ไปมาช่วงมีงานราชพฤกษ์ เพิ่งค้นภาพมาทำ
เพื่อเป็นการฉลองปีใหม่ไทย(สงกรานต์) ท่านคงได้พักผ่อนเต็มที่
เป็นการชารต์แบตให้กับตัวเองเพื่อที่จะได้มาลุยงานต่อไป
สุขสันต์วันปีใหม่แด่ทุกๆท่าน
ย่าได้ถ่ายดอกบัวทองมาด้วยจะเอามานำเสนอภายหลัง
ช่วงที่ไปไม่เห็นดอกไม้ แต่ก็มีเฟิน มอส ใบไม้รูปทรงแปลก
กับอากาศที่เย็นชุ่มฉ่ำ
กับแสงแลลอด ย่ามองหามุมถ่ายเพื่อเก็บบันทึก
ทุกศิลป์ธรรมชาติ
มุมย้อนแสง ก็สามารถเนรมิตรความงามอีกมิติหนึ่ง
ก้านกิ่งใบเสียดฟ้า มอสเพิ่มความอ่อนนุ่ม สวยเก๋ไปอีกแบบ
แสงลอด กับลีลาใบไม้
แสงข้างเพิ่มมิติ
มอสกับใยแมลงมุม
มอสเล่นแสง
ใบเฟินแห้ง และใบเขียว
เฟินใบฝอย ต้องแสง และหลบเร้น
ย้อนแสงกับฟ้าสวย
ห้าแฉกกระจ่างตา
ใยแมลงมุมล้อแสง
เปลี่ยนมุม
ลีลามหัศจรรย์ของธรรมชาติ
ใบห้าแฉก กับแสงสวย
ใบปีกนก สวยมาก
two tone
come from this pic
fillfull of light
art of nature
อวดโฉมกับฟ้าสวย
สะพานไม้มัดเชือก ความงามติดดินที่น่าหลงไหล
ดอกจิ๋ว ก้านแดง น่ารักน่าใคร่
สะพานสีเขียวสลักลาย
ใบหนาอวบอิ่มซ่อนแดด
ธรรมชาติอันสวยงาม โปรดช่วยกันอนุรักษ์
เพื่อที่มันจะได้อยู่กับเรานานๆ
ปีใหม่ไทย(สงกรานต์) ขอให้มีความสุขสมหวังทุกๆท่าน
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่ อำเภอจอทอง
อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วยภูเขา
สูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย มีสภาพป่าเป็น
ต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสายและเป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำปิงที่ให้พลังงานไฟฟ้าที่
เขื่อนภูมิพล มีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตกต่าง ๆ โดยเฉพาะน้ำตกแม่ยะ
ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของประเทศ มีเนื้อที่ประมาณ 482.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่
ลักษณะภูมิประเทศ สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์
เป็นยอดเขาสูงที่สุดในประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร ยอดเขาที่มีระดับ
สูงรองลงมา คือดอยหัวหมดหลวง สูงจากระดับน้ำทะเล 2,330 เมตร ดอยอินทนนท์นี้
เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำ แม่กลาง แม่ป่าก่อ แม่ปอน แม่หอย แม่ยะ แม่แจ่ม แม่ขาน
และเป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำแม่ปิงที่ให้พลังงานไฟฟ้าเขื่อนภูมิพล
ลักษณะภูมิอากาศ เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงถึง 2,565 เมตรอากาศจึงหนาวเย็นตลอดปีความชื้น
สูงมากโดยเฉพาะบนดอย แม้นำฟืนมาก่อไฟก็จะติดไฟได้ยาก ในฤดูหนาวอุณหภูมิ
จะลดต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียสทุกปี ในฤดูร้อนแม้ว่าอากาศในตัวเมืองเชียงใหม่
หรืออำเภอใกล้เคียงจะร้อน แต่บนยอดดอยอินทนนท์ยังมีอากาศหนาวเย็นอยู่จะต้อง
สวมเสื้อกันหนาว ฉะนั้นผู้ที่จะไปเที่ยวดอยอินทนนท์ควรจัดเตรียมเสื้อหนา ๆ
ติดตัวไปด้วย
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีหลายชนิด คือ ป่าดิบเขา ป่าสน
ป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ มีพันธุ์ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจดังนี้ คือ สัก ตะเคียน
สนเขา เต็ง เหียง มะเกลือ แดง ประดู่ รกฟ้า มะค่า เก็ดแดง จำปีป่า ตะแบก
เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ป่าที่สวยงามหลายชนิด เช่น ฟ้ามุ่ย ช้างแดง
รองเท้านารี และกุหลาบป่า สำหรับมอส ข้าวตอกฤาษี ออสมันด้า มีอยู่ทั่วไป
ในระดับสูง
สัตว์ป่าในบริเวณอุทยานแห่งชาติที่นี้มีจำนวนลดลงไปมาก เนื่องจากถูกชาว
เขาเผ่าต่างๆ ล่าเป็นอาหาร และป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยถูกแผ้วถางลงมาก ทำ
ให้สัตว์ใหญ่บางชนิดหมดไปจากป่านี้ ปัจจุบันสัตว์ที่หลงเหลืออยู่บ้าง ได้แก่
เลียงผา กวางผา กวาง เสือ หมูป่า หมี ชะนี กระต่ายป่า และ ไก่ป่า
thaiforestbooking.com****
ความเป็นมา อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อ พ.ศ.2515
ประกาศเป็นอุทยานฯ เป็นลำดับที่ 6 ของประเทศไทย มีพื้นที่ 482.4 ตาราง
กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง
และกิ่งอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ดอยอินทนนท์แต่เดิมดอยนี้มีชื่อว่า
"ดอยหลวง" หรือ "ดอยอ่างกา"ดอยหลวง มาจากขนาดของดอยที่ใหญ่มาก
ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "ดอยหลวง" (หลวง: เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ใหญ่)
ดอยอ่างกา มีเรื่องเล่าว่า ห่างจากยอดดอยไปทางทิศตะวันตก
ประมาณ 300 เมตร มีหนองน้ำแห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่าง ฝูงกาจำนวนมากมาย
มักพากันไปเล่นน้ำที่หนองน้ำแห่งนี้ จึงพากันเรียกว่า "อ่างกา" และภูเขาขนาดใหญ่
แห่งนั้นก็เลยเรียกกันว่า "ดอยอ่างกา"แต่ก็มีบางกระแสกล่าวว่า คำว่า "อ่างกา" นั้น
แท้จริงแล้วมาจากภาษาปกาเกอญอ (กะเหรี่ยง) แปลว่า "ใหญ่" เพราะฉะนั้นคำว่า
"ดอยอ่างกา" จึงแปลว่าดอยที่มีความใหญ่นั่นเอง
ดอยอินทนนท์ อดีตกาลก่อนป่าไม้ทางภาคเหนืออยู่ในความควบคุม
ของเจ้าผู้ครองนครต่าง ๆ สมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
(องค์สุดท้าย) พระองค์ให้ความสำคัญกับป่าไม้อย่างมาก โดยเฉพาะป่าใน
บริเวณดอยหลวง ทรงรับสั่งว่า หากสิ้นพระชนม์ลงให้นำอัฐิบางส่วนขึ้นไปสร้าง
สถูปบรรจุไว้บนดอย ดอยนี้จึงมีนามเรียกขานว่า "ดอยอินทนนท์"
แต่มีข้อมูลบางกระแสกล่าวว่า ที่ดอยหลวงเรียกว่า ดอยอินทนนท์ นั้น เป็นเพราะ
เนื่องจากว่าเป็นการให้เกียรติ เจ้าผู้ครองนคร จึงตั้งชื่อจากคำว่า "ดอยหลวง"
ซึ่งเป็นชื่อที่มีความซ้ำกับดอยหลวง ของอำเภอเชียงดาว แต่ภายหลังมีชาวเยอรมัน
มาทำการสำรวจและวัด ซึ่งปรากฎผลว่า ดอยหลวง หรือดอยอ่างกา ที่อำเภอ
แม่แจ่มมีความสูงกว่า ดอยหลวง ของอำเภอเชียงดาว จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ เพื่อไม่ให้
มีความซ้ำซ้อนกัน และเรียกดอยแห่งนี้ว่า "ดอยอินทนนท์"
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ "ป่าสงวนแห่งชาติ
ดอยอินทนนท์" ต่อมาได้ถูกสำรวจและจัดตั้งเป็นหนึ่งในสิบสี่ ป่าที่ทางรัฐบาลให้
ดำเนินการเป็นอุทยานแห่งชาติซึ่งครั้งแรกกรมป่าไม้เสนอให้กระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์กำหนดพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ให้มีพื้นที่ 1,000 ตร.กม. หรือ
ประมาณ 625,000 ไร่ แต่เนื่องจากพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ อาศัยอยู่ก่อนหลายชุมชน
จึงทำการสำรวจใหม่ และกันพื้นที่ที่ราษฎร อยู่มาก่อน และคาดว่าจะมีปัญหา
ในอนาคตออก จึงเหลือพื้นที่ที่จะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
270 ตร.กม. หรือประมาณ 168,750 ไร่ ประกาศลงวันที่ 2 ตุลาคม 2515
และในวันที่ 13 มิถุนายน 2521 รัฐบาลประกาศพื้นที่เพิ่มอีกเป็น 482.4 ตร.กม.
อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ มีความ
สูงจากระดับน้ำทะลปานกลาง 400-2,565.3341 เมตร เป็นภูเขาที่สูงที่สุด
ในประเทศไทยสำหรับวัตถุประสงค์ในการกำหนดที่ดินให้เป็นอุทยานแห่งชาติ
ตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 หมวด 1 มาตรา 6 ดังนี้
"เมื่อรัฐบาลเห็นสมควรกำหนดบริเวณที่ดินแห่งใดมีสภาพธรรมชาติเป็นที่
น่าสนใจ ให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติเดิมเพื่อสงวนไว้เป็นประโยชน์แก่การ
ศึกษาและรื่นรมย์ของประชาชน ก็ให้มีอำนาจกระทำโดยประกาศพระราช
กฤษฎีกาด้วยบริเวณที่กำหนดนี้เรียกว่า อุทยานแห่งชาติ"
****
ข้อมูลดอยอินทนนท์โดยdoiinthanon.comข้อมูลดอยอินทนน์โดยnaturetravelling.comแผนที่โดยnaturetravelling.com****
appreciate!