The Beat That My Heart Skipped ... บทสรุปของใจ แต่ไม่ใช่สุดท้ายของชีวิต (2005)
อันว่าพรสวรรค์ไม่ว่าในด้านอะไรก็ตามนั้น ก็ใช่ว่าจะมีกันได้ทุกคน บางคน พยายามทำโน่นทำนี่สุดโต่ง จนประสบความสำเร็จ แต่นั่นมันก็มาจากการเข็นและรีดความพยายามสุดชีวิตออกมาใช้ แต่กับบางคน ก็มีบ้างที่กะจะแค่ลองๆหยิบจับ แต่เรตติ้งกลับพุ่งพรวดชนิดแทบตั้งตัวไม่ติด เราถึงเคยได้ยิน 2 คำนี้ บ่อยจนคุ้นหู พรสวรรค์ และ พรแสวง The Beat That My Heart Skipped เป็นหนังจากฝรั่งเศสที่เล่าถึง Tom หรือ Thomas ( Romain Duris ) ชายหนุ่มวัย 28 ปี ที่แม่ของเขาคือนักเปียโนหญิง ผู้ล่วงลับ Tom ทำงานในธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โดยหน้าที่หลักของเขาคือจัดการทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้เช่าที่หมดสัญญาหรือผู้แอบเข้ามาอาศัยออกไปให้พ้นจากพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นการใช้กำลังลงแรงกันอย่างไม่ปราณี ไม่มีถ้อยทีถ้อยอาศัยให้เห็น และบางที Tom ยังมีหน้าที่เป็น พนักงานเร่งรัดหนี้สิน ให้กับ Robert (Niel Arestrup) พ่อเขาด้วยอีกทาง จนวันหนึ่ง Tom ได้พบกับ Mr. Fox (Sandy Whitelaw) ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแลนักเปียโนคอนเสริทให้กับแม่ของเขา และการพบกันครั้งนี้เอง ที่กลายเป็นจุดพลิกผันให้กับชีวิตของ Tom เมื่อ Mr. Fox ได้ยื่นโอกาสให้เขาลองมาทดสอบในการเป็น นักเปียโนคอนเสริท Tom คิดจริงจังกับเรื่องการเป็นนักเปียโน และเขาได้ Miao-Lin (Linh-Dan Pham) นักเปียโนหญิงชาวจีน มาช่วยสอน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะเขาร้างการเล่นมานาน แถมช่วงชีวิตที่ผ่านมาก็ถนัดใช้แต่ความรุนแรงตีรันฟันแทงเข้าว่า มือไม้ท่าจะแข็งโป๊ก และการตั้งใจจะเอาดีทางด้านนี้ของเขา มันก็ทำให้ไปเบียดเวลาหน้าที่การงานประจำ ยังความฉุนเฉียวให้หัวหน้างานและเพื่อนร่วมทีมอยู่บ่อยครั้ง หนังเป็นส่วนผสมของความรุนแรง และอ่อนโยน ผ่านการแสดงของ Romain Duris ( The Russian Dolls (2005)) ที่รับบทเป็น Tom เพราะเมื่อยามที่ต้องออกแรงขับไล่ชาวบ้านหรือไปทวงเงินก็ดูโหดห้าว ประมาณว่า ใครอย่าขวางเสียให้ยากถ้าไม่อยากได้เลือด! และอีกด้วยลีลาท่าทางที่ยียวนกวนประสาท ออกจะติดตลกอยู่เล็กน้อยเมื่อเขาอยู่ต่อหน้าครูสาวชาวจีนสอนเปียโนที่พูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เลย!
ในฉากเหล่านี้ Tom ก็ดูจะเรียกเสียงฮาและรอยยิ้ม จากคนดูได้เป็นระยะๆ
บทหนัง เพิ่มความหนักแน่นให้กับเนื้อเรื่อง โดยให้ Tom ยังต้องคอยจัดการแก้ปัญหาให้พ่อทั้งเรื่องเงินและเรื่องผู้หญิง ซึ่งอยู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะและยังถือเป็นการเพิ่มมิติให้กับตัวละครเอกของเรื่องอีกด้วย ภาพรวมของหนังจึงมีเนื้อหาเข้มข้น หนักแน่น แต่มีผ่อนหนักเบาคละเคล้ากันไป ทั้งยังมีงานภาพ ที่สวย ให้ซึมซับอีกแรง รวมๆแล้วหนังแสดงให้เห็นถึง ความขัดแย้ง ระหว่างภายนอกและภายในจิตใจของตัวละครหลัก ทั้งจากสถานะภาพในปัจจุบันที่ออกแนวนักเลง แต่จู่ๆอยากจะเป็นนักเปียโนที่ต้องอาศัยความอ่อนโยน ใจเย็นมาเป็นบรรทัดฐาน ซึ่งดูแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ด้วยความที่เป็นลูกของนักเปียโน พรสวรรค์ตรงนั้นอาจจะมีส่วนมาช่วยผ่อนสมองและกล่อมเกลาจิตใจ ให้เขาได้กลับสู่การเป็นตัวตนที่แท้จริง
ในเวลาถัดไปThe Beat That My Heart Skipped เป็นผลงานการกำกับของ Jacques Audiard และร่วมกับ Tonino Benacquista เขียนบทหนังเรื่องนี้ขึ้นใหม่ โดยได้เค้าโครงเรื่องเดิมมาจากหนังเรื่อง Fingers ซึ่งเป็นหนัง cult จากปี 1978 ที่ Harvey Keitel เคยแสดงไว้ในบทหนุ่มที่อยากเป็นนักเปียโนคอนเสริท แต่หน้าที่หลักคือขาโหดที่คอยทวงหนี้ให้พ่อซึ่งเป็นมาเฟียกระจอกเช่นกัน หนังเป็นเจ้าของรางวัลบนเวทีใหญ่ๆมากมาย ล่าสุด เป็น รางวัล BAFTA ของประเทศอังกฤษ ที่ The Beat That My Heart Skipped คว้ารางวัล Best Film not in the English Language , 2006 มาครอง (ปีที่แล้วตกเป็นของ Brokeback Mountain (2005)) ( ข้อมูลรางวัลดูเพิ่มเติมได้ที่ //www.imdb.com/title/tt0411270/awards ) Format :: @ House
Create Date : 28 สิงหาคม 2549
21 comments
Last Update : 9 กันยายน 2549 15:03:26 น.
Counter : 1253 Pageviews.
โดย: unwell 30 สิงหาคม 2549 8:09:20 น.
โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.13.139 30 สิงหาคม 2549 14:23:22 น.
โดย: ดำรงเฮฮา 31 สิงหาคม 2549 22:55:06 น.
โดย: keyzer 1 กันยายน 2549 1:48:35 น.
โดย: แป๊กก 1 กันยายน 2549 6:21:09 น.
โดย: wanga IP: 202.133.176.208 6 กันยายน 2549 11:57:40 น.
โดย: wanga IP: 202.133.176.208 6 กันยายน 2549 12:25:52 น.
.Just wait until night
then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ เด็ก ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31
น่าดูนะ
read my lips ก็ยังไม่ได้ดู