เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปเยือนเกาะช้าง เป็นครั้งที่สองค่ะ ครั้งนี้ไปกับแก๊งเพื่อนที่มหาลัย สนุกไปอีกแบบหนึ่ง ไป 5 วัน 4 คืน ใช้งบไปประมาณ 6,000 บาท ไม่ได้เอารถไป (แอบคิดถึงตอนไปกับคุณพ่อคุณแม่ ไม่เสียสักบาท 5555)
การเดินทางครั้งนี้เราไปรถทัวร์กันค่ะ ไปกัน 4 คน ขึ้นรถของ บขส. ที่ท่ารถเอกมัย ตัวรถและที่นั่งใช้ได้ค่ะ สะอาดดี พนักงานบริการดี มีจอดระหว่างทาง 1 ครั้ง ให้แวะทานข้าวค่ะ เสียค่ารถไปกลับคนละ 600 บาท ใช้เวลาเที่ยวละประมาณ 5 ชม.ก็ถึงที่หมายค่ะ
ถึงท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ก็ซื้อตั๋วขึ้นเรือเฟอร์รี่คนละ 80 บาท แล้วก็ขึ้นเรือเพื่อไปเกาะช้างค่ะ เย้ๆๆ นี่คือรูปเรือลำที่สวนมาค่ะ ลำที่นั่งไปก็ประมาณนี้เลย ใช้เวลา 20 นาทีเท่านั้นค่ะ
ระหว่างอยู่บนเรือ เก็บภาพซักหน่อย อิอิ ไม่ได้นั่งเลยค่ะ ตื่นเต้น เดินวนไปวนมา มีมึนๆจะอ้วกเหมือนกัน
พอมาถึงฝั่งก็นั่งสองแถวไปรีสอร์ทค่ะ คนละ 50 บาท เราพักกันที่ Paddys Palm ค่ะ ห้อง Deluxe 950 บาทเท่านั้น รวมอาหารเช้า ห้องสะอาด ห้องน้ำเป็นสัดส่วน อาหารรสชาติใช้ได้เลยค่ะ เสียอย่างเดียวคือน้ำค่ะ จะมีกลิ่นสนิม ไม่รู้เหมือนกันว่ามาจากไหน อ้อ.. ที่รีสอร์ทมีสระว่ายน้ำด้วย ไม่ติดหาด แต่เดินไปได้ ประมาณ 700 เมตร (กะเอาเอง) แต่เดินคุยกับเพื่อนแป๊บเดียวก็ถึงค่ะ
อาหารเช้าบางอย่างค่ะ มีให้เลือกระหว่าง เบคอนไข่ดาว กับ ข้าวต้มหมู/ไก่/กุ้ง/ปลาหมึก (สั่งคละกันได้) นอกจากนั้นมีขนมปังปิ้ง ซีเรียล นม น้ำ ให้บริหารตัวเองค่ะ
เก็บของกันเรียบร้อยแล้วก็ตรงดิ่งมาที่ชายหาดเลย ร่างกายโหยหาทะเลมานาน 5555 บริเวณรีสอร์ทจะเป็นหาดทรายขาวค่ะ ทรายขาวจริงๆ น้ำทะเลก็ใส แต่ไม่ถึงกับใสมาก ช่วงที่ไปเป็นโลว์ซีซั่น มีฝนบางวัน คนจึงน้อยค่ะ น้อยมากกกกก แต่ก็ชอบนะ สบายดี
มาทะเลก็ต้องกระโดดสิเนอะ มันเป็นเทรนด์ (คนโล่งมากกกก)
แค่นั้นหล่ะค่้ะ เดินเล่นกันไปได้ไม่ถึงชั่วโมง เมื่อย!! แวะซื้อโกโก้กินแล้วก็กลับห้องนอนยาวเลย หมดไป 1 วัน (กลับมานั่งคิดก็เสียดายเวลานะเนี่ย) จริงๆช่วงหัวค่ำเราออกไป Lonely Beach กัน แต่ไม่ค่อยมีอะไรค่ะ มาคุยกะคนขับสองแถว เขาบอกเป็นที่ให้วัยรุ่นฝรั่งไปปาร์ตี้กัน
วันที่สอง หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย .... เราก็ขึ้นห้อง นอนต่อค่ะ !!!! มาอีกทีบ่ายๆ เย็นๆ เริ่มไม่มีแดด จึงมากางแผนที่หาที่เที่ยวกัน  ไหนๆเมื่อวานก็เล่นทะเลละ วันนี้ไปน้ำตกกันดูบ้าง โบกสองแถวอย่างเคยค่ะ จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ 50 หรือ 75 นี่หล่ะ
ถึงแล้วค่ะ น้ำตกคลองพลู จริงๆตอนแรกกะจะเดินเข้ามากัน เห็นในแผนที่บอกเดินได้ แต่พอนั่งรถเข้ามา น่าจะประมาณ 2-3 กิโล (เขาก็ไม่ผิดนะ บอกเดินได้ แต่สังขารให้รึเปล่า????)
เสียค่าเข้าอีกคนละ 40 บาท เดินเข้าไปไม่ใกล้ไม่ไกล แต่วันนั้นฝนดันตกก่อนที่พวกเ้ราจะถึง เลยลำบากกันหน่อย เราใส่แตะมาด้วยค่ะ ไม่เจียม ปวดข้อเท้ากันไป
วิวระหว่างทางไปน้ำตกค่ะ
ถึงน้ำตกแล้ว ~ อากาศเย็นสบายสดชื่นมาก และที่สำคัญ น้ำใสมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! ปลาเยอะแยะเลย
เล่นน้ำตกกันเสร็จ เราก็ไปหาอาหารเย็นทานกันที่ร้านอาหารภูทะเลค่ะ บรรยากาศดีทีเดียว ติดแม่น้ำ มีบริการล่องเรือดูหิ่งห้อย (แต่ไม่ได้ล่องหรอกค่ะ รีบกลับห้องไปดูคุณชายพุฒิภัทร ) รสชาติอาหารถือว่าอร่อย แต่ยังไม่พีคมาก คือตอนแรกก็อร่อยมากสำหรับเรา แต่เผอิญเราไปเจออีกที่อร่อยกว่า เลยลืมที่นี่ไปเลย 5555 ถ่ายรูปมาแค่จานเดียว ที่เหลือหิวรีบจ้วงกันใหญ่ ขอไม่โพสรูปแล้วกันค่ะ (จริงๆมันขี้เกียจย่อ )
วันที่สามก็เรื่อยเปื่อยค่ะ ไม่ได้ไปไหน (จริงๆคือเราลืมไปแล้วว่าทำอะไร)
ขอข้ามไปวันที่ 4 เลยแล้วกันนะคะ (เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ-_-') เริ่มจากนั่งรถสองแถวไปบางเบ้าค่ะ คนละ 150 บาท แต่โชคดีที่ขึ้นมาพร้อมกับฝรั่งกลุ่มใหญ่ พี่คนขับเลยแวะจุดชมวิวให้ได้ถ่ายรูปด้วยค่ะ สวยมากๆ
จริงๆอยากเข้าไปในอุทยานเหมือนกันค่ะ แต่เวลาไม่พอ (ตอนนั้นหิวค่ะ รอไปทานที่บางเบ้า ) ถึงบางเบ้าก็เดินเข้าซอยมานิดหน่อยค่ะ ก็จะเจอร้าน เรือนไทยซีฟู๊ด บรรยากาศดีมากเลยค่ะ นี่คือวิวที่มองออกไปจากระเบียงของร้านค่ะ
อันนี้ถ่ายตอนไหนจำไม่ได้ ลืม (ฮา)
มาดูอาหารกันนิดนึงดีกว่า ขอบอกว่าฟินมากกกกกกกกก อร่อยทุกจานเลยค่ะ ไม่มีจานไหนอยากแนะนำเป็นพิเศษเลยจริงๆ คือมันอร่อยไปหมด สั่งอะไรมาก็อร่อยอ่ะค่ะ ดูหน้าตากันหน่อยละกัน
เริ่มจากกุ้งทอดกระเทียม
หมึกผัดไข่เค็ม
ปลาอินทรีย์ .... น้ำปลา (สักอย่าง) (ไปหมดละสมงสมอง) แต่อร่อยนะคะ
อันนี้ปูนิ่มผัดพริกเผา 
ทานเสร็จอิ่มท้องก็ไปเดินเล่นที่ท่าเรือสักหน่อย วิวสวยค่ะ มีประภาคารด้วย 
เมฆนี่ครึ้มเชียว แต่ไม่เป็นปัญหา คนจะเที่ยวซะอย่าง
ท่าเรือที่บางเบ้าค่ะ
เดินถ่ายรูปเล่นซักพักก็นั่งสองแถวกลับกันอีกคนละ 150 บาท ซื้อโรตีกล้วยมากินเล่น แล้วก็อยู่ห้องยาวเลย จริงๆที่เทียวกลางคืนก็มีเยอะนะคะ แล้วแต่ไลฟ์สไตล์และความชอบของแต่ละคนเลย อย่างเรากับเพื่อนก็แยกกันค่ะ เราอยู่ห้อง เพื่อนสองคนนี่ออกกันทุกคืน ไปร้าน Jungle Queen ดนตรีออกแนวร็อคๆ (มันบอกมาอย่างนั้น) จริงๆที่ไปนั่งทุกวันนั่นแอบติดใจนักดนตรีค่ะ เห้อ -_-" ส่วนเราขอบายดีกว่า นอนพักเก็บแรงไว้เที่ยว ฮ่าๆ
วันสุดท้ายแล้ว ไวมาก ต้องกลับแล้ว ฟีลตอนนั้นไม่อยากกลับเลยค่ะ ถึงไม่ได้ไปเที่ยวไหน แต่ก็เหมือนได้ตัดจากความวุ่นวายในกรุงเทพ พักกาย พักสมอง อยากอยู่ต่ออีกซักเดือน 
นี่วิวตอนขึ้นเรือเฟอร์รี่แล้วค่ะ คิดถึงจัง....
บ๊ายบาย .... เกาะช้าง .... แล้วเจอกันใหม่นะ 
ขอจบการรีวิวไว้เท่านี้แล้วกันค่ะ (นี่มันใช่รีวิวมั้ยเนี่ย) เขียนไปเขียนมาเริ่มรู้สึกเหมือนมาเม้าท์ให้ฟัง 5555 ใครไปเที่ยวไหนมาก็มาแชร์กันบ้างนะค้า สวัสดีค่า 
|