Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [? ]
ข้าพเจ้าเป็นสุข และเชื่อว่าใครก็ตามซึ่งมีรสนิยมในการอ่านหนังสือดี ย่อมสามารถทนต่อความเงียบเหงาในทุกแห่งได้ -- วาทะของท่านมหาตมะ คานธี Book Archive by Group หมายเหตุ: โซน Romance และ การ์ตูน ยังไม่ทำเพราะมีน้อย
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
พฤษภา...สุญญากาศ
29 พฤษภาคม จำไม่ได้ว่าเคยเล่ายัง ถ้าเคยอ่านแล้วก็อ่านอีกทีละกัน เดือนก่อน ซินแสฮวงจุ้ยมาดูบ้าน พ่อกับแม่เลยพาขึ้นข้างบนมาดูกองภูเขาหนังสือคลุมผ้า ตั้งโด่เด่อยู่กลางบ้าน ความจริง ทำเลตรงนั้นเคยเป็นทางโล่ง จุดเชื่อมต่อระหว่างประตูห้องย่อยกับระเบียงเทอเรซ เดิมมีชุดเก้าอี้ไม้สลักแบบเชียงใหม่ ตัวเก้าอี้ยาวปูสามเบาะนั่ง มีโต๊ะอีกตัว ตรงผนังมีรูปเจ้าแม่กวนอิม พ่อกับแม่เลยประมาณว่าทำเป็นที่ไหว้พระจีนเสียเลย เก้าอี้เดี่ยวอีก 2 ตัวโดนย้ายไปอีกห้อง ตอนแรก จขบ. หาที่ลงหนังสือไม่ได้ ไหนๆ ก็ไม่มีใครใช้เก้าอี้ยาวแล้ว ขอวางหน่อยละกัน ผ่านไปสักเพลาหนึ่ง เกิดมีเหตุให้ต้องจัดห้อง ก็เลยจัดการ์ตูนไปวางอย่างเป็นเรื่องเป็นราว (คือ ลองวางให้มันใช้พื้นที่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด ไม่ได้กองสุมๆ เข้าไปแบบปกติ) หลังจากนั้น หนังสือก็อุปมาดั่งเชื้อรา ลามไปอยู่บนโต๊ะด้วย (โต๊ะยาวพอๆ กับเก้าอี้แหละ) เหลือพื้นที่ประมาณ 1/4 ให้พ่อใช้วางโน่นนี่เวลาจะไหว้พระ หลังจากหลังจากนั้นอีกที จขบ. มักจะช้อปหนังสือจนเพลิน..ทั้งในงานมหกรรมลดราคาฯ และเวลาเดินตามร้านมือสอง ไม่มีที่แลนด์ดิ้ง เลยวางโหมะมันไว้กับพื้นนั่นแหละ ฮึดขึ้นมาทีก็ลุกขึ้นมาจัดหนังสือแยกเป็นหมวดหมู่ใส่ถุง..กองไว้อย่างเก่า แน่นอนว่าจากโต๊ะนั่นไม่ได้มีกองหนังสือที่พื้นแค่ชั้นเดียว (ระดับจขบ. เชียวนะ ชั้นเดียวได้เหรอ โฮะโฮะ) เอาเป็นว่าแค่กองที่พื้นไม่รวมบนโต๊ะ ก็สามารถอ่านได้ทั้งแนวท่องเที่ยว นิยายรัก นิยายลึกลับสืบสวน นิยายกำลังภายใน..อือม์ อ่านได้หลายเดือนแน่ คงเห็นภาพภูเขากลางบ้านกันแล้วชิมิคะ? (เสียดายกล้องอยู่กับน้อง อดถ่ายมาดูเป็นที่ระลึก) ไอ้กองนี้แหละที่พ่อกับแม่บอกให้กำจัดทิ้ง เพราะจะย้ายโต๊ะพระไทยมาตั้งแทนเก้าอี้ยาว และเอาโต๊ะกลางออก ตะลึ่งตึงโป๊ะสิครับท่าน ตอนแรกพวกแม่คุยกันว่าจะเจาะผนังที่ติดกับห้องคอมฯ (คลังเก็บหนังสืออีกจุดของข้าพเจ้า) ทิ้งแล้วเปิดให้ทะลุ บลาบลาบลา ...ดีนะวันนั้นจขบ. อยู่ด้วย เลยเบรคตัวโก่ง เพราะถ้าทำก็แปลว่าห้องตูหายไป แล้วหนังสือจะไปไว้ไหนล่ะเฟ้ย สรุปคือ ฤกษ์ย้ายพระวันนี้ จขบ. เริ่มจัดตั้งแต่เมื่อวาน จะว่าดีก็ดีนะ ไอ้โอกาสยุบการ์ตูนที่กระจายกันอยู่มารวมกันเสียที เพียงแต่วันแรกจะมึนมาก ต้องเดินสามจุด..ห้องหลักที่เคยถ่ายรูปมาให้ดูกัน ห้องรีดผ้าที่มีการ์ตูนวางอยู่มุมนึง กับตรงภูเขาที่ทางเดิน ...นี่ถ้าไม่เหนื่อย ไม่เร่ง ไม่โน่นไม่นี่ (ข้ออ้างต่างๆ นาๆ) ก็น่าจะยุบการ์ตูนในห้องหลักให้มากกว่านี้ ห้องจะได้ไม่เป็นค่ายกลอันน่ากลัวอย่างปัจจุบัน จากการรื้อ พบว่าตัวเองมีการ์ตูนเล่มเดียวจบโคตรเยอะ มหาศาลล้านเจ็ด จำได้ว่ามีเล่มเดียวสมัยการ์ตูนไม่มีลิขสิทธิ์อยู่ข้างล่างประมาณสี่ห้าถุง ข้างบนจัดแล้วได้อีกหนึ่งกล่องพลาสติก (กล่องใหญ่สุดนะ) ตามด้วยรุ่นไม่มีลิขสิทธิ์แบบเริ่มแพง 25-30 บาท แล้วก็หมึกจีนเล่มหนาปาหัวหมาแตกอีกหลายถุงใหญ่ ส่วนการ์ตูนชุด ตอนแรกเคยนึกว่าตัวเองมีการ์ตูนรุ่นเก่าครบหมด ตอนจัดถึงกับมึนตึ้บ ทำไมมันโผล่มาแต่เล่มเศษฟะ ...จึงนึกได้ว่าเคยมีสมัยนอนอีกห้องนึง อยู่ๆ ก็โดนแม่จัดเก็บการ์ตูนลงถุงโดยไม่บอก แม่ให้คนงานทำ คนงานก็หยิบใส่มั่วๆ ทั้งที่จขบ. เรียงการ์ตูนพิงผนังตามเรื่อง (คือ มันยังไม่จบ ก็วางเรียงไปก่อน พอเล่มใหม่ออกก็แทรกเข้าไป คล้ายๆ จัดไฟล์น่ะ) แล้วพอจขบ. ไปเปิดถุงเจอสภาพเศษๆ เช่น ประมาณว่า 20 เล่มจบ เจอแต่เล่ม 2-5 ที่ถุงหนึ่ง อีกถุงมีแค่เล่ม 15 อะไรแบบนี้ ตอนนั้นยังวัยรุ่นมากเลยโกรธา ไม่จัดแล้วเฟ้ย มีแค่ไหนเก็บแค่นั้นละกัน ไอ้ที่ยกขึ้นชั้นบนไปก็ช่างมัน (ชั้นสี่..หรือแดนสนธยาของหนังสือ..เกิดขึ้นด้วยประการชะนี้แล) พิมพ์ไปพิมพ์มาก็งง ตูจะเล่าอะไรฟะ อ้อ จุดประสงค์ที่มาอัพบล็อกก็เพราะอยากบอกว่า ตอนนี้ปวดหัวมากกกก (คนอ่านด่าในใจ มันหลอกให้อ่านจนตาลาย เพื่อบอกแค่เนี้ยะ?) ไมเกรนตั้งแต่ตื่นนอน แถมพอเริ่มจัดก็พะอืดพะอม ไม่รู้เกี่ยวกับไมเกรนหรือเพราะแพ้อาหาร (บางทีกินเจอกระเทียมเจียวแล้วจะอยากอ้วกแบบนี้แหละ) ตอนนี้ก็ยังปวดนรกแตก ผลการจัด เหลือไว้หนึ่งหย่อม ประมาณ 1x1 เมตร บวกลบนิดหน่อย กับตรงโต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กไม่ได้จัด อันนี้แม่บอกให้เอาออกเหมือนกัน แต่จขบ. ก็เถียงแล้วว่าขอเก็บไว้ก่อน เพราะไม่สามารถจัดได้แหล่วค่า กำลังอยู่ในมู้ดอยากกำจัดหนังสือ โดยเฉพาะการ์ตูน จะทำไงกับพวกการ์ตูนรุ่นเก่าดีฟะ ส่วนใหญ่ร้านมือสองไม่รับซื้อด้วย ขนาดการ์ตูนบงกชยังไม่ค่อยรับเลย เคยเอาบงกช 2 เล่มจบไปขาย ทั้งที่เพิ่งออก..จำชื่อเรื่องไม่ได้ แต่ราคาปก 45 บาทแล้ว เขาให้ 20% เอง ด้วยเหตุผลว่า "สองเล่มจบไม่รับซื้อ" ... เวรล่ะ ตูชอบซื้อแต่เล่มหรือสองเล่มจบทั้งนั้นเลย ป.ล. อย่างไรก็ตาม แค่ดูปกก็รู้สึกว่าการ์ตูนพวกนี้เขียนสนุกและดีกว่าการ์ตูนผู้หญิงยุคใหม่แฮะ 25 พฤษภาคม เรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัว แต่มีประเด็นน่าคิดดี บันทึกไว้หน่อยละกัน เกริ่นหน่อยว่าพี่ชายและน้องชายของจขบ. ต่างก็มีครอบครัว (ลูกสอง ลูกสาม) แยกบ้านกันแล้ว แต่อยู่ภายในอาณาบริเวณเดินกันถึง พวกหลานมาเล่นรวมกันบ่อย เวลาน้องชายน้องสะใภ้ไปต่างประเทศ ก็ฝากลูกไว้กับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้คนนี้แหละที่จขบ. เคยพูดถึงเล่นๆ ว่าเป็น "แม่กาเหว่า" เพราะเขาขับรถพาเด็กไปไหนต่อไหนได้ รู้เรื่องตารางเวลาเด็ก (ประเภทไปเรียนโน่นนี่ จิปาถะที่สาวโสดไม่รู้จักน่ะ) จขบ. เลยชิ่งหนีงานเลี้ยงเด็กได้สบาย ...สรุปคือ หลาน 5 คนเนี่ยนัวเนียกันตลอด อาจแยกกันบ้างตอนเปิดเทอม แต่เวลากิน แม่เขาก็จะส่งเด็กเดินมาบ้านนี้ เรียกให้แม่ครัวหรือคนอื่นทำอะไรให้กินอยู่ดี เมื่อต้นเดือน พี่สะใภ้ไปตรวจร่างกาย พบก้อนเนื้อผิดปกติในปอด ด้วยความไม่สบายใจ เธอก็ไปหาหมออีกที่ ก็ยังเห็นอยู่ ตอนนี้ก็นัดผ่าตัดแล้ว เหลือแต่ให้เลือกว่าจะแค่ตรวจชิ้นเนื้อหรือตัดทิ้งไปเลย เรื่องต่อจากนี้ ฟังมาจากพี่สะใภ้ค่ะ ... ลูกสาวของพี่สะใภ้เขาไปรับลูกของน้องสะใภ้มาเล่นด้วยกันที่บ้าน เลยได้ยินน้องสะใภ้ตะโกนสั่งลูกว่า "อย่ากินอะไรบ้านนั้นนะ ไม่ว่าอะไรก็ห้ามกิน" แล้วเด็กก็เลยเอามาเล่าให้แม่ฟัง พี่สะใภ้ก็พยายามคิดว่าเด็กฟังผิดน่า ไม่กี่วันต่อมา ลูกสองคนของน้องสะใภ้นั่งกินอาหารอยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านนี้ (บ้านน้องสะใภ้แทบจะไม่เก็บเสบียงไว้เลย อะไรก็เดินมาเอาบ้านนี้...ไม่ก็ให้ทำให้เลย) พี่สะใภ้เดินลงมาหยิบของชั้นล่าง น้อง k เห็นป้าปุ๊บก็พูดว่า "ลืมของ ไปเอาที่บ้านก่อน" แล้วเด็กทั้งสองคนก็รีบออกไป พี่สะใภ้เลยแน่ใจว่าโดนเด็กหลบเลี่ยงเพราะกลัวติดโรค! เธอเล่าว่าเสียความรู้สึกมากเลย แค่ไม่สบายก็จิตตกอยู่แล้วนะ จขบ. ฟังแล้วก็อึ้ง นี่ขนาดเป็นพี่สะใภ้ที่เคยขับรถพาเด็กไปโน่นนี่เปิดหูเปิดตานะ (คือ น่าจะเป็นคนโปรดของเด็กน่ะ) เด็กทำแบบนี้นี่ทำตามคำสั่งแม่อย่างเคร่งครัด หรือทำเพราะตัวเองก็อยากทำด้วย ...อยากรู้มากเลยในแง่ของ "หัวอกแม่" คงอยากให้ลูกอยู่ห่างความเสี่ยงทุกอย่าง ถ้าญาติอาจเป็นวัณโรคหรือโรคอะไรก็คงไม่ให้ลูกเข้าใกล้ อันนี้ใครๆ ก็คงเข้าใจในแง่ของ "น้ำใจ" สั่งสอนลูกแบบนี้ อีกหน่อยจะเพาะทัศนคติแบบไหนให้เด็กเนี่ย ใครหมดประโยชน์หรือล้มป่วยไม่น่าเข้าใกล้ก็ตัดสัมพันธ์เลย? ตัวกูของกูมาก่อนอะไรทั้งนั้น?คุยเรื่องหลานนิดหน่อย: หลานสองคนนี้เป็นหลานที่จขบ. ค่อนข้างชอบนะว่ามีหัวคิดดี พูดอะไรเป็นเรื่องเป็นราวกว่าหลานฝั่งพี่สะใภ้ (ฝั่งนี้เลี้ยงเด็กสปอยล์มาก) เคยนึกห่วงนิดหน่อยว่าจะได้อิทธิพลบัวแล้งน้ำจากแม่ แต่คิดว่า "เอาน่ะ ถ้าเป็นแบบแม่ อย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะเอาเปรียบมันได้" ระยะหลัง สังเกตได้แล้วว่าน้อง k ค่อนข้างวัตถุนิยม อยากได้ใคร่มีผิดวิสัยเด็ก ด้วยความที่เป็นเด็กฉลาด เวลาผู้ใหญ่พูดถึงของสะสม น้องก็จะฟังรู้เรื่องว่ามันมีค่า หายาก อีกหน่อยไม่มีแล้ว ฯลฯ แล้วน้องเขาก็จะอ้อนขอ ทั้งพระเครื่อง แสตมป์ ของเล่น หรือแม้แต่หนังสือ เช่น จขบ. เคยไปเจอหนังสือภาพสีรวมรายละเอียดพวกหุ่นยนต์จากเรื่องอะไรสักอย่าง ตัวเองไม่รู้จักหรอก แต่จำได้ว่าน้อง k ชอบหุ่นเลยซื้อให้ แล้วกำชับให้เก็บดีๆ เพราะขนาดตัวเองไม่สนหุ่นยนต์ยังชอบเลยว่ามันลงรายละเอียดหุ่นไว้แทบจะเป็นตำราอ้างอิงได้เลย ไม่น่าจะมีใครพิมพ์บ่อยๆ หรอก ตอนหลังพอเจอหน้า หลานก็จะพูดถึงการ์ตูนโน่นนี่ จขบ. เห็นหลานชอบดูโปเกม่อน เลยซื้อการ์ตูนเล่ม 1,2,3 ให้อ่าน แต่ตอนซื้อจะสลับเล่มนิดหน่อย ตัวเองก็งงว่าซื้อเล่มไหนแล้วบ้าง โทรไปถามหลาน (ที่เคยทวงการ์ตูน) ปรากฏว่าหลานไม่รู้! จำไม่ได้ ให้จขบ. คิดเองว่าครั้งก่อนซื้อถึงไหนแล้ว หลานย้ำแต่ "อะไรก็ได้ ผมชอบเป็นภาพสี โกวเลือกมาละกัน" ... อ้าวเฮ้ย แสดงว่าไม่ได้อ่านนี่หว่า คนซื้อหมดอารมณ์ ระยะหลังเลยเลิกซื้อเลิกสน ซื้อให้หลานอีกคนแทน เพราะอย่างน้อยคนนี้ก็รู้และจำได้ว่าอ่านอะไรไปแล้วบ้าง น้อง k คนนี้แหละที่เข้าห้องมาเห็นหนังสือรวมพันธุ์ด้วงของจขบ. เข้าแล้วก็ชอบ เพราะมีรูปด้วงเยอะแยะ จากนั้นก็กะลิ้มกะเหลี่ยรอให้เราอ้าปากยกให้ แต่จขบ. ทำเฉยเพราะตัว text เป็นภาษาอังกฤษหมด เด็ก(ตอนนั้นห้าหกขวบ)จะเอาไปทำแป๊ะอะไร อ่านไทยยังไม่แตกเลย น้อง k คนนี้แหละที่ตอนเขายังเล็กกว่านี้ จขบ. คิดว่าน่ารักที่สุด มีครั้งหนึ่ง จขบ. เห็นแม่คุยกับน้องเขาอยู่ที่หน้าบ้าน จขบ.ที่อยู่ชั้นสองก็รีบวิ่งไปหยิบท๊อฟฟี่โยนโด่งมาจากระเบียงชั้นสอง โยนเสร็จก็หลบ น้อง k ก็จะประมาณว่า "ลูกอมหล่นจากฟ้า~" ... จขบ. ก็ฮาแตกสิ วันนั้นได้หัวเราะกันใหญ่ทั้งสามรุ่น อือม์.. ระหว่างที่พิมพ์นี่ก็นึกถึงหลานคนโน้นคนนี้ไป รู้สึกว่าเด็กเป็นเหมือนผ้าขาวอย่างที่ว่าไว้จริงๆ ไม่ว่าหลานคนไหน ตอนแรกก็ไร้เดียงสา น่าวาดหวังถึงอนาคตทั้งนั้น นี่ผ่านไปยังไม่ถึงสิบปี เริ่มเห็นสีแล้ว อนาคตที่เคยวาดไว้ก็เริ่มสุกใสน้อยลงด้วย ไม่ชอบคนแบบไหน ทำท่าจะได้หลานโตมาเป็นคนแบบนั้นเลยอ่ะ เฮ้อ ทุกข์ของคนเป็นป้าเป็นน้าก็เงี้ย 15 พฤษภาคม ตั้งแต่ที่หายไปจากบล็อกเนี่ย ไปคลุ้มคลั่งหนังแผ่นอยู่ค่ะ รื้อเอาของเก่า (ที่ดองไว้เป็นชาติ) มาดู ตามด้วยไปตระเวณซื้อเพิ่มอีก เลยหายยาวเช่นนี้แล อะแฮ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้มีงานเซลส์ Neilson Hayes Library คงไม่ได้อัพบล็อกแน่เลย หนอนหนังสืออังกฤษส่วนใหญ่คงรู้แล้วว่าห้องสมุดเนลสันจัดเซลส์ปีละสองครั้ง ปีนี้จัดวันที่ 15-16 จขบ. โชคดีได้น้องตาล sms มาเตือน เลยไม่ลืมดูวันที่ (บางทีถึงรู้วัน แต่ไม่สนใจดูปฏิทินว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่ ก็ไลฟ์บอยนะ) งานนี้ไปทันเขาเปิดผ้า ตรงดิ่งไปแถวที่มีปกแข็งมากที่สุดก่อนเลย แต่สงสัยปกแข็งน้อย ได้ปกอ่อนไซส์บีมามากกว่าแฮะ มาเห็นทีหลังว่าปกแข็งนิยายออกใหม่ (ที่มักขาย 150-200 บาท) อยู่อีกแถว พลาดเสียแล้วตู แต่โดยรวมแล้ว คว้ามาได้เยอะกว่าที่คิดค่ะ ขนาดว่าจะไม่ซื้อแล้วนะ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เคยเมียงมองในร้าน แต่ไม่อยากลงทุนซื้อน่ะ บางเล่มเป็นของนักเขียนที่เคยซื้อมาตลอด ก็ซื้อต่อไป ส่วนใหญ่ 80-100 บาท ไม่ต้องคิดมากก็ได้ รายการที่ได้มาวันนี้:ไซส์ B ราคา 80 บาท - The Immaculate Deception (Iain Pears) - The Brutal Art (Jesse Kellerman) - The Castle in the Forest (Norman Mailer) - Through a Glass, Darkly (Donna Leon) >> ฟ้อนต์อ่านง่ายมากมาย - The City of Falling Angels (John Berendt) - The Nautical Chart (Arturo Perez-Reverte) - The Forgotten Garden (Kate Morton) >> เพิ่งเคยเจอไซส์บีนี่แหละ ตาไม่บอดแล้วตู - The Tale of Genji (Murasaki / Edward G. Seidenslicker) ไซส์บี 50 บาท >> โทรไปถามหญิงเพติ๊ด เธอยืนยันว่าใช่คนแปลที่แปลดี ถึงจะเป็นฉบับย่อก็เอามาลองก่อนละกัน (เล่มหนาสามนิ้วคงไม่ได้อ่านหรอก) ...อีกอย่าง มันมีภาพด้วย ชอบอ่ะพ็อตเก็ตบุ้คไซส์ A 80 บาท สองเล่มนี้น่าจะลดหน่อยนะ - Death, Lies, and Apple Pies (Valerie S. Malmont) - The Raphael Affair (Iain Pears) - Night Train to Lisbon (Pascal Mercier) ไซส์เอ 100 บาท >> จำได้ว่าเพิ่งไปส่องที่คิโนะ คล้ายๆ กับว่าซื้อมาแล้วนะ แต่เพราะเล่มที่เจอสภาพสวย ราคายิ่งสวยใหญ่ เลยซื้อก็ซื้อฟะ ... ณ ตอนนี้ยังค้นเล่มที่(คิดว่า)มีไม่เจอ ถ้าไม่ซ้ำก็คงดี - The Line of Beauty (Alan Hollinghurst) ปกแข็ง 200 บาท >> เคยอยากได้เมื่อปีสองปีก่อน เมื่อเจอก็ต้องหยิบ ไม่งั้นฟ้าลงโทษ - On Chesil Beach (Ian McEwan) ปกแข็ง 100 บาท >> เคยลองเปิดแล้วไม่ค่อยปิ๊ง น้ำท่วมทุ่งไปหน่อย แต่ถ้าราคานี้ก็โอเคค่ะ - The Silmarillion - The Hobbit >> สองเล่มนี้เป็น tpb เล่มเบ้อเริ่ม เล่มละ 100 บาท ซื้อเพราะชอบภาพประกอบอ่ะ (จริงๆ เพราะมันถูกด้วย อยากเอาออกเหมือนกัน แบบว่าขี้เกียจแบก แต่วางไม่ลง) เคยเจอ LOTR แบบกล่องเวอร์ชั่นเดียวกันใน Asiabooks Warehouse Sales แล้ว แต่ตอนนั้นกล่องมันเยินเลยไม่ได้ซื้อ เสียดายจังเลย บันทึกไว้เผื่ออัลไซเมอร์กำเริบ จะได้ไม่ซื้อซ้ำ หมายเหตุ: ตอนนี้นึกออกแล้วว่ามี Night Train to Lisbon ชัวร์ จำได้ว่าเคยเปิดอ่านบทแรกแล้ว...แต่ไม่รู้เอาไปวางไว้ไหน (มิน่า ไม่ได้อ่านต่อ) บัดซบสิ้นดี Night Train ราคาหนึ่งร้อยเท่ากับ Echo Maker ปกแข็งที่ไม่ได้ซื้อมาเลย (เป็นอีกเล่มที่จำคลับคล้ายคลับคลาว่าอาจจะมี แบบว่า..ไปส่องในคิโนะบ่อยอ่ะ เลยสับสน) รู้งี้เอา Echo มาดีกว่า แง่ง
Create Date : 16 พฤษภาคม 2552
Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 7:11:17 น.
43 comments
Counter : 1388 Pageviews.
โดย: คิดนาน IP: 124.120.45.209 วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:26:42 น.
โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:11:01 น.
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:59:30 น.
โดย: พัท IP: 85.75.15.154 วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:37:35 น.
โดย: chart IP: 58.9.113.50 วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:17:40 น.
โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:3:24:15 น.
โดย: piccy IP: 124.120.98.130 วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:03:17 น.
โดย: หวานเย็นผสมโซดา IP: 202.41.167.246 วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:25:55 น.
โดย: จโกระ&ลาชา วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:3:22:09 น.
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:4:39:03 น.
โดย: Guga วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:10:55 น.
โดย: พัท IP: 85.75.7.232 วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:20:54 น.
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:10:04 น.
โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:3:42:01 น.
โดย: จขบ. IP: 58.9.141.211 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:10:53 น.
โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 22 พฤษภาคม 2552 เวลา:4:06:18 น.
โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 22 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:42:58 น.
โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 22 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:44:45 น.
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:37:23 น.
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:34:14 น.
โดย: แพนด้าปากมหาภัย 55 IP: 125.25.147.21 วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:30:19 น.
โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:39:47 น.
โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:44:52 น.
โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:36:56 น.
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:59:03 น.
โดย: piccy วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:42:16 น.
โดย: Guga IP: 125.24.166.15 วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:30:32 น.
โดย: คิดนาน IP: 124.120.83.209 วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:48:02 น.
โดย: พุดน้ำบุศย์ IP: 117.121.218.60, 117.121.208.2 วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:25:46 น.
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:15:55 น.
โดย: Lavinia วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:00:08 น.
โดย: โสดในซอย วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:45:58 น.
โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:26:18 น.
โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:18:34:49 น.
โดย: piccy IP: 125.24.199.231 วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:21:40:48 น.
โดย: Lavinia วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:21:33:26 น.
แต่งี้พี่ก็ต้องไปตามหาซื้อเล่มอื่นๆมาให้ครบชุดน่ะสิคะ แววเสียตังค์ตามมาอีกแล้ว ฮี่ๆ
เสียดายไม่ได้ไปอ่ะ ไว้ตอนเดือนพฤศจิจะไม่พลาดละ
ขอบคุณที่โทรมาหาค่า