จากตอนที่ 1 หากยังไม่ได้ชมคลิ๊กค่ะมาต่อกันตอนที่สองTiansheng No.3 Bridgeหลุมฟ้าสพานสวรรค์(คลิ๊กชื่อเพื่อดูแผนที่)สะพานฟ้า อู่หลงพวกเราจะมาลงลิฟต์แก้วสัญจรขึ้น ลง หุบเหว กันที่นี่ค่ะ อาคารรูปทรงปิรามิดเท่ห์ๆเลี้ยวควับเข้าไปเลยค่ะ ที่จอดรถเหลือเฟือฉงชิ่ง มี "อู่หลง(Wulong) เป็นเมืองตากอากาศ ที่แวดล้อมไปด้วยขุนเขา ทัศนียภาพสวยงาม อากาศดี และมากไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งในปัจจุบันนี้ทางการจีนได้สนับสนุนการท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์ สำหรับคนไทยที่ไม่สันทัดกับวิถีแบบจีน โดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำปราบเซียน"สะพานฟ้า" หนึ่งในดินแดนมหัศจรรย์ธรรมชาติของเมืองนี้ ที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 2007พวกเรามาเปลี่ยนรถที่ทางสถานที่จัดให้เพื่อที่จะไปยังลิฟต์แก้ว ตรงจุดนี้จะเป็นทางสโลฟลงผ่านร้านขายของแถวนี้ ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกเพราะไม่มีเวลาช๊อปปิ้งแล้วหล่ะค่ะWelcome to Wulong Karst ลงบันไดตรงจุดนี้เพื่อที่จะไปลงลิฟต์ ช่วงนี้ได้รับข้อมูลทางทัวร์ว่าอากาศจะเย็นพอสมควรทีเดียว หากใครยังไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาว ก็ให้ไปเตรียมยังพอมีเวลาอีกเล็กน้อยการไปชมสะพานฟ้า ทางเมืองจีนมีเส้นทางอันน่าทึ่ง คือลิฟต์แก้วที่ให้เราดิ่งลึกลงไปในหุบเหวสูงกว่า 80 เมตร จากนั้นก็เป็นเส้นทางเดินเท้าชมทัศนียภาพสุดอลังการลงมาถึง พบป้ายอุทยานหลุมบ่อฟ้า อ่านไม่ออกหรอก ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกสะพานฟ้า บ้างก็เรียกว่า"หลุมฟ้า สะพานสวรรค์" เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกจนกลายเป็นหลุมธรรมชาติขนาดยักษ์ที่เบื้องล่าง โดยมีไฮไลต์อยู่ที่โรงเตี๊ยมโบราณ และ 3 สะพานฟ้าทางเดินอันคดเคี้ยวและดิ่งไปยังก้นหลุม มองจากจุดนี้ไม่สามารถเป็นก้นหลุมค่ะ ลึกมากเราเริ่มต้นกันตรงจุดนี้มีราวบันไดซีเมนต์ทำเลียนธรรมชาติได้เหมือนมากๆ ดูแล้วกลมกลืนไปกับสถานที่ได้อย่างดีทีเดียวเก็บบรรยากาศไกด์ไทยของเราน่ารักมากดูแลตลอดทางและยังชี้จุดให้ถ่ายรูปพร้อมทั้งเก็บภาพให้เราด้วยต้องรีบกันหน่อยเพราะกว่าเราจะมาถึงจุดนี้เสียเวลาเดินทางไปแล้วประมาณครึ่งวันถ่ายมุมกว้างเทียบอัตราส่วนของลิฟต์แก้วกับสถานที่แห่งนี้ระยะทางยังอีกยาวไกล ดูจากภาพนี้แล้วเราต้องเดินกันอีกเยอะเลยโรงเตี๊ยมโบราณ เป็นจุดพักระหว่างทางสมัยโบราณ ซึ่งในหลุมหุบเขาแห่งนี้สมัยโบราณถือเป็นเส้นทางลัดจากเสฉวนไปเหอหนานเมื่อคณะต่างๆเดินทางมาถึงที่นี่ก็จะมาแวะพักค้างแรมที่โรงเตี๊ยบแห่งนี้ เพราะหากเดินทางต่อไปยามค่ำคืนอาจถูกโจรปล้นดักชิงสินค้าสิ่งทอง ทรัพย์สินเงินทองโรงเตี๊ยมโบราณปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ในรูปแบบเดิม แถมยังโด่งดังขึ้นมาแบบก้าวกระโดดหลังได้รับเลือกเป็นฉากสำคัญทั้งฉากดราม่าและฉากต่อสู้บู๊เลือดสาด ในโรงภาพยนต์เรื่อง "ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง"ใกล้ๆโรงเตี๊ยมโบราณเป็น สะพานฟ้าสะพานแรกคือ"สะพานมังกรฟ้า" มีลักษณะเป็นโพรงทะลุมองคล้ายสะพานขนาดยักษ์เชื่อมสวรรค์กับโลกมนุษย์ถ่ายกับผนังถ้ำสลักลายมังกรclose up ลวดลายมังการสลักแคร่หามทำจากไม้ซีดาร์ สวยมาก แต่ไม่ได้ใช้บริการเพราะได้ข้อมูลจากผู้เคยใช้บริการมาแล้วบอกว่าเวียนหัวมากคงต้องเลือกเอาว่าจะขาเดี้ยงหรือจะเวียนหัวดี อิอิสะพานอันแรก เทียบสัดส่วนสถานที่กับผู้คนใกล้โพรงหลุมเข้าไปอีก ถ่ายอีกช๊อตโรงเตี๊ยมใกล้เข้าไปอีกนิด สวยคลาสสิคจริงทางเดินอันสวยงาม เรากำลังจะเดินไปยังสะพานที่สอง "สะพานมังกรเขียว"เพื่อนในคณะทัวร์ขอถ่ายกับป้ายสะพานคู่นี้ ขอถ่ายกับป้ายด้วยเอ้า ถ่ายกันใหญ่เลยหลุมฟ้าเมื่อเดินต่อไปก็ได้พบกับ"สะพานมังกรเขียว" ที่มีหน้าผาแหลมทิ่งแทงฟ้า และมีเขาสะท้อนน้ำ ซึ่งคนจีนจิตนาการว่าดูคล้ายดาบของกวนอูโพรงยาวเหมือนดาบสะท้อนน้ำเมื่อเดินต่อไปก็จะเป็น ไฮไลท์ลำดับสุดท้าย คือ"สะพานมังกรดำ" ที่เป็นตรอกผาในส่วนที่แคบที่สุดจึงมีความมืดทึบดำตามชื่อสะพานแหงนหน้าขึ้นไปมองด้านบน เราะจะมองเห็นเป็นโพรง ลักษณะนี้จึงได้ชื่อว่า"หลุมบ่อฟ้า"
พวกเราอยู่ในหลุมอันกว้างใหญ่นี้ค่ะใกล้สะพานเห็นมังกรสลักอีกตัวที่ก้อนหินในลำธารใบไม้สีแดง ในหลุมบ่อฟ้าแม้แต่เงาใบไม้ก็ดูสวยใกล้น้ำตกน้ำในลำธารสีเขียวอมฟ้าสวยมากนอกจากไฮไลด์ทั้ง4แล้ว ที่นี่ยังมีน้ำตกสายเล็กไหลลงมา สายน้ำที่ไหลคู่ขนานกันไป บึงมรกต ละอองน้ำที่เป็นฝอยสวยงามกระเซ็นสายลงมา และทัศนียภาพอันสวยงามแปลกตาของหลุมยุบ ที่มุมมองจะเปลี่ยนไปตามเส้นทาง ชวนให้จินตนาการตามไม่น้อยเลยและนี่คือเสน่ห์ของ ฉงชิ่ง เมือที่นอกจากจะมีภาพอันโดดเด่น โฉบเฉี่ยวของมหาานครเนรมิตรอันทันสมัยในอันดับต้นๆแห่งแดงมังกรแล้ว ยังเป็นเมือที่มีสิ่งที่น่าสนใจทางการท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมใ อันทรงคุณค่าในระดับมรดกโลกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยกว่าจะถึงทางออกเล่นเอาหล่าส.ว. เดี้ยงไปตามๆกันแล้วก็มาถึงปากทางออก จะมีรถเล็กมารับพวกเราเพื่อจะกลับไปยังจุดจอดรถลาก่อน สระมรกตสีสวย หลุมบ่อฟ้าที่ธรรมชาติรังสรรค์ และทางเดินที่มนุษย์สร้าง ทำให้การเดินทางของเราครั้งนี้มีความสุข เหมือนเดินอยู่บนสรวงสวรรค์ แม้จะต้องแลกด้วยขาเดี้ยงก็ตามโปรดติดตามตอนต่อไป จะเป็นอะไรขออุบไว้ก่อน อิอิ