Bloggang.com : ตุ๊กจ้ะ :

รีวิวหนังสือ โอวาทสี่ ของท่านเหลี่ยวฝาน

หนังสือ โอวาทสี่ ของท่านเหลี่ยวฝาน

เจือจันทน์ อัชพรรณ ถอดความ

ท่านเหลี่ยวฝาน เป็นนักปราชญ์ผู้มีชื่อเสียง

เป็นชาวเจียงหนาน (กังหนำ)รับราชการต้งแต่อายุ 37 ปี

มีควมรู้กว้างขวางลึกซึ้ง เชี่ยวชาญในวิชาการเกือบทุกแขนง

ท่านเป็นผู้สั่งสอนให้ชาวบ้านรัก และช่วยเหลือ เสียสละและหมั่นบริจาคจนเป็นนิสัย

ท่านได้รับการพยากรณ์จากผู้เฒ่าข่ง ว่าจะสามารถสอบได้เป็นขุนนาง

โดยจะสอบผ่านทั้งสามขั้น ขั้นแรกคะแนนมาเป็นที่ 14 ขั้นกลางได้ที่ 71

ขั้นสามได้ที่ 9 และเป็นตามนั้นจริง

นอกจากนั้นยังได้ทำนายว่าปีใดจะได้สอบขั้นสุดท้าย ปีใดได้เป็นนายอำเภอ

พอได้เป็นนายอำเภอแล้วสามปีครึ่งก็ควรลาออกจากราชการ

เพราะอายุ 53 จะสิ้นอายุขัย และตายในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8

เวลาระหว่างตี 1-3 และไม่มีบุตรสืบสกุล

เรื่องราวดำเนินมาตามคำทำนายตลอด จนท่านได้เจอกับท่านอวิ๋นกุเถระ

พระเถระ เมื่อทราบว่าท่านถูกทำนายไว้ดังนั้น ก็กล่าวสอนว่า

"โหราศาสตร์นั้นหยั่งไม่ถึงกรรมดี กรรมชั่วของคนเราหรอ

วิชาโหราศาสตร์จึงยึดถือเอาเป็นบรรทัดฐานไปหมดมิได้

เพราะคนดีนั้น แม้ชะตาชีวิตจะบ่งไว้ว่าไม่ดีอย่างไร

แต่พลังแห่งกุศลกรรมนั้นใหญ่หลวงนัก

สามารถพลิกความคาดหมายได้ คนจนก็กลายเป็นคนรวยได้

คนอายุสั้นก็กลายเป็นคนอายุยืนได้

แต่หากสร้างอกุศลกรรมไดว้อย่างหนัก แม้ถูกลิชิตมาว่าจะได้ดีมีสุขอย่างไร

ย่อมสามารถเปลี่ยนความสุขเป็นความทุกข์ มีลาภกลายเป็นหมดลาภ ได้เช่นเดียวกัน

ชะตาชีวิตนั้นเป็นสิ่งไม่แน่นอน อนาคตเราต้องสร้างของเราเอง

คนทำดี ชะตาก็ดี คนทำชั่วชะตาก็ชั่ว

เมื่อต้องการอนาคตดี ก็ต้องทำดี"

ด้วยเหตุนี้ และแรงบันดาลใจนี้ ท่านเหลียวฝาน จึงมุมานะ และเห็นสัจจธรรมในข้อนี้

ท่านพิจารณาในสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง เพราะเหตุใดจึงไม่มีบุตร

เพราะคนเรามีความโกรธ ความหงุดหงิด ความเครียด และอื่นๆอีก

สิ่งเหล่านั้นต่างหากทำให้ไม่มีบุตร ท่านสร้างบุญกุศลช่วย

ใช้ปัญญาแก้ปัญหาตามความเป็นจริง แล้วคำทำนายก็ไม่เป็นจริงในตอนท้าย

เมื่อท่านตายตอนอายุ 74 ปี และมีบุตรอีกด้วย

บุตรของท่านยังสอบรับราชการ และได้เป็นนายอำเภอที่กวางตุ้งอีกด้วย

นี่คือความจริง ชะตาคน อยู่ในมือของคน โหาราศาสตร์ ไม่อาจปิดกั้นชะตาที่ตนสร้างด้วยบุญและบาปได้

ผู้ชำนาญการวาดฮู้( ลงเลขยันต์) ได้กล่าวไว้ว่า

เคล็ดลับวิชานี้อยู่ที่ต้องทำใจ เมื่อเริ่มจับพู่กัน ก็ต้องหยุดความรู้สึกนึกคิดใดๆ ไม่วอกแวก ทำจิจให้นิ่ง

รงมพลังจิตทั้งหมดพุ่งตรงไปยังปลายพู่กัน

แล้วจรดปลายพู่กันให้แน่นิ่ง

เป็นการเบิกทวารฟ้าดินด้วยพลังจิตที่พุ่งกระทบอย่างแหลมคม

ฮู้จะศักดิ์สิทธิ์กรือไม่ก็อยู่ที่จุดเริ่มต้นนี้เอง

เมื่อเริ่มต้นแล้ว ก็ต้องเขียนให้บขบวนการโดยไม่หยุดชะงัก ไม่ต่อเติม ไม่ยกพู่กันขึ้น

ต้องวาดให้ต่อเนื่องเป็นเส้นเดียวกัน จิตเป็นเอกัคคตาตลอดแนวทางที่พู่กันตวัดไปมา

ฮู้นี้ก็จะศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะอธิษฐานใดๆต่อฟ้าดิน ก็จะสัมฤทธิ์ผลอย่างแน่นอนและรวดเร็ว

การบริกรรมก็ต้องทำสม่ำเสมอขาดไม่ได้เช่นกัน

ต้องบริกรรมจนแม้ปากไม่บริกรรมแล้ว แต่ใจยังคงลริกรรมอยู่

บริกรรมจนไม่รู้สึกว่าตัวเราเป็นผู้บริกรรม

เพราะมนต์ก็ดี การบริกรรมก็ดี ตัวเราผู้บริกรรมก็ดี

ได้ผสมผสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเสียแล้ว

จนแยกไม่ออกเมื่อใด เมื่อนั้นการบริกรรมก็ศักดิ์สิทธิ์

โอวาทของท่านเหลี่ยวฝาน ล้วนเตือนใจ และมีคติสอนใจที่ดีในการดำเนินชีวิตอีกมากมายเช่น

วิธีแก้ไขข้อผิดพลาด คือ

ข้อ 1 ต้องละอายต่อการทำชั่ว

ข้อ 2 ต้องเกรงกลัวต่อการทำชั่ว

ข้อ 3 ต้องมีความกล้าที่จะแก้ไขตัวเอง

วิธีสร้างความดีคือ

อดีตเป็นตัวอย่างอันดี

ช่วยแต่คน ไม่สนทรัพย์สิน

จิตที่เปี่ยวมด้วยเมตตา สยบความดุร้ายได้

คุณธรรมล้ำเลิศเพราะปัญญา

ให้ทานต้องไม่อิดหนาระอาใจ

ช่วยชีวิตต้องฉับพลัน

ช่วยเหลือให้ทั่วหน้า

ช่วยได้ต้องช่วยทันที

การให้ความยิตธรรม เป็นความยิ่งใหญ่

จาคะคือการสละนั้น ต้องด้วยเตตาการุณ

ยุติธรรมค้ำจุนโลก

คำสอนในเรื่องของการช่วยเหลือผู้อื่นนั้น มีมากมายเช่น

1. ช่วยเหลือผู้อื่นทำความดี

2. รักและเคารพทุกคนอย่างเสมอหน้า

3. สนับสนุนผู้อื่นให้เป็นผู้มีความดีพร้อม

4.ชี้ทางให้ผู้อื่นทำความดี

5.ช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในความคับขัน

6. กระทำสิ่งที่เป็นประโชน์ต่อสาธารณะ

7. อย่าทำตนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ต้องหมั่นบริจาค

8.ธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรม

9. เราคพผู้มีอาวุโสกว่า

10. รักชีวิตผู้อื่นดุจรักชีวิตตนเอง

คำสอนและข้อเตือนใจ ให้คิดอีกมากมายจากท่านเหลี่ยวฝาน

ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นจะมีคำบรรยายอธิบายเพิ่มเติมให้กระจ่างชัด

ทำให้เราได้ระลึกถึงคำสอน และคุณธรรมความดีต่างๆ

ล้วนเป็นข้อเตือนใจที่น่าคิด ในการดำรงชีวิตของคนเราทั้งสิ้น

สิ่งที่ประทับใจในหนังสือเล่มนี้ คือ เรื่องราวประวัติที่น่าสนใจของท่านเหลี่ยวฝาน

และโอวาทคำสอนต่างๆ ล้วนเป็นความจริง

ทำให้เราฉุกคิด ทำให้เราได้นึกถึง เตือนใจตัวเองในเรื่องต่างๆ

และสำหรับบางเรื่องก็เป็นความจริงที่เราลืมนึกถึง หรือคิดไม่ถึงเช่นกัน

หนังสือเล่มนี้จึงมีคุณค่า ในการจุดประกายความคิด

ย้ำเตือนในคุณธรรม แบบการดำรงชีวิตที่มีคุณค่า มีความหมายที่ดีอย่างยิ่ง

บล๊อคนี้ ไม่ต้องโหวตนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะคะ

Create Date : 28 กันยายน 2559

0 comments

Last Update : 29 กันยายน 2559 22:37:56 น.

Counter : 1694 Pageviews.