Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
20 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
วันเบาเบาที่ (เคย) หนักใจ



วันเบาเบา ที่ (เคย) หนักใจ (Modern Mom)

ใกล้จะถึงวันนั้นของเดือนอีกแล้ว เฮ้อ! คุณหลายคนถึงกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า เพราะวันนั้นมาถึงทีไร เหมือนระบบต่าง ๆ ในร่างกายแปรปรวนไปหมด บางคนโชคดีหน่อยแค่เมื่อยล้าแต่บางคนถึงกับต้องล้มหมอนนอนเสื่อ

เรามีวิธีรับมือกับอาการต่าง ๆ ในวันนั้นของเดือนมาฝาก

4 วิธี...ลดอาการ

1.ออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมา เป็นการระงับการปวดตามธรรมชาติ และทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ไม่เครียด ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการต่าง ๆ ทั้งก่อนและขณะมีประจำเดือน




2.จำกัดการบริโภคเกลือ น้ำตาล คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ กินอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่ เน้นผัก ผลไม้ และคาร์โบไฮเดรต

3.รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ๆ เช่น ตับ ผักใบเขียว เพื่อช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดใหม่ รับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีมาก ๆ เช่น คะน้า มะเขือเทศ ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบี เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้งานได้ดีขึ้น

4.ใช้วิธีธรรมชาติ แต่อาจได้ผลเฉพาะกับบางคนเท่านั้นนะคะ เช่น ช่วงที่มีอาการ จิบชาสมุนไพรร้อน ๆ กินวิตามินซี แคลเซียม และน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อาบน้ำอุ่น หรือใช้กระเป๋าน้ำร้อนวางบริเวณท้องน้อย หรือที่หลังก็ช่วยลดอาการปวดได้เช่นกัน

วิธี การเหล่านี้ควรทำเป็นประจำก่อนมีประจำเดือน และควรสังเกตตัวเองดังกล่าวเกิดอาการต่าง ๆ ก่อนมีประจำเดือน ใช้วิธีรักษาใดแล้วได้ผลดีจะได้ใช้วิธีนั้นอีกในครั้งต่อไป


เทคนิคพิเศษบรรเทาอาการปวด

มี ผู้หญิงหลายคนที่มีอาการปวดประจำเดือนรุนแรง จึงต้องมีวิธีบำบัดเพิ่มเติม ได้แก่ การพักผ่อนเต็มที่ ใช้กระเป๋าน้ำร้อนวางที่ท้องน้อยหรือที่หลัง เมื่อ อาการทุเลาควรออกกำลังกายเบา ๆ และถ้าปวดมาก ๆ อาจใช้ยาแก้ปวด aspirin, ibuprofen, naproxen ร่วมด้วยได้ นอกจากนั้นอาจใช้ยาคุมกำเนิดช่วยให้การรักษาอาการปวดประจำเดือนได้ ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร หรือถ้าเป็นมาก ๆ อาจต้องไปพบสูติแพทย์ เพื่อตรวจดูว่ามีความผิดปกติอะไร และรักษาให้ถูกจุดไปเลยดีกว่า

นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงเนื้อแดง นม และอาหารเค็ม จะช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือนและอาการปวดประจำเดือนได้เช่นกัน

การกินเนื้อปลาเพิ่มก็จะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ เพราะมีบางรายงานบอกว่าการได้รับ Omega 3 จากเนื้อปลาทะเลจะลดอาการประจำเดือนมามากได้ด้วย

ไขข้อข้องใจของ ประจำเดือน

ประจำเดือนคลาดเคลื่อน รอบเดือนตามปกติจะกินเวลาโดยเฉลี่ย 28 วันซึ่งวงรอบเดือนนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย และขึ้นอยู่กับ เช่น ความเครียด อายุ น้ำหนัก หรือการมีบุตร เป็นต้น

วงรอบของประจำเดือนเกิดขึ้น โดยมีฮอร์โมนจากรังไข่มาควบคุมมดลูกแล้วรังไข่ถูก ควบคุมด้วยฮอร์โมนที่สร้างจากสมอง หากมีอะไรไปรบกวนระบบฮอร์โมนนี้อาจทำให้ รอบเดือนคลาดเคลื่อนไปได้ ที่พบบ่อย ๆ เช่น ความเครียด อดนอน พักผ่อนไม่พอ อ้วนขึ้นหรือผอมลง เจ็บป่วย ไม่สบาย หรือการรับประทานยาบางอย่างก็เป็นเหตุทำให้รอบเดือนมาเร็วขึ้นหรือยืดออกไป ได้ แต่หากไม่มาเร็วขึ้นเกินกว่า 7 วัน หรือไม่ยืดเลยออกไปเกิน 7 วันก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ค่ะ

หลังคลอด : มามาก vs มาน้อย ปกติจำนวนวันที่มีประจำเดือนอยู่ที่ 3-7 วัน ถ้าเกิน 7 วันขึ้นไปถือว่าผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ อย่างไรก็ตามผู้หญิงบางคนก็อาจมีประจำเดือนเพียงแค่วันเดียวหรือมาเยอะเต็ม ที่ 7 วันเลยก็ได้ตามแต่ลักษณะร่างกาย

โดยปกติผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีลูก ประจำเดือนมักมาไม่ค่อยมาก แต่พอผ่านการมีลูกมดลูกจะยืดขยายและแรงบีบรัดก็จะน้อยลงโดยเฉพาะในช่วงหลัง คลอดใหม่ ๆ ทำให้รู้สึกว่าประจำเดือนออกมามากกว่าปกติ แต่พอสักระยะหนึ่งมดลูกหดตัวและบีบรัดตัวได้ดีขึ้น ประจำเดือนก็จะน้อยลงไปเอง

ผลข้างเคียง...เมื่อใช้ยาคุม การคุมกำเนิดโดยการกินยาคุมกำเนิดหลังคลอด ปริมาณของประจำเดือนจะน้อยลงกว่าเดิม เฉลี่ยแล้วลดลงประมาณ 30% แต่ถ้าคุมกำเนิดโดยการใส่ห่วงคุมกำเนิด ประจำเดือนกลับจะมามากกว่าเดิมอีก 30% เช่นกันค่ะ

อาการเลือดออกกะปริบกะปรอย ยังพบในคนที่ลืมกินยาหรือกินยาไม่สม่ำเสมอ ไม่กินเวลาเดียวกันทุกวัน แก้ไขได้ด้วยการรับประทานยาให้ตรงเวลาทุกวันเป็นประจำนอกจากนี้อาจพบอาการ นี้ได้ในระยะ 2-3 เดือนแรกของการใช้ยา ซึ่งถ้ามีเลือดออกเล็กน้อยให้รับประทานต่อไป แต่ถ้าเลือดออกมากควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน

เมื่อหยุดยา ส่วนใหญ่แล้วประจำเดือนจะกลับมาปกติภายใน 3 เดือน หากประจำเดือนไม่มานานเกินกว่า 3 เดือนหลังหยุดยาควรปรึกษาแพทย์

ประจำเดือนเลื่อนได้ไหม ยาเลื่อนประจำเดือน คือฮอร์โมนที่ยับยั้งไม่ให้เกิดการลอกตัวของเยื่อบุมดลูก จนเกิดเป็นประจำเดือนขึ้นมาซึ่งหากจำเป็นต้องใช้ยาเลื่อนประจำเดือน ควรปรึกษาแพทย์

ยาที่ใช้เลื่อนประจำเดือน มี 2 ประเภท

ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ปกติใช้สำหรับคุมกำเนิดซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจส เมื่อนำมาใช้เพื่อเลื่อนประจำเดือน จะต้องใช้ล่วงหน้าก่อนวันที่คาดว่าจะมีประจำเดือนมาอย่างน้อย 7 วัน โดยกินวันละ 1 เม็ดทุกวัน เมื่อต้องการให้ประจำเดือนมาจึงหยุดยาหลังจากหยุดยา 2-3 วัน ประจำเดือนก็จะมา

ยาที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว ที่มีใช้ในบ้านเราคือ Norethisterone ต้องกินก่อนที่คาดว่าจะมีประจำเดือนมาอย่างน้อย 3 วัน

สำหรับ ผลข้างเคียงที่พบในระหว่างใช้ยาคือ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ซึมเศร้า น้ำหนักเพิ่ม บวม มึนศีรษะ เป็นต้น ถ้าใช้ยาเลื่อนประจำเดือนอยู่บ่อย ๆ จะมีผลรบกวนประจำเดือนตามปกติ ทำให้แปรปรวนไปจึงไม่แนะนำให้ใช้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้แบบที่ 2 ซึ่งเป็นแบบมีฮอร์โมนขนาดสูง


Create Date : 20 มีนาคม 2553
Last Update : 20 มีนาคม 2553 9:43:24 น. 0 comments
Counter : 273 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

somkitjar
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add somkitjar's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.