29 กุมภาพันธ์ - บ่นไปเรื่อย ๆ

อัพเพิ่มนิดนึง:
เพิ่งกลับจากร้านหนังสือ เห็นเรื่องแปลชวนน้ำลายหยดหลายเล่ม

เล่มแรก "ใต้อุโมงค์" Tunnel ที่เล็งตั้งแต่เป็นปกแข็ง แต่เสียดายเงินเลยรอปกอ่อน ไปเหล่หาในคิโนะหลายครั้งแล้วแต่มักจำชื่อคนแต่งไม่ได้ เลยไม่ได้ซื้อเสียที โชคดีที่เห็นฉบับแปลก่อน ฝีมือการแปลของคุณงามพรรณ เวชชาชีวะด้วย

เล่มที่สอง "นิยายที่หายไป" หรือ The Thirteenth Tale นิยายเรื่องสุดท้ายที่อ่านแล้วอินมาก พลิกกลับไปกลับมาหลายรอบ ยังเคยนึกเลยว่าสำนวนอังกฤษมีเสน่ห์ปานนั้น ใครจะแปลได้สวยเท่าฟะ? ปรากฎว่ามีคนกล้าแปลแฮะ
...แอบเปิดดูเฉพาะช่วงที่ชอบ รู้สึกว่าแปลได้ครบความ อ่านรู้เรื่อง แต่ในความเห็นส่วนตัว ยังไม่สวยเท่าต้นฉบับ <<< ออกตัวก่อนว่าจขบ. ชอบนิยายเล่มนี้มาก คงหาคนแปลได้ถูกใจยากค่ะ สำนวนเล่มนี้มีความสวยแบบที่พบได้ในต้นฉบับเท่านั้น

ปิระมิดนโปเลียน สืบซ้อนฆาตกรเงา ฯลฯ ยั่วยวนมากเลย
ตอนแรกตั้งใจจะงดซื้อเรื่องแปลสักพัก เพราะของเก่าดองไว้เพียบเป็นสิบ แต่เห็นปกใหม่แล้วก็...อ่ะนะ

---

เห็นประกาศของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (ด้านบนหน้าจัดการบล็อกตอนนี้)
...หมั่นไส้ค่อด
ทั้งที่ไม่ใช่คนชอบฟังเพลง ไม่ค่อยซื้อเพลง ก็ยังหมั่นไส้อยู่ดี
คิดง่าย ๆ เลย เราซื้อเพลงมาฟัง แล้วอยากให้เพลงดังในบล็อกเราเป็นการสร้างบรรยากาศ แป๊บ ๆ ก็เปลี่ยนเพลงแล้วย่ะ แต่ห้าม? ละเมิดลิขสิทธิ์?!?
อ๊าววว ของซื้อมาแล้วนะเฟ้ย จ่ายเต็มเม็ดเต็มหน่วย จะบังคับให้ฟังในห้องตัวเองอย่างเดียวเลยเรอะ! แล้วถ้าไปเปิดออกลำโพงหน้าลานบ้านให้เพื่อนบ้านได้ยินด้วยเนี่ย จะตามมาจับปล่าว ฮิ้วววว อะไรจะงกอย่างงี้ว้า~

จริง ๆ เคยอ่านข่าวความบ้าลิขสิทธิ์ของแกรมมี่มาตั้งแต่ปีก่อนโน้นแล้ว ที่ว่าห้ามคาราโอเกะหรือผับต่าง ๆ เปิดเพลงเขา ประมาณว่าต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ก่อน กรณีนั้นก็ว่า "เค็ม" แล้วนะ แต่ยังพอเข้าใจว่าร้านพวกนี้เป็นเชิงพาณิชย์ เลยแค่เบ้หน้ากับนิสัยของบริษัทนี้

กรณีบล็อกแก๊งค์นี่ ... "บัดซบว่ะ"
ตั้งแต่นี้ไป ถ้าเผอิ๊นเผอิญเกิดอยากซื้อแผ่น (ประมาณปีละครั้ง ดีไม่ดีสองปีครั้งด้วย) จะไม่มีแผ่นแกรมมี่แน่นอน เย้~ ประหยัดเงินไปได้หน่อย

(นิสัยแบบนี้ของบริษัทยักษ์ใหญ่แหละที่จะทำให้คนนิยมแผ่นผีมากขึ้น หึหึ)

หลัง ๆ นี้เมืองไทยตื่นตัวเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้น นับเป็นเรื่องดีในแง่ของการเคารพคนอื่นที่เหนื่อยยากคิดงานของตัวเอง แต่ถ้าตื่นตัวจนตื่นตูม ตึงเครียดเหมือนมีไม้เสียบคาตู๊ด เต้นเหย็ง ๆ ห้ามนั่นห้ามนี่แม้แต่คนที่ไม่มีเจตนาจะโกงอย่างลูกค้าทั่วไป จขบ. ที่นิสัยชอบอะไรง่าย ๆ แบบคนไทยสมัยก่อนก็แอบคิดว่า "กลับไปเป็นแบบเก่าดีกว่า (ว่ะ)"

ดังนั้น บรรดาผู้ลักลอบเผาแผ่นเพลง เพื่อแจกจ่ายในวงมิตร ขอเอาใจช่วยค่ะ

สงสัยนิดหน่อย...แกรมมี่นี่ของคนไทยหรือต่างชาติ?
ถ้าเป็นคนไทย จะแปลกใจมากนะ เพราะนโยบายขาดความอะลุ้มอล่วยอย่างแรง

----

ยังไม่ได้ทดลองว่าโปรโมชั่นดูหนังเข้าชิง 3 เรื่องแถมฟรี 1 เรื่องของเมเจอร์ใช้ได้จริงไหม วันนี้วันสุดท้ายแล้ว แต่ปรากฏว่าหนังเรื่องที่เล็งไว้ คือ No Country กับ Charlie Wilson ไม่เหลือรอบแล้ว (จริง ๆ เหลือ Michael Clayton แต่ไม่ค่อยสนเรื่องนี้ แถมรอบฉายสี่ทุ่มครึ่ง ไม่ไหวอ่ะ)
แค่หายหัวไปทำงานไม่ถึงอาทิตย์ รอบฉายไปหมดเลยเหรอ ฮือออ เค้าจะดูฟรีนี่นา
... เป็นตัวอย่างอันดีว่าไม่ควรซื้อบัตรหรืออะไรที่มันผูกพันให้ต้องตาลีตาเหลือกดูในระยะเวลาจำกัด เพราะสุดท้ายแล้ว มันจะไม่คุ้ม

ปล. อาทิตย์ก่อน ยังไม่มีรอบฉายของ No Country ด้วยซ้ำ เพิ่งใส่มาตอนที่เริ่มไม่ว่างแล้ว นึกว่าจะอยู่นานกว่า Elizabeth หรือ Atonement เสียอีก เจ็บใจเฟ้ย


22 กุมภาพันธ์

ใครสนใจ เชิญไประบายสีเล่นที่บล็อกคุณ พลทหารไรอัน
(เข้าทางมุม Some Blog หน้ารวมบล็อกแก๊งค์ก็ได้)



หลังจากนี้ เป็นการบ่น..มั้ง?

เมื่อวานตอนเย็น เห็นกำลังภายในเข้าร้านมือสองแถวบ้าน
พอกลับบ้านมาเล่นเน็ต เห็นกระทู้ในห้องกำลังภายในมีคนจะมาแถวปิ่นเกล้า
เลยโพสต์บอกว่ามีนิยายเข้าแถวจรัญ บอกชื่อเรื่องใหม่ที่เห็นให้ด้วย

ทีนี้ เมื่อวาน จขบ. เล็งกำลังภายในไว้เรื่อง คือ วีรบุรุษสยบมาร
จขบ. จำไม่ได้ว่ามีหรือยัง หรือเนื้อเรื่องเป็นไง (คือ ถ้าสนุก ซื้อซ้ำก็ได้)
เนื่องจากคนขายไม่อยากให้แกะซีล เลยจองไว้ ขอกลับมาดูที่บ้านก่อน
คนขายพูดเองว่าจะจองไว้ให้ จขบ. ก็เห็นกับตาว่าเขาวางแยกไว้อีกมุม

วันนี้เวลาประมาณเท่าเดิม แวะไปเพื่อซื้อเรื่องนี้ ปรากฎว่า "ขายไปแล้ว"
น้องเขาพยายามอธิบายว่าคนซื้อเป็นผู้ชาย ขอตื๊ออยู่นาน เลยขายไป
ลองถามดูว่าเช้านี้มีคนมาหากำลังภายในเยอะไหม เขาก็ยอมรับว่าเยอะ
จขบ. เลยเซ็ง ๆ ว่าข้อมูลที่ให้คนอื่นไปมันกลับมาให้ร้ายตัวเองรึเปล่าเนี่ย

ก็ไม่รู้ว่าคนที่ซื้อไป เป็นคนที่ปกติแวะร้านนี้อยู่แล้ว หรืออ่านกระทู้เลยแวะไป
อยากรู้ว่าตื๊อขอซื้อจริง หรือคนขายเห็นลูกค้าเยอะ เลยเอาออกมาขายเองกันแน่
... สงสัยแค่นี้แหละ ...
(เพราะเคยเจอนิยายรักออกใหม่ที่มีคนจองไว้ เพื่อนกับจขบ. อยากได้ทั้งคู่ เพื่อนเขาตื๊อๆๆ คนขายก็ไม่ขายให้ บอกว่ามีคนจองแล้ว เลยสงสัยมากว่าน้องผู้ชายคนนี้ทำอีท่าไหนถึงคว้าหนังสือที่จองไว้--ยังไม่ทันข้ามวัน--ไปได้?)

อยู่ในยุทธภพ มิอาจไม่มีจิตใจคับแคบบ้าง ท่าจะจริง

ปล. เหตุการณ์นี้เป็นอีกเรื่องที่ตอกย้ำนิสัยจุ้นเกินงามของจขบ. เช่นกระทู้ที่พูดถึงตอนแรก เขาแค่ถามทางมาร้านมือสอง เราก็ดันไปตอบว่าไปร้านโน้นดีกว่า มีของเพิ่งเข้า เรื่องนี้เรื่องนั้น (ใครถาม?)
ตอนทำงานออฟฟิศ ก็เคยมีเรื่องทำนองนี้ เพื่อนที่ทำงานเก่าถามว่ารู้จักคนที่มีความสามารถด้านนี้ๆๆไหม จขบ. ก็รีบโทรไปหาน้องที่เคยมาฝึกงานเพื่อติดต่อให้ทันที เพื่อนร่วมงานอีกคนมองแล้วก็ทักแปลก ๆ ทำนองว่า จขบ. เป็นธุระให้คนอื่นโอเว่อร์ << เริ่มรู้สึก "เอ๊ะ" ในใจเพราะเหตุการณ์นี้แหละ


21 กุมภาพันธ์ - Movie Talk

สามวันนี้ ดูหนังไป 4 เรื่อง ก่อนหน้านี้ก็ดูหนังแผ่นไปนิดหน่อย
เป็นการดูหนังมากกว่ารอบครึ่งปีที่ผ่านมารวมกันเสียอีก

Elizabeth: The Golden Age
ตาลีตาเหลือกไปดูเมื่อพบว่ามันยังฉายอยู่ รอบสี่ทุ่มก็ดูฟะ!
จองเป็นคนแรกและคนเดียว (เสียวโว้ย...จะยกเลิกรอบไหมเนี่ย)
ทั้งโรงมีคนดู 4 คน ระบบเสียงบัดซบมาก ลำโพงข้างนึงทำงานบ้างไม่ทำบ้าง
เสียงเลยเป็นเซอร์ราวด์กระหึ่มบ้าง ไม่กระหึ่มบ้างทั้งเรื่อง เซ็งเลย
เนื้อเรื่อง แอ๊คติ้ง ดารา ทุกอย่างยังอยู่ในระดับดีถึงดีเลิศ
แต่ถ้าเทียบกับภาคแรก ยังด้อยกว่า มีหลายฉากพยายามทำเท่ห์ทำสวยเป็น MV มากไป (จขบ. ชอบแบบธรรมชาติมากกว่าน่ะ)

CJ7 - หนังโจวซิงฉือที่ตามดูทุกเรื่องอยู่แล้ว
แต่เรื่องนี้ผิดหวังแฮะ โจวซิงฉือถอยตัวเองออกมาเป็นตัวประกอบซะงั้น
ทั้งเรื่องไม่มีฉากเฮียโชว์เจ๋งให้ประทับใจเลย เด็กเสียอีกยังน่ารักกว่า
ทีนี้ เนื้อเรื่องโดยรวมมันยังอ่อนน่ะ แค่เด็กน่ารักยังไม่มากพอจะทำให้ประทับใจได้

Enchanted - ไหน ๆ วันนี้ก็ตื่นเช้า มีรอบด้วย ดูก็ได้
ปรากฎว่าฉายโรงเดียวกับเอลิซาเบธ เริ่มหวั่นกับระบบเสียงเล็กน้อย
แต่ไม่มีปัญหาอะไร ฮาหลายฉาก ตอนเทพนิยายมาเจอกับโลกความเป็นจริง
นางเอกน่าจะหน้าเด้งไร้รอยย่นกว่านี้นิ๊ดนึง จะได้ดูเป็นการ์ตูนที่กลายเป็นคนกว่านี้
ส่วนดาราชายโอเคหมด พระเอกหน้าตาไร้อารมณ์แต่ยังแอ๊คติ้งพอรับได้

Atonement - ดาราสุดยอด โดยเฉพาะไบรโอนี่ตอนเด็ก ตาเธอช่าง... ทำให้อึ้งกับไบรโอนี่ตอนสาว...เอ่อ เธอเปลี่ยนไปนะ
เนื้อเรื่องตัดไปตัดมา เกือบงงระหว่างความจริงกับจินตนาการเหมือนกัน
แต่ (คิดว่า) ดูรู้เรื่องนะ ช่วงสงครามอ่อนไปหน่อย ฉากริมหาดโกลาหลพิกล
ส่วนตอนจบ โอ้ว้าว สุดยอด เป็นการจบแบบที่เพิ่มความประทับใจให้ฉากที่ผ่านมาน่ะ
....นี่ถ้าอ่านเป็นหนังสือ คงกรี๊ดสนั่นแน่ (ถ้าไม่หลับไปซะก่อนตรงฉากสงคราม)
((ส่วนฉากในห้องสมุด อ๊างงงง))

ตอนแรกนึกว่า Eli จะชนะ Ato แต่พลิกโผแฮะ ในสี่เรื่องนี้ Ato เจ๋งสุดค่ะ

ไว้ถ้าว่าง อาทิตย์หน้าอาจดู Wilson's War หรือไม่ก็ No Country
ไม่น่าพลาดทั้งสองเรื่อง หวังว่าจะตื่นเป็นผู้เป็นคนเข้าโรงหนังได้นะ

ปล. ตอนนี้ได้ยินเสียงหนังและโฆษณาตัวอย่าง ก็อยากอ้วกแล้ว
ปล. 2 ทำนองเพลงของ Spiderwidk Chronicles เจ๋งดี


19 กุมภาพันธ์

เพิ่งเห็นลูกเล่นใหม่ของพันทิปกับบล็อคแก๊งค์ เหมือน Hi5 ดีนิ
แต่มันคล้ายๆ จะซ้ำซ้อนกันนะ อย่าง My Network นี่ก็คล้าย friend link เพียงแต่คุยกันแบบหลังไมค์ได้ด้วย Profile นี่เหมือนเดิม (รึเปล่า?) แต่ไม่อยากให้โชว์อีเมล์เลยอ่ะ เพราะไม่ค่อยใช้แอคเคาน์นั้น กลัวโดนสแปมด้วย

เดี๋ยวรอดูคนอื่นหาลูกเล่นแต่งก่อน ค่อยไปขอก๊อป อิอิ


12 กุมภาพันธ์

ปรับเวลามาตื่นเช้า (8-11 โมง) ได้สามวัน
... ปรากฏว่า งานไม่เดินเลย เพราะชินกับการทำงานตอนดึกเงียบสงัด
ตื่นมาก็จะกินไปอ่านการ์ตูนไป หยิบนิยายอ่านต่อ ถ้านิยายสนุกก็หยิบเล่มใหม่ ถ้าไม่สนุกก็หันไปจัดหนังสือ พอสามสี่โมงเย็นค่อย...เฮ้ย ต้องทำงานนะ แต่เปิดเครื่องได้สักพักก็ต้องออกข้างนอกไปหาของกิน (หรือเดินร้านหนังสือมือสองเล่น)

แล้วพอสักสามสี่ทุ่ม ก็จะนั่งหน้าคอม เล่นเน็ตไป สัปหงกไป
สภาพแบบนี้ทำงานไม่ได้ชัวร์ นอนดีกว่า ไว้พรุ่งนี้ค่อยทำงานเพิ่มสองเท่า

วันรุ่งขึ้น ...ทำอย่างข้างบนอีก
โทรไปเลื่อนส่งงานสองรอบแล้ว แหะแหะ


8-9 กุมภาพันธ์ - ตรุษจีนไดอะรี่ (ต่อ)

เมื่อวานอุตส่าห์นอนตอนเย็น ตั้งใจจะปรับเวลาตื่นให้เป็นเช้าตรู่
ผลคือตื่น 5 ทุ่มเมื่อวันก่อนเลย นึกว่าจะน็อกหลับยาวเสียอีก หมู่นี้ เวลาหลับนานไม่เท่ากันแฮะ คำนวณไม่ถูกแล้ววุ้ย

อย่างไรก็ตาม เพราะเมื่อวานไม่อยากอยู่บ้าน (ไม่งั้นจะเผลอหลับ)
เลยออกไปร้านหนังสือมือสองใกล้บ้าน แล้วก็ได้หนังสือมาอีกเพียบ
ระยะนี้เป็นแบบนี้บ่อย คือเข้าไปเจอตอนหนังสือเข้าร้านพอดี ยังไงก็มีที่จะซื้อมากกว่า 3 เล่มแน่นอน

มีหนนึง เข้าอีกร้านเจอตอนมีหนังสือเข้า 4 ลัง! คนขายยังไม่ขายเพราะสรุปราคากันไม่ได้ ของก็คาร้านอยู่ ระหว่างที่คุยกัน คนขายก็บ่นเรื่องราคาขายส่งแบบฉุน ๆ แล้วก็เปิดลังมาให้ดูทีละลังเลย (ลังมันซ้อนกันอยู่) ประเด็นคือเขาอยากโชว์ประกอบว่าได้หนังสือเก่ามาเยอะ หนังสือใหม่นิดเดียว ฯลฯ จขบ. เลยได้อานิสงส์...ฟังไปเล็งหนังสือไปพลาง ๆ นี่ถ้าซี้กันคงขอนั่งอ่านตรงนั้นเลย
ผล: รอบนั้นซื้อหนังสือไปเกือบสองพันแน่ะ (ใครอยู่แถวปิ่นเกล้าและชอบเข้าร้านมือสอง คงรู้ว่าร้านไหนนิ)

ตอนนี้หนังสือเยอะมาก ไม่รู้จะอ่านอะไรก่อนดีแฮะ พวกใหม่เอี่ยมหรือกองดองจากงานสัปดาห์คราวก่อนดี?
(เวลาตัดสินใจไม่ได้ ก็จะเล่นเกมแทน ฮา)

ปล. ++ หนังสือใน TBR เล่มนี้อ่านยากชิบเป๋ง สำนวนดีอยู่หรอก แต่เดินเรื่องช้านรก เช่น บรรยายสามหน้า สรุปความคือ "ประชาชนทุกวัยทุกอาชีพจากทุกสารทิศพากันเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าชายที่ป่วยอยู่"

ปล.2 ++ Unsuitable Lover สุดยอดมากกกก
เคะร้าวรานระหว่างเจ้าหมาขาลากกับแมวเปอร์เซียแสนสวย ซึ้งงงง
(ถ้าอ่านแล้วไม่รู้ว่าพูดถึงอะไร ก็แสดงว่าคุณไม่จำเป็นต้องรู้ อิอิ)


7-8 กุมภาพันธ์ - ตรุษจีนไดอะรี่

ความจริง วันที่ 7 คือวันที่เพื่อนชวนไปเดินร้านหนังสือมือสองแถวนนท์ เพราะพวกเราเคยได้ข่าวว่าหนังสือเข้าแถวนั้นเยอะ (ฟังจากพ่อค้าร้านแถวบ้าน) ประจวบกับน้องคนที่เคยสนิทกันย้ายร้านไปตรงนั้นด้วย ก็คิด ๆ กันตั้งแต่ปีก่อนแล้วว่าอยากไปแถวนั้นสักครั้ง ...แต่ไม่ได้ไปเสียที

แต่เพราะปรับเวลานอนไม่สำเร็จ เช้าวันที่ 7 เลยยังเป็นเวลานอนตามเดิม ต้องปล่อยเพื่อนไปลุยคนเดียว ส่วนจขบ. นั่งดูหนัง 4 เรื่องรวดจนถึงบ่าย

วันนี้ เพื่อนเดินสายเข้า 2 ร้านแถวนนท์ ต่อด้วยสะพานควาย อนุสาวรีย์ แต่เขาบอกว่าไม่เห็นมีอะไรเลย ตัวเขาไม่ได้หนังสือสักเล่ม (เพื่อนคนนี้อ่านแต่แนวรักที่จบแฮปปี้และไม่มีฉากรุนแรง) ส่วนจขบ. ได้มา 3 หรือ 4 เล่มนี่แหละ ฝากเพื่อนซื้อ

เพื่อนบ่นว่า "เหมือนออกมาเดินซื้อหนังสือให้เธอเลย" .. แฮ่ ก็จริงนะ


6 กุมภาพันธ์

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้!!
(อั่งเปาล่ะ อั่งเปาอยู่ไหน)

ชาวบ้านหยุด แต่เราไม่หยุด น่าสงสารไหมล่ะ? กาซิก (แหลค่ะ ปกติหยุดให้ตัวเองอาทิตย์ละสามสี่ห้าวันตามอัธยาศัย เดดไลน์ไม่ถึง ไม่เริ่มลงมือทำหรอก)

ระหว่างที่ท่านพ่อท่านแม่ไม่อยู่ กำลังคิดว่าจะลั๊ลลายังไงดี
- ขนกองดองมาจัด ใช้ห้องแม่เป็นที่วางแบข้ามวัน (เสี่ยงต่อการจัดไม่เสร็จ)
- ดูหนังวันละหลาย ๆ รอบให้ตายไปข้างนึง (ทนเซ็นเซ่อไหวเหรอ?)
- ดูหนังแผ่นที่ซื้อมาแล้วไม่ว่างดูเสียที (น่าสนแฮะ แต่ทำตอนไหนก็ได้นี่)
- อ่านหนังสือแบบหลุดโลก ตื่นก็อ่าน ง่วงก็นอน หิวก็กิน โลกนี้ไม่มีอะไรอีกแล้วนอกจากหนังสือตรงหน้า (น่าสนเช่นกัน)

เตือนตัวเอง: ยังมีงานต้องส่งต้นอาทิตย์หน้า..ตามปกตินะ


4 กุมภาพันธ์

กระทู้ล่าสุดเกี่ยวกับ ชมรม "โตแล้วเฟ้ย"

ส่วนคลิปนี้ เอาไว้กระตุ้นตัวเอง เผื่ออยากหยิบหนังสือมาใส่ TBR
(Credits: นำมาจากคห. ของคุณ Coming Attraction ในเฉลิมไทย)



1 กุมภาพันธ์

เมื่อหลายชม. ก่อน จขบ. จะพิมพ์ไฟล์จากโน้ตบุ้ค ปกติที่บ้านมีเครื่องพิมพ์ HP LaserJet 1100 เสียบอยู่กับเดสก์ทอปอยู่แล้ว ถ้าใช้ก็ใช้ได้เลย แค่ก๊อปไฟล์จากโน้ตบุ้คไปเดสก์ทอปก็จบ

แต่..ม่ายยย มันต้องทำให้เรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก ซะงั้น

เริ่มจากยกโน้ตบุ้คไปเสียบกับเครื่องพิมพ์อีกยี่ห้อที่ยกมาจากร้านแต่ไม่เคยแตะ จขบ. คิดว่ารุ่นมันใหม่กว่าเครื่องเดิม หมึกคงดีกว่า
...ปลุกปล้ำต่อเครื่อง หาสายสักพัก แต่ดันไฟไม่เข้า สงสัยเครื่องเสีย

ยกเครื่องพิมพ์ HP ตัวเก่ามาไว้ข้างโน้ตบุ้ค ใส่แผ่น driver เพื่อติดตั้ง แต่เครื่องบอกว่า "not compatible with XP" เลยเข้าเว็บ HP ไปหาโหลด งมอยู่เป็นชั่วโมง เว็บเข้าใจยากมาก (หรือไม่ เราก็โง่เอง) มีบางจุดที่พอกดเข้าไปคีย์รุ่น มันบอกว่าเครื่องเก่าไปด้วยล่ะ

แต่งมไปงมมา ก็เจอที่ให้โหลดสองอัน คือ มันเป็นเครื่องชื่อรุ่นเดียวกัน ต่างแค่ตัวต่อท้าย จขบ. โหลดที่มันบอกว่าเป็น printer driver มา แต่โหลดเสร็จ กดรัน แล้วไม่เกิดไรขึ้นอ่ะ เวรจริง ไปโหลดที่มันลงท้ายว่า bundle ก็ได้ฟะ ...อันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ หลอกให้รอโหลดเสร็จ ถึงบอกว่าเราไม่มี access ฮ่วย!!

ลองใช้วิธี add printer ในโน้ตบุ้ค ตอนแรกทำไม่ได้ ตอนหลังขึ้นกระบวนการให้ แต่สุดท้ายก็ลงเอยว่า "need some files for ..." แล้วมันไฟล์ไหนล่ะเฟ้ย! ลอง add ใหม่แล้วเปลี่ยนโน่นนี่นิดหน่อย คราวนี้บอกว่าขาดไฟล์ HPPTA อีกรอบเป็นไฟล์ HPPNTK ...ทั้งสองไฟล์ไม่มีในเครื่องหรือแผ่น สรุปว่าติดตั้งไดรเวอร์ไม่ได้ชัวร์

พอถึงตอนนี้ ก็พบว่าเสียเวลาไปแล้ว 2 ชม. (เพื่อพิมพ์ไฟล์เวิร์ด 10 หน้า ) เลยก๊อปไฟล์ไปใส่เดสก์ทอป ยกเครื่องพิมพ์ตัวเก่าไปเสียบตามเดิม ไม่เกิน 10 นาทีก็เรียบร้อย

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....???

- ไม่ควรใช้เครื่องพิมพ์เก่าตกรุ่น ประเภทไดรเวอร์ไม่สนับสนุน XP
- มนุษย์เรามันประสาท ทั้งคนที่ทำเรื่องง่ายให้ยาก และคนที่คิดคอมพิวเตอร์อัจฉริยะชาญฉลาด แต่ทำให้เครื่องเป็นแบบ Plug&Play ทุกรุ่นไม่ได้!

และ... เราน่าจะศึกษาเรื่องคอมให้มากกว่านี้หน่อยนะ

* * * * * *

ว่าด้วยเรื่องเซ็นเซอร์...ในโรงหนัง รวมถึงแผ่นลิขสิทธิ์ที่เราเสียเงินซื้อ
อ่าน กระทู้นี้ แล้วโดนใจมาก

เคยบ่นไปแล้วว่าจขบ. ซื้อ vcd แม็คกายเวอร์แบบกล่องมา ปรากฎว่าโดนเซ็นเซ่อบุหรี่ตลอด แม้แต่ฉากที่พระเอกจะปีนปล่องลิฟต์ แล้วควักบุหรี่มาจุด เพื่อพ่นควันหากับดักแสงเลเซอร์ ... บุหรี่โดนเซ็นเบลอตลอด อนาถจิตสุดชีวิต โคตรอยากเอาไปคืนร้านเลย (ตอนนั้นเป็นช่วงแรก ๆ ของกระแสเซ็นเซ่อ)

เห็นว่ากันว่าเดี๋ยวนี้แผ่นก็โดนเบลอหมด จขบ. ไม่ค่อยตามข่าวเสียด้วย ซื้อเรื่องน้ำหอมมาก็ยังไม่ได้ดู (แต่แว่ว ๆ ว่ามีนะ) ซื้อมาเพียบ แต่ยังไม่ได้ดูทั้งนั้นเลย ถ้าโดนเซ็นหมดนี่ จะเลิกซื้อแผ่นล่ะ และถ้าวาสนาเกื้อหนุนให้เน็ตแรงกว่านี้ จะโหลดแบบไม่เกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมด้วย เอาให้บริษัทที่ทำแบบนี้มันเจ๊งไปเลย

สนับสนุนแผ่นผี ซีดีเถื่อนฮ่ะ

ปล. เอานโยบายนี้ไปใช้กับหนังสือแม้งบ้างดีป่ะ?

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 1 มีนาคม 2551 0:27:30 น.		53 comments
Counter : 1164 Pageviews.
Share Tweet