|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
Bella Magazine : Richie Jen very modest
Bella Star
แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย Betty

ในชีวิตชั้นได้เจอริชชี่มา 2-3 ครั้งและชั้นก็มักจะจดจำความถ่อมตัวของเค้าได้เสมอ ครั้งแรกเป็นตอนที่เค้าเพิ่งออกอัลบั้มแรก เค้าไปร่วมงานดนตรีและต้องวิ่งหาเวลาเพื่อมาร่วมงาน แม้ว่าเค้าจะยุ่งมากเค้าก็มักจะโค้งให้ผู้อื่นเสมอ ครั้งที่สองเป็นก่อนที่เค้าจะออกจากองทัพ ในรายการทีวี เค้านั่งอ่านหนังสือเงียบๆ อยู่ที่มุมห้อง พอได้ยินเสียงคนเรียก เค้ารีบลุกขึ้นยืนทันที ครั้งนี้เป็นการถ่ายแบบ เมื่อเค้าเข้ามาถึง เค้าทักทายและโค้งให้ทุกคน นี่ทำให้ชั้นจำคำที่นักข่าวรุ่นเก๋าพูดว่า เค้าเป็นคนดีมาก ในที่สุดเค้าก็มีชื่อเสียง
นักข่าวที่ชื่นชมเค้าคนนั้นยังเล่าเรื่องราวที่ยากจะลืมได้ให้ชั้นฟัง วันนึง ในห้องตัดต่อหนัง ริชชี่ถือไมค์อย่างอดทนให้กับเพื่อนนักแสดงของเค้าในการสัมภาษณ์ เค้าไม่สนใจตัวเองเลย ต่อมา นักข่าวถามว่าทำไมเค้าถึงปล่อยให้คนอื่นให้สัมภาษณ์แทนที่จะเป็นตัวเค้าเอง เค้าหัวเราะแล้วบอกว่า เค้าชอบที่จะฟังและเมื่อถึงเวลาที่เค้าต้องพูดอะไรซักอย่าง คนอื่นๆ ก็จะปล่อยให้เค้าพูดเองแหล่ะ
เค้าไม่ได้คิดว่ามันแย่เวลาปล่อยให้คนอื่นพูดก่อน เพราะจากการสนทนาของผู้คน เค้าสามารถเรียนรู้และสร้างทักษะในการพูดของเค้าเอง วันนึง เค้าอาจจะใช้มันในอาชีพการแสดง เค้าอยากจะพูดให้น้อยกว่าที่จะทำอะไรผิด ทฤษฎีของเค้าคือ เรียนและเคารพสิ่งที่ดีและเตือนตัวเองไม่ให้ทำสิ่งไม่ดี

ทฤษฎีของเค้ามักจะตามเค้าไปเสมอไม่ว่าเค้าจะอยู่กับเพื่อนหรือในที่ทำงาน ดังนั้น นักข่าวจำนวนมากจึงเห็นด้วยว่าริชชี่เป็นนักพูดที่ยอดเยี่ยม ริชชี่คิดว่าเป็นเพราะพื้นฐานทางครอบครัว เค้าได้เรียนรู้มารยาทและวิธีในการตอบสนองกับผู้คนอย่างเป็นธรรมชาติ เค้าบอกว่าเค้าไม่ค่อยยิ้มตอนที่เข้าวงการใหม่ๆ ค่ายเพลงขอให้เค้ายิ้มให้มากขึ้น ต่อมา เค้าพบว่าพวกนั้นพูดถูกเพราะถ้าคุณยิ้มให้คนอื่น พวกเค้าก็จะยิ้มตอบกลับมาให้คุณ หลังจากถ่ายแบบเสร็จ ตอนที่ทุกคนเตรียมจะกลับบ้าน ริชชี่เข้ามาและถามว่าสัมภาษณ์ ok มั๊ย และถามนักเขียนว่าได้ข้อมูลพอที่จะตีพิมพ์รึเปล่า ช่างเป็นคนที่อบอุ่นจริงๆ!
ช่วงนี้ ริชชี่ทำงานหนักไปทางเล่นหนังมากกว่าร้องเพลง เค้าว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เค้าหวังไว้และอาจจะเป็นเพราะเพลง Girl over there, Look this way ที่มีชื่อเสียงจนทำให้โปรดิวเซอร์คิดว่าเค้าเป็นหนุ่มแสนดี และเริ่มขอให้เค้าเล่นหนังประเภทนี้ ที่จริงแล้ว การแสดงของเค้าเป็นสไตล์แบบ Sam Hui ซึ่งคนฮ่องกงกล่าวว่าเป็น คนทำงานมีระดับ เป็นแบบที่ฉลาด หลักแหลม ทั้งยังใจดีและสดใส
จากเรื่อง ขอเพียง 5 วันให้ฉันรู้หัวใจเธอ (Fly me to polaris) หัวใจรักไม่พักร้อน (Summer Holiday) แต่งงานถอนทุนรัก (Marry A Rich Man) นางฟ้าซ่อนกลิ่นกับยาหมอเทวดา (Elixir of Love) เหยี่ยวเหิรฟัดมหากาฬ (Silver Hawk) ริชชี่กลายเป็นผู้ชายแสนดีหมายเลข 1 ในใจโปรดิวเซอร์ฮ่องกง ไม่ว่านักแสดงหญิงจะทำให้เค้าลำบากยังไง เค้าก็ยังอยู่กับเธอ และนี่แสดงให้เห็นจุดสูงสุดเมื่อเค้าเล่นกับจางป๋อจือในเรื่อง หนุ่มซื้อสาวขี้จุ๊ (Honesty) ริชชี่ยิ้มและกล่าวว่า ใครบางคนบอกผมว่ามีดาราดังมากมายเล่นในหนังหนังของ Wong Xing ดังนั้นผมเลยรับเล่นเรื่อง Honesty และเนื้องเรื่องมันก็สุดยอด

แต่ในสายตาของผู้กำกับตู้ฉีฟง เค้าคล่องแคล่ว เยือกเย็น และเป็นคนเจ้าความคิด ดังนั้นตู้ฉีฟงเลยปล่อยให้เค้าเล่นเป็นคนเลวในเรื่อง ปล้นถึงลูกถึงคน (Breaking News) เพราะอย่างงี้ คนมากมายเลยรู้จักเค้า แม้กระทั่งชาวต่างชาติยังคิดว่าเค้าเลวในชีวิตจริงด้วย จนกระทั่งได้พบและพูดคุยกับเค้า พวกเค้าไม่อยากจะเชื่อกันว่าเค้าเป็นคนเดียวกับที่เล่นในเรื่อง Breaking News ทุกครั้งที่ริชชี่พูดถึงเรื่องนี้ เค้าจะมีความสุขมาก ผมหวังว่าหนังของผมจะก้าวไปสู่ระดับสากล และผมจะได้โชว์ให้คนที่ไม่รู้จักดู ถ้าพวกเค้ายอมรับว่าผมแสดงดี ผมก็จะทำได้สำเร็จตามความคาดหวังของผม
อัลบั้มใหม่ของริชชี่จะวางตลาดในไม่ช้า ครั้งนี้ เค้าให้ค่ายเพลงตัดสินใจมากขึ้นในอัลบั้ม ผมเห็นด้วยว่าเล่น Hard Rock มันเจ๋ง แต่ท้ายสุดมันจะกลายเป็นเพลงใต้ดินไปและมีเพียงแต่คุณที่สนุก? ผมคิดว่าการร้องเพลงคือการปลดปล่อยอารมณ์ของคุณเองและให้คนอื่นรู้สึกอย่างทื่คุณรู้สึก แล้ว คุณก็จะประสบความสำเร็จ อีกอย่าง เพลงที่ดังๆ ต้องอาศัยคนสนับสนุน ไม่ว่าเค้าจะร้องเพลงหรือเล่นหนัง ริชชี่ก็มักจะถ่อมตัว เคารพและให้ความร่วมมือกับผู้ร่วมงานเสมอ

หลังจากจี้ห้อยคอเมื่อปีที่แล้ว ริชชี่ได้ร่วมงานกับ Guerlain อีกครั้งในการออกแบบที่ห้อยโทรศัพท์ นอกจากลิปสติกแล้ว โทรศัพท์มือถือก็เป็นของที่จำเป็นอีกอย่าง เค้าใส่ความคิดนี้ลงในการออกแบบ เค้าไม่อยากให้มันดูซับซ้อนหรือมีอะไรชี้ออกมามากเกินไปเพราะมันอาจไปเกี่ยวทำให้เสื้อผ้าเป็นรูหรือทำให้เจ็บตอนเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ ดังนั้นเค้าเลยออกแบบเป็นรูปวงกลมโดยมีดอกไม้รอบๆ เค้าพอใจมากในการออกแบบครั้งนี้และรู้สึกเหมือนน้ำแข็งกำลังละลาย
------------------------------------------------------------
ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่แวะเข้ามาอวยพรให้หายเปื่อย...เอ๊ย...ป่วยนะคะ ตอนนี้อาการตุ้งดีขึ้นเยอะแล้วหล่ะ แต่พอกลับมาก็พบว่างานมันกองสูงจนท่วมหัว.. เลยไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ช่วงนี้ แต่ก็อยากอัพบล๊อกอ่า..
ยังไงตอนนี้ก็หวัดดีเพื่อนที่แวะเข้ามา แล้วตุ้งจะตามไปเยี่ยมนะคะ...
Create Date : 04 กันยายน 2549 |
Last Update : 4 กันยายน 2549 17:41:22 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1442 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:15:33:29 น. |
|
|
|
โดย: โจเซฟิน วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:16:56:55 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:17:06:37 น. |
|
|
|
โดย: LEE (lyfah ) วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:18:56:08 น. |
|
|
|
โดย: kai IP: 58.8.88.234 วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:19:11:24 น. |
|
|
|
โดย: mungkood วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:20:34:10 น. |
|
|
|
โดย: angy_11 วันที่: 5 กันยายน 2549 เวลา:14:19:23 น. |
|
|
|
โดย: PANDIN วันที่: 5 กันยายน 2549 เวลา:18:40:05 น. |
|
|
|
โดย: pinkydog วันที่: 5 กันยายน 2549 เวลา:22:56:59 น. |
|
|
|
โดย: erina วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:18:57:45 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:6:01:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|
มีเรื่องเล่าให้คุณตุ้งฟัง (อ่านน่ะแหละ) เมื่อคืนเราฝันว่าริชชี่ มาเมืองไทยแหละ แล้วไปให้สัมภาษณ์กับรายการทีวี เค้ามาโปรโมทหนัง แล้วก็แถลงข่าวว่าจะเปิดคอนเสิร์ต ที่เมืองไทย ( ถ้าเป็นจริงก็ดีเนอะ ) ฝันเป็นเรื่องเป็นราวซะ อิ อิ .. ไว้จะมาเยี่ยมบล็อกใหม่นะจ๊ะ