Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 
สัมภาษณ์กับฉงเกอ

นานๆ จะแปลบทสัมภาษณ์ที่ไม่ได้สัมภาษณ์เฮียซะที
ลองมาฟังคนอื่นพูดถึงเฮียก็ได้รู้ข้อมูลในอีกด้านนึงนะ...

แปลจากสัมภาษณ์ของ Chung ge โดย Happy
Paige ช่วยแก้ตรงที่ Happy ไม่แน่ใจมาหน่อยด้วย


นักข่าว : ความสำเร็จของริชชี่ในจีนมาจากเพลง “Xin Tai Ruan” คุณคิดยังไงถึงแต่งเพลงนี้ให้เค้า ทำไมตอนนั้นคุณถึงคิดว่าสไตล์แบบนี้เหมาะกับเค้าหล่ะ ?


C : หลังจากเพลง ‘Yi Kau’ ประสบความสำเร็จ ผมคิดว่ามันเหมาะที่จะปล่อยให้ริชชี่พรรณาถึงใครซักคนที่สามารถพิ่งพิงได้ ผมเริ่มที่จะแต่งเพลงแบบนี้ให้เค้า อีกอย่างชาวราศีกรกฏเป็นประเภทที่ไม่คิดแค้นคนที่ทำร้ายพวกเค้า ริชชี่ก็เป็นคนประเภทนั้นแหล่ะ เป็นคนที่คาแล๊กเตอร์ดี ปฎิบัติต่อเราเหมือนพี่น้อง วิธีที่เค้าปฎิบัติต่อแม่บ้านทำความสะอาด, ทีมงาน ทั้งเมื่อก่อนและหลังจากมีชื่อเสียงก็เหมือนเดิม ความสัมพันธ์ของเค้ากับแฟนสาวทำให้คิดถึงคนที่กลัวภรรยา ผมเชื่อว่าเค้าเป็นคนแบบนั้นหล่ะ ถ้าคุณทะเลาะกับเค้า เค้าจะไม่ใช่คนแรกที่จะยอมก่อนแต่หลังจากนั้นเค้าจะเป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อนว่าให้ยกโทษให้ ดังนั้น ผมเลยเขียนเพลงโดยภาพสะท้อนจากเค้า ‘Yi Kau’ ทำยอดขายได้ค่อนข้างดีที่ไต้หวัน ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 2 แสนแผ่น สำหรับศิลปินหน้าใหม่ เค้าทำได้ดีทีเดียว บอสคิดว่านายคนนี้มีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ ก็เลยเริ่มทำอัลบั้มที่ 2 ในอัลบั้มแรกเรายังไม่ค่อยแน่ใจนักว่าจะเดินไปทางไหน แต่อัลบั้มที่ 2 เรารู้ชัดถึงสิ่งที่เราต้องการมากขึ้น ทั้ง 2 อัลบั้มเราไปอัดกันที่อเมริกา แล้วก็ยังถ่าย MV พร้อมกันไปด้วยเลย ปล่อยให้เค้าสัมผัสความรู้สีกในฐานะนักร้องที่นั่น เค้าชอบมันและยังพบว่าช่วงไหนของเสียงเค้าที่ดีที่สุด ไม่ค่อยมีแรงกดดันมากในการทำอัลบั้มที่ 2

นักข่าว : ริชชี่มักจะบอกว่า หลังจากเพลง “Xin Tai Ruan”, ไม่แน่ใจว่าจะร้องให้ดีกว่าเพลงนี้ได้ยังไง คุณรู้ถึงความรู้สึกของเค้ารึเปล่า และคุณให้กำลังใจเค้ายังไง ?


C : นี่เป็นปัญหาที่นักร้องทุกคนต้องเผชิญ การที่เพลงเพลงนึงจะประสบความสำเร็จได้นั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง มันไม่ใช่เรื่องที่คุณจะควบคุมได้ บางครั้งต้องอาศัยโชคด้วย ผมบอกเค้าว่า ผมรู้สึกขอบคุณที่เค้าทำได้ดีมากกับเพลงนั้น ระหว่างเรามันมันเป็นรายงานผลที่ดีมากๆ แต่รายงานผลฉบับนั้นเราควรจะเก็บไว้ และหนทางที่จะไปต่อคุณต้องตัดสินใจเอง อย่าให้สิ่งนั้นมามีอิทธิพลกับเรามากนัก คุณไม่ต้องคิดว่าจะอยู่ให้เหนือความสำเร็จอย่างไร ตราบเท่าที่คุณทำดีที่สุด มันก็เพียงพอแล้ว ริชชี่ติดนิสัยอยู่อย่าง บางทีอาจจะเป็นจุดอ่อน เค้าวิตกง่าย คาดหวังกับตัวเองสูง เค้าไม่หวังอะไรที่น้อยกว่าความสมบูรณ์แบบ ถ้าผลมันออกมาน้อยกว่าเมื่อก่อน เค้าก็จะเป็นกังวล ผมบอกเค้าเสมอว่า มันไม่ใช่อย่างนั้น แม้ว่าร่างกายเราจะเสื่อมลง แต่เซลล์ใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้น ดังนั้นมันอาจไม่ใช่เรื่องแย่ ตอนนี้เค้าออกอัลบั้มใหม่ เค้าก็กังวลอีก พวกเราค่อนข้างเคียร์ว่าเหตุผลหลักที่ยอดขายตกในตลาดก็เพราะแนวเพลง R&B ที่กำลังมาแรง เค้าจะรู้สึกว่าทำไมยอดขายไม่ดีเหมือนก่อน เค้าจะเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในการเตรียมอัลบั้มนี้เค้าแสดงอารมณ์แบบที่ผมเคยไม่เห็นมาก่อน นั่นทำให้ผมเป็นห่วง



นักข่าว : ตอนไหนที่เค้าแสดงอารมณ์ออกมา ?


C : ที่จริงก็ไม่ใช่การแสดงอารมณ์ซะทีเดียว เค้าผิดหวังกับสถานการณ์ในตลาดปัจจุบัน มีปัญหาของก๊อบและ MP3 ออกมามาก ในตลาดตอนนี้มีของแท้แค่ 30% อีก 70% เป็นของก๊อบ หลายบริษัทที่ล้มละลาย เค้าเสียใจกับสถานการณ์ในตอนนี้ แล้วก็ห่วงว่าจะแสดงให้ดีขึ้นมากกว่าบริษัทของเค้ายังไง เค้ามีหลากหลายมุมมอง บางครั้งก็เอาอารมณ์ไม่แจ่มใสเข้าไปในสตูดิโอ ผมรู้ว่าเค้าไม่ได้พุ่งมาที่ผม แต่ผมไม่เคยเห็นเค้าเป็นแบบนั้นมาก่อน ผมไม่ห่วงว่าคนอื่นจะทำร้ายแต่เป็นเค้าจะทำร้ายตัวเค้าเอง ถ้าเค้าไม่มั่นใจในตัวเองเค้าก็จะทำได้ไม่ดี ผมขอให้เค้าลืมความสำเร็จที่ผ่านมา ให้ทำตัวเหมือนเป็นศิลปินใหม่



นักข่าว : ส่วนไหนที่เค้าต้องกำจัดอุปสรรคนั้นออกไปในตอนนี้ ??


C : มันเป็นเรื่องความคิดของเค้า เค้ายังลืมความจริงที่ว่าเค้าเป็นดาราดังไม่ได้ ผมบอกเค้าว่าให้จินตนาการถึงตัวเองเมื่อ 10 ปีก่อนสิ เป็นศิลปินคนนึงที่กำลังทำอัลบั้มใหม่และไม่มีชื่อเสียง คุณบอกผมว่าให้ริชชี่ลองทำเพลงแนว R&B ตามความต้องการของตลาดตอนนี้ใช่มั๊ย ผมรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นนะ


นักข่าว :ในชีวิตจริง คุณคิดว่ามีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างก่อนและหลังที่เค้าจะมีชื่อเสียง ?


C : ที่เปลี่ยนไปหลักๆ ก็คือเราไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก ครั้งก่อนที่เค้ามาอยู่กับผม ผมรู้สึกเหมือนมีน้องชายอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้เค้ายุ่งมาก ยุ่งกับเรื่องงาน, ถ่ายหนัง, โฆษณา, คอนเสิร์ต, ออกอัลบั้ม, โปรโมต มีหลายสิ่งหลายอย่างเลย ดังนั้นเราเลยเจอกันน้อยลง แต่เมื่อเค้ามาอยู่ตรงหน้าผม เค้าก็ยังเป็นริชชี่คนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิด นี่ทำให้ผมซึ้งใจมากๆ ผมเห็นวิธีที่เค้าปฏิบัติต่อคนอื่น ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าเค้าไม่เปลี่ยนไปเลย เค้าปฏิบัติต่อทุกคนอย่างดี บางทีที่เปลี่ยนไปก็คือ เค้าไม่ค่อยละเอียดลออเท่ากับครั้งก่อนๆ นัก อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยมีเวลา ไม่มีเวลาที่จะอยู่ทีละคนๆ และกับทุกๆ คน เค้าเป็นประเภทที่ชอบสร้างความบันเทิงให้คนอื่น


นักข่าว : อะไรที่เป็นสิ่งพิเศษที่น่ารักที่สุดของเค้า ?


C : เค้าจะตื่นตัวกับความต้องการของคนอื่น ตอนที่มีเวลา เค้าก็จะมาพร้อมกับอะไรซักอย่าง ยกตัวอย่าง เค้ารู้ว่าผมชอบกาแฟเย็น ทุกครั้งที่มาเยี่ยมเค้าก็ซื้อกาแฟเย็นมาฝาก เค้ารู้ว่าผมชอบบูชาเทพกวนอู เวลาเค้าไปจีน เค้าก็จะซื้อมาฝากผม เค้ารู้ว่าสาวคนนึงในที่ทำงานชอบสะสมปากกา เค้าก็จะเอาปากกาจำนวนมากมาให้หล่อน เค้าจำทุกๆ คนได้ เวลาคุณพูดกับเค้า เค้าจะสนใจฟังมากๆ ถ้ามีใบไม้หรืออย่างอื่นติดบนผมคุณเค้าก็จะช่วยเอาออกให้ สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นบ่อยๆ


นักข่าว : พอออกจากเรื่องงาน ความสัมพันธ์ของคุณกับเค้าเป็นยังไง คุณสนุกด้วยกันมั๊ย?


C : มันค่อนข้างยากนะ สิ่งที่เค้าชอบต่างจากผม เค้าเป็นพวก active มากกว่า โต้คลื่น ดำน้ำ แข่งรถ ไม่มีอะไรที่ผมรู้ซักอย่าง ผมเป็นคนประเภทเงียบๆ ผมชอบที่จะไปเดินแถวกำแพงเมืองจีนมากกว่า ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นเรื่องของความคิด ไม่ว่าเค้าจะอยู่ที่ไหน ถ้าเค้าอยากจะคุยเค้าก็จะโทรมา เราสามารถคุยกันได้เป็นชั่วโมงๆ


นักข่าว : นอกจากเรื่องงานแล้ว คุณคุยเรื่องอะไรกันอีก เค้าคุยเรื่องส่วนตัวกับคุณมั๊ย?


C : เค้าไม่ค่อยคุยเรื่องนั้นมากนัก โดยปกติจะเป็นเรื่องงาน การพัฒนาตัวเอง ความยากในการตัดสินใจ ผมเป็นเหมือนกับครูของเค้า ความสัมพันธ์ของเราไม่ใช่แต่จะสนุกสนานกันอย่างเดียว เค้ารู้ว่ามีที่ปรึกษา คนที่จะให้คำแนะนำ ความไม่เห็นด้วย มุมมองในแง่ลบ คำตอบต่างๆ กับเค้า ผมเป็นคล้ายกับเพลงแต่งให้เค้า ‘yi kau’ และเค้าก็ต้องการให้ ‘yi kau’ กับทุกคน


นักข่าว : ริชชี่มีนิสัยส่วนตัวเวลาอัดเพลงบ้างมั๊ย?


C : ว่ากันตามจริงก็ไม่มีอะไรพิเศษ เค้าดีมากเลย เค้าจะยืนอยู่ตรงนั้น คุณบอกให้เค้าร้องแล้ว..ร้องอีก เค้าก็จะร้องไม่หยุด ตอนที่ผมคิดถึงช่วงที่ให้เค้าร้องเพลง “Yi Kau” ผมขังเค้าไว้ในสตูดิโอ 3 วัน เค้าเครียดมาก แต่ไม่บ่นเลย เวลาเหนื่อย เค้าจะออกไปจ๊อกกิ้งหรือไม่ก็เล่นบาส พักซักครู่ แล้วกลับมาเริ่มร้องใหม่ จนถึงตอนนี้ เค้าก็ยังเป็นแบบนั้น ผมจะให้เค้าร้องจนกว่าผมจะพอใจ เค้าก็ไม่บ่นเลย


นักข่าว : มีเทคนิคหรือข้อแนะนำพิเศษที่คุณได้สอนเค้ามั๊ย?


C : ผมไม่ได้สอนทักษะอะไรให้เค้าแต่บอกเค้าว่าควรจะใส่อารมณ์ลงไปตรงไหนบ้าง ทุกคนรู้ว่า ริชชี่ไม่ใช่ประเภทที่คนอื่นคิดว่าเค้าร้องเพลงได้ดีมาก มีความสามารถรอบตัว ผมให้ไอเดียเค้า ถ้าคุณตามคนอื่น มันก็ไม่ใช่เพลงของคุณ ผมได้ยินเฉินหลงพูดว่า ไม่ว่าเค้าจะร้องเพลง “Xin Tai Ruan” ยังไง เค้าก็ร้องให้เหมือนริชชี่ไม่ได้ ดังนั้นผมจะบอกเค้าเสมอว่า ให้ใช้ความรู้สึกของตัวเองและบุคลิกของตัวเองดึงเอาทำนองออกมา เมื่อมันจำเป็น ผมจะบอกให้เค้าร้องให้ดีขึ้น ให้ดูน่าสนใจ


นักข่าว : ริชชี่เป็นนักร้องที่หัวไวมั๊ย?


C : “พูดตามตรง, ความสามารถในการเข้าใจของเค้าก็ไม่ได้ดีมาก เพราะว่าเค้าค่อนข้างเป็นคนตรงๆและซื่อสัตย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าโง่นะ เพียงแต่ไม่ได้เข้าใจได้ไวถ้าให้ตัวอย่างแค่อย่างเดียว เพราะว่าเค้าไม่ใช่คนประเภทเจ้าเล่ห์ ผมคิดว่ามันดีนะ เพราะเค้าจะสามารถคงความสดใส เป็นธรรมชาติและเป็นกันเองไว้ได้ ผมว่าเป็นแบบนี้มันดีกว่าเพราะว่าถ้าคนเรามีความเข้าใจดีเยี่ยม ฉลาดมากๆ เค้าอาจจะเสี่ยงต่อเรื่องที่ไม่จำเป็น ผมรู้สึกว่ามันดีแล้วถ้าความเข้าใจของเค้าเป็นระดับปานกลาง”


นักข่าว : งั้นคุณก็ว่าเค้าเหมือนก๊วยเจ๋งหน่ะสิ? เพิ่มเติม : ก๊วยเจ๋งเป็นตัวละครในเรื่อง 'มังกรหยก' จากบทประพันธ์ของกิมย้ง จริงๆ แล้วก๊วยเจ๋งเป็นคนใจดี ซื่อสัตย์ รักความยุติธรรม แต่เพราะเค้าแสดงออกแบบตรงไปตรงมา เลยทำให้บางครั้งคนอื่นจะมองว่าเค้าเป็นคนทึ่มจากความเป็นคนตรงของเค้า และก็ไม่เคยกะล่อน


C : ใช่ เค้าเหมือนจริงๆ นะ


นักข่าว : ถ้าคุณมีคอนเสิร์ตของตัวเอง คุณอยากจะเชิญใครมามากที่สุด?


C : จริงๆ ผมเป็นคนที่ไม่ชอบไปกวนคนอื่นนะ มันเป็นธรรมชาติของผมที่ไม่ชอบเป็นข่าว ออกงานทีวี อะไรเทือกนั้น มันเหมือนกันการเป็นหนี้คำขอร้องของคนอื่น ผมชอบที่จะทำเรื่องให้เงียบมากกว่า บอกตามตรง มีหลายคนที่มีชื่อเสียงเพราะเพลงของผม คนอื่นบอกว่าถ้าผมจัดคอนเสิร์ตควรจะขอให้ลูกศิษย์มาร่วมงานด้วย แต่ผมรู้สึกว่าที่พวกเค้าดังก็เป็นเพราะตัวเค้าเอง แม้ว่ามันจะเป็นเพลงของผมก็ตาม แต่มันขึ้นอยู่กับว่าพวกเค้าอยากจะมารึเปล่า ผมจะชอบมากกว่าถ้าพวกเค้าโทรมาเอง มันจะดูมีความหมาย หลายคนถามผมว่านักร้องทุกคนเนี่ยกตัญญูเท่าริชชี่รึเปล่า ผมรู้สึกว่ามันไม่สำคัญนะ ลองมามองดูความเป็นจริงกันบ้าง ผมหาเงินเลี้ยงชีพ พวกเค้าก็หาเงินเลี้ยงชีพ ถ้าเค้าไม่มามันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ถ้าเค้ามาผมก็ซาบซึ้ง ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาคอนเสิร์ตผมก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องกังวล ถ้าลูกศิษย์ของผมอยากมา ผมก็จะยิ่งซึ้ง ถ้าเค้าไม่มาผมก็ไม่ว่า แต่ผมคิดว่าคนแรกที่ควรจะสมัครเข้างานควรจะเป็นริชชี่ (เอ่อ...ตกลงฉงเกอเค้าก็อยากให้เฮียไปใช่มั๊ยเนี่ย แบบว่าออกนอกหน้าเลยแฮะ)


นักข่าว : ริชชี่เป็นลูกศิษย์คนโปรดของคุณเหรอ?


C : ผมไม่มีคนโปรดหรอกนะ นักร้องทุกคนที่ผมทำงานด้วยก็มีข้อดีของตัวเอง ริชชี่ก็เป็นคนนึงที่สนิทกับผม เหมือนครอบครัว เรามีความใกล้ชิดกัน เค้าเป็นเหมือนครอบครัวของผม






Create Date : 22 กรกฎาคม 2548
Last Update : 6 เมษายน 2549 12:47:54 น. 2 comments
Counter : 626 Pageviews.

 


ถึงไม่ใช่คนโปรดของฉงเกอ

ก็เป็นคนโปรดของข้าพเจ้าเอง


โดย: wmvcore วันที่: 22 กรกฎาคม 2548 เวลา:16:37:58 น.  

 
แหม...พูดงี้เฮียก็ดีใจแย่สิคะ..


โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 31 กรกฎาคม 2548 เวลา:10:54:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กวางตุ้งหวาน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]













ริชชี่ออกงาน BMW
ริชชี่บนเส้นทางสายไหม
ริชชี่โปรโมตหนังเรื่อง《龙凤店》
MV เพลง 《龙凤店》
Happy Birthday to Richie Jen
อัลบั้มใหม่ : Music Traveller
ข่าวคราวหนังเรื่องใหม่
ข่าวคราวเดือนมกรา
ประมวลข่าวช่วงปลายปี (2)
ประมวลข่าวช่วงปลายปี















Friends' blogs
[Add กวางตุ้งหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.