ยังคงติดเกมและเล่นเฟสมากกว่า อาจไม่ค่อยมาตอบคอมเม้นท์นะคะ

ยาคูลท์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




ข้าพเจ้าเป็นสุข และเชื่อว่าใครก็ตามซึ่งมีรสนิยมในการอ่านหนังสือดี ย่อมสามารถทนต่อความเงียบเหงาในทุกแห่งได้ -- วาทะของท่านมหาตมะ คานธี


Book Archive by Group



หมายเหตุ: โซน Romance และ การ์ตูน ยังไม่ทำเพราะมีน้อย


Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
4 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ยาคูลท์'s blog to your web]
Links
 

 
กันยา..หาเรื่อง


28-29 กันยายน

สืบเนื่องมาจากกระทู้ ปิดฉากมหากาพย์คดีห้างทอง ธรมมวัฒนะ...ศาลสั่งยกฟ้องนายนพดล พร้อมประกาศฟ้องกลับหมอพรทิพย์
สรุปสั้น ๆ >> ศาลตัดสินว่านายนพพล จำเลยคดีฆ่านายห้างทอง "ไม่ผิด"
นายนพพลประกาศฟ้องแพทย์หญิงพรทิพย์และคณะสืบสวนทั้งชุดกลับ ข่าวว่าเรียกค่าเสียหาย 2 พันล้านด้วย

ไม่อยากเม้าท์เรื่องข่าว เพราะไม่ติดตามอยู่แล้ว (แป่ววว) แต่อยากบอกว่า
นิติวิทยาศาสตร์ คือวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง ซึ่งคนมักจะไม่ตั้งคำถาม หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว มันผิดได้ (โว้ย)

Case Study 1:
Myth: ในการสืบคดีลอบวางเพลิงในห้องปิด สมัยก่อน เขาดูที่ pour pattern (รอยไหม้ที่พื้น อันแสดงว่ามีคนเทสารกระตุ้นลงที่พื้นเพื่อจุดไฟ) กับ crazed mirror (กระจกร้าวแต่ไม่แตก สมัยก่อนเชื่อว่าความร้อนที่เพิ่มขึ้นช้า ๆ คือต้นเหตุการร้าว)

Proven Fact:
- ATF เคยทดลองแล้วว่า pour pattern อาจเกิดจากรูปแบบการไหม้ที่เรียกว่า flashover (เวลาไฟไหม้ ก๊าซลอยขึ้นไปหาออกซิเจนด้านบน พอออกซิเจนข้างบนหมด ก็ตรงดิ่งลงล่าง และก่อเกิดสิ่งที่ดูคล้าย pour pattern)
- crazing เกิดจากกระจกที่ร้อนมากถูกทำให้เย็นกะทันหัน ไม่ว่าจะค่อย ๆ ร้อนหรือร้อนจัดทันที กระจกก็ไม่ร้าว แต่พอราดน้ำปุ๊บ จะร้าวทันที ดังนั้น จึงใช้เป็นหลักฐานการวางเพลิงไม่ได้

ด้วยหลักฐาน (ที่พิสูจน์แล้วว่าเชื่อไม่ได้ 100%) สองอย่างนี้ คาเมรอน ท็อด วิลลิงแฮม ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานวางเพลิง "ฆ่าลูกสาวตัวเองสามคน" ในปี 1992 และรับโทษประหารชีวิตในปี 2004 ด้วยวัย 36 ปี

เสริม:
แม้แต่การพบร่องรอยของ inflammable stimulant ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นการวางเพลิง สารพวกนี้มีอยู่ในน้ำยาหลายอย่าง น้ำมันก๊าด ยาฆ่าแมลงหรือน้ำยาต่าง ๆ ที่อาจเป็นสารสามัญในโรงรถหรือในบ้าน การพบสารกระตุ้นในซากไฟจึงควรพิจารณาว่า..มันอยู่ผิดที่ผิดทางรึเปล่า ไม่ใช่พบสารก็แปลว่าวางเพลิงโดยอัตโนมัติ

---

Case Study 2:
Myth: "ตะกั่วในกระสุนทุกนัดมีลักษณะทางเคมีเหมือนกัน ถ้าตะกั่วในกระสุนสองนัดตรงกัน ก็แปลว่ากระสุนผลิตจากตะกั่วก้อนเดียวกัน aka มาจากกระสุนกล่องเดียวกัน"

วิธีตรวจสอบเพื่อการเปรียบเทียบตะกั่วในกระสุนปืน (CBLA) คือ นำกระสุนไปแช่น้ำกรด ให้ความร้อนและตรวจวัดธาตุด้วยสเปคโทรโฟโตมิเตอร์ ซึ่งใช้ wavelength บอกว่ามีธาตุใดอยู่แค่ไหนบ้าง ถ้าผลของกระสุนสองนัดออกมาเหมือนกัน สรุปได้ว่ากระสุนสองนัดนี้มาจากแหล่งเดียวกัน

Fact: CBLA สันนิษฐานว่ากระสุนที่ผลิตจากตะกั่วรุ่นเดียวกันจะให้ผลเหมือนกันเปี๊ยบตั้งแต่นัดที่ 1 จนถึง 3 พันล้าน
แต่ข้อมูลจากโรงกลั่นตะกั่วเพื่อทำกระสุน พิสูจน์แล้วว่าตะกั่วมีการปนเปื้อนเสมอ และธาตุต่าง ๆ กระจายตัวไม่สม่ำเสมอในตะกั่ว (ศัพท์โลหะวิทยาเรียกว่า "การแยกตัว" --คิดว่างั้น จำศัพท์ e ไม่ได้แล้ว)
ผลคือ กระสุนสองนัดที่หล่อจากตะกั่ว batch เดียวกัน ก็อาจมีค่าธาตุต่าง ๆ ไม่เหมือนกันได้ เทคนิคที่เอฟบีไออวดอ้างมา 3-4 ทศวรรษว่าบอกได้กระทั่งกระสุนมาจากกล่องเดียวกันนี้...ไม่มีเหตุผลรองรับในแง่วิทยาศาสตร์

FBI ประกาศเลิกใช้เทคนิคนี้ในปี 2005
(แน่นอนว่าเคยมีคนโดนตัดสินโทษเพราะเทคนิคนี้มาแล้ว)

---

Case Study 3:

Myth: การตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน (gun shot residue) บอกได้ว่าใครเป็นคนยิงปืน

Fact: เขม่าดินปืนเดินทางได้ 3 ฟุตและลอยในอากาศได้ 3 นาที ดังนั้น เขม่าอาจติดอยู่ตามตัวคนที่ยืนอยู่ใกล้มือปืน..หรือเข้าไปในที่เกิดเหตุหลังการยิงไม่นาน
นอกจากนี้ ตามตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสถานีตำรวจยังเต็มไปด้วยอนุภาคเขม่าดินปืน การถูกจับเป็นผู้ต้องสงสัยก็อาจเป็นเหตุให้ตัวเขามีเขม่าดินปืนได้

สรุปว่าเขม่าดินปืนไม่ใช่หลักฐานเอาผิดได้ 100% เหมือนดีเอ็นเอ!!
และรู้สึกว่า FBI จะแอบยกเลิก GSR analysis นี้แล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2006 (ข้อมูลนี้ยังไม่ได้เช็ค ฟังมาอีกที)

- - จ บ - -

ประเด็นก็คือ Is it a science? Is it a good or bad science?
เคยมีใครตั้งคำถาม ตรวจสอบความถูกต้องของศาสตร์ที่ใช้กันอยู่ไหม?
อิสรภาพ/ชีวิตคน VS ระบบยุติธรรม เชียวนะ

(วันนี้ซีเรียส เพราะอ่านคห. ในกระทู้แล้วพบว่าหลายคนเชื่อศาสตร์นี้กันจริง ไม่รับรู้เลยว่าวิทยาศาสตร์ก็ผิดได้ และนิติวิทยาศาสตร์เป็น human-related มาก)

---------------

วันนี้ทำตัวเป็นกระจิบข่าววุ้ย มาทู้นี้บ้าง
*+*+*+*+*รวบ! สาวท้วมขายบริการ ลวงหนุ่มกรรโชกทรัพย์*+*+*+*

ครือ... ขอบอกว่าเคยเห็นแอดของเจ๊แกล่ะ (คิดว่าใช่นะ)

จขบ. จำได้ว่ารูปที่โพสต์ก็อวบอ้วนแบบนี้แหละ บอกด้วยว่าขาวอึ๋ม รูปเห็นทั้งตัว ไม่ได้เอารูปสาวหุ่นเพรียวลมมาโกหก สรุปว่าข่าวนี้ก็...ไงล่ะ..เขียนให้ดูหวือหวาเหมือนสาวอ้วนฉุดหนุ่ม แต่จขบ. คิดว่าหนุ่มคงเจอตัวจริงแล้วเอาไม่ลง สาวโมโห (หลังโดนเบี้ยวมาเยอะ) เลยแย่งมือถือมา จบ

...สาเหตุที่จำได้เพราะอ่านแล้วยังนึกเลยว่า "เออเว้ย หุ่นแบบนี้ก็กล้ามาประกาศขายบริการทางเพศนะ" (ขออภัยสาวอวบทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยเด้อ)

อีกจุดที่จำได้คือเจ๊แกโพสต์ติด ๆ กันสองหรือสามทู้ เนื้อหาห้วนสั้น ตรงจุดไม่แอ๊บแบ๊ว (จขบ. ชอบไปอ่านเด็กแอ๊บแบ๊วหาเสี่ยเลี้ยง หรือเสี่ยประกาศอุปการะเด็ก ...สนุกแปลกดี) โพสต์อันหลังเน้นทำนองว่า "ขอคนสนใจจริง ไม่เอาจริงไม่ต้องติดต่อมา" คือ อ่านแล้วรู้สึกว่าคงมีคนโทรไปหรือไปเจอตัวแล้วไม่เอาจริงบ่อย เจ๊เลยเน้นเหลือเกิน

ความเห็นส่วนตัว: กรณีนี้เห็นใจสาวอ้วนนะ เธอขายเงียบ ๆ ไม่ได้หลอกลวงนี่นา ผิดตรงไหน? เมืองไทยน่าจะมีโสเภณีจดทะเบียนไว้บริการหนุ่มโสดโดยเฉพาะนะ น่าจะแก้ปัญหาอัดอั้นของชายหนุ่มได้รึเปล่า สาวก็ได้รายได้ด้วย ไม่ต้องไปบีบบังคับ ฉุดคร่ามาสนองตัณหาชายอย่างที่ระยะหลังเห็นข่าวกันเหลือเกิน

(ที่พิมพ์แบบนี้ ก็เพราะเห็นว่าพวกสาว ๆ ที่ไปเสนอขายตามเว็บน่ะ อายุ 10 กว่า ๆ ไปจนถึงมหาลัย เวลาอ่านข่าวเด็กดีโดนรุมโทรมก็เลยอนาถใจ ทำไมไม่ไปฉุดพวกที่อยากอยู่แล้วฟร่ะ?)

วันนี้ซีเรียสวุ้ย


28 กันยายน

สองเดือนที่ผ่านมา มือขึ้นเรื่องหนังสือชำรุด
เจอกำลังภายในที่เปิดมาแล้วสันแบะ (อ่านได้ ไม่หลุด แต่อยากได้ไม่แบะอ่ะ)
เจอ "ลมซ่อนรัก" ที่กระดาษพับขึ้นแล้วเครื่องไสกาวเข้าเล่มทั้งอย่างนั้น
เจอนิยายของแอลลี่ที่หน้าหาย (เวร กำลังอ่านสนุก ๆ อยู่ งอนเฟ้ย)
เจอ "เกมรักแรงปรารถนา" หน้าหาย
..รู้สึกจะมีนิยายคัมออนที่กระดาษย่นด้วย แต่จำเรื่องไม่ได้แล้ว คงช่างมันไป
ส่วนเพื่อนเจอ "คลื่นลวง" หน้าหายเช่นกัน

แค่แบกไอ้พวกที่จะไปเปลี่ยนนี่ก็หนักแล้ว โคตรเซ็ง

มาตรฐานการพิมพ์แย่ลง หรือดวงเราดีผิดปกติเองหว่า????


27 กันยายน พิมพ์บ่น

อาทิตย์ที่ผ่านมา โดนยุงหรือแมลงลึกลับกัดวันละ 1-4 แห่ง..ทุกวัน แล้วก็คันมาก ทั้งที่ปกติ จขบ. ไม่ค่อยเกาแผลยุงกัด มีช่วงนี้แหละที่เผลอเกาจริง ๆ
(มาคิด ๆ ดูแล้ว แผลคันช่วงนี้เท่ากับแผลในสองสามปีรวมกันได้เลยนะ)

ช่วงแรก พิษดูจะแรงยังไงไม่รู้ แผลเป็นรอยแดงเห็นชัด--เหมือนเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังแตกน่ะ ขนาดเท่าเหรียญ 25 สต. ล่าสุดอัพเกรดเป็นเหรียญ 1 บาทแล้ว (ยังดีที่แผลระยะหลังคันและแดงน้อยลง)

บางที่ ค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นยุง เพราะเห็นตัวไม่นานก็เริ่มคัน แต่บางที่ที่โดนกัดเยอะ เช่น ง่ามนิ้วเท้า--ทั้งนิ้วโป้ง นิ้วนาง นิ้วก้อย หรือแม้แต่ใต้ฝ่าเท้า ง่ามนิ้วมือ ฝ่าเท้า หลังมือแล้วก็ฝ่ามือ ...ไอ้พวกนี้นี่ไม่แน่ใจแฮะ ที่บ้านยุงเยอะงี้เลยเหรอ?

วันก่อน โมโหจัด เลยเอายากันยุง (ที่ทุกทีไว้วางหน้ากรงหมา) มาจุดวางในห้อง ฉีดยากันยุงรมอีกตลบ ปิดประตูมิดชิด ...แล้วเผลอล้มตัวนอนหลับตลอดบ่ายจนถึงเย็น เพราะวันสองวันนั้นปวดหัวมาก ตื่นมาแล้วพะอืดพะอมนิดหน่อย ถ้าไม่ใช่เพราะอาการต่อเนื่องจากไมเกรนก็คงเพราะนอนดมยา (ฆ่ายุง?)

วันนี้มีธุระที่โรงพยาบาล ไม่แน่อาจลองถามหมอดู ...แต่ไม่ค่อยแน่ใจแฮะว่าหมอจะตรวจได้รึเปล่า กลัวว่าจะแค่ได้ยาแก้คันมาน่ะ

ว่าจะไปเดินดูงานคอมพิวเตอร์ที่พาราก้อน ..อยากได้แล็บท็อป เผื่อมีรุ่นดีและถูก อยากไปดูทวิภพ (วันนี้วันสุดท้าย สำหรับเรื่องนี้) สงสัยคงแห้ว เพราะกว่าจะไปรพ. ไปตามนัดกับญาติ ก็คงเย็นไปสำหรับการเลือกซื้อคอมหรือจองตั๋วหนัง

สังเกตมานานแล้วว่า วันไหนที่มีตารางกิจกรรมแบบที่ต้องทำวันนั้นเท่านั้น งานอื่น (ที่ทำวันอื่นได้ แต่เผอิญทำวันนั้นสะดวกที่สุด) จะมะรุมมะตุ้มเข้ามาทันที ทีวันไหนว๊างว่าง ก็จะว๊างว่าง


บันทึกการเดินทางเข้าเมือง 15 กันยายน

รู้สึกว่า "ที่นั่งสำหรับพระสงฆ์" บนรถประจำทางเป็นเอกลักษณ์ไทยอย่างหนึ่ง ไม่ว่ารถจะแน่นแค่ไหน พอพระขึ้นมา คนจะลุกทันที
ถ้าเป็นผู้หญิงนั่งชิดริมหน้าต่าง แล้วไม่ลุก (คงกำลังใจลอย ไม่ทันมอง) กระเป๋ารถจะร้องเรียกให้ลุกให้ได้ ใครไม่ลุก..อาจโดนรังสีพิฆาตจากรอบตัวได้

---
วันนี้นั่งรถเมล์ช่วงสั้น ๆ แล้วเจอรถติด ข้างขวาเป็นแม่จับลูกชายอายุประมาณ 4-5 ขวบนั่งตัก ได้ยินเสียงจุ้กจิ๊กทำโน่นทำนี่ให้ลูกตลอด (น่าจะเป็นการชงนม) จขบ. ก็นั่งมองฝั่งซ้ายใจลอยไปเรื่อยเปื่อย
พอ 6 โมงเย็น เสียงเพลงเคารพธงชาติดังก้องรถ หนูน้อยข้างตัวก็เริ่มร้องคลอดังลั่น "ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย.." จบเพลงชาติแล้วยังร้องเพลงอื่นเกี่ยวกับในหลวงได้ด้วย สงสัยจะฟังวิทยุคลื่นนี้บ่อย

จขบ. อารมณ์ดีทันทีที่ได้ยินเด็กร้องเพลง เออ ออกเสียงควบคล้ำได้ดีด้วย ไม่ได้กระดกลิ้นเป็นลิ้นฝรั่ง (อย่างหลานตัวเอง) สังเกตให้ดีก็รู้สึกว่าสำเนียงเด็กคนนี้เป็นสำเนียงไทยชัดเจนดี ...อยากให้หลานตัวเองเป็นแบบนี้จัง

แอบหันไปมองแม่ลูก น่าจะเป็นคนฐานะปานกลาง จินตนาการไปว่าแม่เขาคงเลี้ยงลูกสบาย ๆ เหมือนสมัยแม่เลี้ยงเรา ฟังวิทยุไทย ๆ ว่างก็เล่นแถวบ้าน ไม่ได้ประเคนขนมหรือของเล่นฝรั่งราคาแพงให้ลูก แต่ดูแลเสื้อผ้าการกินอยู่ได้ดีจนลูกอ้วนท้วนสมบูรณ์

เด็กคนนี้โชคดีนะ

---

ซื้อเกี๊ยวลูกชิ้นทอดริมถนนมานั่งกินตรงเก้าอี้ริมทางเดินใกล้ลิฟต์สยามดิสคัฟเวอรี่ (ไม้ละ 5 บาท ทอดใหม่ร้อน ๆ กินอร่อยกว่าพวกจานละร้อยในห้างเสียอีก) ช่วงทุ่ม มีวงดนตรีเล่นอยู่พอดี นั่งกินไปฟังเพลงไป หนุ่มตาน้ำข้าวนายหนึ่งเดินเลี้ยวมาเห็นปุ๊บก็ทำหน้า "โอ๊ะ" แล้วฉีกของที่ถือมา

ตอนแรกสังเกตเห็นเขาเหมือนกัน แต่คิดว่าคงไม่เกี่ยวกับเรา เลยมองไปทางอื่น จนเขาเดินมายื่นของให้ บอกว่า "ของแถมจาก Loft ให้มา แต่ผมไม่ใช้ ให้คุณละกัน" ... เหอออ มีงี้ด้วย??? แต่ก็ thank you ไป
แน่นอนว่ารับของมาด้วย อิอิ กลับบ้านแกะดู เป็นสมุดบันทึกไว้จดเมมโม ที่อยู่อะไรพวกนั้นน่ะ ข้างในเป็นระบบแฟ้มเจาะห่วง เปลี่ยนกระดาษได้ ปกหนังมีสายรัด..หรูน่าใช้พอสมควร

ความประทับใจอีกอย่าง: หลังฝรั่งคนนี้ไป มีเด็กสาวใส่ชุดของ Loft เดินถือถาดใส่น้ำหลายแก้วมาเสนอน้ำให้ ทั้งที่ตอนนั้นนั่งอยู่คนละด้านกับมุมกิจกรรมเลย (อยู่ที่ sony center) จขบ. ปฏิเสธไป เธอก็เดินถือถาดเอาน้ำไปเสนอให้พนักงานทำความสะอาดอีกคน ...บริการไม่แบ่งชนชั้นจริง ๆ

---

วันก่อนเพิ่งบ่นว่าพูดอังกฤษไม่เป็นแล้ว วันนี้โดนตอกย้ำอีกครั้ง คราวนี้เป็นหนุ่มตี๋เอเชียถามทางไปร้านสีฟ้า จากจุดที่ยืนอยู่คือประชาสัมพันธ์ประตูใกล้ทางออกสถานีรถไฟฟ้า
จขบ. ตอบไปว่า ข้ามถนนแล้ว walk a block

... ปกติพูดไทยก็สื่อสารไม่เก่งแล้ว นี่ลามไปถึงภาษาอื่นอีก เฮ้อ

Personal Note:

วันที่ 21-30 เดือนนี้จะเป็นสัปดาห์ภาพยนตร์ เชิด ทรงศรี
มีการนำหนังเก่ามาฉายที่แกรนด์ อีจีวีค่ะ จขบ. สนใจสองเรื่อง
...หวังว่าจะตื่นไหว และว่างในวันนั้น
(ว่าแต่เขาจองตั๋วกันวันต่อวันหรือข้ามวัน กลัวตั๋วที่นั่งดี ๆ หมดอะ)

ทวิภพ / 2533
ฉาย 22 กันยายน14.00 / 27 กันยายน 19.00

อำแดงเหมือนกับนายริด / 2537
ฉาย 25 กันยายน19.00 /29 กันยายน 14.00

//www.thaifilm.com/newsDetail.asp?id=309


11 กันยายน

หลายวันมานี้ หลานสองบ้านมารวมกันบ้านเดียวตลอดวันเพราะพ่อแม่ไปต่างประเทศยาว หลานกลุ่มที่ไม่ซนเลยซนเพราะคึก หลานสายไฮเปอร์กลายเป็นซูเปอร์ไฮเปอร์

โชคดี (?) ที่งานราษฎร์งานหลวงมากระจุกกันช่วงนี้ จขบ. เลยโบ้ยงานเลี้ยงลิงให้แม่ลิงอีกตัว ให้เขาเป็นแม่กาเหว่าไป เราจาเป็นอีกา หึหึ

ช่วงต่อของการส่งงาน ว่างไปเล่นกับลิงนิดหน่อย เลยได้สอนการบ้าน

...การบ้านเด็กโคตรยากเลย!!!! อ๊ากกกก

มีโจทย์ให้หาคำที่ความหมายเหมือนการบวก ให้หามา 10 คำ
ตามด้วยคำที่ความหมายเดียวกับการลบอีก 10 คำ
แม่กาเหว่ากับแม่อีกาคิดกันสองตัวหัวแทบแตก กว่าจะมั่วใส่ครบ ส่วนเด็กเจ้าของการบ้าน (6 ขวบ) นั่งตาปรือ ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ...แบบนี้มันผิดหลักนา แต่ถ้าให้เด็กคิดเอง มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย หลานคนนี้เรียนแบบบูรณาการมา สะกดคำอ่านยังไม่คล่องเล้ย จะไปสรรหาคำมาจากไหน

หลานอีกคนต้องทำการบ้านหาคำ โจทย์เป็นรูปกิ่งดอกไม้ 2 ดอก แต่ละดอกมีสองกลีบกับหนึ่งเกสร ครูให้หาคำหลักมาใส่ตรงเกสรแล้วหาคำที่เข้ากันมาใส่ที่กลีบ (เข้าใจว่างั้นนะ) เช่น ดอกที่หนึ่ง-เกสรใส่คำว่า "เย็น" กลีบใส่คำว่า "ชืด" กับ "ชา" ดอกที่สอง-เกสร "เย็น" กลีบ-"จิต" "ใจ"
จากนั้น เอามาสรุปอีกช่อง เป็นดอกไม้สี่กลีบ เกสร-"เย็น" กลีบ-ชืด, ชา, จิต, ใจ
... แล้วก็มีดอกไม้นี่เป็นเล่มเลยอ่า การบ้านเด็ก 6-7 ขวบเองนะ เด็กในระบบบูรณาการเหมือนกัน ขนาดหลานคนนี้อ่านคล่องพูดเก่ง ยังแย่ไปเหมือนกัน (จับเด็กอ่านกลอนน่าจะช่วยได้นะ ... แต่เด็กคงไม่สนหรอก)

มาดูการบ้านเด็กที่เรียนระบบธรรมดาบ้าง
โอเค ง่ายหน่อย ทำเลข อ่านหน้านั้นถึงหน้านี้ ระบายสี สอนผูกเชือกรองเท้า ฯลฯ ...ง่าย แต่เยอะจิ๊บเป๋ง ขนาดเด็กแฝดยังการบ้านคนละอย่าง แทนที่จะรวบสอนทีเดียว เลยต้องมาสอนทีละราย ซึ้งใจแม่กาเหว่าเสียจริง (มันทนได้ไงฟระ เป็นตูส่งลูกเข้าโรงเรียนวัดไปแล้ว ไม่มานั่งจี้หรอก)

ซาบซึ้ง ณ บัดนี้ที่ย่างเข้าวัยชรา ไม่ต้องผ่านอะไรแบบนี้อีก เฮ้อออ
(แต่อีกใจก็แอบวิตก ... ตูโง่ลงใช่ไหม? กลายเป็นยัยเฒ่าเต่าล้านปีที่ไม่มีวิวัฒนาการแล้วเหรอ? ฮือออ)

สังเกต/บ่น:

ก็รู้มานานแล้วล่ะว่าสมัยนี้ โรงเรียนเขาให้พ่อแม่มีส่วนในการบ้านมาก ๆ ตอนแรกที่ได้ฟังก็ชอบนะ ครอบครัวจะได้ใกล้ชิดและรู้จักลูกดี แต่หลังจากสังเกตสถานการณ์ของหลานมาสักพักก็ชักไม่แน่ใจ ขนาดครอบครัวหลานเขามีพ่อหรือแม่ว่างมารับส่งและสอนลูกนะ ยังเวลาไม่พอเลย แล้วครอบครัวที่พ่อแม่ต้องทำงานทั้งคู่ล่ะ? เขาทำไงกัน?

นี่ยังไม่รวมถึงลักษณะการสอนของพ่อแม่นะ ตัวอย่างเช่นพี่เราเนี่ย อารมณ์ร้ายและปากร้ายมาก เสียงดังด้วย เวลาสอนลูกไปนาน ๆ แล้วเด็กเอ๋อ ทำไม่ได้เสียทีเนี่ย ...โคตรน่ากลัวเลย บางทีอยู่คนละชั้นยังได้ยินเสียงตวาดเหมือนคนมีเรื่องกันน่ะ เปิดประตูมาฟัง ..อ๋อ สอนการบ้าน แล้วพอหงุดหงิด การสอนมันก็กลายเป็นการบ่นด่าลูกว่าโง่บ้าง ไม่พยายามเลยบ้าง ฯลฯ
บางทีก็สงสัยว่า..หลานตูจะเกลียดการเรียนก็เพราะพ่อรึเปล่าเนี่ย?

สงสัยต่อ..
แล้วทำไมต้องจี้ให้เด็กทำการบ้านให้หมดฟะ? ถ้าจี้สักพักแล้วเด็กไม่ทำสักที ก็ให้มันค้างไว้งั้นเด่ะ เขียนรายงานไปเลยว่า "ลูกฉันหมดสมาธิ ไม่ยอมทำต่อแล้ว ทำได้แค่ข้อ 4" อะไรแบบเนี้ย
คือ ให้เด็กมันอายตอนไปโรงเรียนแล้วมีการบ้านส่งครูไม่ครบ แล้วจะได้รู้จักสำนึก ละอายและกระตุ้นตัวเองไง (หรือถ้ามันอยากเป็นคนทำอะไรไม่ครบแบบนั้นก็ปล่อยมันไป ชีวิตมัน) ไม่ใช่ให้พ่อแม่จ้ำจี้จ้ำไช เด็กก็ร่วมมือบ้างไม่ร่วมมือบ้าง เห็นและลองเป็นคนจี้มาแล้ว..คิดว่าเสียเวลาผู้ใหญ่ว่ะ ง้อมากเด็กเคยตัวเปล่า ๆ << คิดแบบอีกาจริง ๆ นะเนี่ย


6 กันยายน

ร้าน 50% ตรงซอยข้างเมเจอร์ปิ่น ย้ายไปอยู่ในกลิ่นสีพลาซ่า แถมยังเป็นห้องลึกสุด (ในอาคารขนาดกลางที่เป็นห้องซอยย่อยสองฟาก)
... แบบนี้จะมีคนมาขายหนังสือไหมเนี่ย? ทำเลไม่น่าแวะเลย ถ้าไม่ใช่คนแถวนี้คงไม่รู้แน่ว่ามีร้านนี้อยู่

เวลาเซ็ง ๆ อยากรื้อหนังสือมือสองเล่น คงไม่มีที่แวะที่สะดวกอีกแล้ว เศร้า
(ตั้งแต่นี้ คงต้องอัพเลเวล ลุยร้านในเมืองแทน ฮา)

โน้ตบอกตัวเอง:
หนังสือที่อ่านจบแต่ยังไม่เขียนบล็อก - Killer Dreams, How to Be Popular, เที่ยวพิพิธภัณฑ์ต่างแดน
หนังสืออ่านค้าง - Deja Dead, Brief History of the Dead, Interpretation of Murder (เบสสอง, เบสสอง, ยังไม่ถึงเบสหนึ่ง)


2 กันยายน

เพิ่งรู้ว่าแอร์ในห้องนอนมีปัญหา สายไฟแอร์ที่อยู่ด้านนอกมีประกายไฟแปล๊บ ๆ ตั้งแต่วันศุกร์ ช่าง A มาตรวจจนเจอแล้วก็กลับ (เออ ดีนะ)
จุดที่มีประกายไฟเป็นระเบียงตากผ้า คนใช้ในบ้านเลยฮือฮา คุยต่อจนรู้เรื่องกันทั้งบ้าน--ยกเว้นเจ้าของห้องที่ช่วงนี้ออกเช้ากลับค่ำทุกวัน และยังเปิดแอร์นอนอยู่ทุกคืน! ...เวรจริง ๆ โชคดีนะไม่ไฟลุก (ในห้องเป็นหนังสือเกือบครึ่งห้อง ถ้าไฟลุกก็บอกลากันได้เลย)

พี่ชายเพิ่งโทรจิกช่างคนนี้ สรุปได้ความว่าช่าง A กวนทีน โบ้ยให้ไปติดต่อช่างแอร์ ซึ่งเปลี่ยนแอร์มาหลายปี..จำไม่ได้แล้วว่าช่างคนไหน พอซักไซ้ ไอ้คุณช่าง A ถึงบอกว่าเขาก็ซ่อมได้ แต่ผมไม่ว่าง อีกสองวันค่อยมา
ระหว่างนี้ จขบ. คงเหมือนนอนหลับในนรก เพราะห้องอับมาก แล้วก็ติดนิสัยเปิดแอร์นอนอ่ะ ไม่เปิดแอร์นอนไม่หลับ (เป็นคุณหนูค่ะ)

ตอนนี้ บ้านมีปัญหาซ่อมนู่นนี่เยอะมาก บางที่น้ำรั่วจากฝ้า ช่างมาเจาะฝ้าไว้แล้วก็หายศีรษะไปเลย ดีนะที่เฉลียวใจเอากระดาษมาปิดรูไว้แต่แรก ไม่งั้นป่านนี้หนูคงร่วงลงมาเพ่นพ่านเต็มบ้านแล้ว (บ้านนี้มีหนูบนฝ้า ...คิดว่าหนูนะ)

---

สองสามวันมานี้ ทำตัวเป็นเจนเนอรัลเบ๊ให้ญาติ
เนื่องจากเบื่อสภาพติดแหง่กในบ้าน ทำงาน (?) หน้าคอมทั้งวัน ลองเปลี่ยนบรรยากาศดีกว่า ไปเป็นแม่ค้าเฝ้าร้านขายของ วันหนึ่งไปเจเจ อีกวันไปสำเพ็ง

วันที่ไปเฝ้าเจ.เจ.มอลล์:
เห็นนักเรียนวัยรุ่นเดินพอประปราย โคตรเสียดายที่ไม่ได้หยิบพวกนิยายโนเนะที่เพิ่งอ่านจบไปวางขายครึ่งราคา จะได้กำจัดทิ้งให้หมด ๆ ไป
...แต่อาจขายไม่ได้ก็ได้ เพราะกลุ่มลูกค้าดูเป็นพวกไม่ค่อยมีตังค์อ่ะ เดินดูไปดูมา เลือกแล้วเลือกอีก ซื้อชิ้นเดียว--คนขายเครียดเฟ้ย!
สรุปว่า..ร้านนี้ไปเฝ้าได้ คนน้อยดี มีคอมด้วย แต่เสียค่าเน็ตแบบรายชั่วโมง
ข้อเสียคือไกลชะมัด แอร์ในห้างหนาวมากกกกกก
อ้อ หลงทาง (ในห้าง) ง่ายด้วย ไปมาสองครั้ง หลงทางทั้งสองครั้งเลย

จุดหนึ่งที่ไม่รู้จะขำหรืออะไรดีคือ ในร้านไม่มีน้ำเปล่าฟรี ไอ้เราเห็นน้ำเปล่าขวดใหญ่สองขวดในร้าน เลยแวะเซเว่นซื้อกาแฟ กินหมดก็ว่าจะเติมน้ำเปล่าเสียหน่อย เด็กหน้าร้านบอก "ขวดนี้ของหนู"
... ร้านนี้เขาแยกน้ำใครน้ำมัน คนเฝ้าร้านเฉพาะกิจอย่างเราเลยจ๋อยไป (น่าจะบอกก่อน จะได้ซื้อจากเซเว่นมาแต่แรก)

วันที่ไปสำเพ็ง:
เพิ่งรู้ตัวว่าภาษาอังกฤษของเราคืนอาจารย์ไปแล้ว ไม่สามารถพูดกับลูกค้าฝรั่งอย่างเป็นเรื่องเป็นราวได้ อายมาก เลยแกล้งทำเป็นพวกอาซิ้มอาซ้อที่พูดฝรั่งได้ฟิชฟิชสเนคสเนค
ลูกค้าพูดจีนกลางก็มี ไม่สามารถคุยได้เช่นกัน แต่พอฟังออกเลยตอบคำถามเขาถูก ฟู่ว์ หน้าไม่แตก

เฝ้าร้านที่สำเพ็งจะสนุกกว่าเจเจ เพราะคนซื้อเยอะกว่า แต่ก็มีเดินเข้ามาดูแล้วเดินออกเยอะไม่แพ้กัน ไอ้เราก็เชียร์ของไม่เป็นซะด้วย ประกอบกับไม่ชอบเชียร์ คิดว่าลูกค้าอาจอึดอัดถ้าเดินเข้ามาปุ๊บแล้วโดนประกบหรือจ้องตามตลอดน่ะ (ข้ออ้างในการไม่มองลูกค้า แต่ก้มหน้าอ่านหนังสือแทน)

เฝ้าไปครึ่งวันก็อ่านหนังสือเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของคุณเพลงดาบฯ จบ เลยแปะขาย 80 บาทไว้ที่โต๊ะ (ราคาปก 150 กว่ามั้ง) ... ไหงไม่มีใครสนใจเลยอ่า หนังสือใหม่และดีน๊า แสดงว่ากลุ่มลูกค้าตรงนี้มีตังค์ แต่ไม่ใช่พวกนักอ่าน? ทั้งที่เป็นนักศึกษาแน่นอน (วันที่ไปเฝ้าเป็นช่วงนศ. มาหาของขวัญรับปริญญา)

ขนมสำเพ็งไม่มีที่น่ากินและอยากกินเลย ปลาหมึกย่างไหม้กระดำกระด่าง ขนมแป้งจี่เหนียวและเย็นชืด ผัดไทยไท้เฮงก็งั้น ๆ (พอดีไม่นิยมผัดไทยอยู่แล้ว) เป็นการเฝ้าร้านที่..หิวโหยจนหน้ามืด กว่าจะรู้ตัวว่าหิวก็โลกหมุนแล้วอ่ะ

ร้านนี้ก็งงกับเรื่องน้ำอีกแล้ว ตอนแรกซื้อน้ำหวานจากเซเว่นมาเหมือนกัน แต่พอร้องหาน้ำเปล่า เด็กคนหนึ่งบอกไม่มีคูลเลอร์ ต้องกรองน้ำเอง เด็กอีกคนบอกต้องไปซื้อ (แต่เขายอมวิ่งไปซื้อให้ ต่างกับเจเจที่ตัวใครตัวมัน)
.. กำลังสงสัยว่าร้านค้าสมัยนี้เป็นงี้หมดรึเปล่า? สมัยก่อน น้ำเปล่านี่ไม่ใช่ปัญหาเลยนะ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาวอรี่เวลาไปเฝ้าร้านเลย

นาน ๆ เปลี่ยนบรรยากาศก็แปลกดีเหมือนกัน แต่ออกข้างนอกแบบนี้ก็ล้าเหมือนกันแฮะ เสียตังค์มากกว่าการอยู่กับบ้านแบบทุกทีด้วย
...ไว้ต้องหาที่เปลี่ยนบรรยากาศ แบบไม่เสียตังค์เพิ่มและไม่ล้า



Create Date : 04 กันยายน 2550
Last Update : 29 กันยายน 2550 8:12:44 น. 59 comments
Counter : 1364 Pageviews.

 



หวัดดีก่ะแวะมาเที่ยวจ้า

ยังดีนะเนี่ยที่ห้องไม่ติดไฟอะพี่ยาคูลย์
ไม่อย่างเงียดายหนังสือแย่ถ้าติดขึ้นมา
พูดเล่นก้าบแค่พี่ยาคูลย์ปลอดภัยก็ดีแล้วก่ะ





โดย: TopFeeKIVI วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:4:19:03 น.  

 
ที่บอกว่าหนูเพ่นพ่านบนฝ้าน่ะ ใช่แน่อ๊ะเปล่า รึจะเปนปู้จายน้า

อ้อ..แนะนำสวนสาธารณะค่ะ อากาศร่มรื่น ที่สำคัญมิเสียตังค์ (แต่บางที่ก็เก็บแฮะ)


โดย: แฮมสเตอร์ วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:7:49:26 น.  

 
อ๊ะ เจ๊ออกนอกสถานที่



ยังมะเคยไปเดินเจเจมอลล์เลย เพื่อนชวนไปเอเชียบุ๊กส์เคลียแรนซ์เซลส์ก็ไม่ว่าง แง้



โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:9:08:18 น.  

 
มีได้ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศด้วยอ่ะคะ เราว่าดีน๊า
ไม่น่าเบื่อดีอ่ะคะ ว่าแล้วอยากไปเดินเล่นสำเพ็งจังเลย
เอิ๊กส์ๆ เผื่อว่าไปเผาผลาญแถวนั้นบ้าง ...


วันก่อนเกือบหยิบเที่ยวพิพิธภัณฑ์มาแล้ว แต่ว่ารอก่อน
เพราะว่าดันลืมตอนจ่ายเงิน ... ขี้เกียจเดินไปหยิบเลยแปะ
เอาไว้หนหน้า ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ ยังไม่รู้ว่าจะได้ซื้อ
เมื่อไหร่อ่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:11:09:12 น.  

 
โห...มีเปลี่ยนบรรยากาศ o_O


โดย: Clear Ice วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:12:40:31 น.  

 
มันอยู่ที่ไหนอ่ะพี่ เจเจมอลล์เนี่ย เห็นใจเด็กหลังเขาอย่างพัทหน่อย

พี่ๆๆ ปลายปีกลับบ้านแน่นอน เอาหนังสืออะไรป่าววว เดี๋ยวสั่งอเมซอนแล้วหิ้วกลับไปให้ค่า


โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:15:20:36 น.  

 
^
ตาลุกวาว รายชื่อหนังสือเริ่มหลั่งไหลมา 555

เจเจมอลล์มันก็คือเจเจนั่นแหละ เขาทำเป็นห้างติดแอร์ ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มด้วย


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:17:35:18 น.  

 
พัทสั่งมาจากอังกฤษ มันส่ง dhl ทุกทีเลยพี่ สองวันก็ได้แล้ว ค่าส่งรู้สึกเล่มละ 1.8 ปอนด์นะคะ เดี๋ยวถ้าพี่อยากได้ไรเช็คอีกที พัทสั่งเวลามันเซลประจำน่ะค่ะ ปกแข็งนี่ปลายปีซื้อคุ้มมากๆ พี่ลองเข้าไปดูในเวปก่อนนะคะ เผื่อมีไรน่าสน


โดย: พัท IP: 85.73.251.171 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:19:45:28 น.  

 
ที่บ้านมีหนูบนฝ้าเหมือนกัน ชัวร์ว่าเป็นครอบครัวหนู วันดีคืนดีจะวิ่งไล่กัน หลายเดือนก่อน มันโรยตัวลงมา คาดว่าอย่างกับซีล หรือ เมตริก คิดว่าขนาดนั้น เจาะมุ้งลวดบนเพดานลงเข้ามาในบ้าน อยากเอาแมวไปปล่อยใต้ฝ้า แต่ท่ามันจะแพ้ หนูคงตัวใหญ่มาก


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:14:27:31 น.  

 
^
ก๊ากก เหมือนครัวที่บ้านเลยค่ะ
หนูเจาะรูตรงโคมไฟกลมบนเพดาน ช่วงไหนเห็นหนูในครัว เงยหน้ามองบนขอบโคมไฟจะเห็นรูอยู่ (แสดงว่าหนูมันโรยตัวลงมาจากฝ้า)

แต่พอปิดรูไป (และจับหนูตัวที่เพ่นพ่านในครัวได้) หนูก็จะหายไป..สักพัก


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:16:00:05 น.  

 
มาอ่านแล้วก็..นะ

อืมม์..แปลกดีค่ะ อาจเป็นเพราะที่เราเคยไปอยู่ที่ร้าน (ซึ่งก็ต่างจังหวัด) เป็นกึ่งบ้าน เพราะงั้นเรื่องน้ำไม่มีปัญหาแน่ๆ

เสียดายจังไม่ได้ไปสำเพ็งในวันที่คุณยาคูลท์อยู่

ไม่งั้นจะซื้อหนังสือค่ะ (หนังสือไม่โอเหรอคะ? ทำไมขายตั้งครึ่งราคาอ่า?)


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:23:27:28 น.  

 
^
หนังสือโอค่ะ อยากขายให้คนอื่นอ่านเลยขายถูก ๆ ไง
ขี้เกียจไปตั้งทู้ขายในเว็บอื่นอ่ะ เบื่อเช็คเมล์
อุตส่าห์ลดครึ่งแล้วปัดเศษขึ้นให้เต็มสิบ
ดันไม่มีใครซื้ออีก ชิส์

...เก็บไว้ก่อนก็ได้ฟะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:23:44:02 น.  

 
ชอบเปิดมาฟังเพลงบล็อคนี้จังค่ะ



โดย: เอ่อ่อ่ะนะคะ วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:7:26:26 น.  

 
โหพี่ เรื่อง หน้าต่างลิขิตรัก เนี่ย เป็นหนึ่งในการ์ตูนหาโคตะระยากเลยนะคะเนี่ย เสียดายไม่มีเล่ม 1 อ่ะค่ะ
ไม่งั้นจะข้ามเมืองไปสอยมาเสียหน่อย


โดย: คิดนาน IP: 124.120.81.227 วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:21:07:07 น.  

 
^
ไม่ได้ขาดแค่เล่ม 1 นะ ช่วงท้ายก็ขาดด้วย
ไม่รู้ว่าเวอร์ชั่นนี้กี่เล่มจบ เพราะพี่มีอีกเวอร์ชั่น

แต่สำหรับคนอยากอ่าน
เล่ม 14 นี่จบช่วงของตัวนางเอกไปแล้ว ถือว่าได้อ่านครึ่งเรื่องก็ยังดี (เพราะพี่คิดว่าช่วงหลังที่เป็นเรื่องของตัวละครชายผมดำเนี่ย ไม่ค่อยหนุก)


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:1:00:05 น.  

 
เห็นโด้ยๆๆๆๆ

วิตโตริโอหล่อกว่าปาวารอตติหลายเท่าเลยฮ่ะ

(แต่ถ้าอายุเท่ากันแล้วเริ่มองค์อวบก็ชักเสียวๆ แง้ )


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.138.245 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:21:36:18 น.  

 
ช่วงนี้ร้านมือสองที่ไปประจำที่ซีคอนฯ กับที่ อิมฯสำโรง ก็ไม่ค่อยมีหนังสือถูกใจเลย หนังสือดีๆเริ่มไม่ค่อยมีมาขายเหมือนช่วงบูมแรกๆ

ช่วงนี้เลยต้องเข้าแต่ร้านหนังสือ มีแสตมป์นายอินทร์อยู่ 40 ดวง กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้ออะไรดี


โดย: ahiruno007 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:0:33:11 น.  

 
ถ้าหนังสือโอก็อยากขอซื้อจัง แต่ช่วงหนึ่งเดือนนี้เรายังไม่สะดวกทั้งการเข้าเน็ต (แบบเข้าได้บ้างบางช่วงน่ะนะคะ) ทั้งการไปไปรษณีย์ จึงไม่สามารถจะซื้อได้ค่ะ (จริงๆ จะซื้อหนังสือเพื่อนบล็อกอีกสองคน พอไปๆ มาๆ เลยไม่ได้ซื้อซะงั้นก็เพราะเหตุที่ไม่สะดวกนี่แหละค่ะ ของแฮมฯ เองก็ยังต้องให้เค้าเก็บไว้ให้เลย)

เฮ้อ..เมื่อไหร่ช่วงนี้จะผ่านพ้นเนี่ย


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:1:46:08 น.  

 
แหะๆ เพิ่งไปเห็นที่คอมเม้นท์

จริงๆ เราไม่ได้ชอบอ่านอะไรที่ "ตกผลึก" ทั้งหมดนะคะ กับบางงานเขียนออกจะรำคาญด้วยซ้ำ เพราะบางเล่มนี้เรารู้สึกว่าผู้เขียน "ประดิษฐ์" เกินไปน่ะค่ะ

แต่เล่มนี้นี่บอกไม่ถูกค่ะ อ่านแล้วชอบน่ะ ถูกจริตอย่างแรง แหะๆ



อ่า..ถ้าไปเจอมือสองจริงๆ ฝากซื้อหน่อยสิคะ อยากได้ง่า


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:1:52:56 น.  

 
เดือนนี้ เพิ่งได้ฟังเพลงที่เวบนี้ก็วันนี้ล่ะ น่ารักจังเลย คนที่บ้านถามใหญ่ เพลงของใคร... ของใครคะ

เรื่องตา ถ้าหมอตรวจแล้วไม่เป็นไรก็สบายใจเปลาะหนึ่งนะ แต่ก็ยังต้องสังเกตต่อไป เพราะหนอนหนังสือแบบพวกเราใช้สายตาเยอะมาก หมอบอกว่าอ่านหนังสือมาก ใช้สายตาเยอะกว่าดูทีวีมาก มากๆ เลย


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:21:37:12 น.  

 
^
จำได้แต่ชื่อเพลง Cool ค่ะ
น่าจะเป็นเพลงในละครหรือของนักร้องเอเชียค่ะ
แต่ไม่แน่ใจว่าใคร พอดีเก็บเพลงไว้อีกเครื่องน่ะค่ะ


คุณสาวไกด์ - ถ้าเจอจะคว้ามาให้ค่ะ
แต่โอกาสคงน้อยนะ เพราะเหมือนเคยเจอครั้งเดียวเอง
แสดงว่าไม่ใช่ร้านที่แวะประจำ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:16:17:49 น.  

 
ม่าม๊าแวะมาเยี่ยมจ้า



โดย: mamamodern วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:18:19:04 น.  

 
เจ๊ไปกินช็อกโกแลตต่อไหม บ่ายวันที่ 23 อะ

เราอดไปติ่มฯ รอบเที่ยง
ต้องพาเด็กนักเรียนไปตอบปัญหาง่ะ
แต่ถ้าเด็กๆ ตกรอบ เที่ยงก็แข่งเสร็จ 55 (จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีนะ เอิ๊ก)


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:13:36:07 น.  

 
อ่านของวันที่ 11 นึกถึงวิธีสอนอีกแบบหนึ่งขึ้นมาอะค่ะ ้เป็นแบบที่เขาเรียกว่าการศึกษาทางเลือก แต่ลืมชื่อจริง ๆ ไปแล้ว

คือเขาเชื่อกันว่าเด็กแต่ละคนจะมีช่วงเวลาที่พร้อมจะผลิบานไ่ม่เหมือนกัน ไปเคี่ยวเข็ญให้ทำพร้อม ๆ กัน บางคนก็อาจจะได้ บางคนก็อาจจะไม่ได้ การศึกษาสายนี้เขาทำยังไงก็จำไม่ได้แล้ว แต่ที่จำได้แม่นคือพอถึงเวลาหนึ่ง เด็กจะอยากทำ และความรู้ที่ใส่ลงไปจะแสดงผลขึ้นมาเอง (ก่อนนี้ใส่ไปอาจจะไม่มีปฏิกิริยาละมั้ง) มีคนทดลองทำแล้ว เขาว่าทำให้เด็กรู้จักโยงสิ่งที่เรียนกับการปฏิบัติจริงได้มากกว่า แต่เท็จจริงยังไงไม่รู้เพราะไม่เคยเจอเอง

เรื่องไม่ต้องช่วยเด็กทำการบ้านนี่ เพิ่งไปอ่านกระทู้แนะนำที่ห้องสมุดมา เห็นเขาคุยกันว่าให้เด็กรู้จักเจออุปสรรคบ้าง ผิดหวังบ้าง ไม่ใช่ช่วยไปหมดแล้วก็เลยไม่รู้จักช่วยตัวเอง

แต่ว่าคิดอีกที คนที่ทำไม่ได้จริง ๆ แล้วตกเป็นเป้าให้ครูประจานกลางห้องเนี่ย มันก็จะกลายเป็นไม่ค่อยดีอีก แบบว่าเคยโดนแล้วตอนเด็ก ๆ ไอ้เราก็เป็นเด็กแบบแค่ถูกขมิงตาใส่ยังรู้สึกผิดเลย มันเลยน่ากลัวมากเลยแหละค่ะ = =''

ป.ล.ตอบแล้วถูกบล็อคไป สงสัยจะติดที่คำว่า ขะมะอึง...


โดย: ลวิตร์ วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:0:19:13 น.  

 
เคยเห็นเด็กป 2-3 แถวบ้านทำการบ้านเลข ให้หาจำนวนเฉพาะหรือตัวร่วมอะไรนี่ เรายิ่งโง่เลขอยู่ เห็นเด็กตัวเท่านี้แล้วทึ่งบวกเศร้า ถ้าพ่อแม่ไม่เข้าใจ จะไปสอนได้ไงนี่ ตอนเราเรียนก็ไม่มีคนสอนเลข ก็เลยยังแย่จนทุกวันนี้ โรงเรียนดี แต่ครอบครัวก็สำคัญนะ มีส่วนทั้งสองอย่าง


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:16:33:02 น.  

 
การบ้านน่ากลัวจัง
ตีโจทย์ยังไม่แตกเลยอะ
อะไรคือคำที่มีความหมายเหมือนการบวก?
อ๊าก เครียด


โดย: ทินา IP: 58.64.71.171 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:20:49:18 น.  

 
การบ้านอะไรทำมันมันยากยังงั้นเนี่ยพี่ กี๊ด เป็นหนูตกไปแร้ว ว่าแต่เรียนแบบบูรณาการเป็นไงคะ

เคยสอนการบ้านภาษาอังกฤษเด็กโรงเรียนฝรั่ง ลูกของเพื่อนพี่สะใภ้อีกที (งงแมะ) หูย ยากโคตร เล่นเอาพัทกับสามีแทบตีกัน กร้าก พี่สะใภ้มองแล้วบอกว่า นี่นักเรียนนอกทั้งคู่นะเนี่น กร้าก ถ้านอกตั้งแต่ปอสามคงทำได้อ่ะค่ะ ยากเป็นบ้าเลย

แล้วลูกเด็กเล็กแดงจะเอาเวลาที่ไหนไปวิ่งเล่นให้สมวัยอ่ะพี่


โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:23:12:22 น.  

 
คุณลวิตร์ - ระบบที่ว่านี่น่าจะคล้ายกับของหลานเราค่ะ
จำคอนเซปต์ "น้ำซึมบ่อทรายแล้วอยู่ ๆ ก็รู้แจ้ง" ได้
หลานคนแรกนี่ยังสะกดคำไม่เป็นเพราะระบบนี้แหละ
ทึ่งและชอบคอนเซปต์นะ แต่เห็นเด็ก 6 ขวบยังสะกดคำไม่ได้แบบนี้ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้เหมือนกัน

ส่วนหลานอีกคน ไปโรงเรียนวาดรูปเป็นหลัก ต้องวาดเน้นจินตนาการด้วยนะ ถ้าวาดเหมือนจริงจะได้คะแนนน้อยกว่า (นัยว่าเพื่อฝึกให้คิดนอกกรอบ)

คุณอั๊งอังอา - ครอบครัวดีก็สำคัญค่ะ แต่ถ้าครอบครัวเด็กไม่ดี/เก่งพอจะสอน ระบบแบบสมัยนี้อาจไม่เวิร์คนะ

น้องทินา - พี่ยังไล่คำตอบไม่ครบอยู่เลยเนี่ย
อยากดูเฉลยเป็นบ้า...

พัท - เด็กสมัยนี้วิ่งเล่นนอกบ้านไม่เป็นแล้วละ พัท
หลานพี่รู้จักแต่ดูหนัง เล่นเกม ลานเด็กเล่นในห้าง


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:0:14:51 น.  

 
เหอๆ อ่านแล้วก็ได้ประโยชน์ค่ะ เพราะตัวเองก็ต้องให้การบ้านเด็กอยู่ แต่ก็ไม่ได้ให้ยากมาก (คิดว่างั้นนะ)

โรงเรียนตัวเองก็เน้นให้สอนแบบบูรณาการเหมือนกัน ซึ่งปัญหาที่เราเจอกับเด็กตอนนี้ก็คือ เด็กพูด-ฟัง คล่องมากกกกกกก

แต่ทักษะการเขียนและอ่านนี่..ศูนย์ค่ะ ศูนย์

เด็กปอสาม พูดศัพท์ยากๆ ได้ แต่เขียนไม่ได้เลยยยยยยยยยยยยยย

เขียนอักษรยังผิดอยู่เลย จีเล็กหางอยู่บนเส้น เจเล็กหางอยู่บนเส้น เขียนตัวพิมพ์ใหญ่ปนกับพิมพ์เล็ก ฯลฯ

ดูเหมือนหยุมหยิมนะคะ

แต่สมัยเราเรียน ไอ้การเขียนแบบนี้มันต้องเป็นของเด็กปอหนึ่งเท่านั้น จบปอหนึ่งแล้ว การเขียนต้องเริ่มแข็งแรงแล้วน่ะ แต่นี่ ปอสามยังเป็นอย่างนี้

เพื่อนครูภาษาไทยก็บ่นกันตรึม เด็กเขียนหนังสือแย่มาก

ส่วนหนึ่งเพราะนโยบายโรงเรียนด้วยค่ะ


เราเองหวังว่าตัวเองจะอยู่จนครบปีการศึกษานี้เป็นอย่างน้อย เพราะสงสารเด็กอ้ะ (ครูคนก่อนสอนเทอมเดียวก็ชิ่งเลย - แต่เราเริ่มเข้าใจแล้วค่ะ หลังจากอยู่เกือบเดือนว่าเค้าทนไม่ได้เพราะอะไร)

เฮ้อ..ไม่รู้เลือกที่ผิดหรือเปล่า จริงๆ เลือกอีกที่น่าจะดีกว่านะนี่



ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับหนังสือ (ถ้าเจอ) นะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:21:30:10 น.  

 
"ตกลงสรุปว่าเล่มนี้เป็นเรื่องแบบไหนอ่ะ
ลึกลับ? ปรัชญา? ..แต่คงไม่ใช่ไซไฟนิ"

ถามอย่างนี้แสดงว่าไม่เคยอ่านมุราคามินิ หนังสือเขามีแนวเดียวคือดราม่าแบบเหนือจริงจ้า แต่พวกกรรมการหนังสือแฟนตาซีหรือไซไฟก็ชอบยัดเยียดรางวัลมาให้พี่แกจังเล้ย


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:1:12:19 น.  

 
อยากไปดูหนังของ เชิด ทรงศรี เหมือนกันครับ

แต่ไกลจัง แล้วตั๋วต้องโทรจองเลยเหรอครับเนี่ย



โดย: ahiruno007 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:12:17:34 น.  

 
กลับมาอีกรอบ

อ้ะ..อยากดูเหมือนกันแฮะหนังของเชิด ทั้งสองเรื่องน่าดูทั้งสองเรื่องเลยอะค่ะ

แต่..เหมือนเคย

คงไม่ได้ดู


แถมงานหนังสือปีนี้จะได้ดูหรือเปล่าก็ไม่รู้อ้ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:0:35:21 น.  

 
อา..อยากดูทวิภพเวอร์ชั่นเก่า

ดีจังนะคะ ได้รู้สึกดีๆ จากอะไรเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว
พูดถึงเด็กร้องเพลงไทยชัดแล้ว มาดูตัวเองก็สงสัยเหมือนกันว่า
บางทีเราก็พูดคำควบกล้ำไม่ค่อยชัดรึเปล่าหว่า
ตอนนี้รู้สึกตัวเองพูดเร็วขึ้น แล้วไม่ค่อยออกตัว ร ตัว ล ชัดๆ เท่าไหร่เลย



โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:9:39:03 น.  

 
แอ๊ สอนการบ้าน


เคยช่วยน้องทำการบ้านสมัยมันอยู่ ป. 6
สรุปเรื่องมาทิลดา + เจมส์ลูกพีชยักษ์ พร้อมวิเคราะห์งานของโรอัลด์ ดาห์ล ส่งเป็นรายงานวิชาภาษาอังกฤษ
ตอนนั้นรู้สึกโฮกเป็นกำลัง เด็กสมัยนี้มันเรียนอะไรแบบนี้แล้วเหรอเนี่ย อิจฉาน้องจัง 55

ปล. คิดเหมือนสาวไกด์อ้ะ
ระบบบูรณาการไม่เหมาะกับเด็กทุกคนจริงๆ
เด็กเก่งเรียนแบบนี้ ไปฉลุย เด็กเก่งไม่เท่าเพื่อน โหย นรกชัดๆ
ตัวอย่างที่เจอตอนนี้คือ มันโดดเรียนวันเว้นวัน เจาะจงโดดวันที่ครูจะให้ออกมาทำแบบฝึกหัดหน้าห้อง


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:11:30:17 น.  

 
คุณยาคูลท์เข้าขา ขอถามนอกเรื่องนิดนึงซิคะ ที่คุณยาคูลท์บอกว่าในงานหนังสือจะมีบูธที่นำหนังสือของดวงตะวันปกแรกๆมาลด 50% อ่ะค่ะ ไม่ทราบว่าบูธอะรัยเหรอคะ กีกี้อยากตามไปสอยค่ะ...ตอนนี้กำลังหาซื้อนิยายที่น่าอ่าน+อ่านสนุกมาเก็บไว้ค่ะ


โดย: กีกี้ IP: 203.131.210.149 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:13:14:07 น.  

 
^
"รุ่งวัฒนาส่งเสริมการอ่าน" ค่ะ

แต่พอตอบแล้วถึงนึกได้ บูธนี้มั้งที่โดนจับข้อหาขายการ์ตูนโป๊เมื่องานต้นปี เห็นข่าวว่าโดนแบนห้ามเปิดบูธในงานหนังสือตลอดไป
... ไม่รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงรึเปล่า

หนังสือนิยายของดวงตะวันแบบพิมพ์แรก ลองหาตามบูธขายหนังสือมือสองอื่นก็น่าจะพอได้ค่ะ แต่รุ่งวัฒนาฯ มีเยอะที่สุด เพราะเขาเหมาหนังสือจากสนพ. ในราคา 30% มาขายครึ่งราคาน่ะค่ะ (รู้มาจากการคุยกับเจ้าของร้านหนังสือ)



โดย: ยาคูลท์ วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:10:00:07 น.  

 
ขอบคุณกั๊บบบคุณยาคูลท์ ที่มาไขความกระจ่างให้
กีกี้เคยเจอร้านรุ่งวัฒนาเหมือนกันนะ เค้าเคยไปจัดงานที่อิมแพ็คเมืองทองธานี กีกี้เคยไปอุดหนุนเหมือนกันนะคะ แต่ว่าไม่มีหนังสือของดวงตะวันละอ่ะ สงสัยขายหมดละ

กีกี้ไม่แน่ใจว่าร้านหนังสือที่อยู่ตรงทางออกของศูนย์สิริกิตติ์ บริเวณโซนฟู้ดเซ็นเตอร์อ่ะค่ะ ใช่ร้านรุ่งวัฒนารึเปล่า แต่ก็ไม่เห็นมีหนังสือของดวงตะวันอยู่ดีตอนนี้กำลังสะสมหนังสือนิยาย ซื้อราคาเต็มไม่ไหว แพงเหลือเกิน ลด 20-30% ก็ยังแพงอยู่ดี ตอนนี้เลยมองหาร้านหนังสือที่ลด 50% ทั้งหลาย เงินในกระเป๋าจะได้ไม่ปลิวไปมาก


โดย: กีกี้ IP: 61.91.163.177 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:10:34:35 น.  

 
คุณยาคูลท์ขา

มิวเพิ่งจดหมายส่งหลังไมค์ให้คุณค่ะ

แล้วคุยกันนะคะ


โดย: Mutation วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:13:45:18 น.  

 
^
เห็นแล้วค่ะ เดี๋ยวคุยกัน

คุณกีกี้
วันนี้ (อาทิตย์ ตอน 2 ทุ่ม) เห็นเรื่อง "แหวนดอกไม้" 1 เล่ม ที่ร้าน 50% ตรงข้ามมาบุญครองค่ะ คิดถึงคุณกีกี้ขึ้นมาเลย แต่ไม่รู้จะบอกยังไง
ถ้าเผอิญได้แวะไปแถวนั้นก็ลองไปหาดูนะคะ เผื่อจะยังอยู่


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:21:56:42 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณยาคูลท์ที่อุตส่าห์นึกถึง เรื่องแหวนดอกไม้ กีกี้มีแล้วค่ะ กีกี้อยากได้เรื่องของลุงช้างกะมดตะนอย เรื่องรัยน๊อออ จำไม่ได้ค่ะ ละก็เรื่อง มีมี่กะกระเต็น น่ารักดีค่ะ ส่วนเรื่องของธิโมส์ มีหมดละค่ะ

กีกี้คงไม่มีโอกาสได้แวะไปแถวนั้นหรอกค่ะ กีกี้ทำงานอยู่นอกเมืองโน้นนนค่ะ บ้านก็อยู่นอกเมือง


โดย: กีกี้ IP: 203.131.210.149 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:11:40:18 น.  

 
โห พี่ติ่มอยู่แถวนั้นถึงสองทุ่มเลยเหรอ
ขนอะไรกลับจากคิโนะมาบ้างอ่า


โดย: ทินา IP: 203.155.231.113 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:22:49:01 น.  

 
^
บอกไม่ได้เด้อ มันแสดงความหมกมุ่นฟุ้งซ่านเกินงาม


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:22:33:05 น.  

 
^
บอกงี้ก็รู้กันทั้งตำบลแล้วเจ๊


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.145.121 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:18:34:08 น.  

 
รุ่งวัฒนาถูกแบนในงาน เลยไปเช่าที่ฟู้ดเซนเตอร์ขายหนังสือแทนค่ะ

...ประมาณนี้แล


โดย: เคียว IP: 128.86.158.253 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:0:17:07 น.  

 
คุณเคียว - หวัดดีค่ะ เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วสินะถึงมาเล่นเน็ตได้
... รู้สึกเหมือนเห็นรุ่งวัฒนาที่เจเจมอลล์ ตอนไปเฝ้าร้านให้ญาติเหมือนกัน แต่ไม่ได้เดินเข้าไปดู

ชุน - เออเนอะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:9:03:27 น.  

 
พี่ติ่มมมม วันก่อนไปคิโนะ พารากอน
เห็น God Omnibus กลับมาแล้วน้า ยังสนไหมอะ

อีกอย่าง เพิ่งจำได้ว่ามี Discworld large print อยู่เล่มนึง
(ประมาณว่าฝากญาติซื้อมาสะสม แต่ดันซื้อมาให้ผิด)
ชื่อตอนว่า The Truth เกี่ยวกับวงการหนังสือพิมพ์
พอจะเริ่มอ่านได้อยู่ ไม่ได้อิงตัวละครเก่ามากเท่าไหร่
ถ้าสนใจให้ยืมได้นะค้า


โดย: ทินา IP: 203.155.231.95 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:22:06:16 น.  

 
^
อ่ะ สนตั้งแต่ going postel แล้วง่า
แต่เดือนหน้ามีงานจ่ายเข้ามาแล้ว ขอดูงานก่อนเด้อ
ตอนนี้เห็นแต่หัวข้อ ไม่รู้เนื้องานว่ายากง่ายประการใดอ่ะ
อีกอย่าง ช่วงกลางเดือนคงหายศีรษะไปเดินงานหนังสือด้วย
ยืมมาก็ ...ดองชัวร์! (รับประกันโดยเจ้าแม่กองดองเบลอ)


เจี้ยก วันมีทติ้งไปเดินกับเหมียวยิ้มไม่ยักเห็น God Om นิ
ไม่งั้นได้ลดด้วย เอาไงดีหว่า
เดือนนี้อยากเก็บเงินไว้เดินงานหนังสือมากกว่านะเนี่ย
... (คิดสามวิ) ...
แท้งกิ้วจ้า แต่รอไว้ซื้องวดหน้าละกัน ดูท่าแล้วมันคงมาเรื่อย ๆ ละมั้ง?


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:4:06:22 น.  

 
เจ๊... เรื่องรมยากันยุงนี่ น่ากลัวอะ อย่าทำอีกนาเจ๊
ถึงเราจะมีเก้าชีวิตแต่พวกเราตายได้ครั้งเดียวนะ 55


ปล. เคสรุ่งวัฒนา
เห็นในเ็ว็บที่ฟ้องร้องอดีต พนง. ตัวเอง
คอลัมน์กระเทยปากจัดกัดเจ็บ จิกจองล้างมาเป็นปีแล้ว
ไม่รู้เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไยอะไรกัน เอิ๊กๆๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.202.175 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:11:15:20 น.  

 
โห..อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลยค่ะ

เราคิดว่ามันจริงร้อยเปอร์เซนต์เหมือนกัน ไม่คิดว่ามันอาจจะมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้พิสูจน์ไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์อย่างที่คิด

ขอบคุณที่เอามาบอกเล่ากันนะคะ


คิดถึงจขบ.จังเลย


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:11:37:09 น.  

 
อ่านแล้วช็อค นั่นงานอดิเรกจขบ.เหรอเนี่ย กร๊ากกกกก


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.15.142 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:17:25:23 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันใน blog นะคะ ^^ ดีใจที่รู้ว่าคุณยาคูลท์แอบอ่านอยู่ด้วย

ปาร์วานีห์ ราชินีบัลลังก์ผีเสื้อกำลังจะคลอดแล้วค่ะในงานหนังสือนี้ค่ะ แหะๆ ฝากข่าวมาบอกกันค่ะ

ปล.ความคิดเรื่องนิติวิทยาศาสตร์นั้นน่าสนใจมากๆค่ะ อยากรู้ว่าอยากอ่านเรื่องราวสมมุติฐานและเรื่องราวแบบนี้จะอ่านได้จากหนังสือเล่มไหนคะ หรือว่าอ่านจากหลายๆเล่มมารวมกัน ^^ ชอบอ่านหนังสือแบบนี้ค่ะ ขอบคุณนะคะ


โดย: ฟองคลื่น คืนจันทร์ พันดาว วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:19:07:23 น.  

 
รบกวนถามนี๊ดครับ

แบบว่าอยากได้หนังสือ แกงไก่ล้างโลกแล้ว ฤาไฉน มากๆๆๆ จะต้องไปหาที่ไหนได้อ่ะครับ หาที่ไหนก็ไม่มี
ถ้าคุณยาคูลท์พอจะรู้แหล่ง รบกวนตอบกลับที่ su_mufc@hotmail.com ให้ทีนะครับ

รบกวนตอบหน่อยนะครับ ถึงแม้จะไม่รู้ก็ตามครับ
ขอบคุณมากๆครับ


โดย: สุ IP: 203.209.124.111 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:19:48:42 น.  

 
โห ยาวเหยียด
อ่านกันเหนื่อย

เลยไม่รู้จะตอบประเด็นไหนดี

หมู่นี้ไม่เห็นอัพบล็อกหนังสือเลยตัวเอง


โดย: grappa วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:5:41:29 น.  

 
โอ...ยาวเหยียด เดี๋ยวตามอ่านกระทู้ดีกว่า


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:18:28:05 น.  

 
เรื่องหนังสือชำรุด ได้มา 3-5% ของทั้งหมดที่ซื้อ บางทีก็เบื่อๆ ถ้าเล่มนึงเจอเยอะๆ แต่ก็ขี้เกียจเอาไปเปลี่ยนนะ นอกจากมีหน้าหายไปตอนสนุกพอดี บางทีก็อยากเก็บไว้ด้วย ประมาณว่าของไม่ปกติ อยากมีครอบครองไว้ ซึ่งไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:21:17:50 น.  

 
ปาฏิหารย์รักต่างภพ เกือบซึ้งค่ะ แต่ยัง แค่อินมู๊ดเล็กน้อย ยืนยัน คุณยาคูลท์กับเราไม่ผิดปกติแต่อย่างใด ก็อ่านนิโคลัส สปาร์ก ยังหน้าตาเปียก จมูกแดง เลยนะ


โดย: อั๊งอังอา IP: 124.120.131.243 วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:1:44:16 น.  

 
อืม....จริงๆ แล้ว การตัดสินไม่ลงโทษคนร้ายเพราะหลักฐานไม่แน่นหนาพอนั้น ดีกว่าการลงโทษผิด ทำให้คนดีๆ ต้องรับกรรมจริงๆ นะคะ

คิดอย่างนี้เพราะเชื่อเรื่องกรรมนะ คนทำชั่ว ไม่ต้องไปกระเหี้ยนกระหืออยากให้เขาต้องโทษ เขาก็ต้องรับกรรมอยู่แล้วละ

แต่อ่านหลักการพิสูจน์หลักฐานที่พอนานๆ ไปแล้วผิดพลาดนี่
สยองจริงๆ เมื่อนึกถึงว่า จะมีคนบริสุทธิ์ถูกลงทัณฑ์ไปแล้วมากเท่าไหร่


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:9:06:11 น.  

 
จริงๆ เรื่องของคุณนพดลกับคุณหญิงหมอนี่

ผมว่าประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ การพิสูจน์เกิดความผิดพลาด แต่คุณหญิงหมอด่วนตัดสินใจ แล้วก็เชื่อมั่นในตัวเองมากจนเกินไป เพราะเห็นมีคุณหมออีกหลายท่านที่ออกมาเห็นแย้งกับคุณหญิงหมอก็ตั้งหลายคน

ก็น่าเห็นใจคุณนพดลเหมือนกัน เพราะการตกเป็นผู้ต้องหาของสังคมเป็นเวลาเกือบ 10 ปีได้มั๊ง มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยนะครับ

วันนั้นดูรายการคุยแหกโค้ง(ชื่อนี้ป่าวหว่า?) คุณนพดลมาออก เห็นว่าจะเรียกพันล้านไม่ใช่เหรอครับ แกบอกว่าแกจะไม่เอาสักสลึงด้วย จะบริจาคหมด


ส่วนกรณีสาวอ้วนนี่ไม่มีความเห็นครับ เพราะไม่เคยใช้บริการ


โดย: ahiruno007 วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:14:27:40 น.  

 
online pharmacy delivery [url= https://forums.dieviete.lv/profils/127605/forum/ ] https://forums.dieviete.lv/profils/127605/forum/ [/url] drug testing policy


โดย: BrandonLah IP: 51.210.176.129 วันที่: 18 เมษายน 2567 เวลา:2:24:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.