เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต คือเรื่องเล่าหลายๆเรื่อง..เมื่อเวลาผ่านไป
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
5 เมษายน 2554

ฝ่าน้ำท่วม...กรุงเทพฯ-สงขลา 29 มี.ค.- 3เม.ย.


จากข่าวการจากไปของย่า...ทำให้เก๋ต้องกลับบ้านที่สงขลาอย่างกระทันหัน โดยที่ได้ยินข่าวแว่วๆมาว่าเส้นทางลงใต้บางจุดมีน้ำท่วมสูง และอาจส่งผลให้รถผ่านไม่ได้

แต่ถึงยังไงเก๋กับน้องชายก็อยากเสี่ยงลงไปดู เพราะเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้เราดั้นด้นไปก็คือพ่อ พวกเราอยากยืนอยู่ข้างๆในวันที่พ่อต้องพบกับการสูญเสีย




เย็นวันอังคารที่ 29 มี.ค.
หลังเลิกงานเก๋รีบขึ้นรถแท็กซี่มุ่งหน้าไปสู่สถานีขนส่งสายใต้ ซึ่งนัดหมายกับน้องชายไว้ เราไม่ได้ซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าเพราะไม่มั่นใจเรื่องเส้นทางว่าจะสามารถผ่านได้หรือไม่


ระหว่างนั่งรถก็ฟังข่าวจากวิทยุเกี่ยวกับสภาพเส้นทางที่จะไป มีประกาศแจ้งเตือนว่าน้ำท่วมสูงบริเวณ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ผู้กำกับการในพื้นที่ให้สัมภาษณ์ว่ารถเล็กไม่สามารถผ่านได้ แต่รถใหญ่ยังสามารถผ่านได้อยู่


ซักครู่น้องชายที่ไปถึงสายใต้ก่อนเก๋ก็โทรมาบอกว่าตอนนี้ตั๋วลงไปสงขลาเต็มทุกค่าย เราจึงตัดสินใจซื้อตั๋วไปลงที่นครศรีธรรมราช แล้วค่อยหารถนั่งต่อไปที่สงขลาอีกที โดยที่ปกติระหว่างนครศรีธรรมราชและสงขลาจะใช้เวลาเดินทางประมาณสามชั่วโมง


เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยพวกเราทานข้าวและเข้าไปหาซื้อน้ำและขนมไว้เป็นเสบียงสองถุงใหญ่จาก 7-Eleven เพราะความไม่มั่นใจเส้นทางข้างหน้าว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน หรือบางทีรถอาจจะข้ามไปไม่ได้ แต่เราก็ยังมีอาหารสำรองไว้กับตัว กองทัพเดินด้วยท้องประมาณนั้น



รถทัวร์ที่เรานั่งเริ่มออกเดินทางเวลา 21:30 น. รถทัวร์น่าจะเดินทางไปถึงนครโดยใช้เวลาประมาณ 10 ชม.




เช้าวันที่ 30 มี.ค.
เราเข้าจุดที่มีปัญหาตรง อ.ไชยา ทราบได้ทันทีว่าเข้าเขตที่มีปัญหาแล้ว เพราะรถติดยาวมาก ช่วงเส้นทางที่รถติดยาวประมาณ 50 เมตร ใช้เวลาเคลื่อนตัวผ่านจุดนั้นไปประมาณ 1 ชม. ส่วนถนนอีกฝั่งที่ไว้ให้รถขาขึ้นกรุงเทพ ตอนนี้ไม่มีรถวิ่งเลย เพราะน้ำท่วมสูงมากจนเส้นทางถูกปิดไว้ไม่ให้รถวิ่งผ่าน

เมื่อรถผ่านไชยาไปได้ เราก็โล่งใจเพราะไม่คิดว่าจะมีตรงช่วงไหนมีปัญหาอีก



แต่ในระหว่างที่รถเข้าสู่ จ. นครศรีธรรมราช

เราเริ่มเห็นข้างทางเต็มไปด้วยน้ำ บ้านเรือนสองข้างทางถูกน้ำท่วม ถึงหลังคาก็มี บางบ้านก็พยายามนำรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์มาจอดไว้บนถนนเพื่อไม่ให้โดนน้ำท่วม เพราะถนนดูจะมีระดับที่สูงกว่าระดับบ้านสองข้างทาง
แต่เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่พยายามพารถไปจอดหนีน้ำไว้ตามที่สูง เพราะส่วนใหญ่ต้องปล่อยให้รถจมอยู่ใต้น้ำ พร้อมๆกับข้าวของในบ้านที่ตอนนี้ต่างก็ต้องยอมทำใจให้น้ำท่วมไปโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย


บางช่วงก็จะเห็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่นั่งๆยืนๆอยู่บนถนน เมื่อรถเข้าไปใกล้ๆก็เห็นชัดเจนว่าบริเวณนั้นเป็นจุดให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คนที่บ้านถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถอยู่ในบ้านได้ก็จะต้องมาอยู่ที่นี่ ฟังจากวิทยุท้องถิ่น บางคนไม่ได้กลับบ้านมาสองวันแล้ว เพราะน้ำท่วมสูงถึงหลังคา ต้องรีบออกมา ต่างก็บอกว่าในนาทีนี้ต้องทำใจ ข้าวของในบ้านคงเสียหาย แต่ก็ต้องเอาชีวิตรอดไว้ก่อน


ตรงจุดที่พักของผู้ประสบภัยจะมีข้าวและแกงที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้สำหรับผู้ที่ไปอยู่ได้ทานกัน คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นมีแต่ตัว ข้างๆตัวไม่มีข้าวของอะไรที่ขนออกมาจากบ้านได้เลย


น้ำที่ไหลมาเป็นลักษณะน้ำไหลเชี่ยวไหลตัดกับถนนจากด้านซ้ายไปขวาบ้าง บางจุดก็ขวาไปซ้าย ดูเหมือนจะเป็นน้ำป่าที่ไหลมาจากภูเขา


บางจุดน้ำไหลแรง เซาะดินพังจนกลายเป็นขั้นน้ำตก (ดูแล้วก็คิดถึงแฟน เพราะแฟนชอบน้ำตกเป็นชีวิตจิตใจ แต่น้ำตกที่ถนนตอนนี้เป็นสีเหมือนชาเย็น)

น้ำแรงมากจนทำให้กำแพงของวัดนึงที่ผ่านล้มพังไปทั้งแถบ


ช่วงที่มีสะพานคอนกรีตเล็กๆ น้ำไหลเชี่ยวเต็มจนถึงคอสะพานเกือบทุกสะพาน ถ้าไหลแรงถึงคอสะพานนานกว่านี้ ไม่นานสะพานคงขาดเป็นแน่แท้ ภาวนาในใจว่า ช่วยไปให้ถึงที่หมายไวๆก่อนสะพานพวกนี้หมดอายุขัยหน่อยเถอะ


ตอนนี้สภาพถนนบางช่วงมองเห็นพื้นถนนได้ลางๆ แต่บางช่วงน้ำลึกเกือบถึงหน้ากระโปรงรถกระบะ มองไม่เห็นพื้นถนน
มีเพียงรถที่วิ่งตามๆกันไป และอาศัยการสังเกตุไม้ที่ปักไว้เป็นจุดๆเพื่อให้เห็นได้ว่านี่คือขอบถนน หากพลาดออกไปนอกหลักไม้ รถก็อาจจะพลิกไปตกอยู่ในคูที่ขุดไว้แทนเกาะกลางได้...ไม่อยากจะนึกภาพเลย


เส้นทางที่เราผ่านได้แก่ ศิชล ท่าศาลา ซึ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นจุดหนักๆที่น้ำท่วมสูง

แล้วรถก็เข้าสู่ตัวเมืองด้วยความทุลักทุเล...คนขับคงเหงื่อตก และเดาได้ว่าถ้ากลับบ้านไปคงวิ่งไปหากระปุกยาพารามาทานแก้ปวดหัว


รถเข้าสู่ตัวเมืองนครเวลาประมาณ 12:00 น. ...โดยที่พวกเราค่อยๆทานเสบียงจนร่อยหรอไปเรื่อยๆ ส่วนคนอื่นๆก็ดูอ่อนเพลียจากการเดินทางรวมเกือบ 15 ชม.


รถจอดให้เราลงตรงแยกไหนซักแยก และบอกพวกเราว่า รถไม่สามารถเข้า บขส. ปลายทางที่เราต้องการไปได้แล้ว เพราะตอนนี้น้ำท่วมสูง


พวกเราหลายๆคนหน้าเหวอ....เพราะบางคนเพิ่งมานครศรีฯ เป็นครั้งแรก หลายคนใช้วิธีคล้ายๆกับเราคือไปให้ถึง บขส. นครก่อนแล้วที่นั่นจะมีรถให้เราไปจังหวัดที่ต้องการได้


แต่ที่นี่ไม่ใช่ บขส. แล้วเราจะนั่งรถอะไรกลับบ้าน? แถมยังไม่รู้ด้วยว่าที่คือจุดไหนของนคร


เก๋คิดจะไปถามพนักงานของรถว่าเราสามารถเดินทางไปหารถต่อไปที่สงขลาได้ยังไงบ้าง แต่ก็มีคนชิงตัดหน้าถามไปก่อน และได้คำตอบจากพนักงานว่า เค้าก็ไม่ทราบเหมือนกัน และไม่แน่ใจด้วยว่าจะมีรถที่เราต้องการรึเปล่า เพราะตอนนี้น้ำท่วมในตัวเมือง อาจไม่มีรถวิ่ง แล้วรถทัวร์ก็ทิ้งพวกเราไป ปล่อยให้คนหน้าเหวออีกประมาณสิบกว่าคนยืนหันรีหันขวางอยู่ตรงข้างทาง


ซักครู่ก็มีรถสองแถวผ่านมา เราคาดว่าจะเป็นรถที่วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองนคร(ดูจากป้าย) เลยไปถามคนขับเพื่อความแน่ใจ คนขับบอกกับเราว่าจะพาไปส่งตรงคิวรถตู้ที่จะเดินทางไปจังหวัดสงขลา

พวกเราเลยวิ่งกรูกันขึ้นไปนั่งบนรถ ยัดตัวเองเข้าไปให้ได้ ข้างละประมาณแปดถึงเก้าคน เพื่อไม่ให้มีใครตกหล่นอยู่ตรงนั้น


เก๋โทรศัพท์ไปบอกแม่ถึงการมาถึงนครแต่ไม่ได้ลงตามจุดที่ต้องการ...แม่มีท่าทีกังวล แต่เก๋ก็หัวเราะตอบแม่ไปเสียงเจื้อยแจ้วว่า แม่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็หาทางไปได้อยู่ดี นครแค่นี้เอง สบายมาก


ในตัวเมืองนคร ตอนนี้น้ำท่วมสูงเลยเข่า เกาะกลางเป็นพื้นที่สูงหน่อย เลยเป็นทำเลดีกลายเป็นที่ขายผัก ผลไม้ของแม่ค้าไป ทุกคนยังมีสีหน้าไหวอยู่ ส่งเสียงตะโกนทักทาย ถามความเป็นอยู่กันกันโหวกเหวก แต่ฟังไปฟังมาดูท่าจะไม่รู้จักกันก็มี เป็นเสน่ห์ของเมืองใต้ พวกเรามักจะรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน โดยที่ไม่จำเป็นว่าเราจะรู้จักกันรึเปล่า


และแล้วเราก็มาถึงคิวรถตู้ และได้นั่งรถกลับถึงสงขลาเวลาประมาณ บ่ายสามโมงกว่าๆ
รวมเวลาเดินทาง กทม.- สงขลา 18 ชม. (จากปกติ 12 ชม.)



บ้านเก๋ฝนตกฟ้าครึ้มสลับกับฟ้าโปร่งบ้าง แต่ยังไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม เพราะอยู่ใกล้ทะเล น้ำจึงสามารถระบายลงทะเลได้อย่างรวดเร็ว

และแล้วก็มาถึงตอนขากลับ ที่ลุ้นหนักกว่าขามา
เราต้องดูข่าวทุกวันเพื่อตรวจสอบว่าจะสามารถนั่งรถกลับกรุงเทพได้รึเปล่า


วันพฤหัสที่ 31 มี.ค.
เราขับรถไปที่หาดใหญ่เพื่อซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้เดินทางวันที่ 1 เม.ย.
แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่าขายตั๋วให้ล่วงหน้าไม่ได้ ช่วงนี้ต้องมาดูวันต่อวัน


วันศุกร์ที่ 1 เม.ย.

เราเก็บเสื้อผ้าเตรียมพร้อมเดินทางกลับ กะว่าซื้อตั๋วที่หาดใหญ่ ได้ตั๋วก็จะขึ้นรถเลย

แต่ก็ต้องจ๋อยอีกรอบเพราะวันนี้ตั๋วเต็มแล้ว เราเลยขอซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ยอม เพราะเรามาสองรอบแล้ว อ้อนวอนนิดนึง บ้านไม่ได้ใกล้หาดใหญ่ด้วย(บ้านเก๋อยู่ห่างจากหาดใหญ่เดินทางประมาณ 1:30 ชม.)
เลยได้ตั๋วตอนเก้าโมงเช้าของวันเสาร์ที่ 2 เม.ย.

วันเสาร์ที่ 2 เม.ย.
รอบที่สามของการมาหาดใหญ่เพื่อหารถกลับกทม. กะว่ารอบนี้ไม่พลาดแน่เพราะมีตั๋วอยู่ในมือ

แปดโมงครึ่งเตรียมของทุกอย่างมาพร้อม มาถึงท่ารถ อ้าวไม่เห็นมีรถทัวร์ เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ ได้คำตอบว่า วันนี้เส้นทางน้ำท่วมสูง รถไม่สามารถผ่านได้แล้ว ให้เราเลือกได้ว่าจะคืนตั๋ว หรือเลื่อนเวลาเดินทาง

ก็เลยถามว่ารถจะวิ่งได้อีกทีเมื่อไหร่ เค้าก็บอกว่าไม่แน่ใจต้องมาเช็คเป็นระยะ ขึ้นอยู่กับระดับน้ำ


นั่นก็หมายความว่า ถ้ารอต่อไป พวกเราก็ไม่ชัวร์ว่าจะได้กลับกทม.วันไหน


พวกเราจึงตัดสินใจขับรถกระบะของที่บ้านขึ้นมากทม. รถที่บ้านเป็นรถกระบะสี่ประตูตัวรถค่อนข้างสูง คิดว่าน่าจะไหวสำหรับการลุยน้ำ


แต่... พ่อกับแม่เป็นห่วงเลยไม่อยากให้เรามากันตามลำพัง เก๋ไม่อยากให้ท่านมานั่งรถลำบาก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง เกลี้ยกล่อมกันอยู่พักนึงว่าพวกเราไปกันตามลำพังได้ ท่านก็ไม่ยอม สุดท้ายเลยยอมให้ท่านมาด้วยกัน พ่วงชิสุมาด้วยหนึ่งตัว..ลูกรักของแม่


เราเดินทางออกจากบ้านเวลา 13:00 น. ก่อนออกเดินทางได้ลองโทรไปตามเบอร์สอบถามเส้นทางของทางหลวง แต่รู้สึกว่าสายจะฮอตมาก โทรไม่ติดเลย


สิ่งที่ทำได้ก็คือการช่วยเหลือตัวเอง...กางแผนที่ เราคิดกันไว้ว่าจะขับรถอ้อมไปทางฝั่งตะวันตก (บ้านเก๋ภาคใต้ฝั่งตะวันออก) เพื่อหนีเส้นทางสุราษฎร์ ที่มีปัญหาน้ำท่วมอยู่

เป็นเส้นทางที่เราเพิ่งลองมาครั้งแรก


เก๋ไม่แน่ใจว่าตอนนี้รถที่วิ่งระหว่างสงขลา-กรุงเทพเปิดให้ใช้เส้นทางได้ตามปกติแล้วรึเปล่า แต่ถ้าใครที่กำลังหาเส้นทางที่ไม่เสี่ยงกับการติดน้ำท่วม สามารถใช้เส้นทางเดียวกับเก๋ได้ค่ะ ลองมาแล้วผ่านตลอด ไม่เจอฝนหรือน้ำท่วมเลย แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจากฝั่งตะวันออกที่มืดครึ้มและมีฝนตกตลอดเวลา


เรากางแผนที่และใช้เส้นทาง
จากสงขลา --> ระโนด --> เชียรใหญ่(นครศรีฯ)--> ทุ่งสง(นครศรีฯ )
-->จ.กระบี่--> จ.พังงา-->จ.ระนอง แล้วตัดเข้าชุมพร ก็เข้าสู่เส้นทางสายหลักของถนนสายเอเชียตามปกติค่ะ


จะเป็นเส้นทางที่อ้อมข้ามนครศรีฯ กับสุราษฎร์ไป แล้วไปโผล่ที่ชุมพรเลย




แผนที่จากเว็บไม่ชัดนะคะ เอามาให้ดูจะได้นึกภาพออก

จากแผนที่ก๊องแก๊งของเก๋จะเห็นว่าเส้นทางที่เคยไปตามปกติ จะเป็นเส้นสีส้มหรือสีน้ำเงินผ่านนครศรีฯและสุราษฎร์ฯ

แต่เส้นทางใหม่ที่เลือกไปเป็นเส้นสีแดง เป็นภาคใต้ฝั่งตะวันตก ใช้สีเขียววงจังหวัดที่ผ่านไว้

เส้นทางนี้ค่อนข้างอ้อม ระยะทางไกลกว่าถนนสายเดิม ส่วนใครที่ลัดเลาะได้เก่งก็สามารถหาทางลัดตัดในแผนที่ที่แต่ละคนมีได้ค่ะ


** หากใครจะวิ่งเส้นนี้แนะนำให้ไปตอนกลางวัน เพราะถนนเป็นทางขึ้นลงเขาโค้งหักศอกเยอะมาก ถนนแคบ โดยเฉพาะช่วงพังงาและระนอง ไปตอนกลางวันจะปลอดภัยกว่าตอนกลางคืน และไม่แนะนำสำหรับคนที่ขับรถยังไม่เก่งค่ะ


แม่ให้เก๋เขียนหมายเหตุทำดอกจันไว้สองอัน ตัวโตๆ เขียนว่า เส้นทางอันตราย ควรหลีกเลี่ยง(รอบหน้าไม่ขอผ่าน)

แม่เก๋กลัวมาก แต่เก๋กับน้องชายรู้สึกว่ายังไม่น่ากลัวมากหากเราขับด้วยความระมัดระวัง


ถนนเส้นนี้ทำให้รถของเราคลัชพังไปเลย แต่คาดว่าคลัชเราน่าจะใกล้หมดอยู่ก่อนแล้ว พอเจอเส้นทางหินเข้าก็เลยสิ้นใจไปเลย เป็นช่วงเวลาดึกพอดี ทำเอาพวกเราใจตุ๊มๆต่อมๆ


น้องชายประคับประคองรถมาด้วยความเร็ว 60 กม/ชม. โดยพยายามขับยาวๆไม่เปลี่ยนเกียร์เพื่อให้เข้าเขตเมืองและหาศูนย์ซ่อมได้


ในที่สุดเราก็เจอศูนย์ที่หัวหินที่เปิดทำการวันอาทิตย์ ซึ่งตอนนั้นรถเข้าเกียร์สี่ไม่ได้แล้ว


พอมาจอดก็เจอเพื่อนหัวอกเดียวกัน อาการคลัชพังเหมือนกัน แล้วก็ผ่านเส้นทางระนองเหมือนๆกับที่พวกเรามา


เรามาจอดซ่อมอยู่ประมาณห้าชั่วโมง (นั่งจนม๋าทำหน้าเซ็ง)

สุดท้ายก็เดินทางมาถึงกทม. ซึ่งเป็นวันอาทิตย์เวลาประมาณสองทุ่ม


รวมเวลาเดินทางทริปนี้ 31 ชม.(รวมซ่อมรถ 5 ชม.)


กลับถึงห้องปวดเมื่อยไปหมดเลย...แต่ก็ยังสดชื่นได้อยู่ดี เพราะได้เจอยิ้มใสๆจากใครบางคน


ขอจบทริปหฤโหดไว้เพียงแค่นี้ค่ะ



เก๋ไม่แน่ใจว่ามีใครสนใจจะไปเส้นทางลงใต้แบบหนีน้ำท่วมตามที่เก๋ไปรึเปล่าคะ ถ้าสนใจบอกได้ค่ะเก๋จะได้เขียนเส้นทางที่ผ่านให้ละเอียดกว่านี้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับความห่วงใยจากทุกคนที่คอยมาถามข่าวคราวค่ะ

แล้วก็ขอส่งกำลังใจไปให้ผู้ประสบภัยทุกคนค่ะ..
ขอให้ฝนหยุดตกในเร็ววัน..เหตุการณ์ต่างๆจะได้คลี่คลายลง




 

Create Date : 05 เมษายน 2554
14 comments
Last Update : 5 เมษายน 2554 13:17:27 น.
Counter : 3686 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะคุณเก๋ เห็นคุณเก๋หายเงียบไป นึกได้ว่าบ้านคุณเก๋
โดนน้ำท่วมด้วยป่าว แต่ดูข่าวสงขลาไม่ท่วม แวะเข้ามาดู
ถึงที่บ้านน้ำไม่ท่วม แต่คุณเก๋ก้อต้องกลับบ้านในช่วงภาวะนี้
ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณย่าด้วยนะค่ะ

อ่านการเดินทางของคุณเก๋ในช่วงภาวะแบบนี้แล้ว เหนื่อยเลยนะ
แต่ยังงัยเราก้อไปถึงจุดหมายปลายทางได้โดยสวัสดิภาพ
ทั้งไปและกลับนะค่ะ คุณเก๋เล่าได้ละเอียดดีค่ะ
สงสารคนที่โดนน้ำท่วมนะค่ะ หมดตัวกันเลย
ดูข่าวแล้วได้แต่ส่งกำลังใจไปให้ค่ะ กว่าจะฟื้นตัวได้
ไม่รู้จะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนนะค่ะ

 

โดย: ดาวริมทะเล 5 เมษายน 2554 11:15:49 น.  

 

มีกำลังทรัพย์ได้ก็ส่งไปช่วยกันนะคะ ดีนะ เก๋ไม่เจอจระเข้ว่ายมาข้างๆ ให้ดูที่เมืองนคร

พี่เคยเจอน้ำท่วมทางขาดตอนไปเสียมเรียบค่ะ ก็ออกเดินทางจากปอยเปต 8 โมงเช้า ถึงเสียมเรียบเกือบสองทุ่ม (จากเดิมควรถึงบ่ายสองบ่ายสาม) นึกภาพเก๋ออกเลย (แต่ของพี่ทุลักทุเลไปอีกแบบ เพราะไม่มีอะไรเลยนอกจากน้ำกับฟ้าเวิ้งว้าง)

ดีใจด้วยนะคะ ที่ยิ้มใสๆ ของใครบางคนทำให้หายเหนื่อย

 

โดย: ดวงลดา 5 เมษายน 2554 11:28:37 น.  

 



 

โดย: พี่อ้วน_LEO 5 เมษายน 2554 12:39:56 น.  

 

มาแปะว่ามาแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านเน้อ ไว้คืนนี้จะมาตะลุยเก็บ

 

โดย: witch@thedog 6 เมษายน 2554 9:45:01 น.  

 

เก๋จ๋า..สวัสดีค่ะ ^^ มีความสุขมากๆนะคะ



ปล.อ้าวเก๋เจอน้ำท่วมเหรอ เดี๋ยวเค้ากลับมาอ่านนะจ๊ะ

 

โดย: หัวใจแก้ว 6 เมษายน 2554 10:33:21 น.  

 

ขอแสดงความเสียใจกับคุณเก๋ด้วยค่ะที่สูญเสียคุณย่า

31 ชั่วโมง!
เป็นการเดินทางกลับที่ยาวนานข้ามวันข้ามคืนจริงๆ ค่ะ
เมื่อก่อนปักษ์ใต้บ้านเราไม่ท่วม ต่อมาก็ท่วมบ้าง
แต่ครั้งนี้ถือว่าท่วมหฤโหดมาก
ธรรมชาติเอาคืนกับพวกเราทั้งต้นทั้งดอกจริงๆ

ดีนะคะที่วันนี้เป็นวันหยุด จะได้พักอีกสักวัน

 

โดย: คิคูจิโร IP: 125.25.30.175 6 เมษายน 2554 17:58:42 น.  

 

ต้อนรับกลับ กทม ค่ะ คุณเก๋
เสียใจกับคุณย่าด้วยนะค่ะ

อ่านแล้วหฤโหดมากค่ะ ๓๑ ชม.อะค่ะ ทางน่าจะโหดมากนะค่ะคุณเก๋ เราก็ไม่เคยขับไปไกลขนาดนั้นค่ะ

กลับถึงบ้านปลอดภัยดีแล้วค่ะ พักผ่อนเยอะๆนะค่ะ คุณเก๋

 

โดย: -..- (tictin ) 6 เมษายน 2554 23:45:08 น.  

 

เก๋จ๋า..สวัสดียามสายค่ะ ^^

 

โดย: หัวใจแก้ว 7 เมษายน 2554 10:25:20 น.  

 

มาอ่านแล้วล่ะ
เดินทางขนาดนั้น หฤโหดจริง ๆ น่าสงสารคนที่โดนน้ำท่วมนะ ที่จังหวัดบ้านมด ต่างอำเภอก็โดนกัน 2-3 เดือนกันเลยทีเดียว แต่เคราะห์ดีกว่าตรงที่ น้ำค่อย ๆ มา ไม่ได้มาวูบ ทีเดียว เหมือนทางใต้

 

โดย: witch@thedog 8 เมษายน 2554 6:50:34 น.  

 

สวัสดีค่ะเก๋

ได้อ่านแล้ว .. เอ้อ อึดจริงๆ ที่บ้านน้า บ้านป้า ที่นครฯ ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง ไม่ได้ถามข่าวคราวจากแม่เลย ได้คุยกับเพื่อนที่มีบ้านอยู่สุราษ น่าสงสารเอาการ เพราะคุณยายเพื่อนอายุ 80 ปีแล้ว บอกว่าไม่เคยเจอน้ำท่วมขนาดนี้มาก่อน

เป็นการเดินทางที่หนักเอาการเหมือนกันนะคะ ดีใจด้วยที่ได้กลับไปทำหน้าที่หลานที่ดีที่สุดส่งคุณย่า เป็นที่เรียบร้อย และได้กลับมาทำงาน อย่างปลอดภัย

เป็นกำลังใจให้ ทุก ๆ คน ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปได้ นะค่ะ

 

โดย: ฟ้าสีหม่น คืนไร้ดาว 8 เมษายน 2554 11:50:54 น.  

 

เ๋ก๋คะ...สวัสดีค่ะ



งานเยอะต้องพักผ่อนมากๆด้วยนะ เก๋หยุดสงกรานต์กี่วันอ่ะจ๊ะ ไปเที่ยวไหนขอให้ปลอดภัยตลอดๆนะจ๊ะ

 

โดย: หัวใจแก้ว 8 เมษายน 2554 22:58:37 น.  

 

เก๋จ๋า ชอบประโยคที่ว่าสดใสสมวัยนี่แหละจ๊ะ ถูกใจสุดๆ 555555555

 

โดย: หัวใจแก้ว 9 เมษายน 2554 9:34:16 น.  

 

ดีใจที่คุณเก๋และน้องชายปลอดภัยนะคะ

คุณแม่ ก็เป็นคุณแม่ที่น่ารักที่สุดเลย

 

โดย: พีช IP: 180.183.149.68 10 เมษายน 2554 12:43:17 น.  

 

หวัดดีจ้ะ เก๋ เดินทางกลับบ้านปลอดภัย

มีความสุข สนุกกับเทศกาล ด้วยจ้ะ

 

โดย: พี่อ้วน_LEO 10 เมษายน 2554 17:04:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


sea_story
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกเส้นทางที่จะเดินได้

ถ้าเชื่อมั่นว่ากำลังทำสิ่งดี

..ก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองเราไม่ดี

คิด..พูด..ทำ.. ในสิ่งที่เชื่อว่าดีที่สุด

แล้วทุกอย่างจะดีเอง
[Add sea_story's blog to your web]