อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
นิวาสสถานเดิมสมเด็จย่าฯ...ซอยวัดอนงค์ฯ
ช่วงตรุษจีน ย่าไม่ได้ไปไหน ลูกสาวย่าก็เลยพาเที่ยว
เขารู้ว่าย่าชอบเที่ยวแนวสวน แล้วสวนที่ไหนน่าสนใจหล่ะ
ก็ต้องที่นี่เลย ...
ก่อนเข้าอุทยาน อ่านกฎระเบียบในการใช้สวนกันก่อนจ๊ะ
เข้าชมกันเลยค่ะ
ศาลาทรงกลมหลังทางเข้า ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่
ไทร,ไกรฯลฯ
ส่วนที่อาศัยเดิมยังคงไว้ ทำให้เราได้ย้อนระลึกถึงสมัยเก่า
ศาลาทรงแปดเหลี่ยม ด้านใน
เดินเข้าไปชมส่วนที่แสดงผลงานของศิลปิน
คืองานเส้นสายลายย้อม
ชมงานได้จากลิงค์นี้ค่ะ
ชวนไปชมผ้าบาติคเส้นสายลายย้อมมีจนถึงวันที่ วันที่ 22 นี้เท่านั้นนะคะ หากใครสนใจก็รีบๆหน่อย
หลังจากชมเสร็จแล้ว กลับลงมาถึงได้เห็นว่ามี
ให้ลงชื่อน้อมสักการะถวายพระพร สมเด็จพระพี่นางฯด้วยค่ะ
ตั้งไว้ให้ประชาชนได้มากราบไหว้น้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ
ดีจัง
ย่าไม่รอช้า เข้าไปกราบไหว้และเซ็นต์สมุดเยี่ยม
พร้อมทั้งไม่ลืมที่จะถ่ายภาพนำมาให้ชมค่ะ
ป้ายเชิญชวนให้ชมงานศิลป์
(ที่สวนนี้จะไม่การจัดแสดงผลงานของเหล่าศิลปิน ผลัดเปลี่ยนเวียน
กันไปเรื่อยๆค่ะ)
ต้นไทร กับรากสวยๆ
ข้างๆศาลาแปดเหลี่ยม จะเป็นมุมสวนน่ารักๆ ให้นั่งพักผ่อน
มุม bird eye-view-ภายในสวน
ซุ้มดอกเดหลี สวยมาก ปลูกประดับข้างกำแพงเก่า
รากไทรย้อยข้างๆกำแพงโบราณ ดูขลังทีเดียว
ดอกอัคคีทวาร ตรงทางเข้าด้านหลังโซนสาธิตวิธีทำ ผ้าบาติก โดย น้าหมี
สังเกตุไหมคะ ดอกจะรูปร่างเหมือนผีเสื้อ
เข้าคอนเซปกับรูปผ้าบาติค ที่โชว์อยู่เลยค่ะ
ทางเดินอันร่มรื่น
มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ
รากไทรซอกซอนแทรกและยึดเกาะแผ่นอิฐ
ทิมบริวาร OLD HOUSING UNIT
เป็นเรือนข้าทาสบริวารของเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี(แพ บุนนาค)
อธิบดีกรมพระคลังสินค้ารัชสมัยในรัชการที่ ๕ ลักษณะอาคารซึ่งสร้างในสมัย
รัชกาลที่ ๓ จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน เป็นตึกแถวก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว
หลังคามุงกระเบื้องเกร็ด ผนังด้านหลังทึบมีช่องแสงตอนบน กั้นแบ่งห้อง
เป็นสองห้องปัจจุบันอนุรักษ์ไว้คงเหลือแต่ซากก่ออิฐถือปูนให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา
ประชาชนแถวๆคลองสาน มาออกกำลังกายกันที่นี่
น่าอิจฉาจังจ้า
บ่อน้ำโบราณที่อนุรักษ์ไว้ให้ได้ชมและศึกษาถึงวิธีชีวิตการใช้น้ำแบบโพงน้ำขึ้นมาใช้
ตกแต่งที่ทำขึ้นมาใหม่
ตุ๊กตาดินปั้นประดับสวน น่ารักมากๆ
เฟินข้าหลวง ใบหยิกสวยมาก
สร้อยสายเพชรกำลังออกดอกสวยทีเดียว
ต้นไม้ใหญ่ตรงสนามหญ้า
แผ่นหินทรายพระราชกรณียกิจของสมเด็จย่า
ดอกเข็มม่วง ภายในสวน
...เมื่อจำความได้ แม่ก็อยู่ที่ธนบุรีแล้ว ที่ซอยซึ่งปัจจุบันเป็นซอยวัดอนงค์ บ้าน นั้น
เหมือนห้องแถวชั้นเดียว แต่มีหลายห้อง แทนที่จะเป็นห้องเดียว บ้าน เป็นส่วนหนึ่ง
ของอาคาร ซึ่งก่อด้วยอิฐ หลังคาเป็นกระเบื้องและประกอบด้วยหลายชุด(Unit) ด้านหนึ่ง
ของบ้านมี ๔-๕ ชุด ซึ่งมีคนอยู่ อีกด้านหนึ่งพังไปแล้วและร้าง บ้านที่อยู่นั้น เก่าพอใช้
และอยู่ในสถาพที่ไม่ดี เพราะไม่มีการซ่อมแซมเลย บ้านนั้นเป็นบ้านเช่า แต่เช่าเพียงกำแพง
ผนังและหลังคา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไม้ เช่น พื้นนั้น ผู้เช่านำมาเองบ้านอยู่ระหว่างบ้าน
พ่อชูและวัดอนงคาราม เดินสัก ๕ นาทีก็ถึงวัด และเดินสัก ๑๐ นาที ก็ถึงบ้านเก่าพ่อชู
ข้างหน้าบ้านมีระเบียง พื้นเป็นไม้ปิดข้างๆและมีหลังคามุงจาก ส่วนนอกก่อนจะถึงถนน
เป็นอิฐแล้วจึงจะถึงถนน เมื่อเข้าไปในบ้านแล้วจะมีห้องโล่งๆ ด้านขวามียกพื้นเป็นทั้ง
ห้องพระและห้องประกอบอาชีพของพ่อแม่ ทุกเช้าผู้ใหญ่จะถวายข้าวพระพุทธรูป
และหลังเที่ยง แม่จะเป็นผู้สวด..เสสังมังคะลังยาจามิ.. เพื่อลาของถวายและนำอาหาร
ที่บรรจุอยู่ในถ้วยชามเล็กๆ มากิน
ถัดไปมีห้องซึ่งเป็นห้องนอนและข้างหลังกำแพงนี้มีที่โล่งๆ ซึ่งจะไปถึงได้ถ้าอ้อมไป
เพราะทางครัวไม่มีประตูออก ในบ้านไม่มีห้องน้ำ การอาบน้ำนั้นอาบกันที่หน้าบ้าน
ตุ่มน้ำตั้งอยู่ที่ระเบียง หรือไปอาบกันที่คลองสมเด็จเจ้าพระยา...
เนื้อความที่ยกมานี้เป็นส่วนหนึ่งของพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ทรงพระนิพนธ์
ถึงพระราชประวัติของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในหนังสือ
แม่เล่าให้ฟังซึ่งเนื้อหาจะเล่าถึงย่านชุมชนซอยวัดอนงคาราม ที่สมเด็จย่า
ทรงผูกพัน ด้วยว่าเคยประทับเมื่อครั้งทรงพระเยาว์
บทความบางส่วนจาก
//www.tawanyimchang.com/number17/1704.htmlด้านในเข้าไปไม่ได้ค่ะ เพราะเป็นกระจกกั้น ถ่ายผ่านกระจก
ได้แค่นี้เองค่ะ เพราะแสงน้อยมาก และฝนกำลังตกด้วยค่ะ
เบลอสุดๆ แต่อยากให้เห็นพอเป็นสังเขบค่ะ
ใกล้ๆเรือนจำลอง จะเห็นโขดรากของไม้ใหญ่
ที่เก่าแก่ ได้รับการอนุรักษ์ไว้ จะเห็นว่าที่นี่
ต้นไม้สูงใหญ่สวยมาก
ย่ายังไม่ได้ชมได้จุใจเลย โดนฝนที่เทลงมาห่าใหญ่
หลบเข้ามาอยู่ด้านอาคารสาธิต แต่ก็ขอแอบเก็บภาพลั่นทม
ที่บานพรูงามเชียวมาฝาก
ดั่งดวงแก้ว-ล่วงลับ-สถิตฟ้า
ตุงท่ามกลางแมกไม้สูงใหญ่
ส่วนแสดงพระราชกรณียกิจของสมเด็จย่า และพระพี่นางฯ
ถ่ายตอนฝนตกเสียดาย ยังไม่ได้เห็นรูปหล่อของสมเด็จย่า
ที่ตั้งไว้ในสวนเลย
อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ภายในซอยข้างวัดอนงคาราม หรือซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 เขตคลองสาน ฝั่งธนบุรี
ย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ของคนบางกอกตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาถูกใช้เป็น
ถิ่นพำนักของเชื้อสายตระกูลบุนนาค เป็นขุนนางเรืองอำนาจในสมัยรัตนโกสินทร์ และ
ในปัจจุบันยังเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมระหว่างคนไทยเชื้อสายลาว
และเขมรที่บรรพบุรุษอพยพเข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓
สิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้เราได้คือความร่มเย็นของหมู่แมกไม้และร่องรอย
ความเก่าแก่ของหมู่อาคารสถานที่รวมกันขึ้นเป็น อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ
พระศรีนครินทราบรมราชชนนี
สืบเนื่องจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะทรงอนุรักษ์
อาคารเก่าในย่านนิวาสสถานเดิมของสมเด็จพระบรมราชชนนีเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์
จึงโปรดฯให้มีการสำรวจจนพบว่าอาคารที่เคยเป็นบ้าน ที่ประทับเมื่อยังทรงพระเยาว์
ของสมเด็จย่านั้นหมดสิ้นไปแล้ว หากยังโชคดีที่บริเวณใกล้เคียงยังคงเหลือกลุ่มอาคาร
โบราณที่มีลักษณะคล้ายบ้านของสมเด็จย่า ซึ่งเป็นสมบัติของคุณแดงและคุณเล็ก
นานา ที่ทั้งสองท่านพร้อมใจน้อมเกล้าฯถวาย จึงโปรดฯให้ปรับปรุงและจัดสร้างเป็น
อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ขึ้นตั้งแต่ปี 2536
ภายในจัดแบ่งออกเป็น2 ส่วนใหญ่ๆ คือ
บริเวณสวนพักผ่อนทั่วไป ตั้งอยู่ทางด้านหน้า จัดเป็นสวนสาธารณะระดับชุมชน
ที่แวดล้อมด้วยพันธุ์ไม้หลากชนิด โดยเฉพาะพันธุ์ไม้หอม อาทิ ชำมะนาด พุด จีบ
ปีบ ลั่นทม ฯลฯ และไม้ใหญ่ทั้ง 4 ชนิด คือ โพ ไทร ไกร และกร่าง ทางด้านทิศ
ตะวันออกของสวนประดิษฐานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทรา
บรมราชชนนี หล่อด้วยโลหะ ประทับนั่งในพระอิริยาบถทรงพระสำราญ
เนินดินที่ประดิษฐานพระราชานุสาวรีย์เป็นดินที่นำมาจากทุกที่ที่เคยเสด็จไป
เยี่ยมราษฎร ทั่วประเทศ
บริเวณอนุรักษ์ เป็นส่วนที่ประกอบไปด้วยอาคารเก่าแก่ที่เคยเป็นเรือนบริวาร
ในบ้านของเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี(แพ บุนนาค) อธิบดีกรม
พระคลังสินค้าในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งปัจจุบันในส่วนที่เป็นเรือนครัวใช้เป็น
อาคารศูนย์ศิลป์ศรีพิพัฒน์(แพ บุนนาค) นอกจากนี้ยังมีแผ่นหินทรายสีเขียว
ขนาด 8เมตร สูง 1.80 เมตร หนา 9 เซนติเมตร หนักประมาณ 32 ตัน
แกะสลักภาพพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จย่า
นอกจากนี้ยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ 2 หลัง จัดแสดงนิทรรศการพระราช
ประวัติและพระราชกรณียกิจ และมีอาคารจำลองบ้านที่เคยประทับอยู่เมื่อ
ยังทรงพระเยาว์โดยยึดตามแบบที่ปรากฏในหนังสือ แม่เล่าให้ฟัง พระนิพนธ์
ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
(พระพี่นางฯ)อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบราชชนนีเป็น
สถานที่ที่รวมเอามนต์เสน่ห์แห่งพันธุ์ไม้เข้ากับสถาปัตยกรรมเก่าแก่ได้อย่างลงตัว
เย็นชื่นกับบรรยากาศสบายๆและอิ่มใจที่ได้ทราบพระกรณียกิจของสมเด็จย่า
ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ.
//www.bangkoktourist.com/thai_places_somdaj_ya_park.php หมายเหตุ อยากให้คลิ๊กเข้าไปดูรูปพาโนราม่ามีพรีวิวภาพ
ภายในพิพิธภัณฑ์แสดงพระราชประวัติสมเด็จย่าส่วนนี้ห้ามถ่ายภาพค่ะ
ย่าจึงไม่มีภาพมาให้ชม ดูจากลิงค์นี้จะเห็นภาพโดยรวมค่ะ หากต้องการ
ชมอย่างละเอียดก็แวะไปเที่ยวชมสวนแห่งนี้นะคะ
รูปนี้เป็นส่วนประตูที่ทำขึ้นมาใหม่แทนประตูเดิมค่ะ
RBMCO-บูรณะ๒๕๓๙
ประตูแขก
ย่าเข้าประตูนี้ และออกทางประตูนี้ค่ะ
อีกด้านที่ไปศาลเจ้ากวนอูได้ น้ำท่วมค่ะ
-------------
ซุ้มประตูแขกเขียนตัวอักษรว่า 1913 R B M C O ซึ่งตัวอักษรนี้เป็น
อักษรตัวย่อของบริษัท Randery Braramakran Company ส่วนตัวเลข
1913 เป็นปีคริสศักราชที่ชาวตึกแขกรวมทุนกันตั้งบริษัทนี้ คือเดิมนั้นย่านนี้
เป็นย่านท่าเรือสินค้า ที่ค้าขายกับต่างประเทศ มีชาวอินเดียเข้ามาค้าขายตั้ง
รกรากอยู่ย่านนี้มากมาย ที่ดินตรงนี้ต่อมาเป็นของตระกูลนานา แล้วตระกูล
นานาก็ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างเป็นสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่าฯ
นั่นเอง ซุ้มประตูที่เห็นในปัจจุบันนั้นเป็นซุ้มประตูที่สร้างขึ้นมาใหม่เมื่อครั้ง
สร้างสวนเฉลิมพระเกียรติ(ปี พ.ศ. ๒๕๓๖) ส่วนซุ้มประตูเดิมนั้นถูกรื้อไปเมื่อ
พ.ศ. ๒๕๓๐
//www.tawanyimchang.com/number17/1704.html
ที่ลิงค์นี้จะมีเล่าเกี่ยวกับหนังสือ และรายละเอียดต่างๆน่าสนใจมากค่ะ
ย่าเดินทางกลับบ้านด้วยความอิ่มใจ
ขอบใจ หนูเต๋า ที่พาย่ามาเที่ยวสวนนี้ ถูกใจมากค่ะสวนแนวอนุรักษ์อยากให้มี
สวนแนวนี้เยอะๆจัง
ขอบใจ หนูแต๊ก ที่ไปเป็นเพื่อนกัน รู้นะหนูก็ชอบมากเหมือนกัน
ชมงานได้จากลิงค์นี้ค่ะ
ชวนไปชมผ้าบาติคเส้นสายลายย้อม
มีจนถึงวันที่ วันที่ 22 นี้เท่านั้นนะคะ หากใครสนใจก็รีบๆหน่อย