อย่าทำหวีของแฟนหัก .... เพราะอาจจะถูกด่าได้ คริๆๆๆ


ห้าตัดผมวันพุธ เพราะสมัยก่อนวันพุธเป็นวันที่พระเจ้าอยู่หัว "ทรงเครื่อใหญ่" - ตัดผม - ครับ คนไทยเชื่อกันว่าจะไม่ทำอะไรเทียมเจ้าเทียมนาย ก็เลยสอนกันไว้ว่าอย่าตัดผมวันพุธ ส่วน พฤหัส ห้ามโกน ... อันนี้ไม่รู้ครับ เคยได้ยินแต่พฤหัสห้ามถอน ... จริงๆวันไหนก็ไม่น่าจะถอน (ผม - เพราะมันเจ็บ) (เงิน ... เพราะมันจะจน) นะครับ อิอิอิ


เสียงลึกลับนี่พี่เคยได้ยินครั้งเดียวจริงๆครับ เป็นเสียงพ่อเรียก ... บอล ..... ในวันที่พ่อเสียคืนที่สอง ... พี่เดินผ่านห้องพ่อจะเข้าห้องนอนหลังจากกลับจากวัด ได้ยินชัดมากๆ จนต้องหันหลัง คนข้างๆเดินตามมาติดๆยังสงสัยว่าหันมาทำไม เลยพ่อว่า "พ่อเรียก" ไม่กลัวครับ แม่บอกว่าเพราะพ่อเค้าห่วงมาก ... ยังอยากให้พ่อมาหาอยู่เลย แต่ไม่เคยมาหาซักที อิอิอิ

สวัสดีค่ะน้องปริ๊น
เรียกน้องได้ไม่อายเลยเนาะ 555
เลยตามเลยนะคะ พี่จะได้ไม่ดูแก่ ^^


เขาเล่าว่า นี่มันเยอะจนแทบนึกไม่ออก 555
ไม่ช่ายมันเยอะจริงค่ะ เยอะจนไม่รู้จะเล่าอันไหนก่อน

แต่ที่ทำหวีแฟนหัก ชัดๆ ลางไม่ดีแน่ๆค่ะ

หวีเดี๊ยวนี้แพงจริง ลูกสาวพี่ซื้อเกือบพัน เค้าบอกหวีผมแล้วผมจะมันเงา
อืมมม ก็เล่นกับเค้าหน่อยล่ะกัน ตามนั้นเลยลูก ไม่รู้จะอธิบายต่อยังไงค่ะ
ต้องปล่อยให้เค้าลองไปเองว่าคุ้มไหม

เขาเล่าว่า ที่น้องปริ็นเขียนถึง
พี่ก็ได้ยินมาหมดล่ะค่ะ ก็ตามนั้นเลยเนาะ
เรื่องตัดผมวันพุธ ก็ได้ยินมาคล้ายคุณทนายอ้วนบอกล่ะค่ะ
เรื่องกลิ่นธูป บ้านพี่จะมีเป็นประจำ จนชินล่ะค่ะ ไม่คิดจะหาแล้วค่ะ
อย่างเมื่อเร็วๆนี้ น้าผญ ถามว่า ได้กลิ่นธูปไหม พี่บอกไม่ได้กลิ่น
น้าผญ บอก น้าผช คงมาทักทายน้าคนเดียวมั้ง
อืมมม ตามนั้นเลยน้า ไม่ต้องมาทางนี้ก็ได้ ไม่ว่ากัน 555

พี่ว่ามันเป็นอะไรที่หลายๆคนพบเจอนะคะ รู้กันเองโดยสัญชาติญาณ
บางคนถือเป็นลางบอกเหตุนะคะ แบบคนดีผีคุ้มอะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ


จากบล็อก
ลูกสาวพี่นี่บ่นเป็นหมีกินผึ้งค่ะแรกๆ ไม่ได้เดินทางไปในที่ที่เค้าเคยไปค่ะ
รายนี้ไปญี่ปุ่นทุกปีบางปี 2ครั้งไปดูคอนเสิรต์ค่ะ ตั้งแต่จบไปทุกปีเลยค่ะ
ตอนนี้ก็ยังบ่นงึมงำอยู่ค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะชอบอะไรมากมายขนาดนี้
ช่วงโควิด เค้าห้ามพี่ไปร้านกาแฟ แล้วก็ซื้อเครื่องทำกาแฟมาให้พี่ทำกินเองที่บ้านค่ะ
ลูกพี่เค้าต้องปลอดภัยแบบ 1000% เธอป้องกันดูแลตัวเองแบบเกินร้อยค่ะ
แต่ก็ดีสำหรับตัวเองและคนรอบข้างนะคะ .....

เรื่องทำผม ถามว่าเดี๊ยวนี้ทำวัน 2-3 คนก็เหนื่อยแล้วค่ะสำหรับพี่
แต่ถ้าเมื่อก่อน มาเถอะ ตั้งแต่เช้ายันดึกไม่เกี่ยงค่ะ เรายังมีแรงนะคะ
แต่ก็มีคนช่วยเลยไหวค่ะ พี่ไม่ได้ทำผมมานานเป็นสิบๆปีค่ะ เพราะตามมาอยู่กับลูกสาวในกทม.
พอเค้าเรียนจบ พี่ก็กลับไปดูแลพ่อแม่ต่ออีก ชีวิตมันก็วนเวียนอยู่แบบนี้ล่ะเนาะ

ยังไงพี่เป็นกำลังใจให้ในการออกกำลังกายนะคะ ถ้าทำได้คือดีล่ะค่ะ
สุขภาพจะได้ดีตามไปด้วย ....

มีความสุขนะครับปริ๊น ห่างไกลจากโควิดด้วยครับบบบ

เขาเล่ามา ... ย้อนถามว่า เขาคือใคร
ก็ตอบไม่ได้ เพราะเล่าต่อ ๆ กันมา 555

บางเรื่องก็พอเดาได้ แต่บางเรื่องก็ประมาณไม่เชื่ออย่าลบหลู่
หลายเรื่องก็หาคำตอบไม่ได้ งง ๆ กันไป
บางครั้งจิตก็อาจปรุงแต่งไปเอง

ไม่ว่าจะเป็นเสียงแปลกๆ หรือกลิ่นธูปอะไรก็ตาม
ก็ไม่หลอนเท่าแมงมุมปีนขึ้นมาบนเตียง
โอ๊ยยยยย ไม่อยากจะคิดตาม แค่วันก่อนที่แมงมุมวัยรุ่น
เข้าครัวไปหน่อยเดียว ยังต้องฉีดยาฆ่าให้วุ่น
สุดท้ายก็ต้องรื้อจานออกมาล้างใหม่หมดเพราะ
กลัวมันอมยาฆ่าแมลง

พี่กำลังคิดอยู่ว่าพี่จะเขียนไรดี
ว่าแต่พี่อู้ไม่ได้ใช่ไหม.. แหะๆ

จากบล็อก..
กินสองสามคำก็ไม่ได้ถ้าฟาสอยู่อย่ากินเลย
นอกจากจะกินในมื้อ ก็กินได้แหละมัง คิดเอง

อย่าเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน --- น่าจะกลัวอันตรายจากสัตว์ต่างๆ
อย่าใช้หวีหัก --- มันคมอาจจะบาดหัวได้
อย่าหงายมือรินน้ำ --- อันนี้เห็นด้วยกับน้องปริ๊นซ์ มันน่าจะหกง่าย
พุธห้ามตัด --- พี่ก๋าเคยอ่านในหนังสือ เขาบอกว่าสมัยก่อนกษัตริย์ตัดผมวันพุธครับ
ก็เลยออกฏว่าไม่ให้คนทั่วไปตัดผมในวันนี้ แต่จำไม่ได้แล้วว่าอ่านจากหนังสือเล่มไหน
อย่าหันหัวเตียงไปทางทิศตะวันตก --- อันนี้เคยอ่านที่เขาบอกว่ามันจะไปตรงกับเรื่องสนามแม่เหล็กโลก
แต่พี่ก๋าก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งครับ
ห้ามมีเซ็กซ์ในวันพระ --- อันนี้พี่ก๋าก็คิดว่าเขาคงอยากให้เป็นวันที่ไปปฏิบัติธรรม
คนสมัยก่อนไปนอนที่วัดในวันพระ ก็เลยบอกว่าอย่ามีอะไรกัน
เพราะถ้ามีก็หมายถึงต้องไปมีที่วัด 555
อย่าขานเสียงเรียกชื่อตอนกลางคืน --- อันนี้ก็แปลกดีครับ
หรือคิดอีกแง่หนึ่งถ้ามีคนจะมายิง การที่เราส่งเสียงออกไป
ก็อาจทำให้คนร้ายทราบตำแหน่งของเราได้

เรื่องกลิ่นธูป เสียงที่ดังในห้องพระ
เป็นเรื่องแปลกและยากจะหาคำอธิบายได้จริงๆครับ


ปล.เงินในยุคนี้หมดไปกับ
ซื้อ ATK ซื้อ Mask ซื้อแอลกอฮอล์ เติมน้ำมัน
บวกกับถูกรัฐบาลแอบเพิ่มค่าน้ำ ค่าไฟด้วยนะครับ
และทำไปทำมายา favir ก็ไม่มีแจกอีก
แย่จริงๆครับ

สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์ ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจบล็อกควันหลงพืชสวนโลก
ตามมาอ่านตะพาบบ้านแรกเลยค่ะ อิอิ พี่กิ่งยังไม่ได้เริ่มเลยเมื่อคืนมัวแต่ไปแก้ไขบล็อกพืชสวนโลกที่ทำไว้เสียหายไปเยอะพี่กิ่งก็เลยเอามาแก้ไขใหม่ก็เลยลงบล็อกใหม่ไปเลยค่ะ

เรื่องเล่าเขาว่า พี่กิ่งก็ได้ยินผู้ใหญ่เค้าพูดให้ฟังเหมือนกับขอน้องปริ๊นซ์นี้เลยค่ะ
คำตอบของพี่กิ่งน่าจะเป็นคำตอบเดียวกับของน้องก๋าเลยค่ะ 555

แต่ที่หวาดเสียวคือแมงมุมตัวใหญ่กำลังไต่ขึ้นเตียงไปที่หลานน่ากลัวมากพี่กิ่งเป็นคนกลัวแมงมุมด้วยยิ่งตัวใหญ่ยิ่งกลัวมากค่ะเพราะเคยได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับแมงมุมมีพิษกัดถึงตายพี่กิ่งก็เลยกลัว

พี่ว่าบ้านน้องปริ๊นซ์คงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือแม่ธรณีเจ้าที่เจ้าทางดีมากๆนะคะท่านจะมา
บอกกล่าวให้รู้เหตุล่วงหน้าได้อย่างทันท่วงทีพี่กิ่งมีความเชื่อตรงนี้นะคะเพราะจากเรื่องที่เล่ามาเสียงที่ได้ยินกลางคืน ความฝันและกลิ่นธูป และเสียงดังเหมือนอะไรตกแตกดังมากจนได้ยินกันหมดในบ้านแต่หาดูแล้วไม่มีอะไรกลับพบว่ามีเหตุอันตรายจะมาหาจริงๆ เช่น เห็นแมงมุมตัวใหญ่
กำลังไต่ขึ้นเตียง ถึงได้บอกเหตุให้รู้ เห็นน้ำกำลังจะไหลท่วมบ้านก็มีเสียงบอกให้รู้ทำให้คนในบ้านรู้ตัวจึงเก็บข้าวของพร้อมย้ายรถได้ทัน พี่กิ่งว่าสิ่งนี้ลี้ลับเป็นโลกที่สามที่คอยดูแลปกปักรักษาบ้านและคนในบ้านให้ปลอดภัยอยู่ดีมีสุขลองดูในห้องพระนะคะลองถามคุณแม่ดู หรืออาจจะเป็นปู่ย่าตายายของเราท่านคอยดูแลอยู่ก็ได้ไม่รู้ว่าที่บ้านมีภาพถ่ายของท่านไว้บูชาหรือเปล่านะคะสิ่งเหล่านี้เหมือนที่บอกกันว่าไม่รู้อย่าลบหลู่นะคะ แต่พี่กิ่งเชื่อเพราะเคยเจอกับตัวเองมาแล้วค่ะ

ชอบงานเขียนของน้องปริ๊นซ์มากค่ะอ่านเพลิน อ่านสนุก พี่กิ่งก็ขอโหวตงานเขียนให้นะคะ เยี่ยมๆค่ะ

จากบล็อกพี่กิ่งดีใจด้วยนะคะที่คุณแม่ยังไม่ติดโควิดและหลานยังไม่เป็นอะไรขอให้ทุกคนในครอบครัวน้องปริ๊นซ์ปลอดภัยจาก
โควิดหรือโอมิครอนทุกคนนะคะ

เสียงนั้นน่าจะเป็นเสียงเปรตหละปริ้น
ส่วนกลิ่นธูปนั่นผีบ้านผีเรือน ซึ่งก็คือ
ญาติของเราที่เปลี่ยนภพภูมิแล้วเขามาเตือนจ้า บรื๋อร์

ประเทศเราไม่สอนด้วยเหตุผล แต่ใช้วิธีทำให้เกิดความกลัว เหมือนครูที่เอาไม้เรียวเฆี่ยนตีนี่แหละ ครูพูดออกจากปากเลยมีไว้ให้เด็กมันกลัว กระจอกมาก ที่ไม่สอนด้วยเหตผลเพราะไร้ความสามารถในการอธิบาย รวมไปถึงจิตวิทยาไม่เพียงพอ

โดยรวมที่อ่านผมมีความเห็นคล้ายกัน บางอันก็เห็นด้วยเลย แต่อาจมองคนละมุมเท่านั้น เดี๋ยวเรามาค่อยๆ เจาะทีละส่วนกัน ผมไม่มองทางไสยศาสตร์ แต่จะมองในมุมวิทยาศาสตร์อย่างเดียวเลยนะครับ

อย่าเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน --> สมัยก่อนพวกป่าไม้มันเยอะ มันมองทางไม่ค่อยเห็นไปเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน อาจโดนสัตว์มีพิษกัดได้ เพราะซ่อนก็จะซ่อนในที่มืดที่คนมองไม่ค่อยเห็น ส่วนเรื่องลักพาตัวก็มีส่วนครับแต่ไม่น่าจะมากเหมือนปัจจุบัน ประเด็นสัตว์มีพิษน่าจะอธิบายได้ดีกว่า แต่ก็ตัดประเด็นลักพาตัวไปขายไม่ได้เช่นกัน

อย่าใช้หวีหัก --> อันนี้ผมเดาเองว่า มันหวีได้ไม่ดี อีกอย่างการที่มันหักก็หมายถึงมันถึงอายุของมันแล้วควรทิ้งไปได้แล้ว เพราะหวียิ่งเป็นหวีไม้ มันหักไม่ได้ง่ายๆ การที่หัก แสดงว่าเก่ามากแล้ว

อย่าหงายมือริมน้ำ --> มันคุมแรงได้ยาก มันจะหกก็เท่านั้น

พุธห้ามตัด พฤหัสห้ามโกน --> มันก็แค่ว่าไม่งั้นเดี๋ยวร้านตัดผมจะไม่มีวันหยุด อีกอย่างวันพุธมันเป็นวันกลางสัปดาห์ ลูกค้าน้อยไม่คุ้มค่าที่จะเปิด จริงๆ มันมีหลายความเชื่อ อันนี้ก็อ่านสนุกนะ ลองอ่านลิงค์นี้ประกอบ

https://www.silpa-mag.com/culture/article_30940


อย่าหันหัวเตียงไปทางทิศตะวันตก --> ถ้าเชื่อแบบนี้พวกเด็กโรงเรียนประจำตายห่าในโรงเรียนกันครึ่งๆ แน่ๆ ครับ เพราะในห้องเขาหันหัวเตียงชนกัน แปลว่าต้องมีครึึ่งหนึ่งหัวไปทางทิศตะวันตก

ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าตื่นเช้าขึ้นมาหากมีหน้าต่างทางทิศตะวันออก แสงจะแยงตา

ห้ามฟิเจอร์ริ่งกันในวันพระ วันโกน วันพระใหญ่ --> ฟิเจอร์ริ่งเป็นเรื่องไม่ดีเหรอครับ? แต่ประเทศนี้มองกันแบบนั้นนะ อ้อ มิน่าล่ะช่วงหลังจำนวนประชากรเกิดใหม่ถึงได้ลดลงเรื่อยๆ ผมว่านี่เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจนะที่ทางภาครัฐโฆษณาชวนเชื่อเรื่องนี้ได้สำเร็จ ทำให้คนไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีลูกกัน

อย่าขานเสียงเรียกชื่อตอนกลางคืน --> ข้อนี้ผมพยายามคิดว่าสมัยก่อนเพราะอะไรเขาถึงคิดแบบนี้ ถ้าอยู่ในป่าก็ว่าไปอย่าง เพราะที่ไม่ให้ขานเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายได้ยิน แต่ทว่าสัตว์พวกนั้นมันไม่ได้มองด้วยตาอย่างเดียวนะ มันสัมผัสเราได้ด้วยกลิ่น

ข้อเนี่ยะ ถ้ามาทำตอนนี้เชื่อมะ คนที่น่าจะเดือดร้อนที่สุดน่าจะเป็นคุณพ่อ เพราะเรียกปรากฎว่าเงียบไม่กล้าออกไปเปิดประตู สรุปพ่อที่ทำงานมาเหนื่อยๆ ต้องนอนตากยุงอยู่หน้าบ้าน ดันลืมกุญแจบ้านเอง ซวยเอง ช่วยไม่ได้ ยุงหามซะเถอะมึง

ถ้าเป็นกรณีว่าโจรมาแกล้งเรียก ผมว่าเรายิ่งควรที่จะขาน อย่างน้อยก็เพื่อให้มันรู้ว่าที่นี่มีคนอยุ่นะว้อย จะงัดเข้ามาก็คิดให้ดีๆ เพราะศพที่แล้วการเพราะงัดเข้ามานี่แหละ


ผมจริงจังเกินไปมั้ยเนี่ยะ เดี๋ยวเจอเรื่องที่ผมเขียนแล้วจะงง ผมเขียนแบบทิ้งปริศนาด้วย

เจ๋ง เจอแบนคอมเม้นต์ คอมเม้นต์เมามันส์ไปหน่อย

อันหงายมือริมน้ำนี่เพิ่งเคยได้ยิน
พุธห้ามตัดเคยได้ยินว่าวันพุธเป็นวันตัดผมของกษัตริย์ แต่เหตุผลจริงๆ ก็คงเพราะร้านตัดผมจะได้นัดกันหยุดวันพุธแหละ
วันพระคิดว่าแค่ห้ามกินเหล้า ห้ามฟีเจอริ่งด้วยเหรอ?? จิตใจคนคิดมันทำด้วยอะไร?!!
เสียงวี๊ดคงจะเปรตครับ สมันประถมเพื่อนหลอกกันบ่อยๆ แต่หลังๆไม่ค่อยได้ยินแล้ว
กลิ่นธูปมาดี กลิ่นเน่ามารายครับ คิดซะว่ายังดีที่เป็นกลิ่นธูป ^^

.....อะไรเนี่ย อ่านๆ มาหลังๆ มีแต่เรื่องผี!! นี่ดึกแล้วด้วย!!!

อะไรที่ทักชื่อตอนกลางคืนนี่หลอนมาก
แม่สอนไว้เช่นกันไม่ให้ขาน
หรือไปจ้องมองอะไรไหวในความมืด
เด็กไปนี่..ไม่กล้าขึ้นชั้น 2 ของบ้านในตอนกลางคืนคนเดียวเชียว
นอกจากขึ้นไปนอน..แล้ว พ่อหรือแม่ต้องมาส่ง
มากล่อมก่อนนอนหลับตาปี๋
แปะโป้ง..แค่นี้ก่อนค่ะ
วันนี้ไปงานสัปดาห์หนังสือมา..
เมื่อยมากมาย

สวัสดีค่า คุณปรินซ์
อ่านจบแล้วคิดได้ว่า ไม่น่า ไม่น่า ไม่น่ามาอ่านตอนตี1เลย 55555
ทีแรกอ่านที่เขาเล่าว่า อย่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ อ่านไปก็เหมือนจะเป็นเรื่องเล่าปกติ ไปๆ มาๆ ตอนจบไหงเสียวสันหลังวาบไปได้ แงงง

เรื่องที่ว่าอย่าเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ คิดเหมือนกันว่าคงเพราะเป็นกลางคืนเลยอันตราย อาจจะเป็นกุศโลบายที่ผู้ใหญ่บอกมาเพื่อกันไม่ให้เด็กๆ ออกไปเล่นกลางคืนอันตรายอะไรงี้มากกว่า

อย่าใช้หวีหัก อันนี้ไม่เคยได้ยิน แต่หวีอันละ 500 หักนี่แบบ เอิ่ม คนทำหักอาจจะโดนหนักแทน 55

อย่าหงายมือริมน้ำ อันนี้ไม่รู้ เพิ่งรู้ค่ะ ความรู้ใหม่เลยอะ

พุธห้ามตัดพฤหัสห้ามโกน รู้แต่ห้ามตัดผมวันพุธ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันหรือว่าเกี่ยวกับราหูมั้ยก็ไม่รู้ค่ะ ร้านทำผมอะ ปิดวันพุธตลอด นี่ก็ชักจะสงสัยละ ไปหาข้อมูลก่อน

อย่าหันหัวเตียงไปทิศตะวันตก อันนี้เจอเองตอนทำบ้านเสร็จค่ะทีแรกเกือบจะหันไปทางนั้นเพราะว่าแปลนห้องไม่เอื้อให้หันหัวทางอื่น แต่พอโดนทักมาก็เลยจัดใหม่เพื่อความสบายใจค่ะ

ห้ามฟิเจอร์ริ่งนี่ หนูไม่รู้ 5555 ผ่านๆๆ

อย่าขานเสียงเรียกกลางคืนนี่จริง ได้ยินแต่เด็กค่ะ นกแสกด้วย เวลานกแสกร้องกลางคืนห้ามทัก อะไรนี่แหละ
เรื่องอินจันมั่นคงอยู่ดี เป็นตำนานเสาหลักเมืองที่เล่ากันมา จริงเท็จไงไม่แน่ใจ บางคนบอกเป็นตำนานเสาชิงช้า บางคนว่าเป็นตำนานเสาหลักเมืองภูเก็ต แต่ที่แน่ๆ ดูเรื่องเจ้ากรรมนายเวรเค้าเอามาผูกกับเรื่องนี้ก็ดีอยู่ค่ะ แต่น่ากลัว บรื๋อออ

กลิ่นธูปไม่แน่ใจอ่า บางคนอาจมีสัมผัสที่หกก็ได้ เค้าอาจจะไวต่อเรื่องอะไรพวกนี้ แต่ลำพังตัวเองไม่เคยเจอค่ะ จริงๆ อาจจะเจ้าที่เจ้าทางมาเตือนเรื่องแมงมุมมั้ย ไม่รู้เนอะ เหนือความคาดเดา แต่ที่แน่ๆ เสียงนี่เคยได้ยินตอนอาเสียค่ะ เป็นเสียงเคาะผนังห้อง คือไม่รู้แหละแต่ได้ยินกันทั้งบ้าน งือออ เอาจริงๆ แล้วไม่รู้จริงมั้ย อาจจะมโนไปเอง

อ่านจบจะนอนหลับมั้ย เนี่ย >//<
เดี๋ยวไปอ่านบล็อกการ์ตูนคุณต่อก่อนนอนดีกว่า อิอิ

เรื่องวิศวะน่าสนใจจริงๆ ค่ะ เดี๋๋ยวถ้าดีไซน์ตัวละครกับพล็อตคร่่าวๆ ได้แล้ว สงสัยตรงไหนจะขอถามอีกทีนะคะ อยากได้ข้อมูลอาชีพตัวละครแบบแม่นๆ ค่ะ คนอ่านอ่านแล้วจะได้ไม่เอ๊ะๆๆ 55

ขอบคุณคุณปรินซ์มากๆ เลยค่า

สวัสดีค่ะคุณปริ๊นซ์ หายไปสัปดาห์นึงไปปั่นงานมาค่ะ
หัวข้อคุณปริ๊นซ์อันนี้ดูขลัง ๆ นะคะ แต่ว่าสนุกดีค่ะ
ชอบอ่านเรื่องผีกับเรื่องแนวลึกลับ ๆ 5555

เราเคยได้ยินมาเหมือนกันหมดเลยค่ะ ที่เจอกับตัวก็คนมาเรียก
ตอนดึก ๆ แบบที่เคยเล่าไปในหัวข้อฮาโลวีนเมื่อปีที่แล้วน่ะค่ะ
เราก็พยายามหาคำตอบว่าที่ได้ยินมันคือเสียงใคร หรือเสียงอะไร แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ยินแล้วค่ะ ถ้ามีจริง ๆ ตอนเด็ก ๆ
คงจิตอ่อน หรือตาฝาด หูฝาดไปเองบ่อย ๆ

เสียงวี้ดดดที่คุณปริ๊นซ์ได้ยิน ก็คงเป็นเปรตค่ะ ถ้ามีจริง
เราไม่เคยได้ยินนะ แต่เคยฝันว่ามีเปรตมาเดินผ่านหน้าบ้าน เดินไป เดินมา เค้าคงมาขอส่วนบุญ ตื่นมารีบชวนแม่ตัก
บาตรเลยค่ะ น่ากลัวใช่เล่น

ส่วนเรื่องความเชื่ออื่น ๆ ที่เราเคยเจอมาแล้วเป็นจริง
หรือจะบังเอิญก็ไม่รู้นะคะ คือพ่อเราชอบฝันว่า ฟันหักฟันร่วง
ฝันทีไร ไม่นานจะมีญาติผู้ใหญ่เสียจริง ๆ ก็เป็นตามนั้นค่ะ
น่าคิดอยู่เหมือนกัน

จริง ๆ กุศโลบายโบราณที่ว่ามามันก็ดีนะคะ บางทีเราก็แอบ
คิดนะว่า คนเรานี่นะ ถ้าห้ามคือต้องทำใช่มั้ย 5555 เลย
ต้องหลอกแบบเอาความกลัว ความหลอน ความขลัง เข้าว่า
ถึงจะไม่ทำ

สวัสดียามเช้าครับน้องปริ๊นซ์

เมื่อก่อน คุณยายจะ ห้ามตลอด คนแก่ทั่วไปมักจะห้ามโน่นห้ามนี่
จนเด็ก ๆ ไม่กล้าทำอะไร

อย่าอึงไปนะครับ น้องสาวลูกพี่ลูกน้องผมเป็น อาจารย์ในมหาลัย
ป่านนี้ กล้าจุดไม้ขีดหรือยัง เพราะคุณยายห้าม.. แต่คงไม่จุด
แล้วเพราะใช้เตาแก๊สเป็น 555

...
ปัจจุบัน มีข้อห้ามใน ไลน์กลุ่มมาก.. จนผมรำคาญเลยแกล้ง
ถามไปว่า คนแนะนำที่ว่า ระบุชื่อหมอ.. ช่วยบอกนามสกุลหมอมาด้วยผมจะได้ ค้นหาว่าเป็นหมอจริงปะ มีเลขใบอะไรนะประกอบวิชาชีพ หมอจุฬา ศิริราช 555 เพื่อน ๆ เงียบ..
ผมเลยว่า น่าจะจบจาก จุฬา สำเหร่... เพื่อนงี้โกรธแต่น่าจะ
ฉุกคิดได้ว่า เขาจะขายยา ขายสมุนไพร น้ำลายนก ขายใบไม้บดใส่แค๊บซูล บางคนตาโตราคาขาย 15000 ลดแล้วเหลือ 3500 บาท

..

มีอยู่เรื่องหนึ่งผมยังพิสูจน์ไม่ได้... ผมไปปั่นจักรยานตอนเช้า
พื้นที่ 650 ไร่ทั้งสวนน่าจะมีไม่เกิน 30 คนผมปั่นไปแหลมที่ยืนไปในน้ำยาว 1 กม.. ไม่มีคนเลย.. อะนั่งสมาธิได้ 10 นาที
ได้กลิ่นธูป แต่มิได้กลัวอะไรนะครับ

พอนั่งสมาธิครบ ก็มองไปด้านหน้าเป็นพื้นน้ำกว้างใหญ่เห็นฝั่งโน้นน่าจะ 150 เมตร ด้านหลังพื้นน้ำกว้างใหญ่เห็นฝั่งน่าจะ
ไกลเกิน 250 เมตร.. แถวนั้นไม่มีใครอยู่เลย แล้วกลิ่นธูปมาจากไหน

ส่งการบ้านค่ะ
เมื่อคืนนอนม่สนิท..หลับๆตื่นๆ
หลังอ่านตะพาบบ้าน Little Prince
อ้าวๆๆๆ..

อ่านเรื่องราวด้านบนจบ
ก็พยักหน้าเห็นด้วยในหลายๆข้อ
มาอ่านคอมเมื้นท์เพื่อนๆต่ออี๊กกกกก

แต่ละคนเขียนคอมเม้นท์ได้ยาววววว
ยาวกว่าเรื่องที่เขียนในบล็อกตัวเอง ฮา



อ่านจบ ก็ออกไป

ลืมคอมเม้นท์

ต้องรีบกลับมาทิ้งร่องรอยไว้
แค่จะแวะมาบอกว่า ส่งงานแล้วนะคะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

ส่วนใหญ่เขาว่า ก็ไม่ทำค่ะ ขี้เกียจสงสัย ขี้เกียจไม่สบายใจ อิอิ

เขาน่ะใคร คริคริ
เวลามีคนบอกเขาเล่ามา
มาส่งการบ้านจ้า

คงรู้สึกว่านายกชอบแต่งเพลงมั้งครับ
ทำอะไรไม่ได้ก็แต่งเพลงเอาไว้ก่อน
อยู่มา 7-8 ปี
แต่งเพลงเกือบครบอัลบั้มแล้วล่ะ 555



พี่ก๋าเคยเจอมิจฉาชีพโทรมาสามรอบนะ
ฟังนิดเดียวก็กดสายทิ้งไปเลย
จนมาดูข่าวทำซีดีแจกแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี่ล่ะ
เสียดายงบประมาณ
คิดได้แค่นี้ น่าเศร้าใจครับ
แต่คิดอีกที
อืม...ไม่น่าแปลกใจ
ก็ลูกพี่ก็คิดแบบนี้เหมือนกันนี่นา
เอะอะๆ ก็แต่งเพลงก่อนเลย 555






น้องชายเพื่อนมาดามติดโควิด
รอฟราวิจาก 1330 รอ 5 วันครับยาถึงจะมา
หายพอดี 555 บ้าบอมากๆ
ตอนนี้ถ้าจะได้ยาเร็วต้องเข้าโรงพยาบาลเอกชน
เหมือนมาดามกับหมิงตรวจตอนเช้า
เย็นรับยาครับ

ถามว่าทำไมมี แต่ยาจากรัฐไม่มี
ร้านขายยาใหญ่ๆในเชียงใหม่ก็มีนะครับ
แต่พอเข้าระบบของรัฐ
ไม่มียาให้ รักษาตามอาการ กินฟ้าทะลายโจรไป

มนุษย์วัยทำงานทำสัญญากับปีศาจปวดหลังกันทุกคนครับ น่าจะกินอายุขัยมนุษย์โลกไปเป็นล้านๆปีแล้ว

เขาคือใคร อ.เต๊ะ เดาว่า น่าจะเป็นผู้หวังดี แต่ไม่ประสงค์จะออกนามนะครับ555

บางเรื่องก็สามารถตอบได้ ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ แต่บางเรื่องก็เป็นไสยศาสตร์ล้วนๆ แต่จะให้แน่ ต้องใช้ นิติวิทยาศาสตร์ ตามหมอพรทิพย์ มาช่วยด่วน555

อย่าง เล่นซ่อนหาตอนกลางคืนนี่ ที่เขาห้าม เพราะเสี่ยงมาก
คือโจรที่มันจะมาปล้นบ้านเรา มันก็กำลังซ่อนๆอยู่
แล้วเรา ไปหามันเจอ แปะโป้งมันเข้า จะเกิดอะไรขึ้นละ
กลายเป็นว่า เราต้องเล่นซ่อนหากับโจร วิ่งหาทีซ่อนมันอีกนะครับ555

แล้วอย่างเรื่อง ห้ามฟิเจอร์ริ่งกันในวันพระนี่
อ.เต๊ะ เคยได้ยินมาว่า เขาบอกมัน จะทำให้เทวดาประจำตัวเรา
ที่นอนกอดหมอนข้างอยู่ หงุดหงิด งุ่นง่าน 555 อิทธิฤทธิ์จะ น้อยลงด้วย
แถมตาจะเป็นกุ้งยิง ตอนที่เรา ซะบะละฮึ่ม จุ๊กกรู๊กันอย่างเมามัน555

จริงๆ พี่เค้า คงอยากให้เราละเว้นกิเลส ตัณหา ให้นั่งสวดชินบัญชร ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ในวันพระมากกว่านะครับ

ส่วนเรื่อง เสียงลึกลับตอนน้ำท่วมปี 54 นี่โชคดีมาก
ต้องเรียกว่า คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง
เดาว่า น่าจะเป็นเสียงเจ้าที่ เทวดาอารักษ์ ประจำบ้านมาปลุก
โชคดีที่ ย้ายคนย้ายรถทัน ปีนั้น คนตายไม่ใช่น้อยเลยนะครับทั้งจมน้ำ ทั้งไฟดูด

ทั้งหมดนี่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องจากยุดเก่า เอาไว้เตือนกันนะครับ
แต่ถ้าสมัยนี้

ไอ้เขา คนเดิม ก็จะบอกว่า อย่าคุยกับ แก๊ง callcenter ในวันพระเด็ดขาด
เพราะเราจะต้องปั้นเรื่อง พูดโกหก แหล กับมัน จะผิดศีลพูดปด
ที่สำคัญ เราจะต้องเปลี่ยนชื่อ มี สระ อวย แยะๆให้ เรียก ยากๆให้มันงงด้วยนะครับ 555

สวัสดียามเช้าครับ

แม่บ้านพี่ก๋าเพิ่งติดได้สามวัน
ใช้รปะกันสังคมา
วันแรกไปตอนบ่าย
รพ.บอกคิวเต็มกลับมาใหม่พรุ่งนี้
ตี 5 อีกวันไป
ได้ยาแก้ไอกับยาลดไข้กลับมา
พี่ก๋ากับมาดามต้องซื้อยาเอาไปให้ชุดใหม่เลยครับ
เพราะยาที่ให้มากินแล้วแม่บ้านบอกกินแล้วไม่หายไอครับ
ยาฟราวิไม่มี หมดงบ 555

ฟราวิมีขายในร้านขายยาขนาดใหญ่
ชุดนึง 3-4 พันบาทครับ

โควิดนี่ทำให้คนกลุ่มนึงรวยสะดือปลิ้นเลย 555

สวัสดีครับคุณปริ๊นซ์

มาแล้วมาทักทายแล้ว
เรื่องความเชื่อต่างๆ ที่เคยได้ยินเขาว่ามาตอนเด็กๆ
พอได้ลองหาเหตุผลเปรียบเทียบ หลายๆเรื่องก็เห็นการอ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์อยู่เหมือนกันนะครับ แต่คนสมัยก่อนอาจใช้เป็นวิธีการขู่ให้เกรง จะได้ไม่ทำ แบบไม่ให้วัวหายล้อมคอกงี้
แต่บางเรื่องก็ยังหาคำตอบที่แท้จริงไม่เคลียร์ แต่ไอ้เราก็ขอยึดตามเขาไปด้วยล่ะกัน อิอิเซฟๆ

ที่บ้านผมก็โดนน้ำท่วมปี 54 ตอนนั้นต้องอพยพไปอยู่ที่อื่นสองเดือนแน่ะ กลางธันวาถึงเริ่มกลับเข้ามาได้ บิ๊กคลีนนิ่งจนเข็ดเลยครับ

กลิ่นธูป เขาว่ากันว่ามาดี อาจจะมาเตือนแบบที่คุณปริ๊นซ์เล่าไว้ครับ
และอันี้แซวเล่น.... เพราะถ้าแมงมุมกัดหลาน หลานจะกลายเป็นสไปดี้น่ะครับ

สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
พี่เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด รอบนี้รีบมาเขียนตะพาบเลย 555
เป็นความเชื่อสมัยเด็ก ๆ ที่พี่เคยเจอมาเหมือนกัน ห้ามเล่นซ่อนแอบตอนค่ำ ๆ ห้ามเล่นน้ำตอนกลางคืน ห้ามตัดเล็บ
แต่ฟีเจอริ่งวันพระนี่มีด้วยเหรอน้องปริ๊นซ์ น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะ มีลูกหลานทันใช้ด้วย 555
ส่วนเรื่องเล่านี่ ยิ่งเล่า ยิ่งขนลุกนะ

สวัสดี จ้ะ น้องปรินซ์

กลับจากเป็นเจ้าภาพบวชพระ บวชเณร ที่ จ.สุรินทร์ นำบุญ
มาฝากปริ๊นซ์ด้วย จ้ะ

อ่านบล็อก ตะพาบ "เขาเล่ามา" หลายเรื่องมากเลย ซึ่งก็เป็น
ความเชื่อและประสบการณ์ของแต่ละคนที่พบกันมา บางเรื่องก็เป็น
เรื่องที่กล่าวอ้างอิงมาจากวรรณคดี เช่น เรื่องห้ามตัดผม วันพุธ อยู่
ในวรรณคดี เรื่องสวัดิรักษา ของสุนทรภู่ เป็นต้น บางเรื่องก็เป็น
เรื่องที่ผู้ใหญ่เล่าขานกันมา เพื่อความปลอดภัย เช่น อย่าเล่นซ่อน
หาตอนกลางคืน เป็นต้น แต่ละเรื่องที่เล่าขานกันมา ก็คงเป็นภูมิ
ปัญญาชาวบ้าน น่ะนะ เพียงแต่ผู้ฟังจะต้องวินิจฉัยด้วยเหตุด้วยผล
แล้วจึงเชื่อ
ส่วนเรื่องกลิ่นธูป การได้ยินเสียงเรียกตอนกลางคืน ซึ่งบางครั้ง
เราก็หาเหตุผลไม่ได้ ถ้าเป็นทางพุทธ ก็ต้องเป็นเรื่องของกรรมดีที่
เราได้ทำไว้ ผลดีจึงได้เกิดขึ้นยามที่เราตกอยู่ในอันตราย เนาะ

โหวดหมวด ตะพาบ

สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์


โชคดีมากๆค่ะที่แมงมุมไต่มาไม่ถึงตัวหลาน กลิ่นธูปที่พี่สาวได้กลิ่นนี้เหมือนเป็นลางบอกเหตุที่ดีเลยนะคะ
หรือเสียงเหมือนอะไรตกแตกที่เตือนช่วงน้ำท่วมนั่นก็เป็นสิ่งดีที่มาทันท่วงทีเหมือนกัน


ส่วนเสียงเรืยกชื่อที่ได้ยินชัดนี่ นึกเหตุผลไม่ออกค่ะ
จากประสบการณ์มีอยู่ครั้งนึงที่พี่ต๋าได้ยินชัดคือเสียงเหมือนใครมาเคาะหลังคารถ
ขณะที่เรากำลังแซงรถทัวร์ ขาเข้ากรุงเทพฯกลับจากชลบุรี
เป็นเสียงที่ชัดมาก มองหน้ากันกับแฟน หาเหตุผลไม่ได้
พี่ต๋าคิดว่าสิ่งที่มองไม่เห็นคงมาเตือนเราให้ระวังเรื่องขับรถเร็วก็เป็นได้ค่ะ


เรื่องที่เขาเล่ามาตอนเด็กบางเรื่องก็มีเหตุผลที่เข้าใจได้นะคะ
ว่าผู้ใหญ่ห่วงและหวังดี
พอกลายเป็นผู้ใหญ่เองไม่มีใครมาบอกมาเตือนลักษณะนั้นอีก
ก็ต้องดูแลตัวเองกันต่อค่ะ

อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

สวัสดีค่ะคุณปริ๊นซ์ ช่วงนี้งานชุกชุมมากเลยค่ะ เดี๋ยวมาตอบนะคะ

จากบล็อก
ตอนเรียนชลประทาน สมัยอยู่หอพี่ก็โดนมาเหมือนกัน โดนผีอำ เป็นอยู่หลายครั้งเลย ขนาดรูมเมทนอนอยู่เตียงข้าง ๆ ถามเพื่อนที่หอ โดนกันหลายห้อง ส่วนของน้องปริ๊นซ์น่ากลัวอยู่พอสมควรเลยนะครับ จากที่เคยได้ยินมา