lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
พฤษภาคม 2565
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
31 พฤษภาคม 2565
space
space
space

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม. ที่ 303 "เพื่อน"


ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่  303 

"เพื่อน"







โจทย์โดย  คุณ กิ่งฟ้า

 



สวัสดีครับ  ได้ข่าวว่าผมเพิ่งได้รางวัลตะพาบ
พอได้ตัง ก็ส่งการบ้านช้าเลยครับ 555555
เอาจริงๆ การได้ตัง 1000.-   ตอนปลายเดือนสุด ๆ คือจรรโลงใจมาก
แค่เงินมันไม่ได้เข้าบัญชีผมนี่สิ  
รางวัลตะพาบทุกครั้ง ผมให้โอนเข้าบัญชีของหลานครับ
ส่วนพี่สาวก็เสียภาษีไป ผมมีหน้าที่ทำงานครีเอทีพ  555555555




ส่วนช่วงนี้ที่เงียบๆ  ไปคือป่วยครับ
ไปดูหินอ่อนเข้าบ้านเมื่อวันเสาร์แล้วน่าจะแพ้ฝุ่นตัดหิน
กลับมาก็เริ่มไม่ค่อยสบาย 



วันอาทิตย์ไปซื้อของงานก่อสร้างบ้าน
แล้วแวะไปซื้อขนมให้แฟร์รี่ เปิดประตูร้านเดินเข้าไปได้นิดเดียว
รู้สึกเลยว่าเรากำลังแพ้อะไรบางอย่างแบบแพ้หนักมาก 
เลยบอกแฟนให้เลือกขนมให้แฟร์ ส่วนผมเดินออกนอกร้าน
กำลังจะเปิดประตูเอง  เจ้าเมี๋ยวเจ้าของร้านที่นั่งอยู่บนคอนโดมานานแล้ว
ก็ร้องทัก เหมือนจะบอกว่า
"จะไปแล้วหราาาาา"
เจ้านี่นี่เองที่ทำให้ผมนี่พังจนต้องเข้าไปนั่งในรถ
ปกติผมกับแมวนี่ก็พอได้อยู่ครับ แต่กอดกันไม่ได้ อยู่ในห้องแอร์ที่มีแมวไม่ได้
แต่เจอกันในที่โล่งๆ จับๆ ถู ๆ กันพอได้อยู่





อ่ะมาเข้าเรื่องซักที......
ตะพาบ
"เพื่อน " หัวข้อนี้ผมคงเขียนได้ซัก 20 เรื่อง 5555555
เพื่อนลำพังแค่เพื่อน แก๊ง
"13เด็กนรกห้องคิง"  ของผมก็เขียนได้เป็นซีรีย์แล้ว
ยังไม่รวม เพื่อนที่ทำงานอีก ไหนจะเพื่อน ป.ตรี  เพื่อน ป.โท ที่มีเรื่องดราม่า
แต่ผมจะตัดช่วงมีแค่เพื่อน ที่ฉีกแนวจากข้างบนซักหน่อยนั่นก็คือ........



อาจิต....นามจริง ไม่สมมุติ 
เพราะอยากให้เข้ามาอ่านเจอเหลือเกินครับ
อาจิต เป็น
"เพื่อนคุณพ่อ"  คือเป็นเพื่อนที่ทำงานของคุณพ่อ แต่คนละแผนก
ส่วนขุนลูกชายของอาจิต ก็เรียนอยู่คณะเดียว ปีเดียวผมกับ แต่คนละสาขา
ผมกับขุนเคยเห็นหน้ากันมาก่อนแล้วตั้งแต่งานแต่งคนที่ทำงานพ่อ
ที่ขุนกับอาจิตไปร่วมงานด้วย แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันครับ
เพราะขุนจะเป็นแนวเงียบๆ เล่นเกมส์ในมือถือ ซะมากกว่า


ผมกับพ่อรู้ว่าขุนเข้าวิศวะ มธ ได้ก็เพราะอาจิตโทรมาบอกพ่อผมว่า
ลูกชายเข้าสอบติดวิศวะ มธ นะ  พ่อผมก็แสดงความยินดีไหม

"ไม่รู้ว่าจิตถามได้ไหม ว่าน้องปริ๊นซ์เป็นยังไงบ้าง มีที่เรียนหรือยัง"
ฟังยังไงก็ยังไม่เจอความห่วงใยในคำถามเค้า คือจะอวดลูกนั่นแหละ
ซึ่งพ่อผมก็บอกว่า อ้อ.....ได้ตั้งแต่ช่วง ม.6 เทอม 1 แล้ว

"ที่ไหนหรอคะ ต้องไปอยู่ไกลไหม"
"จริงๆ ก็ไม่ไกลหรอก แต่ปริ๊นซ์บ่นอยากอยู่หอ พี่กับแม่เค้าจะให้ไปกลับ"
"ที่ไหนหรอคะ"    ยังย้ำถามอีก  5555
"ก็ทีแรกได้เภสัชฯ ขอนแก่น แต่แม่เค้าไม่ให้ไป เลยทิ้งมาเอา มธ"
"อุ้ย ที่เดียวกันกับขุนเลย เจอกันตอนประชุมผู้ปกครองนะคะ"
"อ้อ พี่คงไม่ได้ไปนะ ปริ๊นซ์ไม่ให้ไป บอกว่าโตแล้วจัดการเองได้"


ตัดภาพมาที่วันประชุมผู้ปกครองและรายงานตัว
ผมไปกับเพื่อนอีก 8 คนที่ติด มธ ด้วยกัน
แล้วผมก็เจอกับอาจิตและขุน  ซึ่งผมก็เดินเข้าไปสวัสดีตามปกติ
ซึ่งพอขุนเห็นผม ก็พยายามจะผละตัวออกมาจากอาจิต
ว่าไปกับปริ๊นซ์นะ แต่อาจิตก็ไม่ให้ขุนออกมาคนเดียว
ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมองว่า ขุนมันก็แนวลูกแหง่งนิดนึงอยู่แล้ว
ซึ่งไม่ใช่แค่วันรายงานตัว แค่เข้าค่ายรับเพื่อนใหม่ รับน้องคณะ ก็จะเห็นอาจิตเสมอ
อาจิตเองก็จะเห็นผมเดินไปเดินมาด้วย และนั่นก็ทำให้เรื่องราวของอาจิตเริ่มขึ้น





ผมเจออาจิตในคณะบ่อยๆ คือมาเฝ้าขุน มากินข้าวด้วย มานั่งอยู่ใต้คณะ
คือเลิกเรียนลงจากตึกมาก็จะแม่แล้ว เท่าที่ผมเห็นก็อาทิตย์ละครั้งได้
แต่นั่นก็คงทำให้ขุนเซ็ง ๆ แล้วครับ ชีวิตอิสระในมหาลัยปี 1 
ช่วงที่ต้องประชุมเชียร์อาจิตก็จะมารับทุกวัน อันนี้ขุนเล่า
เพราะผมไม่ค่อยได้เข้าห้องเชียร์

ตอนนั้นพ่อเริ่มมาคุยเล่นด้วย ประมาณเรื่องผู้หญิง เรื่องเพื่อน
ว่าเพื่อนเป็นไงบ้าง สาวสวยไหม เค้ามาเด็ก มธ สวย

ผมก็คุยเล่นกับพ่อเป็นปกติ คิดว่าพ่อคงแค่อยากหาเรื่องคุยด้วย
จนใกล้งานกีฬาเฟรชชี่ ก็เริ่มมีโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งานติดรอบคณะ
อาจิตไปเห็นรูปผมในโปสเตอร์ก็คงเอาไปพูดอะไรกับพ่อผมนี่แหละ
แต่ขุนเป็นคนมาบอกผมว่า อาจิตมาถามว่า


"ปริ๊นซ์เป็นเชียร์ลีดเดอร์หรอ
อุ้ย ปริ๊นซ์ไม่ใช่ผู้ชายหรอ นี่แม่ต้องไปเตือนพ่อเค้านะ 
เค้ารู้ไหมว่าลูกมีพฤติกรรม เบี่ยงเบน"


ซึ่งขุนก็พยายามบอกไปว่า จะไปยุ่งกับเค้าทำไม (อันนี้ถูก55555)
แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไงอาจิตกับคุณพ่อผมก็เจอกันที่ทำงานอยู่ดี
ขุนเลยเลือกมาบอกผมแทนว่า แม๊เค้าน่าจะทำเรื่องแล้ว
ผลคือ....พ่อผมแค่ขำๆ  แล้วบอกไปว่า
"พี่ปวดหัวเพราะปริ๊นซ์เป็นผู้ชายมากกว่าอีก"
555555 อันนี้ได้ อันนี้ฮามากครับพ่อ
เพราะเมื่อไหร่ที่ผมบอกว่า ซ้อมดึกไม่กลับบ้านนะ นอนหอเพื่อน
พ่อต้องแอบถามตลอดว่า หอเพื่อนชัวร์นะ หอสาวรึป่าว อะไรก็อย่าลืมของด้วย



ยืมภาพจาก Internet นะครับ 


อาจิต.....อาจิตเป็นปาปารัสซี่ด้วยครับ
เพราะชอบมีภาพหลุดของผมเดินจูงมือสาวอยู่ตามตลาดนัด
ขึ้นรถไปกับผู้หญิง  หรือยืนกินยำมาม่าตอนที่มีคาบเรียนหลุดไปถึงพ่อตลอด
ซึ่งพ่อผมไม่สนใจครับ คงรู้ว่าเป็นชีวิตปกติของเด็กผู้ชาย 19-20 อยู่แล้ว
ส่วนขุน ขุนกับผมไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ เพราะ life style ต่างกันมากครับ
ในขณะที่ผมค่อนข้างอยู่ในแสงไฟ คนรู้จักเยอะ เพื่อนเยอะ
ทำกิจกรรมกับคณะหลายอย่าง แต่ขุนจะเป็นคนเงียบๆ เล่นเกมส์ พูดไม่เก่ง
ชอบผู้หญิง 2D  มากกว่าในชีวิตจริง พูดอะไรเข้าใจอยากตามสไตล์วิศวะคอม
แต่ด้วยเรื่องของอาจิต ทำให้ขุนพยายามเข้ามาหาผมบ่อยขึ้น
ส่วนใหญ่คือมาเตือนว่า
แม๊กุเอาอีกแล้วนะ
ทำอะไรระวังหน่อยนะ เดี๋ยวแม๊กุจะเอาไปบอกพ่อเมิง

ผมก็บอกว่า ช่างแม๊ เอ้ย! ช่างแม่งเถอะ พ่อกุก็ไม่ได้ว่า กุก็รู้ว่ากุทำอะไรอยู่



เรื่องราวก็ดำเนินไปแบบนี้แหละครับ แอบถ่ายแอบเม้าท์ไปเรื่อยๆ 
จนวันนึงของช่วงปี 2  ช่วงนั้นผมติดตีแบตกับแก๊งเด็กภาคไทยมาก
จองคอร์ดตีกันที่ยิม 4 อาทิตย์ละ 3 ครั้งได้ 
ประกอบกับขุนบอกว่า อยากเข้าสังคมเก่งๆ ขึ้นบ้าง แต่ไม่รู้จะคุยอะไรดี
ผมเลยบอกว่า งั้นก็ต้องทำให้ชีวิตตัวเองหลากหลายขึ้น 
เวลาเจอใครจะได้มีหัวข้อ มีข้อมูลในหัวให้คุยเรื่องที่คนอื่นสนใจ
เพราะไอ่เรื่องเกมส์ เรื่องคอม เรื่องโปรแกรม เรื่องการ์ตูนเนี้ย
มันค่อนข้าง Niche ถ้าเจอคอเดียวกันนี่คุยกันได้นานเลย
แต่น้อยคนที่เค้าจะอิน หรือผู้หญิงน้อยมากที่จะสนใจ
และผู้หญิง เค้าชอบให้เราโต้ตอบกับเค้าเรื่องที่เค้าสนใจ
ผมเลยชวนขุนมาตีแบตด้วย ซึ่งมันก็รู้จักกับคนที่มาตีด้วยอยู่แล้ว
จะได้ออกมาจากหน้าจอ แล้วทำกิจกรรมจริงๆ เจอคนจริงๆ บ้าง
ซึ่งเหมือนไปปลดล็อคอะไรมันซักอย่าง มันชอบมากๆ 





พอมันมาบ่อยๆ แม่มัน....
อาจิตก็ตามมาครับ
อาจจะอยากมาดูกิจกรรมของลูกชายงี้
ผมเดินเข้ามาที่คอร์ดก็เจออาจิตกับขุน ก็เดินไปสวัสดีอาจิตปกติ
บอกคนข้าง  ๆ  ให้สวัสดีด้วย 
อ่ะ...ผู้หญิงนั่นแหละ
แล้วผมก็ไปวอร์มตามปกติ ส่วนสาวที่มาด้วยก็นั่งรออยู่ที่พื้นข้างสนาม
พอผมตีเส็ดแล้วเปลี่ยนตัวออกมาสลับนั่งพัก
ผมก็มานั่งข้างๆ สาวที่ไปด้วย เค้าเปิดน้ำให้ดื่ม ผมก็รับมาดื่ม
นั่งดื่มน้ำไปคุยกันไป  แล้วผมก็นั่งเช็ดหน้าเช็ดตา
ชันเข่าขึ้นมาข้างนึง แล้วมือก็เท้ากับพื้นด้านหลังของสาวสนิทตอนนั้น
อยู่ ๆ ขุนที่ตีแบทอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ผมนั่งก็ตะโกนเรียกผมเสียงดัง
ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมานอกสนาม แต่ตามันมองเลยผมไปข้างหลัง
ทำให้ผมหันตามซึ่งคนที่ผมเห็นคือ
อาจิต
ตอนนั้นสาบานเลยว่า หงุดหงิดเลยครับ มีอุทานในใจ
แต่ขุนก็วิ่งเข้ามาเอามือแตะไหล่ผมที่นั่งอยู่ที่พื้นเบาๆ 
บอกว่า
"แม่กุถ่ายรูปเมิง เดี๋ยวกุเคลียร์กับแม่เอง"
แล้วมันก็จับไหล่อาจิตให้หันหลังเดินออกไปนอกยิมพร้อมมัน 
ตอนนั้นทุกอย่างเบรกไปแป้บนึงเลยครับเพราะตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น

สุดท้าย ขุนกลับเข้ามาด้วยความหงุดหงิดแล้วเก็บของกลับไปพร้อมแม่ทันที
ก่อนจะไลน์มาขอโทษผมซ้ำอีกที่แม่มันมาทำกับผมแบบนี้





พอเกิดเรื่องนี้ขุนก็เลยเอาตัวเองออกห่างผมไปเลย
แล้วก็กลับไปเป็นเด็กเนิร์ดเหมือนเดิม น่าเสียดายมากครับ
ส่วนผมก็ไปคุยกับคุณพ่อว่าอาจิตเค้ายังไงเนี้ย
พ่อก็บอกว่า เค้าเป็นคนชอบอวดลูกชายอยู่แล้ว 
พ่อไม่ได้อะไรเรื่องที่เค้ามาพูดมาบอก ทั้งเรื่องขุนหรือเรื่องของผม
ซึ่งพ่อผมก็บอกเค้าไปว่า


"พี่กับลูกสนิทกัน คุยกันหมดนั่นแหละ
เรื่องที่น้องจิตมาบอกมา  พี่ก็คุยกับลูกอยู่ แต่เด็กผู้ชายน่ะ
สอนเค้าได้ แต่ไปควบคุมเค้าไม่ได้ มีแค่เค้าที่จะควบคุมตัวเอง"




"เพื่อน" ของพ่อ คนนี้ เรียกว่า "ตัวท้อป" เลยครับ
เรื่องระหว่างทางมีมากกว่านี้เยอะ แต่ผมตัดแต่เรื่องเด็ดๆ แค่นี้พอ
ขอบคุณพ่อกับแม่
"เพื่อนคนแรกในชีวิต" ที่เข้าใจผมมากที่สุดครับ



 




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2565
22 comments
Last Update : 31 พฤษภาคม 2565 16:09:29 น.
Counter : 775 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmultiple, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณnonnoiGiwGiw, คุณtuk-tuk@korat, คุณสองแผ่นดิน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณอุ้มสี, คุณThe Kop Civil, คุณSweet_pills, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณทนายอ้วน, คุณหอมกร, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณNENE77, คุณtoor36, คุณกิ่งฟ้า, คุณตะลีกีปัส

 

สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
ตอนนี้ฝนกำลังตกพอดี ฝนรู้เวลาตกเลยตอนเลิกงาน 555
พี่อ่านจนจบ มันส์มาก ขำดีเหมือนกันนะ อาจิต คือถ้าลูกมาเรียนวิศวะ ต้องมีแบบนี้อยู่แล้วหละ 555 พ่อของน้องปริ๊นซ์เอาอยู่นะ
อ่านของน้องปริ๊นซ์นี่ ไปเขียนเรื่องสั้นได้เลยนะ อ่านเพลิน สนุกมาก ๆ นึกถึงละครสมัยก่อน นิยายรักนักศึกษา คนยุค 90 ถึงจะเข้าใจนะ
จากบล็อก
งานวิ่งรอบนี้พี่จัดผลไม้ไปคุ้มเลยครับ

 

โดย: The Kop Civil 31 พฤษภาคม 2565 17:06:04 น.  

 

อ่านแล้วก็เข้าใจนะ
อาจิตก็คือแบบฉบับของมนุษย์แม่ทั่วไป ... ชอบอวดลูก 555
แต่แกออกจะล้ำเส้นมากไปหน่อย ... สงสารก็แต่คนเป็นลูก
คงจะกดดันน่าดู

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 31 พฤษภาคม 2565 17:38:26 น.  

 

วันนี้โหวตหมดแล้วอ่า เดี๋ยวพรุ่งนี้การบ้านตะพาบเสร็จแล้วจะมาโหวตให้นะคราบ

 

โดย: ทนายอ้วน 31 พฤษภาคม 2565 19:13:44 น.  

 

โอ้ หลานคง งง เลยนะครับ อยู่ดีๆมีเงินโอนมาเข้าบัญชี
ป่านนี้ น่าจะฉลอง เมานม เมาขนมกันปลิ้นแล้วนะครับ เย้ย 555

เรื่องผู้ปกครองนี่ เท่าที่ อ.เต๊ะ เจอ ส่วนมากจะเป็น นศ.หญิง นะครับ
ที่พ่อแม่ มักจะเป็นห่วง ตามมาดูแล เคยรับคอยส่ง มากินข้าวเป็นเพื่อนบ้าง ตอนลูกเข้ามหาลัยได้ใหม่ๆ แต่ซักพักก็ค่อยห่างๆไป

แต่เคสนี้นี่ คุณแม๊ ท่าทางจะรักลูกมาก จริงๆก็ไม่ผิด ถ้าไม่ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน รำคาญ คิดไปคิดมา ลูกยังตามติดประชิดตัวขนาดนี้
คุณพ่อ นี่ ไม่รู้จะโดนอะไรมั่ง นะครับ อย่างน้อยๆ gps นี่ต้องมีแน่นอน555

แล้วก็เรื่อง เชียร์ลีดเดอร์นี่ ไม่ว่าจะเพศไหน ถ้ามีความสามารถนี่
ก็ควรจะนิยมยกย่องนะครับ คุณแม๊ ยังหัวโบราณน่าดู
สมัยเป็น นศ.นี่ อ.เต๊ะ หน้าหวานมาก รุ่นพี่ รุ่นน้องยังคิดว่า อ.เต๊ะเป็นเกย์ แต่ อ.เต๊ะ ยิ่งชอบ เพราะแฝงตัวเข้าไปในหมู่สาวๆได้ง่าย กลมกลืน แต่อย่าเผลอก็แล้วกัน เย้ย 555

จริงๆนี่ โลกยุคนี้ พ่อแม่ควรจะปล่อยให้ลูก ดูแล เรียนรู้ชีวิต
ด้วยตัวเองบ้าง
เด็กจะได้มีภูมิต้านทาน ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเข้มแข็งนะครับ

ปล.น้องปริ๊นซ์แพ้ ขนแมว แต่ไม่แพ้ ขนหมาเหรอครับ
อ.เต๊ะ นี่ ไม่แพ้ขนอะไรเลย แพ้แต่กลิ่นปลาเค็ม แค่นั้นเองครับ เย้ย 555 ยังไงก็ขอให้หายเร็วๆนะครับ



 

โดย: multiple 31 พฤษภาคม 2565 19:28:09 น.  

 

เค้าเป็นห่วงของเขาเนาะ
ว่าแต่ตอนนี้ได้อิสรภาพแล้วหรือยังคะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 31 พฤษภาคม 2565 20:11:02 น.  

 

พี่ก๋าเคยเป็นครูฝึกสอน
มีแม่คนนึงมาขอพบ
ร้องไห้ขอเกรดให้ลูก
ขอร้องให้พี่ก๋าช่วยให้เกรดลูกเค้าหน่อย
อย่าให้ F เพราะลูกจะโดนรีไทร์
ขณะที่แม่เข้ามาคุย
ลูกชายนั่งคุยกับเพื่อนอย่างสบายอารมณ์
เรียนก็ไม่เรียน งานก็ไม่ส่ง
สุดท้ายพี่ก๋าให้ F ไปครับ

อ่านเรื่องราวของอาจิตและขุน
พี่ก๋านึกถึงเรื่องนี้ขึค้นมาทันที

รักที่ล้นเกินไป
ก็กลายเป็นทำร้ายคนที่เรารักได้จริงๆนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 31 พฤษภาคม 2565 22:24:06 น.  

 

แวะมาอ่านตะพาบ

 

โดย: อุ้มสี 31 พฤษภาคม 2565 23:57:35 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

 

โดย: กะว่าก๋า 1 มิถุนายน 2565 5:59:56 น.  

 

พ่อแม่ เข้ามาจุ้น เคยเจอเหมือนกันแต่ไม่มากนัก แต่ถ้าอวดลูก
นี่เจอหลายคน

ไม่ว่ากันเพราะเขาภูมิใจ แต่สงสารลูกต้องทำประหลาด ๆ ตาม
ที่แม่กำกับ....พอลูกเริ่มโตจะมีโลกส่วนตัว ต้องบอกว่า แม่อย่า
ถ่ายรูปหนูนะ 555

...
ผงฝุ่นคุณปริ๊นซ์ก็แพ้ ขนแมว อิ๊ก 555 เมื่อก่อนผมก็ไม่กล้าจับ
แมวมาอุ้มจะจาม... จนเจ้าของแมวบอกว่าจับได้คะ หนูพาน้องแมวไปอาบน้ำมาครั้งละ 300 บาท..เลยกล้าจับอุ้มไม่จาม
สงสารเจ้าของแมว แหม..ถ้าอาบน้ำแพงแบบนั้นน่าจะพาไป
หาเฮียชูเนาะ

....
เรื่องถ่ายภาพติดคนอื่น วันแรกที่ข่าวออกมาไม่ถึง ครึ่งวันก็
มีคนหวังดีส่งข่าวเป็นภาพให้ดู... จริงแล้วทราบข่าวมาน่าจะ
ปี 2562 เขาป้องกันคนนำข้อมูลส่วนตัว ของนายใหญ่ ๆมา
เผยแพร่ในสือ เขาป้องกันลูกเขา จะได้เดินไปไหนแบบคน
ทั่วไปได้

เพื่อนหญิงขาเฟซ โพสต์ นำภาพหนูลงได้นะเคอะ ไม่ต้อง
กลัว

แต่ที่คนกลัว จะเหมือนที่ หนังสือคู่สร้างคู่สมนำภาพวิวมาลง
แต่ดันไปติด หญิงชายนั่งคู่กันริมน้ำป้อนอาหารกัน
ทีแรกก็ไม่รู้หรอกว่าอะไร จนกระทั่งมีคนมาบอกว่า ทั้งสอง
เป็นกิ๊ก 555 ภรรยาเห็นภาพนั่น ๆ ปั๋วกรูกะ คุงอี ครายวะ
ไปละ เดี๋ยวจะยาวกว่างานเขียนคุณปริ๊นซ์

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 1 มิถุนายน 2565 6:05:29 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์

ความรักความห่วงใยลูกหากเป็นแบบพอดี ให้อิสระลูกในการคิด การตัดสินใจและการกระทำ
ไม่ว่าลูกจะอยู่ใกล้หรือไกลตัวก็เข้าใจและเชื่อใจลูกเสมอ พูดง่ายๆคือปล่อยได้
ลูกก็คงสบายใจกับการใช้ชีวิต ไม่กดดันนะคะ

เรื่องราวนี้ลำพังลูกก็น่าเห็นใจอยู่แล้วแต่นี่ยังลามไปถึงเพื่อนของลูกด้วย
"เตือน!! กฏหมายใหม่" เหมาะกับยุคนี้ดีจังค่ะ
หวังว่าการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตคงลดลงบ้าง

ยินดีกับน้องปริ๊นซ์ที่ได้รางวัลนะคะ
หลานแฟร์โตขึ้นคงยิ่งรับรู้ได้ถึงความรักที่น้าปริ๊นซ์มีให้

เราแพ้อะไรปกติก็พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นๆอยู่แล้ว
แต่บางครั้งก็เลี่ยงยาก ยังไงก็ขอให้เจอสิ่งที่แพ้น้อยครั้งที่สุดเท่าที่เป็นได้ค่ะน้องปริ๊นซ์

ขอบคุณน้องปริ๊นซ์ที่แวะชมเมนูบ้านพี่ต๋าค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 1 มิถุนายน 2565 7:29:30 น.  

 

เขาให้เล่าเรื่องเพื่อนตัวเองคุณชายปริ้นก็ไป
เล่าเรื่องเพื่อนพ่อ แถมเล่าได้สนุกเสียด้วย 55



 

โดย: หอมกร 1 มิถุนายน 2565 8:24:55 น.  

 

อย่างแรกคือเค้าต้องว่างมากเลยนะ ถึงมานั่งถ่ายสารคดีชีวิตลูกและแก้งค์เพื่อนลูกได้ขนาดนี้
สองคือต้องมีตังค์นะ ถึงว่างได้ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เค้าเอาเวลาไปทำมาหากิน
แต่ป้าแกร ว่าง ว่าง และว่างเกิ๊นนนนน..
อ่านชีวิตขุนแล้วนึกถึงตัวเอง สมัยมัธยมนี่พี่เป็นเด็กกิจกรรมมาก
แต่พอเข้ามหาลัยกับพอใจที่จะใช้ชีวิตแบบเนิดๆเงียบๆ
แต่พี่ย้ายคณะเรียน เพราะงั้นเวลาว่างของพี่คือเรียนเสริม
มีไปออกค่ายปลูกต้นไม้ ออกค่ายอาสาพัฒนาชนบทบ้าง
แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่หอเงียบๆ กับแก้งค์เพื่อนเดิมๆ..
มันก็มีความสุขไปอีกแบบนะ.. ความจริงแล้วบางคนเค้าก็ไม่ได้
ต้องการให้ตัวเองเป็นจุดสนใจมากนัก เพราะมันจะรู้สึกไม่วุ่นวาย
ไม่สงบอ่ะ.. มันก็มีคนแบบนี้เหมือนกัน พี่เอง 555+

 

โดย: nonnoiGiwGiw 1 มิถุนายน 2565 11:08:26 น.  

 

ปล. ขำพ่อ ว่าไปแล้วก็น่าจะปวดหัวน้อยกว่าจริงๆ ถ้าลูกเบี่ยงเบนไปซะเนี่ยะ..

 

โดย: nonnoiGiwGiw 1 มิถุนายน 2565 11:09:19 น.  

 

จากบล็อก
พ่อพี่ตอนมัธยมเรื่องเหล้า บุหรี่แกจะแอนตี้มาก ๆ พอเข้ามหาฯ ลัย พี่เริ่มดื่มละ กลับบ้านต้องคอยหลบ ๆ พ่อ ปรากฏว่าแกซื้อเบียร์มารอไว้เลย ฮามาก ถึงได้รู้ว่าพ่อเราเข้าใจเรามากที่สุด

 

โดย: The Kop Civil 1 มิถุนายน 2565 11:19:23 น.  

 

พี่ก๋าชอบเล่ม "การศึกษาและสาระสำคัญของชีวิต"
กับ "อิสระแห่งชีวิต" สองเล่มนี้คล้ายๆกัน
พูดถึงการศึกษาของเด็ก วิธีการสอนเด็ก
พี่ก๋าเคยอยากเป็นครูครับเลยชอบเรื่องการศึกษา
ยิ่งพอมีลูก ยิ่งอยากหาแนวทางการสอนลูก
ซึ่งพี่ก๋าพบว่าแนวทางของท่านกฤษณมูรติ
ก็คล้ายกับแนวคิดที่พี่ก๋ามี
คือ เน้นให้เด็กเรียนรู้อย่างมีอิสระ มีความสุข
ไม่เอากรอบความคิดของผู้ใหญ่ไปยีัดใส่ความคิดเด็ก ฯลฯ

ก็เลยชอบหนังสือสองเล่มนี้มากเป็นพิเศษครับ
ชอบสัมภาษณ์แบบนี้
เราน่าจะจัดบล็อกแก๊งทอล์คขึ้นมานะครับ
ให้น้องปริ๊นซ์เป็นพิธีกรเลย 5555

 

โดย: กะว่าก๋า 1 มิถุนายน 2565 20:31:51 น.  

 

สวัสดีครับคุณปริ๊นซ์

เพิ่งได้เข้ามาคุยครับ ติดนู่นนี่ จัดเวลาไม่ได้เลย TT

เมื่อคุณปริ๊นซ์อยู่ในแสงไฟ งั้นต้องไปกับแสงสี ..เฮ้ย ไม่ใช่แล้ว อิอิ
ชอบที่ ที่บ้านคุณปริ๊นซ์ คุณพ่อคุณลูกคุยกันได้ทุกเรื่องครับ
และสงสารขุนเลยครับ

ยินดีกับรางวัลด้วยนะครับ

 

โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา 1 มิถุนายน 2565 21:45:15 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องปริ๊นซ์

ดีใจด้วย จ้ะ ที่หายป่วยแล้ว คนเป็นภูมิแพ้นี่ ลำบากมากเลย
อากาศเปลี่ยน หรือไปเจอของที่แพ้ ก็ลำบาก โดยเฉพาะของกิน เช่น แพ้กุ้ง แพ้ทุเรียน อิอิ ของโปรด อดกิน ดังนั้น เมื่อเรารู้ตัวเองว่าแพ้อะไร ต้องระมัดระวังตัวให้ดี หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ ก็จะได้
ไม่เจ็บป่วย

ตะพาบเพื่อน ครั้งนี้ เป็นเพื่อนของพ่อโดยตรง อิอิ อ่านแล้ว
ก็ให้สงสารท่านขุน จ้ะ ส่วนแม่จิต ก็รักลูก ห่วงลูกมากจนเกินไป
ท่านขุนจะลำบาก ทำอะไรไม่เป็น เฮ้อ! เธอควรช่วยเหลือท่านขุน
หน่อยนะ ในฐานะเพื่อนร่วมสถาบัน ช่วยแนะนำ ให้เขาเข้าสังคม
มีเพื่อน จะได้คลายเครียดได้ อิอิ

โหวดหมวด ตะพาบ
ขอแสดงความยินดีด้วยจ้ะ ที่ได้รางวัล การเขียน ตะพาบ จ้ะ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 1 มิถุนายน 2565 21:48:11 น.  

 

เข้าข่ายพ่อแม่รังแกฉัน รึเปล่านะเคสนี้
ยิ่งห่วงจะยิ่งห่าง วันนึงลูกจะหายไปเพราะอึดอัด

เรื่องถ่ายภาพติดคนอื่น ตอนนี้มีมีมล้อเลียนกันเต็มเลย ฮาดีค่ะ

 

โดย: NENE77 1 มิถุนายน 2565 22:37:50 น.  

 

อารมณ์ห่วงลูกแหละ แต่เรื่องเป็นลีดไปถามพ่อแม่เรา ผมไม่โอเคกับเรื่องนี้มากๆ เพราะโดยส่วนตัวผมไม่พิศวาสกับกิจกรรมเชียร์เลย หากย้อนเวลาได้น่าจะได้ชกกับพวกปี 2 ด้วยซ้ำ ผมเป็นพวกชมรมกลับบ้าน

เรื่องเกมเรื่องการ์ตูนหาผู้หญิงคุยด้วยยากจริงๆ ครับ 555 เจอแบบนี้อึดอัดนะ มากด้วย

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 1 มิถุนายน 2565 23:02:08 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์ ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจบล็อกตะพาบพี่กิ่ง

ตามมาอ่านเรื่องราวของน้องปริ๊นซ์สนุกดีค่ะ ฮาๆดี ขำตรงป้าจิตเนี่ยแหละ 555 โห.ลูกโตขนาดนี้แล้วยังตามลูกไม่ห่างเลยทั้งๆที่เป็นลูกชาย พี่กิ่งอยากจะนึกว่าถ้าน้องขุนกลายเป็นประเภท 3 คุณป้าจิตต้องอกแตกแน่เลยนะคะ อิอิ

ตามลูกตัวเองนี่ไม่เป็นไรนะคะ แต่มาลามปามลูกเพื่อนด้วยเนี่ยผิดร้ายแรงเลยค่ะ นี่ถ้าคุณพ่อน้องปริ๊นซ์เป็นประเภทคุณพ่อที่ดุก้าวร้าว ดุด่าว่าลูกด้วยคงจะเกิดเรื่องบานปลายแน่ๆ ดีๆไม่ดีน้องปริ๊นซ์อาจจะแย่ที่พ่อไม่เชื่อน้องปริ๊นซ์แต่ไปเชื่อป้าจิตเข้า ชีวิตพังแน่ๆค่ะ พี่กิ่งถึงบอกว่าป้าจิตทำเรื่องที่ร้ายมากๆ ทำให้พ่อลูกเค้าแตกแยกกันและสร้างปมปัญหาให้ลูกเค้าด้วยแย่เลยนะคะ

ดีนะคะที่คุณพ่อเข้าใจน้องปริ๊นซ์และอารมณ์ดีมากๆค่ะมีการย้อนกลับให้ป้าต้องเจ็บใจไปทุกครั้ง อิอิ


น้องปริ๊นโชคดีที่อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น ทั้งคุณพ่อคุณแม่ดูแลดีและให้โอกาสลูกได้ตัดสินใจอะไรเองบ้างแต่ก็ดูแลอยู่ห่างๆไม่ได้ปล่อยปละละเลย ทำให้ชีวิตของน้องพบกับความสำเร็จจากการมุมานะในการเรียนและหางานทำได้ด้วยตัวเองอย่างน่าภูมิใจพี่กิ่งดีใจด้วยจริงๆค่ะ

จากบล็อก เพื่อนพี่กิ่งคนนี้เค้ามีปัญหากับพี่กิ่งมานานแล้วโดยพี่กิ่งก็ไม่รู้เรื่องเลยว่าเค้าไม่พอใจอะไรเรา ถ้าปัญหาหยุมหยิมพี่กิ่งก็ไม่ค่อยจะสนใจพอมีเรื่องออกมาในงานเลี้ยงรุ่นปุ๊บพี่กิ่งตัดสินใจตัดออกจากวงจรชีวิตเลยค่ะ บล็อกทุกอย่างทั้งเฟชทั้งไลน์จะได้ไม่ต้องเห็นกันไปเลยค่ะ

สำหรับเพื่อนน้องปริ๊นซืพี่กิ่งว่าเค้าคงอายเพื่อนๆที่ทำแบบนั้นเลยไม่กล้ามาเข้ากลุ่มแล้วนะคะ

ท้ายนี้พี่กิ่งขอแสดงความยินดีด้วยนะคะกับรางวัลโครงการตะพาบค่ะ

โหวต ตะพาบให้นะคะ เขียนมาซะยาวเลยค่ะ 555




 

โดย: กิ่งฟ้า 1 มิถุนายน 2565 23:57:07 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

 

โดย: กะว่าก๋า 2 มิถุนายน 2565 5:28:05 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะ


แม้......โอ๊ยยยย

 

โดย: ตะลีกีปัส 3 มิถุนายน 2565 15:18:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space