Bloggang.com : weblog for you and your gang
จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
สลักนาม
ยามเยี่ยมชม
เพื่อภิรมย์กับ
สิ่งฝัน
คอยค่อยเพิ่ม
สะสม
กัน
จึงคัดสรรนำ
ภาพ
มา
พร้อม
วิชา
พาเพลิดเพลิน
อย่าหมางเมิน
บ้านเมือง
ไทย
รักษาใจ
ให้เห็นจริง
ปลดปล่อย
ทิ้ง
เรื่องวันวาน
พฤศจิกายน 2566
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
7 พฤศจิกายน 2566
ความสุขไร้ราคา
All Blogs
ความสุขไร้ราคา
ดอกไม้ผลิบาน
ความทรงจำนิสิต MSIT14 @ KU
ความทรงจำนิสิต MSIT13 @ KU
เส้นทางก้าวเดิน
Pay it forward
สมการความรู้สึก
Rest in peace: Steve Jobs
Farewell นิสิต MSIT12 @ KU
เทียนส่องใจ
ลูกศิษย์รุ่นแรก MSIT11 @ KU
Cambridge Mayball 2009
จังหวะชีวิต
ครบ 2 รอบ (ฐาน 16)
รวมมิตร
Live as if this was paradise on earth
ท่วงทำนองของชีวิต
ปิดกลุ่มรักษาใจให้เห็นจริง
หลบหน้าหลบตา
พาเพื่อนเที่ยว
ได้แต่ทอดถอนใจ
ช่วงที่ดีที่สุด
แผ่นดินไหว
เรื่องราวของการรอคอย
ชื่อเสียงบนกระดาษ
ลมหายใจของฤดูหนาว
จัดข้าวจัดของ
กรอบกรงความคิด?
กับความเปลี่ยนแปลง
คิดถึง(จึงห่างหาย)...
เพียงฉันท้าทาย...
ชีวิตและการเรียนรู้...
เหมือนฝันวันวาน...
ภาษีของฉัน...
ไว้อาลัย...
ฤดูหนาว
ฤดูใบไม้ร่วง
In search of liberty
กลอนเรื่อยเปื่อย...
TrueMove แสนแย่
สงครามจิตวิทยา?
นั่งพักกันเถิด...
แสนสงสัย...
ระรอกคลื่น...
เทียนส่องทาง...
ภาพภายนอกหน้าต่าง...
กลิ่นอายของกระดาษ...
ระบายเรื่องราว...
You are my HERO...
ผ่านไปอีกปี...
รักเมืองไทย...
ยามหนาว...
พักกลางวัน...
บางเสี้ยวอารมณ์...
ที่มาของ "ไร้นาม"...
ในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง...
กระดานข่าวไม่เสรี
ภาพแห่งความหลัง...
ออกไปดูข้างนอก...
กับเรื่องราวที่ผ่านไป...
รู้สึกมีคุณค่า...
ทีละเล็ก ทีละน้อย...
ทำอะไรอยู่ที่นี่?...
ริมทาง...
เคว้งคว้าง...
ความฝัน...
ทำไม...
ชีวิต...
Rhythm in Dublin
Freedom in Ireland
๏ ฟ้า ฝน ดิน ไฟ ๏
A walk through Liverpool
A trip in Munich
The sound of Salzburg
The differences in Bristol
Tales in Winchester
The taste of Cardiff
The Isle of Wight
An experience in Grenoble
A Moment in Freiburg
The life of Scotland
Memories in Scandinavia
A Journey in Warsaw
A melody of Japan
Steps in Istanbul
A touch of California
วันวานที่ผ่านเลย
ดอกหญ้า
Stray Birds
Still Soul
งามอย่างไทย
The Translations
Food for thoughts
มหาสงครามแห่งนครคณิตกร
The Destiny
Inspiration
The Dialog
The Innocent World
Melody of Life
Short Thought
Poem
ความสุขไร้ราคา
บทความข้างล่างนี้แต่งไว้นานละระหว่างนั่งรถไฟไปเมืองมรดกโลก Nikko จาก Yokohama (เพราะตอนนั้นเดือน Apr 2003 บินไป Present Paper ในงาน Conference ที่ Yokohama ประเทศญี่ปุ่น สมัยเป็นนักเรียน PhD ที่เคมบริดจ์) เพิ่งเจอเลยเอามาบันทึกไว้
==========
มีหลายคนวางศักดิ์ลงให้เงินซื้อ
หลงค่าหรือถืออุ่นนักรักมากไหม
แบกเงินตรามูลค่าหนักลงปักใจ
กอบโกยไว้ใฝ่ฝันใช้แลกสุขมา
คราวก่อนไปอ่านกระทู้พันธุ์ทิ
พย์อันหนึ่ง
เขียนไว้ประมาณว่าทำไมคนเราต้
องเรียนคอมพิวเตอร์กันยากๆ
จบไปก็คิดแต่จะไปเป็นลูกจ้างเค้
าอย่างเดียวหาเงินอะไรก็ไม่ได้
เยอะอย่างที่คนที่
เค้าคิดจะเป็นนายจ้างเค้ามีกัน
ในกระทู้นั้นมีการถกเถียงกั
นพอควร มีคำพูดนึงที่สะกิดใจอ่านได้
ใจความว่า
"หาเงินเยอะๆ ซื้อความสุขได้"...
ตามเส้นทางวางด้วยเงินเพลินมื
ดบอด
ฤๅจะรอดมัวแต่หลงสิ่งตรงหน้า
เลือกเฉือนเฉือดเลือดเย็นเน้
นเงินตรา
ช่างไร้ค่าหากราคาวัดด้วยใจ
เห็นผ่านตาแล้วก็สะกิดใจไปเหมื
อนกัน... อยู่ๆ คำถามมากมายก็เกิดขึ้นมาในหัว..
.
คนเราที่ทนลำบากทำอะไรเกินตัวก็
เพื่อหาเงิน
ด้วยทัศนคติเพียงเพื่อซื้
อความสุขเหรอ?
แล้วทำไม ต้องหาให้มากมายกว่าสิ่งที่จะซื้
อหาปัจจัยสี่
แล้วไม่รู้จักหาความสุขไปตรงๆ
โดยไม่ต้องไปอ้อมๆ วิ่งไปหาเงินทั้งๆ
ที่สิ่งนั้นอาจทำให้เกิดทุกข์
ในระหว่างเส้นทางล่ะ?
กลายตัดสิ้นสิ่งควรอย่างน้ำมิตร
ไมตรีจิตปลิดขาดพิฆาตได้
แม้ศักดิ์ศรีมียอมลดหมดค่าใจ
ด้วยแลกไว้ให้เงินซื้อคือง่
ายดาย
พอมองไปรอบๆ ตัว แต่เล็กจนโต
สังคมของเราเองที่สั่งสอนให้
คนเราเห็นว่าเงินมีค่ามากมาย...
แม้จะสอนคุณธรรมไปในเวลาเดียวกั
น แต่ในชีวิตจริง
มีกี่คนกันที่เข้าพวกตั้
งใจหาเงินอย่างตรงไปตรงมา
คนจำนวนมากในสังคม 'เลือก' ที่จะทำในสิ่งที่ตนไม่ชอบ หรือแม้กระทั้งสิ่งที่ผิดๆ
ก็เพียงเพื่อ "เงิน"
เพลินภาพสุขบนกองทุกข์กลับไม่รู้
โดนลวงอยู่หูตาหลับดับควรหมาย
ยามเริงสุขสร้างทุกข์ทนไม่ระคาย
ลืมสุดท้ายเงินหายได้ ใครลำเค็ญ?
คำว่า "เงิน" กินภาพมากกว่าธนบัตร... มันรวมถึงภาพฐานะ
ตำแหน่งการที่ใหญ่โตและอะไรๆ มากมาย...
ถ้าคนเหล่านั้นทำด้วยใจรักอย่
างตรงไปตรงมา แล้วนั่นคือผลตอบแทนดีๆ
ของเค้าและคนรอบตัวก็น่าสรรเสริ
ญ
แต่ถ้าเค้าทำด้วยความทุกข์ (ซึ่งเค้าอาจไม่รู้ เพราะสิ่งต่างๆ
ในสังคมหลอกเค้าว่านั่นคื
อความสุข) และสร้างทุกข์
จะทำไปทำไมกัน... นั่นคือภาพสะท้อนว่าคนเรากำลั
งหลงทางหรือเปล่า?
เพียงลุ่มหลงยอมปลงค่าคร่าชีวิต
เลือกลิขิตผิดเส้นทางวางทุกข์
เข็ญ
จักจนอับกลับไม่ได้อย่างเคยเป็น
ทุกข์เช้าเย็นยึดติดเห็นเป็นกั
งวล
ถ้าคนเราไม่ได้ต้องการเงิ
นทองมากมายเพื่อไปทำอะไรที่สำคั
ญ
แต่สิ่งที่เป็นแรงขับให้เราทำนั่
นคือ "กิเลศ"
กิเลศที่ลวงหลอกเราว่าเป็
นทางไปหาความสุข
นั่นก็คือเรากำลังโดนหลอกให้เดิ
นทางอ้อมใช่หรือไม่?
ไยไม่เลือกสร้างสุขบนทางสุข
ไยจึงเลือกก่อทางทุกข์เป็นถนน
ไยจึงเชื่อภาพลวงตาไร้ตัวตน
ไยยอมทนให้เงินตราซื้อค่าไป
เพราะคนเรา ถ้าพอมีเงินทองใช้อย่างพอตั
วแบบไม่ต้องเป็นกังวล
ทำไมไม่เลือกเดินทางตรงๆ
เสาะหาความสุขตรงๆ ด้วยตัวเอง
แทนที่จะไปทนแบกเอาความทุกข์เพื่
อสร้างความสุขเล่า?
หากหยุดคิดซักนิดคงจะรู้
หากหยุดลองตรองดูเลิกหวั่นไหว
จักปล่อยสิ้นกิเลศลวงห่วงหลอกใด
เพียงวางไซร้กลับเกิดสุขทั้
งใจกาย
กลับมาที่กระทู้พันธุ์ทิพย์... ความคิดของเราก็ง่ายๆ เราเรียนคอมพิวเตอร์...
ไม่ได้คิดไปไกลมากมาย
ว่าจะต้องไปเป็นลูกจ้างเค้า หรือเพื่อจะคิดใหญ่โตเปิดบริษั
ททำเงินมหาศาล
อะไรต่อมิอะไร...
ดังนั้นคำตอบของเราก็เลยเป็น: "เรียนทางนี้เพราะมีความสุขที่
ได้เรียน"
อุดมการณ์หวานฉ่ำล้ำเลอค่านัก
ลองร้อยรักรักษ์ด้วยใจใช่ซื้
อขาย
ผูกศรีศักดิ์ปักใจลงที่หลงคลาย
เลิกเสียดายด้วยหมายมั่นฝันอย่
างควร
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2566 17:02:16 น.
1 comments
Counter : 208 Pageviews.
Share
Tweet
บันทึกเพิ่มเติมเมื่อเวลาผ่านมา 20 ปีพอดีเป๊ะ /คุยกับตัวเองสมัยเป็นนักศึกษา
=============================================
๏ เมื่อเดินผ่าน กาลเวลา อนาคต
เกิดปรากฎ หลายเรื่องราว ไม่คาดฝัน
สิ่งที่ทำ ให้แย้มยิ้ม อิ่มทุกวัน
คือเส้นทาง ที่เชื่อมั่น นั้นสุขใจ ๚
ผ่านมายี่สิบปีกับการเดินทางตาม "ความชอบใจ" ของตัวเองโดยไม่ได้สนใจข้อเสนอและคำเชิญชวนมากมายที่มาในรูปของเงินตรา เช่น สมัยต่อมาหลังจากเขียนบทความข้างต้น ก็มีช่วงนึงลองไปทำงานอยู่เมืองนอกหาประสบการณ์ แล้วจุดนึงก็ตัดสินใจเลือกทิ้งเงินเดือนสูงๆ กลับเมืองไทยเพราะคิดว่าจะมีความสุขกว่าถ้ากลับมาอยู่กับครอบครัว (แม้เงินเดือนจะลดลงถึง 3 เท่าตัว เงินเดือนใหม่ยังไม่เท่าเงินที่เหลือเก็บแต่ละเดือนสมัยเมืองนอก แบบจะหักค่ากินอยู่ทั้งหมด) จำได้ว่าเมื่อสิบกว่าปี่ก่อนช่วงที่ตัดสินใจกลับเมืองไทย หลายๆ คนตอนนั้นก็คัดค้านกันมากมาย
๏ ความสดชื่น เมื่อหัวใจ รู้พอดี
จึงมีสุข ในถิ่นที่ เลือกอาศัย
แล้วเงินตรา จะมาเอง ยามเพลินไป
จับสิ่งไหน สนุกไว้ จักโชคดี ๚
ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอะไรๆ หลายอย่างพร้อมๆ กัน และ สิ่งที่เลือกก็คือทางที่รู้สึกว่าชอบ และ สนุก ก็เลยกลายเป็นคนที่ทำงานหลายๆ อย่างเป็น Parallel แบบไม่ได้ตั้งใจ (รับ Part-time ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องบังเอิญมีคนชวน) ที่น่าสนใจคือบอกบริษัททุกแห่งที่ไปทำตั้งแต่ถูกชวนไปสัมภาษณ์ (ขอใช้คำว่า "ชวน" กับงานประจำเหมือนกัน เพราะที่ย้ายงานแต่ละครั้งก็ไม่เคยสมัครงาน) บอกว่าส่วนตัวมี commitment ข้างนอกหลายแห่งและถ้าย้ายงานที่ใหม่ก็คงไม่ทิ้ง part-time นะ ปรากฎว่าทุกทีสนับสนุนให้ทำหลายๆ อย่างพร้อมๆ กันหมด / ขนาดตอนสิบปีที่แล้วไปบอกพี่หัวหน้าคนเก่าว่า คิดจะ start-up บริษัทนะ พี่หัวหน้าก็ยังสนับสนุนให้ใช้วันลาพักร้อนไปตั้งบริษัท (จับมืออดีตลูกค้า ที่อเมริกา /ได้ไปทำงานขึ้นระบบให้เค้าแล้ว click เลยลองตั้งบริษัทกันที่ Silicon Valley แบบเอามันส์ 555) อยาก start-up ไม่ใช่เพราะเงินแต่เพราะอยากลอง / และก็มีจังหวะที่เพื่อนในวงการมาชวนลงทุนบริษัทสาย Tech ที่ต่างประเทศ (แบบลงทุนตอนยังไม่เห็นอนาคต) ตรรกะข้าพเจ้าคือลงทุนไม่ใช่เพราะหวังผลตอบแทน แต่เพราะ รู้สึกว่า "ธุรกิจนี้น่าสนใจ" สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การลงทุนกับธุรกิจที่น่าสนใจสามารถทำกำไรได้เยอะกว่าลงทุนในธุรกิจที่เค้าร่ำลือกันว่าดี (คือไม่จำเป็น/และไม่ควร ไปลงทุนตามกระแส < สังเกตุมานานละว่าอะไรๆ ที่ตามกระแสส่วนใหญ่คือต่อไปจะไม่ดีเพราะตอนที่สิ่งนั้นดังคือช่วง peak ก่อนจะร่วง) ส่วนตัวคิดว่าคนเราทำอะไรที่เราสนใจดีกว่า ทำด้วยความสุขของเราเอง ไม่ต้องไปวิ่งวุ่นตามกระแส ด้วยความโลภเงินทอง แล้ว อะไรๆ ดีๆ (ที่บางทีอาจจะดีมากกว่าเส้นทางตามกระแสที่คนเค้าร่ำลือกัน) มันก็จะมาเอง
๏ เพียงไม่หลง กับเส้นทาง ของคนอื่น
เมื่อใจตื่น ก็ก้าวไป ด้วยศักดิ์ศรี
ปล่อยเงินตรา เป็นเรื่องรอง จักกลับมี
สิ่งดีดี เวียนมาหา เข้ามาเอง ๚
โดย:
ไร้นาม
วันที่: 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา:14:24:07 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [
?
]
"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
หนูจำมัย
B.F.Pinkerton
เป่าจิน
mildsteel
salathai
ป่ามืด
จอมยุทธเมรัย
สาวไกด์ใจซื่อ
Mint@da{-"-}
นายทิวา
ปะหล่อง
กรวี
Ar@p
JewNid
FaCtOrY cHeeSeCaKe
dont wanna no
emrysmerlin
KAVINT
เต้าหู้หิมะ
POL_US
เจ้าชายเท้าเปล่า
Wirincity
สเลเต
ครีเอทีฟ หัวเห็ด
บังอร-บังเอิญ
นุทศรี!!
LE BALLON
Clear Ice
สดายุ...
animE'
ดังตฤณ
แมวน้อยของเสี้ยวเทียน
กิ่งไม้ไทย
บุษบามินตรา
ปูขาเก เซมารู
ปลาทูน่าในบ่อปลาพยูน
Noumy
Baby Lee
jaa_aey
zMee
ดา ดา
พิรฌาน
rajasit
Carlziess Lens
นายเบียร์
โจโฉ
อพันตรี
LooKPat
NonMagicKitty
cottonbook
Mr.Vop
uggie*
อะไรก็ได้
ยี่หร่า@
เกลอแก้ว
โสมรัศมี
Bacteria!
แมวโต๋เต๋
Jannyfer
หนูเพ็ญ
Plin, :-p
นาราคำ
สามขีด |||
ศล
ประชาชน(ไทย)
tenno_jung
Sky
orangepuff
Petit Patty
Mocha Macchiato
basbas
grassroot
SevenDaffodils
Maoh
ปืนติดพิษ
amatuer translator
โมกสีเงิน
ปุณยา
naragorn
นักดูจิต
aston27
ไกลนั้น
Pormaid
magarita30
chirala
dtredwing
rainam
Webmaster - BlogGang
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
Thai Cambridge
My Website
ลานธรรมเสวนา
My Exteen Blog
My Blogspot Blog
BlogGang.com
MY VIP Friends
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
=============================================
๏ เมื่อเดินผ่าน กาลเวลา อนาคต
เกิดปรากฎ หลายเรื่องราว ไม่คาดฝัน
สิ่งที่ทำ ให้แย้มยิ้ม อิ่มทุกวัน
คือเส้นทาง ที่เชื่อมั่น นั้นสุขใจ ๚
ผ่านมายี่สิบปีกับการเดินทางตาม "ความชอบใจ" ของตัวเองโดยไม่ได้สนใจข้อเสนอและคำเชิญชวนมากมายที่มาในรูปของเงินตรา เช่น สมัยต่อมาหลังจากเขียนบทความข้างต้น ก็มีช่วงนึงลองไปทำงานอยู่เมืองนอกหาประสบการณ์ แล้วจุดนึงก็ตัดสินใจเลือกทิ้งเงินเดือนสูงๆ กลับเมืองไทยเพราะคิดว่าจะมีความสุขกว่าถ้ากลับมาอยู่กับครอบครัว (แม้เงินเดือนจะลดลงถึง 3 เท่าตัว เงินเดือนใหม่ยังไม่เท่าเงินที่เหลือเก็บแต่ละเดือนสมัยเมืองนอก แบบจะหักค่ากินอยู่ทั้งหมด) จำได้ว่าเมื่อสิบกว่าปี่ก่อนช่วงที่ตัดสินใจกลับเมืองไทย หลายๆ คนตอนนั้นก็คัดค้านกันมากมาย
๏ ความสดชื่น เมื่อหัวใจ รู้พอดี
จึงมีสุข ในถิ่นที่ เลือกอาศัย
แล้วเงินตรา จะมาเอง ยามเพลินไป
จับสิ่งไหน สนุกไว้ จักโชคดี ๚
ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอะไรๆ หลายอย่างพร้อมๆ กัน และ สิ่งที่เลือกก็คือทางที่รู้สึกว่าชอบ และ สนุก ก็เลยกลายเป็นคนที่ทำงานหลายๆ อย่างเป็น Parallel แบบไม่ได้ตั้งใจ (รับ Part-time ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องบังเอิญมีคนชวน) ที่น่าสนใจคือบอกบริษัททุกแห่งที่ไปทำตั้งแต่ถูกชวนไปสัมภาษณ์ (ขอใช้คำว่า "ชวน" กับงานประจำเหมือนกัน เพราะที่ย้ายงานแต่ละครั้งก็ไม่เคยสมัครงาน) บอกว่าส่วนตัวมี commitment ข้างนอกหลายแห่งและถ้าย้ายงานที่ใหม่ก็คงไม่ทิ้ง part-time นะ ปรากฎว่าทุกทีสนับสนุนให้ทำหลายๆ อย่างพร้อมๆ กันหมด / ขนาดตอนสิบปีที่แล้วไปบอกพี่หัวหน้าคนเก่าว่า คิดจะ start-up บริษัทนะ พี่หัวหน้าก็ยังสนับสนุนให้ใช้วันลาพักร้อนไปตั้งบริษัท (จับมืออดีตลูกค้า ที่อเมริกา /ได้ไปทำงานขึ้นระบบให้เค้าแล้ว click เลยลองตั้งบริษัทกันที่ Silicon Valley แบบเอามันส์ 555) อยาก start-up ไม่ใช่เพราะเงินแต่เพราะอยากลอง / และก็มีจังหวะที่เพื่อนในวงการมาชวนลงทุนบริษัทสาย Tech ที่ต่างประเทศ (แบบลงทุนตอนยังไม่เห็นอนาคต) ตรรกะข้าพเจ้าคือลงทุนไม่ใช่เพราะหวังผลตอบแทน แต่เพราะ รู้สึกว่า "ธุรกิจนี้น่าสนใจ" สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การลงทุนกับธุรกิจที่น่าสนใจสามารถทำกำไรได้เยอะกว่าลงทุนในธุรกิจที่เค้าร่ำลือกันว่าดี (คือไม่จำเป็น/และไม่ควร ไปลงทุนตามกระแส < สังเกตุมานานละว่าอะไรๆ ที่ตามกระแสส่วนใหญ่คือต่อไปจะไม่ดีเพราะตอนที่สิ่งนั้นดังคือช่วง peak ก่อนจะร่วง) ส่วนตัวคิดว่าคนเราทำอะไรที่เราสนใจดีกว่า ทำด้วยความสุขของเราเอง ไม่ต้องไปวิ่งวุ่นตามกระแส ด้วยความโลภเงินทอง แล้ว อะไรๆ ดีๆ (ที่บางทีอาจจะดีมากกว่าเส้นทางตามกระแสที่คนเค้าร่ำลือกัน) มันก็จะมาเอง
๏ เพียงไม่หลง กับเส้นทาง ของคนอื่น
เมื่อใจตื่น ก็ก้าวไป ด้วยศักดิ์ศรี
ปล่อยเงินตรา เป็นเรื่องรอง จักกลับมี
สิ่งดีดี เวียนมาหา เข้ามาเอง ๚