|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]

|
ข้าพเจ้าเป็นสุข และเชื่อว่าใครก็ตามซึ่งมีรสนิยมในการอ่านหนังสือดี ย่อมสามารถทนต่อความเงียบเหงาในทุกแห่งได้ -- วาทะของท่านมหาตมะ คานธี
Book Archive by Group


 หมายเหตุ: โซน Romance และ การ์ตูน ยังไม่ทำเพราะมีน้อย
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
มกรา 52 ... งานตรึม (รูปเยอะ)
7 มกราคม
เห็นตารางงานเดือนนี้แล้ว ส่งงานหัว-ท้ายอาทิตย์เลย สงสัยคงไม่ว่างมาบ่นอะไรในบล็อกแน่ ... ก็ดี เก็บตังค์ไปในตัว
สำหรับคนที่สงสัยเรื่องหมอดู (ซึ่งทักว่าเดินทางปีใหม่จะของหาย) ปรากฎว่าไม่มีอะไรหายค่ะ ซึ่งจะว่าดีก็ดีอยู่หรอก แต่จขบ. ดันแวะตลาดใต้ดิน ถนนคนเดิน แหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมขณะเซลส์มากมายก่ายกอง--โดยไม่ได้เอาบัตรเครดิตไป คิดดูว่ามันเศร้าแค่ไหน จะซื้ออะไรทีก็ต้องวิ่งไปแบมือขอพ่อขอแม่ ... เที่ยวสนุกจัง ตังค์อยู่ครบ 
บล็อกนี้จะกระหน่ำในรูปถ่ายนะคะ เอาไว้ดูเองวันหลังว่าไปเที่ยวไหนมาบ้าง
ซัวเถา-จูไห่...ไหว้พระศาลเจ้าแม่ทับทิม ไต่ฮงกง
ศาลเจ้าแม่ทับทิม (จขบ. เรียกว่ากวนอิมเนี้ยไปเลย แยกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงเรียกเจ้าแม่ทับทิม) ค่อนข้างตั้งอยู่ในทำเลโดดเดี่ยว คืออยู่เชิงสะพาน สมัยก่อนต้องวกรถอ้อมมาก ปีนี้รู้สึกจะตัดถนนใหม่ ไม่วกวนแบบเก่าแล้ว ที่นี่จะมีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือมีชาวท้องถิ่นตื๊อขายสาหร่ายทะเลกับปลาตัวเล็กแบบไม่ลดละ ตื๊อเหมือนเราไปติดเงินเขามาแต่ชาติปางไหน คนพวกนี้จะเดินตามประกบพร้อมกับพูดๆๆๆๆๆ จนแทบไม่มีสมาธิสวดภาวนาเลย
ที่นี่จะมีจุดไหว้หลัก ๆ สามแห่ง คือ หม๊าโจ้ว แป๊ะกง กับกวนอิมเนี้ย
ศาลแป๊ะกงต้องเดินวกไปด้านข้าง เป็นห้องเล็กๆ ที่คนไม่เคยมาอาจพลาดไปได้ จุดไหว้กวนอิมเนี้ยต้องขึ้นบันไดไปไกลพอดู (คนแก่มากอาจไม่ไหว)
ปีแรกที่ไปไหว้ ระหว่างเดินขึ้นบันไดโดนตื๊อให้ซื้อสาหร่ายจนโมโหบังเกิด แทนที่ไหว้พระแล้วจะจิตใจผ่องใส กลับใจขุ่นมัวด้วยความรำคาญ ภายหลังกลับมาบ้าน เริ่มคิดได้ว่าไม่ควร เลยพยายามคิดเสียว่า...ฝึกขันติ ฝึกขันติ
บรรยากาศตอนขึ้นบันไดไปกับตอนอยู่หน้าลานไหว้กวนอิมเนี้ยจะเงียบสงบ ถูกใจจขบ. มาก ...ถ้าไม่มีคนคอยขายสาหร่ายจะยิ่งดีเป็นร้อยเท่า
ไปไหว้ปีใหม่ที่สองแห่งนี้มาสามปีแล้ว กล้องเก่าเคยถ่ายรูปปั้นกวนอิมเนี้ยได้มุมสวยมากเมื่อสองปีก่อน ปีนี้ใช้กล้องใหม่ รู้สึกว่าเก็บมุมตรงง่ายขึ้นแค่นั้นเอง
ศาลไต่ฮงกงกว้างขวางและฮวงจุ้ยดีมาก การไหว้ไม่อึดอัดเพราะควันธูปเหมือนศาลส่วนใหญ่ แต่จุดที่ต้องระวังคือขอทาน ปีนี้แม่ดันทำท่าควักกระเป๋าจะให้เงิน มัวแต่แง้มกระเป๋าหาเศษเงิน ขอทานมะรุมระตุ้มทันที จขบ. ว่าจะเก็บภาพมาดูเล่น แต่กลัวแม่โดนกระชากกระเป๋า เลยต้องลดกล้องวิ่งไปดึงท่านแม่ออกมาแทน ... เสียดายภาพจัง มุมสวยพอดี 

ต่อไปเป็นการไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ (ตั่วเหล่าเอี๊ย) ซึ่งปีนี้ดันไปเจอตอนเขากำลังสรงน้ำพระ เลยอดเก็บรูปองค์พระงามๆ มา
เดี๋ยวนี้เขาต่อเติมศาลเจ้าพ่อเสือจากเดิมที่เป็นห้องแคบๆ กลายเป็นศาลใหญ่มาตรฐาน เลยกลายเป็นว่าเราต้องไหว้ 3 จุด คือ ศาลเดิม (ห้องเดียว) กับศาลที่สอง (อยู่ติดกับศาลเดิม) กับเดินมาที่ศาลใหม่ที่กว้างกว่าเดิม 5-6 เท่าได้ เพราะตั้งรูปบูชาของพระอื่นด้วยอีกเพียบ ... ดังนั้น เวลามาที่นี่ จึงมักจะไหว้ไม่ทัน ไว้ค่อย ๆ สำรวจไปทีละปีละกัน (อ้อ ปีนี้พบว่าร้านขายของไหว้หน้าศาลโก่งราคาของเกือบสองเท่า เช่น น้ำมันขวดใหญ่ ซื้อจากไต่ฮงกง 20 หยวน ที่นี่ขาย 40-50 เฉยเลย)
ปีนี้เพิ่มโปรแกรมไหว้ใหม่ ...จำชื่อวัดไม่ได้ รู้สึกจะอยู่ในเสิ่นเจิ้น..มั้ง? ลืมแล้วอ่ะ  ไกด์บอกว่าวัดนี้สร้างได้ประมาณ 30 ปีแล้ว จัดว่าใหม่กว่าวัดอื่น แต่ก็คึกคักและใหญ่โต สวยงามพอใช้ ( ... แต่ถ้าตามมาตรฐานจขบ. คิดว่าเคยไปหลายวัดที่ใหญ่ประมาณนี้ องค์พระสวยงามและบรรยากาศขลังกว่านี้น่ะ) วัดตั้งอยู่บนเขา ถ้าเป็นคนธรรมดาจะต้องเดินขึ้นเขา..น่าจะเป็นกิโลเลยแหละกว่าจะได้ทำบุญ แต่เราเป็นกรุ๊ปคนชราอาซิ้มอาซ้อ เลยนั่งรถทัวร์ไปถึงข้างบนเลย
เท่าที่ดู องค์พระที่สวยมากคือ พระสามชาติ ...ซึ่งเขาไม่ยอมให้ถ่ายรูป เสียดายจริงๆ (แต่ตอนแรกถ่ายป้ายข้างหน้า ติดองค์กลางมานิดนึง)
จูไห่ ... ช้อปปิ้งตลาดใต้ดิน
จากนั้น นั่งรถข้ามมาเมืองจูไห่ เขตเศรษฐกิจพิเศษ 1 ใน 5 ของประเทศจีน โปรแกรมคือแวะ "ตลาดใต้ดินก๊กเป่ย" แหล่งช้อปปิ้งสินค้าอาทิ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของที่ระลึก ฯลฯ ราคาต่อรองได้ ตลาดนี้จะอยู่ใกล้ด่านข้ามไปมาเก๊า
ระหว่างทางมาที่ตลาดใต้ดิน จะผ่านสวนและ "ถนนคู่รัก" (Lover Road) ที่วางเก้าอี้ไว้หลายแบบ เช่น แบบมีพนักพิงสำหรับนั่งเป็นคู่ แบบนั่งคู่ไม่มีพนักพิง หรือแบบนั่งเดี่ยว ไกด์บอกว่าเก้าอี้แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักนั่นเอง
แถวนั้นยังมีรูปปั้น "สาวงามหวีหนี่" สาวงามกลางทะเล..สัญลักษณ์แห่งเมืองจูไห่ที่มีตำนานความรักเล่าขานสืบต่อกันมาด้วย แต่ตำนานอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ไกด์ไม่ได้เล่าอ่ะ ...เดาว่าคงคล้ายตำนานเงือกมั้ง
ตกดึก เราไปดูโชว์ที่พระราชวังฤดูร้อนของพระนางซูสีไทเฮา ตามข้อมูล บริเวณนี้เป็นสวนสาธารณะหยวนหมิงชิงหยวน ที่จำลองมาจากสวนหยวนหมิงหยวนในกรุงปักกิ่ง..ซึ่งในอดีตถูกยกย่องเป็นสวนสาธารณะกว้างใหญ่ที่สุดในจีน สร้างตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง เป็นสวนที่พระนางซูสีไทเฮาโปรดมาพักผ่อนเสมอ แต่ปัจจุบัน สวนในปักกิ่งเหลือแต่ซากปรักหักพัง หลังจากช่วงที่ชาวยุโรปบุกเข้าปักกิ่งและเผาสวนแห่งนี้หมด รัฐบาลจีนจึงบูรณะสวนขึ้นใหม่เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ชนรุ่นหลัง แต่มาสร้างที่เมืองจูไห่ที่มีทะเลสาปแทน
พอผ่านประตูเข้ามาในอาคารแรกก็จะเห็นบัลลังก์ฮ่องเต้ ซึ่งนักท่องเที่ยวเปลี่ยนชุดไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ อัตราค่าถ่ายรู้สึกจะ 80 หยวน คนในกรุ๊ปคนหนึ่งต่อเหลือ 40 หยวน แต่ตอนอัดรูปที่มีหลายขนาด (80, 150, 200) เกิดคุยกันไปคุยกันมาแล้วไม่รู้เรื่อง สรุปว่าไม่ได้ลด แถมโดนมัดมือชกใส่กรอบรูป สองรูปหมดไป 230 หยวนโน่น

พวกเรานั่งรถผ่านสวนไปดูการแสดงเวทีรอบหนึ่งทุ่ม เลยไม่ได้เดินดูสวนรอบบริเวณที่เขาแต่งไฟประดับตุ๊กตาไว้มากมาย คิดว่าน่าจะสวยทั้งตอนกลางวันและกลางคืน

การแสดงตระการตาพอควร แต่ไม่ถึงกับชวนกรี๊ด (ยังสู้โชว์แสงสีกลางหุบเขาที่กุ้ยหลิน ซึ่งไปดูเมื่อปีหรือสองปีก่อนไม่ได้ โชว์นั้นอลังการงานสร้างกว่าเยอะ--และน่าจะทำลายธรรมชาติมากกว่าด้วย 555) จุดที่ชอบคือมีการใช้ม้าจริงขี่รอบบริเวณ สร้างความตื่นตาได้ดี จากนั้นก็ตัดเข้าการเต้นบนเวที เนื้อหาบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตในวังสมัยราชวงศ์ชิง เฉียนหลงฮ่องเต้ประพาสเมือง มีฉากที่ฮ่องเต้ช่วยสาวชาวบ้านจากอันธพาล แล้วก็กลับวัง ... ถ้าถามว่าชอบอะไร คงเป็นเสื้อผ้ามั้ง รองมาก็เทคนิคนอกเวที เช่น การขับรถลากไปรอบเวที (สมมติว่าเป็นราชรถจากต่างเมืองมาที่วัง หรือขบวนทหารที่มารับฮ่องเต้กลับวัง)

เช้าวันต่อมา เป็นการผ่านด่านจากจูไห่ไปมาเก๊า สองเมืองนี้อยู่ใกล้กันมากขนาดมองเห็นกันได้เลยทีเดียว
การข้ามด่านจากจูไห่ไปมาเก๊า: ต้องลากกระเป๋าเดินผ่านด่านเอง ไม่มีรถเข็นให้บริการ มีคนจีนหัวใสเข็นรถลักษณะคล้ายเกวียนมารับเข็นให้ถึงจุดตรวจพาสปอร์ตแรก...โดยคิดอัตราค่าขนกระเป๋าใบละ 2 หยวน แต่หลังผ่านด่านไปยังต้องเดินอีกไกลเหมือนกัน ซึ่งตรงนี้ก็มีคนเสนอหิ้วกระเป๋าไปถึงปลายทางเช่นกัน แต่ไกด์ชาวจีนไม่แนะนำให้ใช้บริการ เพราะเคยมีคนจ้างแล้วกระเป๋าหายไปกับสายลม
ดังนั้น ใครที่คิดจะข้ามไปมาเก๊าทางนี้ ต้องแน่ใจว่าสามารถลากสัมภาระคนเดียวไหว อย่าเป็นเหมือนแม่จขบ. ที่ขนซื้อพวกผักดองมากล่องเบ้อเริ่ม บวกกับกระเป๋าเดินทางใบมหึมา ตอนผ่านด่านเลยทุลักทุเลมาก--ขนาดคนทั้งกรุ๊ปทัวร์ช่วยๆ กัน แม่ที่ลากใบเบาที่สุดแล้วยังถึงกับเส้นยึด แม่บอกว่า "เหมือนโดนม้าแยกร่างสังขารเลย" ผลก็คือ โปรแกรมหน้าที่จะได้ไปถ่ายรูปสวย ๆ ในโรงแรมเวเนเชี่ยน แม่ต้องนั่งกินกาแฟรอ ไม่สามารถเดินได้
แต่ก่อนเที่ยว เราแวะไหว้วัดอาม่าอีกแห่งก่อน ตามประวัติที่ฟังไกด์เล่า นี่เป็นวัดของ 'อาม่า' ผู้เป็นเทพีผู้ก่อตั้งและคุ้มครองเกาะมาเก๊า ตอนฟังรู้สึกคุ้นๆ แต่พอเห็นวัดแล้วกลับไม่คุ้น แสดงว่าเพิ่งมาครั้งแรก
อ่านเจอข้อมูลข้างบนจากโบรชัวร์เพื่อนทีหลัง เลยไม่ได้หมุนลูกแก้วในปากสิงโตเลย ส่วนก้อนหินมีถ่ายมารูปนึง แต่ไม่ยักกะเห็นเป็นรูปเรือสำเภาแฮะ หรือถ่ายผิดที่ก็ไม่รู้ (เที่ยวแบบมึนๆ ทัวร์ เอิ้กส์) อีกอย่าง วันนั้นแม่เดี้ยง เดินกลับรถทัวร์โดยไม่บอก จขบ. เลยวิ่งหาแม่ทั่ววัดมากกว่าตั้งใจถ่ายรูปด้วย

หมดโปรแกรมไหว้เจ้าแล้ว ก็ช้อปหรู
คงไม่ต้องอธิบายมากถึง Venetian Hotel โรงแรมที่สร้างอย่างหรูหราอลังการไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยว ข้างในมีคาสิโนระดับน้องๆ ลาสเวกัส ภายในเรียงรายด้วยร้านอาหาร ร้านค้าแบรนด์เนม (ที่ช่วงปีใหม่ ลดกระหน่ำนิวเยียร์เซลส์) ...เท่าที่มองดูแว่บๆ มีสามชั้นแน่ะ ช้อปกันให้กระเป๋าทะลุไปเลย
สถาปัตยกรรมโดยรวมเป็นแบบเรเนซองส์กับเวนิส โดยเฉพาะตรงจัตุรัสนั้น เรียกได้ว่าถอดแบบเวนิสมาเลย มีจัตุรัส เซนต์มาร์ก, พระราชวังดอร์ช, หอคอยแคมพาไนล์และคลองในร่ม คลองนี้มีบริการให้แขกล่องเรือกอนโดล่าชมบรรยากาศอีกแบบ ช่วงเทศกาล คนพายเรือจะร้องเพลงไปด้วย--ร่าเริงดี บางทีก็มีผู้หญิงเปิดหน้าต่างชั้นบนออกมาร้องเพลง Silent Night บางจุดก็มีคนใส่หน้ากากเดินเล่นดนตรีไปมา (จขบ. ไปเจอที่ชั้นสาม)
ล็อบบี้โรงแรม (เข้าจากคาสิโน) เป็นอีกจุดที่น่าถ่ายภาพ ข้างบนเป็นโดมภาพเขียน ... ขี้เกียจพูดมาก ดูรูปละกัน
อ้อ ห้องน้ำก็เริ่ดมากกกก เปิดเข้าไปนี่อย่างหรูเลย เห็นไกด์บอกว่ามีเครื่องดื่มชา กาแฟให้ฟรีตลอด แต่จขบ. ไม่เห็นแฮะ (ไม่ทันฟังด้วยว่าเขาพูดถึงส่วนไหนของโรงแรม)



วันรุ่งขึ้น เป็นการไป Window of the World ที่จำลองสถานที่ท่องเที่ยวเอกลักษณ์ของแต่ละชนชาติทั่วโลกมาไว้ในจุดเดียว จขบ. โชคร้ายที่ดันเจอ "ชะโงกทัวร์" คือ ทัวร์แบบที่พาไปนั่งรถราง ซึ่งแวะจอดให้ถ่ายรูปประมาณ 3-4 จุด (ระหว่างทาง เห็นรูปจำลองมากมายที่เขาไม่จอด) แล้วก็กลับมาด้านหน้าที่มีแต่ร้านขายของ เพื่อบอกว่าให้เวลาอิสระตรงนี้นิดนึง (เพื่อ..?) ... ไม่ประทับใจเลย ไม่แน่ใจว่าค่าตั๋ว 120 หรือ 150 หยวน (คือ ถ้าที่นี่ 120 หยวน โชว์ในวังก็จะ 150 หยวน หรือสลับกัน) นี่เข้าไปไม่ถึงชั่วโมงก็ออกมาละ ไม่คุ้มอย่างแรง 
เท่าที่ดูแผนที่ เขาสร้างเป็นสวนขนาดใหญ่ไว้ให้เดินทั้งวัน มีทั้งจุดถ่ายรูป สวนน้ำ และร้านค้าที่เด็กน่าจะชอบ เหมาะจะไปเป็นครอบครัว ถ่ายรูป ซื้อของอยู่ในนั้นสักครึ่งวันเป็นอย่างต่ำถึงจะดีค่ะ



ตบท้ายด้วยโบสถ์เซนต์พอล และการช้อปปิ้ง (อีกแล้ว--ไม่นึกเลยว่าปีนี้จะมีจุดช้อปเยอะขนาดนี้)
จากโบสถ์เซนต์พอลเดินมาเรื่อย ๆ จะเป็น "ถนนคนเดิน" หรือเซนาโด้สแควร์ ช่วงแรกจะขายของกินกันเอิกเกริก ของกินหลักคือหมูแผ่น พายไข่กับขนมลักษณะคล้ายถั่วตัด (ใครอยากซื้อของฝากเป็นขนม แนะนำจุดนี้) เดินต่อมาจะเริ่มเป็นร้านขายของแฟชั่น บางร้านโชว์กระเป๋าจ๊าบมาก ... แต่เพราะจขบ. เจอ "ชะโงกทัวร์" เลยโดนไกด์เร่งยิกๆ ให้เดินไปร้านอาหาร ไม่ได้แวะเข้าร้านที่ปิ๊งเลย พอกินเสร็จก็โดนต้อนขึ้นรถไปโรงแรม ซึ่งไม่ได้อยู่ใกล้เซนาโด้เลยสักนิด ทำให้อดเดินถนนเส้นนี้อย่างจริงจัง ... แค้นนนนนน 



สรุป เที่ยวครั้งนี้ โปรแกรมช่วงที่เข้าวัดดีมาก มีเวลาให้ไหว้สบาย ๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ช่วงเที่ยวกับช้อป...อย่างห่วย ตัวอย่างเช่น ตอนช้อปตลาดใต้ดิน ให้เวลาเดิน 1 ชั่วโมง หรือถนนคนเดินเซนาโด้..ให้เดินผ่านเฉยๆ แล้วก็ต้อนกลับ อะไรของมันฟะ! (เสียดายเซนาโด้มาก เพราะไกด์คนแรกบอกว่าเส้นนี้มีแบรนด์เนมของจริงลดราคาท้ายปี ตาดีได้ตาร้ายเสีย น่าสนุกดีออก)
Create Date : 08 มกราคม 2552 |
Last Update : 9 มกราคม 2552 3:11:14 น. |
|
37 comments
|
Counter : 2606 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: pet.sp วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:7:44:01 น. |
|
|
|
โดย: piccy IP: 124.120.104.80 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:10:32:52 น. |
|
|
|
โดย: Guga IP: 125.24.124.250 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:10:56:26 น. |
|
|
|
โดย: คิดนาน IP: 124.121.242.170 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:20:58:26 น. |
|
|
|
โดย: ทินา วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:3:45:51 น. |
|
|
|
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:10:10:07 น. |
|
|
|
โดย: โสดในซอย วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:21:12:37 น. |
|
|
|
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:8:06:35 น. |
|
|
|
โดย: หมูย้อมสี วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:22:54:42 น. |
|
|
|
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:21:55:27 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:9:17:11 น. |
|
|
|
โดย: grappa IP: 58.9.223.75 วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:16:23:13 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:17:01:22 น. |
|
|
|
โดย: โสดในซอย วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:20:45:08 น. |
|
|
|
โดย: piccy วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:10:44:29 น. |
|
|
|
โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:19:14:53 น. |
|
|
|
โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:9:03:20 น. |
|
|
|
โดย: Fuya IP: 114.128.131.34 วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:22:06:31 น. |
|
|
|
โดย: Fuya วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:22:07:21 น. |
|
|
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:7:08:23 น. |
|
|
|
โดย: มิสพิกกี้ IP: 24.60.248.244 วันที่: 25 มกราคม 2552 เวลา:0:59:00 น. |
|
|
|
โดย: fonkoon วันที่: 25 มกราคม 2552 เวลา:11:16:29 น. |
|
|
|
โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:14:14:34 น. |
|
|
|
โดย: พัท IP: 125.25.81.26 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:10:38:55 น. |
|
|
|
โดย: Fuya วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:22:41 น. |
|
|
|
|
|
|