|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
East Week Magazine : March 2006
แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย Betty
ภาพจาก www.richiesfamily.com

ไม่ใช่ผู้ชายแสนดี
ผู้ชายจะดีหรือแย่นั้น มันยากที่จะเอ่ยและมันก็ไม่มีข้อตายตัวกำหนดเอาไว้
ในหนังและชีวิตจริง ริชชี่มักจะมีภาพพจน์ของหนุ่มแสนดี 100 % เค้าแข็งแรงและรูปร่างดี มีรอยยิ้มสดใส เล่นกีตาร์เป็นและแข่งรถมอเตอร์ไซด์เก่ง เค้าควรจะมีแฟนสาวมากมาย แต่ริชชี่รักเพียงแค่แมว โดยเฉพาะแมวที่เค้ารักมา 20 ปี, Tina ผู้ชายประเภทนี้ แน่นอนว่า สมบูรณ์แบบทั้งในชีวิตจริงและในหนัง
ผู้ชายที่รอบรู้และเปี่ยมไปด้วยความรัก มักจะไม่ชอบแสดงออก แต่ริชชี่เชื่อว่า "ถ้าผู้ชายไม่มีด้านแย่เลย ผู้หญิงก็จะไม่รัก" ถ้าริชชี่ไม่เป็นแบบนั้น ทำไมเค้าถึงเอาแต่พูดว่าเค้าไม่ใช่ผู้ชายแสนดี
"ผู้ชายที่ดีต้องรักษาสมดุลระหว่างการงานกับครอบครัวได้ อย่างเช่น โจวเหวินฟะและ เยิ่นต๊ะหัว สำหรับผม ผมมักจะคิดถึงตัวเอง ไม่ค่อยดูแลครอบครัวและแฟน บางครั้งผมใช้วิธีการที่ไม่ค่อยถูกต้องเพื่อให้เติมเต็มความทะเยอทะยาน ผมยังห่างไกลจากคำว่าคนดีอยู่ แต่สิ่งนึงที่ผมสามารถทำได้คือยืดอกขึ้นและวางความรับผิดชอบไว้บนบ่าเพื่อปกป้องคนที่ผมรัก นี่เป็นสิ่งพื้นฐานที่ผู้ชายสามารถทำได้"
บางทีในชีวิตจริง ริชชี่อาจไม่ใช่ผู้ชายแสนดี แต่ได้เห็นเค้าอ้าแขนเพื่อปกป้อง Tina กับ Rati ตอนนี้ชั้นเค้าใจแล้วว่าทำไม Tina ไม่ใส่ใจกับการจดทะเบียนเป็นภรรยาเค้า

ขโมยคือตัวผมที่แท้จริง
จาก หยังชงโถว ในเรื่อง Fly me to polaris ถึง หมอวีไซ ในเรื่อง 2 Become 1 ริชชี่ยังไม่สามารถลบฉายาผู้ชายแสนดีของเค้าได้ ตัวละครเหล่านั้นมักจะเป็นที่ประทับใจของสาวๆ
ต้องขอบคุณผู้กำกับเพราะตอนที่เริ่มต้น ผมมักจะแสดงแต่บทแบบนั้นจนทุกคนต่างชินกับการแสดงของผมในหนัง ดังนั้นพวกเค้าเลยคิดว่าผมใสซื่อ ซื่อสัตย์และเชื่อถือได้ แต่จริงๆ แล้วผมไม่ใช่"
"ผมไม่ได้เลวแต่ก็ไม่ได้ดีขนาดในหนังหรอก มันแตกต่างจากในชีวิตจริง ผมมักจะใช้หัวคิดวางแผน ไม่เหมือนในหนังที่มักจะถูกคนอื่นหลอก ในชีวิตจริง ผมไม่ใช่แฟนที่ดีเพราะผมมักจะไม่วางเรื่องความรักไว้เป็นอันดับแรก ถ้าคุณถามผมว่าตัวละครในหนังเรื่องไหนที่บุคลิกคล้ายผม คำตอบของผมจะเป็นบทโจรที่เล่นไว้ในเรื่อง Breaking News ผมมักจะทำสิ่งต่างๆ โดยไม่ได้คิด เพื่อที่จะเติมเต็มให้ตัวเอง บางครั้งผมก็เหมือนกับจิ้งจอกและทำเรื่องเจ้าเล่ห์ ถ้าผมต้องการอะไรซักอย่าง ไม่มีใครหยุดผมได้ และเพราะทำเรื่องต่างๆ โดยไม่คิดนี่แหล่ะ ทำให้ผมลืมนึกถึงความรู้สึกของคนอื่น แต่เรื่องดีของการแสดงก็คือผมรู้สึกและเข้าใจสิ่งที่ผมขาดไปในชีวิตประจำวัน เพราะผมเล่นหนังรักมากไป ผมพบว่าผมไม่ใช่คนดี การแสดงหนังทำให้ผมได้เรียนรู้มากมาย การแสดงก็คือการแสดง เมื่อผมกลับไปสู่ความรักจริงๆ ผมจะกลับไปสู่ชีวิตที่เรียบง่าย ถ้าใครบอกคุณว่าเค้าจะยังรักคุณเหมือนที่เค้าเล่นไว้ในหนังหล่ะก็ งั้น นักแสดงคนนั้นก็ไม่เป็นมืออาชีพเอาซะเลย

ไม่ว่าถ้าจะถูกเรียกว่า คุณพ่อ
เพราะว่าริชชี่หน้าเด็ก แม้ว่าเค้าจะเกือบ 40 แล้ว แต่แรงดึงดูดที่มีต่อสาวๆ ของเค้าก็ไม่ได้ลดลง ดังนั้นเค้าไม่รังเกียจที่คนจะพูดถึงอายุของเค้า ริชชี่เป็นคนพูดเก่ง แต่เค้าไม่ค่อยชอบให้สัมภาษณ์ แต่งานนี้เพราะเค้าเป็นคนเดียวที่หาเลี้ยงครอบครัว ดังนั้นเค้าเลยจะต้องตอบคำถามระหว่างการสัมภาษณ์นี้
มีเพียงคำถามที่เกี่ยวกับ Tina และ Rati ที่ริชชี่ระวังมากๆ ที่จะตอบ ผมไม่เอ่ยถึง Tina ไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะทำร้ายความรู้สึกแฟนๆ แต่เพราะมันเป็นชีวิตส่วนตัวของผม ตอนที่ผมไม่มีชื่อเสียง ผมก็ไม่ได้พูดถึงเธอมากนัก ตอนนี้ แน่นอนว่า ผมจะไม่พูดเกี่ยวกับเธอเช่นกัน ใครบอกว่านักแสดงเป็นพ่อคนแล้วจะเล่นบทนำไม่ได้? ผมไม่กังวลในเรื่องนี้หรอก ดูอย่าง Robert DeNiro, Harrison Ford สิ พวกเค้าอายุ 70 แล้วแต่ก็ยังเล่นบทนำได้อยู่เลย คุณไม่กังวลเลยถ้าคุณยังมีความสามารถในการแสดง!
เรียนรู้ที่จะเป็นพ่อที่ดี
ริชชี่เป็นคน ใจแข็ง จริงๆ ไม่ว่าชั้นจะพยายามมากแค่ไหน เค้าก็ไม่พูดเกี่ยวกับ Tina และ Rati เลย แต่ไม่ว่าคุณใจแข็งยังไง คุณก็ต้องมีด้านที่อ่อนบ้างหล่ะ ระหว่างการสนทนา เค้ามีความสุขในการเป็นคุณพ่อ ดูเหมือนเค้ามีเรื่องคุยมากมายเกี่ยวกับการดูแล Rati แต่ทุกครั้งที่เค้าพยายามจะพูดบางอย่าง เค้าก็หยุดไปซะงั้น ครั้งนึง, ชั้นเกือบจะได้ยินเค้าเรียกตัวเองว่า พ่อ แต่เค้ารีบเปลี่ยนและใช้คำอื่นแทน ตอนนี้ ชั้นรู้แล้วว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นคนใจแข็ง
ผู้ชายแสดงออกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานะของพวกเค้า ผมเป็น...ผู้ใหญ่แล้ว ผมคิดมากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถของผม เช่นการแข่งรถ เมื่อก่อน ผมจะออกไปแข่ง 7 ใน 10 ครั้ง แต่ตอนนี้ ผมมีคนที่ต้องเลี้ยงดูอีกคนนึง ผมต้องไตร่ตรองมากขึ้น สิ่งที่ผมต้องเรียนรู้ในตอนนี้ก็คือทัศนคติส่วนตัว ยุคสมัยมันต่างออกไป วิธีสอนเด็กก็ไม่เหมือนกับสมัยเด็กของผม การลงโทษด้วยการตีใช้ไม่ได้ผลแล้ว การสื่อสารสำคัญมากกว่า ใช่มั๊ย? ผมไม่รู้...ผมไม่มีประสบการณ์ ผมจะพยายามเรียนรู้! สมัยเด็กผมทะเล้นมาก ชอบเล่น ครูก็มักจะตีผม แต่ผมไม่เคยร้องไห้ ผมเป็นคน ใจแข็ง 100 % เว้นแต่ว่าจะมีใครซักคนจากไป นอกนั้นไม่มีอะไรที่ทำให้ผมร้องได้ ใบเกรดผมก็พอใช้ได้ และผมเชื่อฟังพ่อแม่ พ่อไม่ค่อยตีผมหรอกเพราะผมจะวิ่งหนีไปก่อนเวลาที่พ่อโกรธ..(หัวเราะ)
เป็นผู้หญิงนั้นมันยาก
ริชชี่และ Tina รู้จักกับมาเกือบ 20 ปี และปีที่แล้วพวกเค้าก็มีลูกสาวชื่อ Rati แม้ว่าริชชี่จะไม่ได้เอ่ยเกี่ยวกับสถานภาพการแต่งงานของเค้า แต่เค้าเผยออกมาหน่อยว่า ในใบเกิดของ Rati ไม่มีชื่อเค้าอยู่ นั่นไม่สำคัญว่าจะมีทะเบียนสมรสหรือไม่ ริชชี่ถือว่า Tina อยู่ในฐานะภรรยาของเค้าแล้ว
ผมเป็นผู้ชาย แต่ผมจะไม่ทุบตีผุ้หญิงหรือไม่ใส่ใจความรู้สึกของพวกเธอ ผมหมายถึงผู้ชายควรจะดูแลผู้หญิงของเค้า ปกป้องเธอ ให้สิ่งที่เธอต้องการ ถ้าจำเป็น เค้าก็อยากจะทำงานหาเงินให้หนักขึ้นดีกว่าให้เธอไปทำ"
ถ้าผู้หญิงของเค้าเบื่อที่จะอยู่บ้าน เค้าจะไม่ห้ามให้เธอไปหางานทำ เค้าจะเคารพและปล่อยให้เธอทำสิ่งที่เธอคิด การเป็นผู้หญิงมันก็ยากไม่ใช่รึ? "แน่นอน ผู้ชายทุกคนต้องการให้แฟนของเค้าเข้าใจและใส่ใจพวกเค้า ผมคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดคือทั้งคู่พยายามยอมรับซึ่งกันและกัน
เมื่อคนสองคนมาอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องมีการกระทบกระทั่งกัน การทะเลาะกันก็ไม่เป็นไรหรอกแต่ต้องพยายามไม่พูดอะไรที่ทำร้ายกันเอง มันต้องเป็นคำว่า ไม่ ไม่ อย่างเดียว ผมคิดว่าผู้หญิงไต้หวันอ่อนโยน ไม่เหลวไหล พวกเค้าเหมาะกับรสนิยมของผม รักก็คือรัก มันยากที่จะอธิบาย

คลุมหัวด้วยถุงพลาสติก
ในวันที่สัมภาษณ์ ชั้น (ผู้เขียน) ได้บอกให้ผู้ช่วยของริชชี่เตือนริชชี่ไม่ให้ทำเสื้อผ้าสกปรกขณะที่เปลี่ยน แต่เธอแค่นั่งแล้วบอกชั้นว่าไม่ต้องกังวลเพราะทุกครั้งที่ริชชี่เปลี่ยนเสื้อผ้า เค้าจะใช้ถุงพลาสติกครอบหัวไว้ เธอดูจะแน่ใจเหลือเกินว่าริชชี่จะไม่ทำเสื้อผ้าสกปรก ระหว่างการถ่าย ตากล้องบอกให้ริชชี่เอนไปพิงบันไดไม้ที่ทาด้วยสีเก่าๆ ชั้นในตอนนั้นรีบเดินเข้าไปตรวจดูสีตรงบันได แต่ริชชี่ตรวจเรียบร้อยไปแล้วและบอกว่า ไม่ต้องห่วงนะ สีมันไม่เปื้อนออกมาหรอก ผมจะไม่ทำให้คุณต้องลำบาก ในช่วงนาทีนั้น ชั้นบอกกับตัวเองว่าที่ริชชี่บอกว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชายแสนดี จริงๆ แล้วเค้าเป็นผู้ชายแสนดีในสายตาผู้หญิงเลยหล่ะ ที่จริงเค้าไม่จำเป็นต้องมาอ่อนโยนและเอาใจใส่, รู้ว่าความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับชั้น ที่เป็นคนยืมเสื้อผ้าเหล่านั้นมาเลย
------------------------------------------------------------
นิตยสารอันนี้ถือว่าเป็นอีก 1 เล่มในหลายๆ เล่มที่เฮียทำไม่สำเร็จอีกตามเคย กับการที่จะปลดป้าย good man ของตัวเองออก ก็นะ น่าเห็นใจเฮียอยู่เหมือนกัน..
Create Date : 04 เมษายน 2549 |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2550 19:45:41 น. |
|
34 comments
|
Counter : 673 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Due_n IP: 58.8.190.105 วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:18:41:56 น. |
|
|
|
โดย: mungkood วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:18:43:28 น. |
|
|
|
โดย: Tinglish วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:19:00:55 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:19:43:38 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์สวย วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:23:21:23 น. |
|
|
|
โดย: asariss วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:0:21:17 น. |
|
|
|
โดย: คุณย่า วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:5:42:25 น. |
|
|
|
โดย: คุณย่า วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:5:44:41 น. |
|
|
|
โดย: 90210 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:6:20:02 น. |
|
|
|
โดย: BBwindy วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:11:28:49 น. |
|
|
|
โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:13:24:25 น. |
|
|
|
โดย: โจเซฟิน วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:14:22:23 น. |
|
|
|
โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:16:07:12 น. |
|
|
|
โดย: Tinglish วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:20:05:26 น. |
|
|
|
โดย: PANDIN วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:0:30:54 น. |
|
|
|
โดย: โจเซฟิน วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:9:40:47 น. |
|
|
|
โดย: Anson วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:16:24:03 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:18:17:00 น. |
|
|
|
โดย: จอมยุทธหญิง IP: 58.8.151.191 วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:18:25:20 น. |
|
|
|
โดย: Tinglish วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:22:36:26 น. |
|
|
|
โดย: erina วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:22:38:00 น. |
|
|
|
โดย: ตงเหลงฉ่า IP: 58.9.30.186 วันที่: 7 เมษายน 2549 เวลา:0:25:57 น. |
|
|
|
โดย: อพันตรี (อพันตรี ) วันที่: 7 เมษายน 2549 เวลา:1:45:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|