|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
10 ข้อที่คุณอาจรู้ และไม่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการสอบ TOEIC
ช่วงที่ผ่านมาผมวุ่นๆ กับการสอบนั่น สอบนี่ เพื่อเรียนให้จบ หนึ่งในนั้นคือการทดสอบภาษาอังกฤษที่เรียกว่า TOEIC ซึ่งทำให้ผมสรุปเป็นประสบการณ์หลังการสอบมาหลายรอบ(แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ที่มหา'ลัย เขาตั้งไว้ซักที) ได้เป็น 10 ข้อทั้งที่คุณๆ หลายคนรู้กันอยู่แล้ว และอาจไม่รู้(และไม่จำเป็นต้องรู้ แต่ผมสู่รู้ และอยากจะหน้าด้านเล่า)
10 ข้อที่คุณ(น่าจะเคย)รู้ในการสอบ TOEIC (ลอกเขามาทั้งดุ้นจาก Thai Airline
- TOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication
- แบบทดสอบ TOEIC จัดทำขึ้นโดย Educational Testing Service (ETS) ที่ Princeton, New Jersey สหรัฐอเมริกา (ถึงตรงนี้ถ้าสงสัยอะไรโง่ๆ แบบผมว่า ทำไมมันไม่ย่อว่า TOEFIC-ซึ่งอาจคิดเลยเถิดไปว่าเป็นประเภทของวรรณกรรมแนวใหม่ เกี่ยวกับนิ้วหัวแม่เท้า ที่เรียกว่า TOE Fiction ก็กรุณาอย่าถามผมล่ะครับ เดินทางไปที่ปรินซ์ตันซะ ถามหาคนที่คิดแบบทดสอบนี้โดยพลัน)
- เริ่มใช้ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ ค.ศ. 1979 ต่อมาได้นำไปใช้ในประเทศเกาหลี และประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ประเทศเม็กซิโก ประเทศต่าง ๆ ในทวีปอเมริกากลางและยุโรป
- ในเมืองไทยการสอบนี้มีประโยชน์ยังไง ลองสมัครงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ ท่านจะรู้เอง หรือลองค้นใน Google คุณจะเห็นสถานที่ติวสอบ TOEIC เยอะมาก และแพงเอาการ อธิบายง่ายๆ คือไม่ว่าคุณจะได้อะไรติดหัวหลังการสอบครั้งนี้หรือไม่ คะแนนที่คุณได้มันเอาไปใช้ได้นั่นแหละ
- TOEIC เป็นแบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถทางด้าน Passive Skills จึงมีอยู่ 2 ส่วน คือ แบบทดสอบการฟังและการอ่าน แบบทดสอบ TOEIC เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) 200 ข้อ ใช้เวลาสอบ 2 ชั่วโมงเต็ม (เพราะฉะนั้นหากคุณยังพูด หรือ เขียนภาษาอังกฤษห่วยแตกเหมือนผม ก็อย่าหวังว่าสอบแล้วจะไปพูดจีบ นาตาลี เกลโบว่า ได้เหมือนคุณภราดรเสียล่ะ
)
- ค่าสมัครในการสอบทั้งสิ้น 1,000 บาท ถ้าคุณต้องการให้ส่งผลทางไปรษณีย์ EMS ก็จ่ายเงินเพิ่มให้เขาซะดีๆ (แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องมีคนเซ็นรับอยู่บ้านนะจ๊ะ ไม่ใช่ยกครอบครัวไปเที่ยวดูบ้านนายกที่เขายายเที่ยง และทัวร์ตามหาอดีตนายกแถวลอนดอนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ บุรุษและสตรีไปรษณีย์(เอ๊ะ ! อันหลังมันมีไหม) เขาไม่รอคุณหรอกครับ มันจะตีกลับศูนย์เขาอีกรอบโน่น)
- คุณสามารถทำการสอบ TOEIC ที่กรุงเทพฯ ได้ที่อาคาร BB Building ชั้น 19 ถ.อโศก บริเวณใกล้กับตึก GMM
- อ้อ! แต่ก่อนไปก็โทร.จองเสียก่อนล่ะครับ เบอร์โทร.คือ 0-2260-7061, 260-7189, 259-8840 (ส่วนใครจะขอเบอร์โทร.เจ้าหน้าที่สาวสวย แนะนำหลังเลิกงานจ้า)
- คะแนน TOEIC เริ่มจาก 10 คะแนนถึง 990 คะแนน โดยแบ่งคะแนนการฟังเป็น 5-495 คะแนนและการอ่าน 5-495 คะแนน ซึ่งหากคุณได้คะแนน 990 ก็ไม่ถามนะครับ ภูมิใจซะ แต่คุณได้คะแนน 10 ก็จงภูมิใจอีกเหมือนกันนะครับ ความอัจฉริยะกับความบ้า มันห่างกันนิ้ดส์สสนึงจริงๆ พับเผื่อย

- ในประเทศไทยยังมีสถานที่ให้สอบในอีกหลายจังหวัด ซึ่งคุณสามารถดูสถานที่เหล่านั้นได้ที่ เว็บไซต์ทางการ จ้า
10 ข้อที่คุณอาจไม่จำเป็นต้องรู้(แต่อยากเล่า)เกี่ยวกับการสอบ TOEIC
- คุณไม่จำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียน หรืออะไรให้ยุ่งยาก เขามีของให้คุณพร้อมแล้ว ไม่ต้องเตรียมสิ่งของอะไรไปเลยในการไปสอบครั้งนี้ นอกจาก ตัว และหัวใจ(อ้อ ! อย่าลืมใส่เสื้อผ้าล่ะ
)
- หากคุณคิดว่า TOEIC ยาก แนะนำให้ไปลองสอบ TOEFL ดูแล้วคุณจะพบว่า แอนดรูว์ บิ๊กก์ โกหก อันที่จริงภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิด (แต่ยากฉิบหาย
)
- การลงทะเบียนก่อนเข้าสอบจะมีข้อปฏิบัติค่อนข้างมาก และเจ้าหน้าที่ก็ทำงานได้มีระเบียบดี แต่หากคุณมองจากข้างนอกจะรู้สึกว่าข้างในห้องนั้นมันวุ่นวายชอบกล

- หลังจากดำเนินการต่างๆ เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะพูดข้อปฏิบัติในการเข้าห้องสอบให้ฟัง ซึ่งส่วนใหญ่ด้วยปริมาณคน และข้อจำกัดด้านเวลา คุณจะฟังไม่ทันหรอกครับว่าเขาบอกอะไรบ้าง

- ในการสอบที่ตึก BB Building เจ้าหน้าที่จะแนะนำไม่ให้รอที่นอกสถานที่จัดสอบซึ่งจะดูไม่เป็นระเบียบ แต่จะให้ไปรอที่ร้านอาหารที่ชื่อชวนงงว่า ร้านนั้น.(ต้องมีมหัพภาค หรือเครื่องหมายจุดกำกับ) แต่จากประสบการณ์ที่ผมไปสอบมา 3 ครั้ง แทบจะหาคนไปนั่งในร้านนั้น.นั้น ไม่ได้เลย ส่วนใหญ่ก็ยืนอออ่านหนังสือ หรือเล่นหมากเก็บแถวหน้าห้องนั่นแหละ

- ระหว่างที่รอ หากคุณคิดว่าว่างจัด ให้เดินไปเทสต์เสียงที่ตึก GMM รอก่อนก็ได้ครับ คุณอาจไม่ได้สอบแต่อาจกลายเป็นศิลปินชั่วข้ามคืน(ว่าเข้านั่น)

- อย่าคิดทุจริตให้มากนัก เพราะห้องสอบเล็กเห็นทั่วถึง และเขาจะมีเครื่องมือสแกนวัตถุมาแนบ นาบ ถู ไถ ตัวคุณก่อนเข้าห้องสอบ

- ระหว่างที่รอในห้องสอบ ลองเปิดดูคู่มือแนะนำในการกรอกข้อมูลสีฟ้า แล้วคุณจะพบว่าแม้ข้อสอบจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีการตรวจสอบอะไรกระดาษแผ่นนี้เลย เพราะจะมีรอยดินสอขีดเส้นใต้ข้อมูลต่างๆ เปรอะไปหมด บางแผ่นยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมีวาดการ์ตูนเลยก็มี(ผมดวงเฮงได้เจอภาพวาดฮาๆ เป็นรูปผู้หญิงกำลังยิ้มทำข้อสอบ แต่พอเปิดมาอีกหน้าเธอทำหน้าเครียด เส้นประสาทตึงเปรี้ยะ

- ระหว่างทีทำการสอบ จะมีข้อปฏิบัติอีกหลายอย่างเพื่อให้กรอกข้อมูลในกระดาษคำตอบ จะมีหลายข้อที่เขาให้เว้นว่างเอาไว้จนพาลสงสัยว่าแล้วจะมีข้อพวกนี้มาให้ว่างเล่นๆ ทำไมหว่า ???

- หลังการสอบจบลง ขั้นตอนต่อมาคือการไปรับผลสอบ แนะนำให้ไปตรงเวลา เพราะเขาจะเคร่งครัดมาก วันที่พิมพ์อยู่นี้ ไปรับช้าประมาณ 5 นาที เขาไม่ให้รับผลแล้ว
...ซึ่งคุณจะได้พบว่าภายใต้ระเบียบอันเคร่งครัด เจ้าหน้าที่แต่ละท่านท่าจะเครียดจัด หลังเลิกงานเริงร่า ลัลล้า เฮฮา กันน่าดู ถึงขนาดปล่อยมุขอะไรไม่ทราบตอนผมเข้าไป มีฮาจนปรบมือ จนผมอดตกใจไม่ได้ และแน่นอนว่าพวกเขาตกใจที่เห็นผมเข้าไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเสียแล้ว 
Create Date : 10 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2550 1:41:29 น. |
|
7 comments
|
Counter : 3383 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Kurt Narris วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:2:10:57 น. |
|
|
|
โดย: zalapao (Beaut ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:2:31:35 น. |
|
|
|
โดย: frank3119 วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:34:45 น. |
|
|
|
โดย: fonejank วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:11:24 น. |
|
|
|
โดย: *omega* วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:21:57:18 น. |
|
|
|
โดย: yuttipung วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:23:47:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สมุทรปราการ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

|
เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax
|
|
|
|
|
|
|
(พี่เคยมาแล้วอ่ะ)