Yangtze Riverริมแม่น้ำแยงซีเกียง(คลิ๊กที่ชื่อเพื่อดูแผนที่)
จากถนนคนเดิน"เจี่ยฟังเป่ย" พวกเรารวมพลกันไปทานอาหารค่ำที่ ภัตตาคารริ่มฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียง
ผ่านสัญญลักษณ์แห่งความสว่างไสว
"ฉงชิ่ง 1 ใน 4 มหานคร
"ฉงชิ่ง" (Chongqing) เดิมเป็นเมืองเอกที่ขึ้นกับมณฑลเสฉวน แต่ด้วยชัยภูมิตั้งที่เหมาะสม
และเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่เป็นจำนวนมาก (ปัจจุบันมีกว่า 30 ล้านคน) ในปี ค.ศ. 1997
รัฐบาลจีนได้ประกาศยกฐานะฉงชิ่งเป็น 1 ใน 4 มหานครของเมืองจีน ที่นอกจากฉงชิ่งแล้ว ก็มีเซี่ยงไฮ้
ปักกิ่ง และ เทียนสิน ขึ้นต่อรัฐบาลกลางจีนโดยตรง นั่นจึงทำให้ฉงชิงมีการเจริญเติมโตอย่างรวดเร็ว กลาย
เป็นมหานครใหญ่อันดับต้นๆ ที่มีฐานะและความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจดีเยี่ยม
อีกทั้งยังเป็นฮับสำคัญที่จะเชื่อมโยงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และเมืองใหญ่ ของจีนตอนล่าง โดยล่าสุด
ทางสายการบินแอร์เอเซีย ได้เปิดเส้นทางบิน"กรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง" ขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อเชื่อมโยง
เส้นทางคมนาคม เศรษฐกิจการท่องเที่ยว การค้า และด้านอื่นๆ ระหว่างไทยกับเมืองๆนี้
สำหรับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของฉงชิ่งนั้น นอกจากจะดูได้ทั่วไปในเมืองใหญ่เมืองนี้แล้ว สิ่งที่เมือง
ฉงชิ่ง ซึ่งถือเป็นไฮไลด์สำคัญของเมืองนี้ นั่นก็คือ โมเดลการวางฝังเมืิอง ที่ย่อส่วนลงมาให้เราเห็นเมืองฉงชิ่ง
ได้ถนัดตาขึ้นว่า เมืองนี้ภายหลังจากการสร้างเมืองเป็นมหานครทางรัฐบาลจีน ได้เนรมิตสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ขึ้นมา
โดยใช้วิธีการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบ มีการสร้างโมเดลประกอบ เพื่อกำหนดย่าน-โซนต่างๆของเมืองไว้อย่างชัดเจน
ในผังเมืองจำลองนี้ ยังได้เห็นถึงกายภาพของเมืองฉงชิ่ง ที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะในหุบเขา มีแม่น้ำสำคัญ 2
สาย คือ "แม่น้ำเจียหลิง" หรือ เจียหลิงเจียง(สายรอง) ที่ไหลมาจากจิ่่วไจ้โกวมารวมกับ"แม่น้ำแยงซีเกียง"
ที่เมืองนี้
จุดนี้พวกเราไม่ได้ไปย่าจีังมีภาพวิวโดยรวมของฉงชิ่งมาให้ชมพอให้นึกภาพออก
ถึงแล้วค่ะที่ทานอาหารค่ำของพวกเรา ลูกทัวร์คนสวยในคณะเราขอเก็บภาพกับป้ายภัตตาคารไว้เป็นที่ระลึก
สัญญลักษณ์หน้าภัตตาคาร ทานอาหารที่นี่แล้วหุ่นจะพ่วงพีแบบนี้หรือเปล่านะ
ดิสเพลย์เก๋ๆที่เพดาน
ไวน์มีเสริฟไม่อั้น
หนูกาละแมร์เสิร์ฟไวน์ ไกด์ทัวร์ไทยของพวกเรา ด้วยบุคลิกอันสนุกสนานร่าเริง พวกเราจึงพร้อมใจกันยกชื่อนี้ให้เธอ
Thomas Buhner Chef de Cuisine
อาหาร
ถ่ายมาให้ชมเพียงเล็กน้อย จะตั้งหน้าตั้งตาหม่ำแล้วค่ะ
ดิสเพลยฺ์งามๆที่ห้องอาหาร
ผาผนังประดับประดาด้วยภาพติ๊สๆ
เลิศหรู
โถงภัตตาคาร
ทำเลภัตตาคารแห่งนี้เป็นจุดชมวิว แสงสีเมืองฉงชิ่งยามราตรี ถ่ายมาให้ชมพอเป็นน้ำจิ้มก่อน
วันรุ่งขึ้นเราจะมาล่องเรือชมทัศนียภาพกันที่นี่แบบเต็มๆ
อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องอาหารแห่งนี้
เล็กๆน้อยๆไปก่อน
จากนั้นก็เช็คอินเข้าโรงแรม Jin Xiu Holidayinn Express
รูปนี้ถ่ายจากห้องพัก
ตอนเช้ามารับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร โคมไฟที่ห้องอาหารเหมือนห้วงอาวกาศ
โคมไฟที่โถงหน้าเคาวน์เตอร์ เป็นรูปนกบิน
เช้านี้เราเดินทางกันเช้าหน่อย เพื่อที่จะไปถ้ำแกะสลักที่ ต้าจู๋
ระหว่างรอรวมพล เก็บช๊อตใบไม้สีแดงที่หน้าโรงแรม
ระหว่างทาง มีดิสเพลย์ใบแปะก๊วย ชูเป็นสัญญลักษณ์ประดับอยู่รายทาง
ที่ทางยกระดับก็เป็นแผงกั้นลายใบแปะก๊วย
ตรงดินสโลปก็มีการตีตารางเพื่อยึดเกาะกันดินถล่ม
เข้าใจว่ากำลังมีการก่อสร้างสะพานยกระดับ
ไปโรงเรียน
การพัฒนาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
วัตถุดิบถูกจัดเตรียมไว้อย่างเป็นระบบ
ที่นี่งานแกะสลักเขายิ่งใหญ่อลังการมาก ถ่ายภาพมาเยอะเลย จึงขอแยกเป็นอีกกระทู้หนึ่งแล้วกันนะคะ
ส่วนกระทู้นี้ขอนำบรรยากาศโดยรอบมาให้ชมกันก่อนค่ะ
ร้านขายของที่ระลึกบูธเขาน่ารักดี
เสียดายที่อ่านภาษาจีนไม่ออก เลยบรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่าอาคารนี้สวยมากๆ
แม่ค้าขายสำโอน่ารักจัง
พู่ห้อยประดับหรือพวงกุญแจ สวยexotic ดีค่ะ
ระหว่างทางตามร้านขายของมีสาธิตการแกะสลักพระค่ะ
หินที่นี่ไม่ค่อยแข็งหรือไงนี่ เห็นแกะกันง่ายๆเลย
ร้านค้าเต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน
คุณพ่อหรือเปล่านะ กระเตงลูกมาเที่ยว
ตี๋น้อยน่ารักมากๆ เห็นแล้วอดเก็บภาพ close up ไม่ได้เลย
กระถางต้นไม้ทำเลียนแบบถังไม้ ดูไปกันได้ดีกับธรรมชาติโดยรอบ
ขัดแต่ง มังกรหินสลักสวยมาก อยากซื้อแต่ลำบากขนมาขอเก็บเป็นภาพไว้เชยชมแล้วกัน
สำหรับผู้ที่ไม่ได้มากับคณะทัวร์ เลือกใช้บริการสามล้อที่นี่ได้ค่ะ
รองเท้าถักด้วยเชือก ผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านแถวนั้น
มาชมกันของที่ระลึกเขานิยมแกะสลักเป็นรูปแบบอะไรบ้าง
สวยๆทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นหินกลม,องค์พระ หรือดอกบัว
มีแกะโชว์อยู่หลายเจ้าทีเดียว เจ้านี้ใช้เครื่องทุนแรงในการแกะสลัก
อ่อนช้อยงดงามมาก น่าจะเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิม
หินลายหมูสามชั้นลายสวยดี จริงหรือปลอมไม่รู้
มันต้มร้อนๆจ๊ะ
โซนขายผลไม้กระหว่างทางกลับ ชอมร่มสีสวยดี
หนูน้อยเอียงอาย น่ารักเกินพิกัดจริงๆ
บล๊อกหน้าเป็นภาพภายในถ้ำ หน้าผาหินแกะสลักที่ต้าจู๋ จัดให้แบบเต็มเหนี่ยวไปเลยค่ะ
โปรดติดตาม