ยังคงติดเกมและเล่นเฟสมากกว่า อาจไม่ค่อยมาตอบคอมเม้นท์นะคะ

ยาคูลท์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




ข้าพเจ้าเป็นสุข และเชื่อว่าใครก็ตามซึ่งมีรสนิยมในการอ่านหนังสือดี ย่อมสามารถทนต่อความเงียบเหงาในทุกแห่งได้ -- วาทะของท่านมหาตมะ คานธี


Book Archive by Group



หมายเหตุ: โซน Romance และ การ์ตูน ยังไม่ทำเพราะมีน้อย


Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
7 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ยาคูลท์'s blog to your web]
Links
 

 
พฤศจิ...เรื่อยๆ มาเรียงๆ


25 พฤศจิกายน - ดูหมอ

มีเรื่องอยากเล่ามาก จนลืมหมดแล้วว่าอะไรบ้าง 555

กรณีช่างโจรขโมยของไป ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ทำให้รู้ว่า..
ถ้ามีเครื่องประดับเพชรเป็นอัญมณี ควรถ่ายรูปชัดเจนเก็บไว้อีกที่หนึ่ง ถ้าโดนยกตู้เซฟหรือหายไป จะได้นำภาพส่งไปตามโรงจำนำ (อาจไม่ได้ผลเสมอไป แต่มันก็ช่วยให้เอาผิดคนร้ายง่ายขึ้นน่ะ)


พี่ดอกไม้ทำตัวเป็นกัลยาณมิตรอย่างแท้จริง นอกจากจะชักชวนพี่สะใภ้ไปล่าตัวเมียช่างโอ๋ถึงร้านแถวคลองถมแล้ว (เหตุการณ์ตรงนี้เหมือนหนังนักสืบสมัครเล่นเลย) วันต่อมายังคอยอยู่เป็นเพื่อนเวลาไปตามข่าวที่สน. ด้วย พอกลับมา เห็นเจ้าทรัพย์หน้าเศร้า ก็ชวนไปดูหมอ! จขบ. เลยตามไปดูด้วย

ตอนแรกพี่เขาชวนไปดูกับแม่ชี แต่เผอิญเป็นวันพระ แม่ชีไม่สะดวก พี่เลยพาไปดูแถววงศ์สว่าง จรัญฯซ. 20 หรือ 21 นี่แหละ พี่ดอกไม้เล่าว่าหมอดูเป็นครู (ถ้าฟังไม่ผิดนะ) ค่าไหว้ครูไม่แพง คนละ 200 บาท เปิดรับบัตรคิววันธรรมดาตอน 4 โมงเย็น แล้วก็เริ่มดูไปตามคิว

วันที่ไปเป็นวันธรรมดา คนน้อยดี พวกเราได้คิวที่ 4,5,6 รอไม่เกินสองชั่วโมงก็ได้เข้าไป

พี่สะใภ้ดูคนแรก ยื่นมือปุ๊บ หมอดูทักเลยว่า "พระเสาร์หยุดนะ" แล้วจึงอธิบายว่าตอนนี้ คุณกำลังเบื่อๆ เหนื่อยใจ ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นใช่ไหม นั่นเพราะพระเสาร์หยุด การเงินจะชะงัก แต่ยังดีที่ไม่ถึงกับวินาศ
จากนั้นก็บอกว่าจะมีลูก 2 คน (พี่สะใภ้อุ้ม 2 ท้อง แต่มีแฝด เลยไม่รู้จะถือว่าแม่นไหม) พูดถึงนิสัยพี่ชายกับพี่สะใภ้ได้ตรงเผง มีทักด้วยว่าบริวารจะไม่ดี (ช่างโอ๋คงจัดเป็นบริวารได้มั้ง) ... ช่วงท้าย ๆ พอถามเรื่องของหาย หมอดูบอกว่าปลายเดือนจะได้คืน แต่ไม่ครบ เขาเอาไปขายเป็นทุนระหว่างหลบหนีแล้ว

จขบ. ดูเป็นคนต่อไป ประโยคแรกที่หมอดูพูดคือ "อยู่คนเดียวนะเธอน่ะ" (แอบแปลในใจว่า "ขึ้นคานนะเธอน่ะ") แล้วก็พูดถึงนิสัยจขบ. ได้แม่นทีเดียว คือบอกว่าไม่ค่อยสนใจเรื่องความรัก ใจไม่คิดประหวัดไปทางนั้นเอาเลย แม่หามาดูตัวก็ไม่เอา "เพราะเธอน่ะอธิษฐานไว้ ชาติก่อนถือศีล เป็นแม่ชีมาเกิด"
... จุดนี้ จขบ. แอบเชื่อนิดหน่อยนะ เพราะตั้งแต่แรกเกิด จขบ. ชอบกินผัก แค่ผักดองกินกันข้าวต้มก็อิ่มแล้ว ไม่ดิ้นรนหาอย่างอื่น ผัดหมูซีอิ๊วให้ก็ไม่สน (แม่เล่าว่าตอนยังไม่รู้ความนี่ถึงขนาดอาเจียน) แล้วจขบ. ก็เชื่อว่าการอ่านหนังสือเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง ลักษณะการใช้ชีวิตปัจจุบันก็แสนจะปลีกวิเวก ละม้ายคล้ายชีมืดในคอนแวนด์ไม่มีผิด T^T

เรื่องงานก็แม่น หมอดูพูดเองเลยว่า "เธอทำงานอะไรน่ะ ทำไมเห็นออฟฟิศอยู่ที่บ้าน อยู่บ้านตลอดเลยนะเธอ" (จขบ. ทำงานที่บ้าน ไม่ว่างานราษฎร์งานหลวง) แอบดีใจเล็กน้อยตอนหมอดูชมว่า "ทำอย่างตอนนี้ก็ดีแล้ว เงินผ่านมือเธอได้ เพราะเธอซื่อ ไม่ขโมย" ... แฮ่ จริงๆ ตอนเฝ้าร้านสมัยเด็ก เคยจิ๊กตังค์ไปซื้อหนมนะ

แต่พอถามเรื่องดวงเดินทาง (มีโปรแกรมเดินทาง 2 แห่งที่แม่ชวน ขึ้นดอยกับไปจีน) หมอดูบอกว่าไม่ดี หลังกุมภาถึงดี จขบ. ถามว่า "ไม่ดียังไงคะ?" หมอดูก็ว่า "โจรกรรม" จากนั้นก็มองหน้าจขบ. สองวิ แล้วบอกว่า "จะไปจีนล่ะสิ ก็ไปได้ แต่มันจะมีของหาย" สรุปคือยืนยันว่าจะเดินทางปลอดโปร่งก็ต้องหลังกุมภา
... กลับมาบ้าน พบว่าแม่ล้มโครงการขึ้นดอยไปแล้ว แต่ยังจะไปจีนอยู่ เลยเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง พ่อแม่ตกใจ อยากไปดูมั่งว่าแล้วพ่อกับแม่ล่ะ..ไปได้ไหม? จากนั้นก็หัวเราะ "ถ้าหมอดูบอกว่าไปไม่ได้ จะยกเลิกตั๋วหมดยังไง" ดังนั้น ไปก็ไป คราวนี้จะพกเงินน้อยๆ ไม่เอาบัตรเครดิตหรือของสำคัญไปละกัน
(แม่บอกว่าให้ฝากพาสปอร์ตกับไกด์ แต่จขบ. คิดว่าถ้าสมมติดวงจะหาย ไกด์ก็คงทำหายอยู่ดีอ่ะนะ)

ตาพี่ดอกไม้เป็นคนสุดท้าย หมอดูบอกว่า "ชั้นไม่เห็นเธอทำงานเลยนะ มีแต่เล่นหวย แทงบอล" จขบ. ไม่สนิทกับพี่เขา แต่ภายหลังมาถามแม่ แม่บอกว่าแม่น พี่ดอกไม้แกอยู่บ้านเป็นเพื่อนแม่ ไม่ได้ทำงานอะไรจริงๆ
หมอดูยังทักพี่ดอกไม้ด้วยว่า "ไปรดน้ำมนต์มาล่ะสิ คิดว่ารดแล้วจะได้ถูกหวยมากขึ้น ผิดแล้ว การพนันเป็นอบายมุข เธอรดน้ำมนต์เป็นกุศล อบายมุขก็หนีหมด"

โดยรวมแล้ว เป็นการดูหมอที่สนุกดีค่ะ หมอดูเขาให้เคล็ดพี่สะใภ้ (ตักบาตรวันเสาร์ 10 ครั้ง พระเสาร์จะได้มีแรง) กับพี่ดอกไม้ (นำต้นไม้ชื่อเป็นมงคลใส่กระถางไปถวายในเขตวัต เสริมธาตุของพี่ให้หนุนดวง)

เท่าที่สังเกต หมอดูเขาไม่พยายามสร้างความกลัวนะ พยายามพูดให้สบายใจด้วยซ้ำ เช่น กรณีพี่สะใภ้ไม่ถูกใจนิสัยพี่ชายจนกลายเป็นรำคาญ หมอดูก็บอกว่า "เขาเป็นของเขาแบบนี้ แต่ไม่มีข้อเสียอื่น เนี่ย เห็นรำคาญกันอย่างงี้ พวกเธอเป็นเนื้อคู่กันด้วยนะ"
ดังนั้น พอหมอดูทักว่าจขบ. จะต้องผ่าตัดแถวหน้าอก เลยเสียว ๆ แฮะ ไม่เคยตรวจพวกนี้เลยด้วย อย่างไรก็ตาม หมอดูบอกว่าไม่ต้องกลัว ไม่ร้ายแรง แค่ก้อนซีสต์

... ไว้มาดูกันว่าหมอดูแม่นแค่ไหน
1. พี่สะใภ้จะได้ของคืนปลายเดือน
2. พี่ดอกไม้จะถูกหวยสิ้นเดือนหรือกลางเดือนหน้า
3. จขบ. จะของหาย (อ่า ทำหัวใจหายได้ป่าว ฮา)
4. มีเรื่องขโมยนิดนึง คือ หมอดูย้ำว่าที่มาน่ะมี 3 คน เป็นผู้หญิงคนนึง รออยู่ข้างนอก (พี่ดอกไม้สงสัยว่าอาจเป็นเมียโอ๋) แต่เคสนี้คงพิสูจน์ยาก

ในเรื่องร้ายมีเรื่องดี ช่วงนี้คนในบ้านและรปภ. ตื่นตัวกันกว่าปกติ บ้านที่เคยเปิดโล่งไม่ล็อคสักประตูก็เริ่มหาแม่กุญแจมาคล้อง พี่ชายรู้จักอยู่บ้านเวลาเรียกช่างมาซ่อมของในห้องตัวเอง--ไม่ใช่ทิ้งคำสั่งให้คนงานเฝ้าแล้วตัวเองไม่อยู่แบบทุกที เวลาหมาเห่า จขบ. จะชะโงกมาดูว่าเห่าอะไร (อันทำให้ได้เห็นหมากัดงูตาย บรื๋อว์~ สวนบ้านหนูมีงูด้วยหล่ะ!!) ช่วงที่แปลงร่างเป็นแมรี่ป๊อปปิ้นส์ก็สนิทกับหลานมากขึ้น (หลอกหลานเล่น ซานุ๊กซาหนุก 555)



19 พฤศจิกายน - โจรใกล้ตัว

วันนี้ ขโมยขึ้นบ้านค่ะ

ที่บ้านจะมีช่างที่คุ้นเคย..สมมติว่าชื่อ "โอ๋"...เข้ามาแก้โน่นซ่อมนี่ ทำงานจิปาถะมา 5 ปีแล้วเป็นอย่างต่ำ ส่วนใหญ่เป็นงานของพี่ชายซึ่งมักมีโครงการโน่นนี่อยู่เสมอ นาน ๆ ทีถึงจะเข้ามาทำงานเบสิคประเภทเครื่องเสียในห้องแม่หรือห้องจขบ.

วันนี้ประมาณเที่ยง ช่างลูกน้องของโอ๋ 2 คนจู่ๆ ก็โผล่มาที่บ้าน บอกว่ามาติดจานให้ทีวีห้องพี่สะใภ้ โทรไปถามพี่ก็ได้ความว่าไม่เป็นไร
.. สองคนนี้จะอุ้มกล่องกระดาษแข็งมาด้วย บอกว่าเป็นเครื่องไฟฟ้าที่จะมาติดตั้ง

ช่างคนหนึ่งพยายามหลอกล่อให้เขว เช่น บอกให้ไปหาสว่าน (ที่วันก่อนโอ๋โทรมาบอกว่าลืมไว้ตอนมาซ่อมอะไรสักอย่าง) ทำเป็นขึ้นชั้นสี่ไปดูดาดฟ้า ลงมาชั้นสามแล้วก็ขึ้นดาดฟ้าอีก เลยคอยประกบคนนี้

ช่างอีกคนเดินเข้าห้องโน้นห้องนี้ในชั้นสาม จากนั้น คนงานคนแรกก็ถือวิสาสะหยิบกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่จากชั้นสี่ลงมาในห้องชั้นสาม ล็อคประตูห้องพี่ซะงั้น
พอโวยว่าล็อคห้องทำไม ช่างก็ตอบว่าเดินสายไฟช่วงหน้าประตูอยู่ สักพักก็เปิดประตูห้อง แล้วกลับไปพร้อมกล่องหนึ่งใบ (ขนาดประมาณทีวีไซส์ใหญ่)

ช่างคนหนึ่งไปเรียกแท็กซี่มารับช่างอีกคน แบกกล่องขึ้นหลังรถ ออกจากหมู่บ้านตอน 12:45

13:20 (โดยประมาณ) ถึงรู้ว่าตู้เซฟใต้โต๊ะแต่งตัวพี่หายไปแล้ว
งานเข้าสิครับท่าน วิ่งไปตู้ยามบอกว่าโจรแวะมาเยือนจ้า ขอดูทะเบียนแท็กซี่ เผื่อฟลุ้คสกัดจับได้ตั้งแต่ตอนโจรยังไม่ลงจากรถ
...ปรากฏว่าโทรไม่ติดสักเบอร์ ไม่ว่าจะ 191 จ.ส.ร้อย ร่วมด้วยช่วยกัน สน.xx ขนาดมีมือถือสามเครื่องช่วยกันโทรนะนั่น สุดท้ายต้องโทรเข้าร้านบอกให้ทางนั้นช่วยโทรด้วย

จุดนี้ จขบ. ขอบอกว่าแค้นมากกกกก เพราะข้อมูลแท็กซี่เป็นอย่างเดียวที่สมบูรณ์แบบ มีเวลาเข้า-ออก ชื่อคนขับ กท. ลักษณะรถ ครบทุกอย่าง ถ้ารวบตัวได้ตอนนี้จะจับได้คาหนังคาเขา ได้ของคืน ได้คนร้ายพร้อมกันไปเลย

หลังจากนั้นจะเป็นการช่วงรับแขกกันวุ่น เจ้าหน้าที่แวะมาสองคน สารวัตรมาอีกคน โดยไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะทำไปทำมา พี่รู้แค่..โอ๋ชื่อจริงว่าวิษณุ ไม่รู้จักบ้านหรือนามสกุลด้วยซ้ำ ส่วนพวกช่างลูกน้องนี่ไม่มีข้อมูลเลย

พอพี่น้องสามคนมากันครบ (ตอนแรก จขบ. อยู่บ้านคนเดียว) พวกเราก็กระจายกำลัง คนนึงไปรับเด็ก ที่เหลือไปสถานีตำรวจ พวกผู้ใหญ่อยู่ร้าน ใช้กำลังภายในผ่านเส้นสายเท่าที่รู้จัก

ตอนอยู่ที่สน. ก็ได้เบาะแสโน่นนี่มาทีละนิด เจ้าหน้าที่สองนายปลีกตัวไปตามหาตัวช่างโอ๋ อีกคนเก็บข้อมูลจากพวกเรา สักพัก พี่ดอกไม้ (นามสมมติ) ที่เป็นคนแนะนำช่างโอ๋ให้ครอบครัวก็มาถึง พี่เขารู้เรื่องเข้าก็พยายามคิดจนได้เบอร์เมียช่างโอ๋และโทรไปหลอกถามจนรู้ที่ตั้งของที่ทำงานเขา พี่ดอกไม้จี้ให้ตำรวจส่งคนไปที่นั่นเพราะที่นั่นจะปิดร้าน 5 โมง แต่ตอนแรก ตำรวจไม่มีทีท่าจะไป บอกว่าไม่รู้ชื่อเมียโอ๋ ไม่รู้ที่อยู่นี้คือที่ไหน ฯลฯ

จขบ. แยกมากับผู้หมวดเจ้าของคดีเพื่อพามาดูที่เกิดเหตุ (อันทำให้สงสัยว่าพวกเจ้าหน้าที่ที่ไปตอนบ่ายและรู้สึกจะถ่ายรูปด้วย...ไปเพื่อ?) พี่สะใภ้กับพี่ดอกไม้ตัดสินใจลุยไปหาเมียโอ๋เอง จะเค้นให้รู้เรื่อง

ณ ตอนนี้ ยังไม่รู้ว่าช่างโอ๋รู้เห็นเป็นใจกับลูกน้องไหม เพราะโทรติดต่อโอ๋ไม่ได้เลย แต่เพื่อนที่เราแนะนำช่างโอ๋ให้ไปซ่อมบ้านเขาด้วยบอกว่าพวกเขาโทรหากันเมื่อเช้า โอ๋บอกว่าจะไปอุดร เพื่อนพี่อีกคนบอกว่ามีนัดจะให้ช่างโอ๋เข้าไปซ่อมที่บ้านสุดสัปดาห์นี้ (ถ้าสืบไม่คืบหน้า คงต้องไปดักโอ๋ที่นั่น)

เหตุการณ์ในห้องสืบสวนหลังจากนั้น จขบ. ไม่รู้ เพราะต้องแปลงร่างเป็นแมรี่ ป๊อปปิ้น ดูแลให้หลานกินข้าว ทำการบ้าน อาบน้ำ (ซึ่งขอบอกว่าเหนื่อยโคตร หลานเป็นพวกไร้ระเบียบมาก มีคนรองมือรองเท้าจนชิน)

ก่อนหลานกลับบ้านครบฟูลเดค จขบ. ได้ต้อนรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานด้วยล่ะ ด้วยความที่ชอบดู CSI, Bones, Navy NCIS เลยค่อนข้างตื่นเต้นนะ นึกเลยเถิดไปว่าเขาน่าจะหารอยนิ้วมือคนร้ายชัด ๆ ได้จากเทปกาวบนกล่องที่คนร้ายถือมาหลอกให้งงตอนแรก (เวลาแกะเทป นิ้วต้องจับเทปด้านหลังที่เป็นกาวนี่)
... ปรากฏว่าขั้นตอนเขาค่อนข้างปกติ ปัดผงหารอยนิ้ว ปิดเทปใสไปแปะกับกระดาษ ถ่ายรูปวัดขนาด จบ แล้วก็มีจุดที่หารอยนิ้วมือได้น้อยกว่าที่คิดด้วย ต้องเป็นพื้นผิวพลาสติกแบนที่ใหญ่พอจะเห็นทั้งนิ้วถึงจะใช้ได้ จอทีวีเป็นแบบปุ่มอยู่ข้างจอแบน จึงเก็บรอยไม่ได้
... แอบชอบร้อยโทหญิงที่มา น่ารักดี ดูยังเด็กๆ อยู่เลย ทำไมตอนเด็กฉันไม่เรียนนิติเวชน้า


อัพเดทล่าสุด (เมื่อกี้แว่บไปคุยกับพี่ที่เพิ่งกลับมา)
เมียโอ๋: สมมติว่าชื่อวิหค เธอทำท่าไม่รู้เรื่องตอนพี่สะใภ้ตามไปเจอ ไม่ยอมมาให้ปากคำที่สถานีตอนแรก ทั้งตอนที่มีตำรวจและไม่มีตำรวจ แต่สุดท้ายก็ต้องมาที่สน. และโดนกักตัวจนถึงเมื่อกี้ เพราะตำรวจสรุปว่าวิหคมีพิรุธ (ไม่แน่ใจว่าคืนนี้เธอได้กลับบ้านหรือกักตัวยาวเลย)
น้องห่าง ๆ คนนึงได้ยินวิหคคุยกับพ่อแม่โอ๋ว่า "สงสัยโอ๋มีส่วนด้วยแน่"

แท็กซี่: ตามมาที่สน. ภายหลัง คนขับจำข้อมูลได้ และบอกว่าเอะใจตอนเปิดท้ายใส่กล่องที่หนักมาก ยังถามเลยว่าใส่อะไรไว้ (เชื่อไหมว่าโจรตอบว่า "หนังสือ" ) ผู้โดยสารโจรไปลงที่บางกรวย ตรงจุดที่ไม่มีบ้านเรือนอะไร คนขับสังเกตอีกครั้งตอนยกกล่องลงว่ากล่องหนักผิดปกติ

สายตำรวจบอกว่าหลังจากนั้น มีรถปิคอัพขับมารับสองคนนี้ สืบทะเบียนพบว่าเป็นรถของโอ๋ ซึ่งตอนนี้ยังหายสาบสูญ

ตำรวจยังสืบพบชื่อและข้อมูลบัตรประชาชนของช่างที่มาปล้นวันนี้คนหนึ่งแล้ว

โปรดติดตามตอนต่อไป

ปล. ข้อมูลข้างบนมีบิดเบือนเล็กน้อย เพราะมีจุดที่ "ไม่บอกจะดีกว่า" และทั้งหมดเป็นนามสมมติค่ะ

ปล.2 หมวดเจ้าของคดีหล่อมาก
(ยศตำรวจตรีนี่เรียกหมวดรึเปล่า? ไม่แน่ใจ)

เพิ่มนิดนึง:
ทรัพย์สินในตู้เซฟมูลค่าโดยประมาณถึง 6 หลัก และเลขตัวแรกไม่ใช่ 1 ด้วยค่ะ แต่ที่น่าใจหายคือแม่ของพี่สะใภ้เอาเครื่องเพชรเครื่องทองที่มีทั้งหมดมาฝากไว้ในตู้เซฟด้วย เพราะละแวกบ้านคุณแม่ไม่ปลอดภัย

คุณแม่เขาเป็นหม้าย ลูกหลานแต่ละคนแค่ทำงานพอกินไปวัน ๆ และไม่มีกิจการส่วนตัว พูดดุ่ยๆ คือ..เป็นแค่ชนชั้นกลางค่อนไปทางระดับล่างน่ะ มูลค่าตัวเงินของทรัพย์สินคุณแม่เขาอาจน้อยกว่าของพี่สะใภ้ แต่จขบ. 'ใจหาย' กับกรณีคุณแม่มากกว่านะ


ระหว่าง 7-19 พฤศจิกายน

ระบบร่างกายรวน อยู่ๆ ก็นอนหลับได้แค่ครั้งละ 3-5 ชม. แล้วก็ตื่นเอง ลุกมาทำโน่นนี่ในบ้าน พอง่วงก็นอน หลับไป 3-5 ชม. ตื่นมาทำโน่นนี่ วนไปเวียนมาแบบนี้อยู่ประมาณ 3 วัน
หลังจากช่วงนั้น ได้หลับเกิน 6 ชม.ไปหนนึง นึกว่าระบบปกติแล้ว เลยเข้าเมือง ปรากฎว่าดันไปติดฝนในร้านหนังสือ แล้วก็เริ่มหน้ามืดแบบความดันต่ำ (ครั้งสุดท้ายที่เผอิญวัดความดันเมื่อเดือนก่อน ความดันคือ 55-85) พอไปนั่งกินในร้านอาหาร..และถือโอกาสพักด้วย...ก็มีอาการคล้าย panick attack คือหัวใจเต้นรัว หมดแรงจะทำอะไรทั้งนั้น ไม่กล้าลุกกลับ ได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้นจนค่อยๆ สงบใจได้
ดีนะที่ร้านอาหารไม่ค่อยหนวกหูหรือมีอะไรกระตุ้นอาการกว่านี้

หลังจากนั้น เลยเก็บตัวอยู่บ้านตลอด ประหยัดเงินไปเยอะเลย


---

งานเซลล์ห้องสมุดเนลสันเฮยส์ มาถึงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
จิตใต้สำนึกเตือนอยู่เหมือนกันว่างานเนลสันจะอยู่ช่วงพฤศจิ แต่มีเหตุให้นึกได้ตอนปิดคอมพิวเตอร์ไปแล้วทุกที เลยไม่รู้วันที่เสียที

วันนีง (ลืมวันที่แล้ว) เผอิญตื่นตี 3 ไปส่งพ่อแม่ จากนั้นก็เปิดคอมอ่านนิยาย อ่านกระทู้อะไรเล่น นึกเรื่องเนลสันได้ก็เข้าไปเสริช แล้วก็...เฮ้ยยยย วันนี้!!!~

ตอนที่รู้ก็สิบโมงแล้ว น่าเศร้ามาก เพราะงานเซลล์ของที่นี่ ของดีจะหมดไปแทบจะทันทีช่วงครึ่งชม. แรกแหละ

สรุป จขบ. จับแท็กซี่ไปสุรวงศ์ ถึงตอน 11 โมง จ่ายไปพันเศษ ได้มา 13 เล่ม อุตส่าห์ถ่ายรูปไว้อัพบล็อก แต่ปรากฏว่าอะไรสักอย่างเสีย เสียบการ์ดแล้วเครื่องไม่ยอมป๊อปอัพว่ามี New Hardware Found กดยังไงมันก็ไม่ยอมแสดงข้อมูลในการ์ด (นี่ฉันต้องเสียเงินอีกแล้วใช่ม๊ายยยยย)

ไฮไล้ท์ที่ได้มาคือ Farseer Trilogy เล่มละ 80 บาท สภาพใหม่มาก


7 พฤศจิกายน

เดือนใหม่ผ่านไปไวเหมือนโกหก แป๊บเดียวเกือบหมดไปหนึ่งในสามแล้ว

ช่วงนี้ตื่นหลังหกโมงเย็นถึงสี่ทุ่มค่ะ วันเวลาเลยมั่วมาก

ชีวิต: อ่านหนังสือได้น้อย(กว่าที่ควร) ทั้งที่ไม่ได้ออกไปเดินเล่นนอกบ้าน น่าจะกำจัดกองดองได้เป็นล่ำเป็นสันกว่านี้ ... แปลว่าถ้าตื่นก่อนเที่ยงจะเอื้อต่อการอ่านมากกว่า อย่างที่เคยคิดไว้จริงๆ ด้วย

แผนการ: ได้โปรแกรมเที่ยวสิ้นปีแล้ว เป็นกลุ่มรุ่นพ่อแม่ตามเคย รู้สึกบรรดาเพื่อนพ่อเพื่อนแม่เขาจะฝากความหวังให้จขบ. เป็นตากล้อง เพราะคราวก่อนชอบไปถ่ายรูปให้คนที่เดินทางคนเดียวและไม่มีกล้อง (จขบ. เป็นตากล้องแบบที่ถ่ายทุกคนที่ยืนอยู่ในมุมสวยน่ะ ไม่ใช่ถ่ายแต่ครอบครัวตัวเอง) งานนี้เลยคล้าย ๆ จะโดนวางตำแหน่ง 'ตากล้องเฉพาะคนมาเดี่ยว'

...ค่อนข้างหนักใจ เพราะกล้องเริ่มตกรุ่นตั้งแต่ต้นปีแล้ว การเก็บภาพมุมกว้างและสีมันไม่เจ๋งแล้วอ่ะ ทริปนี้วิวสวยกว่าต้นปี ท่าทางแม่จะหวังรูปสวย ๆ ผิดจากทุกทีด้วย ออกคำสั่งมาเลยว่าให้ไปยืมกล้องพี่หรือน้องชายแล้วหัดถ่าย

ทีนี้ จขข. มีชนักติดหลังมาจากงวดก่อนที่ยืนกล้องเขามาแล้วอุ๊บอิ๊บยิปซีมาใช้เอง (ทำบ่อย) เลยเขินอายไม่กล้าไปยืม (จริงๆ คือยังตื่นไม่ทันเจอหน้าคนอื่น)
แล้วเวลาใช้กล้องใหม่ ทริปแรกมักจะรูปออกมาบัดซบมาก ต้องสองสามทริปผ่านไปก่อนถึงจะออกมาสวยโชว์ได้ ... กดดันค่ะ กดดัน

(อย่าว่าแต่...เดือนนี้คงงานยุ่งด้วย ไปไหนก็ไม่ได้ไป สมมติว่าต่อให้มีกล้องใหม่ แล้วจะหัดถ่ายยังไงเนี่ย?)

การเงิน:

ความรัก:


บ่น: ว่าด้วยเรื่องร้านหนังสือ...

หลังงานมหกรรมหนังสือฯ จขบ. ไปหาหนังสือที่แพร่หลายเล่ม เพราะเพิ่งรู้ว่าซื้อครบ 2,000 บาทได้ลด 10% พอดีอยากได้พวกหนังสือราคาแพงเล่มละพันอยู่เล่มนึง ถ้าเลือกพวกนิยายอ่านเล่นมาด้วยพร้อมกัน คิดว่าทำยอดถึงแน่ แต่เพราะหนังสือยังมาไม่ครบ เลยขอเก็บไว้เพื่อมารอจ่ายพร้อมเล่มที่ขอให้เขาตามหาจากที่อื่น

ไปครั้งที่สอง เล่มที่ตามยังไม่มา เลยจ่ายเฉพาะพวกอ่านเล่นที่อยากอ่านแล้วมาก่อนรอบนึง (ยอดเกินสองพัน) และฝากกล่องดวงแก้วฯ เล่มละพันไว้ตามเดิม เพราะรอตามหนังสืออีกสองเล่ม ... ที่ฝากดวงแก้วฯ ไว้ก็เพื่อให้ยอดงวดหน้ายอดถึงสองพันแน่ กันกรณีคุยกันไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวไม่ได้ลด

สองสามวันก่อนแว่บไปเอาหนังสือที่ควรมาแล้วทุกเล่ม (ครั้งที่สาม) ปรากฎว่าเล่มนึงหมด อีกเล่มยังไม่มา แต่ที่อึ้งคือ เล่มดวงแก้วฯ ซึ่งฝากวางไว้หลังเคาน์เตอร์โดนแกะพลาสติกออกโดยที่ไม่ได้ห่อกลับด้วย (คราวก่อน จขบ. เกรงใจว่ายังไม่จ่ายเลยไม่ได้ขอแกะดูสภาพด้วยซ้ำ)
... ไงล่ะ มันก็อึ้งๆ น่ะ เพราะวันนั้นกะว่าจะไปเคลียร์ทุกอย่าง แค่ไม่ได้เล่มที่ตามสักเล่มก็ค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยแล้วนะ เล่มดวงแก้วฯ ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะเอากลับมาเปิดอ่านก็ดันเป็นงี้อีก..ซื้อไม่ลงอ่ะ เพราะเล่มนี้ตั้งใจซื้อมาเก็บสะสม ราคาเป็นพัน ฉันต้องเป็นคนเปิดซิงเล่มนี้ถึงจะถูก ไม่ใช่วางตากฝุ่นไว้กี่วันแล้วก็ไม่รู้ วันนั้นห้างจะปิดแล้วด้วย ต้องรีบลงไปสมทบกับครอบครัว ไม่มีเวลาดูให้ดีว่ามีตำหนิอะไรไม่ถูกใจรึเปล่า ถ้ามีหน้ายับหรือรอยเลอะนิดนึงก็คงไม่ให้เปลี่ยนแน่นอน

ระยะหลังไม่ค่อยมีอาการนักซื้อจอมเนี้ยบ หนังสือต้องซิงเรียบกริ๊บ ไร้รอยขีดข่วนแล้วนะ แต่เฉพาะเล่มแพง ๆ นี่คงต้องยอมอาการกำเริบหน่อย สรุปว่าวันนั้นเลยยอมหน้าด้าน บอกเขาว่า "เล่มนี้ขอไม่เอานะคะ จะรอเล่มใหม่ค่ะ" ... พร้อมกับความเซ็งในใจเพิ่มขึ้นอีกสองขีด เพราะว่างและอยากอ่านจริงๆ วันนั้น กว่าหนังสือเข้าอีกทีวันเสาร์หน้า ก็งานยุ่งแล้ว จะมีเวลาอ่านเรอะ

แต่ที่เซ็งมากคือ ขอซื้อไม่ครบสองพัน เขาไม่ยอมลดให้อ่ะ ทั้งที่จำได้ว่าวันที่จ่ายเงินไปคราวก่อนนั้น มีคุยกันว่าขอชำระเงินบางส่วน แล้วงวดหน้าซื้อเท่าไหร่ก็จะลดให้เพราะถือว่าเป็นการซื้อครั้งเดียวกัน เขาพูดเองว่า "เอาบิลมาดูก็ได้ค่ะ" (ประมาณว่าหยวน ๆ ให้ เพราะความจริงทั้งหมดนี่ควรจ่ายรวดเดียวอยู่แล้ว เพียงแต่ขอเอาไปอ่านก่อนส่วนหนึ่ง)
... ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าคงเป็นแค่ลมปาก แต่พอโดนจริงๆ ก็จ๋อยนะ

ตอนถามเขา จขบ. ถือนิยายอยู่เล่มเดียว แต่ตอนเดินโฉบไปโฉบมาในร้านมีเล็งไว้แล้วว่าถ้าได้ลดจะซื้ออะไร คือ ลมพัดผ่านดาว หน้าต่างในเงาเมฆ ภพฟ้าข้ามฝัน ดอยสูงฟ้าใส เพรงเพลิง ใต้ร่มกาแล และอาจมีของค่ายเก้าก้าวกับพลอยชมพูติดมือมาอีกสามเล่ม ... ถ้าโปะหนังสือมติชน พิมพ์คำหรือแจ่มใสที่ยังไม่มีใส่ไปอีกสองสามเล่ม ก็คงครบสองพันแหละ ปกติจขบ. ซื้อของง่ายจะตาย ข้อมูลในหัวก็อัพเดทมากตอนนี้ ไม่ต้องลองเปิดอ่านแล้วคิดอะไรอีก ยิ่งรู้ว่าลดเนี่ย มีโอกาสสูงมากที่จะซื้อๆๆๆ เกินจากที่คิดไว้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ร้านนี้ไม่ได้ใจจขบ. อ่ะ ไม่ซื้อก็ได้ เชอะ
(ย่อหน้านี้ ยกหางตัวเองมาก 555 แต่ที่ไม่หยิบหนังสือทั้งหมดมาถือแต่แรก ก็เพราะจะลองใจเขานี่แหละ เผื่อวันหลังที่ซื้อไม่ถึงจริงๆ จะได้รู้ว่าลดหรือไม่ลด)

เดี๋ยวสุดสัปดาห์หรือต้นสัปดาห์หน้าจะลองเข้าไปเอาดวงแก้วฯ อีกที ดูซิว่าจะเป็นยังไง อาจไม่เบิกหนังสือใหม่มา? อาจเอาชุดเก่ามาห่อพลาสติกเฉย ๆ? หรืออาจมองด้วยแววตารำคาญ? ไว้ดูกัน แต่ ณ ตอนนี้ แพร่คือร้านที่เข้าได้เฉพาะเวลาซื้อเยอะเท่านั้น

เผื่อสงสัย จขบ. เพิ่งสำรวจแพร่พิทยาร้านนี้ครั้งแรกนี่แหละ หมายถึงในแง่ว่าจะลองไปซื้อกับเขาแบบตั้งใจจะซื้อกันต่อไปอีกนานนะ เมื่อก่อนเคยซื้อเฉพาะเล่มที่หาร้านอื่นไม่เจอ แต่ปกติ..แค่เดินเข้าไปดูยังไม่ค่อยเข้าเลย เพราะดูไปก็ซื้อไม่ได้ ไม่ลด ซื้อทำไม ซื้อซีเอ็ดกับนายอินทร์ดีกว่า
นโยบายสองพันลดสิบนี่ก็โอเค ใช้หลักให้ส่วนลดเฉพาะคนซื้อเยอะ แต่ร้านคงไม่นึกว่ายังมีนักอ่านบางคนที่ไม่ชอบซื้อทีละเยอะ ๆ (ยกเว้นจะลด 15-20% อย่างในงานหนังสือ หรือ 30% อย่าง DBT) อย่างเช่นจขบ. เวลาซื้อหนังสือจากร้านนอกช่วงเทศกาล ส่วนใหญ่จะเข้าไปอ่านอะไรเล่นบ่อย ๆ แล้ววันไหนที่นึกอยากซื้อก็จะซื้อสักครึ่งพันหรือพันกว่า พอให้ยอดรูดบัตรได้ไม่น่าเกลียด แต่ก็คงไม่โหมซื้อทีละสองพันแน่ มันไม่ใช่นิสัยเราอ่ะ ชอบซื้อทีละนิด แต่ไปเกือบทุกวันมากกว่า

การหาร้านหนังสือเจ้าประจำแถวบ้านนี่มันยากจริง
- ซีเอ็ดวางหนังสือหายากและมีระบบห่อปกน่าโมโห เผลอทีไรตัดปกทุกที
- นายอินทร์ถูกใจกับส่วนลดกับโปรโมชั่น แต่ร้านเล็กและของน้อย...ถ้าไม่ซื้อทันทีที่เห็นออกใหม่ หนังสือจะเยิน หรือไม่ก็หมด
- อยากได้ร้านที่มีให้เลือกละลานตา หาอะไรก็มีแบบแพร่พิทยา..ซึ่งก็ดันต้องซื้อทีละเยอะ ๆ ผิดวิสัยตัวเอง
- บีทูเอสเลิกซื้อตั้งแต่เขายกเลิกบัตรสมาชิกมาเป็นระบบวันการ์ด (จะลดก็ลดมาเลย ให้มาสะสมแต้มอะไรอีก เหมือนบังคับให้ซื้อที่นี่ที่เดียว บ้าเรอะ เป็นคนหลายใจเฟ้ย ทำไม่ได้!) รอซื้อช่วงลดตามโปรโมชั่นทางร้านอย่างเดียว

คิดถึงร้านดอกหญ้าสมัยก่อนจัง "เพียงแวะเข้ามาชม เราก็แอบนิยมคุณในใจ" ... ร้านนี้แหละที่จขบ. ซื้อวันละเล่มสองเล่มทุกครั้ง ทำไปทำมา มีหนังสือแนวที่อ่านแทบทุกเล่มเลย



Create Date : 07 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2551 3:19:51 น. 46 comments
Counter : 2862 Pageviews.

 
ไม่รู้จักลูกค้ารายใหญ่ซะแล้ว

บางทีพนักงานที่ไม่มีหัวใจ+ไหวพริบในการบริการก็ทำให้เสียลูกค้าเหมือนกันนะคะ


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:38:02 น.  

 
เราขอเตือนคุณแพร่พิทยา

แล้วคุณจะเสียจายยยยยยยยยย...ยยยย(เอคโค่)
รายได้ของร้านคุณจะหายไปเกือบ 20,000 บาทต่อเดือน 555


โดย: คิดนาน IP: 124.121.242.187 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:07:44 น.  

 
เอากล้องใหม่มาก่อน ถ้าไม่มีเวลาไปไหน ถ่ายบ้าน ถ่ายคนหน้าบ้าน ถ่ายอะไรใกล้ๆ ก่อนก็ได้ ไปซื้อหนังสือก็พกไป ถ่ายโน่นนี่ๆ ให้ชินมือค่ะ ลองดูเนาะ


ส่วนร้านหนังสือ อ่านแล้วก็เซ็งแทนนะ



พิพิธภัณฑ์น่ะ อยากให้ไปนะ ใกล้บ้านคุณยาคูลท์มากๆ จริงๆ

เอาไว้ไปตอนเราไปพร้อมแพนด้าฯ ฮันจังแล้วก็รีเบลมั้ยหละคะ?


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:42:52 น.  

 
เง่อ รับไม่ได้ตั้งแต่ต้องซื้อถึงสองพันถึงจะลดแล้ิวล่ะ เฮ่อๆ


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:07:38 น.  

 
ถึงคุณยาคูลย์ค่ะ
ที่บอกว่ามีเทพบุตรซ้ำกันอ่ะค่ะ เล่มไหนอ่ะค่ะ ถ้านุชสนใจอยากซื้อต่อขายไหมค่ะ แล้วขายยังไง mail มาบอกหน่อยได้ไหมค่ะ ที่ nuch_aon_23@hotmail.com ถ้าเกิดว่าขายน่ะค่ะ ส่งเลขที่บัญชีมาให้เลยค่ะเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา (เป็นการบังคับอ่ะป่าวเนี๊ยะ) หุ หุ ขอบคุณล่วงหน้าน่ะค่ะ


โดย: nuch IP: 119.42.65.59 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:56:08 น.  

 
^
อ่า เทพบุตรไหนคะ? นึกไม่ออกค่ะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:17:23 น.  

 
ไปพิพิธภัณฑ์กันเต๊อะ


เราก็คิดถึงดอกหญ้านะ บริการดี หาของให้ ห่อปกด้วย
ปีใหม่ก็ปฏิทินสวย ใช้งานได้จริง
(มีปีนึง เป็นรูปวาดแบบหนังสือนิทานฝรั่ง ในแต่ละเดือนก็มีภาพตัวการ์ตูนกับชั้นหนังสือ ช้อบชอบ)


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:45:46 น.  

 
เทพบุตรเยือกแข็งอ่ะค่ะ หรืออีกนามว่า ตำนานภูติน้ำแข็งอ่ะค่ะ อ่านๆดูแล้วรู้ว่าคุณยาคูลย์มีครบชุด และมีเกินเพราะซื้อซ้ำอ่ะค่ะ เลยอยากจะซื้อต่อ ยังไงก็กระทู้บอกหรือ mail บอกก็ได้น่ะค่ะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: nuch IP: 119.42.72.215 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:09:29 น.  

 
สวัสดีอีกรอบค่ะ

อ่า..สระว่ายน้ำที่เห็นน่ะ ไม่ได้ติดทะเลค่ะ แหะๆ ติดบึงน้ำน่ะ

ส่วนเรื่องไปมิวเซียม รอนัดกันก่อนค่ะ เรายังหาเวลาว่างตรงกับคนอื่นยากอยู่น่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:27:50 น.  

 
เล็งๆกล้องแถวนี้ไว้เหมือนกันค่ะ
รู้สึกว่าเจ้าป๊อกแป๊กที่ใช้อยู่มันเริ่มเอ๋อแล้ว
แต่ก็กลัวว่าซื้อแล้วจะใช้ไม่คุ้มจังเลย


โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:3:51:09 น.  

 
^
ถ้าซื้อที่โน่นแล้วราคาได้ราคาถูก/สเป็คสูง ก็น่าซื้อนะ

คุณสาวไกด์ - งั้นรอก่อนได้ค่ะ ช่วงนี้เราเวลานอนสับไปสับมาอยู่พอดีเลย

คุณ nuch - คงไม่ขายนะคะ เพราะได้มาตั้งแต่เล่มแรกถึงตอนพิเศษราปุนเซล ค่อนข้างชอบอะค่ะ
แต่ร้าน 50% ในเมเจอร์ปิ่นเกล้ามีเรื่องนี้อยู่สองสามเล่มค่ะ

ตอนร้านนี้เปิด เราเจอเล่ม 1, 4-7 (แอบแยกเก็บไว้มุมนึง เผื่อใครสน) ล่าสุดประมาณไม่เกินสองอาทิตย์ก่อน เราไปส่องชั้นการ์ตูนหมึกจีนเล่น ยังเจอเล่ม 4, 5 หรือ 6 อยู่เลย แต่สันจะเหลืองมากๆๆๆ กว่าชุดที่เราเจอที่อีกร้าน (ซึ่งเคยมีเศษบางเล่มเหลือจากที่เราซื้อไป แต่ตอนนี้หายไปแล้ว)


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:08:37 น.  

 
แวะมาต่อที่บล็อกนี้นะคะ (บล็อกโน้นกลัวไปสปอยล์)

เรางงว่าทำไมเอาบทที่พระเอกมีอะไรกับนางเอกแล้ว มาขึ้นก่อนบทที่ยังไม่มีอะไรกัน ตอนอ่านก็งง เปิดกลับไปกลับมาเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบที่คุณยาคูลท์บอก คือ เขียนสลับเวลากัน แล้วตอนนี้มันจำเป็นต้องเขียนแบบสลับกันด้วยเหรอเนี่ย น่าจะเขียนเป็นเหตุการณ์ปัจจุบันได้นะคะ


โดย: หมูย้อมสี วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:43:09 น.  

 
มิวเซียม 29 ไหมฮับ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:29:11 น.  

 
ไว้ใกล้ๆคริสต์มาสจะไปเล็งอีกที
เขาว่าทุกหนทุกแห่งจะลดราคาอะค่ะ


โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:3:18:30 น.  

 

พวกร้านหนังสือเขาเป็นอย่างนั้นกันทั่วกทม รึไง แถวนี้ก็เป็น


โดย: อั๊งอังอา IP: 202.176.89.115 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:39:14 น.  

 
พี่ขา แนะนำที่ซื้อหนังสือของ 1168

www.1168group.com หน่อยคะ หาไม่ค่อยเจอะเลย
ยากมากๆ ยิ่งเล่มเก่าๆ


โดย: 8ov IP: 124.120.222.51 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:11:03 น.  

 
มันผ่านไปจะสองในสามแล้วเจ๊


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:28:23 น.  

 
แอ๊ะ------ น่ากลัวอะเรื่องช่างโจรเนี่ย

บ้านเราก็พยายามใช้ช่างประจำนะ
พ่อใช้บริการช่างรุ่นพ่อ มาถึงรุ่นเราก็ยังติดต่อกับช่างรุ่นลูก เอาแบบรู้จักบ้านช่องโคตรเหง้ากันเลย
แต่มีช่วงซ่อมบ้านช่วงนึงที่รู้สึกหลอนๆ ...

หลานชายของลุงช่าง (เรียกหลานแต่จริงๆ ก็แก่กว่าเราหลายปี) แกพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจง่ะ
ซ่อมบ้านเสร็จแล้ว แต่ยังโทรเข้ามือถือเรา บางทีก็บอกว่ามากินข้าวแถวบ้าน ออกมากินด้วยกันมั้ย ไม่ก็โทรมาตอนหัวค่ำ อ้างว่ารถชนแถวบ้าน รบกวนขอยืมตังค์หน่อย ลุงไม่อยู่ ติดต่อไม่ได้ บลาๆๆ สรุปคือ มักมามุข "อยู่ใกล้บ้าน ออกมาเจอกัน" แล้วยังมีการกำชับเราด้วยว่า "อย่าบอกลุงนะว่าพี่โทรมา" อ้าว เฮ้ย-- ไรวะ เวลารำคาญๆ ก็คิดจะบอกลุงช่างนะ แต่ครั้งสุดท้ายที่คนๆ นี้โทรมา (คราวนี้อ้างว่า กินข้าวอยู่ร้านแถวรามอินทรา ตังค์ไม่พอจ่าย รบกวนยืมก่อน ช่วยมาจ่ายให้ที) เลยตัดสินใจบอกไปว่า

"โทษนะ ไม่ได้อยู่บ้านแถวนั้นแล้ว ตอนนี้อยู่บ้านสามี"


หายวับไปเลย เบอร์นี้ ผ่านมาสองปีกว่า ไม่โทรมาอีกรุยยยย


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:25:25 น.  

 
ป.ล. 29 โดดร่มได้จ้า ลงชื่อก่อนก็ได้เด้อ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:42:24 น.  

 
ขอให้ตามเจอตัว ได้ของคืนนะพี่

ตอนขโมยขึ้นบ้านแนน ผู้ต้องสงสัยก็มี หลักฐานนิ้วมืออะไรได้มาเพียบ แต่ผ่านไป 3 ปีแล้ว กองพิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้ส่งเรื่องกลับมาที่ สน.เลยว่า match กับผู้ต้องสงสัยรึเปล่า ตามทีไรก็บอกให้รอส่วนกลางๆ

เกลียดตำรวจไทย


โดย: คิดนาน IP: 124.120.88.59 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:13:37 น.  

 


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:51:59 น.  

 
โอยยย โจรใจกล้าโคตรเลยพี่ เจ้าของอยู่ยังตบตาได้อ่ะ อะไรเนี่ย ขอให้ตามตัวโอ๋เจอและได้ของคืนนะคะ ข้อมูลเบาะแสมีเยอะแยะแบบนี้ เห็นใจคุณแม่พี่สะใภ้

เอาใจช่วย รอฟังข่าวเพิ่มนะคะพี่


โดย: พัท IP: 79.131.50.54 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:08:06 น.  

 
น่ากลัวอะ เอาน่ะ ก็ยังดีที่ไม่มีใครเป็นอันตรายนะคะ
(แอบฮาตรงคนร้ายบอกหอบ "หนังสือ" ไป น่าเชื่อถือนะนี่)

ข้อมูลเพียบขนาดนี้ ตำรวจน่าจะจับได้ง่ายๆนา

ปล. ตำรวจชุดนี้ดูจะหน้าตาดีแฮะ สาวก็น่ารัก หนุ่มก็หล่อ


โดย: ทินา วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:5:13:43 น.  

 
น่ากลัวจัง

ขอให้ได้ของคืนมานะคะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:22:41 น.  

 

เดี๋ยวนี้ตำรวจหน้าตาดี แสดงว่าสารวัตรูปหล่อในหนังสือเป็นจริง

ขอให้คดีคืบหน้าไวๆ นะ น่าสงสารคุณแม้พี่สะใภ้จัง


โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:53:21 น.  

 
สมัยนี้น่ากลัวจริงๆ ขนาดอยู่บ้านและระวังดีแล้วก็ยังเสร็จโจรจนได้

เอาใจช่วยให้จับโจรได้ไวๆนะคะ


โดย: หมูย้อมสี วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:57:27 น.  

 
คุณยาคูลล์ค่ะจะรบกวนไหมค่ะถ้าเกิดว่าจะวานให้คุณยาคูลล์เป็นคนไปซื้อให้หน่อยคิดค่าเดินทางและค่าจัดส่งกับนุชได้ค่ะ (ยินดีมากๆ) คือด้วยความที่ลูกสาวยังเล็กไม่สามารถไปไหนนานๆได้เลยค่ะ เขาติดนุชมาก ไม่กล้าฝากไว้กับใครเลย ยังไวรบกวนคุณยาคูลล์หน่อยน่ะค่ะ นุชต้องการเล่ม 1 - 3 และ 6 -7 (จบที่เล่ม 7 หรือเปล่าไม่แน่ใจ)ค่ะ


โดย: nuch IP: 119.42.65.180 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:50:59 น.  

 
ลืมบอกไปค่ะ เดี๋ยวคุณยาคูลล์จะงง เรื่อง เทพบุตรเยือกแข็ง ที่เคยถามไปน่ะค่ะ ถ้ารบกวนต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะ แต่อยากลองถามดูน่ะค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ


โดย: nuch IP: 119.42.65.180 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:53:17 น.  

 
^
คุณ nuch

เทพบุตรฯ ของหมึกจีนเนี่ย เขาถึงประมาณเล่ม 7 หรือ 8 แล้วก็หยุด ไม่อวสานนะคะ ถ้าแบบครบชุดต้องของ lovebook ...ซึ่งหายากมากๆๆๆๆๆ เล่มเศษยังไม่เคยเห็นเลย

ดังนั้น เล่มเศษ ๆ แถวบ้านเราเนี่ย ถึงได้ไปก็อ่านไม่รู้เรื่องเท่าไหร่หรอก เพราะครั้งสุดท้ายเห็นอยู่ 2-3 เล่มเอง เผลอ ๆ อาจโดนใครสอยไปแล้ว เหมือนจะไม่เห็นแล้ว (เพิ่งไปหาหมึกจีนอ่านเล่นเมื่อวาน)


โดย: จขบ. (ยาคูลท์ ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:44:37 น.  

 
ค่ะ ขอบคุณคุณยาคูลท์ค่ะ อยากจะออกตัวนิดนึงว่าเคยมีของ lovebook ค่ะ เก็บได้ 22 เล่มแล้ว แต่!...คุณแม่นำมันไปขาย (โดยไม่ปรึกษาสักกะนิดดดดดดด) พอไปตามซื้อคืนร้านบอกว่าพอตั้งปุ๊บก็มีคนซื้อปั๊บ คราวนี้นุชก็จนปัญญหาเลยค่ะ เป็นหนังสือแนว y เล่มแรกที่ได้อ่านและได้ซื้อเลยค่ะ (เสียดายสุดๆ) เลยต้องมานั่งตามจนทุกวันนี้ และบังเอิญไปเจอของหมึกจีน นุชเลยคิดว่าตามหมึกจีนน่าจะง่ายกว่าอ่ะค่ะ ยังไงรบกวนคุณยาคูลท์น่ะค่ะ ถ้าพบเห็นที่ไหนในจำนวนเล่มที่นุชยังไม่มีรบกวนเก็บไว้ให้ด้วยค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ

ปล.นุชตามมาได้แค่ เล่ม 4 กะ 5 เองค่ะ (ของหมึกจีนน่ะค่ะ)

ว่าจะถามคุณยาคูลท์ คือ มีคนแนะนำหลายคนแล้วว่าถ้าหาหนังสือมือสองเก่าให้ไปแถวเกษตร ไม่ทราบว่ามันอยู่แถวไหนเหรอค่ะ คุณยาคูลท์พอทราบไหมค่ะ รบกวนอีกเรื่องน่ะค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: nuch IP: 119.42.65.180 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:17:00 น.  

 

glitter-graphics.com

เจ๊ วันเสาร์นี้ รายการเช้ายังไม่แน่อะจ้ะ
กำลังลุ้นว่าแอปเปิ้ลจะมา กทม. ได้ไหม
ตอนแรกว่าเช้าจะไปมิวเซียมสยาม
ออกไปกินกันต่อ คงเป็นสุกี้มื้อกลางวัน (ราวๆ เที่ยง) แถวพารากอน


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:27:33 น.  

 

ตารางวันเสาร์มีตามนี้จ้า เจ๊สะดวกออกมายามใดก็มาได้เน้อ

10.00 เจอกันที่มิวเซียมสยาม ชมพิพิธภัณฑ์
12.30 ไปคิโนะพารากอน รับแมวพจ แล้วข้ามฟากไปสยาม กินสุกี้ด้วยบัตรลดราคาของแมว (โหะๆๆ)
กิจกรรมหลังอาหาร - ไปเที่ยวร้านหนังสือกัน
แล้วช่วงเย็นค่อยไปลานเบียร์หรือตามอัธยาสัย


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:51:27 น.  

 
โหพี่ มีไปดูดวงคลายเครียดด้วยแฮะ หรือกลับไปคราวนี้ไปดูด้วยดีหว่า เหอๆๆ ไม่ได้ดูหมอมานานชาติแล้ว หมดเอาแต่บอกว่าจะถูกผู้ชายหลอกอยู่เรื่อย

พัทกลับ 20 ธันวานะคะพี่ ไว้นัดเจอกันนะคะ


โดย: พัท IP: 87.202.104.93 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:37:43 น.  

 
เฮ้ยยยยยยยยยยยยย ขอพิกัดแน่นอนหน่อย สนใจๆ

ว่าแต่วงศ์สว่างกับจรัญนี่มันคนละซีกโลกเลยหนา


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:41:49 น.  

 
ตารางเศร้าเอ๊ย เสาร์ ตอนนี้เหลือรายการตอนเที่ยงนะเจ๊

เจอกัน 12.00 คิโนะ กินสุกี้จ้ะ


(มิวเซียมเลื่อน รอสมาชิกอีกสองคนที่เสาร์นี้มายังไม่ได้อะ แง)


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:56:26 น.  

 
เพิ่งแวะมาทราบข่าว

เสียใจด้วยเรื่องขโมยขึ้นบ้าน อย่างไรก็ขอให้เจอนะ


สนใจหมอดูอย่างแรง

พรุ่งนี้ไปใช่มะคะ?

จะขอรายละเอียดหน่อย สนใจๆๆๆๆๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:23:52 น.  

 
กรี๊ด ดูหมอน่าสนอะ ไว้หนูกลับบ้านแล้วพาไปหน่อยนะค้า


โดย: ทินา วันที่: 29 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:03:00 น.  

 
เข้ามาติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดค่ะ ยังงัยก็ขอให้ได้คืนเร็วๆนะคะ

ป.ล. น่าสนใจหมอดู ถ้าได้ของคืนปลายเดือนจริงๆ จะขอพิกัดไปดูบ้าง (ชีวิตหนูจะมีคู่มั้ยคะ )



โดย: หมูย้อมสี วันที่: 29 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:48:37 น.  

 
คุณ nuch

ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าช่วงไหนของเกษตร ปกติเราหาแต่แถวบ้านตัวเองนี่แหละ ไม่ค่อยไปไกลหรอก

ขอให้โชคดีหาเจอนะคะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 30 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:23:06 น.  

 
ตกลงได้คืนมั้ยอะคะ มาติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดง่ะ



เสียดาย วันเสาร์ไม่ไป อยากเจออ้ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:18:46:48 น.  

 
เห็นพี่ไปเมนต์ในบล็อคของคุณที่ดู twilight อ่ะค่ะ
จะบอกว่า อ่าน Eng เถอะพี่ สนุกกว่ากันเยอะมากกกกก
จริงๆนะ อารมณ์มันแบบวัยรุ่นอเมริกันคุยกันอ่ะ แปลเป็นไทยแล้วห้วนๆไงไม่รู้
แต่จริงๆแล้ว เล่ม 1 สนุกที่สุดนะคะ เล่มอื่นก็พอโอเค
เล่ม 2 มีบีบหัวใจนิดนึง ที่เหลือก็เรื่อยๆ

แต่ในหนังทำไม Jacob ไม่หล่อเลยอ่ะ เราจินตนาการไว้หน้ายังกะเมมฟิส (พระเอกของแครอลอ่ะ หล่อไปป่าว อิอิ)

ขอบคุณสำหรับหนังสือค่า


โดย: คิดนาน IP: 124.120.83.236 วันที่: 3 ธันวาคม 2551 เวลา:21:34:54 น.  

 
^
หลังจากไปดูหนัง พี่เกิดอาการทไวไลท์ฟีเว่อร์
จะหา e ก็ดันไม่มีเลยสักเล่ม เลยต้องอ่านฉบับแปลอ่ะ
พออ่านสองเล่มแรก ก็เข้าใจแล้วล่ะว่ามันเป็นยังไง

อ๊ากกกกก..กก อย่างแรง

นึกได้ว่าเคยได้ไฟล์มาสี่เล่มนี่หว่า อยู่ในอีเมล์
แต่สงสัยเผลอลบทิ้งไป หาไม่เจอ เซ็งโคตรๆ เลย
อ๊ากกกกก...อีกรอบ หงุดหงิดจิตกระจาย ฮึ่ม

จะซื้อก็เสียดายเงินวุ้ย

Jacob เป็นหน้าตาตัวประกอบมาก แต่เล่มแรกยังเป็นแค่เบบี๋...ถือว่ารับได้
แต่ถ้าจะเล่นต่อ ต้องปรับให้หุ่นเฟิร์มและบึกกว่านี้อีก 30% ถึงจะผ่านสำหรับรับบทเล่มสอง หุหุ


โดย: ยาคูลท์ IP: 58.9.137.131 วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:0:16:46 น.  

 
Aim Star เอมสตาร์


โดย: Aim Star เอมสตาร์ (mlmboy ) วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:19:58:39 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องขโมย กับ เรื่องหมอดู

กำลังรอ update ว่า ได้ของคืนมั้ยน่ะค่ะ

พี่สาวเคยโดนขโมยขึ้นบ้านเหมือนกัน หมดไปเยอะมาก
เสียดายแทน


หมายเหตุ...ช่วงนี้จขบ.ไม่ค่อยรีวิวหนังสือเลยนะคะ


โดย: พุดน้ำบุศย์ IP: 117.121.208.2 วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:20:46:06 น.  

 
อะโหยวๆ ธันวามาแย้วเจ๊

ติดตามความคืบหน้าเป็นระยะกับเรื่องขโมย
ขอให้ได้ของคืนนะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:12:44:37 น.  

 
เมื่อวันจันทร์ ที่ 5 กันยายน 2554 ที่ผ่านมาได้มีสาวยาคูล์ที่จังหวัดตาก โดนโจนดักปล้นเงินและถูกทำร้ายร่างกายอย่างสาหัสจนต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะว่านิ้วมือแตก 2 นิ้ว และในวันเดียวกันนั้นตำรวจก็ได้จับตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ก็คือได้เงินกลับมาครบ หลังจากนั้นก็มีเพื่อนๆยาคูลท์มาเยี่ยมกันบ้างบางคน แต่ที่เจ็บใจไปมากกว่าโดนโจนปล้นก็คือ เจ้าของศูนย์ยาคูลท์ไม่เคยมาสนใจใยดี ไม่เคยมีเงินช่วยเหลือแม้แต่บาทเดียว ทำให้พนักงานเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ จึงไม่อยากไปทำงานเพราะหัวหน้าใจดำ


โดย: ลูกค้ายาคูลท์ IP: 203.158.160.17 วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:10:05:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.