จากบล๊อกที่แล้ว เมื่อชมการแสดงงูเสร็จแล้ว พวกเราจึงเดินเข้าชมภายในตึก ๔ มะเสง ที่นี่จะมีการผลิตเซรุ่มจากพิษงู
เพื่อนำมารักษาคนไข้ที่ถูกงูกัด และรักษาโรคหัวใจ
----
ตึก ๔ มะเสง
ในปี 2472 พระบรมวงศานุวงศ์ 4 พระองค์ ประกอบด้วย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศศิพงศ์ประไพ,
จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์, กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าพิสมัยพิมลสัตย์ และ พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า บุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน
ร่วมด้วยพระประยูรญาติและมิตรได้ประทานเงินจำนวนหนึ่งให้แก่สภากาชาดไทย ตั้งเป็นทุนชื่อว่า ทุน ๔ มะเสง
เพื่อเก็บดอกผลใช้ในการบำบัดรักษาผู้ที่ถูกสัตว์พิษกัด ต่อมาทรงอนุญาตให้สภากาชาดไทยแบ่งเงินจากทุนนี้ส่วนหนึ่งเพื่อ
สร้างตึกขึ้นภายในบริเวณสถานเสาวภาสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์พิษชนิดต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในน้ำ งูทะเล เป็นต้น รวมทั้งยังให้สร้าง
เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บสัตว์ทั้งที่มีพิษและไม่มีพิษเพื่อให้ประชาชนที่สนใจได้ศึกษาอีกด้วย สภากาชาดไทยได้อำนวยการสร้างตึก
หลังนี้ขึ้นและขนานนามว่า ตึก ๔ มะเสง ได้เสด็จทรงประกอบพิธีเปิดตึกเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2472
ผู้ก่อตั้ง ย่าครอบภาพนำมาขยายใหญ่อีกที ภาพจึงไม่ค่อยชัด ขออภัยด้วยค่ะ
ภาพวาดตึกเก่าก่อนรื้อก่อสร้างใหม่
----
ต่อมาเนื่องด้วยตึก ๔ มะเสงมีขนาดเล็กและทรุดโทรมจึงได้รื้อถอนและสร้างเป็นตึก 5 ชั้น แทนที่ตึกเดิมโดย
งบประมาณจากรัฐบาลและสภากาชาดไทย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการ
สภากาชาดไทย เสด็จฯเปิดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2551 ตึก ๔ มะเสง นี้ใช้เป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการสำหรับงูพิษ
ชนิดสำคัญ ๆ ที่พบได้บ่อยและมีความสำคัญทางสาธารณสุขในประเทศไทย รวมทั้งงูไม่มีพิษที่มีประโยชน์และน่าสนใจ
และงูที่สวยงามทั้งงูบกและงูน้ำจืด การจัดแสดงเป็นการเลี้ยงงูที่จำลองจากธรรมชาติจริง ๆ ของงูแต่ละชนิด
มีการนำเสนอที่เป็นรายละเอียดทางวิชาการของงูแต่ละชนิดในด้านถิ่นที่อยู่ อาหาร และอันตรายจากพิษ ในชั้นล่างนี้จะ
มีห้องสาธิตการรีดพิษงูซึ่งสามารถบรรจุผู้ชมได้ประมาณ 100 คน ในส่วนการนำเสนอทางด้านสื่อความรู้ มีการนำ
เสนอเรื่องวิวัฒนาการของงู จากสัตว์ ดึกดำบรรพ์ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับงู การแสดงองค์ประกอบต่าง ๆ ของงู
(แสดงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในของงู) ภายในส่วนนิทรรศการนี้ยังมีภาพยนตร์แสดงการออกฤทธิ์
ของพิษงูต่อมนุษย์หรือสัตว์ การปฐมพยาบาลที่ถูกต้องเมื่อถูกงูพิษกัด และยังมีห้องที่ใช้สาธิตการปฐมพยาบาลให้ผู้เข้า
ชมได้ฝึกการทำปฐมพยาบาลกับหุ่นขนาดเท่าตัวมนุษย์จริง
ขอขอบคุณข้อมูลจากสถานเสาวภา
เข้าไปชมในส่วนจัดแสดงงู ก่อนเข้าศึกษาสัญลักษณ์ต่างๆที่ทางเข้าด้านหน้า เพื่อที่จะได้รู้รายละเอียดของงูแต่ละชนิด
สัญลักษณ์ และความหมาย อีกภาพ
งูแมวเซา Siamese Russell's Viper
Daboia russelii siamensis(Smith, 1917)
ความยาว 90 -150 ซม. ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อน มีลายเป็นวงสีน้ำตาลเข็มขอบด้านในสีดำ และขอบด้านนอก
สีขาวอยู่ทั่วตัว ส่วนหัวเป็นรูปสามเหลี่ยมปกคลุมด้วยเกล็ดขนาดเล็กมีสัน ลวดลายบนหัวคล้ายหัวลูกศร เมื่อถูกคุกคาม
จะขาดตัวเป็นวง ทำเสียงขู่พร้อมทั้งทำตัวพองและสามารถฉกกัดได้อย่างรวดเร็ว
ตัวนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นพันธุ์ไหน ใครทราบช่วยระบุหน่อยค่ะ
-----
งูทับสมิงคลาครับ เป็นงูพิษร้ายแรง ออกพิษต่อระบบประสาทเช่นเดียวกับงูสามเหลี่ยม
มีลักษณะลายขาวสลับดำ
**ถ้าเป็นงูสามเหลี่ยมจะเป็นดำสลับเหลือง
แล้วก็งูทับสมิงคลา จะมีลักษณะคล้ายงูปล้องฉนวนบ้าน ตาม คห.21 ครับ จากที่ผมเห็นหลายๆรูป งูทับสมิงคลา จะมีแถบขาวใหญ่กว่างูปล้องฉนวนบ้าน
แต่จากที่เคยอ่านเขาบอกว่าให้แยกเกร็ดที่หลัง ถ้าเจอเข้าจริงๆจะแยกออกไหมหว่า - -"
แต่เอาเข้าจริงๆผมว่าถ้าเจอตัวเป็นๆน่าจะแยกยากพอสมควรนะครับถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ
ปัจจุบัน งูทับสมิงคลามีเซรุ่มแก้พิษด้วยนะครับข้อมูลจากสถานสาวภา สภากาชาดไทย
https://www.saovabha.com/th/product_serum.asp?nTopic=2ขอบคุณคุณ มาคุโนอุจิ ผู้ให้ข้อมูลค่ะ
งูเห่าไทย รายละเอียดนำเสนอไปแล้ว
งูเห่าพ่นพิษสีทอง ตรงนี้มืดมาก และงูแอบอยู่หลังพุ่มไม้ ได้ภาพแค่นี้เอง
งูเขียวหางไหม้ลายเสือ
งูเห่าเผือก
เห็นตู้งูกรีนแมมบ้า แต่ไม่สามารถถ่ายได้ เพราะมืดมาก ตัวงูเองไม่รู้มีอยู่หรือเปล่าไม่เห็นตัวด้วยค่ะ ขึ้นไปดูพิพิธภัณฑ์
งูด้านบนดีกว่า
ตรงส่วนนี้่จะเป็นซากงูที่ทางพิพิธภัณฑ์ดองไว้ เป็นโซนที่ไม่มีตัวเป็นๆค่ะ
เช่นงูหัวกะโหลก
เยอะเชียวค่ะมีเรียงรายทั้งสองฝั่ง
ความรู้เกี่ยวกับงูเยอะแยกมากมาย ต้องไปชมเองค่ะ
ไปชมคู่เหมือนคู่แรกนี่มีพิษทั้งคู่
ส่วนคู่นี้งูไม่มีพิษเลียนแบบงูที่มีพิษเพื่อลวงศัตรูให้เข้าใจผิดว่าเป็นงูชนิดมีพิษ ศัตรูจะได้ไม่กล้ามาตอแูย
คู่นี้ก็เช่นกัน มีพิษและไม่มีพิษ
คู่นี้สีคล้ายกันมาก ต้องจำว่าชนิดไหนมีพิษ และไม่มีพิษ
----
งูเขียวกาบหมาก(ไม่มีพิษ) และ งูเขียวหางไหม้ท้องเหลือง (มีพิษ)
มีลักษณะคล้ายกันคือมีลำตัวสีเขียว และมีหางสีน้ำตาลคล้ายๆกัน
ถ้าคนไม่รู้จักอาจจะเข้าใจเข้าใจว่าเป็นงูพิษทั้งคู่ พอเห็นหางสีน้ำตาลก็ตีเลย - -"
**แถมทั้ง 2 ตัวอาจจะโดนเข้าใจผิดนึกว่าเป็นกรีนแมมบ้า (งูยอดฮิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว)
งู 2 ชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกัน แต่วิธีแยกให้ดูที่หัวครับ หัวของงูเขียวหางไหม้จะมีลักษณะที่ใหญ่กว่าช่วงคอ และหัวมีลักษณะเป็น 3 เหลี่ยม
***จริงๆแล้วงูในตระกูลงูเขียวหางไหม้ไม่ได้ มีสีเขียวทุกชนิดนะครับ คุณย่าเข้าไปที่ตึกมะเส็งคงเห็นเยอะพอสมควร ^^
เหมือนใน #10 งูเขียวหางไหม้ลายเสือ เจ้าตัวนี้ออกจะมีสีดำๆอีกต่างหาก ^^"
เท่าที่ผมเคยอ่านในเว็บที่เลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานเขาเลย แยกงูเขียวหางไหม้จากหัวครับ
ขอขอบคุณ คุณ มาคุโนอุจิ ผู้ร่วมแจมข้อมูลค่ะ
งูทับสมิงคลา เป็นงูมีพิษ ถูกลอกเลียนแบนโดยงูปล้องฉนวนบ้าน ซึ่งไม่มีพิษ
จากนั้นก็ไปชมวิดิทัศน์ความรู้เกี่ยวกับคนถูกงูพิษกัด เล่าขั้นตอนจากการโดนกัดแรกมีอาการอย่างไร จนถึง
ระยะพิษงูออกฤิทธิ์มีอาการอย่างไร ได้รับยาและการรักษาอย่างละเอียด เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นแด่ผู้ชม ด้าน
ข้างแผ่นกลมๆ เป็นคำถาม คำตอบเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานในการดูแลเบื้องต้นก่อนนำส่งหมอ
ชมวิดิทัศน์ตำนานงูของอียิปต์
ตำนานงูเกี่ยวกับเทพเจ้าโรมัน
ตำนานเกี่ยวกับงูของไทย ตรงจุดนี้ย่าดูถึงสองครั้งด้วยความประทับใจ
เพลิดเพลินกับการอ่านความรู้เกี่ยวกับงูตั้งท้องและวางไข่
ตู้ฟักไข่ เพิ่งเคยเห็นไข่งู มันไม่ได้เหมือนกับไข่ไก่ เปลือกไข่งูนิ่มและยาวรี งูบางพันธุ์ไข่รูปทรงเหมือนไส้กรอก
เลยทีเดียว เปลือกไข่งูจะเป็นรูพรุนอากาศภายนอกสามารถซึมผ่านเข้าไปได้ และมีแต่ไข่แดงซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน
ชมวิดิทัศน์ ระบบย่อยของงู Digestive system
หัวกะโหลกของงูแต่ละชนิดรูปร่างก็ไม่เหมือนกัน
คราบงูที่งูลอกคราบไว้
หนังงูใหญ่และยาวขนาดไหนขนาดขดเป็นคลื่นเพื่อเซฟเนื้อที่ยังยาวขนาดนี้ !
แผนภูมิกายวิภาคของงู
กระดูกงูทั้งตัว ใหญ่และยาวมาก
ดูใกล้ๆ
น่าชมมากค่ะ ขอเชิญชวนให้ไปชม ไปเที่ยวนี้ไม่ได้ดูการรีดพิษงูอย่างที่ตั้งใจเพราะเขาจะมีการรีดพิษงูเฉพาะวัน
ธรรมดาเท่านั้น คงต้องไปใหม่ในวันธรรมดา
พัฒนาการของตัวอ่อนในไข่
ที่นี่ออกแบบสวยและมีคอนเซปต์ค่ะ แม้แต่เก้าอี้นั่งพัก ยังเป็นรูปงู
น้องแต๊กชอบคู่เหมือนค่ะ ชี้ให้ย่าดู
มัลติมีเดียแสดงเส้นทางของพิษงูที่แล่นเข้าสู่หัวใจ
แม้แต่พื้นก็ยังมีข้อมูลความรู้ เกี่ยวกับงู
กำลังอับบล๊อกอยู่ช่องสามนำเพิ่งนำเสนอสวนงู โชว์งูสามเหลี่ยมและงูทางมะพร้าว ที่ย่านำเสนอไปแล้ว
เมื่อเอนทรี่ที่แล้ว ย่านี่อินเทรนไม่ใช่เล่นอิอิ
----
เซรุ่มแก้พิษงู
ปัจจุบันสถานเสาวภามีการผลิตเซรุ่มแก้พิษงูชนิดแห้งทั้งหมด 7 ชนิด แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ เซรุ่มที่ต้านพิษงูระบบประสาท 4 ชนิด ได้แก่ เซรุ่มแก้พิษงูจงอาง เซรุ่มแก้พิษงูเห่า เซรุ่มแก้พิษงูสามเหลี่ยม และเซรุ่มแก้พิษงูทับสมิงคลา และเซรุ่มที่ต้านพิษงูระบบโลหิต 3 ชนิดคือ เซรุ่มแก้พิษงูกะปะ เซรุ่มแก้พิษงูเขียวหางไหม้ และเซรุ่มแก้พิษงูแมวเซา และในอนาคตจะมีการผลิตเซรุ่มชนิดรวม 2 ชนิด คือ เซรุ่มรวมต่องูระบบประสาท และเซรุ่มรวมระบบโลหิต
อยากให้ไปชมที่ตึก ๔ มะเส็งค่ะ ความรู้เกี่ยวกับงูเพียบเลย อย่างน้อยก็ได้ทราบเบื้องต้นว่าถ้าถูกงูกัดต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ
----------
สุดสัปดาห์นี้หากท่านยังไม่มีแพลนไปไหน เสาวภาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกทางหนึ่งนะคะ
สวัสดีค่ะ