lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2567
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
2526272829 
space
space
2 กุมภาพันธ์ 2567
space
space
space

ตะวันตัดบูรพา EP.3


ความเดิมตอนที่แล้ว

ย้งมาเรียนที่ มช ที่เดียวกับพี่ชายอย่างพี่ยุน
วันนึงย้งเกิดอุบัติเหตุหนัก ในตอนนี้มันพยายามโทรหาพี่ยุน 
แต่พี่ยุนไม่รับสายมัน 
พี่ยุนมารู้อีกทีตอนพยายามโทรกลับ และกู้ภัยเป็นคนรับสาย 
แจ้งว่า ตะวัน เกิดอุบัติเหตุอาการสาหัสให้รีบมาที่ รพ 
แต่ย้งอาการหนักมาก และมีโอกาสไม่รอดได้ทุกเมื่อ
พ่อกับแม่เลยหาความหวังทุกทาง และเปลี่ยนชื่อย้ง จาก ตะวัน เป็น ปุญญษพัฒน์




--------------------------------------------------





จะด้วยทีมหมอพยาบาลที่ทุ่มเทช่วยย้งเต็มที่ ตลอดหลายวัน
ด้วยไอ่ย้งที่อดทน หรือด้วยชื่อใหม่ ที่ควรให้ไอ่ย้งตื่นมาจำวิธีเขียน
เลือดในช่องอกค่อย ๆ หยุด ย้งตอบสนองกับยามากขึ้น
ความดันดีขึ้น และพ้นจากภาวะช็อต โดยไม่มีความผิดปกติของปลายมือปลายเท้า
ย้งเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง ลืมตาได้เล็กน้อย
แต่นั่นก็ยิ่งกว่าปาฎิหารย์สำหรับครอบครัว



หลังจากรอดจากความตายมาได้
ไอ่ย้งก็ยังต้องผจญกับความเจ็บปวดอื่น ๆ ในร่างกายอีกมาก
เพราะไหนจะต้องผ่าตัดใส่เหล็กเกือบทั้งตัว ยังต้องเจ็บแผลอีก




ย้งต้องผ่าตัดหลายครั้ง และนอน ICU อยู่ร่วมเดือน
นอนโรงพยาบาลอยู่ 2 เดือน
และกลับมาพักฟื้นที่กรุงเทพอีกเกือบปี 
ทำให้ย้งต้องดรอปเรียนไป 1 ปี ถึงจะสามารถกลับไปเรียนได้
ดังนั้น จริงๆ แล้วย้งอายุมากกว่าผมเกือบ 2 ปี แต่ตอนแรกที่รู้จักกันเราถามแค่ปีจบ
เลยเข้าใจว่าอายุเท่ากันมาตลอด










แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมไม่ใช่แค่รอยแผล และร่างกายของย้งเท่านั้น
เพราะตั้งแต่ย้งรู้สึกตัวและเริ่มพูดจาได้ในวันนั้น
ย้งแทบไม่พูดกับพี่ยุนอีกเลย ถ้าพูดคือการตวาดหรือทะเลาะ
และจากที่เคยแทนตัวเองด้วยชื่อ
มันกลับเรียกตัวเองว่า
กู และเรียกพี่ยุนว่า มึง




ย้งกลับมาใช้ชีวิตที่เชียงใหม่เหมือนไม่มีพี่ยุน
ไม่ติดต่อกัน ไม่รับโทรศัพท์ ไม่เจอ ไม่ไปไหนด้วย

แม้แต่การกลับบ้าน ... ถ้าพี่ยุนกลับ ย้งจะไม่กลับ
เหมือนกับที่พระท่านว่า ตะวัน น้องชายของบูรพา ได้ตายไปแล้วจริงๆ 




จนวันที่พี่ยุนเรียนจบ
พี่ยุนจึงตัดสินใจคุยกับย้งอีกครั้ง โดยการไปหาย้งที่คณะ
ซึ่งก็ได้เจอย้งยืนสูบบุหรี่อยู่หลังตึกกับเพื่อนจริงๆ 
แต่ทันทีที่ย้งเห็นพี่ยุน ไอ่ย้งก็หันหลังเดินหนีทันที
และแน่นอนว่าพี่ยุนวิ่งตาม ซึ่งย้งหนีไม่ทันอยู่แล้ว ก็ถูกพี่ยุนคว้าไหล่ไว้ได้

"โอ้ย อย่าจับกุ"   ย้งที่รู้สึกเจ็บร้องขึ้น ทำให้พี่ยุนต้องรีบปล่อยมือ
"คุยกันหน่อยไม่ได้หรอ นี่ย้งไม่คุยกับพี่มา2 ปีแล้วนะ"
ย้งไม่ตอบ และไม่มองหน้าอีกฝ่าย
"พี่อยากให้ย้งไปงานรับปริญญาพี่เว้ย แล้วเราถ่ายรูปครอบครัวกัน"
"....."
"แล้วเราพาไอ่หยกไปวอร์มอัพเว้ย ไอ่หยกอยากไป"
"...."
"มอร์ไซค์พี่ พี่ทิ้งไว้ให้...." ยังไม่ทันที่พี่ยุนจะพูดจบ ย้งก็ส่วนขึ้นมาเสียงดัง
"มึงเป็นบ้าหรอ ถึงมาพูดเรื่องเชี้ยนี่กับกุ"  
"พี่แค่อยากให้เราเป็นเหมือนเดิม" 
ตรงนี้ย้งส่ายหน้า ตาแดงก่ำ กำมือแน่นด้วยความโกรธ
"แล้วกุเป็นเหมือนเดิมได้ไหมละไอ่ยุน"
"พี่รู้ๆ พี่รู้สึกผิดมากเว้ยตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่เราจะช่วยกันและมันจะดีขึ้นนะ"
"ดีพ่องมึงหรอ"  อันนี้ 2 คนพี่น้องก็มาขำกันทีหลังว่า พ่อกูก็พ่อมึงเหมือนกัน
"จะไปตายที่ไหนก็ไป...."
นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ 2 พี่น้องพูดกันต่อหน้า และพวกเค้าก็ไม่ได้คุยกันอีก



แต่พี่ยุนคุยกับที่บ้านว่า เค้าจะหางานทำอยู่ที่เชียงใหม่
จะได้อยู่ใกล้น้อง ดูแลน้องได้ ไม่ว่าย้งจะอยากให้ดูแลหรือไม่ก็ตาม
แต่ถ้าเกิดอะไรที่นี่ น้องชายจะมีเค้าอยู่เสมอ

และจริงครับ พี่ยุนเรียนจบและหางานทำอยู่ที่เชียงใหม่
เพราะไม่ใช่แค่อยากอยู่ใกล้ย้ง แต่เพราะเชียงใหม่กลายเป็นเซฟโซนของพี่ยุนไปแล้ว










จนวันที่ย้งเรียนจบ 
พี่ยุนรู้จากที่บ้านว่าย้งจะย้ายของออกจากหอ และกลับกรุงเทพ
เค้าเลยใช้โอกาสนี้ เข้ามาหาย้งอีกครั้ง เพื่อช่วยเก็บของ
ถึงแม้จะไม่ได้รับการต้อนรับก็ตาม


พี่ยุนกับพ่อแม่ เข้าไปหาย้งพร้อมเพื่อนที่คณะของย้งที่จะมาช่วยเหมือนกัน

"เอ้า มาแล้วหรอ กุยังไม่รู้เลยจะเริ่มแพ้คอะไรก่อน" 
ย้งยกมือสวัสดีพ่อกับแม่ ก่อนพูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าเพื่อน
แต่ก็หยุดพูดลงเมื่อเห็นที่คนเดินเข้ามาคนถัดไปคือพี่ยุน


ย้งทำเหมือนพี่ชายตัวเองเป็นอากาศแล้วคุยกับเพื่อนตัวเองต่อ

"มึงว่ายังไงดี ทำไม 5 ปีของกูมันเยอะจังวะเนี้ย" ย้งเกาหัวหัวเราะเบาๆ 
เพื่อนของย้งก็พยายามพูดให้ย้งทักพี่ชายซะหน่อย แต่ย้งก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน
แล้วทำนั่นทำนี่ คุยกับเพื่อน หรือพ่อกับแม่ไปเรื่อย
ยกเว้น พี่ยุน
จนพี่ยุนเดินดูของในห้องไปตามเรื่อง แล้วมาเจอกับรูทบิกลูกหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ
เค้าหยิบมันขึ้นมาดูก็เห็นว่า มันถูกหมุนให้เป็นสีเดียวกันแล้วสามด้าน
อีก 3 ด้านที่เหลือยังมั่วสีอยู่ พี่ยุนยิ้มแล้วหันไปหาย้ง

"เล่นเป็นแล้วหรอเนี้ย เก่งวะ ของพี่ป่านนี้ยังมั่วทุกด้านอยู่เลย"
ย้งที่หันมาตามเสียงเรียกอัตโนมัติ ก็ปรี่เข้าไปหาพี่ยุนทันที
ก่อนนะแย่งรูทบิกออกมาจากมือพี่ยุน

"อย่ายุ่งของของกุ....."
"พี่ให้ย้งไง....แต่ก็ดีใจนะเนี้ยที่ย้งยังเล่นมันอยู่"
พี่ยุนยังคงพูดด้วยเสียงสดใส
แต่ย้งกลับมือสั่นด้วยความโกรธก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง

"ของของมึงน่ะ....กุไม่อยากได้หรอได้ยุน!!! 
ว่าแล้วย้งก็ปารูทบิกในมือเข้าใส่พี่ยุนอย่างจัง แน่นอนว่าเจ็บแน่ๆ 
และก็ทำให้พี่ยุนเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาจริงจัง

"บ้าอะไรอีกย้ง เห็นพี่ยอมแล้วจะใช้อารมณ์แบบนี้ได้หรอ
ถ้าไม่ใช่น้อง ใครทำแบบนี้พี่ตบร่วงนะบอกก่อน"

จังหวะนี้ที่พ่อทั้งแม่ก็พยายามหยุดสองพี่น้องไม่ให้ทะเลาะไม่ให้เถียงกัน
แต่เหมือนจะเป็นจุดที่ต่างคนต่างเอาไม่ลงแล้ว

"มึงก็เอาสิยุน เอาเอาสิ!" 
ขณะที่ย้งยื่นหน้ายื่นตากวนบาทาพี่ยุน แม่ก็เข้าไปดึงแขนย้งไว้ว่าให้หยุด
แต่ย้งที่อารมณ์ขึ้นเต็มที่ก็เอามือปัดแขนแม่ออกอย่างแรงเสียงดัง
เพี๊ยะ


เสียงอีกเพี๊ยะ! ดังขึ้น ทันทีที่พี่ยุนตบเข้าไปที่หน้าย้ง
ซึ่งย้งนี่ก็ถึงกับเซ ทั้งเจ็บทั้งตกใจ ทั้งโกรธ ไม่คิดว่าพี่ยุนจะตบมันจริงๆ 
"นี่มึงจะเฮียกับกุยังไงกุก็ทนนะ แต่มึงจะมาเฮียกับม้าไม่ได้"
"มึงเฮียกับกุก่อนไหม!!!"  ว่าแล้วย้งก็โดดบรรเลงบาทาพี่ยุนทันที
ทีนี้สองพี่น้องจะเหนี่ยวกันนัว เป็นหน้าที่เพื่อนกับพ่อต้องช่วยกันแยก
พี่ยุนไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าจับแล้วผลักแรงๆ ซะทุกครั้ง
แต่ก็แรงชนิดที่ไอ่ย้งกระเด็นเหมือนกัน ถ้าเรื่องใช้กำลังพี่ยุนถนัดกว่ายุนตั้งแต่เด็กแล้ว



จนสุดท้ายพี่ยุนเอาน้ำสาดย้งก่อนจับกดลงเตียง รวมมือแล้วเอาเข่ากดหลังไว้
ย้งที่เริ่มเจ็บก็ดิ้นน้อยลง ได้แต่ตะโกนให้พี่ยุนปล่อย

"ปล่อยกุ ปล่อยกุ!!!"  
"พี่ไม่คิดเลยนะ ว่าเราจะเป็นแบบนี้"
"มึงทิ้งกูอย่างหมูอย่างกับหมา  ไปเอากับผู้หญิงไม่รับโทรศัพท์กู แค่รับสายมึงทำไม่ได้เลยหรอ
ตอนที่กูต้องการมึงที่สุด กูได้แต่พูดอยู่คนเดียว ขอให้มึงช่วย...."

จากเสียงตะโกนด่าทอ ตอนนี้เสียงย้งปนด้วยเสียงร้องไห้ 
มือที่ถูกพี่ยุนรวบไว้ก็ไม่ได้พยายามขัดขืนต่อสู้ แต่ยอมให้พี่ยุนกดไว้โดนดี

"ที่นี่ชีวิตกูมีแค่มึงคนเดียวนะยุน มึงยังทำกับกูได้ พี่เฮียๆอย่างมึง 
กูไม่มีก็ได้ กูอยู่ได้แล้วไอ่ยุน กูไม่ต้องการมึง กูไม่ต้องการมึงอีกแล้ว!!!"




ทันทีที่พี่ยุนได้ฟังย้ง ในใจก็สับสนไปหมด ทั้งเสียใจ ทั้งโกรธ ทั้งท้อ
พร้อมกับที่เพื่อนของย้งเข้ามาพยายามแยกทั้งคู่ออกจากกัน

เสียงพ่อกับแม่ที่พูดตลอดเวลาว่า
"อย่าทำน้อง"

"กูก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่ถ้ามึงต้องการแบบนั้น
กูกับมึงก็พอกันแค่นี้เถอะ กูจะไม่พยายาม ไม่ยุ่งกับมึงอีกแล้ว"


พี่ยุนลุกขึ้นเอาเข่าออกจากหลังย้ง แล้วถอยออกมา 
แน่นอน ทุกคนเข้าไปดูย้งที่ท่าทางน่าจะเจ็บ ก่อนที่เพื่อนของย้งจะหันมาหา

"ปิ๋ดก่อนเต๊อะปี่ยุน  ผมอู้กะมันเองเน้อปี่" 
พี่ยุนได้แค่พยักหน้า เดินไปลาพ่อกับแม่ ก่อนจะปิดประตูออกจากห้องไปดังปัง!




และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ย้งกับพี่ยุนเจอหน้ากันจริงๆ จัง ๆ










จากวันนั้น ย้งกลับกรุงเทพ ท่องเที่ยวและสมัครงาน
จนโผล่มาทำงานที่เดียวกับผมในตำแหน่งการตลาด 
ส่วนพี่ยุน ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของตัวเองอยู่ที่เชียงใหม่




แต่จำได้ไหมครับ ผมเคยเขียนในบล๊อกไว้หลายครั้งนานมาแล้ว
ว่าพวกที่แผนกไม่ค่อยชอบชวนย้งไปกินเหล้าด้วยเท่าไหร่

เพราะพอเหล้าเข้าปาก ไอ่ย้งจะมีอาการวอนหาตรีน
หลายครั้งที่ต้องเตือนกันว่า เมิงทำเล่นแบบนี้ จะโดนตรีนเอานะ
ถ้ามาแบบ สหบาทา เพื่อนอย่างพวกผมก็เอาไม่อยู่
จากความเสี่ยงที่เจอมาหลายครั้ง พวกผมเลยไม่ค่อยชวนไปครับ
เว้นแต่ว่าเป็นที่รโหฐาน เช่น ดื่มกันในรีสอร์ท ที่มีแต่พวกเรา 
มันจะวอนตีนยังไง แถวนี้ก็ไม่มีใครกระทืบมัน





จนหลายปีต่อจากนั้น....หรือเมื่อ 5 ปีที่แล้วคิดจากปัจจุบัน
ย้งกลับไปเที่ยวเชียงใหม่อีกครั้ง กับเพื่อนๆ มัธยม
คืนนึงหลังจากเที่ยวกับเพื่อนๆ และกลับเข้ามาในเมือง
ย้งนัดเพื่อนที่เชียงใหม่ของเขา2-3 คนออกไปดื่มกันที่ร้านท้องที่ร้านนึงที่เคยไปประจำ




ด้วยความดูเป็นลุคหนุ่มกรุงเทพ ตี๋ลุคแบด หน้าตาดี
ทำให้มีสาวๆ หลายคนส่งยิ้ม ส่งสายตาให้ย้งไม่ขาด

แถมไอ่ย้งก็มีชื่อเสีย(ง) เรื่องพรรณนี้ซะด้วย
หลังจากกินดื่มกันจนเกือบเที่ยงคืน เรียกว่าเมาได้ที่
ย้งก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วหายเงียบไปนาน จนเพื่อนๆ คิดว่าคงเมาหลับอยู่ที่ไหน

"เมิงไปดูไอ่ย้งหน่อยไหม แม่งอ้วกหลับไปแล้วมั้ง" เพื่อนคนนึงพูดขึ้น
แต่พอเพื่อนลุกไปตามหาย้งที่ห้องน้ำก้ไม่เจอ เดินออกมาหาลานจอดรถก็ไม่เจอ
จนเพื่อนร้อนใจแล้วพยายามโทรหา แต่ย้งก็ไม่รับสาย




จะไปรับสายได้ยังไง เพราะตอนนี้ ย้งที่เมาจัดๆ จนดูแลตัวเองลำบาก

ถูกแก๊งเด็กถิ่นลากไปยำตีนอยู่ในซอยหลังร้าน
เพราะอะไรน่ะหรอ.....ก็เพราะไอ่ย้งดังนั่งส่งสายตากับสาวคนนึง
และไอ่ตอนที่ย้งบอกว่าไปเข้าห้องน้ำเนี้ย
ย้งก็ไปยืนจูบอยู่คนสาวคนนั้น แล้วไอ่นี่ก็แซ่บซะด้วย 
ก็คงจะไปต่อกันบนรถผู้หญิง แต่ไม่รู้ย้งมันไปข้ามหน้าข้ามตาหรือท่าทางกวนตีนใครเข้า
เลยโดนลากไปยำตีนอย่างที่เห็น





------ TO BE CONTINUES -----


 



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2567 13:47:15 น. 21 comments
Counter : 503 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณทนายอ้วน, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSleepless Sea, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณnonnoiGiwGiw, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณโอพีย์, คุณหอมกร, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtanjira, คุณmultiple, คุณtuk-tuk@korat, คุณSweet_pills, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว


 
น้องปรินซ์เล่าได้สนุก
น่าจะลองเป็นนักเขียนนิยายดูสักเรื่อง



โดย: แค่คนธรรมดาไม่พิเศษ (สมาชิกหมายเลข 7915129 ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:15:33:58 น.  

 
กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว เดาว่าพี่น่าจะมาช่วยในภายหลัง เอาจริงๆ นะ เหล้าเข้าปากถ้าไม่ได้อยุ่ในบ้าน มันเสี่ยงตลอดแหละครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:21:12:54 น.  

 
วันที่ย้งเจ็บสาหัส
คนที่เจ็บไม่แพ้กันก็คือครอบครัวเลยนะครับ
โชคดีมากที่พ้นความตายมาได้

ส่วนที่ย้งโกรธพี่ชายตัวเองนั้นก็พอเข้าใจได้

ตอนจบไม่น่าจะสวยเลยนะครับ
โดนยำซะขนาดนั้น
ไว้รออ่านตอนต่อไปครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:21:17:21 น.  

 
สมควรแก่กรรมแล้วย้งเอ๋ย



โดย: หอมกร วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:21:40:13 น.  

 
เกษตรขาวมากขอดูภาพปลากรอบหน่อยครับน้องปริ๊นซ์ 555
พี่นอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปโยนโบว์ลิ่งการกุศลนะครับ
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านตะวันตัดบูรพา


โดย: The Kop Civil วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:23:11:12 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:6:47:03 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องปริ๊นน

วันนี้พี่ลากสังขารมาอ่านเรื่องของย้งต่อค่ะ
เป็นเรื่องราวใหญ่โตระหว่างพี่น้องเลยนะคะ
สงสารหัวอกพ่อแม่จังค่ะ แต่ก็นั่นแหละเนาะ โตๆกันแล้ว

ย้งจบไม่สวยแล้วนะตอนนี้ คาดว่าพี่ยุนคงมาช่วยไหมคะ

........

พี่อาการดีขึ้นะคะน้อง แต่คาดว่าคงไอไปอีกนานแน่ๆค่ะ
ช่วงนี้ทำอะไรเยอะก็เหนื่อยค่ะ ของแถมมาอีกแล้วนะคะงานนี้

น้องปริ๊นก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ฝุ่นเยอะ อากาศแย่ เราๆจะแย่นะคะ
ดูแลตัวเองดีดีค่ะน้องปริ๊น


โดย: tanjira วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:19:26:12 น.  

 
เรื่องราวทั้งหมดน่าจะมาจากการไม่ได้พูดคุยกันตั้งแต่แรก เรื่องบางเรื่องมันก็เป็นแค่ความเข้าใจผิด และฝ่ายหนึ่งถือทิฐิมากเกินไป จริงๆ ไม่ควรเลยการชกกันแบบนี้ ที่น่าเจ็บปวดคือไปทำแม่นี่แหละ แม้วส่าตอนนั้นจะโมโหหรืออะไรก็ตาม มันก็ไม่ควร


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:11:05:29 น.  

 
ลืมวันไหนลืมได้
แต่ลืมวันวาเลนไทน์เนี่ย ระวังเจ้าของหัวใจ
งอนนะน้องปรินซ์


โดย: แค่คนธรรมดาไม่พิเศษ (สมาชิกหมายเลข 7915129 ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:16:24:28 น.  

 
สองพี่น้อง ตระกูล ย น้องรอดมาได้ แต่ก็ยังผิดใจกัน

แต่เลือด ยังไงก็ข้นกว่าน้ำ อยู่ดีนะครับ
แต่ในชีวิตจริงก็ไม่แน่เสมอไป
พี่น้องฆ่ากันตายก็แยะ เอาแน่ไม่ได้

แต่เรื่องนี้ ตอนจบเดาว่า น่าจะ happy ending
พี่น้องกลับมาคืนดีกัน
เพราะเหมือนเคยอ่านอยู่แว่บๆ บรรทัดนึงข้างบน 555

แล้วก็ เรื่องผู้หญิงนี่ เป็นชนวนปัญหา นำพาเรื่องร้ายๆ
มาให้ได้ง่ายๆ

อย่าง ในข่าว น้องโลก 5 ใบ เมียหนุ่มโรงงานที่ถูกฆ่าตายนี่ก็ สุดๆเลยนะครับ



โดย: multiple วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:19:14:52 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ น้องปริ๊นซ์

ย้งฝังใจมากเลย อย่างว่าอ่ะเนอะ
ความหวังเดียวของเค้าตอนนั้น
อีกคนก็เกิดปมในใจเลยผูกใจเจ็บ อีกคนก็รู้สึกผิดอย่างมาก

แต่ด้วยสายเลือดเดียวกัน พี่เชื่อว่าความรักความผูกพัน
จะทำให้ทุกอย่างกลับมาบรรจบกันได้ค่ะ

รออีพีต่อไปค่ะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:9:39:43 น.  

 
ถ้าน้องปริ๊นซ์อายุประมาณพี่ก๋า
ก็จะเจอปากกาที่หาเหน็บอยู่ข้างหู
หรือหาแว่นตา ทั้งๆที่มันคาดอยู่บนหัว 555

พี่ก๋าชอบคำสอนอันนึงนะ
ที่บอกว่าทหารอังกฤษหน่วยนึง
โดนล้อมจากทหารญี่ปุ่น
สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
ทุกคนปลงแล้ว ว่ายังไงก็ไม่รอด
สุดท้ายนายพันบอกให้ทหารคนนึงไปชงชามาแบ่งให้ทหารทุกคนดื่ม
พอดื่มชา ทุกคนก็ดูสงบลง
สุดท้าย เครื่องบินฝ่ายเดียวกันก็มาช่วยถล่มฝ่ายญี่ปุ่น
จนทำให้ทุกคนรอดชีวิตได้
นายพันคนนี้บอกว่า

"เมื่อทำอะไรไม่ได้ ให้ดื่มชา"

เป็นคำสอนที่ดีนะ พี่ก๋าเคยเอามาใช้ในชีวิตจริงด้วย



เมาแล้วซ่า หาเรื่อง
พี่ก๋าเห็นพังมาหลายคนแล้ว
เราไปด้วยก็ไม่สนุกครับ

กับอีกประเภทคือ เมาแล้วเจ้าชู้ จีบดะ
อันนี้ก็เสี่ยงพอกัน 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:11:44:43 น.  

 
สนุกค่ะ ลงตอนใหม่ไวไวนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:13:17:09 น.  

 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
พี่เพิ่งจะได้เข้าบล็อกนี่ละครับ หายไปสองวัน 555
ตะวันตัดบูรพากำลังเข้มข้นเลยนะครับ พี่ว่าบทสุดท้ายน่าจะลงเอยด้วยดีนะ สายวิศวะเค้าฮาร์ดคอร์ เฮฮาปาร์ตี้แบบนี้กันจริง ๆ อยากไปเที่ยวเชียงใหม่อีกแล้วละ


โดย: The Kop Civil วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:14:47:27 น.  

 
จากบล็อก
พี่ไปโยนโบว์ลิ่งการกุศลนะครับน้องปริ๊นซ์ได้รับรางวัลอันดับ 2 ประเภททีม 3 คนนะครับ 555 เน้นดวงล้วน ๆ เลย ฝีมือไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะล้มคู่นับไสตรท์ ล้มคี่นับสแปร์นะครับ
อาทิตย์นี้พี่นอนยาว ๆ ดูกีฬาอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ
กลุ่มพี่มีเพื่อนอยู่คนนึงเหมือนกัน เมาที่ไหนหาเรื่องที่นั่นโดนตีนเป็นประจำ จนพอมีครอบครัวก็เลิกเที่ยวกันไปเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:16:01:47 น.  

 
พี่ต๋าพลาด Ep.2 ไป ขอลงชื่อแล้วย้อนอ่านก่อนนะคะ
ขอบคุณน้องปริ๊นซ์มากค่ะที่แวะชมเมนูบ้านพี่ต๋า


โดย: Sweet_pills วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:0:54:03 น.  

 
555 เรื่องสาวๆนี่ มันแพ้ทางกันครับ เหมือน งูเจอเชือกกล้วย
สมัยก่อน ชอบไปกินข้าวกับสาวๆในบล็อกมาก เดี๋ยวนี้เลิกแล้วครับ อิอิ

น้องปริ๊นซ์บอก เออ เลิกก็ดีแล้ว สงสารป้าๆ ยายๆ เค้า เอ็งอย่าไปหลอกเค้าเลย เข้าวัดเข้าวาไปหลอก แม่ชีนู่น เย้ย 555

ปล.ไปเขาใหญ่ ระหว่างทาง เจอพี่ช้าง เค้ามาตั้งด่านลอย เก็บส่วยมั่งมั้ยครับ แฮ่ 555



โดย: multiple วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:4:30:55 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

เอาจริง
ถ้าย้งจะไป
ก็คงไม่มีใครห้ามใช่ไหมครับ
เพราะฉะนั้น
ชงชา 5555

คือไม่ต้องคิดมากแล้ว
แล้วแต่ย้ง 5555





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:22:43 น.  

 
ย้งเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
เปลี่ยนชื่อใหม่ แต่ความจำดั้งเดิมยังแค้นฝังใจ

ผู้ชายอะไรจะโกรธแค้นขนาดนั้น เรื่องก็ผ่านไปนานแล้ว
นี่คงเป็นที่มาของ "ตะวันตัดบูรพา" นี่เอง
แต่คงตัดกันไม่ขาดหรอก ... ก็เรารู้ตอนต้นแล้วไง 555

ตอนท้าย ๆ เห็นวีรกรรมของย้งแล้ว น่าเป็นห่วงนะคะ
รออ่านตอนต่อไปค่ะ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:8:09:13 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ น้องปริ๊นซ์

พี่ว่าจากอุบัติเหตุ อาจมีผลกับสมองของย้งนะคะ
เลยอาจจะทำให้มีพฤติกรรมแปลกๆได้ ทั้งการกระทำและคำพูด
เชื่อพี่ค่ะ พี่ไม่ได้เรียนมา

พี่ชอบอินดี้ค่ะ ชอบเดินคนเดียว
เดินคุยกันได้เต็มที่1-2โล นอกนั้นพี่ไม่มีไรคุยแล้วค่ะ 555555
แปดริ้วก็ฝุ่นหนาขาวอย่างน้องว่าเลยค่ะ พี่แสบจมูกเฉยเลย
ปกติไม่ได้เป็นคนแพ้ไรแบบนี้นะคะ นี่ลมพิษก็มา
พี่ไปเห็นข่าวแวบๆมาว่า ไฟเซอร์ทำให้เรามีอาการภูมิแพ้ได้
เลยแอบคิดว่า น่าจะเพราะไฟเซอร์นี่หละค่ะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:9:34:24 น.  

 
อ่านเพลินเลยค่ะ


โดย: Emmy Journey พากิน พาเที่ยว วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:13:16:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space