จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
5 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
Rhythm in Dublin



เต้นไปด้วยใฝ่ฝัน
ว่าสักวันจะยิ่งใหญ่
จังหวะชีวิตใด
ก็มั่นใจไม่ครามครัน


เล่าต่อ... ช่วงนั้นชีวิตจะสนุกสนานกะเพื่อนๆ พอควร ตอนเย็นพวกเราก็ชวนกันไปเที่ยว Jameson Distriller ซึ่งเป็นผู้ผลิต Whisky เจ้าดัง อาหารเย็นที่นั่นอร่อย แถมมีการแสดงพื้นบ้านเต้นปลายเท้าที่สนุกอีก สิ่งที่แปลกใจคือได้ลองดื่ม Whisky อายุ 120 ปีแก้วเล็กๆ ที่หอมนึกไม่ถึงทีเดียว (ปกติเป็นคนไม่ชอบ alcohol เพราะขม)



เหนื่อยหน่ายก็ไม่ท้อ
ด้วยใจรอขอมุ่งมั่น
เริงร่าเรื่องใดกัน
หรือเพียงฉันฝันเรื่อยไป


งานนี้ได้ลองอีกอย่างคือ Irish Coffee (Whisky + sugar + coffee + cream) ก็รสชาติแปลกๆ ดีไม่ค่อยชอบมากเท่าไหร่แต่เพื่อนๆ ชอบกันมาก บางทีก็ไม่เข้าใจนักกับพวกฝรั่งที่ดื่มเครื่องดื่มต่างๆ ต่างน้ำ นึกย้อนไปดูก็เคยมีการประชุมที่เคมบริดจ์ครั้งนึงที่ฉันลองดื่มเยอะๆ กับเพื่อนสนิทดู เพื่อนๆ ก็ชนแก้วแข่งกันแล้วก็เลยลองไปดื่มกะเค้าด้วย พอดีฟรี.. ด้วยความงกเลยสั่งไปทุกอย่างเช่น on the rock แก้วนึง (ไม่หย่อย), barcardi ขวดนึง (อร่อย), smern off ขวดนึง (อร่อย), white wine แก้วนึง (ก็ดี), red wine แก้วนึง (ไม่หย่อย) และก็ vodka ผสมกระทิงแดงแก้วนึง (อร่อย) โชคดีไม่เมาเลยถูกทักว่าคอแข็ง (แต่ก็ไม่เคยลองอีก)



ดื่มด่ำคำเย้ายวน
ถูกเชิญชวนให้หลงใหล
จนก้าวข้ามเลยไกล
เกือบเกินใครจะห้ามทัน


แต่ช่วงชีวิตที่สนุกสนาน ก็เป็นเพียงสิ่งที่ผ่านมาแล้วผ่านไป หลายๆ ครั้งสิ่งต่างๆ ก็ชวนให้หวนกลับมานึกถึงปัจจุบัน จำได้ว่าไปเที่ยวคราวนี้ฉันมีเรื่องให้คิดหนักมากๆ คือจะกลับเมืองไทยดีไหม? ตอนนั้นได้งานที่อังกฤษหลายแห่งชวนให้อยู่ต่อ ทั้งงาน contract ทั้งงานประจำ ตั้งแต่ไปเป็นสาว office ทำงานด้าน financial consultancy แถว the bank (London) ซึ่งไม่เกี่ยวกับที่จบนัก จนถึงงานที่ตรงสุดๆ คือเอา research ตัวเองไปทำเป็นเงินในบริษัท start-up ที่เด็กๆ PhD ชวนกันไปทำที่ Manchester Science Park (ได้ทุนจากอเมริกา) หรือไม่ก็เซ็นต์สัญญาต่อกับที่เดิม...



เพียงเสียงดนตรีจบ
ได้พลันพบว่าที่ฝัน
แค่ภาพหลอกตากัน
ให้หัวปั่นคิดฝันไป


ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิด... สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับเมืองไทย ทิ้งอะไรหลายๆ อย่างไว้ที่นั่น กลับบ้านมาที่บ้านก็บ่นเสียดายกันใหญ่ ถูกไล่ให้กลับไปอังกฤษ (เพราะมีงานนึงเค้ารออยู่... ก็งานตั้งบริษัทใหม่กันน่ะแหล่ะ) ก็ดื้อไม่กลับจะทำงานเมืองไทยอยู่บ้าน แล้วก็มีงานจาก holland มาชวนอีก คิดหนักสุดๆ สุดท้ายก็ตัดใจๆ พยายามห้ามกิเลสแล้วเลือกทำงานบริษัทหนึ่งที่เมืองไทยที่เราคิดว่าดีที่สุด



จึงหยุดด้วยหลงรู้
แล้วทวนดูว่าอยู่ไหน
แล้วก็ตัดสินใจ
เดินกลับไปหาจุดเดิม


แต่งานที่เมืองไทยทำให้ผิดหวังค่อนข้างสูง ทุกๆ เดือนก็จะมีบริษัทต่างๆ มาชวนไปทำงาน ฉันก็บ้าอุดมการณ์เห็นว่าเป็นบริษัทฝรั่งก็ไม่ไปมั่ง หรือว่างานที่ทำมันผูกมัดเลยทุ่มเท ไปทำงานหกโมงเช้าเจ็ดโมงเช้า อยู่ดึกๆ สองทุ่มสามทุ่มถึงเที่ยงคืน ก็ไม่ขอค่าล่วงเวลาพิเศษ (ยกเว้นสองครั้งที่ถูกเรียกให้ทำงานหนักจริงๆ) ทนทำงานมาปีกว่าหวังว่าจะได้เห็นอะไรดีๆ ในเส้นทางการทำงานแต่ก็ไม่เห็น สิ่งที่ดีที่สุดของบริษัทนี้ที่ทำให้ทนอยู่ทุกวันนี้ก็คือ หัวหน้าที่เยี่ยมมาก และ เพื่อนร่วมงาน/น้องๆ ที่ดีจริงๆ



กลับมาพบความจริง
แม้เป็นสิ่งไม่ส่งเสริม
แต่ใจหวังคอยเติม
คอยค่อยเพิ่มคุณค่ามัน


หัวหน้าให้โอกาสฉันทุกอย่าง (เท่าที่เค้าจะทำได้) แต่คนให้งานฉันกลับไม่ใช่หัวหน้าแต่เป็นคนอื่นๆ แล้วหน้าที่ฉันก็เหมือนต้องไปคอยบีบน้องๆ สิบกว่าคนที่ฉันดูแลให้ทำได้อย่างที่คนอื่นๆ คอยกดดันมา ในขณะเดียวกันก็ต้องไปทำหน้าที่คอยต่อรองอะไรๆ กับคนอื่นๆ ให้อย่ากดดันน้องๆ ในแผนกที่ดูอยู่มากนัก แต่ไม่เคยมีใครเข้าใจ คนส่วนใหญ่ก็ เอาแต่ร้องไขว่คว้าถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนใจคนอื่น งานที่ฉันทำ ทำให้ฉันเบื่อความเห็นแก่ส่วนตัวพอควร ทุกคนไม่ได้มองบริษัทเป็นภาพรวมแล้วสนับสนุนให้ทุกอย่างมันได้ดีไปด้วยกัน



คงได้เพียงแต่หวัง
ว่าสักครั้งที่สิ่งฝัน
เป็นจริงได้สักวัน
ดั่งมุ่งมั่นตั้งใจไป


เวลาทำงานดีคนที่เห็นก็มีแต่ลูกค้าฝรั่งมาชื่นชม พร้อมกับพยายามหลอกล่อชักชวนให้ไปทำงานกับเค้า ในขณะที่คนไทยเราเหมือนไม่ค่อยจะเห็นค่า เวลามีงานพลาด (น้องๆ ในทีมทำพลาด) ฉันก็ต้องเอาหน้าไปแบกรับคำตำหนิจากทีมคนไทยกันเอง บางทีพอเข้มๆ กับน้องๆ บ้าง ก็ทำน้องเครียดก็ต้องถอยออกมา เพราะงานของฉันเป็นงาน design ที่ต้องสร้างสรรค์และทำด้วยใจ ฉันอยากซื้อใจคนด้วยใจ ฉันอยากได้อะไรดีๆ ฉันก็อยากให้เค้าได้เหมือนกัน แล้วก็อยากสร้างทีมดีๆ กับมือ สิ่งนี้ฉันทำได้และมีความสุข...



ปลอบใจให้ไม่ท้อ
แล้วรู้พอเลิกฝันใฝ่
สิ่งนอกที่ยวนใจ
หากมิใช่ก็ไม่รับ


สิ่งที่ฉันประทับใจมากคือวันเกิดที่ผ่านมาพวกน้องๆ ทำ surprise ซื้อเค้กมาอวยพรปิดไฟ office IT ทั้งห้องแล้วก็ร้องเพลงเข้ามา น้องบางคนก็แอบเอาของขวัญเล็กน้อยๆ มาให้เขียนคำขอบคุณน่ารักๆ ที่คอยสอนงานให้... น้องหลายๆ คนเวลาเห็นเรางานหนักก็มาหยิบงานไปช่วยทำโดยไม่ต้องไปขอ และ อื่นๆ อีกมากมาย... ที่ทำให้ฉันไม่เบื่อกับงาน และ คนอื่นๆ ที่ต้อง deal ด้วยนัก



อดทนได้แค่ไหน
จนหมดไฟมอดม้วยดับ
เหลือรอยฝากประทับ
โค้งคำนับนิรันดร


มีเรื่องหลายๆ เรื่องให้เสียใจกับบริษัท ทุกๆ คนที่ทำงานเยี่ยมต่างพากันลาออกทุกๆ เดือนสองเดือนเพราะวัฒนธรรมองค์กรณ์ไทยๆ ฉันเองก็สุดสายป่านพอควร แต่บางทีก็คิดว่าชีวิตมีรสชาติดีเหมือนกัน ลูกค้าฝรั่งวันนี้ที่เป็นถึงรองประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มากจาก New York แต่คุยไม่รู้เรื่องและคิดว่าตัวเองถูกทุกอย่าง พอฉันไม่ยอมเพราะมั่นใจ 100% ว่าไม่ผิดด้วยเคยเอางานนี้ไปตรวจกับบริษัทใหญ่ๆ อื่นๆ ฉันก็ไม่เคยกลัวไม่เคยคิดจะหลบตาคน ไม่มีรับค่ะๆ ว่าตัวเองผิดให้เรื่องจบๆ (แต่ไม่ทำ) เหมือนคนอื่นๆ เลยฉะกันกับคุณลูกค้าตำแหน่งใหญ่โตกลางห้องประชุมเหมือนจะแรงจนถูกถามว่า "Do you want a gun or knife?" ฉันก็เลยตอบเค้าไปยิ้มๆ ว่า "I have all the tools but I have not got a person to use them yet" (ถ้าเถียงคนไทยแบบนี้อาจถูกไล่ออกไปแล้ว)



เหลือเพียงภาพทรงจำ
ให้หวนย้ำเป็นสิ่งสอน
คอยเตือนให้อาวรณ์
พอนึกย้อนติดตรึงใจ


ลูกค้าเลยถามกลางห้องประชุมเลยว่าฉันจบมาจากไหนกัน ฉันก็เลยตอบเรียบๆ ว่าจบ PhD มาจาก Cambridge ประเทศอังกฤษ เท่านั้นลูกค้าก็เลิกเถียงและยอมความ ท่าทางแปลกใจเล็กน้อยเพราะคงคิดว่าฉันดูเด็กๆ เลยผิดคาดกระมัง ปรากฏพอตกเย็นนอกเวลางานก็มาชวนทำอารมณ์ดีมาชวนไปดื่มเบียร์ ก็ดีฝรั่งก็เป็นแบบนี้ทำงานก็จริงจัง เถียงกันเหมือนจะฆ่ากันก็ด้วยเหตุผล พอเสร็จแล้วก็เสร็จนอกเวลาก็เป็นเพื่อนกัน... วันนี้ทำให้ฉันคิดถึงตัวเองในอังกฤษที่ทำงานสนุกๆ แบบนี้ ขับเคี่ยวกับพวกฝรั่งแต่ก็เฮฮาไม่มีมากดดันคุยยิ้มๆ ในที่ประชุมแต่เหมือนแอบฆ่ากันข้างนอก ฯลฯ ให้ปวดหัว... อืมวันนี้บ่นเยอะแฮะ แหะ แหะ




Create Date : 05 กันยายน 2548
Last Update : 7 กันยายน 2548 22:31:34 น. 12 comments
Counter : 570 Pageviews.

 
โอ้ อย่าคิดมากเลยนะจ๊ะ หนูอุ๊ ...

มีอะไรก็โทรมาหาเราได้ ...มาซบอกพี่มะ มามะ... ขอโทษที่เมื่อคืนไม่ได้โทรกลับ สัญญาว่าวันนี้จะโทรหานะจ๊ะ

รักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: ชาบุ วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:14:37:26 น.  

 
--- ชาบุ ---

ฮะ ฮะ เลยคุยกันซะนานเลย

จริงๆ แล้วก็สบายดีจ้า (ทั่วไป) มีแต่เรื่องงานเรื่องเดียวที่เริ่มเบื่อๆ (มาพักนึง) เลยเผลอบ่นเยอะไปหน่อย

เดี๋ยวไว้คราวหน้าชวนคุยเรื่องอื่นดีกว่า ;-)


โดย: ไร้นาม วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:21:57:05 น.  

 
อ่านแล้วก็โมโห เสียดายอุ๊ บอกไม่ถูก

ไม่ใช่แค่ในกรณีของอุ๊ แต่เสียดายแทนประเทศไทยที่คนเ่ก่งๆและดีๆหลายคนทนระบบไม่ได้และต้องถูกบีบให้ไปทำงานให้ต่างชาติ สำหรับเราแล้วเราไม่เคยแบ่งว่าเป็นต่างชาติหรือไืทยนะ (อาจจะเป็นเพราะเราำทำงา่นแบบนี้) แต่เรามอง nature ขององค์กรมากกว่า อุ๊น่าจะสบายใจกว่านี้หากทำงานให้องค์กรต่างชาติ


โดย: เป่าจิน วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:12:41:30 น.  

 
เห็นด้วยกะคุณเป่าจินอะ ...เสียดายด้วยคน แล้วอย่างนี้ประเทศไทยจะสู้ประเทศอื่นได้ยังไง


โดย: ชาบุ วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:12:52:37 น.  

 
--- เป่าจิน & ชาบุ ---

Thank you a lot! กำลังใจเพียบดีจังๆ :)


โดย: ไร้นาม วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:23:48:32 น.  

 
It's the reality in Thailand. Everyone have to face (and fight) it.

Be positive and be strong as much as you can na krab :)



โดย: mildsteel IP: 195.220.33.113 วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:5:32:28 น.  

 
Su su krub... Glad to hear that you care your subordinates so much. We are all supporting you


โดย: Aunaun IP: 129.169.78.163 วันที่: 10 กันยายน 2548 เวลา:0:21:26 น.  

 
--- คุณ mildsteel ---

ขอบคุณค่ะ ( ^ _ ^ )

--- aunaun ---

Care them so much but made one of them cry... still don't know why (?)


โดย: ไร้นาม วันที่: 10 กันยายน 2548 เวลา:21:20:26 น.  

 
Keeping up your confident and fighting heart.
Glad you come back and work for THAILAND.


โดย: Babymind IP: 203.155.94.129 วันที่: 10 กันยายน 2548 เวลา:21:57:56 น.  

 
แวะมาบอกว่า update blog แล้วจ้า


โดย: ชาบุ วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:14:23:57 น.  

 

"ได้ลองดื่ม Whisky อายุ 120 ปีแก้วเล็กๆ ที่หอมนึกไม่ถึงทีเดียว"
น่าลองจังเลยครับ...


๏ ไร้นามพาท่องเที่ยว.........เป็นกลอน
ผมแอบทำบล็อกตอน.........ที่แล้ว
แดนญี่ปุ่นเว้าวอน..............จำจาก
ด้นเก็บไว้เจื้อยแจ้ว............อ่านได้มีฮา...


ZogZag Vol.1.2.1 Super Kosakoi 2005 @ Harajuku

and

ZogZag Vol.1.2.2 Super Kosakoi 2005 @ Harajuku



โดย: ณ มิตร (namit ) วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:16:14:22 น.  

 
--- คุณ babymind ---

Thank you a lot ka ;-)

--- ชาบุๆ ---

เดี๋ยวตามไปเที่ยวจ้า

--- คุณ ณ มิตร ---

เจ๋งจังค่ะ (& ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชม)


โดย: ไร้นาม วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:23:45:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]





"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.