู่อีกฟาก อยู่ดีๆก็มีเสียงเจ๊กรี๊ดสนั่นมาจากครัว ก็นึกว่าแก๊สระเบิดหรือไร กลายเป็นว่า เจ๊เปิดตู้เย็นไปเจอปลาทูตัวน้อยตาใสแจ๋วมองมาจากชั้นตู้เย็น กรี๊ดเสียจะเป็นลม
แน่ะ...ตลกใช่มั้ยล่ะค่ะ หนูก็คิดว่างั้นแหละค่ะ จนกระทั่ง....หึหึ มาเจอกับตัวเองบ้าง
หนู..........กลัวช่องที่ต้องผ่านเข้าไปตรงสถานีรถไฟฟ้าน่ะค่ะ

เคยได้ยินเรื่องที่เด็กโดนหมาฟัดแล้วกลัวหมาไปตลอดชีวิตมั้ยคะ คิดว่าก็น่าจะอารมณ์นั้นแหละค่ะ
ตอนที่รถไฟใต้ดินเปิดใหม่ๆ เด็กดอยเข้ากรุงทั้งทีก็ต้องไปลองซักหน่อย แต่จากความที่เป็นเด็กดอย แถวบ้านขี่เกวียน เราก็ใช้อีเหรียญแม่เหล็กนั่นไม่คล่อง บางทีคนเยอะ เราแปะเหรียญไม่ถูกจังหวะ ก็โดนไอ้ที่กั้นสีแดงๆ ชื้บ...ชื้บ มาโดนกระดูกสะโพก จำได้ว่าวันแรกโดนไปสามครั้ง เขียวเลยค่ะท่านผู้อ่าน ไม่ใช่แค่อับอายนะคะ แต่มันเจ็บน่ะค่ะ แล้วใครกันออกแบบให้แมร่มออกมาเป็นทรงแหลม มันเจ็บนาฟร้อย เมโทรที่ปารีสคนเยอะจักตาย เค้าก็ยังไม่ทำแบบนี้ ที่จีนก็เป็นประตูเปิดๆ หนูมาเจอรถไฟฟ้าเมืองไทย ทรุดเลย....
ก็หลังจากนั้น หนูจะต้องผ่านช่องนี้ทีไร ใจสั่นทุกทีค่ะ กลัวแบบอธิบายไม่ถูก ดูเป็นตัวตลกด้วยอ่ะ หลายทีจะมีกระเป๋าหิ้วอยู่ที่แขน ก็จะเอากระเป๋ามากอดไว้ข้างหน้า สอดบัตรแล้วก็วิ่งผ่านอย่างไม่คิดชีวิต บางทีก็แอบรู้สึกถึงสายตาคนผ่านไปมา เหมือนเค้ามองแบบสงสัย เอ๊ะ..อีนี่เป็นบ้าอะไร บางทีก็สัมผัสได้ถึงความสงสารของเพื่อนที่มาด้วยกัน พระเจ้า...ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้
ใครเห็นเด็กดอยตัวโตเงอะๆงะๆเวลาจะผ่านช่องเสียบบัตรบีทีเอส ก็ช่วยแผ่เมตตาให้ด้วยละกัน (รู้สึกเหมือนตอนจบหนังสือเรื่อง จัน ดาราเลย) ส่วนหนุ่มกรุงที่ไหนใจดี จะมาจับมือพาผ่านช่องบีทีเอส หนูก็ยินดีคร่ะ กร๊าสสสสสสสสสสสสสส
ปล. ชอบเขียนเอาฮาอย่างนี้เรื่อยเลย เสียภาพพจน์มั้ยเนี่ย ไม่เป็นไร ฮาดี กร๊าสสสสสสสส
ปล. น่าจะเป็นการอัพครั้งสุดท้ายจากเชียงใหม่ค่ะ เจอกันอีกทีที่ปักกิ่ง ง้าๆๆๆ ไม่อาวอ้ะ ไม่อยากปายยยยย
|
Mira-a-mis-ojos.BlogGang.com
PADAPA--DOO
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [ ?]
|
|