Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
2 วันแรกกับงาน World Film Festival in Bangkok ครั้งที่ 3



14 ตุลาคม 2548
ไปงานเปิดมาแล้วครับ จัดที่ศาลาเฉลิมกรุง ตัวงานดูยิ่งใหญ่ แต่รู้สึกรูปแบบงานไม่เป็นระเบียบอย่างบอกไม่ถูก ไม่มีการให้คนสำคัญมาถ่ายรุปหน้าเวที คนก็เดินกันวุ่นไปหมดในสถานที่ซึ่งค่อนข้างเล็กกว่าจำนวนคนที่มาออกัน โดยที่เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ยังดีที่ตอนจัดภายในโรงฉายทำออกมาได้สอบผ่าน เอาเป็นว่าโชคดีที่คงวุ่นแค่ตอนเปิด(หวังว่านะ)

หนังเปิดคือ ผลงานล่าสุดของ โรมัน โปลันสกี้ ที่เอาวรรณกรรมคลาสสิคเรื่อง Oliver Twist มาทำอีกครั้ง ซึ่งการร่วมงานกับ โรนัลด์ ฮาร์วู้ด อีกครั้ง ทำให้ผมขนานนามงานนี้ว่า Oliver Pianist ผมมันช่างเป็นหนังเด็กที่มืดมนเหลือเกิน โดยเฉพาะช่วงท้าย เรียกได้ว่า โปลันสกี้ ทำหนังเรื่องนี้ให้ออกมากลายเป็นหนังของตัวเองไม่ต่างกับ The Pianist

แต่น่าเสียดายว่างานนี้ไม่ลงตัวเหมือนเรื่องนั้น Oliver Twist เวอร์ชั่นนี้เลยลักลั่น ดูแล้วขาดความพอดี และจุดตื่นเต้นในหนังก็เทียบไม่ได้เลยกับอารมณ์ที่เกิดจากงานก่อนหน้า เรียกได้ว่าโปลันสกี้ไม่สามารถพิสูจน์ตนเองได้ว่าคืนฟอร์มเช่นงานเก่า จัดเป็นยุคขาลงที่แม้เขาจะทำงานในลายเซ็นเดิม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีไฟอย่างในยุคแรกๆ

งานภาพสร้างบรรยากาศได้ดีมาก และที่งงมากก็คือเมื่อเครดิตขึ้นจบ มีเบน คิงสลี่ย์ ซึ่งในหนังผมจำเขาไม่ได้เลย ขอปรบมือให้เลยกับการแปลงโฉม

15 ตุลาคม 2548
วันนี้ตื่นตะวันโด่งเลย ว่าจะไปดูหนังรอบบ่ายก็ไม่ทันแน่ๆ เลยดูกำหนดการเห็นว่ามีสัมภาษณ์โปลันสกี้ เลยคิดว่า "เอาวะ ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้ตามก้นผู้กำกับระดับโลก" ลงทุนเสียเงินหนังแท็กซี่ไปโรงแรมสุโขทัย ไปซะสายเลยกว่าชาวบ้านเขา แล้วก็แจ๊คพอต นักข่าวนานาชาติ, ผู้จัดงาน และโปลันสกี้ เดินมาจากห้องอาหารพอดี ผมเลยได้ตามก้นไปติดๆ

แต่กว่าจะตั้งต้นหาที่เซ็นชื่อ เข้าคิว และเตรียมอุปกรณ์ ไปถึงก็คนแน่นแล้ว แถมเตรียมจะเริ่มสัมภาษณ์เลย เล่นเอาผมเงอะๆ งะๆ อันเป็นอาการปรกติส่วนตัว

เปิดคำถามเลยก็มีใครไม่ทราบถามประมาณว่ามีความปลอดภัยแค่ไหนกับการเดินทางมาประเทศนี้ คน(รู้สึกผู้จัดนี่แหละจะนำ)โห่กันใหญ่ ท่าทางฝรั่งเขาจะมองบ้านเรามีปัญหาด้านก่อการร้ายไปซะแล้ว(ไม่ได้เห็นหน้าคนถามแต่ถือแล้วกันว่าไม่ใช่คนไทย) แถมหมอนี่น่าถีบ เขาโห่แล้ว โปลันสกี้บอกว่า ผมจะตอบแต่คำถามที่เกี่ยวกับหนัง(อย่างอื่นเมิงจะถามตูทำไม) มันยังถามอีก 2 รอบ แต่เขาก็ยังยืนยันเหมือนเดิม จนคนปรบมือให้เลยเริ่มถามคำถามจริงๆ (รออีกพักนึงจะแกะมาให้อ่าน)



ว่าแล้วก็บึ่งไปดูหนังครับ ตัดสินใจดู Knife in The Water หนังที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในงานคลาสสิคของโปลันสกี้ แถมเป็นหนังยาวเรื่องแรกของเขาเสียด้วย มีตัวละคร 3 คนในเรื่องเท่านั้น ว่าด้วย อังเดรซ์ และคริสติน่า สามีภรรยาคู่หนึ่งที่ตัดสินใจฝ่าฝืนกฎมาขับรถวันอาทิตย์(ตามกฎหมายในท้องเรื่อง) หาความสำราญกับกีฬาเรือใบ แต่มาเจอกับหนุ่มนักโบกที่ขอติดรถไปด้วย ชายหนึ่งรู้สึกผิดหวังที่รถจอดบริเวณทะเลสาป มันห่างไกลจากจุดหมายที่เขาจะไป แต่ก็ได้รับการชักชวนให้มานั่งเรือด้วยในลักษณะแกมบังคับ

ชายที่ทั้งสองคน ไม่ได้สนใจจะถามแม้แต่ชื่อโดนดูหมิ่น ถากถางตลอดเวลาที่อยู่ในเรือ ไม่ว่าจะเรื่องการกางเรือใบ, พฤติกรรม, ฐานะที่แตกต่าง, ซึ่งบางอย่างก็เป็นเรื่องไร้สาระเหลือเกิน อังเดรซ์เป็นนักเขียนข่าวกีฬา บุคลิกมั่นใจเต็มเปี่ยม และสั่งทุกคนไม่เว้นแม้แต่ภรรยาของเขา แถมเขายังรักเรือใบจนตั้งชื่อเหมือนแฟน แต่ก็เพราะชายหนุ่มคนนี้นี่เองที่สอนบทเรียนให้กับคนสองคนได้เห็นด้านมืดของชีวิต ท่ามกลางความเวิ้งว้างในทะเลสาปที่เขาคิดว่ารู้จักดี

จริงๆ เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เพราะพวกเขาลำพองกันเองแท้ๆ คำว่า "มีดในน้ำ" ตามชื่อเรื่อง บอกถึงฉากสำคัญในเรื่อง และอาจหมายถึงภัยที่มองไม่เห็นได้เช่นกัน

ตัวหนังเป็นตัวแทนเข้าชิงออสการ์ปี 1962 แถมยังได้รางวัล FIPRECI Prize จากเวนิซ...หนังยอดเยี่ยมแต่มีปัญหาตอนฉายสะบัด ผมคิดว่าไปดูไม่ทันแล้วเนื่องจากต้องนั่งรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดินมา 2 ต่อ ช้าไป 15 นาที (หนังฉาย 15.20 น.) แต่คิดว่าอยากดูเลยต้องดูให้ได้ พอเข้าไปก็ตกใจว่ามันไม่มีซับ ก็ดูๆ ไปสังเกตเห็นว่าตัวซับมันจบเลยจากจอ สักพักมีคนไทยโวยวายด้านนอกกับยามที่เป้นคนฉีกตั๋วด้านนอก ผมก็เลยไปแจมบ้างบอกว่ามันมีปัญหานะ ยามเขาก็บอกว่าเดี๋ยวเขากำลังแก้ไขอยู่ แต่ปรากฎว่าผ่านไปนานพอสมควรก็ยังไม่มีอะไรดี คนที่โวยก็เดินไปมา มองไปข้างบนบ่นว่าไม่มีคนอยู่ข้างบนด้วยซ้ำ ผมก็ทนดูไปเรื่อยๆ นานพอควรก็มีเสียงข้างนอกน่าจะพูดกับคนฉายที่แก้ให้ปุบปับโดยไม่ฉายใหม่ คนโวยเขาถามว่าลองไปเดินถามดูเลยว่ามีใครรู้เรื่องบ้าง นั่นแหละ ว่าแล้วก็เลยปิดปุบปับ ไม่พูดจากับใคร ผ่านไปได้ 5 นาทีก็นำมาฉายใหม่อีกทีนึง



มารอบเย็น 19.20 น. ผมเลือกดู Madame X : An Absolute Ruler หนึ่งในหนังที่ Retrospective ให้ผู้กำกับ ยูลลิค อ๊อตติงเง่อร์ ผู้กำกับหญิงชาวเยอรมัน คนมาดูเยอะ และจัดเลี้ยงหน้างาน หนังฉายช้าพอสมควร แถมหลังจากผู้กำกับแนะนำหนังคร่าวๆ แล้ว ก็ต้องตกใจกับประกาศว่าหนังพูดเยอรมันเรื่องนี้ไม่มีซับ แถมเห็นเครื่องฉายวางติดตัวผมในแถว A แล้วก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ซึ่งก็เดาไม่ผิดว่าเมื่อหนังฉาย ฟิล์มน่าจะเป็น 16 มม.เท่านั้น ฉายได้ไม่เต็มจอเลยครับ

แต่ก็เอาเถอะ ผมเลือกแล้วก็ต้องแหละจริงมั้ย แม้จะไม่รุ้เรื่องเลยก็ตาม เพราะภาษาอังกฤษผมยังมีปัญหาฟังทันบ้าง ฟังไม่รู้เรื่องบ้าง แล้วนี่เยอรมันล่อไปกว่าครึ่งหนึ่งก็แย่สิครับ

เนื้อเรื่องคร่าวๆ พอสรุปได้ว่า มาดาม x ของเราใช้แรงดลใจบางอย่าง เรียกสาวๆ แต่ละคนที่ต่างกันไป เพื่อให้เข้ามาอยู่ในเรือของตน ต่อสู้ ความลำบาก และข้อบังคับต่างๆ ในเรือกลางท้องทะเล เพื่อจุดประสงค์อะไรก็แล้วแต่ คาดเดาว่าเพื่อสิทธิสตรี ในเมื่อสมาชิกบนลำไม่มีใครสักคนเป็นผู้ชาย ที่ติดมาทีหลังก็เป็นผู้ชายลักเพศ แต่นานๆ เข้า มาดามของเราก็เผด็จการ และบ้าตามชื่อเรื่อง(เธอไม่เคยพูดกับใครครับ มีแต่เสียงหัวเราะเหมือนผู้ชาย และมือติดมีดแสดงอำนาจร้อง ฮู่ ฮ่า และสีหน้านิ่งท่าทางดุดันตลอด แถมยังมีตัวเธอเองอีกคนเป็นแม่ย่านางขยับแขนขาหน้าเรืออีกต่างหาก) จนคนตายเป็นเบือ

ก่อนใครที่เห็นภาพแล้วอยากไปดู ต้องเตือนเลยครับ แม้ผมจะฟังไม่ออก แต่นี่คือหนังเซอร์แตกที่ดูไม่ยาก แต่ไม่รู้เรื่องเอาเลย งงสิครับ ผมหมายถึงว่ามันได้อารมณ์แบบฮาๆ และรื่นรมย์ แต่ถ้าจะให้ถามว่ามันต้องการสื่ออะไร ผมยังบอกไม่ได้แน่ๆ แค่สังเกตคนเดินออกจากโรงไปราวๆ 40% ก็เหนื่อยแล้วครับ แต่แปลกผมวูบไปช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่หลังจากพักความเหนื่อยส่วนตัวแล้ว หนังสนุกและบ้าเอามากๆ โดยที่ไม่ต้องรู้ว่าเขาพูดอะไรกันบ้าง

อย่างไรก็ตามใน IMDB มีคนเคยเขียนว่านี่คือหนังทดลองที่ทรมานที่สุดในการดูของเขา อีกคนบอกว่าหนังห่วยแตก คุณภาพย่ำแย่ หาดีไม่ได้ในความยาวเกือบ 3 ชม. ซึ่งผมก็เห็นว่ามีส่วนถูกเหมือนกัน แต่ผมมองว่าตัวหนังเป็นหนังตลกเลยรับได้หมด มันตลกโดยแม้จะมีฉากฆ่ากันก็ดูเหมือนหลอกๆ ฉากโป๊เปลือยในหนังก็ค่อนข้างฮาซะส่วนใหญ่ หนังมีฉากประกอบเพลงบ้าๆ บอๆ เยอะมาก ตัวละครก็ถูกพากย์ให้กลายเป็นเสียงสัตว์อยู่บ่อยๆ ตามพฤติกรรมที่แสดงออก จนต้องนึกถึงตลกคาเฟ่บ้านเรา ถ้าคิดว่านี่เป็นงานกำกับหนังยาวเรื่องแรก(อ๊อตติงเงอร์ กำกับร่วมกับ Tabea Blumenschein ผมก็เชื่อว่าเธอต้องมีพัฒนาการต่อไปในทางที่ดีแน่ๆ



Create Date : 16 ตุลาคม 2548
Last Update : 16 ตุลาคม 2548 2:27:25 น. 2 comments
Counter : 867 Pageviews.

 
Thank you for your valuable story krab! If I were staying in Thailand, I would go there!


โดย: POL_US วันที่: 16 ตุลาคม 2548 เวลา:7:34:06 น.  

 
...ขอบคุณครับที่มาเล่าสู่กันฟัง คงไม่มีโอกาสได้ไป จะมาตามติดอ่านต่อ


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 17 ตุลาคม 2548 เวลา:0:03:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.