25 เมษายน 2551 อยู่ในโหมดอารมณ์อับเฉาอ่านไรก็ไม่หนุก กินไรก็ไม่หร่อย (ร้อนในมีแผลที่ปากอีกต่างหาก)ปลายเดือนก่อน มีโอกาสได้ฝากเพื่อนขนหนังสือจากเมกาแต่ดันไม่มีที่อยู่โรงแรม กว่าจะได้คุยกับเพื่อน...ก็สั่งอเมซอนไม่ทันแล้วเซ็งมากกกกก เพราะมีสองเล่มที่หาในไทยไม่ได้ และถ้างวดนั้นสั่งทัน..ก็จะราคาถู๊กถูกวันก่อนเพิ่งได้ดู An Inconvenient Truth เออ การนำเสนอผ่านภาพและเสียงมันเวิร์คกว่าตัวหนังสือเยอะเลยตอนอ่านหนังสือหรือเปิดอ่านเรื่องนี้ตามเน็ตจะไม่รู้สึกอึ้งขนาดนั้นน่ะที่แปลก คือ จขบ. ดูหนังไป ก็คิดว่าเอามาแต่งเป็นแฟนตาซีได้นะมีฝ่ายเป็นกลาง คือ ภูติน้ำแข็ง ภูติน้ำ ภูติไฟ ภูติลม ฯลฯ ซึ่งพยายามช่วยมนุษย์ด้วยการบอกใบ้ถึงอวสานโลกผ่านธาตุของตน (แต่จะไม่มีการลงมือช่วย เพราะพวกเขาต้องทำตามกฎธรรมชาติ)ตัวร้ายน่าจะเป็นเทพพิทักษ์สัตว์หลาย ๆ อย่าง ร่วมกันสมคบคิดวางแผนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ for a greater good นั่นคือปกป้องโลก หลังจากทนเผ่าพันธุ์นี้มานานมนุษย์เองก็น่าจะแบ่งแยกเป็นฝักฝ่าย ทั้งพวกเห็นแก่เงิน พวกที่คิดถึงแต่ความอยู่รอดเฉพาะของกลุ่มตัวเอง และพวกที่คิดถึงภาพรวม (แต่อาจละเลยคนใกล้ตัว และต้องเสียสละบางอย่างไปในที่สุด)ตัวช่วยหรือเป้าหมายของภารกิจ คือ ภูติต้นไม้ พลังหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรสักอย่างที่สร้างพืชพรรณได้ (คล้ายๆ พระเอกเรื่อง Silver Diamond) และภูติหรือไอเท็มนี้จะต้องเป็นสิ่งที่มนุษย์ทอดทิ้งละเลยไปนานแล้ว อาจจะมีภูติเทคโนโลยีอีกตัวคอยขัดขวางไม่ให้คนนึกถึงภูติต้นไม้ด้วย...ให้เรื่องมันยุ่งขิงมากขึ้น อิอิแน่นอนว่าต้องใส่พล็อตรักใคร่กุ๊กกิ๊กไว้อีกนิดด้วย ล่อให้คนอ่าน ... เคยมีคนบอกว่า LOTR เป็นการเขียนเชิงสัญลักษณ์ จขบ. คิดว่าน่าจะมีคนเอาเรื่องจริงในศตวรรษนี้มาแปลงกลับไปเป็น fiction ในลักษณะเดียวกันได้นะ พล็อตกับแง่มุมต่าง ๆ มีอยู่แล้วอ่ะ 22 เมษายน 2551 เพิ่มเติม: เหตุสยองยามค่ำเพราะวันนี้ว่าง เลยแวะร้านหนังสือมือสองที่จรัญ ขากลับ นั่งรถเมล์เขียวสาย 40 พร้อมกับโทรคุยกับเพื่อน ซึ่งกำลังรออยู่ที่เมเจอร์ปิ่น เวลาตอนนั้นประมาณเกือบ 3 ทุ่ม จขบ. นั่งเก้าอี้หลังคนขับตัวที่สอง แต่ตัวแรกไม่มีผู้โดยสาร รถแล่นไปตรง ๆ จากแม็คโคร ยังไม่มีเลี้ยว รถไม่ได้ติดอะไรคุย ๆ อยู่ก็มีเสียง "ว๊าย!" แล้วคนก็แตกฮือลงรถจขบ. ค่อนข้างประสาทช้า เงยไปมองสักพักถึงดูออกว่ามีผู้ชายวิ่งขึ้นรถมาจะเล่นงานคนขับรถเมล์ มีกระเป๋ารถเมล์หญิงขวางอยู่ ร้องว่า "อย่าพี่ อย่า"วิญญาณนักข่าวเข้าสิง (?) จขบ. มองแล้วก็เล่าภาพที่เห็นให้เพื่อนฟัง แต่พอเหลือบไปเห็นว่าผู้ชายถืออาวุธคล้ายใบเลื่อยขึ้นมาเงื้อง่า ก็ผงะ นึกได้ว่าสมควรหลบลงรถ..ด่วนบรรดาผู้โดยสารสิบกว่าคนลงจากรถมาดูเหตุการณ์ข้างล่าง กระเป๋ากอดคนร้ายไว้แน่น ยื้อกันอยู่แถวทางขึ้นรถประตูหน้า เธอร้องตลอดว่า "อย่าพี่ อย่าทำ" "พี่ สงสารลูกหนูด้วย" "พี่ หนูมีลูกนะ พี่อย่าทำ" ฯลฯ (เธอเป็นภรรยาคนขับ)จขบ. คิดว่าถ้าไม่เพราะกระเป๋าคนนี้ งานนี้เห็นเลือดไปนานแล้ว เธอยื้อยุดคนร้ายไว้ กอดและร้องขอความเมตตาตลอด นานร่วม 10 นาที ...ระหว่างนั้น จขบ. ยังสติไม่มา พอเริ่มมีสติก็มองแถวนั้นว่ามีใครช่วยได้ไหม แต่มันเป็นช่วงริมถนนมืด ๆ ไม่มีร้านรวงอะไร เลยตัดสายเพื่อน รีบกด 191 ซึ่งสัญญาณไม่ผ่านเสียที ใจเต้นแทบตาย..กลัวคนร้ายจะโมโหลงมือจริง ๆ พยายามอ่านป้ายทะเบียนรถกระบะข้างหน้า (ฬก 8อะไรสักอย่าง มองไม่ชัดเพราะติดไฟไว้ส่องป้าย ท้ายหรือหน้ารถมีไฟนีออนรูปวงกลมเปิดไว้) อีกใจคิดว่าจะเปลี่ยนไปถ่ายรูปรถ/คนไว้ก่อนดีไหม? เผื่อได้ใช้โชคดีที่คนร้ายไม่คลั่งอีก สักพักก็มีผู้ชายอีกคนลงจากรถกระบะมากล่อมเขากลับไป (เอ่อ ทำไมเพิ่งลงมาคะ? ถ้าคนร้ายฟาดใส่คนขับตั้งแต่ทีแรกที่วิ่งขึ้นรถ ก็แก้ไขอะไรไม่ทันแล้วนา) รถสองคันขับต่อไป คนขับรถเมล์ทำท่าฮึดฮัด เหมือนจะบี้รถตาม แต่กระเป๋ากอดไว้แล้วบอกให้นึกถึงลูก "แล้วลูก 3 คนล่ะพี่" ป้าคนหนึ่งช่วยกล่อมคนขับ แล้วถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ได้ความว่ารถกระบะจะเลี้ยวออกมาถนนหลัก แต่รถเมล์เขียวไม่ให้ (ซึ่งตามกฎจราจร รถบนเส้นทางหลักมีสิทธิ์ไม่ให้นะ ไม่ผิด) รถเขียวก็ไม่ได้ขับกระชากอะไรด้วย จขบ. นั่งคุยโทรศัพท์ชิลชิล ไม่รู้สึกว่าคันนี้ซิ่งอะไรเป็นพิเศษ ... อึ้ง ๆ เหมือนกัน คือ สมมติว่างานนี้คนขับโดนฟันตาย ถามว่าตายเพราะอะไร? เพราะไม่เปิดทางให้รถเลี้ยว ...แค่เนี๊ยะ?? พ่อของลูกสามคน เมียก็ยังเป็นเด็กสาวอยู่เลยนะ เป็นสาเหตุการตายที่อนาถมาก คนเดี๋ยวนี้อารมณ์ร้ายกันจัง (ว่าแต่เขา ตัวเองตอนจะขึ้นรถเมล์ยังอยากจะยันคนเดินช้าข้างหน้าออกไปให้พ้นทางเหมือนกัน)หมายเหตุ:- เรื่องนี้ทำให้อยากเปลี่ยนมือถือเป็นแบบที่กดถ่ายรูปได้ทันทีจัง เครื่องนี้เก่ามาก ถึงถ่ายก็คงมัว และยังต้องถอดปลอกออกมาอีก กว่าจะนึกได้ว่าควรถ่ายรูป กว่าจะถอดโน่นนี่ ก็สายไปแล้ว- เพิ่งแน่ใจว่าตัวเองเป็นพวกที่จะตายกลุ่มแรกในยามเกิดเหตุรุนแรง เพราะปฏิกิริยาเฉื่อยมาก เกือบจะเรียกได้ว่าไม่มีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด- 191 หรือหน่วยงานอะไรก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้ เวลาคับขัน(เอ หรือเขาเปลี่ยนเบอร์นี้ไปแล้วหว่า? เป็นเบอร์ที่จำมาจากสมัยก่อนโน้น ไม่ค่อยตามข่าวเสียด้วย)* * * * * * * *หลังจากไม่ทำงานทำการร่วมครึ่งเดือน (ช่วงก่อนงานสัปดาห์หนังสือ) ผลกรรมก็ตามทัน กำหนดส่งงานร่นมาติดกันเป็นพืดช่วงนี้ ห้ามอู้แบบเก่าเด็ดขาด เมื่อคืนเกือบซวย เปิดคอมพ์แล้วก็พบว่า...ตายหอง! วันนี้เดดไลน์ 22 แล้วนี่หว่า(แผนเดิมนึกว่าจะทำงานคืนที่ผ่านมานี้ กับคืนพรุ่งนี้จนเสร็จ แล้วส่งตอนเช้า)รีบทำตาลีตาเหลือก ไม่ประดิษฐ์ประดอยล่ะ นี่คือข้อเสียของการตื่นกลางคืนนอนกลางวัน รู้สึกนี่จะเป็นครั้งที่สองแล้วที่จำวันคลาดเคลื่อน แต่คราวก่อนจำเลื่อนขึ้น ทำให้มีเวลาเพิ่มอีกวันเลยไม่เป็นไร คราวนี้ดันจำเลื่อนลง...ดีนะว่าทำงานเก็บไว้บ้างแล้ว ไม่งั้นซวยแน่การ์ตูนใหม่น่าสนพันหนึ่งราตรี (ค่ายไม่คุ้น) - ถึงจะโดนจับยัดเข้าหมวด y แต่เนื้อเรื่องเท่าที่อ่านไปแล้ว 4 เล่มนี่ไม่เน้นวายเท่าไหร่ มีฉากชวนจิ้นน้อยมาก คนเขียนเปลี่ยนสนมในเรื่องให้เป็นผู้ชายแค่นั้นเอง มีรายละเอียดนอกเรื่องที่ยังไม่รู้บทสรุปอีกหน่อย (ตรงบทสรุปนี่แหละที่มีสิทธิ์วาย) เนื้อเรื่องส่วนของนิทานยังหลากหลายอารมณ์ สนุกดีด้วย สงครามปราบยักษ์ Momotama (บงกช) - เพิ่งเล่มแรก แต่ตัวเอกตาขวางได้ใจง่ะ คือ การ์ตูนเนี่ย แค่ชอบตัวเอกก็ได้ใจไปครึ่งแล้ว เล่มนี้เปิดเรื่องน่าติดตามด้วย สมมติเกาะขึ้นมาให้เป็นดินแดนของโมโมทาโร่ มีทายาทโมโมทาโร่สืบทอดต่อมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนสอนปราบยักษ์ ตัวเอก(ในความคิดจขบ.) คือทายาทยักษ์ที่ข้ามมิติมา บริวารโมโมทาโร่เช่น หมา ลิง ไก่ฟ้าก็มีทายาทที่มีรูปร่างเป็นคน (และดูฮาดี)anyway เรื่องนี้คงต้องดูต่อไปอีกสักเล่มสองเล่มถึงบอกได้ว่าดีจริงไหม แต่เท่าที่ดูเล่มแรกนี่..มีสิทธิ์ลุ้นPost Book Fairซื้อหนังสือจิปาถะสารพัดแนวมา ทั้งนิยายไทย นิยายแปลดราม่า แฟนตาซี รักหวานแหวว เรื่องสั้น ฯลฯ ปรากฎว่าช่วงที่ผ่านมาอยากอ่านแต่นิยายป้าวลัยกับการ์ตูน! อ่านเกลี้ยงเหี้ยนสต็อกแล้วเนี่ย แย่จังกระทู้น่าสน ขอให้ชายไทยโปรดเข้ามาในนี้ครับ เรื่องค่าสินสอดครับ..แง่ม เสียดายกระทู้ต้นฉบับอันแรกหน้าขาวไปแล้ว กระทู้นั้นอ่านเม้นท์เจ้าของกระทู้แล้ว จะฮ็อตมากกกก ขนาดทำงานอยู่แว่บไปอ่านยังเกือบตอบเลยนะ (ปกติไม่ค่อยตอบทู้หรอก)สรุปความสั้น ๆ คือคนตั้งกระทู้เรียกร้องให้มีความเสมอภาคระหว่างเพศชาย-หญิงอย่างแท้จริง ด้วยการล้มเลิกระบบสินสอด เพราะสมัยนี้ ชายแท้จากครอบครัวมีอันจะกินและมีงานทำ..ไม่ต้องง้อใคร ไม่ต้องพิสูจน์คุณค่าตัวเองด้วยสินสอด >> แค่ประเด็นนี้ก็น่าคุยเป็นบ้าแล้ว ถ้าคนตั้งกระทู้จะไม่หยอด "มุก" เพิ่ม เช่น หญิงสมัยนี้คุณภาพด้อยกว่าสมัยเก่าตั้งเยอะ งานบ้านงานเรือนทำไม่ค่อยเป็น หาสาวพรหมจรรย์ก็ยาก ความรู้หรือฐานะก็ไม่ได้ดีกว่าเขา แถมบางทีแต่งไปแล้วชายต้องคอยรับใช้เจ้าหล่อนอีก สรุป ชายเสียเปรียบฮ่ะคือ มันคงไม่ฮ็อตหรอกถ้าไม่เพราะน้ำเสียงคนพูดน่ะ (ใครได้อ่านกระทู้อันแรกแล้วจะเข้าใจ)มีคนตอบหลายแนวทาง แต่จขบ. อ่านแล้วลองมองจากมุมมองของพ่อแม่น่ะ จะว่างกก็ได้ แต่ถ้ามีลูกสาว จขบ. คงหวังจะได้เงินสินสอด (ที่ลูกเขยจ่ายไหว) สักก้อนนะ จะคืนหรือไม่คืนนี่ดูอีกที แต่ขออะไรที่แสดงว่าลูกเขยเห็นคุณค่าลูกสาวเราน่ะ เป็นเหมือนการขอฝากตัวเข้ามาเป็นลูกชายคนใหม่ของเราด้วย ... แต่คนสมัยนี้เริ่มมองอะไรตามมุมมองของครอบครัวเดี่ยวแล้วแหละเนอะ 10 เมษายน 2551 วันนี้ซื้อของมานั่งกินตอนละครฉายพอดี พ่อ แม่กับคนงาน 2-3 คนนั่งดู สวรรค์เบี่ยง กันอยู่ ทุกทีพอจขบ. เริ่มจัดโต๊ะเตรียมนั่งกิน พ่อกับแม่จะเปลี่ยนไปดูห้องส่วนตัวเลย เพราะรู้ว่าจขบ. ไม่ชอบละครน้ำเน่าและมักจะเปลี่ยนไปดูหนังฝรั่ง พอดีวันนี้เห็นคนงานทำท่าอยากดูมาก (ตอนหยิบรีโมทนี่ คนงานหน้าจ๋อยเลยอ่ะ) กลัวโดนสหบาทา เลยบอกแม่ว่าดูไปเหอะช่วงที่จขบ. นั่งก้มหน้าก้มตากิน หูฟังสลับกับเงยหน้าดูเป็นระยะ จะเป็นฉากต่อไปนี้คาวีปล้ำนารินแล้วออกไปนั่งกินเหล้าข้างนอก >> พ่อกับแม่คุยกันว่าพระเอกรักนางเอกแล้วล่ะ ต่อมาเป็นฉากทะเลาะกันบนเรือแล้วคาวีจับนารินโยนทะเล >> แม่หรือใครไม่รู้หัวเราะ ประมาณว่าฉากนี้น่ารักน่าเอ็นดูฉากคาวีจับนารินล่ามริมสระน้ำ ฝนตก เถียงแล้วไล่ปลุกปล้ำกันในสระ ก่อนจะตัดภาพมานอนเปลือยบนเตียง นางเอกไม่สบาย พระเอกลุกมาเช็ดตัวให้ แล้วนอนกอด >> ทุกคนเคลิ้ม ฉากคนเฝ้าบ้านมากดกริ่ง นารินร้องให้ช่วย พระเอกแก้ตัวไปมั่ว ๆ จากนั้น คนเฝ้าบ้านโทรไปเล่าให้ (? ใครอ่ะ ไม่เคยดู ไม่รู้จัก) ฟังว่าเจอคาวีและได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย >> ทั้งคนงาน ทั้งพ่ออุทานทำนองว่า "ไปบอกทำไมน่ะ" น้ำเสียงไม่เห็นด้วยที่จะให้คนมาช่วยนางเอกโอ้ว พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ผู้ชายจับผู้หญิงมาปล้ำ กักขังไว้ย่ำยีตามอำเภอใจ แต่ทุกคนในบ้าน--ทั้งชายหญิง ทั้งวัยสาววัยชรา--เข้าข้างฝ่ายชาย?!? เกิดอะไรขึ้นในบ้านช้านนนน????? เคน ธีรเดชนี่หล่อมากจนทุกคนหลงรักเอาใจช่วยไม่ลืมหูลืมตาขนาดนี้เลยเรอะ???ทัศนคติแปลก ๆ ของพวกผู้ใหญ่น่ะช่างเหอะ แต่ที่ขัดใจคือนี่..ตอนจขบ. เข้าบ้าน หลานสาววัย 6-7 ขวบนั่งดูเรื่องนี้อยู่ด้วย จขบ. ยังบ่นเลยว่าให้เด็กดูเรื่องแบบนี้ได้ไง (ตอนนั้นผ่านฉากปล้ำไปแล้ว) พอหลานขึ้นไปชั้นบน (ซึ่งก็อาจไปดูทีวีห้องบนกับคนอื่นต่อ) แล้วมีฉากปล้ำในสระ จขบ. เลยชี้ให้แม่เห็นว่านี่จะสอนให้หลานชายคิดว่าการปล้ำผู้หญิงเป็นเรื่องปกติ สอนหลานสาวให้ยอมรับการโดนปล้ำได้ใช่ไหม? อยากให้หลานคิดเหรอว่าโดนปล้ำก็ได้เพราะผู้ชายจะหันมารักตัวเองทีหลัง? จขบ: "ตอนนี้ยังไม่รู้ อีกหน่อยหลานโตแล้วแม่จะรู้สึก หลานจะนึกว่าโดนปล้ำนี่คือนางเอก ไม่นึกหรอกว่าผู้ชายจริง ๆ มันฟันแล้วทิ้งทั้งนั้น" แม่: "ก็หลานติดเรื่องนี้ หลานอยากดูน่ะ" >> นินทา: ความจริงคือผู้ใหญ่อยากดูละครน้ำเน่า เปิดดูทั้งที่เด็กวิ่งเพ่นพ่านอยู่ เด็กก็เลยดูตามไปด้วยจขบ. คิดว่ามีหลายครอบครัวที่เป็นแบบที่บ้าน คือผู้ใหญ่เปิดดูละครแบบนี้ เด็กก็ซึมซับกิริยามารยาทและทัศนคติน้ำเน่าไป บ้านไหนมีคนอธิบายสอนสั่งไปด้วยคงไม่น่าห่วง แต่ถ้าอธิบายผ่าน ๆ แบบไม่สอนสั่ง เช่น แค่บอกว่าพระเอกรักนางเอกเลยปล้ำ หรือไม่สอนอะไรเลย ปล่อยให้เด็กเลียนแบบและเรียนรู้จากละคร แบบนี้คงน่าวิตก เอาเหอะ เราก็โตมากับแม่ที่เปิดดูละครดูโดยไม่สนใจเด็กคนนี้ เรายังโตแล้วคิดเองได้ หลานก็คงคิดเองได้..มั้ง 4 เมษายน 2551 - Proof of Evilหลังจากผ่านไปอีกหนึ่งคืน โดยที่ไม่ได้แตะงานเลย (เป็นแบบนี้มาสองอาทิตย์แล้ว) ก็รู้สึกว่าคงทำงานสองจ๊อบให้เสร็จแล้วไปเดินงานหนังสือไม่ได้เป็นแน่แท้จึงโทรไปถามเดดไลน์ (ที่ไม่กล้าถามเมื่อสองอาทิตย์ก่อน) พบว่า..ส่งหลังสงกรานต์ได้! อ๊างงงงงงงเพราะฉะนั้น ทำอีกจ๊อบให้จบวันนี้ แล้วข้าพเจ้าก็จะเป็นอิสระ เสรี ฟรีสไตล์ อ๊างงงงงงอะเคี้ยก อะเคี้ยก อะเคี้ยกๆๆๆ 3 เมษายน 2551วันก่อนไปร้าน 50% แล้วเกิดมีแรงไล่ดูสันการ์ตูนหมึกจีน ...ซึ่งจะเป็นลายดอกพร้อยสีสันจัดจ้า ส่องอ่านชื่อเรื่องได้ยากมาก ผลคือได้ "เทพบุตรเยือกแข็ง" 6 เล่มแรกมานั่งอ่านระลึกความหลัง แล้วก็โหยหวนคร่ำครวญ...อยากอ่านต่อเฟ้ยการ์ตูนเรื่องนี้ จขบ. เคยอ่านและซื้ออีกเวอร์ชั่นของสนพ. Love Book ที่พิมพ์จนจบ (คิดว่างั้นนะ) ยี่สิบกว่าเล่มได้ เรื่องที่คาใจที่สุดคือ จขบ. ดันลืมซื้อเล่มสนุกที่สุดช่วงท้ายน่ะ เป็นช่วงการต่อสู้ที่บลัดโดนทำร้ายด้วย ซวยจริง ๆ เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เลยไปนั่งหาสแกนในเน็ต (จุ๊จุ๊ อย่าบอกใคร) แล้วก็โหยหวนอีกครั้งเมื่อหาได้ถึงช่วงประมาณที่เพิ่งอ่านจากเวอร์ชั่นหมึกจีนนั่นแหละ อ๊ากกกก เจอครึ่งหลังไม่ได้เหรอไงฟะ? เจอตรงเล่มเดียวที่ไม่มีก็ยังดี ฮึ่ม ผลต่อเนื่องที่ตามมาคือเจอการ์ตูนสวย ๆ ให้โหลดเพียบเลย น้ำลายไหล(แต่ไม่ได้โหลดมาหรอก เดี๋ยวฮาร์ดดิสก์เต็มน่ะ คอมพ์ยิ่งโลว์ๆ อยู่)ผลต่อเนื่องสุดท้ายคือ ยังไม่ได้ทำงานที่เลทไปแล้วและควรจะเริ่มทำเสียทีมันเป็นงานที่ควรเสร็จตั้งแต่ก่อนงานสัปดาห์นะเนี่ย การ์ตูนเจ๋งที่เพิ่งได้อ่าน:High School Debut (sic) - เรื่องรักวัยเรียนธรรมดา นางเอกเป็นสาวนักกีฬาที่พยายามหันมาศึกษาเรื่องรักและหาแฟนเมื่อขึ้นมอปลาย แต่ด้วยความที่มุ่งมั่นกับกีฬามาตลอด เลยไม่รู้อะไรในด้านการแต่งตัวให้เข้ากับตัวเองหรือวิธีเดินเกมรักเลย เธอเลยขอให้หนุ่มสุดหล่อเป็นโค้ชให้เรื่องนี้ออกถึงเล่ม 4 แล้ว ตอนนี้เธอมีแฟนแล้ว สเต็ปไปช้า ๆ หวาน ๆ แบบนิยายรักที่ดีและน่ารักน่าลุ้น ลายเส้นชวนให้รู้สึกว่าตัวละครน่ารักและแจ่มใสมีชีวิตชีวามากขึ้น Crown (vbk) - โดยคนวาดคันตาเรลล่า ตามเรื่อง นางเอกเป็นลูกกำพร้าที่เพิ่งมีพี่ชาย (สุดหล่อ) โผล่มาดูแล พร้อมกับลากเพื่อนสนิท (สุดหล่อพอกัน) มาอยู่รวมกันเป็นครอบครัว...ที่ไม่ธรรมดา เพราะนางเอกมีเพชร "คราวน์" อันเป็นสัญลักษณ์ผู้ครองบัลลังก์ประเทศเรกาเลีย ราชินีองค์ปัจจุบันที่อดีตเป็นนางสนมเลยพยายามจะกำจัดนางเอกให้ได้ ก่อนราชา (ที่อาการร่อแร่อยู่) จะสิ้นพระชนม์ แล้วราชินีจะโดนส่งเข้าวัดนางชีตามกฎมณเฑียรบาล ในเรื่องเลยมีฉากแอ๊คชั่นและแผนร้ายตลอด ยิ่งพี่ชายกับเพื่อนเป็นทหารรับจ้างมือดีด้วย เลยเป็นแอ๊คชั่นที่สมน้ำสมเนื้อ (และอุดมด้วยอาหารตา )เนื้อเรื่องเหมือนจะซีเรียส แต่คนวาดวาดจนมันตลกได้อ่ะ ตัวละครจะหลุด ๆ หน่อย แต่ไม่ถึงกับต๊องหลุดโลก ยังงงอยู่ว่าเรื่องนี้ออกถึงเล่ม 3 โดยที่จขบ. ไม่เคยเห็นได้ยังไง สงสัยร้านแถวบ้านเอาเข้ามาน้อย เราก็นาน ๆ ไปซื้อที เลยหลงหูหลงตาไป (คิดมานานแล้วว่าไม่ควรเข้าร้านประจำร้านเดียว เพราะบางที พอพลาดเล่มไหนไปปุ๊บจะพลาดไปเลย ...เหมือนในกรณีตำนานภูติน้ำแข็งที่บ่นไปข้างบน )