|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
23 เมษายน 2554
|
|
|
|
รักที่ครอบครัวไม่ยอมรับ
หลายๆครั้งที่เก๋พูดถึงความรักของเก๋...และเรื่องราวเกี่ยวกับคนรัก
บอกได้เลยว่าเธอคนนี้เป็นคนที่เก๋อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่ออยู่ร่วมกันตลอดไป
หากจะเปรียบเทียบสถานะความรักให้เหมือนผู้หญิงผู้ชายทั่วไป..เก๋ก็คงอยู่ในช่วงที่มั่นใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่อยากแต่งงานด้วย
ชีวิตรักของเราดูเหมือนจะราบรื่นดี...อยู่ด้วยกัน ทำกิจวัตรประจำวันร่วมกัน ทุกๆวันคือความสุข
หลายๆคู่ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันอาจจะรู้สึกอิจฉา
เก๋ก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีนะที่ได้มีเวลาอยู่ร่วมกัน เพราะกลุ่มคนแบบเราส่วนใหญ่จะต้องปกปิดความสัมพันธ์ เนื่องจากปัญหาการไม่ยอมรับจากที่บ้าน หรือบางคู่อาจยังไม่เกิดปัญหา แต่ป้องกันโดยการปิดไว้ก่อน
จริงๆแล้วเก๋และแฟนไม่ได้เป็นแบบที่ที่บ้านยอมรับเราทั้งสองฝ่าย...เราก็มีปัญหาเหมือนกัน
แรกๆที่เราคบกันและตัดสินใจมาอยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างก็บอกครอบครัวของตัวเองถึงการย้ายมาอยู่ด้วยกัน...แต่เราก็ไม่ได้บอกว่าเราเป็นอะไรกัน
เก๋ค่อยๆพาแฟนเก๋ไปให้ที่บ้านได้ทำความรู้จัก ในฐานะน้องสาวที่พักอยู่ด้วยกัน
เก๋ไม่เคยพาแฟนคนไหนให้เข้าไปที่บ้าน แต่กับคนนี้ทำให้เก๋มองไปถึงอนาคต เก๋อยากให้เค้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเก๋
แฟนเก๋เป็นคนน่ารัก ร่าเริง คุยเก่ง เข้ากับทุกคนได้ง่าย โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่
ความน่าเอ็นดูทำให้พ่อกับแม่รักและเอ็นดูเค้าเหมือนลูกสาวคนนึง
ถ้าถามว่าพ่อกับแม่เก๋ดูออกมั้ยว่าเราคบกันแบบไหน
เก๋คิดว่าท่านคงพอดูออก...บวกกับที่เก๋เคยบอกพ่อกับแม่ไปแล้วว่าเก๋ชอบผู้หญิง
ท่านก็คงทราบอยู่บ้างว่าเราเป็นอะไรกัน..เพียงแต่เราไม่ได้บอกท่านไปตรงๆเท่านั้น
ที่เก๋เลือกที่จะไม่บอกท่านไปตรงๆเพราะเก๋อยากใช้เวลาพิสูจน์ให้ท่านทั้งสองคนเห็นว่าเราสามารถดูแลกันและกันได้อย่างดี
เก๋อยากให้แฟนของเก๋เข้าไปในฐานะลูกสาวของท่านอีกคน เพราะที่บ้านเก๋เคยรับไม่ได้กับสิ่งที่เก๋เป็น ถึงแม้ตอนนี้เค้าจะเปิดใจได้มากขึ้น แต่เก๋คิดว่าเราควรเคารพความรู้สึกซึ่งกันและกัน เก๋ไม่อยากไปตอกย้ำสิ่งที่เค้าเคยรู้สึกต่อต้านให้กับเค้า
และการที่เค้าพอทราบบ้าง แต่ไม่ห้ามปรามแบบนี้ เก๋ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พ่อแม่ให้เก๋แล้ว
ไม่ว่าเก๋จะบอกหรือไม่บอกก็คงไม่สำคัญเท่ากับการที่เค้ารักและเอ็นดูแฟนของเราเหมือนเป็นลูกสาวเค้าคนนึง
เมื่อหันไปมองอีกด้าน...ฝั่งบ้านแฟนเก๋
เราเจอปัญหาอย่างหนักตลอดเวลาสองปีกว่าที่คบกัน
สังคมบ้านแฟนเป็นแบบสมัยเก่า..ไม่สามารถรับได้กับความสัมพันธ์แบบ ญ รัก ญ
เก๋ไปบ้านแฟนแค่ไม่กี่ครั้งก็เริ่มมีคำถามแปลกๆมาให้ได้ยิน
...แฟนเก๋มาเล่าให้ฟังว่าที่บ้านสงสัยว่าเก๋เป็นทอมรึเปล่า
บุคลิกของเก๋ เก๋เป็นผู้หญิงเรียบๆแต่งตัวสบายๆไม่พิถีพิถัน ไม่แต่งหน้า
แต่ผู้หญิงที่ไม่แต่งตัว ไม่แต่งหน้า กลายเป็นทอมในสายตาผู้ใหญ่ไป
ผมยาวของเก๋ไม่ได้ช่วยอะไรเลย....ทุกวันนี้ที่เก๋ไว้ผมยาวเพราะไม่ต้องการให้ใครมองว่าเก๋เป็นทอมเท่านั้นเอง
ไม่ได้หมายความว่าทอมน่ารังเกียจหรือดูไม่ดีในสายตาเก๋นะ แต่เก๋แค่ไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด เพราะเก๋ไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ
เก๋แค่เป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยจะพิถีพิถันเรื่องความสวยความงามเท่านั้นเอง
กลับมาเล่าต่อ...เพราะความสงสัยจากที่บ้านนี่เอง ทำให้พวกเราต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้ที่บ้านสงสัยมากขึ้น
เหตุที่จุดประเด็นให้ที่บ้านสงสัยในตัวเก๋มากขึ้นก็คือ... มีผู้ชายจะมาสู่ขอแฟนเก๋
จริงๆแล้วผู้ชายคนนี้เป็นคนที่แม่ของแฟนเก๋อยากให้มาเป็นลูกเขย ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายชอบพอกันและเห็นว่าทั้งคู่เหมาะสมกัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยนัยแล้วว่า เมื่อถึงเวลาจะให้ลูกสาวและลูกชายแต่งงานกัน รอแค่เวลาที่เหมาะ
ซึ่งเวลาที่เหมาะนั้น ก็คือวันที่เก๋กับแฟนคบกันได้แค่ไม่กี่เดือน
เมื่อฝั่งผู้ชายส่งสัญญาณว่าจะมาสู่ขอ ทำให้เก๋และแฟนเครียดมาก
แฟนเก๋ได้รับการกดดันจากที่บ้านอย่างหนักเพื่อให้ยอมตกลง
แฟนเก๋เป็นคนรักครอบครัว เค้าเป็นลูกที่ดีสำหรับพ่อแม่มาตลอด การไม่ทำอย่างที่ครอบครัวต้องการก็หมายถึงทำให้ครอบครัวเสียใจ มันทำให้เก๋เข้าใจว่าทำไมเค้าถึงกล้าๆกลัวๆที่จะตอบปฏิเสธที่บ้านไป
ถึงแม้แฟนเก๋จะไม่ได้รักผู้ชายคนนั้น แต่เค้าก็ลังเลที่จะร่วมเดินไปกับเส้นทางของเก๋
เก๋เข้าใจเค้าดี...เพราะตอนนั้นเราเพิ่งคบกับแค่ไม่กี่เดือน เวลายังน้อยเกินไปที่จะทำให้เค้ามั่นใจได้ว่าเก๋จะรักเค้าไปตลอดและไม่ทิ้งเค้าไปไหน และเค้าอาจยังไม่เชื่อมั่นว่าเส้นทางของ ญ รัก ญ มันจะยั่งยืนขนาดไหน
วันที่เราคุยกันและร่วมกันติดสินใจเลือกทาง...
เก๋บอกเค้าว่า ให้เค้าเลือกทางของตัวเค้าเอง สิ่งที่เค้าเลือกก็คือสิ่งที่เค้าจะต้องเดินต่อไป และสิ่งนั้นจะอยู่กับเค้าไปตลอดชีวิต
ให้เค้าลองดูหัวใจตัวเอง หากเค้ารู้สึกดีๆกับผู้ชายคนนั้น หรือเห็นว่าผู้ชายคนนั้นดีพอที่จะมาดูแลเค้าได้ เก๋ก็ไม่รั้งเค้าไว้ แล้วเก๋จะสบายใจและดีใจด้วยกับสิ่งที่เค้าเลือก เพราะเก๋อยากให้เค้ามีชีวิตข้างหน้าที่มีความสุข
สิ่งที่เก๋พูดไม่ได้หมายความว่าเก๋ไม่รักหรือผลักไสเค้า แต่เก๋รักเค้ามากเกินกว่าที่จะคิดแค่ครอบครองเค้า อะไรก็ได้ที่เค้าจะมีความสุข มีทางข้างหน้าที่ดี เท่านั้นเก๋ก็สบายใจแล้ว
อีกอย่างนึงที่เก๋คิดอยู่เสมอคือ...การเดินเส้นทางแบบที่เก๋เดินมีอุปสรรคและปัญหาจากการยอมรับจากครอบครัวและคนรอบข้างมากมาย เพราะเก๋เจอปัญหานั้นด้วยตัวของเก๋เองมาตลอด ทางนี้ไม่ได้ราบเรียบเหมือนเส้นทางทั่วไป ถ้าเราเลือกที่จะเดินเส้นทางที่ลำบากกว่าคนอื่นเค้า.. เราก็ต้องเหนื่อยมากกว่าคนอื่น เก๋ไม่อยากดึงเค้ามาลำบาก ไม่อยากเห็นเค้าทุกข์
สิ่งที่เก๋ตอบเค้าได้ในตอนนั้นคือ เก๋รักเค้ามากอยากดูแลเค้าให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าเวลาที่คบกันจะยังไม่นาน เค้าอาจยังไม่มั่นใจ แต่เก๋เชื่อมั่นในตัวเองว่าถ้าเค้าเลือกทางที่จะไปกับเก๋ เก๋จะจับมือเค้าเดินไปและไม่ทิ้งเค้าไปไหน ไม่รู้สินะ...เก๋อยากดูแลผู้หญิงคนนี้ไปตลอดชีวิตของเก๋ แต่เก๋อยากให้เค้าเลือกชีวิตของตัวเอง
แล้วเค้าก็เลือกที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปกับเก๋
การปฏิเสธการแต่งงานของแฟนเก๋ ทำให้ที่บ้านสงสัยว่าเค้าอาจมีใครที่คบอยู่ทำให้ปฏิเสธการแต่งงาน
และเก๋ก็เป็นผู้ต้องหาคนนั้นเอง
ที่บ้านเค้าคิดว่าเก๋เป็นทอม และคบกับลูกสาวเค้าอยู่
ยิ่งคิดแบบนั้นเค้าก็ยิ่งไม่สบายใจเพราะรับไม่ได้ที่ลูกสาวเค้าจะคบกับผู้หญิง เค้าจึงได้พยายามกดดันให้ลูกสาวเค้ายอมแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น
แม่และพี่ๆของแฟนเก๋พยายามเกลี้ยกล่อมบ้าง บางทีก็ต่อว่าด้วยคำที่ทำร้ายจิตใจแฟนเก๋บ้าง ทำให้แฟนเก๋เสียใจว่าเป็นคนสร้างความเสียใจให้ครอบครัว
ตลอดสองปีกว่าที่คบกันมา ...เราร้องไห้กันมานับครั้งไม่ถ้วน
ช่วงที่โดนกดดันหนักๆ แฟนเก๋ร้องไห้เกือบทุกครั้งที่ที่บ้านโทรมา
เราต้องคอยหาทางออกและแก้ปัญหาของแต่ละเหตุการณ์ที่ที่บ้านแฟนยังคงพยายามทำเพื่อให้แฟนเก๋เปลี่ยนใจ
เราร้องไห้ด้วยกัน เราทุกข์ด้วยกัน
และเก๋รับรู้ได้ว่าแฟนเก๋ต้องเจอความทุกข์ใจมากมายขนาดไหน เก๋เองก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน...น้ำตาของเค้า คือความเจ็บปวดสำหรับเก๋ รู้สึกเจ็บและทุกข์ไม่ได้น้อยไปกว่าเค้าเลย
ตอนนี้เราต้องปิดเรื่องความสัมพันธ์กับที่บ้านแฟนอย่างหนัก เพราะถ้าบอกไปเราคงโดนบังคับให้เลิกกัน
แฟนเก๋ต้องบอกที่บ้านว่าย้ายออกไปพักอยู่กับเพื่อนแล้ว เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน
แต่ก็เป็นแค่การขนของไปไว้ที่ห้องเพื่อนบางส่วน แชร์ค่าที่พักกัน แต่ตัวเค้ายังคงมาพักกับเก๋
เป็นทางออกที่แฟนเก๋คิดว่าน่าจะลดแรงกดดันจากที่บ้านได้บ้าง
การทำแบบนี้ไม่ได้สบายใจนักหรอก...ไม่มีใครอยากโกหก แต่เราก็ต้องจำใจทำเพื่อให้สิ่งต่างๆมันผ่านไปได้
เพื่อให้ถึงวันที่เค้าจะเปิดใจรับความรักของเราได้บ้าง
ถึงตอนนี้บางคนที่เคยอิจฉาว่าเก๋กับแฟนได้อยู่ด้วยกัน...อาจจะลดๆความอิจฉาลงได้บ้างแล้วนะ
เพราะสิ่งที่เรากำลังเจอมันก็หนักหนาอยู่เหมือนกัน
เราทั้งคู่ถึงได้สร้างพื้นที่เล็กๆของเราได้เป็นพื้นที่มีความสุขที่สุด...ใช้เวลาที่มีค่าที่ยังสามารถอยู่ด้วยกันแบบนี้ให้มีความสุขที่สุด เพราะเรารู้ดีว่ามันได้มาด้วยความยากลำบากขนาดไหน
เราสองคนไม่ได้คิดถึงทางข้างหน้าไปไกลว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน บางคนชอบคิดไกลว่าถึงยังไงเราก็คงไม่มีทางได้อยู่ด้วยกัน งั้นเราแยกทางกันซะตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า
เราไม่คิดแบบนั้น เรารู้แค่ว่าอย่างน้อยวันนี้เราก็ได้อยู่ด้วยกันอีกวัน และพรุ่งนี้เราก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกันแบบนี้ เราจะไม่ทิ้งกัน
เวลาที่ผ่านไปนานขึ้นทำให้เราเชื่อมั่นกันและกันมากขึ้นทุกวันว่าเราจะจับมือกันเดินไปแบบนี้ไม่ทิ้งกัน เราจะผ่านอุปสรรคด้วยกัน
ความรักที่ต้องผ่านความทุกข์ด้วยกัน เก๋ว่ามันทำให้เรารักกันเหนียวแน่นมากกว่าความรักที่ผ่านแต่ความสุขด้วยกัน
ความรักที่เก๋ได้รับจากแฟน ความเชื่อมั่นจากเค้าที่ไม่ทิ้งเก๋ไปไหน ทำให้เก๋บอกตัวเองว่า เก๋จะดีให้สมกับที่เค้าเลือกเก๋ ดีที่สุดเท่าที่เก๋จะทำได้
สำหรับครอบครัวของแฟนที่พยายามกีดกันและผลักไสเก๋ออกไปจากชีวิตลูกสาวของเค้า
เก๋เข้าใจดีว่าสิ่งที่เค้าทำเกิดจากความรักและหวังดีให้ลูกเค้าได้เดินทางที่ดี
ถึงแม้เค้าจะปฏิเสธเก๋ซะตั้งแต่ที่ยังไม่รู้จักเก๋ดี ถึงแม้เค้าจะทำให้เก๋รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอีกครั้งกับสิ่่งที่ติดตัวเก๋มาตั้งแต่เกิด
แต่เก๋ก็รักพวกเค้าทุกคน
รักพอๆกับที่เก๋รักพ่อแม่ของเก๋เอง
และเก๋อยากมีโอกาสดูแลพวกเค้า
ถ้าวันนึงเค้าจะเปิดใจให้เก๋ได้บ้าง คงเป็นสิ่งวิเศษสุดสำหรับเรา... เราคงร้องไห้น้อยลง
แต่หากเค้ายังคงไม่เปิดใจ เก๋กับแฟนก็คงเดินไปตามเส้นทางเล็กๆที่เรายังคงพอเดินได้ต่อไป หาทางไปเรื่อยๆเท่าที่เรายังมีทาง
จะทำให้ดีที่สุด
ความฝันของเก๋...เก๋เคยพูดให้แฟนฟัง
ถ้าชาติหน้ามีอยู่จริงๆ...เก๋ขอเลือกที่จะเกิดต่างเพศกับเค้า เพื่อให้เก๋ได้มีโอกาสแต่งงานกับเค้าซักครั้ง
เก๋พูดออกมาทั้งน้ำตา มันคงเป็นกรรม
แต่กลับเป็นกรรมที่มีสิ่งดีๆอยู่ในนั้น....เก๋มีคู่ชีวิตที่ดี
ใครจะว่าเก๋ทำอะไรให้แฟนเวอร์เกินไป น้ำเน่าเกินไปเก๋ก็ไม่สนหรอก
เพราะเก๋เป็นคนเดียวที่รู้ดีว่าแฟนเก๋เหนื่อยและสู้ด้วยกันมามากขนาดไหน
เก๋เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีอะไรจริงๆนั่นล่ะ
พ่อแม่ยากจนเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกันด้วยเงิน 15 บาท อาศัยกระท่อมเลี้ยงเป็ดเป็นบ้าน...เรียนจบมหาวิทยาลัยมาด้วยกองทุน กยศ.
พ่อแม่ไม่มีสมบัติ ไม่มีรถ ไม่มีบ้านให้
เริ่มทำงานก็คือการนับหนึ่งเริ่มต้นสร้างชีวิต หาเงินด้วยตัวเอง
แฟนเก๋คงเห็นแล้วว่าเก๋ไม่มีอะไรจริงๆ แต่ก็ยอมเลือกที่จะมาอยู่กับคนไม่มีอะไร แทนที่จะเลือกแต่งงานกับผู้ชายที่มีสมบัติและยื่นข้อเสนอให้สินสอดหลักล้าน
แฟนเก๋สุดยอดจริงๆนะ
เคยพูดไว้ว่า ถ้าลำบากเราก็จะลำบากด้วยกัน
"ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าวันนึงที่เราอด..เราไม่มีเงิน พี่จะให้เราทานอิ่มก่อนแล้วพี่ค่อยทานนะ
รับรองอยู่กับพี่ไม่ลำบาก
ให้ทานความรักของพี่แทนก้อนเกลือก็ได้
พี่น้ำเน่าใช่มั้ยล่ะ :)
น้ำเน่าแต่รักจริงนะ
Create Date : 23 เมษายน 2554 |
|
19 comments |
Last Update : 23 เมษายน 2554 20:05:09 น. |
Counter : 1922 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ปลวก IP: 125.25.232.233 23 เมษายน 2554 20:45:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดวงลดา 23 เมษายน 2554 21:10:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดาวริมทะเล IP: 118.174.154.244 23 เมษายน 2554 22:25:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: toeyao 23 เมษายน 2554 23:44:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: -..- (tictin ) 24 เมษายน 2554 1:57:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: boiishi 25 เมษายน 2554 17:04:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: bewithloved IP: 125.24.220.221 13 มิถุนายน 2554 8:37:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอิร์ธ IP: 203.170.19.2 22 กรกฎาคม 2554 11:14:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: การเดินทาง ของหัวใจ IP: 192.168.20.137, 202.129.55.188 1 ตุลาคม 2554 15:54:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก้อย IP: 182.232.92.208 23 เมษายน 2560 6:25:00 น. |
|
|
|
| |
|
|
sea_story |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]
|
ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกเส้นทางที่จะเดินได้
ถ้าเชื่อมั่นว่ากำลังทำสิ่งดี
..ก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองเราไม่ดี
คิด..พูด..ทำ.. ในสิ่งที่เชื่อว่าดีที่สุด
แล้วทุกอย่างจะดีเอง
|
|
|
ขอให้พี่เก๋สมหวังนะค่ะ
และเป็นกำลังใจให้พี่สองคนก้าวไปสู่ความสุขอย่างที่ตั้งใจค่ะ
และขอให้ความรักนำทางให้พี่สองคนสามารถฟันฝ่าอุปสรรค์ตลอดไปค่ะ