จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

ความรักในทัศนะของข้าพเจ้า








เพลง "แม้เราจะไม่พบกัน" ขอบคุณ นกแสงตะวัน ที่เอื้อเฟื้อโค้ดเพลง



--------------------




ความรักในทัศนะของข้าพเจ้า







1



ถ้อยคำของกวีที่บอกเล่าเรื่องราวของความรักมักไพเราะงดงามกว่าความเป็นจริงเสมอ และเมื่อเขาเขียนถึงความทุกข์โศกอันเนื่องมาจากความรัก ผลลัพธ์ก็มักออกมาเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยเขียนบทกวีเกี่ยวกับความรักเอาไว้ไม่น้อย

แต่เมื่อมาถึงวันนี้ข้าพเจ้าได้พบว่า...

หากหัวใจได้สัมผัสความรักแท้

แม้บทกวีใดๆก็ไม่อาจเปรียบเทียบกับความงามของความรักได้

เพราะความรักก็คือ บทกวีที่ไพเราะงดงามบทหนึ่งนั่นเอง




ก่อนอื่นข้าพเจ้าต้องขอออกตัวเสียก่อนว่า ข้าพเจ้าไม่ใช่ "ผู้รู้"ในเรื่องของความรัก ความรักซึ่งมีอยู่หลายมิติในโลกนี้ ถึงแม้วัยของข้าพเจ้าจะล่วงเลยมาสู่วัยกลางคนแล้วก็ตาม แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่มั่นใจนักว่าทัศนะที่ข้าพเจ้ามีต่อความรักนั้นถูกต้องหรือผิดเพี้ยนเพียงใด

ข้าพเจ้าจะขอพูดถึง “ความรัก” ตามทัศนะของข้าพเจ้า เพราะเชื่อว่าใครๆต่างก็มีทัศนะเกี่ยวกับความรักในแง่มุมของตัวเองแตกต่างกันไป





2



ความรัก

มีอานุภาพยิ่งใหญ่ยากยิ่งที่จะอธิบาย

สามารถทำให้ลมร้อนกลายเป็นไออุ่น

แสงแดดสดใสในวันฟ้าครึ้ม

อุปสรรคที่ขวางกั้นผลักดันให้เป็นพลังต่อสู้

ความมืดมนอนธการกลายเป็นความสว่างไสว

ในยามที่มีความรัก ความทุกข์ทรมานมลายสิ้น

เพียงแค่ได้ยินเสียงของเธอ

รสจุมพิตของเธอทำให้ฉันเผลอลืมเกือบทุกสิ่ง

และเกือบลืมไปว่า…

อีกด้านหนึ่งของความรักนั้น

มีความปวดร้าวแฝงอยู่



ตั้งแต่เล็กจนโต ข้าพเจ้าถวิลหาความรู้สึกที่เรียกว่า “ความรัก”มาโดยตลอด ไม่ว่าจะจากพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงและเพศตรงข้าม โดยเฉพาะกับเพศตรงข้ามนั้น ดูเหมือนว่าข้าพเจ้าจะให้ความสำคัญกับสิ่งนี้เป็นพิเศษ ขณะที่ปากเอ่ยคำว่ารักคนโน้นคนนี้ทั้งที่ยังไม่รู้จักความหมายที่แท้จริงของมันเลย
เมื่อเธอรักตอบก็รู้สึกว่าสมหวังและชอบใจ เมื่อถูกปฏิเสธก็รู้สึกเจ็บช้ำ เป็นเช่นนี้อยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ! !


เมื่อวัยล่วงเลยเป็นผู้ใหญ่ ทัศนะและพฤติกรรมเกี่ยวกับความรักของข้าพเจ้าก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นสักเท่าใดนัก เพียงแต่ผู้คนที่ข้าพเจ้ารักอาจจะเปลี่ยนไปและมีมีมากหน้าหลายตาขึ้น ในที่สุดก็กลายเป็นวัฏจักร…เกิดขึ้น…ดำรงอยู่…แล้วดับไปเช่นนี้เสมอมา

เรื่องความรักบางชนิดหรือความรักในมิติอื่นๆนั้น ข้าพเจ้าก็เคยเรียนรู้ผ่านหูผ่านตาจากการอ่านมาบ้าง ทำความรู้จัก ทำความเข้าใจ แต่มิได้เสพหรือคลุกคลีกับความรู้สึกนั้นอย่างเต็มที่ ข้าพเจ้าจึงไม่กล้าฟันธงลงไปว่าสิ่งที่ข้าพเจ้ารู้และเข้าใจนั้นจะถูกต้องหมดหรือไม่ ?





3


ความรัก

ในบางครั้งก็เหมือนดอกไม้บางชนิด

งดงามยิ่งนักในยามร่วงหล่น

ความรักของคนบางคน

ปรากฏความงามให้เห็น

ในยามจากพราก




ข้าพเจ้าเพิ่งได้พบว่าตัวเองรักผู้หญิงคนหนึ่งก็เมื่อเวลาจากพรากล่วงเลยไปนานแล้ว เมื่อตอนอยู่ในวัยหนุ่มรู้สึกเจ็บช้ำร้าวรานที่จำต้องตัดใจจากเธอและไม่ได้ครอบครองเธอในตอนนั้น แต่เมื่อวันหนึ่งข้าพเจ้าได้รับข่าวคราวว่าชีวิตของเธออยู่ดีมีสุข มีครอบครัวอบอุ่นและยังอยู่ที่ประเทศไทย แค่เพียงรับรู้ว่าครอบครัวเธอมีความสุขและยังอยู่บนผืนแผ่นดินเดียวกัน ข้าพเจ้าก็พลอยมีความสุขไปด้วย

ความรู้สึกประการหลังนี้แตกต่างจากเมื่อคราวที่อยากครอบครองเป็นเจ้าของเธอยิ่งนัก







4



ความรัก

จะมีความหมายอะไร

ถ้าหัวใจเรียกร้องแต่จะรับ

ก็เหมือนกับต้นไม้ที่ซึมซับน้ำจนรากเน่า



กระทั่งถึงวันที่ข้าพเจ้าได้แต่งงาน ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกันมา ข้าพเจ้าได้พบว่าหลายครั้งหลายหนข้าพเจ้ารักเธออย่างเห็นแก่ตัว ทุกครั้งที่เอ่ยปากว่ารักเธอ กลับเป็นเสียงสะท้อนของการรักตัวเองเสียมากกว่า

ข้าพเจ้าเพิ่งรู้สึกได้สัมผัสความรักที่มีต่อเธออย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อชีวิตคู่ได้ผ่านพ้นวันวารแห่งวิกฤตไปแล้ว หาใช่ตอนแรกที่แต่งงานกันใหม่ๆไม่

ในตอนแรกนั้นข้าพเจ้ารักเธอเพราะเธอเป็นคนดี รักเธอเพราะเธอมีการศึกษา พูดจาดีและจิตใจดี รักเธอเพราะเธอมีอะไรที่ดีๆกว่าตัวข้าพเจ้า ปรารถนาครอบครองเธอเพราะตัวเองอยากได้คนดีเป็นคู่ชีวิต

แต่ในยามที่ชีวิตคู่เผชิญกับสถานการณ์วิกฤตความรักเกือบล่มสลาย
การดำเนินชีวิตไปข้างหน้าในแต่ละวันเต็มไปด้วยความลำบากยากเข็ญ
ครอบครัวอดอยากปากแห้งเพราะความผิดพลาดในการดำเนินชีวิตของข้าพเจ้าเอง

ในยามนั้น…ถึงแม้ความรักไม่อาจกินอิ่มแทนข้าวได้ แต่ก็เพราะความรักนี่แหละที่ทำให้ข้าพเจ้าออกไปทำงานหาเงินมาซื้อข้าวปลามาแบ่งปันกันกิน สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้หัวใจข้าพเจ้าได้สัมผัสความรักแท้จริงยิ่งขึ้น





5



ขอบคุณลูกรักที่เกิดมาเป็นลูกพ่อ

เพราะลูกได้สอนให้พ่อรู้จักกับความรักชนิดใหม่

ที่พ่อยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน

เป็นความรักที่ปราศจากเงื่อนไขใดๆ

ความรักที่ไม่มีการเรียกร้อง

ความรักที่มีแต่การให้



วันหนึ่งเมื่อข้าพเจ้ามีลูก วินาทีแรกที่เห็นใบหน้าลูกนั้นทำให้ข้าพเจ้าได้ลิ้มรสความรักอีกชนิดหนึ่งซึ่งไม่เคยลิ้มรสมาก่อนในชีวิต แม้ข้าพเจ้าจะเคยอ่านหรือฟังเรื่องราวเกี่ยวกับความรักลูกมาจนนับเรื่องไม่ถ้วนแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ซาบซึ้งเท่าได้ลิ้มรสเอง

ความรักลูกช่วยละลายความเห็นแก่ตัวของข้าพเจ้าลงไปไม่ใช่น้อย แต่ถึงกระนั้นความรักที่มีต่อลูกของข้าพเจ้าก็ไม่ได้วิเศษเหนือกว่าความรักของพ่อแม่คนอื่นๆที่มีต่อลูกของเขา แต่ในความรู้สึกของข้าพเจ้านับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่งที่ได้ลิ้มรสความรักอีกมิติหนึ่ง ซึ่งแตกต่างออกไปจากความรักมิติอื่นๆที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต

ความรักที่ไม่เรียกร้องว่าเธอจะต้องรักเราตอบเหมือนการรักเพศตรงข้าม รักที่ยินดีเสียสละในสิ่งที่เรามีเท่าที่จะทำได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดเคยเป็นในชีวิตของข้าพเจ้ามาก่อน ความรักรสนี้นับว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับชีวิตของข้าพเจ้า

ในประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่าการรักคนที่รักเรานั้นดูง่ายนักเมื่อเทียบกับการที่ต้องรักคนที่ไม่รักเรา และยากยิ่งขึ้นเมื่อต้องรักคนที่เกลียดเรา แต่ทว่าในตอนนี้ข้าพเจ้ากลับคิดว่า ความรักชนิดนี้มีรสชาติที่น่าชิมลิ้มลองไม่น้อย คุณล่ะ…ไม่อยากลองรสนี้ดูบ้างหรือ ?




-------------------------------------------




หมายเหตุ

รูปทุกรูปนำมาจากเว็บไซต์ต่างๆ ขออภัยที่ไม่ได้บอกที่มาเพราะไม่ได้จำไว้ในตอนนั้น มีรูปดอกไม้ในจักรยานรูปสุดท้ายรูปเดียวเท่านั้นที่ผู้เขียนถ่ายเอง

ช่วงนี้มีงานที่จะต้องสะสางหลายอย่าง เลยเก็บของเก่าๆกล้อมแกล้มมาอัพบล็อกไปพลางๆก่อน หากใครเคยผ่านหูผ่านตามาแล้วก็ผ่านไปเลยนะครับ ถ้าใครยังไม่เคยอ่านก็นับว่าเป็นเรื่องใหม่สุด





 

Create Date : 29 กันยายน 2550
37 comments
Last Update : 29 กันยายน 2550 11:16:42 น.
Counter : 7488 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะอาโดม

หนูยังไม่เคยอ่าน เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องใหม่สุดสำหรับหนูนะค่ะ

อ่านแล้วความรักเข้าตา

หนูเคยอ่านหนังสือปรัชฌาเล่มหนึ่งเขียนไว้ว่า
"หากคุณพยายามเดินหาความรัก คุณก็ยากที่จะเจอมัน หากคุณอยู่เฉยๆความรักจะเข้ามาหาคุณเอง"

"เราไม่ใช่ผู้ที่ครอบครองความรัก เราไม่สามารถบังคับให้มันทำตามใจเราได้ แต่ความรักมันจะครอบครองตัวเราไว้เสมอ"


 

โดย: มัยดีนาห์ 29 กันยายน 2550 11:52:43 น.  

 

ชอบประโยคนี้จังครับ

"ทุกครั้งที่เอ่ยปากว่ารักเธอ
กลับเป็นเสียงสะท้อนของการรักตัวเองเสียมากกว่า"


บางครั้งเวลาที่เราพูดว่า
"รักคุณที่สุดเลย"
ผมอดคิดไม่ได้ว่า แล้วรักนี้มันสิ้นสุดที่ตรงไหน
ตรงไหนคือที่สุด

คนที่ตายแทนกันได้ นี่เรียกว่าที่สุดแห่งรักแล้วหรือยัง
.....

"ความรัก" จึงยังเป็นหนึ่งในเรื่องลี้ลับดำมืด
ที่สุดเรื่องหนึ่ง
ที่มนุษย์ไม่อาจหานิยามความหมายที่เป็นที่สุดได้เสียที


สวัสดีครับพี่โดม

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 29 กันยายน 2550 14:12:12 น.  

 



อาโดมคะ

มาอ่านเรื่องราวของ"ความรัก" ที่ทุกๆ คน อยากสัมผัสกับมัน อยากรับรู้รสชาติของมัน

นกไม่ทราบจะให้ทัศนะว่า ความรัก คืออะไรดี รู้แต่ว่า รักพ่อรักแม่ และในอนาคตหวังไว้ว่าคงจะมีคนที่เรารักเขา และเขาก็รักเรามาให้เรียนรู้

รสชาติของรักในช่วงเวลานี้จึงอยู่..ที่บ้าน ค่ะ

"ที่ที่เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับ..ความรัก..ได้มากที่สุดคือ..ที่บ้าน"

เป็นตัววิ่งในบล็อกของนกมานานแล้วค่ะ อาโดม




 

โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 29 กันยายน 2550 14:45:38 น.  

 

มาตามความรักแถวนี้ครับ...
สบายดีนะครับพี่โดม, พี่เห็นบล็อคของ เจนจิรา สุ,ในประชาไท หรือยังเอ่ย...

น่าสนใจครับ..."บันทึกหมู่บ้านห่วงสีทอง"

//blogazine.prachatai.com/user/janejira/post/12

 

โดย: pu_chiangdao 29 กันยายน 2550 14:59:28 น.  

 

ดั่งที่ว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ แต่บางทีรักปนทุกข์ มันก็สุขเหลือหลาย หากใครไม่เคยมอบความรัก ก็จะไม่มีทางรู้ว่ารสชาติความรักเป็นเช่นใด และคนที่รักไม่เป็นก็จะไม่รู้เช่นกันว่า โลกเรายังมีสิ่งที่สวยงาม ....

วันนี้คุณพ่อพเยียเขียนเรื่องเกี่ยวกับความรักรวมถึงรูปประกอบได้กินใจดีจังเลยค่ะ คุณพ่อพเยียสบายดีไหมคะ

 

โดย: shin chan (alei ) 29 กันยายน 2550 15:58:57 น.  

 

Coffee and love are best when they're hot!!!
จากข้างแก้วกาแฟแบล๊คแคนย่อนค่ะ
ถูกใจหนูมากๆๆ

มีคนกล่าวไว้ว่า "คนรักน่ะยิ่งใหม่ยิ่งดี แต่เพื่อน..ยิ่งเก่ายิ่งดี"
อันนี้หนูก็เห็นด้วย...

แต่รักแบบสุดชีวิตจิตใจ ไร้เงื่อนไข
รักแบบอยากเห็นเธอเจริญยิ่งๆขึ้นไปเสมอ
แม้เราจะต้องสูญเสียทุกอย่างเพื่อเธอก็ยินดี
คงมีแต่ "รักลูก" เท่านั้น
และไม่มีความรักจากใครจะหวานลึกซึ้งชื่นใจที่สุด
เท่ากับความรักที่ได้จากลูกเช่นกัน

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.60.119 29 กันยายน 2550 19:59:17 น.  

 

10 กว่าปีฝ่านมาแล้ว ช่วงอายุนั้นผมกำลังอยู่ในวัยรุ่น

ว่ากันว่าความรักงอกงามผิดปกติในช่วงวัยรุ่น

แม้เวลานั้นผมจะไม่มีแฟน แต่ในสำนึกก็บอกตัวเองเสมอว่าความรักเป็นสิ่งงดงาม

จนกระทั่งเพื่อนผมบอกว่าความรัก(ฉันท์หนุ่มสาว)เป็นความเห็นแก่ตัวชนิดหนึ่ง

แน่นอนว่าผมไม่เห็นด้วย

เพราะถ้าเรารักใครจริง ๆ เราย่อมพร้อมที่จะเป็นฝ่ายให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ

เพื่อนแย้งว่าไม่จริง ลองคิดดูว่าถ้าเรารักใครสักคน แล้วเราให้สิ่งของสักอย่างแก่คนที่เรารัก เราทำอย่างนั้นเพราะหวังสิ่งตอบแทนใช่หรือไม่

ไม่ใช่ ผมตอบโดยไม่ต้องคิด เราแค่ต้องการให้เขามีความสุขเท่านั้น

เขาถามว่าเพราะอะไรเราจึงอยากให้เขามีความสุข ถ้าลองคิดดูดี ๆ ก็เพราะว่าพอเราเห็นเขามีความสุข เราก็มีความสุข พูดง่าย ๆ ก็คือที่เราให้สิ่งของแก่เขาก็เพราะว่าเราอยากมีความสุขนั่นเอง

ผมอึ้ง

 

โดย: 9A 29 กันยายน 2550 23:05:02 น.  

 

รักคืออะไร...
คือการให้อย่างรู้คุณค่า
จริงอย่างท่านกูรูโดมว่ามา
ว่าแต่ว่ารักนี้คืออะไร?

 

โดย: พราน (ตาพรานบุญ ) 30 กันยายน 2550 3:02:38 น.  

 

สวัสดีครับพี่

ผมคลายความสงสัยมาได้พักใหญ่ๆแล้วครับ
ว่าผมเป็นใคร....

แต่ผมชอบมองท้องฟ้า
แล้วก็คิดว่า บางทีผมอาจเคยเป็นท้องฟ้ามาก่อน
ก่อนที่จะมาเป็นคน
แล้วหลังจากหมดหน้าที่ของความเป็นคน
จะกลับไปเป็นอะไรนั้น...

ค่อยว่ากันอีกที

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 30 กันยายน 2550 7:06:29 น.  

 

สวัสดีจ้ะหลานมัยดีนาห์

ที่บอกว่า "ความรักเข้าตา" ระวังตาอาจบอดได้นะจะบอกให้

สวัสดีจ้ะหลานนก

เห็นตัววิ่งที่หน้าบล็อกของหลานนกนานแล้วที่ว่า...

"ที่ที่เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับ..ความรัก..ได้มากที่สุดคือ..ที่บ้าน"

หนูก็พูดของหนูถูก แต่อย่าลืมนะว่า"การเรียนรู้" ก็คือการเรียนรู้ เดี๋ยวจะมีวันที่ถึงเวลา"ใช้งานจริง"อีกในวันข้างหน้า

เพราะชีวิตเราไม่ได้อยู่แต่ในบ้านอย่างเดียวเท่านั้น เรายังมีที่ทำงาน เรายังมีเพื่อนร่วมงาน เรายังมีเพื่อนๆ และคนอื่นๆอีกมากมายในโลกนี้

และความรักพ่อแม่ พี่น้องครอบครัวในบ้านนั้น ดูเหมือนว่าก็เรียนรู้และอยุ่กับความรู้สึกนี้มานานแล้วตั้งแต่เกิด และก็ถือว่าเป็นความรักคนละมิติกับความรักฉันท์หนุ่มสาว

เมื่อวันหนึ่งหนูได้พบความรักนอกบ้านหรือความรักฉันท์หนุ่มสาว แล้วหนูจะได้ใช้สิ่งที่เรียนรู้จากที่บ้านแน่นอน

เพราะความรักจากครอบครัวนั้นถือว่าเป็นต้นทุนสูงสุดทีเดียว


สวัสดี ภู เชียงดาว

ได้ลิงค์คอลัมน์ของหนูเจนมาไว้ที่นี่แล้ว เผื่อว่าใครอยากอ่านเรื่องราวของเธอบ้าง

ขอบคุณที่มาส่งข่าว



สวัสดีครับคุณชิน


เมื่อคุณพูดคำว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" ซึ่งถือว่าเป็นพุทธพจน์บทหนึ่ง ทำให้ผมนึกถึงเพื่อนคนหนึ่ง(ณรงค์ พัว )ที่เขาเขียนถ้อยคำสั้นๆไว้ว่า..."พระพุทธองค์ตรัสว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แต่ที่ใดไม่มีรัก ทุกข์กว่า"

เรื่องความรักนี่ ผมว่าให้เถียงกันจนตายไปข้างก็ยากที่จะหาข้อยุติ คุณว่างั้นไหมครับ ?

เพราะแต่ละคนก็มีทัศนะและมุมมองเกี่ยวกับความรักของตัวเอง

บางคนก็ปฏิบัติอีกอย่างแต่ก็ยังเรียกว่าในนามของความรักอยู่นั่นแหละ

อ่านข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ "ฆ่าเพราะรัก" มากมาย โอ้โฮ... รักจนต้องฆ่า น่ากลัว


สวัสดีจ้ะหนูตะเบบูญ่า

เรื่องรักๆนี่ถามร้อยคนก็เห็นกันร้อยอย่าง

พ่อพเยียรู้แต่ว่าคำเดียวสั้นๆนี้มีความหมายและมีความสำคัญกับชีวิตมนุษย์นัก ว่าแต่ใครจะดูแลจัดการกับความรู้สึกที่ว่านี้อย่างไรให้ดีก็แล้วกัน

ตั้งแต่กระทั่งเกิดจนตายนั่นแหละ


สวัสดีครับคุณ 9 A

ผมนะเชื่อแล้วอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ความรักคือต้นเหตุแห่งทุกข์" รักในสิ่งใดก็ทุกข์ในสิ่งนั้น

มันละเอียดซับซ้อน สะท้อนกลับไปกลับมาจนยากที่จะมองเห็นว่าความรักนี้เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์

ด้วยความเป็นปุถุชน ผู้ยังหนาอยู่ก็ได้แต่ขัดเกลาหัวใจให้เข้าถึงความรักที่สูงส่งขึ้น ก็ต้องค่อยๆตะเกียกตะกายตกหล่นบ้างก็ต้องมุ่งหน้าฝ่าไป


ความรักของปุถุชนคนหนึ่งที่มีต่อคนๆหนึ่งก็ย่อมแตกต่างความรักของพระพุทธเจ้าที่มีต่อสัตว์โลก นั่นอาจจะเหนือกว่าความรักแล้ว จะเรียกว่าความเมตตาหรือว่าอะไรก็ตามแต่


ผมเชื่อว่าคนที่เปล่งคำว่า "รัก" ออกมาจากปากเหมือนๆกัน แต่โดยรายละเอียดในความหมายของคำนั้นๆแตกต่างกันอย่างแน่นอน


สวัสดีครับคุณพรานบุญ


ชื่อของคุณอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผมนึกถึง แต่คำว่าตาพรานบุญทำให้ผมนึกถึงนิทานของพ่อที่เล่าให้ผมฟังตั้งแต่เป็นเด็ก เรื่องนางกินรี หรือนางมโนราห์ มีพรานคนหนึ่งชื่อพรานบุญ

เป็นความทรงจำอันเนิ่นนานมาก

ชื่อตาพรานบุญของคุณอาจจะไม่ใช่พรานบุญคนนั้นหรอก แต่ชื่อนี้ทำให้นึกถึงนิทานของพ่อเท่านั้นเอง

ของคุณอาจจะเป็นพรานล่าบุญก็ได้

รักคืออะไร ทุกคนก็หาคำตอบกันเอเอง แล้วตอบตัวเองก้แล้วกัน

ผมก็เพียงแต่บอกทัศนะของผมอย่างตรงไปตรงมา หรือจะเรียกว่า"โชว์โง่" ก็ได้

ไม่ได้เป็นกูรู หรือกูรู้ ทางด้านนี้หรอกครับ

 

โดย: พ่อพเยีย 30 กันยายน 2550 8:10:08 น.  

 

หากใครถามคนไหนฮีโร่ของฉัน
หนึ่งในนั้นบอกได้เลยว่าคือเขา
ฉันชื่นชอบมโนราห์แต่วัยเยาว์
ก็เพราะเขาพรานบุญมโนราห์
หน้ากากแดงสะพายย่ามก็สีแดง
คอยยื้อแย่งหยอกเย้าเจ้าปักษา
เอาบ่วงบาทไล่คล้องมโนราห์
แล้วทำท่าทางทะลึ่งตึงตัง
มาวันนี้ตัวฉันนั้นเติบใหญ่
จึงหวนให้กลับคืนฟื้นความหลัง
ขอใช้ชื่อพรานบุญเป็นพลัง
สืบสรรค์สร้างงานศิลป์ทักษิณคดี
..............

ความรัก...เท่าที่ท่านโดมว่ามาเห็นด้วยอย่างยิ่งขอรับ อ่านแล้วเข้าใจและทำใจได้มากขึ้น คล้ายจะทำใจได้แต่ก็ยังต้องการความรักอยู่ดีเพราะวันนี้ผมยังสอบไม่ผ่านความรักบทที่หนึ่งเลย..

 

โดย: ตาพรานบุญ 30 กันยายน 2550 13:28:41 น.  

 

ไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ ความรักอะไร ที่ไหน อย่างไร
รู้แต่ว่ามันทำให้อัพบล็อกได้ทุกที คริคริ
ไม่เชื่อลองคลิกไปดูซิจ้ะพี่โดม

สบายดีนะคะ ว่าแล้วอาจจะงานยุ่งๆมั้ง
บ่นถามกับคนแถวนี้ว่าพี่โดมไม่มาบล็อกน้องหนู 2 เอนทรี่แล้ว
กะว่าจะโทรจิตไปถามแล้ว
เมื่อวานมาพอดี ดีใจจัง...

 

โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน 30 กันยายน 2550 18:56:56 น.  

 

จะอินเลิฟกะพี่โดมซะหน่อย...
ถึงที่หมายแล้วค่อยมารักอีกรอบดีกว่านะขอรับกระผม

เตรียมตัวจะออกเดินทางค่ะ....
เลยแวะมาบอกกล่าวพ่อกำนันซะหน่อย.....

ว่าแต่คนข้างบนน่ะ....ถัดไปหน่อยหนึ่งน่ะ..ง
ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กะความรัก....
จริงๆน่ะยังหาคนมาเล่นบทเลิฟซีนไม่ได้หรือเปล่า....

ปลายแปรงจะหาให้ก็กลัวจะไม่ถูกใจ
ว่าจะเซ้งของเก่าซะหน่อยนะ.....
แฮ่.....

ไปก่อนค่ะพี่....ลงตัวแล้วค่อยมาลงรอยกันเด้อ....

 

โดย: ปลายแปรง 30 กันยายน 2550 20:13:43 น.  

 

อยากมีความรู้สึกแบบนี้บ้าง
"รักที่มีแต่ให้"

อิอิ แต่กว่าจะถึงความรักแบบนั้น

ก็คงต้องทรมานกับรักแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่น้อ...


อิอิ

 

โดย: mojigirl 30 กันยายน 2550 21:11:44 น.  

 

.. ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม...ของ "อรศิลป์ แสงบุญเรือง"

เมล์ เป็นคนเดียวและเป็นคนสุดท้ายที่รอดชีวิตมาจาส่วนหัวของเครื่องบิน ด้วยอาการที่สาหัส เธอสลบไปนาน 12 วัน
แม้สภาพร่างกายบาดเจ็บสาหัสแต่สภาพจิตใจเธอดีเยี่ยม..

เมล์ได้รับการปลูกฝังจากผู้เป็นบิดาว่า ไม่ต้องเป็นคนเก่ง แต่ให้เป็นคนดีก็พอ และเมล์ก็ศัทธาทำความดีมาตลด ถึงกระนั้นเมล์ก็ตั้งคำถามกับตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่าสังคมน่าอยู่จริงหรือ มองไปทางไหนเห็นแต่การแก่งแย่ง
จะมีใครที่ยอมทำอะไรเพื่อคนอื่นจริงๆไหม

"ถ้าตัวเองตายไม่เป็นไร แต่พ่อแม่ล่ะ น้องล่ะจะอยู่กันอย่างไร การที่อาสาสมัครอุ้มคน 1 คนแค่ 5 วินาทีไม่ได้ทำให้คนๆนั้นรอด คนเดียว ยังทำให้พ่อแม่พี่น้องและญาติอีกเป็น 10 อยู่รอดด้วย ครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่ามีคนรักเรามากแค่ไหน"
"ทำไมเขาถึงพูดว่า คนเราต้องรักกันนะไม่ใช่ญาติกันก็ต้องรักกัน เพราะความรักและกำลังใจช่วยเยียวยาได้จริงๆ วันวันหนึ่งมีคนมาเยี่ยมเมล์ไม่ต่ำกว่า 5 คน ทั้งที่ต้องมาไกลจากภูเก็ต อุตส่าห์เสียเงินค่าเครื่องบินเป็นพันๆบาท แต่เขาจะรู้ไหมว่ากับคนที่รับ ได้รับมากกว่านั้นเยอะ เพิ่งรู้ว่ากำลังใจสำคัญขนาดไหนกับชีวิตมนุษย์"

"การรู้จักคนคนหนึ่ง ก็เหมือนกับการมองลูกกลมๆลูกหนึ่ง เราอาจจะได้เห็นแค่ด้านๆเดียว ของลูกกลมๆ อาจแค่ 10 องศา แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่า ด้านข้างด้านหลังอีก 350 องศาจะหมุนมาเมื่อไหร่ วันหนึ่งเมื่อด้านที่เหลือหมุนมาให้เห็น คนที่เคยทำแย่ๆ กับเรา เขาอาจดีกับเราก็ได้"

เมล์เปิดใจว่า เหตุการณ์เฉียดตายทำให้รู้อีกด้านของชีวิต ได้รู้จักมิตรภาพ และเชื่อว่าชีวิตที่อยู่เพื่อคนอื่นเป็นชีวิตที่มีคุณค่า
ถามว่าถ้าย้อนเวลาได้ จะยอมแลกเหตุการณ์นี้เพื่อเรียนรู้ไหม ก็ยอมแลกนะ ที่ผ่านมาทุกวันใช้ชีวิตเพื่อตนเอง อยู่มา 27 ปี ชีวิตราบรื่น ไม่เคยรู้ว้าการมีทุกข์เป็นอย่างไร บางคนอยู่ถึง 70 ปีอาจไม่เคยเรียนรู้เลยก็ได้ เมื่อก่อนเคยคิดว่าตัวเองจะอยู่ถึง 60 ปี ตอนนี้รู้แล้วว่ามากสุดอาจจะแค่ 27ปีก็ได้

ไม่ต้องรอให้ความตายมาสะกิดใจให้รักกันและทำดีต่อกัน เพราะคุณจะรู้ได้อย่าไร ว่าความตายจะมาอยู่ตรงหน้าคุณเมื่อไหร่..

คัดลอกจาก โพสต์ทูเดย์ 30 กย. 2550เขียนโดย จิตติมา ชวลิตนิมิตกุล

....อ่านแล้วรู้สึก ชอบ....

ช่วงนี้มีงานเยอะเหรอค่ะ?
อย่าหักโหม มากนะค่ะ อย่าลืมดูแลสุขภาพเพื่อคนที่คุณรัก คนที่รักคุณและมีคุณค่ากับคุณอย่างแท้จริงล่ะ...

 

โดย: ทะเล IP: 58.9.103.97 1 ตุลาคม 2550 0:01:45 น.  

 

แวะมาอ่านกลางดึก
ช่วงนี้ยุ่งค่ะ
สุขภาพก็ไม่ค่อยจะสมบูรณ์
(ยกเว้นรูปร่าง...ยังสมบูรณ์อยู่เสมอ มิมีผอมลงแต่ประการใด )

ช่วงนี้ ลูกหลานมานัวเนียอยู่ใกล้ ๆ ตัว
เพราะปิดเทอมแล้ว
จึงไม่ค่อยมีเวลาอิสระค่ะ

ใกล้เทศกาลมหกรรมหนังสือแล้ว
เด็ก ๆ พากันดีใจ
ผู้ใหญ่ก็...เตรียมกะตังค์ค่ะ

 

โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.172.37 1 ตุลาคม 2550 2:54:24 น.  

 

ใช่ค่ะคุณพ่อพเยีย เรื่องความรักแต่ละคนต่างมุมมอง แต่เป็นมุมมองที่หลากหลายและน่ารับฟังดีนะคะ
เรื่องชุดท้องถิ่นของกาน่า ยังไม่ได้ซื้อเลยค่ะ แต่ตัดมาไว้ชุดหนึ่ง ความจริงตัดแบบแฟชั่น ผ้าท้องถิ่น ตัดแล้วก็ไม่ค่อยกล้าใส่เท่าไหร่ค่ะ ไม่กล้าใส่ผ้าที่ลายๆ แบบว่า อายตัวเองค่ะ

 

โดย: shin chan (alei ) 1 ตุลาคม 2550 3:50:16 น.  

 

 

โดย: ชจ IP: 202.29.77.2 1 ตุลาคม 2550 8:44:44 น.  

 

ความรักเหรอคะ..อิ่มค่ะคุณโดม คุณลูก คุณสามีบอกรักแม่ทู๊กวัน กลัวไม่มีใครทำอาหารให้กิน

ความรักในช่วงโปรโมชั่น หายไปพร้อมกับวันเวลาซะแล้ว ตั้งแต่เจ้าตัวเล็กเข้าเรียน จอห์นกับแม่น้องนิก..เดี้ยงเลยล่ะค่ะ สามทุ่มแป๊กกันทั้งบ้าน หมอนใครหมอนมัน..หลับไม่ต้องฝันกันเลย

เอ๊ะๆๆ..เดี๋ยวนี้ทันสมัยนะคะ
อีโมข้างล่างนี่..น่ารักจัง

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.25 1 ตุลาคม 2550 10:23:57 น.  

 

ลูกโดมครับ

เราสองคนคงเหมือนกันตรงที่ว่า
เป็นพ่อที่มอบความรักอันบริสุทธิ์ทั้งหมดในหัวใจ
ให้กับเด็กหญิงคนหนึ่ง
ณ วันที่เธอลืมตาดูโลกนะครับ

ความรักในทรรศนะของพ่อเอง
ต้องเป็นความรักที่ไม่ถูกครอบครอง

เป็นความรักที่เป็นการให้
เป็นจาคะ
ไม่เป็นการเรียกร้อง

เปรียบเสมือนดอกไม้ในสวน
ที่ไม่ถูกเด็ดไปกเพื่อครอบครองในแจกัน

เป็นดอกไม้ในสวน
ที่แบ่งปันให้ความสวยงาม หอมหวานสดชื่น ยังความชื่นใจให้แก่ทุกผู้คน ที่เดินผ่านไปพบเห็น

ความรักของพ่อ
เป็นเช่นนี้ครับลูกโดม

 

โดย: พ่อบู (be-oct4 ) 1 ตุลาคม 2550 11:09:56 น.  

 

สวัสดีพ่อพเยีย

เอาบล็อกของเจนจิราในประชาไทมาแปะไว้แล้ว ดีจัง

แต่ตอนนี้มีปัญหาคอมเมนท์ไม่ได้เพราะกำลังเปลี่ยนระบบใหม่

สวัสดีแม่น้องนิก อารมณ์ขำดี คุณสามีบอกรักแม่ทู๊กวัน กลัวไม่มีใครทำอาหารให้กิน

ช่วงรักโปรโมชั่นฮะฮา

พี่สุจินดา เพื่อนพี่เขาว่า มีช่วงอันนีมูลพีเรียดด้วย

เมื่อวานคุยกับน้องสาวสามี เธอเล่าว่าเพิ่งบอกรักคุณสามีเมื่อวาน ว่า
"ฉันรักเธอมาก ฉํนขออย่างเดียว แม้จะเลิกรักฉันก็ไม่เป็นไร แต่ห้ามตาย เพราะฉันเลี้ยงลูกสองคนไม่ไหวแน่"

 

โดย: แพรจารุ 1 ตุลาคม 2550 11:20:11 น.  

 

สวัสดีหนอนด้วย หนอนพูดว่าใกล้ถึงงานมหกรรมหนังสือแล้ว โอ...พี่ลืมเรื่องพวกนี้ไปได้อย่างไรกัน

อาจจะเป็นเพราะว่า ช่วงนี้ที่เมืองเหนือมีเรื่องงานสิงแวดล้อม บรรยากาศพวกงานด้านพัฒนา มากว่าบรรยากาศงานวรรณกรรม
ทำให้ลืม ๆ ไป และพี่เองก็ไม่ได้ออกหนังสือสักเล่ม คือไม่ได้ส่งงานพิมพ์เลย มีค้างที่มติชนอยู่ชุดหนึ่ง เข้าใจว่าไม่ได้พิมพ์

ในงานคงเจอพี่มธุริน ฝากบอกแกว่าโทร.เข้ามาคุยกับพี่ได้เหมือนเดิมแล้ว ช่วงก่อนขาดการติดต่อเพราะมือถืออยู่ที่เพื่อน

อยากให้หนอนชวนพี่เขาหอบงานศิลปะที่แกเขียนมาโชว์ที่เชียงใหม่ พี่หาที่จัดนิทรรศการเล็ก ๆ ให้ก็ได้ คืออยากพบแกมาแล้วก็อยากมีกิจกรรมด้วย

(ปล.ขอเนื้อที่นะพ่อพเยีย บุญครั้งนี้ขอให้พ่อได้มีรักตอบแบบมีแต่การให้)

 

โดย: แพรจารุ 1 ตุลาคม 2550 11:31:51 น.  

 

โดมครับ

ความเรียงผสมบทกวีแบบนี้ ทำให้นึกถึงยุคสมัยแรกๆที่เราเขียนหนังสือกัน

แต่ด้วยวัยวันและประสบการณ์ ทำให้คุณเขียนถึงความรักได้ถึงและลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

เรื่องชุดนี้ยอดเยี่ยมมากครับ!!

"ถึงแม้ความรักไม่อาจกินอิ่มแทนข้าวได้ " แต่ความรักทำให้เราดำรงอยู่ครับ

ฝากเพลงนี้มาให้ ไม่รู้คุณเคยได้ยินหรือยัง Love Will Keep Us Alive ของ The Eagles

*****************

I was standing
All alone against the world outside
You were searching
For a place to hide

Lost and lonely
Now you’ve given me the will to survive
When we’re hungry...love will keep us alive

Don’t you worry
Sometimes you’ve just gotta let it ride
The world is changing
Right before your eyes
Now I’ve found you
There’s no more emptiness inside
When we’re hungry...love will keep us alive

I would die for you
Climb the highest mountain
Baby, there’s nothing I wouldn’t do

I was standing
All alone against the world outside
You were searching
For a place to hide
Lost and lonely
Now you’ve given me the will to survive
When we’re hungry...love will keep us alive
When we’re hungry...love will keep us alive
When we’re hungry...love will keep us alive

 

โดย: ปะการัง IP: 72.207.21.213 1 ตุลาคม 2550 11:33:36 น.  

 

สายัณห์สวัสดีค่ะพี่โดม
มิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
----------------------------------
"ความรักในทัศนะของข้าพเจ้า"
เป็นประโยคที่ต้องการคำอรรถาธิบายจากหัวใจ?

หัวใจของฉัน...ไร้ซึ่งความรัก
จึงไม่มีคำบอกเล่า...
แต่ถ้าใครอยากฟัง...อยากได้ยิน
เข้ามาซิ เข้ามาใกล้ ๆ
เพียงแค่นายใช้พลังใจที่มีทั้งหมด
ส่งผ่านความรู้สึก...ที่จริงใจ จริงจัง
นายจะเห็น "หัวใจของฉัน"
"หัวใจที่สันโดษ" ไงล่ะ
อะคึ่ ๆ
พี่โดม เขียนอะไรก็ชวนอ่าน ฝันหวานเสมอ ๆ

ปล. ขึ้นต้นเรื่องออกแนวหวานแหว๋ว
ลงท้ายไม่ได้เรื่องเล้ย (ยัยบ๊อง)

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 1 ตุลาคม 2550 17:02:21 น.  

 

ชอบตอนนี้ค่ะ
"แต่ในยามที่ชีวิตคู่เผชิญกับสถานการณ์วิกฤตความรักเกือบล่มสลาย
การดำเนินชีวิตไปข้างหน้าในแต่ละวันเต็มไปด้วยความลำบากยากเข็ญ
ครอบครัวอดอยากปากแห้งเพราะความผิดพลาดในการดำเนินชีวิตของข้าพเจ้าเอง

ในยามนั้น…ถึงแม้ความรักไม่อาจกินอิ่มแทนข้าวได้ แต่ก็เพราะความรักนี่แหละที่ทำให้ข้าพเจ้าออกไปทำงานหาเงินมาซื้อข้าวปลามาแบ่งปันกันกิน สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้หัวใจข้าพเจ้าได้สัมผัสความรักแท้จริงยิ่งขึ้น
"
เหมือนได้มองเห็นภาพการร่วมสุขร่วมทุกข์

ปล. คุณโดมลองเชคGmail ดูนะคะว่าโหลดไฟล์ได้ไหม
ถ้ามีปัญหา ก็ทิ้งที่อยู่ไว้จะไรท์ส่งให้ทางไปรษณียค่ะ

 

โดย: filmgus 1 ตุลาคม 2550 17:53:02 น.  

 


คุณ บอกเล่าได้ลึกซึ้ง เหมือนที่คุณปะการังบอก ขอน้อมรับค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: p tim IP: 222.123.26.185 1 ตุลาคม 2550 18:34:46 น.  

 

มีคำถามมาถาม..3 ข้อ
อ่านแล้วลองตอบก่อนที่จะอ่านเฉลยในบรรทัดต่อไปนะจ๊ะ
ไม่งั้นไม่หนุก..

มีเด็กคนหนึ่งถามพระราชาว่า...วันไหนดีที่สุด...
(เอ้า..คิดๆๆๆ คุณว่าวันไหน..)
พระราชาก็ตอบคล้ายๆพวกคุณแหละ...
วันเกิด วันปีใหม่ วันแม่ วัน.........
เด็กบอกว่า ไม่ใช่ วันที่ดีที่สุดคือ ..วันนี้..

เด็กถามต่อ..แล้วใครสำคัญที่สุด
พระราชาก็ตอบ..อย่างที่พวกคุณคิดนั่นแหละ
ตัวเราเอง แม่ พ่อ ลูก คู่ชีวิต...
เด็กบอกว่า ไม่ใช่ คนที่สำคัญที่สุดคือ คนอยู่ตรงหน้าเราในขณะนี้

เด็กถามต่อ..แล้วงานอะไรสำคัญที่สุด..
(คิดค่ะคิด..คิดๆๆๆก่อนอ่านต่อนะคะ)
พระราชาเริ่มมึน ก็ตอบอย่างที่พวกคุณตอบน่ะแหละค่ะ แต่ไม่ถูก..
เด็กบอกว่า...งานที่สำคัญที่สุดคือ การดูแลคนที่อยู่ตรงหน้าเราให้ดีที่สุดเสมอ

สงสัยจริงว่า เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นใคร...ถามอะไรแก่แดดแก่ลม..

นิทานเรื่องนี้ มิได้คิดเองนะคะ(ไม่มีปัญญา)
ฟังมาเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
เห็นว่าพอจะเข้าคอนเซ็ปท์ "ความรัก" ของพ่อพเยีย
เลยนำมาเล่าสนุกๆ
บ๊าย บายค่ะ

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.65.54 1 ตุลาคม 2550 18:53:39 น.  

 

สวัสดีกลางดึกครับทุกๆท่าน

วันนี้ผมอู้ตอบคอมเม้นท์นิดหน่อย หลังจากเข้ามาอ่านแล้วก็เพราะมัวทำงาน และแว้บไปดูหนังเกาหลี(ดีวีดี)ที่ยืมเพื่อนมาวันก่อน

แต่ถึงอย่างไรผมก็ต้องมาตอบคอมเม้นท์อยู่แล้ว เพราะผมชอบคุยเป็นตัวหนังสือ


สวัสดีครับตาพรานบุญ

เสียดายที่ผมเขียนกลอนไม่ได้
ไม่งั้นผมตอบคุณเป็นกลอนไปแล้ว

นึกๆอยู่เหมือนกันว่าน่าจะมาจากตาพรานบุญคนนี้


สวัสดีจ้ะยิปซีสีน้ำเงิน

บล็อกหนูน่ะไปทุกงวดอยู่แล้วหละ(เรียกว่าออกเป็นหวยเลย)

แต่บางทีก็ไม่ได้เขียนคอมเม้นท์ไว้

เห็นแฟนคลับหนาแน่น อ่านเสร็จก็กลับบ้านเรา ก็เท่านั้นเอง
ทำบล็อกสวย มีเรื่องดีๆมาเล่าใครๆเขาก็อยากจะเข้าไปทั้งนั้นแหละจ้ะ


สวัสดีจะปลายแปรง

ถึงบ้านแล้วโทรหาด้วยนะ !


สวัสดีครับคุณ Mojigirl

ถ้าอยากมีความรักมีแต่"ให้"น่ะ
ไม่ต้องรอนานหรอกครับ
ปรับเปลี่ยนที่ใจเดี๋ยวนี้ได้เลยครับ
รักใครก็"ให้"ได้
ไม่ต้องรอจนกระทั่ง...


สวัสดีครับคุณทะเล

ขอบคุณครับที่เก็บแง่คิดดีๆมาฝาก (วันนี้ขอตอบสั้นหน่อยก็แล้วกันนะครับ)

สวัสดีจ้ะหนอนคนนอนดึก

ไม่รู้ปีนี้จะได้ไปเดินงานมหกรรมหนังสือหรือเปล่านะ ? ถ้ากลับบ้านตะกั่วป่าตรงกับวันงาน แต่ก็น่าจะได้ไปสักวันหนึ่ง เพราะตั้งใจจะไปซื้อหนังสืออยู่แล้ว

สวัสดีครับคุณชิน

วันหลังถ้าใส่ชุดกาน่าแล้วส่งรูปมาให้ดูบ้างนะครับ
อะไรจะขนาดนั้น ถึงขั้นอายตัวเองเลยเชียวหรือ ?


สวัสดีครับสาวเชียงคานชมจันทร์


สวัสดีครับแม่น้องนิก

ว่ากันว่ารักที่แท้ย่อมสดและใหม่เสมอ เหมือนโฆษณานมตรามะลินั่นแหละครับ

สวัสดีครับคุณพ่อบูที่เคารพ

ความรักของคุณพ่อบูช่างงดงามจัง

บางอย่างกว่าจะเรียนรู้

กว่าจะรู้...

กว่าจะเข้าใจ

ก็ต้องใช้เวลาครับ

สวัสดีจะยายแพร จารุ


อ่อ..เล่นมาคุยกับคนอื่นที่บล็อกเราหรือเนี่ยะ

ตามสบายจ้า !


สวัสดีครับปะการัง

ขอบคุณในคำชม แต่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่หลงตัวเองหรอก

เพลงของEagle เคยฟังอยู่บ้างตอนอยู่สีสันกับทิวา แต่ผมจำชื่อเพลงไม่ค่อยได้หรอก

คราวหลังถ้าจะเอาเพลงสากลมาให้ผมกรุณาแปลเนื้อให้ด้วยนะครับ จะขอบพระคุณอย่างสูง
อย่างน้อยจะได้อินกับเนื้อเพลงมากกว่าเนื้อภาษาอังกฤษหน่อย (ฮ่า ฮ่า)


สวัสดีจ้ะสาวบ้านนอก

ตอนแรกนึกว่ากลอนหมอลำก็เลยทดลองอ่านแบบทำนองหมอลำดู

หัวใจสันโดษแปลว่าอะไรจ๊ะ วานบอกที


สวัสดีครับคุณfilmgus

ผมเช็คเมล์แล้ว ขอบคุณมากครับสำหรับรูปที่ส่งมาให้
โหลดเรียบร้อยแล้วครับ


สวัสดีครับคุณ p tim

สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

นิทานเรื่องนี้เคยฟังแล้ว แต่ก็ลืมทุกที

อันที่จริงเรื่องนี้ดีมีประโยชน์มาก ถ้าหมั่นนึกถึงนิทานเรื่องนี้บ่อยๆในชีวิตประจำวัน (แต่หวานสำหรับคนที่อยู่ต่อหน้าจัง)

ขอบคุณจ้ะที่อุตส่าห์เก็บของดีๆมาเล่าสู่กันฟัง

 

โดย: พ่อพเยีย 2 ตุลาคม 2550 0:36:54 น.  

 

หวัดดีครับพี่โดม

สะดุดใจกับคอมเม้นท์ของคุณพ่อบูครับ
โดนใจเต็มๆ

รักที่จะมอง
แต่ไม่ตัดทำลาย

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 2 ตุลาคม 2550 8:08:24 น.  

 



สวัสดีเช้าวันอังคาร
ดอกไม้บานมาทายทัก
เจ้าผีเสื้อที่เคยรู้จัก
ฝากความรักมาถักทอ

สายลมพรมละมุน
แสงแดดอุ่นอวลละออ
หมู่มวลเจ้าแมงปอ
มาหยอกล้อ..ล้อเล่นลม

โลกสวยแสนงดงาม
ในนิยามความสุขสม
มวลมิตรจิตภิรมย์
ต่างชื่นชมกับ..ความรัก

"มากราบสวัสดีอาโดมค่ะ"


 

โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 2 ตุลาคม 2550 10:41:28 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่โดม

ลองนึกทบทวนความรักที่มอบให้เขา
แม้ไม่ต้องการครอบครอง แต่แท้จริงแล้วเราก็เรียกร้อง
เราจะไม่เรียกร้องความรักจากคนเย็นชา และเห็นแก่ตัวคนนั้นอีกแล้ว

 

โดย: เห็ดฟาง IP: 203.144.210.56 2 ตุลาคม 2550 10:59:51 น.  

 

สวัสดีตอนเที่ยงวันอังคารค่ะ อาโดม

ที่บ้านฝนตกค่ะ ตอนนี้ก็ตก เลยว่างงาน มาเยี่ยมอาโดม และจะบอกว่า นาอัพบล็อคที่เอาข้อความจากอาโดมไปลงแล้วนะค่ะ

ขอบคุณที่อาโดมให้กำลังกันเสมอนะค่ะ

 

โดย: มัยดีนาห์ 2 ตุลาคม 2550 11:43:10 น.  

 

สวัสดีครับกะว่าก๋า

คุณพ่อบูไม่ใช่คนสูงอายุธรรมดานะครับ

ความรู้สูง

คุณธรรมสูง

เมตตาสูง

ถือว่าเป็นบุญที่มีโอกาสได้สนทนาด้วย

แม้จะเป็นทางโลกอินเตอร์เน็ตก็ตาม

สวัสดีจ้ะหลานนก


เจ้าบทเจ้ากลอนจริงๆนะเนี่ยะ
เก่งจัง !
อาเขียนกลอนไม่เป็นก็ต้องชมว่าเก่งไว้กอ่น

การเขียนกลอนลงคอมเม้นท์แบบนี้

หลาoนกเขียนในกระดาษไว้ก่อนหรือว่าด้นสดลงบนจอเลยจ้ะ
อาอยากรู้


สวัสดีครับคุณเห็ดฟาง

คุณทำให้ผมรู้สึกงง !?!

เห็ดฟางเป็นใครใบ้ให้หน่อยสิครับ

จู่ๆเข้ามาแล้วพูดอย่างนี้เจ้าของบล็อกงงครับ !

บอกใบ้หน่อยน่ะผมจะได้รู้ว่าเห็ดฟางเป็นใคร ?

และใครนะคนที่เย็นชาและเห็นแก่ตัวคนนั้น


สวัสดีจ้ะหลานมัยดีนาห์

แล้วอาจะแวะไปเยี่ยมจ้า
ให้กำลังใจใครไปก้ได้กลับมาทุกที
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ยิ่งให้ก็ยิ่งได้
จริงๆนะจะบอกให้

 

โดย: พ่อพเยีย 2 ตุลาคม 2550 17:37:56 น.  

 

สวัสดีครับลูกโดม

เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจส่วนตัวครับ
กลับมาอ่านที่บลอค
พบว่าลูกโดมมาเยี่ยมพ่อ
ขอบคุณมากครับ

จึงเดินทางตามมาที่นี่
เพราะเริ่มเรียนรู้แล้วว่า
เจ้าของบ้านมักจะสนทนาผ่านตัวอักษรด้วยกัน

พ่อขอบคุณลูกโดมและลูกก๋าครับ
สำหรับตัวพ่อเอง
ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งลูก
ที่ได้มีมิตรที่มีไมตรีจิตที่ดีต่อกัน
ณ สถานที่แห่งนี้

ด้วยรัก

 

โดย: พ่อบู (be-oct4 ) 2 ตุลาคม 2550 18:44:15 น.  

 



สวัสดีค่ะ อาโดม

ขอบคุณในคำชมของอาค่ะ

เวลาเขียนกลอนใน Comment มักจะคิดนิดนึง แล้วพิมพ์สดลงคอมพ์เลยค่ะ จริงๆ แล้ว ไม่ค่อยจะดีนักนะคะ ภาษาจะไม่สละสลวยสักเท่าไหร แบบว่าไม่ได้ขัดเกลาค่ะ เรียกว่า สุกเอาเผากิน ก็ได้ค่ะอา

สวัสดีตอนค่ำค่ะอาโดม
สิ่งที่โน้มนำทางนกมานี่
เพราะรักในภาษาเชิงกวี
เริ่มต้นที่บล็อกกวีสีชมพู

แล้วได้ผ่านบล็อกนั้นมาบล็อกนี้
พบผู้ใหญ่ใจดีคนทั้งคู่
ทั้งลุงบูลย์และอาโดมโน้มนำสู่
ได้ความรู้..มากมายที่แนะนำ

รักในการเขียนกลอนที่อ่อนหวาน
ด้วยสำราญแสนสนุกสุขเหลือล้ำ
ใช้ภาษาสวยศรีกวีคำ
เป็นลำนำบทกลอนสุนทรใจ

มักจะเขียนสดสดมิจดก่อน
อาจจะอ่อนเชิงภาษากว่าคนไหน
แต่มิได้ประชันขันแข่งใคร
จรรโลงใจแค่นี้สุขขีจริง

กลอนบทนี้ขอมากราบคารวะ
แทนคำว่า..ขอบคุณค่ะ..ในทุกสิ่ง
ที่อาโดมใจดีเสียจริงจริง
ขอบคุณยิ่งจากใจ..หทัยชนก..






 

โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 2 ตุลาคม 2550 21:32:35 น.  

 

สวัสดีค่ะ หลงทางมาค่ะ ดีใจที่หลงมา เพราะเจอประสบการณ์ความรักของจขบ. ที่ดีมากๆ น่าประทับใจ ได้เรียนรู้เยอะเลยค่ะ

ก่อนเดินทางต่อ มีอะไรมาขอบคุณด้วยค่ะ ใครไม่รู้ว่าเอาไว้ว่า

"Love cannot be defined, if you live it."

เข้าใจว่าใช้เวลาทั้งชีวิตก็นิยามความรักไม่ได้ทั้งหมดเหมือนกัน

 

โดย: หมี่เกี๊ยว IP: 198.142.231.235 6 ตุลาคม 2550 20:17:32 น.  

 

ป้าก็เคยมีความรักนะ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยลืมคนที่เราเคยรัก มันเป็นรักที่ไม่สมหวัง เวลาผ่านมาแล้ว 28 ปี ก็ยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ

 

โดย: คุณป้ายังสาว IP: 222.123.59.12 25 ธันวาคม 2551 18:50:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.